หลังจากได้ดื่มน้ำแก้กระหาย วารินทร์ก็เริ่มมีแรง วาจาไม่รื่นหูจึงถูกพ่นออกมาตามประสาคนปากไว
มือแกร่งกำพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดปูนโปน แต่ยังก่อน เขาจะอดทนให้ถึงที่สุด ยังไม่อยากพิสูจน์หน้าตัวเองตอนนี้หรอกว่ามันจะเป็นตัวเมียหรือตัวผู้ เจ้าหล่อนไปอยู่เมืองนอกเสียนาน อาจจะไม่เข้าใจความหมายของคำนั้นสักเท่าไหร่ หล่อนคงไม่รู้ว่ามันหยามเกียรติลูกผู้ชายขนาดไหน เพราะฉะนั้น เขาจะให้อภัยสักครั้งก็แล้วกัน
“นี่นาย จะไม่บอกฉันสักหน่อยเหรอ ว่าพี่ชายฉันไปสร้างความแค้นอะไรให้นักหนา” เอ่ยถามเขาอีกครั้ง เสมองไปนอกหน้าต่างรถยนต์ก็เห็นแต่ป่า ป่า ป่า แล้วก็ป่า! ถนนลูกรังสายเถื่อนนี่ก็อีก เธออยากให้นายกฯ มาเห็นจริงๆ ไส้ในเธอมีกี่ขดๆ ตอนนี้มันพร้อมใจบิดพันกันแน่นเป็นเกลียวแล้ว
“มันไม่ได้ทำฉัน แต่มันทำน้องฉัน พี่เลวๆ ของเธอมันเป็นพวกมนุษย์น้ำแข็ง หัวใจด้านชา รักใครไม่เป็น มันเห็นผู้หญิงเป็นเพียงเครื่องสนองตัณหา พอเบื่อก็เฉดหัวทิ้งพร้อมกับโยนเศษเงินให้ ฉันเกลียดมัน! น้องสาวฉันดีแสนดี รักมันมากจนยอมมอบกายถวายหัว แต่มันก็ไม่เคยหยิบยื่นความรักให้ ไอ้เหี้ยเอ๊ย!”
เขาสบถด้วยความโกรธ ยิ่งเห็นใบหน้าของคนที่นั่งข้างๆ มีเค้าความเหมือนกับศัตรูตัวฉกาจ เมฆาก็ยิ่งของขึ้น อยากจะบีบคอเล็กๆ นั่นให้แหลกคามือแล้วส่งพัสดุไปให้ไอ้วาคิมเชยชม คงสะใจน่าดู
“แล้วทำไมนายไม่ไปลักตัวพี่ชายฉันล่ะ นายจับฉันมาทำไม ฉันไปเกี่ยวอะไรด้วย อ้อ...กลัวพี่ฉันใช่ไหมล่ะ พี่ฉันมีทั้งเงินทองและอำนาจ นายทำอะไรพี่ฉันไม่ได้เลยมาลงที่ฉันแทน ขี้ขลาดชะมัด ไปเอาผ้าถุงมานุ่งไป!”
เอี๊ยดดด!!!
เสียงเบรกลากล้อดังสนั่นลั่นไพร วารินทร์เหงื่อแตกพลั่กด้วยความหวาดหวั่น เขาคงไม่จับเธอฆ่าหมกป่าเพียงเพราะปากแมวๆ ของเธอหรอกนะ
“ถ้ายังพูดว่าฉันเป็นอย่างอื่นที่ไม่ใช่ผู้ชายอีกครั้งเดียวนะวารินทร์ อีกแค่ครั้งเดียวเท่านั้น เธอจะได้พิสูจน์แน่ๆ ว่าฉันมันเป็นตัวผู้หรือตัวเมีย!”
วารินทร์ขยับถอยจนหลังชิดประตูรถ สองมือยกขึ้นกอดตัวเองอย่างปกป้อง แต่มันกลับไปดุนดันทรวงอกอวบๆ ให้ล้นทะลักออกจากชุดสวยเกือบครึ่งเต้า ช่างล่อตาล่อใจเสือเมฆโดยไม่รู้ตัว
“ยะ...อย่านะ นายบอกเองไม่ใช่เหรอว่าน้องสาวนายรักพี่ฉัน ถ้านายทำอะไรฉัน มันก็ไม่ยุติธรรมกับฉันน่ะสิ ถ้านายบอกว่าพี่ฉันเลว นายก็คงไม่ต่างกัน อาจจะเลวกว่าด้วยซ้ำเพราะอย่างน้อยพี่ฉันก็ไม่ได้ข่มขืนน้องสาวนาย อย่างที่นายกำลังคิดจะทำกับฉันแน่ๆ ฉันว่าบางทีพวกเขาอาจจะรักกันก็ได้ แต่นายไม่รู้”
“เฮอะ! รักเหรอ น่าขำแท้ๆ” เขาแค่นหัวเราะ มือสากหนาเริ่มขยับพวงมาลัยอีกครั้ง จงใจพารถวิ่งลงหลุมลงบ่อให้คุณหนูหัวสั่นหัวคลอนเล่นๆ “ฉันจะจับเธอมาทำไมถ้าพวกเขารักกัน ฉันรู้...เธอรักพี่ชายเธอ น้องสาวฉันยังรักมันเลย ไม่รู้มันมีดีอะไร ตอนแรกฉันกะจะส่งมือปืนไปสั่งสอนมันนิดๆ หน่อยๆ แต่พอมาคิดอีกที มันไม่สะใจเท่าไหร่
ที่สำคัญ ถ้ามันเกิดตายขึ้นมาจริงๆ น้องฉันคงได้ตายตามมันไปอีก ฉัน...เลยเปลี่ยนเป้าหมายมาขยี้ดวงใจของมันแทน จริงๆ มันก็เป็นวิธีที่ขี้ขลาดอย่างที่เธอว่าละนะ แต่ช่วยไม่ได้ ถ้ามันจะทำให้ไอ้วาคิมกระอักเลือดเจียนตาย ฉันยอมให้เธอด่า ฮ่าๆๆ”
วารินทร์ฟังเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งราวปีศาจร้าย โจรบ้านี่ท่าจะสติไม่ดีถึงได้คิดเอาคืนด้วยวิธีสลับซับซ้อนได้ขนาดนี้
“สารเลวเอ๊ย! ชาติชั่ว ใช้ผู้หญิงเป็นเครื่องมือ ไม่แปลกหรอกถ้าฉันจะด่านายว่า หน้าตัวเมีย! ไอ้หน้าตัวเมีย!”
เอี๊ยดดด!!!เสียงเบรกสนั่นหวั่นไหวเกิดขึ้นอีกครั้ง นอกจากรอยล้อที่บดถนนลูกรังลากเป็นทางยาวแล้ว มันยังปรากฏฝุ่นสีแดงฟุ้งตลบท่วมตัวรถ
“ฉันเตือนแล้วนะ!” เสียงกร้าวประกาศก้อง ดวงตาดุดันฉายชัดว่าในไม่ช้าบทลงทัณฑ์ของปีศาจจะเริ่มขึ้น
วารินทร์ใจหายวาบ ไม่เคยรู้สึกกลัวมากเท่านี้มาก่อนเลยในชีวิต
เขากระโดดลงจากรถด้วยความรวดเร็ว เพื่อกระชากประตูตอนหลังของรถให้เปิดออก เบาะที่ปรับให้เรียบเสมอกันเพื่อเอาไว้พักผ่อนยามต้องขับรถไกลๆ ไม่น่าเชื่อว่าวันนี้มันจะได้ทำหน้าที่มากกว่านั้น
เขาลากร่างบางลงมาจากที่นั่งของหล่อน เนื้อตัวนุ่มนิ่มสั่นเทาอย่างหวาดกลัว เขานึกสงสารขึ้นมาชั่ววูบ แต่มันก็ชั่ววูบจริงๆ
“กรี๊ดดด!!! ไอ้ชั่ว! ไอ้เลว! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ! ถ้าฉันหนีไปได้ฉันจะเอาตำรวจมาลากคอแก ไอ้สัตว์นรก! โอ๊ย!”
วารินทร์โอดโอยด้วยความเจ็บจุก เมื่อเขาเหวี่ยงเธอเข้ามาในตอนหลังของรถอย่างแรง จนหน้าผากกระแทกอะไรสักอย่างเจ็บร้าวไปทั้งหน้า ที่สำคัญมันตำแหน่งเดียวกับที่บวมปูดอยู่แล้วอีกต่างหาก
“ไหนๆ ก็เลวแล้ว เลวให้สุดๆ ไปเลยแล้วกัน มันจะได้ครบทุกข้อกล่าวหา ฉันอยากรู้จริงๆ ว่าเสียงแวดๆ ที่กรอกหูอยู่นี่ ถ้าเปลี่ยนเป็นเสียงคราง มันจะเป็นยังไง หึๆๆ”
เมฆาปีนขึ้นรถด้วยดวงตาหื่นกระหาย ผลักร่างของวารินทร์ให้นอนราบลงไป ร่างสวยดิ้นขลุกขลักใต้ร่างหนา เขาไม่ปล่อยให้เสียงกรีดร้องได้เล็ดลอดออกมา เร่งตะโบมจูบริมฝีปากสีกุหลาบไม่บันยะบันยัง มือแกร่งสองข้างเร่งจัดการกับเสื้อผ้าของทั้งเขาและหล่อนด้วยความชำนาญ ท่ามกลางกำปั้นน้อยๆ ที่ทุบตีเขาไม่หยุด
วารินทร์ทั้งเตะทั้งตีไม่มียั้ง แม้ว่ามันไม่อาจช่วยอะไรเธอได้ แต่อย่างน้อยก็ยังดีกว่าอยู่นิ่งๆ ให้เขารังแกโดยไม่ทำอะไรเลย
“ปล่อยนะ!” ร้องได้แค่นั้นเขาก็ทาบจุมพิตเถื่อนๆ ลงมาอีก แต่คราวนี้ไม่ได้ดุดันอย่างเดียว มันรุ่มร้อนและเรียกร้องอย่างประหลาด ริมฝีปากอุ่นของเขา ลิ้นของเขา กลิ่นลมหายใจเขาทำเอาเลือดสาวสูบฉีดเร็วแรง
วารินทร์อ่อนระทวยในไม่ช้า คนมากประสบการณ์เอาชนะเธอด้วยการเรียกสัญชาตญาณดิบในกายให้ออกมาร่วมบรรเลงเพลงสวาทในคราวนี้ เธอแอ่นตัวรับฝ่ามือร้อนๆ ของเขา มิหนำซ้ำยังกดศีรษะได้รูปให้จดจ่ออยู่ที่เนินเนื้อกลางร่าง เขาหยอกล้อชื่นชมกลีบกุหลาบแรกผลิด้วยริมฝีปากและปลายลิ้น วารินทร์จวนจะเห็นสายรุ้งอยู่รอมร่อ แต่ทว่า...
“ไม่! ได้โปรด” อ้อนวอนเสียงกระเส่า เมื่อเขาจงใจผละออกห่าง ดวงตาหวานฉ่ำทอดมองนายโจรอย่างโหยหา
“ไม่...ไม่มีทาง! ฉันไม่ได้อยากเห็นเธอมีความสุข”
สิ้นเสียงคำรามของนายโจร ความสุขทั้งหมดทั้งมวลของวารินทร์ก็ดับวูบจางหาย เขาจงใจโจนจ้วงเข้ามาในตัวเธออย่างรุนแรง ให้เธอได้รับความทุกข์ทรมานแทนที่ความสุขสม
“โอ๊ย!! ฉันเจ็บ! ได้โปรด...เอามันออกไปที!” ร้องขอทั้งน้ำตา มันรินไหลไม่หยุด แม้อ้อนวอนให้ตายคนข้างบนก็ไม่มีผ่อนแรงแม้แต่น้อย เขามีแต่จะเหยียบย่ำให้จมดิน ให้เธอได้รับแต่ความทุกข์ทรมาน ความแข็งขึงร้อนผ่าวของเขายังสอดแทรกเข้ามาในกายเธอ ไม่แยแสต่อหยดน้ำตาของเธอสักนิด ความสาวถูกกระทำย่ำยี ทรมานเหมือนใครเอามีดคมๆ มาเฉือนเนื้อจนขาดวิ่น
“โอ...ไม่น่าเชื่อ! คุณหนูนักเรียนนอกยังบริสุทธิ์ผุดผ่องงั้นเหรอ อย่างนี้มันค่อยสมน้ำสมเนื้อหน่อย เป็นยังไงครับคุณหนูวารินทร์ ได้ผัวครั้งแรกที่ข้างถนน มีความสุขดีไหม อา...ฉันอยากให้พี่เธอมันรับรู้จังว่ามันมีน้องเขยเป็นตัวเป็นตน แล้วก็เป็นโจรแล้วนะ ไอ้วาคิมมันคงกระอักเลือดเป็นลิ่มๆ เธอว่าไหม หึๆๆ”น้ำเสียงเย้ยหยันและวาจาถากถาง ยังไม่เท่าการกระทำที่จาบจ้วงรุนแรง ร่างกายของเธอทุกตารางนิ้วไม่มีส่วนไหนเลยที่มันเป็นของเธออีกต่อไป เขาตีตราเป็นเจ้าของด้วยเรียวลิ้นที่เพียรขบเม้มและดูดดึง เธอแน่ใจที่สุดว่าพรุ่งนี้มันคงเกิดร่องรอยแดงช้ำให้ได้อายวารินทร์ไม่อยากรับรู้อะไรอีกแล้ว เธอหลับตาลงเสีย กล้ำกลืนความเจ็บปวดเอาไว้ หยดน้ำตารินไหลเป็นทาง เขาโถมกายเข้าหาเธออย่างรุนแรง อัดสะโพกกระแทกกระทั้นถี่ระรัว เขาทำอยู่อย่างนั้นเนิ่นนาน ร่างเธอสั่นสะเทือน พุ่มทรวงกระเพื่อมไหว หลายสิบนาทีกว่ามันจะจบลง พร้อมๆ กับบางอย่างที่พุ่งจากส่วนนั้นของเขาเข้ามาในกายเธอ อุ่นวาบจนน่าใจหายเมฆาฟุบศีรษะลงยังทรวงอกของวารินทร์อย่างสิ้นแรง ความสาวของหล่อนช่างวิเศษนัก มันทำให้เขาสุขเกินบรรยายจ
หลังจากได้ดื่มน้ำแก้กระหาย วารินทร์ก็เริ่มมีแรง วาจาไม่รื่นหูจึงถูกพ่นออกมาตามประสาคนปากไวมือแกร่งกำพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดปูนโปน แต่ยังก่อน เขาจะอดทนให้ถึงที่สุด ยังไม่อยากพิสูจน์หน้าตัวเองตอนนี้หรอกว่ามันจะเป็นตัวเมียหรือตัวผู้ เจ้าหล่อนไปอยู่เมืองนอกเสียนาน อาจจะไม่เข้าใจความหมายของคำนั้นสักเท่าไหร่ หล่อนคงไม่รู้ว่ามันหยามเกียรติลูกผู้ชายขนาดไหน เพราะฉะนั้น เขาจะให้อภัยสักครั้งก็แล้วกัน“นี่นาย จะไม่บอกฉันสักหน่อยเหรอ ว่าพี่ชายฉันไปสร้างความแค้นอะไรให้นักหนา” เอ่ยถามเขาอีกครั้ง เสมองไปนอกหน้าต่างรถยนต์ก็เห็นแต่ป่า ป่า ป่า แล้วก็ป่า! ถนนลูกรังสายเถื่อนนี่ก็อีก เธออยากให้นายกฯ มาเห็นจริงๆ ไส้ในเธอมีกี่ขดๆ ตอนนี้มันพร้อมใจบิดพันกันแน่นเป็นเกลียวแล้ว“มันไม่ได้ทำฉัน แต่มันทำน้องฉัน พี่เลวๆ ของเธอมันเป็นพวกมนุษย์น้ำแข็ง หัวใจด้านชา รักใครไม่เป็น มันเห็นผู้หญิงเป็นเพียงเครื่องสนองตัณหา พอเบื่อก็เฉดหัวทิ้งพร้อมกับโยนเศษเงินให้ ฉันเกลียดมัน! น้องสาวฉันดีแสนดี รักมันมากจนยอมมอบกายถวายหัว แต่มันก็ไม่เคยหยิบยื่นความรักให้ ไอ้เหี้ยเอ๊ย!”เ
[7]น้องสาวของวาคิม นางบำเรอของเมฆา______________คุณหญิงวารีเดินตามหาบุตรชายด้วยความร้อนใจ นางเร่งฝีเท้าตรงมาหา เมื่อเห็นวาคิมยืนอยู่ที่ระเบียงด้านหนึ่งกับบอดี้การ์ดของเขา อาชีพของบุตรชายจะไม่เสี่ยงเลย หากว่าบริษัท GB จะไม่ยิ่งใหญ่และทำเงินปีหนึ่งๆ มากกว่าคำว่ามหาศาล หลายปีก่อนวาคิมก็ถูกลอบทำร้ายไปหนหนึ่งแล้ว คาดว่าคนร้ายอยากจับตัวเขาไปเรียกค่าไถ่ความจริงนางก็อยากให้บุตรชายขายหุ้นบริษัททิ้งเสีย แล้วมาใช้ชีวิตที่เหลืออย่างมีความสุขกับผู้หญิงสักคนที่เขารัก หรือผู้หญิงที่นางเลือกให้ นางจะได้สบายใจว่าต่อไปในอนาคต เขาจะไม่โดดเดี่ยว ยังมีคู่ชีวิตคอยได้ปรึกษาหารือร่วมทุกข์ร่วมสุข“ตาวา กวิน มาอยู่นี่เอง เอ...ทำไมดูเครียดๆ มีปัญหาอะไรหรือเปล่าลูก” นางแตะแผ่นหลังบุตรชายเมื่อเห็นสีหน้าเขาไม่สู้ดีนัก“เปล่าครับ คุณแม่มีอะไรหรือเปล่า”“ยัยน้องวาสิลูก ไม่รู้หายไปไหน แม่หาตั้งนานก็ไม่เจอ”นางบ่นอย่างห่วงใย บุตรสาวที่รักหายไปไหนก็ไม่รู้ตั้งนานสองนาน
กวินเหลือบไปเห็นท่าทางนายหนุ่มกับเจ้าสัวที่เหมือนจะฆ่ากันทางสายตา จึงรีบเบี่ยงเบนประเด็นสนทนาไปอีกเรื่อง“เอ่อ...ไหนๆ ก็เจอเจ้าสัวแล้ว เจ้านายมีเรื่องอยากจะเรียนกับท่านด้วยตัวเองไม่ใช่หรือครับ” กวินเปิดประเด็นใหม่แทนประเด็นเก่า ทว่าเจ้านายที่เคารพกลับหันไปจ้องแต่หน้าคู่ควงของเจ้าสัว ไม่ยอมละสายตา“โอ...เรื่องอะไรกันครับคุณกวิน หรือว่าของที่ส่งไปให้มีปัญหา”เจ้าสัวเอ่ยแจ้งประหนึ่งว่าท่านเองก็มีความวิตกกังวล แต่วาคิมกลับมองว่าเจ้าสัวสูงวัยมิได้รู้สึกอย่างที่พูดจริงๆ น้ำเสียงมันเจ้าเล่ห์ชอบกล“ไพลินเที่ยวสุดท้ายที่เพิร์ลต้องส่งมา มันควรถึง GB ตั้งแต่สามวันที่แล้ว เรื่องนี้เจ้าสัวจะว่ายังไงครับ” วาคิมถามออกไปยิ้มๆ เจ้าสัวคงไม่อยากละลายเงินทิ้งเพราะต้องเสียค่าปรับหรอกนะ การค้ามันมีสัญญากันอยู่ ถ้าส่งของไม่ทันหรือของมีปัญหา ย่อมต้องเสียค่าปรับตามจำนวน“อืม...อย่างนั้นเหรอ แย่จริง อย่างนี้ถ้าส่งให้ไม่ทัน GB จะไม่แย่หรือครับ”ท่านถามต่อด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ แสดงความเห็นอกเห็นใจไ
“อืม...ก็อาจจะใช่ แต่เธอคงไม่ปฏิเสธเรื่องเอกสารที่ปลอมขึ้นมาหรอกนะ”“มันช่วยไม่ได้ ก็บริษัทคุณมันห่วย!”“เกล็ดมุก!” มือใหญ่ของชายหนุ่มคว้าข้อมือเล็กมากำไว้แน่น ดวงตาสีนิลดุดันวาวโรจน์ด้วยความโกรธ“ปล่อยนะ! คุณไม่มีสิทธิ์ทำอย่างนี้อีกแล้ว” เธอร้องเสียงหลง เจ็บข้อมือน้ำตาเล็ด“ถ้าฉันไม่มีสิทธิ์แล้วใครมีสิทธิ์! ผัวแก่ของเธอหรือไง ผู้หญิงร่าน!”เขาว่าไม่ยั้ง เกล็ดมุกหน้าเจื่อน กลัวคนอื่นจะได้ยิน ยังดีที่เสียงเพลงบนเวทีช่วยเธอเอาไว้“หยาบคาย! ถ้าใช่แล้วจะทำไม! ถึงจะแก่แต่เขาก็มีสิทธิ์ ส่วนคุณไม่มี!”“เกล็ดมุก! อย่าให้มันมากนัก อยากให้ฉันประกาศตรงนี้เลยไหมว่ามีสิทธิ์อะไรในตัวเธอบ้าง” วาคิมคอแข็งเป็นเอ็น หล่อนไม่เคยเป็นแบบนี้ เขาไม่ชินเลย ให้ตายสิ!“คุณคิดจะทวงสิทธิ์ที่ไม่เคยต้องการเหรอ! ไปตายแล้วเกิดใหม่เถอะถ้าอยากจะได้!”“เกล็ดมุก! มันจะมากไปแล้วนะ”“แค่นี้ทำเป็นรับไม่ได้! คุณเคยประณามฉันมากกว่านี้ด้วยซ้ำ เ
ณ มุมหนึ่งของงาน บุรุษร่างสูงเพรียวคนหนึ่งกำลังเฝ้ามองเกล็ดมุกอย่างดูแคลน กรามแกร่งถูกขบเข้าหากันดังกรอดๆ เพราะแลเห็นกริยาที่เจ้าหล่อนแย้มยิ้มกับชายไปทั่ว ตั้งแต่คู่ควงอย่างเจ้าสัวใหญ่ คู่สนทนาของท่านหรือแม้กระทั่งพนักงานที่ซุ้มอาหารในขณะนี้เพราะมัวแต่ยุ่งเรื่องงานการจึงไม่ได้มีเวลาตามตัวเจ้าหล่อนกลับมา ทว่าเขายังไม่ลืม เขาลืมหล่อนไม่ได้ เวลาที่ผ่านล่วงเลยไม่ได้ทำให้ความคิดถึงจางหายไปเลยแม้แต่น้อย รังแต่จะเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าทบทวี เกล็ดมุกในวันนี้ทิ้งห่างเกล็ดมุกในวันวานอย่างไม่เห็นฝุ่น ร่างสวยอรชรทว่าอวบอิ่มมีน้ำมีนวลผิดหูผิดตาวาคิมอิจฉาเจ้าสัวสูงวัยเป็นล้นพ้นที่ได้สิทธิ์แตะต้องผู้หญิงคนนี้ คนที่ตามมาหลอกหลอนในหัวใจเขา เขาจะทำอย่างไรดีจึงจะได้หล่อนคืนมา หรือว่าจะปล่อยหล่อนไป ให้หล่อนไปเป็นของเจ้าสัวใหญ่ ให้ท่านได้มีสิทธิ์แตะต้องเกล็ดมุกแต่เพียงผู้เดียวไม่! เขาไม่ยอม ไม่ว่ายังไงเขาต้องเอาตัวหล่อนกลับมาให้ได้!______________ที่ซุ้มอาหารเกล็ดมุกเปิดยิ้มกว้างเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ค็อกเทลมากหน้าหลายตาทำให้กระเพาะน้