共有

บทที่ 1004

作者: อี้ซัวเยียนอวี่
“ออกไปให้หมด” ประมุขแคว้นออกคำสั่งเหล่าขุนนาง จากนั้นก็ส่งสัญญาณให้มั่วซินหมัวมัว พาเฟิ่งจิ่วเหยียนเข้ามา

สองเค่อยามต่อมา เฟิ่งจิ่วเหยียนก็มาถึงห้องบรรทม

นางอยู่ในชุดสีเข้ม ใบหน้าสุขุมเยือกเย็น

ประมุขแคว้นซีหนี่ว์ไล่ข้าหลวงทุกคนออกไป เหลือไว้เพียงมั่วซินหมัวมัวคนเดียว

“ท่านแม่ของข้าอยู่ที่ใด” เฟิ่งจิ่วเหยียนถามเข้าประเด็นทันที

ประมุขแคว้นกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “นั่งลงคุยกันก่อนสิ”

เฟิ่งจิ่วเหยียนยืนอยู่ตรงนั้น ไม่ขยับ

นางจ้องประมุขบนเตียงอย่างแน่นิ่ง

ไม่เจอกันเพียงไม่กี่เดือน อาการป่วยของประมุขแคว้นซีหนี่ว์ยิ่งหนักขึ้นเรื่อย ๆ

เฟิ่งจิ่วเหยียนกล่าวอย่างไม่รีบร้อน

“ท่านต้องการตามหาซู่ยวน หากไม่มีอะไรผิดพลาด ท่านแม่ของข้าคือ…”

ประมุขแคว้นยิ้มมุมปากเบา ๆ

“เจ้าก็รู้นี่ ว่าแม่ของเจ้าหน้าคล้ายหลายส่วน…แค่ก ๆ!”

พูดถึงตรงนี้ จู่ ๆ นางก็เริ่มไอออกมา

มั่วซินหมัวมัวรีบเข้าไปช่วย ใช้ผ้าเช็ดหน้ารองรับเลือดที่ประมุขแคว้นอาเจียนออกมา

ประมุขแคว้นค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจ จากนั้นก็เงยหน้าขึ้น มองเฟิ่งจิ่วเหยียน

“เด็กน้อย เจ้ามานี่สิ…”

เฟิ่งจิ่วเหยียนมองนาง ไม่ขยับไหวติง

มั่วซินหมัวมัวเห็นเช
この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード
ロックされたチャプター

最新チャプター

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1414

    ดวงตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนเผยให้เห็นไอพยาบาทที่ไม่อาจบรรยายได้ ราวกับนางอยู่ในสนามรบ ฆ่าคนโดยไม่กะพริบตา ทำให้ผู้คนหวาดกลัวจนตัวสั่น หยวนตั๋วสูญเสียพละกำลังเพราะฝ่ามือนั้น หร่วนฝูอวี้ตามมาทันที ใช้แส้รัดรอบคอของเขา แล้วดึงกลับมา ใบหน้าของหยวนตั๋วเขียวคล้ำ พยายามเอื้อมมือไปปลดแส้ที่รัดคอออก ทว่าครู่ต่อมา เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ตัดมือทั้งสองของเขาออก เลือดพิษสาดกระเซ็นทั่วพื้นทันที มีบางหยดกระเด็นใส่ใบหน้าของนาง แต่นางไม่แสดงอาการใด ๆ แม้แต่กะพริบตาก็ไม่ หร่วนฝูอวี้ตื่นตกใจ “ถอยออกไป! เลือดของเขามีพิษ!” เฟิ่งจิ่วเหยียนรู้ดี ทว่านางไม่มีอะไรที่ต้องกังวลแล้ว เพราะนางรู้ว่าเลือดของเขามีพิษ จึงไม่ตัดมือเขาระหว่างต่อสู้กันในเมือง ด้วยกลัวว่านางและเซียวอวี้จะสัมผัสโดยไม่ตั้งใจ แต่ตอนนี้ เซียวอวี้ถูกข่วนเข้าแล้ว นางยังจะต้องกลัวอะไรอีก หยวนตั๋วเจ็บปวดมาก จนพูดไม่ออก หร่วนฝูอวี้รัดคอจนเขาหมดสติ แต่ไม่ได้ฆ่าเขา เพราะหากต้องการล่อกู่ราชาออกมา จะปล่อยให้เขาตายไม่ได้ นางมองเฟิ่งจิ่วเหยียน สตรีทั้งสอง มีแววตาที่เด็ดเดี่ยวเป

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1413

    เพลิงโหมเผาไหม้เมือง หยวนตั๋วควบคุมมนุษย์โอสถเหล่านั้นปิดกั้นที่ประตูเมือง ล้อมเฟิ่งจิ่วเหยียนกับเซียวอวี้ไว้ หยวนตั๋วยืนอยู่นอกเมือง เอ่ยอย่างเย็นชา “มนุษย์โอสถไม่กัดพวกท่าน แต่สามารถขวางทางรอดของพวกท่านได้ “หลังจากวันนี้ พวกท่านจงสูญสลายเป็นเถ้าถ่าน ไปพร้อมกับเมืองนี้!” เอ่ยจบเขาก็เดินจากไป ไฟที่อยู่ข้างหลังโหมกระพือรุนแรง เปลี่ยนก้อนเมฆบนฟ้าเป็นสีแดงฉาน ภายในประตูเมือง ฝูงมนุษย์โอสถเสมือนผีร้าย ปิดล้อมเฟิ่งจิ่วเหยียนกับเซียวอวี้เหมือนน้ำป่า ไม่ช้าก็ปิดกั้นทางออกไว้สนิท เซียวอวี้ยังไม่ได้กลายเป็นมนุษย์โอสถ เพียงรู้สึกตัวร้อนผ่าว เขาผลักเฟิ่งจิ่วเหยียนออก “รีบไป!” เขารู้ว่า ลำพังนางคนเดียว จะหนีออกไปได้แน่นอน ทว่า เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่อาจทอดทิ้งเขา นางพยายามจะแบกเขาไว้บนหลัง แต่เพลิงแผดเผาเมืองฝานหลู จนกลายเป็นเตาเผา ควันหนาทึบ ทำให้นางมองเห็นไม่ชัดเจน ทันใดนั้น มีคนคว้าจับแขนของนางไว้ “ฝ่าบาทปล่อยเป็นหน้าที่ข้าเอง!” นางจำเสียงนี้ได้ว่า เป็นของตงฟางซื่อ ตอนที่ไฟลุกลาม ตงฟางซื่อก็ตื่น เขาสงสัยว่าไฉนตน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1412

    รูม่านตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนขยายกว้าง จ้องหยวนตั๋วตาไม่กะพริบที่แท้ คนที่ควบคุมมนุษย์โอสถอยู่เบื้องหลัง ก็คือหยวนตั๋ว!ไม่แปลกที่นางจะตัดสินผิดพลาด หยวนตั๋วระวังตัวเป็นอย่างมาก เพื่อปกปิดตัวตน เขาให้สวีเจินอยู่ข้างกายตลอด อีกทั้งยังทำให้สวีเจินมีสภาพอัปลักษณ์ดูไม่ได้เหมือนในตอนนี้ไม่ได้มีเพียงเฟิ่งจิ่วเหยียนที่คาดคิดไม่ถึง เซียวม่อเองก็ประหลาดใจเช่นเดียวกัน“หยวนตั๋ว…เป็นหยวนตั๋วหรอกหรือ!”เฟิ่งจิ่วเหยียนตะโกนบอกตงฟางซื่อ“รีบขับพิษออกเดี๋ยวนี้!”ตงฟางซื่อเพิ่งรู้สึกตัว ที่หยวนตั๋วข่วนเขาเมื่อครู่ เหมือนแรงโจมตีจะไม่รุนแรง ทว่าความจริงกลับมีพิษของมนุษย์โอสถอยู่ในนั้นทว่าคิดอีกมุม เขาเคยกินเม็ดยาที่เฟิ่งจิ่วเหยียนให้เขา เม็ดยานั้นสามารถต้านทานการโจมตีของมนุษย์โอสถ สถานการณ์ไม่น่าจะแย่เกินไปทว่าในขณะนี้ ท่าทางเคร่งเครียดของเฟิ่งจิ่วเหยียน ทำให้เขาพลันได้สติเม็ดยานั้น เพียงหลีกเลี่ยงมนุษย์โอสถได้ ทว่าไม่สามารถกำจัดพิษของมนุษย์โอสถได้!นั่นหมายความว่า อีกไม่นานเขาก็จะกลายเป็นมนุษย์โอสถ…ได้ยินมาว่า กระบวนการเปลี่ยนเป็นมนุษย์โอสถเจ็บปวดทรมานอย่างมากตงฟางซื่อหรี่ตายิ้ม ดูไ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1411

    เฟิ่งจิ่วเหยียนจับสวีเจินขึงไว้บนกำแพงเมือง เส้นผมที่มัดไว้ด้านหลังปลิวไสวตามลม ฝุ่นโคลนที่เปื้อนบนใบหน้านั้น ไม่ได้ทำให้ดูทรุดโทรม กลับยิ่งเพิ่มความห้าวหาญไร้ความยำเกรงนางยืนอยู่บนที่สูง มองมายังหยวนตั๋ว อย่างเย็นชาหยวนตั๋วมองนางอย่างประหลาดใจเมื่อครู่เขาอยู่บนกำแพงเมือง และเขาเพิ่งลงจากกำแพงเมืองมาได้ไม่นานผู้หญิงคนนั้น นางขึ้นไปตั้งแต่เมื่อไร อีกทั้งยังจับสวีเจินมัดไว้อย่างไร้ซุ่มเสียงด้วย?หยวนตั๋วรู้สึกเย็นวูบที่แผ่นหลังเฟิ่งจิ่วเหยียนทาบดาบเล่มยาวบนเชือกที่แขวนสวีเจินไว้สวีเจินดิ้นทุรนทุราย แต่สองมือถูกมัดไขว้หลังไว้ เหลือเพียงขาสองข้าง แกว่งไปมากลางอากาศ“ปล่อยข้า!”แววตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนเยือกเย็น“มนุษย์โอสถเหล่านั้น เจ้าเป็นคนควบคุมใช่หรือไม่?”ใบหน้าที่เสียโฉมของสวีเจินนั้น เผยแววตกใจออกมาเขาเงยหน้าขึ้น มองไปยังข้างบน“พวกเจ้าคิดจะทำอะไร!”หยวนตั๋วหัวเราะออกมาเสียงดัง“ที่แท้ก็เพราะมนุษย์โอสถเหล่านี้“ถึงพวกเจ้าจะจับสวีเจินไว้ ก็หยุดอะไรไม่ทัน…”ตงฟางซื่อไม่คิดว่าจนถึงบัดนี้แล้ว หยวนตั๋วยังจะกำเริบเสิบสานถึงเพียงนี้ทว่า คมกระบี่ยังถูกเขาใช้พลังควบคุ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1410

    วันต่อมา ยามรุ่งสาง บนกำแพงเมืองมีเสียงตีกลองดังขึ้นมาทุกครั้งที่เสียงดังขึ้น ก็เหมือนทุบตีหัวใจของประชาชน ทำให้หวาดหวั่นอยู่ไม่สุขหยวนตั๋วยืนบนกำแพงเมือง มองไปยังที่ห่างไกลภายในเมืองมีการสาดน้ำมันเชื้อเพลิงไว้ทั่วบริเวณเหล่ามนุษย์โอสถมีสีหน้านิ่งค้าง แทบไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังทำอะไร และกำลังจะเผชิญกับอะไรกลุ่มที่ซ่อนตัวอยู่ในประชาชนทั่วไป พวกเขาได้กลิ่นน้ำมันเชื้อเพลิง ต่างหนีกระเจิง“อย่าเผา! อย่า!”ไม่ต้องคิดก็พอจะรับรู้ถึงจุดจบของพวกเขา ล้วนถูกมนุษย์โอสถข้างนอกกัด…แววตาของหยวนตั๋วเยือกเย็น ในสายตาของเขา ชีวิตของคนไม่ต่างอะไรกับผักปลายามฟ้าสางหยวนตั๋วคำนวนเวลา ขณะที่กำลังจะออกคำสั่งเผาเมือง เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมา“ช้าก่อน!”เสียงนั้นทำให้คนนิ่งงันหยวนตั๋วมองไปยังทิศทางของเสียง จึงเห็น ท่ามกลางแสงแห่งรุ่งอรุณ ในม่านหมอกจาง ๆ ฮ่องเต้เดินออกมาอย่างมั่นคง“คุณชาย นั่นฮ่องเต้ฉี!” คนสนิทของหยวนตั๋วกล่าวเตือนแน่นอนว่าหยวนตั๋วจำได้ดูเหมือนจะถูกขังไว้นาน เสียงของฮ่องเต้ฉีจึงแหบแห้งอย่างมากมุมปากของเขายกขึ้น“ฝ่าบาท ที่แท้ท่านอยู่ในเมืองฝานหลูนี่เอง ช่างเอื้อให้พว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1409

    ณ จวนฉู่อ๋องหยวนตั๋วต้องการวางเพลิงเผาเมือง เซียวม่อจึงรีบเก็บข้าวของ เตรียมหนีไปอยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัย เพื่อจะไม่ให้โดนผลกระทบไปด้วยในมุมมองของเขา หยวนตั๋วก็คือคนบ้าไม่แน่อาจจะฆ่าเขาไปด้วยพระชายาฉู่อ๋องยังไม่รู้ว่าสถานการณ์ภายนอกเป็นอย่างไร จู่ ๆ ต้องมาหนีตายเช่นนี้ นางจึงกังวล“ท่านอ๋อง ตกลงมันเกิดอะไรขึ้น? หรือว่าฝ่าบาทพาทหารบุกเข้ามา?”“นังโง่! หยุดพูดได้แล้ว!” เซียวม่อทนฟังคำพูดอัปมงคลเช่นนี้ไม่ได้ เกือบจะฟาดฝ่ามือใส่ฉวีเต้าหยางอาศัยจังหวะชุลมุนพามารดาหนีไปนายหญิงฉวีรู้มาตลอดว่าบุตรชายของตนเองกำลังทำอะไร จึงถามอย่างไม่วางใจ“ฝ่าบาทออกไปจากเมืองชายแดนอย่างปลอดภัยแล้วหรือ?”ฉวีเต้าหยางตอบมารดาไปตามตรง“ตอนนี้ยังไม่รู้“แต่มีฮองเฮาอยู่ด้วย ฝ่าบาทต้องปลอดภัยแน่นอน”เพี้ยะ!เสียงฟาดฝ่ามือของนายหญิงฉวีดังขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้ฉวีเต้าหยางชะงักต่อมาผู้เป็นแม่ก็ตำหนิอย่างแข็งกร้าว“ฝ่าบาทกับฮองเฮายังไม่หนีออกมา แล้วเราจะหนีไปก่อนได้อย่างไร?“ลูกเอ๋ย แม่ไม่กลัวตาย กลัวก็แต่ว่าจะตายอย่างขี้ขลาด“หากเจ้าเป็นลูกของข้า ก็ไม่ควรทำเรื่องรักตัวกลัวตายเช่นนั้น!”ฉวีเต้า

続きを読む
無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status