นิ้วที่สามซึ่งมันไม่น่าเข้ามาได้ตั้งแต่แรกกำลังขยับเข้าออกในร่างกายของเธอ เอโลอีสส่งเสียงร้องครางออกมาอย่างห้ามไม่ได้ แพรขนตางอนงามเปียกชื้นไปด้วยน้ำตา เธอพยายามร้องขอเพื่อให้เขาหยุด อย่างน้อยก็ช่วยหยุดพักให้เธอหายใจสักหน่อยก็ยังดี แต่ทว่าท่านลูเซียนนอกจากไม่หยุดพัก เขายังทำมันรุนแรงขึ้นอีกต่างหาก
“อะ..อ๊า! ได้โปรดหยุดเถอะค่ะ ท่านลูเซียนได้โปรด..ยะ..หยุดก่อน!” สะโพกบางบิดเกร็งทุกครั้งที่มือของเขาเคลื่อนไหว นิ้วเปียกลื่นค่อยๆ ดันเข้ามาทีละน้อย เธอขบเม้มริมฝีปากพร้อมกับพยายามดันสะโพกหนี แต่การประท้วงเล็กๆ น้อยๆ ของเอโลอีสมันไม่เป็นผลเลย เมื่อลูตินใช้มืออีกข้างของเขากอดสะโพกของเธอเอาไว้ “อยากให้หยุดอย่างนั้นหรือเอโลอีส” เธอพยักหน้าทั้งน้ำตา พร้อมกับช้อนสายตามองหน้าเขาอย่างน่าสงสาร ลูตินแสยะยิ้มที่มุมปากก่อนที่เขาจะขยับใบหน้าไปกระซิบที่ข้างหูอย่างแผ่วเบา “โกหก..เจ้าจะอยากหยุดได้อย่างไรกันในเมื่อด้านในมันบีบรัดนิ้วข้าแน่นขนาดนั้น..เอโลอีสไม่ต้องเป็นห่วงเพราะเดี๋ยวข้าจะทำให้เจ้ารู้สึกดีมากกว่าการใช้นิ้วเอง” สิ้นเสียงนั้นเขาก็ยกเรียวขาทั้งสองข้างของเธอพาดเอาไว้บนบ่า รอยยิ้มของท่านลูเซียนมันแตกต่างจากที่เธอเคยเห็นอย่างสิ้นเชิงเพราะมันไม่ได้มีความอ่อนโยนเหมือนกับทุกครั้งที่เขายิ้มให้เธอ นิ้วที่เปียกชื้นไปด้วยน้ำหวานของเขาค่อยๆ ลูบไล้ที่กลีบดอกไม้ชุ่มน้ำ เขาใช้นิ้วแหวกเปิดมันออกก่อนจะใช้มืออีกข้างจับเข้าที่กลางลำแกร่งแล้ววางทาบมันลงไป เธอเบิกตากว้างด้วยความตกใจพร้อมกับพยายามถดตัวถอยหนี เมื่อมองเห็นขนาดของเขาที่มัน..มันไม่มีทางเข้ามาได้แน่ๆ ใบหน้างามส่ายไปมาราวกับจะบอกเขาเป็นนัยๆ ว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ “เอโลอีสไม่ต้องกลัว ข้าเตรียมความพร้อมให้เจ้า นานขนาดนั้นมันจะเข้าไปได้แน่ๆ ..ถึงจะเจ็บนิดหน่อยแต่เจ้าจะผ่านมันไปกับข้านะ” เรือนผมสีทองสว่างสยายลงไปบนหมอนใบใหญ่ ดวงตากลมโตคู่นั้นถึงจะแดงช้ำมาแค่ไหนแต่ทว่าโดยรวมแล้วใบหน้านั้นของเธอก็ยังคงงดงามราวกับเทพีบนสรวงสวรรค์ ขนาดเธออยู่ในสภาพที่ยุ่งเหยิงเช่นนั้นก็ยังสามารถเป็นทิวทัศน์ที่งามล้ำให้แก่เขา หากไม่เรียกว่านี่คือความคุ้มค่า เช่นนั้นลูตินก็ไม่รู้จะเรียกรางวัลความพยายามของเขาว่าอย่างไรดี เธอผุดผ่องและไม่เคยต้องมือชายใด นี่คุ้มค่าแล้วที่เขาลงทุนปลอมตัวเป็นชายหนุ่มจนๆ เพื่อเรียกคะแนนสงสารน่ะ และด้วยใบหน้าเช่นนั้นไม่น่าแปลกใจหรอกที่เอโลอีสทำให้บุรุษภายในงานตบเท้าเข้าหานางมากมายขนาดนั้น.. “อา..” เธอรู้สึกถึงแรงกดเบาๆ จากส่วนนั้นที่เขาไถผ่าน ความร้อนและแข็งขึงทำให้เธอแทบสะกดกลั้นอารมณ์ไม่ไหวด้วยซ้ำ เขาไม่ได้กดแทรกมันเข้ามาในทันที แต่ท่านลูเซียนกำลังจับแท่งร้อนนั้นถูไถอย่างช้าๆ ที่ส่วนนั้นของเธอ ราวกับว่าเขากำลังพยายามปลุกเร้าให้ทุกอารมณ์ของเธอมันพลุ่งพล่านขึ้นมา “แบบนี้ก็ดีใช่ไหมล่ะ เห็นไหมว่าขนาดมันยังไม่ได้เข้าไปในร่างกายของเจ้า มันยังสร้างความสุขสมให้เจ้าได้ถึงเพียงนี้..” ให้ตายสิ เขากล่าวถ้อยคำหยาบโลนเหล่านั้นออกมาได้อย่างไรกัน เธอไม่อยากเชื่อหูเลยจริงๆ ว่าจะได้ยินถ้อยคำเช่นนั้นออกมาจากปากของท่านลูเซียน.. เขาถูไถเบาๆ ที่เนินเนื้อนุ่มนั้น ก่อนจะกดส่วนหัวบวมแดงนั่นเข้าไปในร่องรักสีหวาน “อื้อ!” เธอสะดุ้งเฮือกในทันทีที่เขาล่วงผ่านเข้ามา ความเจ็บปวดฉายชัดอยู่ที่ส่วนล่าง เอโลอีสยกมือขึ้นมาเพื่อผลักเขาออก แต่ทว่ามือเล็กๆ ของเธอไม่มีผลต่อร่างกายอันแข็งแกร่งของเขาเลยแม้แต่นิดเดียว “อื้อ!..จะ..เจ็บค่ะ อ๊า!!” หยาดน้ำตารินไหลออกมามากกว่าเก่า เธอรู้สึกได้ถึงร่างกายที่ฉีกขาดเพื่อรับเขาเข้ามาได้อย่างชัดเจน มันเจ็บในแบบที่เธอไม่เคยพบเจอมาก่อน.. “อา..ขนาดเตรียมความพร้อมให้นานขนาดนั้นเจ้าก็ยังคับแคบไปอยู่ดี..” เขาหยุดนิ่งแล้วแช่ค้างเอาไว้เพื่อให้เธอปรับตัว เลือดสีแดงสดไหลรินออกมาจากจุดเชื่อมต่อ มันผสมปนเปกับน้ำรักสีใสจนกลายเป็นสีชมพูอ่อนๆ การหยุดเพื่อไม่ให้เธอเจ็บปวดแต่มันกลับกลายเป็นทำให้เขาทรมานแทน “เอโลอีสเด็กดี บอกข้าทีว่าเจ้าหายเจ็บแล้ว..” เขาเอื้อมมือมาเช็ดน้ำตาให้เธออย่างอ่อนโยนพร้อมกับถามคำถามนั้นด้วยใบหน้าที่กำลังอดกลั้นเอาไว้ จะหายเจ็บได้อย่างไรไวเช่นนั้น..หากจะทำให้เธอหายเจ็บก็มีแต่เขาต้องเอาส่วนนั้นออกไปก่อนต่างหาก “ไม่ค่ะ..ไม่ดีขึ้นเลย..ท่านลูเซียนช่วยเอามันออกไปก่อน..” เอาออกไปก่อน? ฝันไปเถอะ! เขากระทำจนมันเกินครึ่งทางไปแล้วเธอกลับบอกกล่าวให้เขาเอามันออก.. “จะทำเช่นนั้นได้อย่างไรกันเอโลอีส ข้าไม่คิดถอยหลังหรอกนะ มีแต่จะเดินหน้าเท่านั้น” แท่งร้อนของเขากดแทรกเข้าไปลึกขึ้นเรื่อยๆ ความโอฬารนั้นดำดิ่งเข้าไปอย่างไม่ลดละฝ่าความคับแน่นเข้าไปจนถึงจุดที่ลึกที่สุด ร่างกายของเธอสั่นไหว และเอโลอีสทำอะไรไม่ได้นอกจากร้องไห้ออกมา..ปลายเล็บของเธอกำลังจิกทึ้งลงไปที่แผ่นหลังของเขา และในยามนี้อย่างไม่ต้องเดาเลย ลูตินคิดว่าแผ่นหลังของเขาคงเป็นรอยแดงเพราะถูกเล็บของเธอข่วนอย่างแน่นอน “อื้อ!” เธอมองเขาด้วยแววตาโกรธเคืองเล็กน้อย และเอโลอีสยิ่งไม่ชอบใจเข้าไปใหญ่เมื่อเธอเห็นรอยยิ้มบนใบหน้านั้น.. เป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสะใจและสุขสม ช่วงเวลาที่เขายิ้มมันทำให้เธอไม่ชอบใจเอาซะเลย..เพราะมันเหมือนกับว่าเขากำลังมีความสุข ขณะที่เธอกำลังเจ็บปวด “เอโลอีส..” เขาเรียกชื่อเธอด้วยอารมณ์มากมายที่กำลังถาโถมเข้ามา ด้านในของเธอบีบรัดแนบแน่นเสียจนเขาขยับสะโพกไม่ได้ด้วยซ้ำ เลือดในกายฉีดซ่านไปหมด ส่งผลให้ลมหายใจของเขามันรุนแรงมากขึ้น “ข้าชอบนะช่วงเวลาที่เจ้ากำลังร้องไห้น่ะ..” น้ำตาของเธอมันกำลังบอกกล่าวกับเขาว่า..สิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดได้มาอยู่ในกำมือของเขาแล้ว ยิ่งเธอร้องไห้มากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองมันเต้นแรงมากเท่านั้น ยิ่งเธอแสดงท่าทีเจ็บปวดกับสัมผัสของเขามากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งสุขสมมากขึ้นไปอีก เพราะมันหมายความว่าเขาคือบุรุษคนแรกที่ได้เชยชมร่างกายนี้..เป็นคนแรกที่สร้างความเจ็บปวดฝากเอาไว้ในร่างกายของเธอ..นี่มันช่างรู้สึกดีมากกว่าที่คิดเอาไว้เสียอีก และทุกครั้งที่เคลื่อนไหวร่างกายของเขาก็สะท้านไม่หยุดเลย เอโลอีสนั้นทำให้เขาได้พบเจอรสชาติของการร่วมรักที่แปลกใหม่ดีทีเดียวถ้อยคำที่เคาน์มาเอลทิ้งท้ายเอาไว้ ทำให้ซีโมนสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่เยือกเย็นอย่างบอกไม่ถูก“ซีโมน..เท่าที่ข้ารู้ครอบครัวของมาเอลล้มหายตายจากไปแล้วใช่หรือไม่ ทั้งมารดา บิดาและญาติพี่น้องล้วนแล้วแต่เสียชีวิตไปหมดแล้วทั้งสิ้น..”ลูตินเอ่ยถามด้วยแววตาเย็นยะเยือก และนั่นทำให้ซีโมนยกมือขึ้นมาปาดเหงื่อเบาๆ“เรื่องนั้นมันก็ใช่..”“เช่นนั้นหากหมอนั่นตายไปอีกคนเขาก็จะได้พบเจอกับครอบครัวใช่หรือไม่ ข้าควร..ทำให้เพื่อนรักได้พบเจอครอบครัวในเร็ววันอย่างนั้นสินะ”ซีโมนส่งยิ้มแห้งๆ ให้กับลูติน เขาอยากจะบอกกล่าวออกไปเหลือเกินว่านั่นเพื่อนนะโว้ย แค่สตรีนางเดียวถึงกับจะฆ่าจะแกงกันเลยงั้นเรอะ!!“ลูติน..มาเอลก็แค่ล้อเล่น เจ้าอย่าไปถือสาเขาเลยน่า..ตอนนี้หากเจ้าอยากจะเข้าหาเลดี้อแลงจริงๆ คนที่เจ้าควรกังวลคือเซอร์ลาเบนผู้นั้นต่างหาก”เมื่อลูตินได้ยินเช่นนั้นเขาก็ปรายสายตาไปมองที่เอโลอีส สิ่งที่เขาพบเห็นคือเธอกำลังแย้มยิ้ม..เป็นรอยยิ้มละมุนละไมชวนให้หัวใจรู้สึกอบอุ่น และบุรุษที่กำลังยืนอยู่ข้างๆ เธอคือเซอร์ลาเบน..เพื่อนวัยเด็กนี่มันช่างน่ารำคาญชะมัดเลยโว้ย!!หรือว่าเซอร์ลาเบนคือสามีในอนาคตของเอโลอีส ส่วนเขา..เ
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะลูติน หรือว่าวันนี้ม้าที่เจ้าลงเดิมพันมันวิ่งได้ห่วยรึไง”ซีโมนเอ่ยถามพร้อมกับปรายสายตาลงไปมองที่สนามแข่งม้า“นี่ซีโมน..ปกติแล้วหลังจากที่เจ้ากระทำเรื่องเช่นนั้น เมื่อตื่นขึ้นมาก่อนที่เจ้าจะแยกทางกัน เจ้าทำอย่างไร..”นั่นมันคำถามอะไรวะนั่น ซีโมนวางฝ่ามือของเขาลงบนหน้าผากของลูติน“เจ้าไม่สบายรึเปล่าลูติน ถามคำถามแบบนั้นทำไมกัน ปกติเราต่างหากที่เป็นฝ่ายลุกออกจากเตียงก่อน เพราะไม่อยากอยู่รอจนถึงช่วงเช้าเพื่อให้อีกฝ่ายเข้าใจผิดว่าเรามีใจน่ะ”ใช่ไหมล่ะ ปกติเขาก็เป็นเช่นนั้น เมื่อถึงรุ่งเช้าเป็นเขาที่ต้องลุกขึ้นก่อนแล้ววางของมีค่าเอาไว้ให้สตรีที่นอนอยู่บนเตียง นั่นก็เพื่อให้เราเข้าใจตรงกันว่าเขาไม่ต้องการสานต่อความสัมพันธ์ในครั้งนี้“..แล้วสมมุติว่าสตรีผู้นั้นลุกออกไปก่อนเจ้าล่ะ”ซีโมนยกมือขึ้นมาลูบคางเบาๆ“เรื่องนั้นไม่เคยเกิดขึ้นกับข้ามาก่อนเลย แต่หากให้เดานะที่สตรีผู้นั้นลุกขึ้นไปก่อนอาจจะเป็นเพราะว่าลีลาและท่าทางของเจ้ามันห่วยจนเกินจะรับไหวอะไรแบบนั้นรึเปล่า”คำตอบนั้นทำให้ลูตินหน้าชาไปหมด เขายกแก้วสุราขึ้นมาดื่มเพื่อเรียกสติของตัวเองกลับมา อันที่จริงเขาก็แอบๆ คิดถึ
เอโลอีสลืมตาขึ้นมาในกลางดึก เธอผล็อยหลับไปเพราะความเหนื่อยล้า และเมื่อตื่นขึ้นมาอีกทีก็ไม่เห็นท่านลูเซียนนอนอยู่ข้างกายเสียแล้ว..ในใจเกิดเป็นความรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาพร้อมกับคำถามที่อัดแน่นอยู่ในนั้น..หรือว่าที่เขาจากไปมันเป็นเพราะว่าเขาต้องการบอกกล่าวเป็นนัยๆ ถึงจุดจบของความสัมพันธ์เธอและเขาเมื่อได้บทสรุปเช่นนั้นอยู่ๆ น้ำตาที่พึ่งจะแห้งเหือดไปมันก็รินไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ เธอลุกขึ้นพร้อมกับเดินไปหยิบชุดเดรสที่แขวนอยู่มาสวม เอโลอีสใช้หลังมือในการเช็ดน้ำตาเป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว..ในเมื่อเขาไม่ได้คิดอะไรกับเธอเช่นนั้นให้มันจบลงเร็วๆ ก็ดีแล้วล่ะเธอจัดการยืนสงบสติอารมณ์อีกพักหนึ่งก่อนจะเดินออกไปจากที่นี่..เธอไม่ควรกลับไปที่คฤหาสน์ในยามนี้ เพราะอย่างนั้นเอโลอีสจึงเลือกที่จะไปหาเฟมที่คฤหาสน์ ความเจ็บปวดจากตรงส่วนนั้นส่งผลให้การเดินนั้นยากลำบากมากพอสมควร..เธอกัดฟันแน่นพร้อมกับดึงสติของตัวเองกลับมา..ไม่เป็นไร..เธอจะผ่านความเจ็บปวดนี้ได้ และเธอจะกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งในเร็ววัน..“ดูสภาพเจ้าสิ..ให้ตายเถอะไม่บอกก็รู้ว่าเจ้าคงจะพบเจอกับความสัมพันธ์ที่มันไม่สวยหรูเท่าไหร่ใช่ไหม..เอโลอีสไม่ต้อ
เอโลอีสปรือตามองหน้าเขา..มันน่าตกใจที่เขาจับจูงมือเธอเดินมาจนถึงขั้นนี้ แต่ทว่าเมื่อได้ลองคิดดูดีๆ เป็นเธอที่เรียกร้องให้เขากระทำเช่นนี้เอง เธอเป็นคนเริ่มมันมาเองเพราะอย่างนั้นในยามนี้สิ่งที่เอโลอีสกำลังทำคือการรับผิดชอบคำพูดของตัวเองขาทั้งคู่ถูกแยกออกจากกัน มือใหญ่ช้อนใต้เข่าเพื่อรั้งเรียวขายกขึ้นจนถึงไหล่ แรงปรารถนาซัดสาดไปทุกหนทุกแห่งจนร่างกายสะท้านไหว จริงอยู่ที่ในครั้งแรกนั้นมันมีเพียงความเจ็บปวดเท่านั้นที่ฉายชัดเข้ามาในร่างกาย แต่ทว่าในช่วงเวลาถัดมา เมื่อความเจ็บปวดเริ่มจางหายความรู้สึกสั่นไหวก็เข้ามาแทนที่ ทุกครั้งที่ช่องทางนุ่มๆ ถูกเสียบด้วยความแข็งตึงนั้นความสุขสมอย่างรุนแรงก็แล่นริ้วไปทั่วทั้งร่างดวงตาของลูตินไม่ละไปจากใบหน้าของเอโออีสเลย เขาจ้องมองเธอตลอดเวลา คอยมองดูใบหน้าที่งดงามนั้นอย่างไม่คาดสายตาว่าเธอจะแสดงสีหน้าออกมาแบบไหน“อา..ลึกไปแล้วค่ะ”เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยก่อนจะพรมจูบไปที่ใบหน้าของเธอ“แล้วไม่ชอบรึไง..แบบนี้เสียวกว่าเยอะเลยไม่ใช่เหรอ”ต้นขาด้านในสั่นสะท้าน เอโลอีสได้แต่บิดตัวเร่าเมื่อการสอดแทรกทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ..จะกล่าวออกไปว่าชอบมากมันก็ช่างน่า
นิ้วที่สามซึ่งมันไม่น่าเข้ามาได้ตั้งแต่แรกกำลังขยับเข้าออกในร่างกายของเธอ เอโลอีสส่งเสียงร้องครางออกมาอย่างห้ามไม่ได้ แพรขนตางอนงามเปียกชื้นไปด้วยน้ำตา เธอพยายามร้องขอเพื่อให้เขาหยุด อย่างน้อยก็ช่วยหยุดพักให้เธอหายใจสักหน่อยก็ยังดี แต่ทว่าท่านลูเซียนนอกจากไม่หยุดพัก เขายังทำมันรุนแรงขึ้นอีกต่างหาก“อะ..อ๊า! ได้โปรดหยุดเถอะค่ะ ท่านลูเซียนได้โปรด..ยะ..หยุดก่อน!”สะโพกบางบิดเกร็งทุกครั้งที่มือของเขาเคลื่อนไหว นิ้วเปียกลื่นค่อยๆ ดันเข้ามาทีละน้อย เธอขบเม้มริมฝีปากพร้อมกับพยายามดันสะโพกหนี แต่การประท้วงเล็กๆ น้อยๆ ของเอโลอีสมันไม่เป็นผลเลย เมื่อลูตินใช้มืออีกข้างของเขากอดสะโพกของเธอเอาไว้“อยากให้หยุดอย่างนั้นหรือเอโลอีส”เธอพยักหน้าทั้งน้ำตา พร้อมกับช้อนสายตามองหน้าเขาอย่างน่าสงสาร ลูตินแสยะยิ้มที่มุมปากก่อนที่เขาจะขยับใบหน้าไปกระซิบที่ข้างหูอย่างแผ่วเบา“โกหก..เจ้าจะอยากหยุดได้อย่างไรกันในเมื่อด้านในมันบีบรัดนิ้วข้าแน่นขนาดนั้น..เอโลอีสไม่ต้องเป็นห่วงเพราะเดี๋ยวข้าจะทำให้เจ้ารู้สึกดีมากกว่าการใช้นิ้วเอง”สิ้นเสียงนั้นเขาก็ยกเรียวขาทั้งสองข้างของเธอพาดเอาไว้บนบ่า รอยยิ้มของท่านลูเซียนมันแ
เอโลอีสรู้สึกได้เลยว่าเธอกำลังจะยืนไม่อยู่ ขาแข้งสั่นเทาไปหมด และคาดว่าอีกไม่นานเธอจะต้องล้มลงอย่างแน่นอน ลูตินหรี่ตาลงเล็กน้อยก่อนที่เขาจะอุ้มเธอขึ้นไปบนเตียง “พอไม่ได้สิ..ตรงนี้จะเจ็บมากแน่ๆ หากว่าข้าใส่เข้าไปน่ะ เอโลอีสเพราะว่านี่คือครั้งแรกของเจ้า..ฉะนั้นแล้วจงรับรู้เอาไว้เลยว่าในวันนี้ข้ากำลังพยายามหักห้ามใจของตัวเองอย่างถึงที่สุด” ไม่อย่างนั้นเขาคงจะกางขาเธอออกแล้วกดแทรกมันเข้าไปด้วยความต้องการทั้งหมดที่มีไปแล้วล่ะ “หากไม่อยากเจ็บก็อย่าบอกให้ข้าพอเลยเอโลอีส” เธอหน้าชาวาบเมื่อเขาใช้ปลายนิ้วอ้ากลีบดอกไม้ของเธอออก..เขาจูบตรงปากทางเข้าก่อนที่ปลายลิ้นร้อนผ่าวจะแทรกเข้ามา “อ๊า!!” ของเหลวสีใสไหลทะลักออกมาตามจังหวะของการขยับปลายลิ้น ลูตินละใบหน้าออกจากตรงนั้น เขาใช้ปลายนิ้วลูบไล้ปากทางเข้าอยู่พักหนึ่งก่อนจะกดแทรกมันเข้าไปตรงส่วนที่เปียกชื้นและอ่อนนุ่ม สะโพกของเธอลอยขึ้นในทันทีที่ได้รับสัมผัสอันแสนแปลกใหม่ “อื้อ!..ทะ..ท่านลูเซียนคะ ข้าขอพัก..ขอพักก่อน” ปลายนิ้วของเขาขยับเป็นวงกลมจากนั้นจึงเพิ่มจำนวนนิ้วแล้วเสียดสีตรงจุดเดิมย้ำๆ ราวกับเสียงอ้อนวอนแสนหวานของเอโลอีสเป็นเพีย