Home / รักโบราณ / แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า / บทที่ 16 ตุนวัตถุดิบในช่วงลดราคา

Share

บทที่ 16 ตุนวัตถุดิบในช่วงลดราคา

last update Last Updated: 2025-06-21 11:54:07

บทที่ 16

ตุนวัตถุดิบในช่วงลดราคา

            เพิ่งพ้นยามเฉินมาไม่นาน ซาลาเปาของตงตงก็ขายหมดเกลี้ยง

            ตงตงกับจางไคเฮ่อ และจิ่งฝานช่วยกันเก็บร้าน จากนั้นหิ้วของคนละไม้คนละมือตรงกลับบ้านตระกูลจาง

            ระหว่างทางกลับบ้าน ตงตงเพิ่งคิดได้ว่าวัตถุดิบสำหรับทำอาหารเช้าของวันพรุ่งนี้ยังซื้อไม่ครบ นางจึงแวะร้านขายเนื้อหมูข้างทาง ซื้อหมูสามชั้น 10 จิน (5 กิโลกรัม) และเนื้อหมูส่วนที่ไม่ติดมันอีก 10 จิน แล้วยังแวะร้านขายผัก ซื้อขิงกับต้นหอมต่อ

            ซื้อของครบแล้ว ทั้งสามคนก็หิ้วของพะรุงพะรังกลับมาจนถึงบ้านตระกูลจาง

            พอเดินมาถึงลานหลังบ้าน พลันเห็นเหยียนหลิ่วกำลังฝ่าฟืน ข้างๆ กันนั้นมีฟืนกองใหญ่ที่ผ่าเรียบร้อยแล้ว

            จิ่งฝานเพิ่งเคยเจอเหยียนหลิ่วครั้งแรก ขณะวางของลง ชายหนุ่มถามตงตงว่า “ลูกจ้างคนใหม่หรือ”

            “ไม่ใช่เจ้าค่ะ เขาคือพี่ชายที่อยู่ข้างบ้าน” ตงตงตอบ ทั้งยังแนะนำให้ทั้งสองรู้จักกัน

            “พี่ชายหลิ่ว ท่านมาเวลานี้ นายท่านทางนั้นไม่จะไม่ลงโทษท่านเอาหรือ”

            “คุณชายใหญ่กลับหอพักของสถานศึกษาไปแล้ว ไม่มีใครสนใจข้าหรอก” เหยียนหลิ่วตอบเฉยเมยเหมือนเป็นเรื่องปกติ

            “มีแบบนี้ด้วยหรือ” จิ่งฝานถามอย่างไม่เข้าใจ

            พวกบ่าวรับใช้มักมีงานให้ทำทั้งวัน แต่เหยียนหลิ่วกลับข้ามมาทำงานให้กับตงตง หนำซ้ำเจ้านายบ้านนั้นยังไม่มีใครสนใจว่า เหยียนหลิ่วจะไปที่ไหนหรือทำอะไร แปลกจังแหะ!

            ตงตงเองก็คิดแบบเดีวกับจิ่งฝาง เพียงแต่ไม่ได้ถามออกไป ส่วนหนึ่งเพราะไม่อยากเซ้าซี้ หากดูจากสีหน้าลำบากใจเหยียนหลิ่วอาจมีเหตุผลที่บอกไม่ได้

            เด็กสาวพยักหน้าส่งเสียง อืม อย่างไม่ได้ใส่ใจ จากนั้นยกเขียงออกมาซอยต้นหอมและหั่นหมูต่อ  

            เหยียนหลิ่วฝ่าฟืนเสร็จแล้ว เด็กหนุ่มเดินมาหาตงตงแล้วบอกว่าจะช่วยหั่นหมู แต่กลับถูกจางไคเฮ่อกล่าวแทรก ทั้งยังกวักมือเรียก

            “เจ้าน่ะ มาทางนี้” 

            เด็กหนุ่มทำท่าลังเล

            เนื้อหมู 20 กิโลกรัมดูเหมือนจะเยอะ แต่ไม่ได้หนักหนาถึงขั้นทำคนเดียวไม่ไหว ในชาติก่อนตอนที่ตงตงเป็นผู้ช่วยพ่อครัว นางทำงานจิปาถะและหนักมากกว่านี้เสียด้วยซ้ำ หั่นหมูแค่นี้ถือว่าเล็กน้อย 

            ดังนั้นตงตงจึงพยักเพยิดคางให้กับเด็กหนุ่ม “ท่านไปหาท่านพ่อเถอะ ตรงนี้ข้ากับพี่จิ่งฝางจะทำกันเอง”

            เหยียนหลิ่วเกาแก้มก่อนจะพยักหน้าทีหนึ่ง ต่อมา เขาก็วิ่งไปหาจางไคเฮ่อที่ยืนรออยู่ในลานกว้าง

            ด้านหนึ่ง ตงตงกับจิ่งฝางช่วยกันเตรียมของสำหรับขายวันพรุ่งนี้ อีกด้านหนึ่ง จางไคเฮ่อกับเหยียนหลิ่วฝึกฝนวิชาการต่อสู้

            ตงตงมองเด็กหนุ่มพร้อมกับชื่นชมในใจ

            แต่เดิม เหยียนหลิ่วมีพรสวรรค์อยู่แล้ว ทั้งยังมีความจำที่ดี พอได้ฝึกฝนอย่างถูกต้องกับอดีตหัวหน้านายกอง บวกกับความมุ่งมั่นตั้งใจ พัฒนการของเหยียนหลิ่วยิ่งก้าวกระโดด

            “ขนาดข้าไม่รู้วิธีต่อสู้ยังมองออก ว่าน้องเหยียนหลิ่วเป็นคนมากพรสวรรค์ ถ้าเข้ากองทัพไปเป็นทหาร ไม่ถึงสิบปีคงได้เลื่อนตำแหน่งเป็นแม่ทัพนายกองแน่ๆ”

            จิ่งฝานพูดราวกับอ่านความคิดของตงตงออก

            ตงตงเห็นด้วยจึงตอบสั้นๆ ว่า “นั่นสิ”

            จิ่งฝางมองทั้งสองคนที่กำลังฝึกดาบอีกครั้ง จากนั้นก้มหน้าทำงานต่อไป

            พอมีคนมาช่วยงาน ตงตงก็เตรียมวัตถุดิบเสร็จเร็วขึ้น และยังได้พักเร็วขึ้นด้วย

            ตงตงเตรียมซาลาเปาและเงินค่าจ้างของวันนี้ให้กับจิ่งฝานล่วงหน้าแล้ว พอเสร็จงาน นางควักเงินออกมาจ่ายค่าตอบแทนให้ชายหนุ่ม  

            ก่อนหน้านั้น จิ่งฝางถูกที่ทำงานเก่าโกงเงินค่าจ้างไปจนหมด จึงไม่มีเงินสักอีแปะติดตัว ไหนจะต้องซื้อยารักษาพ่ออีก ตงตงเลยจ่ายค่าแรงให้กับจิ่งฝางแบบรายวัน อนาคตข้างหน้า หากเปิดโรงเตี๊ยมเปิดเต็มตัวแล้ว นางตั้งใจว่าจะห่อกับข้าวให้จิ่งฝางเอากลับไปกินที่บ้านด้วย แม้ตอนนี้จะมีแค่ซาลาเปาก็ตาม

            พอรับเงินค่าจ้างกับซาลาเปามาแล้ว จิ่งฝางก็กลับบ้านไปดูแลพ่อของเขาต่อ

            ทางจางไคเฮ่อกับเหยียนหลิ่วยังฝึกดาบกันไม่เสร็จ

            ตงตงไม่อยากรบกวนพวกเขาจึงเดินเข้าบ้านมาอย่างเงียบๆ

            เมื่อเข้ามาในห้อง นางปิดประตูลงกลอน จากนั้นเปิดหน้าต่างระบบร้านค้า 

            ตอนนี้ใกล้จะ 18.00 น. ระบบร้านค้าจะจัดโปรโมชั่นลดราคาสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง ในเวลา 12.00 น. และ 18.00 น.

            วันนี้ตรงกับวันจัดโปรโมชั่นลดราคาพอดี

            “…ว่าไปแล้ว ซื้อแป้งกับน้ำตาลตุนไว้ดีกว่า” ตงตงพึมพำ พร้อมกับเลื่อนไปที่หน้าต่างขายวัตถุดิบ

            เทียบราคาวัตถุดิบระหว่างร้านค้าข้างนอกกับร้านค้าในระบบ บอกได้เต็มปากเต็มคำเลยว่า วัตถุดิบในระบบสามารถซื้อได้ในราคาถูกกว่า

            ที่สำคัญ!

            วัตถุดิบจากระบบร้านค้าเป็นของดีมีคุณภาพ เอาทำอาหารย่อมได้รสชาติที่อร่อย

            อย่างไรก็ตาม ตงตงไม่ได้ใช้วัตถุดิบจากระบบร้านค้าทั้งหมด นางนำมาผสมกับวัตถุดิบที่ซื้อจากร้านข้างนอกเพื่อไม่ให้คนอื่นสงสัย

            ซาลาเปาของตงตงมีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร เพราะได้เครื่องปรุงปริศนาที่ยุคนี้ไม่มี ทั้งหมดนี้คือเคล็ดลับความอร่อยของซาลาเปาที่ตงตงทำนั่นเอง

            นางกดซื้อแป้ง น้ำตาลทราย พริกไทยป่น ผงปรุงรส ผงฟูและเนย เพียงวินาทีเดียว ของทั้งหมดก็ปรากฏบนพื้นตรงหน้า

            “จริงด้วย!”

            เด็กสาวร้องเหมือนเพิ่งนึกอะไรออก

            ต้องซื้อตราปั้มกับสีผสมอาหารด้วย

            ว่าแต่ จะเลือกลายอะไรปั้มบนผิวซาลาเปาดีนะ

            ตงตงคิดพร้อมกับเลื่อนนิ้วบนหน้าจอโปร่งใส ค้นหาตราปั้มขนมและสีผสมอาหาร

            เด็กสาวลังเลอยู่พักใหญ่ เพราะไม่ว่าตราปั้มลวดลายไหนก็สวยเหมือนกันหมด!

            หากในท้ายที่สุด ตงตงก็เลือกแบบลายที่เป็นรูปดอกไม้ แต่ดูซับซ้อนหน่อยๆ สี่ชิ้น  

            หลังจากซื้อของทุกอย่างครบถ้วน นางกางแขนทั้งสองข้าง ทิ้งตัวลงนอนบนเตียง

            “เฮ้อ…เหนื่อยจัง” 

            วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ของีบสักหน่อยแล้วค่อยลุกมาทำบัญชีดีกว่า

            เวลานี้เป็นช่วงพลบค่ำ เพราะอยู่ในต้นฤดูใบไม้ร่วง ความหนาวเย็นเริ่มเจือเข้ามาในอากาศ ทำให้ตงตงงีบหลับได้อย่างสบายตัว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทพิเศษ ความลับของตระกูลจาง

    บทพิเศษความลับของตระกูลจาง หนึ่งวันหลังเสร็จสิ้นงานแต่ง จางไคเฮ่อนำชื่อของเหยียนหลิ่วเข้าทะเบียนราษฎร์ของตระกูลจาง นับจากนี้เหยียนหลิ่วจะกลายเป็นคนตระกูลจางเต็มตัว กลายเป็น ‘จางเหยียนหลิ่ว’ ล่วงเข้าสู่วันที่ห้าหลังจากที่ทั้งสองกลายเป็นสามีภรรยากัน เหยียนหลิ่วก็ถูกตงตงจูงมือพาลงไปที่ห้องใต้ดินของโรงเตี๊ยม “ภรรยา…ห้องใต้ดินเป็นความลับของตระกูล เจ้าแน่ใจหรือว่าข้าลงไปที่นั่นได้” เหยียนหลิ่วถามเพื่อให้ตงตงไตร่ตรองอีกครั้ง เหยียนหลิ่วรู้แค่ว่า ภายในห้องใต้ดินเป็นสถานที่เก็บสินค้าและสมบัติของตระกูลจาง กุญแจมีเพียงสองดอกเท่านั้น ดอกหนึ่งจางไคเฮ่อเป็นคนเก็บ และดอกหนึ่งเป็นของตงตง กระนั้น ตงตงกลับหันมายิ้มให้กับเหยียนหลิ่วด้วยสีหน้าสบายๆ “ตอนนี้ท่านเองก็เป็นคนของตระกูลจางแล้ว” “ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ แต่…” “ในอนาคตท่านคิดจะหย่ากับข้าหรือ…หรือว่า…ท่านจะหักหลังตระกูลจาง?” “เรื่องนั้นจะไม่มีทางเกิดขึ้นเด็ดขาด!” เหยียนหลิ่วตอบกลับอย่างหนักแน่น หย่ากันหรือ

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทส่งท้าย

    บทส่งท้าย ฤกษ์แต่งงานที่เร็วที่ก็คือต้นเดือนหน้า นับวันดูแล้ว พวกเขามีเวลาจัดเตรียมงานไม่ถึง 1 เดือนด้วยซ้ำ ตงตงกับเหยียนหลิ่วจึงต้องตัดชุดแต่งงานกันตั้งแต่เนิ่นๆ เขียนบัตรเชิญส่งให้แขก กำหนดเมนูอาหาร และเริ่มซื้อข้าวของมาตกแต่งสถานที่ พอยุ่งอยู่กับการเตรียมงาน เผลอแป๊บเดียวก็เหลือเวลาอีกแค่ 2 วันเท่านั้น “ตงตง!” เสียงหญิงสาวอันคุ้นเคยดังหน้าประตูโรงเตี๊ยม ตงตงกำลังตรวจความเรียบร้อย หลังจากที่จิ่งฝางกับพวกเสี่ยวกวางแขวนโคมแดงเสร็จ รีบหันมองตามเสียงเรียกนั้น หานเจียเอ๋อร์ยืนยิ้มให้กับตงตง ข้างๆ หานเจียเอ๋อร์คือถังเหวินที่กำลังอุ้มลูกชายวัย 2 ขวบ ทั้งคู่แต่งงานกันเมื่อ 3 ปีก่อน หลังพิธีวิวาห์ สองเดือนถัดมา หานเจียเอ๋อร์ก็ตั้งครรภ์ทันที ถัดจากถังเหวินก็คือซานหลัวเฉินกับภรรยาที่เพิ่งแต่ง ครั้นเห็นคนคุ้นเคย ตงตงก็เดินยิ้มเข้าไปหาทุกคน “พวกท่านมากันแล้ว เข้ามาก่อนเจ้าค่ะ…อาหลงตัวน้อย สบายดีไหมจ๊ะ” เด็กน้อยวัย 2 ขวบพยักหน้าตอบ “อื้อ”

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 78 ขอแต่งงาน

    บทที่ 78ขอแต่งงาน 10 วันต่อมา ณ สำนักราชองครักษ์หลวง ทันทีที่กลับมาถึงเมืองหลวง เหิงเจากับเหยียนหลิ่วเข้าพบเสนาธิการเว่ยจ้ง รายงานเรื่องราวทั้งหมดตอนอยู่ป้อมปราการตะวันออก เมื่อเสร็จธุระหมดแล้ว เหยียนหลิ่วขอตัวกลับทันที ชายหนุ่มเดินบนถนนด้วยฝีเท้าเร่งรีบ เมื่อมาถึงโรงเตี๊ยมตระกูลจาง เห็นหญิงสาวในดวงใจยืนต้อนรับลูกค้าอยู่หน้าร้านพอดี เหยียนหลิ่วส่งเสียงเรียกหญิงสาวด้วยความตื่นเต้น “ตงตง!” เสียงเรียกของชายหนุ่มไม่เพียงดึงดูดสายตาของตงตง ยังเรียกความสนใจจากคนรอบข้างอีกด้วย ทว่า… สองหนุ่มสาวหาได้สนใจคนอื่นแต่อย่างใด ในสายตาของทั้งคู่มีเพียงกันและกันเท่านั้น “พี่หลิ่วกลับมาแล้ว!” ตงตงยิ้มกว้าง ก้าวยาวๆ เข้าไปหาชายหนุ่ม เมื่อระยะห่างของทั้งคู่ร่นลงจนไม่เหลือช่องว่าง เหยียนหลิ่วตอบกลับหญิงสาวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ข้ากลับมาแล้ว” เหยียนหลิ่วไม่เพียงพูดเปล่าๆ สองมือใหญ่ยังโอบเอวบางของนาง แล้วยกร่างของนางขึ้นจากพื้นอ

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 77 จู่โจมรวดเร็ว

    บทที่ 77จู่โจมรวดเร็ว หลังจากหัวหน้าเผ่าฮุยรู้ข่าวเรื่องกองทัพสนับสนุนเดินทางมาถึงป้อมปราการตะวันออก พวกมันก็ไม่อยู่เฉย เคลื่อนทัพท่ามกลางความมืด รอจังหวะบุกโจมตีป้อมปราการตะวันออกอย่างไม่ให้แคว้นเฉียนรู้ตัว หากทว่า กลางดึกคืนเดียวกันนั้น ฟางอู่เซิงวางกองกำลังไว้ที่นอกป้อมปราการอย่างเงียบเฉียบ ทันทีที่แสงแรกมาเยือน หัวหน้าพลธนูที่ซ่อนตัวตั้งแต่กลางดึก ก็ได้ส่งสัญญาณมือให้โจมตี พลธนูที่ซุ่มบนต้นไม้นับสิบนายปล่อยศรพุ่งออกไป ฟิ้ว… “อึก!” “อั่ก!!” ทหารเผ่าฮุยที่ตั้งทัพเตรียมบุกป้อมปราการ ล้มกองบนพื้นทีละคนสองคนราวกับใบไม้ล่วงจากต้น เริ่มต้นสงคราม มองเผินๆ ฝ่ายที่ได้เปรียบอาจจะเป็นทางแม่ทัพฟางอู่เซิง แต่ทันทีที่เผ่าฮุยรู้สึกตัวว่าพวกมันถูกซุ่มโจมตี หัวหน้าเผ่าฮุยได้สั่งการและแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งให้หันกลับไปสังหารพลธนูของแคว้นเฉียน โดยใช้ศพของพวกเดียวกันเป็นเกาะกำบัง อีกฝ่ายหนึ่งทุ่มเทสุดกำลังทำลายป้อมปราการแล้วบุกเข้าไป “แทนที่จะล่าถอย แต่เลือกบุกต่

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 76 กำลังเต็มร้อยด้วยอาหารอัดแท่ง

    บทที่ 76กำลังเต็มร้อยด้วยอาหารอัดแท่ง วันต่อมา กองทัพของแม่ทัพฟาง หน่วยคุ้มกันเสบียงของเหิงเจา และหน่วยลอบโจมตีของเหยียนหลิ่ว เคลื่อนตัวออกจากเมืองหลวง เสบียงที่ทหารทุกนายพกติดตัวนั้น ส่วนใหญ่มาจากโรงเตี๊ยมตระกูลจาง นอกจากจะเป็นของแห้งที่เก็บไว้ได้นาน น้ำหนักเบา สารอาหารยังครบถ้วน ไม่เปลืองแรงเวลาต้องหอบหิ้วเวลาที่ต้องเดินทางไกลๆ แถมรสชาติยังอร่อย กินเท่าไรก็ไม่เบื่อ และต้องขอบคุณเสบียงจากโรงเตี๊ยมตระกูลจางเช่นกัน ทำให้การเดินทางมาถึงชายแดนตะวันออกเร็วกว่ากำหนดหลายวัน แม้ระหว่างทาง รถขนเสบียงจะถูกดักปล้น แต่ทหารทุกคนที่ได้กินธัญพืชอัดแท่งที่มีพลังงานสูง พวกเขาจึงปกป้องเสบียงหลวงเอาไว้ได้ โดยที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ในขณะเดินทางไกล เลี่ยงไม่ได้ท่ีจะมีล้มป่วยด้วยพิษไข้ แต่ด้วยยาเม็ดจากโรงเตี๊ยมตระกูลจาง กินเพียงสองเม็ด ไข้หวัดเล็กน้อยพลันบรรเทาลง พร้อมออกเดินทางต่อได้ทันที ไม่ต้องทิ้งใครไว้ข้างหลัง ด้วยเหตุนี้เอง ตอนมาถึงป้อมปราการตะวันออก เรี่ยวแรงของทหารทุกนายจึงยังล้นเหลือ พร้อมออกรบได้ทันที

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 75 คุณหนูสามแห่งจวนเจ้ากรมพิธีการ

    บทที่ 75คุณหนูสามแห่งจวนเจ้ากรมพิธีการ ครั้นพอได้ยินเสียงคุ้นๆ สองหนุ่มสาวที่พลอดรักกันอยู่หน้าบ้าน มองผู้มาเยือนที่ไม่ได้รับเชิญด้วยสายตาเอือมระอา “เข้าบ้านคนอื่นก่อนได้รับอนุญาต ใครกันแน่ที่หน้าไม่อาย” เหยียนหลิ่วบอกด้วยเสียงเย็นชา “แม้ว่าเป็นข้าอย่างนั้นหรือ พี่เหยียนหลิ่ว” เสียงหวานกังวานใสดังขึ้นที่หน้าประตู จากนั้นหญิงสาววัยสิบแปดรูปร่างหน้าตาสะสวย สวมใส่อาภรณ์หรูหราก็ก้าวเข้ามาในบ้าน สาวรับใช้ที่ยืนเท้าสะเอว ทำหน้ายักษ์มองมาที่ตงตง รีบกลับไปยืนข้างหลังหญิงสาวผู้มาใหม่ พร้อมเรียกฝ่ายนั้นว่า “คุณหนู” เหยียนหลิ่วขมวดคิ้ว ก่อนจะพูดด้วยความรู้สึกไม่ชอบใจนัก “ถึงจะเป็นคุณหนูสามจากจวนเจ้ากรมพิธีการ ก็ควรเรียนรู้มารยาทสักหน่อย” ถูกชายหนุ่มที่ตัวเองชอบสั่งสอน ซูหลันหลัน…คุณหนูสามแห่งจวนเจ้ากรมพิธีการรู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมาก หันไปขึงตาใส่ตงตงที่นั่งเงียบ เหยียนหลิ่วลุกขึ้น ใช้ร่างใหญ่โตของตนยืนบังตงตงหมายปกป้องหญิงคนรัก แม้จะรู้ว่าคุณหนูสามซูคนนี้จะไม่กล้าแตะต้องตงตงก็ตาม

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status