“ไม่ค่ะ จันทร์...จันทร์ต้องการคุณเทพ” ชมจันทร์บอกขัดเขิน ใบหน้าเนียนแดงก่ำ ยิ่งเมื่อเขาบีบเคล้นที่หน้าอกแรงๆ ร่างบางก็ถึงกับผวาเฮือก แน่นอนว่าไม่ลืมส่งสายตายั่วยวนให้ลูกเลี้ยงอย่างหยาดเยิ้ม
“จันทร์ ฉันว่าฉันคงฝันที่เธอ...”
“ไม่ค่ะ คุณเทพไม่ได้ฝัน มัน...เป็นเรื่องจริงที่สุด...จุ๊บ!”
ชมจันทร์ดึงใบหน้าเขาเข้ามาใกล้แล้วจุมพิตแก้มสากแรงๆ ใช่แล้วคุณเทพ มันเป็นเรื่องจริงที่สุดในชีวิตที่คุณเทพจะไม่มีวันลืมเลย หึๆๆ
“จันทร์ ฉันไม่ไหวแล้ว!”
เขาร้องบอก ปลดเข็มขัดอย่างไวแล้วควักเอาแก่นกายขนาดบิ๊กไซส์ออกมาจากกางเกง มือข้างหนึ่งเลื่อนมาตะปบที่เนินเนื้ออวบอูมของสาวเจ้า เพื่อจะพบว่ามัน ‘นูน’ ขึ้นมากกว่าปกติ ใช่! มากกว่าปกติเพราะเขาจำขนาดของแม่เลี้ยงคนงามได้แม่น
“โอ...ทำไมมัน...ใหญ่?”
“หึๆๆ จะไม่ใหญ่ได้ยังไงล่ะ ก็ใส่ผ้าอนามัยไว้นี่นา วันมามากใส่แบบหนาเป็นพิเศษด้วย รู้จักไหมคะคุณเทพขา...”
ชมจันทร์ยิ้มเย้ยอย่างสะใจ ทัศเทพได้แต่อ้าปากค้าง นี่เขาถูกหลอกให้มีอารมณ์แล้วหล่อนมาทำแบบนี้กับเขาเนี่ยนะ
“ชมจันทร์!” ทัศเทพหน้าดำหน้าแดง มือข้างหนึ่งกำแก่นกายอันร้อนผ่าวเอาไว้ มันกระตุกอยู่ตุบๆ บอกเจ้าของว่าช่วยหาถ้ำให้มันมุดที
“ขา...คุณเทพ...เอาเลยสิคะถ้ากล้าพอ ฝ่าไฟแดงตำรวจจับน้า หึๆๆ”
“โธ่เว้ย!” ทัศเทพคำรามลั่น จดจ้องแต่ใบหน้างามของคุณแม่เลี้ยง แล้วเขาก็นึกบางอย่างออก “จัดการมันด้วยปากของเธอเดี๋ยวนี้จันทร์!”
“ไม่! ปากฉันไม่กินของเหลือเดนอีกแล้วคุณเทพ ครั้งเดียวมันก็เกินพอ ของสาธารณะที่หากินได้รายทางมันไม่ค่อยสะอาดเท่าไหร่ บอกตรงๆ ฉันกลัวท้องเสีย อ๊ะๆ อย่าแม้แต่จะคิดบังคับฉัน เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นฉันจะร้องดังๆ ให้เด็กส้มมาดูไอ้นั่นของคุณ สนใจโชว์ไหมล่ะคุณเทพ ฉันจัดให้ได้นะ”
“เธอไม่กล้าหรอก” เขามั่นใจ แต่ชมจันทร์เบะปากใส่
“หนึ่ง...สอง...สาม!”
“พอๆ ก็ได้ๆ ครั้งนี้ฉันจะฝากเอาไว้ก่อน คอยดูนะ ถึงเวลาเอาคืนเมื่อไหร่เธอโดนชุดใหญ่แน่”
“แล้วจะรอนะคะ” ชมจันทร์ตบแก้มสากเบาๆ ไปสองสามที ก่อนจะติดกระดุมแล้วจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย เธอเดินออกจากห้องน้ำ ทิ้งร่างสูงใหญ่ที่กายท่อนล่างเปล่าเปลือยไว้เบื้องหลัง
ทัศเทพได้แต่ฮึดฮัดขัดใจ ไม่สบอารมณ์
“ฝากไว้ก่อนนะยัยตัวดี ฉันชักจะหมดความอดทนกับเธอแล้วนะ!”
_____________
เกาะปันรัก บ่ายสี่โมง
เกาะปันรักมีเนื้อนี้มากมาย คนงานภายในเกาะจะทำงานที่ฟาร์มมุกซึ่งผลผลิตที่ได้ส่วนใหญ่จะส่งเข้าสู่ เพิร์ล บริษัทอัญมณีของตระกูลเฉิน กวินซื้อเกาะแห่งนี้เมื่อหลายปีก่อน ถ้าไม่เพราะวาคิมแนะนำให้ เขาคงสู้ราคาไม่ไหว เพราะบารมีของวาคิมแท้ๆ ที่ทำให้เขาได้พบเจอสิ่งดีๆ ภรรยาของวาคิมก็เช่นกัน ความเมตตาของเกล็ดมุกช่วยให้เขามีธุรกิจเป็นของตัวเอง เกล็ดมุกเป็นพี่สะใภ้ที่ดี ครอบครัวนี้รักเขาและมีนามาก โดยเฉพาะคุณหญิงวารี ท่านรับเขาเป็นลูกบุญธรรม ให้เขาได้ใช้นามสกุลเดียวกับเจ้านาย มีศักดิ์ไม่ต่างจากน้องชายของวาคิมเลย
กวินจับมือลูกชายไว้แน่น เมื่อเรือยนต์ลำใหญ่แล่นฉิวไปบนผืนน้ำสีครามใส แพรวรุ้งลอบมองเขาอยู่บ่อยครั้ง กว่าจะได้ลงเรือมาที่เกาะก็ปาเข้าไปเกือบค่ำ เหตุเพราะเขามีธุระบนฝั่งมากมาย เธอเองก็ต้องติดแหงกอยู่กับเขา ดีที่เมื่อคืนเขากับลูกเปิดห้องพักส่วนตัวอีกห้อง เธอเลยได้หลับพักผ่อนอย่างเต็มที่
เธอจ้องไปยังเกาะใหญ่เบื้องหน้า ลมแรงพัดกระทบตบแก้มจนชาไปหมด เรือเร็วแล่นเข้าไปใกล้เกาะเรื่อยๆ ด้วยฝีมือการขับของคนของกวิน เธอไม่เคยมาที่นี่ แต่หัวจิตหัวใจในตอนนี้รู้สึกเหมือนว่าจะถูกขังไว้ที่นี่ก็ไม่ปาน รู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังเดินเข้าสู่ลานประหารอย่างไรก็ไม่รู้
แล้วเรือยนต์ก็ชะลอเครื่องเข้าจอดที่ใกล้ชายฝั่ง
“อ้าว! ถึงแล้ว ลงมาสิคุณ”
กวินร้องบอกเมื่ออุ้มลูกชายลงมาจากเรือ เขาเดินลุยน้ำมายืนบนหาดแล้วแต่สาวเจ้าก็ยังยืนหันรีหันขวางอยู่บนเรือที่นั่งมา
“อะไรอีกล่ะ ถ้าจะยืนกินลมให้มันอิ่มก็เชิญนะ ผมกับลูกจะไปรอที่บ้าน” เขาบอกแล้วทำท่าจะผละไป
“เดี๋ยวสิ ก็คนมันยังหลอนไม่หายนี่นา น้ำนี่มันก็ลึกอยู่นะ ฉันกลัว…”
ปลายเสียงสั่นเล็กน้อย กวินถอนหายใจ เขาเพิ่งรู้ว่าน้ำสูงเหนือเข่าเพียงเล็กน้อยนี่มันลึก
“มีนไปรอปะป๊ากับพี่แก้วนะ”
หนูน้อยบอกพ่อเพราะเพลียกับการนั่งเรือ คนงานหญิงที่หน้าตาเนื้อตัวดูสะอาดสะอ้านอายุราวยี่สิบต้นๆ จึงเข้ามาจูงมือนายน้อยของหล่อนออกเดินขึ้นบนสะพานไม้ที่ทอดเข้าสู่ตัวคฤหาสน์ เวลานี้น้ำขึ้นเพียงเล็กน้อยจึงต้องเดินลุยน้ำเข้าฝั่ง ถ้าค่ำกว่านี้ น้ำจะขึ้นสูง จึงจะสามารถเอาเรือไปจอดเทียบสะพานไม้ได้
“ยื่นมือมาสิ”
เขาสั่ง แพรวรุ้งยื่นมือให้ทว่าเขากลับแกล้งดึงแรงจนเธอเสียหลักตกลงมาในอ้อมแขนแกร่ง
“ว้าย! คนเจ้าเล่ห์!”
“มีน! น้าแพรวไม่อยากเล่น มานี่เดี๋ยวนี้!” กวินขึ้นเสียง นึกเสียใจที่บุตรชายที่รักไปกวนใจแพรวรุ้งให้หล่อนรำคาญ“ม่าย! ปะป๊าเฉียงดัง มินไม่หาปะป๊า มินกัว ฮึกๆ น้าพะ...แพว ฮึก! มินกัว ปะป๊าจาตีมิน ฮือออ...”“มีนา!”กวินเริ่มหัวเสียเมื่อเจ้าหนูผู้เอาแต่ใจออกฤทธิ์ในเวลาที่ไม่สมควร“จะตะคอกทำไม! อยู่ใกล้กันแค่นี้!”แพรวรุ้งตวาดกลับ นึกสงสารเจ้าหนูตัวแสบขึ้นมา เธอไปอุ้มเอาเจ้าร่างตุ้ยนุ้ยขึ้นแนบอก ทว่าด้วยร่างกายที่ไม่ปกติบวกกับน้ำหนักตัวของเจ้าหนู ทำให้เธอถึงกับเซ จะล้มมิล้มแหล่“คุณ!” กวินรีบเข้าไปโอบทั้งสองไว้ ก่อนที่จะเสียหลักล้มลงไปให้เจ็บตัว“เอามือออกไปจากก้นฉัน!” แพรวรุ้งร้องลั่น เพราะเขาไม่ยอมปล่อย แถมยังบีบมันเน้นๆ ราวกับมันเขี้ยว“มีน! ปะป๊าจับก้นน้าแพรว” แพรวรุ้งหาแนวร่วม“อาลายนะ! ปะป๊า นี่แน่ะๆๆ มินจาฟ้องแม่ ป่อยนะ! ฮึบๆๆ”หนูน้อยผลักบิดาที่โอบตนกับน้าแพวเอาไว้ มือป้อมๆ ทั้งผลักทั้งทุบบิดาของตัวเอง“
แพรวรุ้งตื่นขึ้นมาอาบน้ำแต่เช้าด้วยสภาพอิดโรยเต็มที วันนี้มีถ่ายแบบเครื่องเพชรอีกชุดใหญ่ๆ ให้ตายเถอะ! เมื่อวานเธอว่าจะขอให้ช่างแต่งหน้าโปะแป้งหนาๆ ที่ซีกแก้ม มันคงพอลบรอยฝ่ามือเขาได้ แต่ตอนนี้เธอคิดว่าควรยกเลิกงานไปเลยดีกว่า เพราะรอยคิสมาร์กที่เขาทำไว้มันเกลื่อนอยู่ทั่วเนื้อตัวของเธอจนยากจะทาแป้งปกปิด“ตื่นแล้วหรือยะยัยคุณแพรว”เสียงเจ๊แจงโผล่หน้ามาทักทาย เจ๊คนงามร่างถึกอยู่ในชุดเสื้อผ้าทะมัดทะแมงประหนึ่งกำลังจะเดินทางไกล แถมยังลากกระเป๋าเดินทางใบโตติดมือมาด้วย“เจ๊! แต่งตัวจะไปไหน” แพรวรุ้งร้องถามอย่างใคร่รู้ อย่าบอกนะว่าจะย้ายกอง แต่ถ้าย้ายก็ดีนะ เธอไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อแล้ว“เอ้า? เจ๊ก็จะกลับกรุงเทพน่ะสิ เรื่องมากจริงๆ บริษัทนี้ เดี๋ยวให้ถ่ายที่ทะเล เดี๋ยวน้ำตก นี่ให้ยกกองกลับไปที่สตูดิโออีกรอบ แถมยัง...”“อะไรเจ๊ บอกมาไวๆ”“อ่า...คือว่า เขาเปลี่ยน...เปลี่ยนตัวนางแบบน่ะ เป็นเด็กใหม่ของเจ๊เอง แหะๆ” เจ๊แจงบอกอย่างเกรงๆ“ได้ไง!? แล้วแพรวล่ะ!”&
“โอ...กวิน ละ...เลือด นั่นเลือด ฉันกะ...กะ...กลัว”“อย่ากลัวเลยที่รัก ไม่มีอะไร ครั้งแรกอาจจะเจ็บไปบ้าง เชื่อผม แพรว...ผมขอโทษ”กวินอ่อนโยนทั้งแววตา น้ำเสียง และการกระทำ เขาดันหล่อนให้เอนไปด้านหลังเล็กน้อยแล้วเริ่มสอดแทรกแก่นกายเข้าออกเป็นจังหวะ ปากก็เฝ้าเลียไล้ดูดชิม รสชาติของหล่อนช่างหวานล้ำ วางปากลงไปที่ใดก็น่าจูบ น่าดูดไปหมด แล้วเขาจะอดใจไหวได้ยังไง จูบได้เลยจูบ ดูดได้ก็ดูดไปทั่ว ทั้งซอกคอ แผ่นหลัง ทั้งท่อนแขน ปากเขาแตะไปที่ใด ก็ได้ฝากรอยทิ้งไว้จนลายพร้อย ส่วนล่างก็ทำหน้าที่อย่างแข็งขัน สวมสอดเข้าออกเร็วพลัน จนได้ยินเสียงครางกระเส่าแว่วมาเริ่มแรกแพรวรุ้งเจ็บเจียนตาย ทว่าพอเขาทำเร็วขึ้น ถี่ขึ้น มันกลับทำให้เธอสุขอย่างประหลาด มันเจ็บปวดระคนซ่านเสียว ยิ่งเมื่อเขารั้งเอวเธอเข้าไปใกล้แล้วเร่งแรงกระแทกกระทั้น มันก็ทำให้เธอครางระงม แรงกระแทกนั้นยังส่งให้มวลน้ำอุ่นรอบตัวกระเพื่อมถี่ๆ แล้วในที่สุดมันก็กระฉอกออกไปนอกอ่าง“กวิน อา...” แพรวรุ้งครางกระเส่า เริ่มแลเห็นปลายรุ้งงามอีกครั้ง เธอแอ่นอกแอ่นสะโพกเข้าหาแก่นกายและฝ
[5]ผมแต่งงานกับคุณไม่ได้________________เวลา 20:00 นาฬิการ่างสูงใหญ่ของกวิน ก้าวเข้ามาภายในห้องพักของแพรวรุ้งอย่างเงียบเชียบ ในห้องกว้างมีแสงไฟจากหัวเตียงส่องเพียงรำไร มันช่วยพรางกายจนเขาเข้ามานั่งที่เก้าอี้ตรงมุมห้องได้อย่างง่ายดาย ในอ้อมแขนของแพรวรุ้งมีร่างตุ้ยนุ้ยของมีนา ทั้งสองกำลังหลับอยู่บนเตียงใหญ่ เจ้าลูกชายตัวดีหลับอย่างเป็นสุขในอ้อมแขนของคนที่เขาเพิ่งตบหน้าไปหยกๆ เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนผู้หญิงคนนี้มีกี่หน้ากันนะ มีกี่ตัวตนกันแน่ บางครั้งหล่อนก็วี้ดว้ายเสียงดังน่ารำคาญ ไม่มีเหตุผล และเอาแต่ใจเป็นที่สุด แต่สิ่งที่เขาเห็นอยู่ตอนนี้มันกลับต่างออกไป หล่อนช่างดู...อบอุ่นและอ่อนโยน“อือ...เหนียวตัวจังเลย ไม่ไหวแล้ว หลับไปก่อนนะเจ้าหนู น้าแพรวขอไปวิ่งผ่านน้ำแป๊บเดียว” แพรวรุ้งปรือตามาพึมพำ รู้สึกเหนียวตัวแม้ว่าในห้องจะเปิดแอร์เย็นฉ่ำ ลมทะเลทำให้เนื้อตัวเหนียวหนึบจนต้องลุกมาอาบน้ำ“ซกมก” กวินพึมพำกับตัวเอง&
“มานี่มาคนเก่ง”แพรวรุ้งอ้าแขนรอ เจ้ามีนตัวแสบขยับเข้าไปหาแล้วคล้องแขนเล็กๆ กับคอเรียวของนางแบบสาวที่บิดาให้เขาเรียกว่า น้าแพรว“ง่วงแล้วทำไมไม่นอนฮึ ปะป๊ามัวทำอะไรอยู่ ทำไมไม่พาหนูมีนจอมแสบของน้านอนดีๆ” ถามพลางกอดพ่อหนูผู้น่ารักแล้วอุ้มขึ้นไปนั่งด้วยกันที่ปลายเตียง“ปะป๊าบอกว่าถ้าน้าแพวไม่ยกโทษให้ คืนนี้ปะป๊าจาไม่ให้มินนอนด้วย มินขอนอนห้องน้าแพวนะ” พ่อหนูออดอ้อน แก้มยุ้ยๆ น่ารักน่าหยิกเป็นที่สุด“ได้เลย แต่มีนต้องสัญญาก่อนนะว่าจะไม่เอาเจ้าเขียดสีเขียวๆ มาใส่น้าแพรว”“โอเคคับผม อกหน้าแพวอุ่นจัง”หนูน้อยรับคำแล้วค่อยๆ ผล็อยหลับในท่าที่ยังนั่งอยู่บนตักของแพรวรุ้ง น้าแพรวก็กอดมีนาไว้ กันมิให้เจ้าหนูร่วงหล่น“ทำเป็นนางงามรักเด็กไปได้” เจ๊แจงแขวะ“ชู่ว์...เจ๊อย่ามาชักใบให้เรือเสียนะ ฉันก็อยากเป็นคนดีบ้างจะทำไมฮึ”“ก็ไม่ทำไมหรอกย่ะ แค่ไม่ชินเท่านั้นเอง”เจ๊แจงจีบปากจีบคอตอกกลับ แล้วความคิดหนึ่งก็แล่นเข้าสู่สมองอย่างรวดเร็ว
คนสวยตาเขียวขุ่น ใบหน้าเนียนใสที่ปราศจากเครื่องสำอาง ทำให้กวินอดใจไม่ไหวก้มลงแตะปลายจมูกกับพวงแก้มสาวไปหนึ่งที“นี่! กล้าดียังไงมาหอมแก้มฉัน! ตาบ้าเอ๊ย! นี่แน่ะๆๆ”แพรวรุ้งดิ้นขลุกขลักในอ้อมแขนแกร่งทั้งทุบตีแผ่นอกหนาอยู่ปึกๆ จนเหนื่อยหอบถึงได้เพลามือ ขณะที่กวินไม่ทุกข์ร้อน ยังคงอุ้มหล่อนเดินลุยน้ำต่อไปถึงแม้ว่าพ้นผิวน้ำขึ้นมาแล้วเขาก็ยังไม่ยอมวาง“วางฉันลงได้แล้ว” เป็นแพรวรุ้งเสียเองที่เริ่มกระดากเพราะสายตาหลายสิบคู่ของเหล่าคนงานที่เดินผ่านไปผ่านมาแถวนี้ พวกเขาต่างจ้องมองมาด้วยสายตาใคร่รู้“ไม่วาง อยากอุ้ม นึกเสียว่ากำลังแข่งขันยกน้ำหนักก็ไม่เลว”เขาแกล้งแซวทั้งที่เจ้าหล่อนตัวเบาราวปุยนุ่น“ปากหมา!” แพรวรุ้งโพล่งออกไปแล้วก็ต้องรีบวาดเรียวแขนรอบคอเขาเมื่ออยู่ๆ พ่อจอมหื่นก็ปล่อยร่างเธอลงแบบปัจจุบันทันด่วน เธอรีบถอยห่างเมื่อเท้าแตะพื้นทราย“ตัวเองนั่นแหละปากหมา! เป็นถึงลูกคุณหญิงคุณนายพูดจาไม่น่าฟังเอาเสียเลย มิน่าถึงไม่มีใครเอา ดีนะที่คุณวาเขาเลือกคุณมุก ไม่อย่างนั้นคงเจริญตายละที่ได