Share

บทที่ 14 ขายแฟรนไชส์

last update Last Updated: 2025-06-21 11:53:26

บทที่ 14

ขายแฟรนไชส์

            “เอ๋...!!!”

            คำพูดของหานเจียเอ๋อร์ไม่เพียงทำให้ตงตงเบิกตากว้างด้วยความแปลกใจ ถังเหวิน ซานหลัวเฉิน รวมถึงจิ่งฝานต่างประสานเสียงร้องอย่างพร้อมเพรียง

            “คุณหนูท่านนี้พูดจริงหรือ ถ้าซาลาเปาของตงตงถูกทำเลียนแบบ อย่างนี้ก็แย่แล้ว” จิ่งฝานพูดขึ้นมาด้วยสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัด

            หานเจียเอ๋อร์เพียงมองจิ่งฝานแวบหนึ่ง ก่อนคิ้วโก่งสวยจะขมวดชนกัน

            “ข้าก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี บอกว่ากำลังช่วยตงตง แต่เจ้าเล่นกว้านซื้อซาลาเปาไปหมด นอกจากจะทำให้นางลำบากใจ ยังทำให้นางเสียลูกค้า เป็นวิธีช่วยแบบไหนกัน” ถังเหวินตั้งคำถามอย่างมีไหวพริบ

            หลังจากลังเลครู่หนึ่ง หานเจียเอ๋อร์ก็เชิดหน้า หันไปตอบถังเหวิน “ข้าจะเอาซาลาเปาของนางไปวางขายที่โรงเตี๊ยมตระกูลหาน ก่อนที่ซาลาเปาของนางจะขายไม่ออก ซื่อบื่อจริง”

            “เจ้า…กล้าดียังไงมาว่าข้าซื่อบื่อ” ถังเหวินเลือดขึ้นหน้า

            หานเจียเอ๋อร์เป็นคนปากไม่ตรงกับใจ ทำให้ภาพลักษณ์ของนางเป็นคุณหนูที่ร้ายกาจ ทั้งที่ไม่ได้มีเจตนาร้ายแต่อย่างใด

            ถึงกระนั้น หายเจียเอ๋อร์กลับราดน้ำมันลงบนกองเพลิงด้วยการส่งสียง “ชิว์” แสร้งทำเป็นไม่แยแสท่าทีโมโหของถังเหวิน ทั้งที่ชอบอีกฝ่ายแท้ๆ

            ตงตงไม่อยากเป็นต้นเหตุทำให้หานเจียเอ๋อร์กับถังเหวินกลายเป็นศัตรูกัน รีบออกหน้าไกล่เกลี่ยฉับพลัน

            “เอาน่า พี่ชายพี่สาวอย่าเพิ่งอารมณ์เสีย ตอนนี้ข้าเข้าใจสถานการณ์แล้ว แถมเข้าใจความหวังดีของพี่สาวเจียเอ๋อร์ด้วย ท่านเหมาซาลาเปาของข้าไปขายที่โรงเตี๊ยมตระกูลหาน เพราะโรงเตี๊ยมตระกูลหานเป็นที่รู้จักมากกว่าโรงเตี๊ยมเล็กๆ ของข้า ย่อมขายซาลาเปาได้ง่ายกว่า”

            อีกอย่าง ชื่อเสียงโรงเตี๊ยมตระกูลหานโด่งดังพอๆ กับโรงเตี๊ยมตระกูลฉิน หากทางโรงเตี๊ยมตระกูลฉินสร้างข่าวลือเท็จ อย่างการกล่าวหา ว่าตงตงลอกเลียนแบบสูตรของทางนั้น อย่างน้อยนางก็มีโรงเตี๊ยมตระกูลหานออกหน้าปกป้อง

            ที่แท้ ตระกูลหานก็เป็นคนดีเหมือนกันนี่น่า ตงตงคิด

            หานเจียเอ๋อร์พยักหน้ายอมรับ “อืม”

            “นับเป็นเจตนาดี ขอบคุณเจ้าค่ะ”

            หานเจียเอ๋อร์ได้ยินคำขอบคุณ พลันฉีกยิ้มอย่างภูมิใจ

            ตงตงกล่าวต่อไปว่า “แต่ว่า พี่สาวเจียเอ๋อร์ ท่านเหมาซาลาเปาข้าไปขายต่อ วิธีนี้แก้ไข้ได้เฉพาะหน้าเท่านั้น ไม่อาจช่วยร้านข้าในระยะยาวได้ ที่สำคัญ ร้านข้าจะขาดลูกค้าขาประจำด้วย”

            หานเจียเอ๋อร์หุบยิ้มทันควัน “หลังจากรู้ว่าซาลาเปาไส้ฟักทองหวานของเจ้าถูกทำเลียนแบบ ท่านพ่อก็บอกให้ข้ามาเหมาซาลาเปาของเจ้าทั้งหมด ท่านพ่อข้าหวังดีขนาดนี้ แต่เจ้ากลับบอกว่าวิธีนี้ไม่ถูกต้อง อวดดีเสียจริง”

            ตงตงเข้าใจเจตนาดีของเถ้าแก่หาน แต่วิธีนี้แก้ไขระยะยาวไม่ได้

            “ไม่ใช่อย่างนั้น พี่สาวคนสวย” ตงตงรีบโบกมือปฏิเสธ

            “เช่นนั้นเจ้ามีวิธีที่ดีกว่านี้หรือ” หานเจียเอ๋อร์ย้อนถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

            “ข้าต้องถามท่านก่อน เถ้าแก่หานสนใจอยากเอาซาลาเปาข้าไปขายที่ร้านจริงๆ หรือ”

            หานเจียเอ๋อร์พยักหน้า “ก็จริงน่ะสิ” จากนั้นโยนถุงเงินใบใหญ่ลงบนโต๊ะ เป็นหลักฐานว่าบิดาของนางให้เงินมาเพื่อเหมาซาลาเปาร้านนี้จริงๆ

            ตงตงเบิกตากว้าง มองถุงเงิน

            ซาลาเปาของนางมีค่าให้กว้านซื้อขนาดนี้เชียว?

            เด็กสาวพลันก้มหน้าครุ่นคิด สักครู่ก็โพล่งออกมา “แฟรนไชส์!”

            “แฟน-ทราย?”

            ทุกคนต่างทำหน้างุนงง

            “เจ้าจะเอาทรายมาทำอะไร” ซานหลัวเฉินเอ่ยถาม

            “อธิบายมาให้ชัดๆ หน่อย แฟน-ทรายคืออะไร” หานเจียเอ๋อร์ใจร้อน เร่งเร้าให้ตงตงรีบตอบ

            “อ้อ…คล้ายกับการขายสูตรซาลาเปาให้ท่าน แต่ร้านของข้าก็วางขายซาลาเปาได้ด้วย ในในฐานะต้นตำรับน่ะนะ ถ้าเถ้าแก่หานเห็นชอบ ข้าจะแถมซาลาเปาสูตรอื่นให้ด้วย” ตงตงอธิบายแบบรวบรัด

            “เจ้าพูดจริงหรือ!”

            “จริงเจ้าค่ะ”

            “เช่นนั้นข้าต้องส่งคนไปถามท่านพ่อก่อน รอเดี๋ยวนะ”

            “เชิญเจ้าค่ะ พี่สาว”

            จากนั้น หานเจียเอ๋อร์หันไปกระซิบกับสาวใช้ 

            เมื่อสาวใช้ทั้งสองเร่งรุดฝีเท้าออกไป ตงตงจัดให้หานเจียเอ๋อร์นั่งโต๊ะเดียวกับถังเหวินอย่างแนบเนียนเพื่อเป็นการตอบแทน

            หานเจียเอ๋อร์อุตส่าห์นำความมาบอก ทั้งยังช่วยเหมาซาลาเปาไปขายด้วยเจตนาดี นับเป็นคนดีน่าคบหา ติดก็แต่ปากไม่ตรงกับใจ ทว่า…

            “โต๊ะมีตั้งเยอะแยะ ทำไมให้นางมานั่งกับพวกเรา” ถังเหวินพูดด้วยสีหน้าเหม็นเบื่อ

            “อีกเดี๋ยวจะมีลูกค้าเข้ามา พี่สาวเจียเอ๋อร์เป็นคนสวย ขืนนั่งอยู่คนเดียว อาจถูกหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่เกรี้ยวพาใส่ ให้นั่งกับพวกท่านถือเป็นการปกป้องเกียรติของพี่สาว” ตงตงอธิบาย

            หานเจียเอ๋อร์มองเด็กสาวอย่างซาบซึ้ง ไม่คิดว่าตงตงจะมีความคิดรอบคอบเช่นนี้ ทั้งยังช่วยปกป้องเกียรติของนาง

            ถังเหวินถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนจะยอมตกปากรับคำ

            “ก็ได้ๆ ยังไงก็เถอะ คนที่น่าเป็นห่วงมากกว่าเห็นทีคงเป็นตงตงคนซื่อบื่อ ถูกลอกเลียนแบบสูตรเช่นนี้ ไม่กลัวว่าจะขายซาลาเปาไม่ออกหรือ”

            ที่จริงแล้ว ตงตงอยากบอกว่าไม่กลัว ทั้งไส้ทั้งแป้ง ร้านของนางทำอร่อยกว่าเห็นๆ แต่หากพูดออกไป อาจถูกมองว่าเป็นคนอวดดี

            ทันใดนั้น ตงตงร้องขึ้นเหมือนเพิ่งนึกบางอย่างออก

            “จริงด้วย!”

            ถังเหวินส่ายหน้ามองตงตงอย่างเอือมระอา “อะไรกัน สองช้าหรอกหรือ”

            ตงตงหาได้สนใจคำพูดแดกดันไม่ กลับหันไปถามหานเจียเอ๋อร์ “พี่สาวคนสวย เถ้าแก่หานรู้ได้ยังไงว่าซาลาเปาข้าถูกทำเลียนแบบ”

            “คนรู้จักของท่านพ่อบอกมาน่ะ โรงเตี๊ยมตระกูลฉินทำซาลาเปาไส้ฟักทองหวานเหมือนกับร้านเจ้า เลยมาเล่าให้ท่านพ่อฟัง”

            “แล้ว คนรู้จักของเถ้าแก่หานได้บอกหรือไม่ ร้านไหนอร่อยกว่ากัน”

            “เรื่องนั้นข้าไม่รู้ ท่านบอกให้ข้ารีบมา ข้าก็มาทันที”

            “น่าเสียดายจัง” นางพึมพำ คราวนี้นางหันไปยิ้มให้กับถังเหวิน

            แน่นอน ถังเหวินไม่เข้าใจรอยยิ้มของเด็กสาว รีบถามกลับทันทีว่า “รอยยิ้มแบบนั้นหมายความว่ายังไง บอกก่อนเลยนะ ข้าไม่เคยซื้อซาลาเปาโรงเตี๊ยมตระกูลฉิน”

            “ข้ารู้ เพราะท่านมากินซาลาเปาร้านข้าทุกวัน”

            “ก็ใช่” ถังเหวินเป็นปลื้มที่ตนไม่ไปอุดหนุนซาลาเปาร้านอื่น

            “ในเมื่อท่านกินซาลาเปาร้านข้าทุกวันย่อมรู้รสชาติดีใช่หรือไม่”

            “แน่นอนอยู่แล้ว”

            ถังเหวินตอบรวดเร็ว และยังยิ้มไม่หุบ ทว่าคำพูดต่อมาของตงตงทำให้รอยยิ้มของเขาหายวับทันที

            “ท่านไปชิมซาลาเปาโรงเตี๊ยมตระกูลฉินแล้วเปรียบเทียบกับของข้าให้ที ดูว่าของใครอร่อยกว่ากัน”

            “ก็ต้องเป็นของเจ้าอยู่แล้วไม่ใช่หรือ”

            แน่นอนว่า ซาลาเปาของตงตงต้องอร่อยกว่า แต่มีอย่างอื่นที่ตงตงอยากรู้

            “นอกจากความอร่อย ข้าอยากรู้ว่าโรงเตี๊ยมตระกูลฉินทำซาลาเปาเลียนแบบร้านข้าออกมาเหมือนมากน้อยแค่ไหน ถือว่าช่วยข้าแล้วกันได้หรือหรือไม่ พี่ชายถังเหวิน” ตงตงพยายามโน้มน้าวเสียงอ่อนหวาน และยังยิ้มตาใสให้กับถังเหวิน

            ถังเหวินอยากโพล่งกลับว่า ไม่ไปไม่ได้หรือ? แต่พอเห็นรอยยิ้มคาดหวังของตงตง เขาก็ปฏิเสธไม่ลง จำใจตอบกลับว่า “ย่อมได้!”

            …..

            …..

            ตรงประตูหลังร้าน จางไคเฮ่อยืนฟังพวกเด็กๆ คุยกันอยู่นานแล้ว

            ตอนแรก ตั้งใจว่าเติมฟืนในครัวเสร็จแล้วจะออกมาช่วยลูกสาวที่หน้าร้าน แต่พอได้ยินบทสนทนาทั้งหมด มิหนำซ้ำ ตงตงยังหาวิธีแก้ปัญหาด้วยตัวเองอย่างแยบยล จึงยืนฟังพวกเด็กๆ คุยกันต่อ

            จางไคเฮ่ออดสงสัยไม่ได้ว่า ลูกสาวของตนกลายเป็นคนฉลาดปราดเปรื่องและคิดอะไรลึกซึ้งแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร

            ไม่เพียงเท่านั้น นางยังกล้าหาญ และมีความมั่นใจในฝีมือการทำอาหารไม่น้อย

            ช่วงที่เขาจมอยู่กับการสูญเสีย เกิดอะไรขึ้นกับตงตง ลูกสาวของเขากันแน่!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทพิเศษ ความลับของตระกูลจาง

    บทพิเศษความลับของตระกูลจาง หนึ่งวันหลังเสร็จสิ้นงานแต่ง จางไคเฮ่อนำชื่อของเหยียนหลิ่วเข้าทะเบียนราษฎร์ของตระกูลจาง นับจากนี้เหยียนหลิ่วจะกลายเป็นคนตระกูลจางเต็มตัว กลายเป็น ‘จางเหยียนหลิ่ว’ ล่วงเข้าสู่วันที่ห้าหลังจากที่ทั้งสองกลายเป็นสามีภรรยากัน เหยียนหลิ่วก็ถูกตงตงจูงมือพาลงไปที่ห้องใต้ดินของโรงเตี๊ยม “ภรรยา…ห้องใต้ดินเป็นความลับของตระกูล เจ้าแน่ใจหรือว่าข้าลงไปที่นั่นได้” เหยียนหลิ่วถามเพื่อให้ตงตงไตร่ตรองอีกครั้ง เหยียนหลิ่วรู้แค่ว่า ภายในห้องใต้ดินเป็นสถานที่เก็บสินค้าและสมบัติของตระกูลจาง กุญแจมีเพียงสองดอกเท่านั้น ดอกหนึ่งจางไคเฮ่อเป็นคนเก็บ และดอกหนึ่งเป็นของตงตง กระนั้น ตงตงกลับหันมายิ้มให้กับเหยียนหลิ่วด้วยสีหน้าสบายๆ “ตอนนี้ท่านเองก็เป็นคนของตระกูลจางแล้ว” “ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ แต่…” “ในอนาคตท่านคิดจะหย่ากับข้าหรือ…หรือว่า…ท่านจะหักหลังตระกูลจาง?” “เรื่องนั้นจะไม่มีทางเกิดขึ้นเด็ดขาด!” เหยียนหลิ่วตอบกลับอย่างหนักแน่น หย่ากันหรือ

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทส่งท้าย

    บทส่งท้าย ฤกษ์แต่งงานที่เร็วที่ก็คือต้นเดือนหน้า นับวันดูแล้ว พวกเขามีเวลาจัดเตรียมงานไม่ถึง 1 เดือนด้วยซ้ำ ตงตงกับเหยียนหลิ่วจึงต้องตัดชุดแต่งงานกันตั้งแต่เนิ่นๆ เขียนบัตรเชิญส่งให้แขก กำหนดเมนูอาหาร และเริ่มซื้อข้าวของมาตกแต่งสถานที่ พอยุ่งอยู่กับการเตรียมงาน เผลอแป๊บเดียวก็เหลือเวลาอีกแค่ 2 วันเท่านั้น “ตงตง!” เสียงหญิงสาวอันคุ้นเคยดังหน้าประตูโรงเตี๊ยม ตงตงกำลังตรวจความเรียบร้อย หลังจากที่จิ่งฝางกับพวกเสี่ยวกวางแขวนโคมแดงเสร็จ รีบหันมองตามเสียงเรียกนั้น หานเจียเอ๋อร์ยืนยิ้มให้กับตงตง ข้างๆ หานเจียเอ๋อร์คือถังเหวินที่กำลังอุ้มลูกชายวัย 2 ขวบ ทั้งคู่แต่งงานกันเมื่อ 3 ปีก่อน หลังพิธีวิวาห์ สองเดือนถัดมา หานเจียเอ๋อร์ก็ตั้งครรภ์ทันที ถัดจากถังเหวินก็คือซานหลัวเฉินกับภรรยาที่เพิ่งแต่ง ครั้นเห็นคนคุ้นเคย ตงตงก็เดินยิ้มเข้าไปหาทุกคน “พวกท่านมากันแล้ว เข้ามาก่อนเจ้าค่ะ…อาหลงตัวน้อย สบายดีไหมจ๊ะ” เด็กน้อยวัย 2 ขวบพยักหน้าตอบ “อื้อ”

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 78 ขอแต่งงาน

    บทที่ 78ขอแต่งงาน 10 วันต่อมา ณ สำนักราชองครักษ์หลวง ทันทีที่กลับมาถึงเมืองหลวง เหิงเจากับเหยียนหลิ่วเข้าพบเสนาธิการเว่ยจ้ง รายงานเรื่องราวทั้งหมดตอนอยู่ป้อมปราการตะวันออก เมื่อเสร็จธุระหมดแล้ว เหยียนหลิ่วขอตัวกลับทันที ชายหนุ่มเดินบนถนนด้วยฝีเท้าเร่งรีบ เมื่อมาถึงโรงเตี๊ยมตระกูลจาง เห็นหญิงสาวในดวงใจยืนต้อนรับลูกค้าอยู่หน้าร้านพอดี เหยียนหลิ่วส่งเสียงเรียกหญิงสาวด้วยความตื่นเต้น “ตงตง!” เสียงเรียกของชายหนุ่มไม่เพียงดึงดูดสายตาของตงตง ยังเรียกความสนใจจากคนรอบข้างอีกด้วย ทว่า… สองหนุ่มสาวหาได้สนใจคนอื่นแต่อย่างใด ในสายตาของทั้งคู่มีเพียงกันและกันเท่านั้น “พี่หลิ่วกลับมาแล้ว!” ตงตงยิ้มกว้าง ก้าวยาวๆ เข้าไปหาชายหนุ่ม เมื่อระยะห่างของทั้งคู่ร่นลงจนไม่เหลือช่องว่าง เหยียนหลิ่วตอบกลับหญิงสาวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ข้ากลับมาแล้ว” เหยียนหลิ่วไม่เพียงพูดเปล่าๆ สองมือใหญ่ยังโอบเอวบางของนาง แล้วยกร่างของนางขึ้นจากพื้นอ

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 77 จู่โจมรวดเร็ว

    บทที่ 77จู่โจมรวดเร็ว หลังจากหัวหน้าเผ่าฮุยรู้ข่าวเรื่องกองทัพสนับสนุนเดินทางมาถึงป้อมปราการตะวันออก พวกมันก็ไม่อยู่เฉย เคลื่อนทัพท่ามกลางความมืด รอจังหวะบุกโจมตีป้อมปราการตะวันออกอย่างไม่ให้แคว้นเฉียนรู้ตัว หากทว่า กลางดึกคืนเดียวกันนั้น ฟางอู่เซิงวางกองกำลังไว้ที่นอกป้อมปราการอย่างเงียบเฉียบ ทันทีที่แสงแรกมาเยือน หัวหน้าพลธนูที่ซ่อนตัวตั้งแต่กลางดึก ก็ได้ส่งสัญญาณมือให้โจมตี พลธนูที่ซุ่มบนต้นไม้นับสิบนายปล่อยศรพุ่งออกไป ฟิ้ว… “อึก!” “อั่ก!!” ทหารเผ่าฮุยที่ตั้งทัพเตรียมบุกป้อมปราการ ล้มกองบนพื้นทีละคนสองคนราวกับใบไม้ล่วงจากต้น เริ่มต้นสงคราม มองเผินๆ ฝ่ายที่ได้เปรียบอาจจะเป็นทางแม่ทัพฟางอู่เซิง แต่ทันทีที่เผ่าฮุยรู้สึกตัวว่าพวกมันถูกซุ่มโจมตี หัวหน้าเผ่าฮุยได้สั่งการและแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งให้หันกลับไปสังหารพลธนูของแคว้นเฉียน โดยใช้ศพของพวกเดียวกันเป็นเกาะกำบัง อีกฝ่ายหนึ่งทุ่มเทสุดกำลังทำลายป้อมปราการแล้วบุกเข้าไป “แทนที่จะล่าถอย แต่เลือกบุกต่

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 76 กำลังเต็มร้อยด้วยอาหารอัดแท่ง

    บทที่ 76กำลังเต็มร้อยด้วยอาหารอัดแท่ง วันต่อมา กองทัพของแม่ทัพฟาง หน่วยคุ้มกันเสบียงของเหิงเจา และหน่วยลอบโจมตีของเหยียนหลิ่ว เคลื่อนตัวออกจากเมืองหลวง เสบียงที่ทหารทุกนายพกติดตัวนั้น ส่วนใหญ่มาจากโรงเตี๊ยมตระกูลจาง นอกจากจะเป็นของแห้งที่เก็บไว้ได้นาน น้ำหนักเบา สารอาหารยังครบถ้วน ไม่เปลืองแรงเวลาต้องหอบหิ้วเวลาที่ต้องเดินทางไกลๆ แถมรสชาติยังอร่อย กินเท่าไรก็ไม่เบื่อ และต้องขอบคุณเสบียงจากโรงเตี๊ยมตระกูลจางเช่นกัน ทำให้การเดินทางมาถึงชายแดนตะวันออกเร็วกว่ากำหนดหลายวัน แม้ระหว่างทาง รถขนเสบียงจะถูกดักปล้น แต่ทหารทุกคนที่ได้กินธัญพืชอัดแท่งที่มีพลังงานสูง พวกเขาจึงปกป้องเสบียงหลวงเอาไว้ได้ โดยที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ในขณะเดินทางไกล เลี่ยงไม่ได้ท่ีจะมีล้มป่วยด้วยพิษไข้ แต่ด้วยยาเม็ดจากโรงเตี๊ยมตระกูลจาง กินเพียงสองเม็ด ไข้หวัดเล็กน้อยพลันบรรเทาลง พร้อมออกเดินทางต่อได้ทันที ไม่ต้องทิ้งใครไว้ข้างหลัง ด้วยเหตุนี้เอง ตอนมาถึงป้อมปราการตะวันออก เรี่ยวแรงของทหารทุกนายจึงยังล้นเหลือ พร้อมออกรบได้ทันที

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 75 คุณหนูสามแห่งจวนเจ้ากรมพิธีการ

    บทที่ 75คุณหนูสามแห่งจวนเจ้ากรมพิธีการ ครั้นพอได้ยินเสียงคุ้นๆ สองหนุ่มสาวที่พลอดรักกันอยู่หน้าบ้าน มองผู้มาเยือนที่ไม่ได้รับเชิญด้วยสายตาเอือมระอา “เข้าบ้านคนอื่นก่อนได้รับอนุญาต ใครกันแน่ที่หน้าไม่อาย” เหยียนหลิ่วบอกด้วยเสียงเย็นชา “แม้ว่าเป็นข้าอย่างนั้นหรือ พี่เหยียนหลิ่ว” เสียงหวานกังวานใสดังขึ้นที่หน้าประตู จากนั้นหญิงสาววัยสิบแปดรูปร่างหน้าตาสะสวย สวมใส่อาภรณ์หรูหราก็ก้าวเข้ามาในบ้าน สาวรับใช้ที่ยืนเท้าสะเอว ทำหน้ายักษ์มองมาที่ตงตง รีบกลับไปยืนข้างหลังหญิงสาวผู้มาใหม่ พร้อมเรียกฝ่ายนั้นว่า “คุณหนู” เหยียนหลิ่วขมวดคิ้ว ก่อนจะพูดด้วยความรู้สึกไม่ชอบใจนัก “ถึงจะเป็นคุณหนูสามจากจวนเจ้ากรมพิธีการ ก็ควรเรียนรู้มารยาทสักหน่อย” ถูกชายหนุ่มที่ตัวเองชอบสั่งสอน ซูหลันหลัน…คุณหนูสามแห่งจวนเจ้ากรมพิธีการรู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมาก หันไปขึงตาใส่ตงตงที่นั่งเงียบ เหยียนหลิ่วลุกขึ้น ใช้ร่างใหญ่โตของตนยืนบังตงตงหมายปกป้องหญิงคนรัก แม้จะรู้ว่าคุณหนูสามซูคนนี้จะไม่กล้าแตะต้องตงตงก็ตาม

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status