Share

บทที่ 710

Author: อี้ซัวเยียนอวี่
องค์หญิงน้อยเจ็บป่วยร้ายแรงถึงขั้นวิกฤต สถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน

เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงไม่พูดมาก เพียงเอ่ยรวบรัดชัดเจนให้เซียวอวี้เข้าใจ

“เรื่องการโน้มน้าวหร่านชิวให้ร่วมมือต่อสู้กับหยางเหลียนซั่ว ให้ตงฟางซื่อจัดการคนเดียวก็พอ

“เวยเฉียงใกล้จะแต่งงานแล้ว ข้าตั้งใจจะไปยังชายแดนเหนือก่อน เพื่อส่งนางออกเรือน

“ก่อนหน้านั้นจะแวะที่ภูเขาหิมะเทียนฉือก่อนเพคะ”

ภูเขาหิมะเทียนฉือเป็นสถานที่อันตราย เซียวอวี้ไม่อยากให้นางไปเสี่ยง

“เราสั่งให้คนไปหาตัวยาแล้ว...”

เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยด้วยความผ่อนคลาย

“ข้าเคยขึ้นไปที่ยอดเขาเทียนฉือแล้วเพคะ

“ทุกคนล้วนกล่าวว่าอันตราย แท้จริงเป็นเพราะถนนบนภูเขาไม่ชัดเจน จึงง่ายจะติดอยู่ในพายุหิมะและหมดแรงไปเอง

“หม่อมฉันมีร่างกายที่ทรหดเพียงใด ท่านเองก็รู้ดีเพคะ”

ร่างกายที่ทรหด...

เซียวอวี้คิดฟุ้งซ่านในเวลาที่ไม่เหมาะสม

ความมีชีวิตอยู่หรือตายนั้นสำคัญ มิอาจล่าช้าได้

เฟิ่งจิ่วเหยียนหยิบกระบี่ขึ้นมาทันที พลางลุกขึ้นกล่าวคำอำลา

“ฝ่าบาท ขอทูลลาเพคะ”

เซียวอวี้ขมวดคิ้วเบา ๆ พลันลุกขึ้นตามนางไป และคว้าแขนของนางไว้
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Prig Pannasa
ริมผานี่ชั้นกลัวน้องจะตกลงไปจริงๆ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 711

    ดอกจื่อซวี่เติบโตอยู่ตามหน้าผา หากต้องการเด็ดมัน ต้องระมัดระวังอย่างมากนายพรานคนนำทางคนนั้นบอกกับนาง ต้องระวังกองหิมะเป็นพิเศษหากเกิดหิมะถล่ม พวกเขาก็จะแย่กันหมดอู๋ไป๋นั่งบนพื้นอย่างอ่อนแรง ช่วยอะไรไม่ได้ เริ่มต้นลำคอนั้นเยือกเย็น จากนั้นก็ร้อนรุ่มกระวนกระวายท่ามกลางหิมะอันกว้างใหญ่ เขารู้สึกเพียงว่า ชีวิตของตนเองอยู่ได้ไม่นานแล้วเฟิ่งจิ่วเหยียนก็เป็นคน ปีนเขามาสองวัน กำลังของนางก็ใกล้จะหมดลงแล้วเกล็ดหิมะเกาะบนขนตา ภาพข้างหน้าพร่ามัวยอดเขาหิมะ ลมที่พัดผ่านหน้าราวกับคมมีดทุกย่างก้าว ทรมานราวกับถูกเฉือนอย่างช้าๆนางมองดอกจื่อซวี่ที่เห็นใกล้แค่เอื้อม ทว่าไกลสุดขอบฟ้า มือสั่นเทาแข็งเป็นสีม่วงทว่า คิดถึงชีวิตขององค์หญิงน้อยขึ้นอยู่กับสิ่งนี้ นางก็ก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่งอย่างเด็ดเดี่ยวเจตจำนงอันน่าอัศจรรย์ ระเบิดออกมาในขณะนี้ก้าวแล้วก้าวเล่า นางเข้าใกล้มากขึ้นเรื่อยๆแต่แล้ว ฝนฟ้าไม่เป็นใจคิดอยากแย่งชีวิตหนึ่งมาจากในมือยมบาล จักต้องทนรับความพิโรธของท่านลมพัดกระหน่ำบนยอดเขา พร้อมกับเกล็ดหิมะอันกว้างใหญ่ เสมือนพายุหอบเอาเศษปุยเมฆสลายหายไป คลื่นซัดสูงปลาและกุ้งปรากฏต

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 712

    ใต้ฝ่าเท้า เกลื่อนกลาดไปด้วยศพหลังจากพวกองครักษ์ขึ้นไปบนภูเขาเทียนฉือ ถึงแม้ลงเขามาก่อนเฟิ่งจิ่วเหยียน ทว่ากำลังกายยังไม่ฟื้นคืนกลับมาพวกเขาพยายามปกป้องเฟิ่งจิ่วเหยียน ล้วนตายอยู่ภายใต้ดาบของนักฆ่านักฆ่าก็ตายไปกว่าครึ่งที่เหลือยี่สิบกว่าคน ล้อมรอบเฟิ่งจิ่วเหยียนกับอู๋ไป๋ไว้ภาพตรงหน้าเฟิ่งจิ่วเหยียนปรากฏเป็นเงาภาพซ้อน ข้างหูเสียงดังอื้อ ได้ยินเสียงกรีดร้องของอู๋ไป๋อย่างเลือนราง“นายท่าน ท่านรีบไป!”เฟิ่งจิ่วเหยียนรู้ดี พวกเขาหนีไม่พ้นแล้วบางที นี่ก็คือแผนลวงตั้งแต่แรกแล้วหลอกล่อนางมายังภูเขาหิมะเทียนฉือ รอหลังจากนางสูญเสียเรี่ยวแรงทั้งหมด ค่อยลงมือฆ่า...เฟิ่งจิ่วเหยียนหายใจหนักหน่วง แม้แต่เรี่ยวแรงถือดาบก็ไม่มีแล้วนางถือดาบไว้ ร่างกายโอนเอนเล็กน้อยติ๋งๆ!ติ๋ง ๆ...เลือดสีแดงเข้ม ไหลหยดออกมาจากปากของนาง“นายท่าน!” ดวงตาอู๋ไป๋แดงจางๆนักฆ่าที่หลงเหลือพวกนั้นก็ล้วนได้รับบาดเจ็บไม่มากก็น้อยพวกเขาไม่คิดว่า ซูฮ่วนคนนี้จะฆ่ายากมากขนาดนี้ทว่าตอนนี้นางโดดเดี่ยวไม่มีใครช่วยตูม...มีเสียงดังมาจากบนยอดเขาหิมะทุกคนเงยหน้ามอง จากนั้นดวงตาล้วนเบิกกว้าง“หิมะถล่ม!”

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 713

    อู๋ไป๋พุ่งออกไป กอดขาเซียวอวี้ไว้“ฝ่าบาท แม่ทัพน้อยไม่เป็นไร นางจะไม่เป็นไร ใช่หรือไม่!”เขาเข้าใจแล้ว!แม่ทัพน้อยรู้ หากนางมีอันตราย เขาต้องไม่ไปไหน เพื่อให้เขารีบไปอย่างรวดเร็ว นางสร้างเรื่องหลอกลวงว่าป้ายหยกมีความลับ ภารกิจสำคัญที่สุดของทหาร นั่นคือความเชื่อฟังกับความรับผิดชอบที่ฝังลึกถึงในกระดูกของเขาแม่ทัพน้อยใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ ทำให้เขาได้หนีเอาตัวรอด...เขากลับ เพิ่งคิดได้ในตอนนี้!เซียวอวี้เตะเขาอย่างไร้ความปรานี เดินออกไปนอกตำหนัก สีหน้าเยือกเย็นยิ่งกว่าฤดูหนาว เต็มไปด้วยไอสังหาร“นางต้องมีชีวิตอยู่ แน่นอน”นางยังไม่ได้แต่งงานกับเขา ยังตายไม่ได้!เขาจะต้องตามหานางให้เจอ!……คุกหลวงมู่หรงหลันนั่งอยู่บนหญ้าแห้งบนพื้น สวมชุดนักโทษ ไม่มีท่าทีสูงศักดิ์เหมือนที่ผ่านมาหม่ากงกงมาที่นี่ เพื่อบอกกับนาง“แม่นาง แผนการของท่านสำเร็จแล้ว“หิมะบนภูเขาหิมะเทียนฉือถล่ม ซูฮ่วน ตายแล้ว”มู่หรงหลันได้ยินเช่นนี้ ดวงตาที่ไร้ชีวิตชีวา เป็นประกายมีสีสันขึ้นมาทันที“ตายแล้วจริงๆ หรือ?”หม่ากงกงผงกศีรษะอย่างมั่นใจ“นั่นคือหิมะถล่ม ไม่มีใครสามารถรอดชีวิตมาได้ เวลานี้ฝ่าบาทออกจาก

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 714

    ภูเขาหิมะเทียนฉือถูกปิดล้อมหนึ่งเดือน ตามคำร่ำลือ ทหารรักษาพระองค์ของฝ่าบาทถูกซุ่มโจมตี ไร้ผู้รอดชีวิต ฝ่าบาทเสด็จด้วยพระองค์เอง ตามหากระดูกผู้ภักดี เรียกดวงวิญญาณผู้ภักดีพริบตาเดียวก็ปลายเดือนสิบเอ็ดแล้วหิมะบนภูเขาเทียนฉือยิ่งหนาขึ้นแผ่นดินจะขาดผู้ปกครองไม่ได้สักวันวันนี้ รุ่ยอ๋องมาตามหา เฉินจี๋เห็นรุ่ยอ๋อง ก็พูดขึ้นมา “ท่านอ๋อง ขอท่านทรงกล่อมฝ่าบาทด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”รุ่ยอ๋องไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่หากคนที่ตายเป็นเพียงองครักษ์เหล่านั้น ไม่มีทางที่ฝ่าบาทจะไม่ทันได้มอบหมายอะไรเลย ก็ละทิ้งงานราชกิจของแผ่นดินเสียไปแบบนี้เมื่อถามเฉินจี๋ ค่อยรู้ว่า...ซูฮ่วนตายแล้วซูฮ่วนคนนั้นอีกแล้ว...รุ่ยอ๋องมองไปบนภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ ความเศร้าโศกปรากฏชัดในแววตาอันอ่อนโยนเขาถามเฉินจี๋“ฝ่าบาท รักซูฮ่วนใช่หรือไม่?”รุ่ยอ๋องกับฝ่าบาทมีมิตรภาพอันลึกซึ้ง เฉินจี๋ครุ่นคิดดูแล้ว ก็เล่าความจริงให้ฟัง“ท่านอ๋อง ซูฮ่วนเป็นสตรี ฝ่าบาทเตรียมที่จะแต่งตั้งให้นางเป็นฮองเฮา นางมายังภูเขาหิมะเทียนฉือ เพื่อหาดอกจื่อซวี่ให้กับองค์หญิงน้อย”คำพูดไม่กี่ประโยคง่ายๆ ทำให้รุ่ยอ๋องตกตะลึงอย่างมาก

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 715

    ไม่ทันรอให้รุ่ยอ๋องถูกพาตัวกลับเมืองหลวง เซียวอวี้หมดสติไปก่อนแล้วหมอบอกว่า ไข้หวัดลมหนาวของเขารุนแรงขึ้น จะต้องพักผ่อนดูแลให้ดีดังนั้น รุ่ยอ๋องตัดสินใจ ฉวยโอกาสตอนที่ฝ่าบาทไม่รู้สึกตัว พาตัวเขากลับวังหลวงอากาศบนภูเขาเทียนฉือหนาวเย็นมาก ไม่ควรอยู่นานฝ่าบาทไปแล้ว องครักษ์หลายร้อยคนยังอยู่เฉินจี๋สั่งการพวกเขา เมื่อพบศพของซูฮ่วน ให้รีบรายงานทันทีเขามั่นใจว่า หิมะถล่มเช่นนี้ ต่อให้เป็นคนที่มีวรยุทธสูงส่งแค่ไหน ก็หนีไม่พ้นอู๋ไป๋ที่อยู่ด้านข้างได้ยินคำพูดนี้ ก็ก่นด่าขึ้นมาอย่างโกรธเคือง“ไอ้สารเลว! เฉินจี๋! ไสหัวเจ้าไป! นายท่านของข้าต้องยังไม่ตาย! !”เฉินจี๋รู้ว่าในใจอู๋ไป๋รู้สึกแย่ จึงไม่ถือสาทว่า ในฐานะที่เขาเป็นราชองครักษ์ จะต้องปกป้องฝ่าบาทเขาไม่สามารถจะทนเห็นฝ่าบาทเพื่อตามหาศพ จนตนเองต้องป่วยลุกไม่ขึ้นไม่ได้อีกต่อไปหลังจากมองกระโจมที่ถูกรื้อ ฝ่าบาทถูกพาตัวไป อู๋ไป๋คุกเข่าบนพื้นหิมะ มองดูภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะอย่างเหม่อลอย ในใจทุกข์ระทม“อ้าก...” เขาทุบกำปั้นลงไป ฝังหัวเข้าไปในหิมะและปล่อยเสียงคำรามต่ำ“ตามหาคนต่อไป” ข้างหน้ามีเสียงทุ้มต่ำของหยิ่นลิ่วดังขึ้นมา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 716

    เมืองหลวง ภายในวังหลังจากที่หมอหลวงฝังเข็มใช้ยา เซียวอวี้ค่อยๆ ดีขึ้นมา ทว่าร่างกายยังอ่อนแอมาก ราวกับสูญเสียดวงวิญญาณ ไร้ซึ่งชีวิตชีวาคนฉลาดล้วนมองออก ครั้งนี้ฝ่าบาทป่วยอย่างสาหัสมากตำหนักฉือหนิงไทเฮาร้อนรุ่มดั่งไฟสุมทรวง“เกิดอะไรขึ้นกันแน่! หลายวันก่อนฝ่าบาทรีบร้อนออกจากวัง แล้วทำไมถึงกลายเป็นสภาพเช่นนี้?”ถามอะไรกุ้ยหมัวมัวก็ไม่รู้เรื่องสีหน้าหนิงเฟยเป็นกังวล “ท่านป้า ฝ่าบาทไม่มีโอรสสักคน หากเป็นอะไร...” “หุบปาก! พูดจาอะไรเหลวไหล!” ไทเฮาพูดตัดบททันทีหนิงเฟยกัดริมฝีปาก“ท่านป้า ท่านอย่าหาว่าข้าพูดจาไม่น่าฟัง ฝ่าบาทอยู่ในสภาพเช่นนี้ พวกเราจำเป็นต้องวางแผนไว้แล้ว”“น้องหญิงพูดถูก” องค์หญิงใหญ่เดินเข้ามาจากข้างนอก คนยังมาไม่ถึง เสียงมาถึงก่อนแล้วไทเฮาราวกับหาเจอแกนสำคัญ สีหน้าที่ตึงเครียดค่อยผ่อนคลายลง“ฉีเอ๋อร์! เจ้ามาแล้วหรือ!”องค์หญิงใหญ่นั่งลง สีหน้าเคร่งขรึม“ส่วนหน้ามีข่าวลือแพร่สะพัด แต่ละฝ่ายเริ่มเคลื่อนไหวสั่นคลอน เสด็จแม่ เราจำเป็นต้องเตรียมการ จะให้ใครมาฆ่ามาแกงไม่ได้!”ไทเฮามององค์หญิงใหญ่ แล้วก็มองหนิงเฟย“พวกเจ้า...เฮ้อ! ฝ่าบาทเพียงเป็นไข้หวัด ไม

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 717

    ดอกจื่อซวี่ที่เฟิ่งจิ่วเหยียนแลกมาด้วยชีวิต หลังจากองค์หญิงน้อยทานแล้ว ชีวิตพ้นขีดอันตรายชั่วขณะเซียวอวี้ยืนอยู่ข้างเตียงด้วยสีหน้าเรียบเฉย มาเยี่ยมดูอาการขององค์หญิงน้อยเวลานี้นางมีพลังงานเต็มเปี่ยม นั่งอยู่บนเตียง จิบยาทีละน้อยรอยยิ้มของนางบริสุทธิ์อ่อนหวาน“เสด็จพี่ฮ่องเต้ ท่านเก่งมากเลย! พวกเขาล้วนพูดว่า ทานให้คนไปหายาวิเศษมาก รักษาอาการป่วยของข้าจนหายแล้ว ตอนนี้ข้าไม่เจ็บปวดเลยสักนิดแล้ว!”เฉินจี๋รู้สึกเย็นวาบที่สันหลังเขาอยากอุดปากองค์หญิงน้อยไว้จริงๆสิ่งที่ฝ่าบาทเสียใจที่สุดในตอนนี้ ก็คือให้ซูฮ่วนไปยังภูเขาเทียนฉือจู้กั๋วกงน้ำตาคลอเบ้า คุกเข่าอยู่ตรงหน้าฝ่าบาท“ฝ่าบาท บุญคุณยิ่งใหญ่ของท่าน กระหม่อมไม่รู้จะตอบแทนอย่างไร! องครักษ์ที่นำดอกจื่อซวี่กลับมาคนนั้น กระหม่อมอยากเจอเขา แสดงความ...”“จู้กั๋วกง!” เฉินจี๋ทนไม่ไหวแล้ว เสี่ยงโทษการขัดต่อพระบัญชา ก็ต้องพูดขัดจังหวะสีหน้าเซียวอวี้ดั่งน้ำนิ่ง แววตาไร้ความรู้สึก ราวกับไม่มีคลื่นกระเพื่อมแม้แต่น้อยเขาเพียงมององค์หญิงน้อยอยู่อย่างเงียบๆองค์หญิงน้อยตาดี เห็นเส้นผมเสด็จพี่ฮ่องเต้มีเส้นสีเทาเงินอยู่บ้างเล็กน้อย ดูเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 718

    หม่ากงกงทำความเคารพอย่างยิ้มแย้ม“แม่นาง นี่คือโอรสที่ท่านคลอดให้กับฝ่าบาทในปีนั้น!”แววตามู่หรงหลันมัวหมอง พร้อมย้อนถามเขา “ไม่ต้องพูดถึงในตอนนั้น ข้ารักษาเด็กคนนั้นไว้ไม่ได้“หรือเจ้าไม่รู้ว่า ฝ่าบาทไม่เคยแตะต้องข้า?”หม่ากงกงพูดขึ้นมาอย่างไม่หวาดหวั่น “ขอเพียงแม่นางมีโอรสคนหนึ่ง ถึงตอนนั้น เราบอกว่าเขาเป็นลูกของผู้ใด เขาก็จะเป็นลูกของผู้นั้น” แววตามู่หรงหลัน ไม่อ่อนโยนเหมือนอย่างที่ผ่านมา กลายเป็นเฉียบคม“พวกเจ้าคิดจะใช้เด็กคนนี้เพื่อขึ้นครองบัลลังก์?“ฝ่าบาทไม่มีทางยอมจำนนง่ายๆ !“เขารู้ดีแก่ใจ เด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของเขา“เขาจะเลอะเลือนถึงขั้น ยกบัลลังก์ให้กับเด็กนอกคอกที่มาจากไหนก็ไม่รู้ได้อย่างไร!” หม่ากงกงเดินไปที่ข้างเตียง เอื้อมมือลูบใบหน้าของเด็กคนนั้นแผ่วเบา พร้อมพูดขึ้นมาอย่างเชื่องช้า“เรื่องนี้ก็ต้องดูความสามารถของแม่นางแล้ว”……เมืองหลวงจวนตระกูลเฟิ่งนายท่านเฟิ่งหงุดหงิดมากก่อนหน้านี้ฝ่าบาทตรัสว่าจะแต่งตั้งฮองเฮา ทำไมจนถึงบัดนี้แล้วยังไม่มีความเคลื่อนไหวอะไร?เป็นถึงกษัตริย์แห่งแผ่นดิน คงไม่ได้พูดล้อเล่นกับเขามั้ง!เมื่อคิดอีกที หรือจิ่วเหยียนเปลี่

Latest chapter

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1218

    องค์ชายเจ็ดทรงนำทัพออกศึกแล้ว ยามดึกเฟิ่งจิ่วเหยียนเข้าไปค้นหาที่จวนขององค์ชาย ก็ไม่มีองครักษ์เฝ้าอยู่มากนักค้นหาติดต่อกันสามคืนแล้ว ก็ยังไม่มีเบาะแสใดเลยพวกอู๋ไป๋ก็ไปค้นหาที่จวนขององค์ชายองค์อื่น ๆ ทว่าก็ไม่มีข่าวดีเช่นเดียวกันทางด้านวังหลวงจนถึงตอนนี้ก็ยังสืบหาไม่พบสถานที่ที่เหมาะสมกับการคุมขังคนหยิ่นลิ่วไปสืบหาในจวนองค์ชายสี่ ก็แอบได้ยินองค์ชายสี่ทรงเอ่ยตัดพ้อกับที่ปรึกษา“เสด็จพ่อทรงโปรดปรานน้องเจ็ด ข้าจะแย่งชิงได้อย่างไร? ก่อนหน้านี้ยังมีฮ่องเต้ฉีคอยแนะนำข้า ตอนนี้แม้แต่จะพบฮ่องเต้ฉีก็ยังไม่อาจทำได้เลย!”หยิ่นลิ่วจับจุดสำคัญนี้ได้ จึงรีบกลับไปที่โรงพักแรมเพื่อทูลรายงาน“ฮองเฮา มิต้องสงสัยเลยว่า องค์ชายสี่ผู้นี้จะต้องทราบว่าฝ่าบาททรงถูกขังอยู่ที่ใด!”เมื่อเทียบกับหยิ่นลิ่ว เฟิ่งจิ่วเหยียนใจเย็นยิ่งกว่านางต้องการยืนยันอีกครั้ง “องค์ชายสี่ทรงเอ่ยคำพูดเช่นนี้จริงหรือ”หยิ่นลิ่วมั่นใจอย่างยิ่งอู๋ไป๋เริ่มรู้สึกร้อนใจ“นายท่าน ข้าน้อยจะไปจับตัวองค์ชายสี่ และสอบสวนอย่างลับ ๆ !”ด้วยการทรมานอย่างหนัก องค์ชายสี่แห่งเป่ยเยี่ยนไม่มีทางที่จะไม่บอกความจริงเฟิ่งจิ่วเหยียนยกม

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1217

    ช่วงเริ่มต้นของปีใหม่ กองทัพเยี่ยนเคลื่อนเข้ามาใกล้ชายแดน เหล่าทหารมีจิตใจที่ฮึกเหิม ใช้การยึดคืนเมืองที่เสียไปเป็นเป้าหมาย และแย่งกรูกันเข้าไปทางเมืองชายแดนของหนานฉีองค์ชายเจ็ดของเป่ยเยี่ยนได้รับแต่งตั้งให้เป็นแม่ทัพใหญ่ ควบคุมทั้งสามกองทัพในการรบครั้งนี้ ฮ่องเต้เยี่ยนทรงคาดหวังต่อเขาอย่างมาก ก่อนออกรบทรงตักเตือนและกำชับไว้มากมาย“เจ้าเจ็ด หากชนะสงครามครั้งนี้ ตำแหน่งว่าที่จักรพรรดิ ก็ต้องเป็นเจ้าเพียงผู้เดียว! เหล่าพี่น้องของเจ้าก็จะยอมรับโดยไม่มีข้อโต้แย้งเช่นกัน!”องค์ชายเจ็ดพยักหน้าอย่างนอบน้อม“กระหม่อมจะไม่ทำให้เสด็จพ่อผิดหวัง”ฮ่องเต้เยี่ยนมองบุตรชายด้วยความพึงพอใจ ในบรรดาเหล่าองค์ชายที่เหลืออยู่ มีเพียงองค์ชายเจ็ดที่มีลักษณะของความเป็นจักรพรรดิมากที่สุดองค์ชายสี่ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน มองดูฉากเหตุการณ์นั้นด้วยสายตาอันคมกริบฮ่องเต้ฉีเอ่ยไว้ถูกต้องจริง ๆ เสด็จพ่อดีต่อน้องเจ็ดเหลือเกิน!ขอเพียงทหารสามารถรบชนะ ไม่ว่าใครจะเป็นแม่ทัพใหญ่ ก็จะได้รับความดีความชอบไปด้วยชัดเจนว่าเสด็จพ่อทรงให้โอกาสกับน้องเจ็ดแล้วเขาเล่า? เขาเป็นองค์ชายสี่นะ?เหตุใดเสด็จพ่อทรงมองไม่เห็นเข

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1216

    อาจือถูกส่งเข้าวังมาตั้งแต่เล็ก และคอยรับใช้ข้างกายองค์หญิงเซี่ยนอี๋ที่จริงนางถือกำเนิดในตระกูลที่มีฐานะและชื่อเสียง ทว่าคนในตระกูลทำผิด จึงกลายมาอยู่ในสถานะต่ำต้อยอาจือคอยติดตามรับใช้องค์หญิง ทว่ากลับมองตนเองว่าพิเศษกว่าคนทั่วไปอาจารย์สอนศาสตร์ความรู้ต่าง ๆ ให้กับองค์หญิง ไม่ว่าทำอย่างไรองค์หญิงก็ทรงร่ำเรียนไม่สำเร็จ ส่วนนางเรียนรู้ไม่นานก็ทำได้หมัวมัวในวังก็มักจะมองนางด้วยความเสียดาย---อาจือ หากเจ้าไม่อยู่ในสถานะต่ำต้อย ก็คงมีชื่อเสียงรุ่งโรจน์กว่าองค์หญิงเป็นแน่ทว่า คนที่อยู่ในสถานการณ์มักจะมองไม่เห็นภาพรวมชัดเจนอาจือฉลาดก็จริง ทว่าไม่ถือว่าฉลาดถึงขั้นสุดเมื่ออยู่ต่อหน้าคนอย่างเซียวอวี้ จึงกลายเป็นคนฉลาดเพียงเล็กน้อยคนที่มีทักษะครึ่ง ๆ กลาง ๆ กลับมั่นใจเกินไป เหมือนกับคนที่ว่ายน้ำเป็นกลับจมน้ำอาจือก็มีจุดอ่อนที่อันตรายถึงแก่ชีวิตเช่นกันนางเข้าใจว่าตนเองพูดไม่กี่คำ ก็สามารถได้รับความไว้วางใจจากฮ่องเต้ฉีแล้ว กลับไม่รู้ว่า อีกฝ่ายวางแผนลวงไว้ตั้งแต่แรกแล้วเมื่อมองจักรพรรดิรูปงามที่อยู่เบื้องหน้า ในใจอาจือเริ่มว้าวุ่นเมื่อใจเริ่มว้าวุ่น แม้จะมีความฉลาดอยู่เล็กน้อ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1215

    ณ เป่ยเยี่ยนจวนขององค์หญิงเซี่ยนอี๋ได้รับพระราชทานแล้ว นางไม่อาจทนรอได้อีกต่อไปจึงย้ายเข้าไปในเรือนหลังใหม่มิใช่ว่าองค์หญิงทุกพระองค์จะสามารถเปิดจวนได้ นี่เป็นความโปรดปรานที่เสด็จพ่อมีต่อนางเป็นพิเศษและสิ่งที่นางยินดีเป็นอย่างยิ่งคือ ฮ่องเต้ฉีก็ถูกส่งมาที่จวนของนางด้วยเช่นกันถึงแม้เสด็จพ่อจะส่งคนมาคุ้มกัน ไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้าออกห้องลับที่คุมขังฮ่องเต้ฉีตามอำเภอใจ ทว่า นี่คือจวนของนาง นางย่อมต้องหาโอกาสได้จากคุกลับมาที่จวนองค์หญิง เซียวอวี้ถูกคนคลุมศีรษะมาตลอดทางบวกกับเป็นเวลาค่ำคืน ก็ยิ่งไม่มีผู้ใดรู้องค์หญิงเซี่ยนอี๋ออกมาต้อนรับด้วยพระองค์เอง โดยยืนรออยู่ที่หน้าประตูห้องลับ ราวกับเชื้อเชิญให้เข้ามาติดกับ และยิ่งเหมือนนายพรานที่สร้างกรงขัง กำลังมองดูเหยื่อเดินเข้ามาในกรงด้วยความพอใจขณะที่เซียวอวี้เดินผ่านตัวนาง นางก็เอ่ยอย่างอารมณ์ดี“ฮ่องเต้ฉี พวกเรายังมีอนาคตร่วมกันอีกยาวไกล”เซียวอวี้มีท่าทีเย็นชา ไม่แสดงสีหน้าเป็นมิตรแม้แต่น้อยทว่านางก็ชอบท่าทางดื้อรั้นเช่นนี้ของเขาและว่ากันตามตรง ห้องลับก็ดูสะอาดกว่าคุกลับองค์หญิงเซี่ยนอี๋ทรงเกเรเอาแต่ใจ ทว่าก็มีความจริงใจ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1214

    เฉินจี๋ได้รับการช่วยเหลือจากนายพรานผู้หนึ่ง ด้วยอาการบาดเจ็บรุนแรง กระทั่งตอนนี้ก็ยังหมดสติอยู่นี่จึงไม่น่าแปลกใจที่เขายังไม่ปรากฏตัว ที่แท้เป็นเพราะร่างกายไม่อาจเคลื่อนไหวได้นายพรานรู้ว่าเฟิ่งจิ่วเหยียนกับคณะรู้จักกับเฉินจี๋ จึงรู้สึกโล่งใจ“ข้าลำบากใจจริง ๆ เพราะคิดว่านี่คือชีวิตคนคนหนึ่ง จึงไม่อาจทอดทิ้งได้ ทว่าจะรักษาอาการบาดเจ็บของเขา ข้าก็ต้องใช้เงิน...”ไม่รอให้นายพรานพูดจบ เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ส่งสัญญาณให้อู๋ไป๋นำเงินให้อู๋ไป๋ถนัดการจัดการเรื่องต่าง ๆ สักพักก็เริ่มคุ้นเคยกับนายพราน และเอ่ยขอบคุณอย่างสนิทสนม“พี่ชาย ขอบคุณจริง ๆ ที่เจ้าช่วยสหายข้าไว้! เงินเล็กน้อยนี้ไม่พอจะทดแทนคำขอบคุณได้! ใช่แล้ว เจ้ายังจำได้หรือไม่ว่า เจอสหายข้าที่ใด แล้วเขาได้รับบาดเจ็บอย่างไร? และเจอคนที่น่าสงสัยคนอื่นหรือไม่?“เจ้าอย่าเพิ่งเข้าใจผิด ข้าเพียงแค่อยากรู้ให้ชัดเจน ว่าผู้ใดทำร้ายสหายข้า บาปมีคนก่อหนี้ย่อมมีเจ้าหนี้”คำพูดของอู๋ไป๋ ล้วนเป็นความรู้สึกตามธรรมชาติของคนนายพรานลองคิดทบทวนอย่างละเอียดรอบหนึ่ง“ข้าช่วยเขาตรงริมแม่น้ำ ตอนนั้นไม่พบผู้อื่น ขอโทษจริง ๆ ที่ข้าช่วยพวกท่านไม่ได้”“

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1213

    ปลายเดือนสิบสอง ปีใหม่ใกล้เข้ามาเส้นทางมุ่งหน้าไปทางเหนือเต็มไปด้วยน้ำแข็ง การเดินทางนั้นยากลำบากเฟิ่งจิ่วเหยียนในช่วงอยู่ไฟมิได้พักฟื้นอย่างเต็มที่ ตอนนี้ยังต้องเดินทางท่ามกลางพายุหิมะอีก จึงมักจะปวดเมื่อยเอว และเหงื่อออกมากอยู่บ่อย ๆในช่วงกลางคืนเข้านอน ก็มักรู้สึกเย็นที่ไหล่ และหนาวอย่างรุนแรงอู๋ไป๋เห็นสีหน้าของนางไม่สู้ดีนัก จึงเตือนนาง“นายท่าน ไม่สู้ให้หมอมาตรวจดูบ้าง?”เฟิ่งจิ่วเหยียนรีบร้อนจะตามหาคน จึงไม่อยากล่าช้าครั้งนี้อู๋ไป๋ยืนหยัดอย่างเต็มที่“นายท่าน ต่อให้ท่านไม่คำนึงถึงตนเอง ก็ควรนึกถึงฝ่าบาท หากท่านเจ็บป่วย จะยิ่งไม่ล่าช้ามากกว่าหรอกหรือ?”เขาเอ่ยเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงเริ่มลังเลก็จริงหากนางเจ็บป่วยจนลุกไม่ขึ้น ก็จะไม่คุ้มกับสิ่งที่เสียไปตรงชายแดนหนานฉี เฟิ่งจิ่วเหยียนได้ไปที่สำนักการแพทย์แห่งหนึ่งหลังจากหมอจับชีพจรของนาง ก็เอาแต่ส่ายหัว“ฮูหยินท่านนี้ ท่านมีภาวะร่างกายไม่สมดุลหลังคลอด จึงเป็นต้นเหตุเกิดโรคเรื้อรัง“อาการปวดตามข้อเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะในระยะนี้ที่ฝนหิมะรุนแรง แน่นอนว่าย่อมไม่สบายตัว“ในยามปกติรู้สึกว่าไม่เป็นไร ทนหน่อยก็ผ่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1212

    บนบัลลังก์มังกร เซียวถงเต็มเปี่ยมด้วยจิตวิญญาณของจักรพรรดิ “เรารับพระราชโองการจากเสด็จอา มาทำหน้าที่รักษาการแทนตำแหน่งฮ่องเต้ชั่วคราว ทุกท่านมีเรื่องใดก็เสนอได้”เหล่าขุนนางในราชสำนักมองไปรอบ ๆ ด้วยความงุนงงบางคนถึงกับสงสัยว่าเซียวถงแย่งชิงบัลลังก์ทว่าคิดดูอีกที ฮองเฮาทรงมีทักษะเพียงนั้น ผู้ใดจะกล้าแย่งชิงบัลลังก์?ณ วังหลังเฟิ่งจิ่วเหยียนรู้สึกอาวรณ์อย่างยิ่งที่จะกล่าวอำลาต่อบุตรทั้งสองพวกเขายังคงนอนหลับอยู่ ใบหน้าขณะหลับดูสงบนิ่งเป็นพิเศษ นางจุมพิตบนหน้าผากของพวกเขา หัวใจราวกับถูกบีบเข้าหากันสาวใช้หว่านชิวรู้สึกเศร้าใจ “ฮองเฮา จักต้องเสด็จไปให้ได้หรือเพคะ?”ฮองเฮาทรงตัดใจจากเลือดเนื้อเชื้อไขของตนได้อย่างไร?เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้าอย่างหนักแน่นการไปของนางครั้งนี้ จะมีชีวิตอยู่หรือตายยังไม่แน่นอนการพาบุตรทั้งสองคนไปด้วย หนึ่งจะเป็นภาระให้กับนาง สองอาจจะนำภัยอันตรายถึงแก่ชีวิตมาให้พวกเขาการแยกจากบุตร ย่อมต้องทุกข์ใจอยู่แล้ว ทว่าหากให้นางกับลูกรออยู่ในวัง และทนทรมานกับการรอฟังข่าว นางยิ่งไม่ยินยอม“ฮองเฮา หนิงเฟยมาถึงแล้วเพคะ” เฟิ่งจิ่วเหยียนรีบปรับอารมณ์ทันที และเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1211

    ที่ดินที่โซ่วอ๋องได้รับมอบไม่ถือว่าไกลจากเมืองหลวงมากนัก หลังจากได้รับคำสั่งจากฮองเฮา ซื่อจื่อเซียวถงก็ออกเดินทางภายในวันเดียวกันห้าวันต่อมา เซียวถงก็มาถึงพระราชวัง และตรงไปยังห้องทรงพระอักษรเพื่อเข้าเฝ้าครั้งล่าสุดที่เขามาเมืองหลวง ก็คือเมื่อสามปีก่อน ช่วงที่เกิดความวุ่นวายในวิหารบรรพบุรุษ เขาได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญจากฮ่องเต้ ให้ขึ้นครองบัลลังก์ชั่วคราว เพื่อหลอกลวงพรรคเทียนหลงกับกองทัพศัตรูให้สับสนในตอนนั้นเขารู้สึกประหลาดใจอย่างมาก พระราชโองการพินัยกรรมของฝ่าบาท ได้แต่งตั้งให้เขาเป็นว่าที่จักรพรรดิครั้งนี้ฮองเฮาทรงเรียกเขามา ไม่รู้ว่ามาเพราะเรื่องใดทว่าก็รู้สึกอยู่ลึก ๆ ว่า น่าจะเกี่ยวข้องกับพระราชโองการพินัยกรรมก่อนที่เขาจะมาเมืองหลวง ท่านพ่อก็ยังเตือนเขาว่า ตอนนี้ฮองเฮาทรงประสูติองค์ชายแล้ว เช่นนั้นเขาที่เคยเป็นคนที่อ้างถึงในพระราชโองการพินัยกรรม ก็เท่ากับเป็นตัวขัดขวางขององค์ชายดังนั้น การมาเมืองหลวงครั้งนี้ ก็เสี่ยงอันตรายอย่างมากในใจของเซียวถงเต็มไปด้วยความสงสัยมากมาย ทว่าสีหน้ายังคงสงบนิ่ง ไม่ถือตัวไม่ถ่อมตนเกินพอดีแต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยสนใจตำแหน่งฮ่องเต้ แล

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1210

    วันต่อมา องค์หญิงเซี่ยนอี๋เสด็จมาพบองค์ชายสี่ด้วยพระองค์เององค์ชายสี่ทรงยิ้มแย้ม ทำเหมือนไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น“แขนของน้องหญิงเป็นอย่างไรบ้าง?”องค์หญิงเซี่ยนอี๋โมโหจนเก็บอารมณ์ไม่อยู่“เหตุใดเสด็จพี่ต้องขัดขวางข้า!”รอยยิ้มขององค์ชายสี่เลือนหายไป และตอบอย่างมีเหตุมีผล“เซี่ยนอี๋ ข้าคิดว่าเจ้าแค่พาลไร้เหตุผล นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะโง่เขลาเพียงนี้ เจ้าคิดได้อย่างไรที่จะวางยาผู้อื่น แล้วบังคับขืนใจเขา?“หากเจ้าพลีกายให้กับฮ่องเต้ฉี แล้วจะให้ข้าทูลเสด็จพ่ออย่างไร?“คืนก่อนเจ้าเกือบจะแขนหักไปข้างหนึ่ง ก็น่าจะจำเป็นบทเรียนได้แล้วกระมัง”เซี่ยนอี๋รู้ตัวว่าทำผิดทว่าเรื่องที่นางยังทำไม่เสร็จสิ้น จะไม่ยอมแพ้และเลิกล้มเช่นนี้“หากข้าได้เป็นฮองเฮาของหนานฉี หนานฉีก็จะไม่เล่นงานเป่ยเยี่ยนอีก นี่ไม่ดีหรอกหรือ?”องค์ชายสี่แย้มพระสรวล“เซี่ยนอี๋ หากเสด็จพ่อได้ยินคำพูดนี้ของเจ้า เกรงว่าจะต้องถูกลงโทษสถานหนัก“การเกี่ยวดองของสองแคว้น เดิมทีไม่อาจหยุดยั้งความโหดเหี้ยมของหนานฉีได้“เจ้าจะทำให้ตนเองเสียหายโดยเปล่าประโยชน์ และถูกผู้อื่นหัวเราะเยาะ“บุรุษดี ๆ ในเป่ยเยี่ยนของเรามีมากมาย เหตุใดเจ้าต

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status