ซีโมนและเคาน์มาเอลมองหน้ากันไปมาเมื่อพวกเขาได้ยินคำกล่าวห้ามที่มันแปลกประหลาดเล็กน้อย แต่ไหนแต่ไรเราไม่เคยมีปัญหาเรื่องสตรีกันและไม่เคยแย่งสตรีกันด้วยแล้วทำไมวันนี้..
“ลูติน หากเจ้าจะเข้าไปทำความรู้จักกับเลดี้อแลงเราทั้งคู่ก็ไม่ได้จะขัดขวางหรือต่อว่าอะไรหรอกนะ หากเจ้าถูกใจสตรีผู้นั้นเราทั้งคู่ยินยอมถอยเพื่อให้เจ้าได้เข้าไปทำความรู้จักกับนางอยู่แล้ว” เคาน์มาเอลกำลังกล่าวห้ามเพื่อไม่ให้สหายทั้งสองของเขามีปากเสียงกัน แต่ทว่าซีโมนไม่เคยเถียงชนะลูตินเลยสักครั้งอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นจะเรียกว่าสู้กันก็คงจะไม่ถูกต้องเท่าไหร่นัก “ข้าไม่ได้จะเข้าไปหาเลดี้อแลง และพวกเจ้าก็ห้ามไปหานางด้วย..” ลูตินสั่งด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นนั่นทำให้ซีโมนและมาเอลมองไปที่ลูตินอย่างไม่เข้าใจ “นี่ลูติน เจ้าไม่ได้มีความคิดที่จะเข้าหานางเรื่องนั้นมันก็ปกติดีไม่มีใครไปว่าอะไรเจ้าหรอก แต่เจ้าไม่เข้าหานางแล้วมาห้ามพวกข้าสองคนอันนี้ผิดปกติแล้วล่ะ!” มาเอลเอ่ยถามด้วยความไม่เข้าใจ เขากำลังมึนงงในท่าทีของสหายรักมากเหลือเกิน นี่หากไม่ติดว่าเราเป็นเพื่อนกันมาหลายสิบปี เขาไม่มีทางยินยอมฟังหมอนี่อย่างแน่นอน “ข้ามีเหตุผลของข้า..” ซีโมนยักไหล่ “เช่นนั้นแกรนด์ดยุคก็เชิญอยู่กับเหตุผลของแกรนด์ดยุคไปก็แล้วกันนะครับ เพราะว่าข้าจะออกไปหาสตรีที่กำลังพูดคุยกันทางด้านนั้น..” เมื่อกล่าวจบซีโมนก็เดินออกไปในทันที เขาเองก็ไม่ได้รับปาก ลูตินสักหน่อยว่าจะไม่เข้าหาเลดี้อแลงน่ะ “ข้าเองก็จะไปเหมือนกัน โต๊ะหลบมุมเช่นนี้ข้าทำใจนั่งลงไม่ลงหรอก เราจะต้องโดดเด่นเหมือนอย่างเคยสิลูติน..ข้าจะย้ายที่นั่ง..แล้วหากเจ้ายังไม่ยอมย้ายก็เชิญนั่นในมุมอับเช่นนี้ต่อไปเถิด” เคาน์มาเอลเดินจากไปในทันที พร้อมกับส่งยิ้มให้สหายรัก ลูตินยังคงยืนอยู่ตรงนั้นพร้อมกับปรายสายตาไปมองหน้าของเอโลอีส เธอสวมชุดเดรสสีชมพูอ่อน เรือนผมสีทองนั้นถูกเกล้าขึ้นไปไว้ด้านบนเพื่ออวดโชว์ลำคอเพรียวระหง บุรุษมากมายกำลังตบเท้าเข้าหาเพื่อกล่าวแนะนำตัวกับเอโลอีสอย่างบ้าคลั่ง อาจจะเป็นเพราะว่าช่วงเวลาที่ผ่านมา..นางไม่ได้ออกงานสังคมสักเท่าไหร่ จึงทำให้การปรากฏตัวในวันนี้ของนางเป็นที่จับตามองของชายหนุ่มหลายๆคน “เอโลอีสได้เวลาเข้าไปด้านในแล้วองค์หญิงกำลังจะเสด็จมา..” ดวงตาคมของลูตินกำลังปรายตามองใบหน้าของบุรุษผู้เข้ามาใหม่ ราชเลขาคนใหม่ขององค์รัชทายาท เซอร์ดิโอแห่งลาเบน..มือของหมอนั่นกำลังโอบไหล่ของเอโลอีสอยู่ราวกับว่าเซอร์ลาเบนกำลังแสดงความเป็นเจ้าของเพื่อให้บุรุษอื่นยินยอมถอยออกไป.. ลูตินยกแก้วสุราขึ้นขึ้นมา ดวงตาของเขายังคงจับจ้องอยู่ที่มือของเซอร์ลาเบนและความสนิทสนมของทั้งสองคน เป็นแค่เพื่อนต้องโอบเอวกันด้วยอย่างนั้นหรือ? แล้วสายตาที่เซอร์ลาเบนมองเอโลอีสนั้นมันคืออะไรกัน เพื่อนที่ไหนมองกันด้วยสายตาหวานเชื่อมแบบนั้น อา..หงุดหงิดชะมัดเลย . . เลดี้เฟมกำลังยืนอยู่หน้าโต๊ะเครื่องดื่ม เธอกำลังลังเลว่าควรจะนำไวน์หรือว่าสุรารสร้อนแรงไปให้เอโลอีสดีนะ และทันใดนั้นเองก็มีมือเอื้อมมาหยิบไวน์ให้เธอ “สวัสดีครับเลดี้เบนัว..วันดีๆ เช่นนี้เลดี้อย่าเมาดีกว่านะครับ เพราะวันนี้ข้าไม่ว่างไปส่งเจ้านะสิ” เลดี้เฟมไม่ได้รับแก้วไวน์ที่เคาน์มาเอลส่งให้เธอ ตรงกันข้าม เฟมกลับเอื้อมมือไปหยิบแก้วสุราขึ้นมา “เรื่องนั้นคงไม่ต้องรบกวนท่านเคาน์หรอกค่ะ ข้ามีความสามารถมากพอ ต่อให้ไม่มีท่าน ข้าก็หาบุรุษหล่อเหลาเอวดีสักคนพากลับบ้านก็ได้” เธอส่งยิ้มที่ไปไม่ถึงดวงตาให้เขาก่อนจะเดินออกมาจากตรงนั้นในทันที “ข้าคิดว่าเลดี้เบนัวคงกำลังเข้าใจข้าผิด วันนี้ข้าไม่ได้เข้าหาเจ้าเพื่อต้องการรื้อฟื้นเรื่องเก่าๆของเรา แต่ข้าเห็นว่าเลดี้เบนัวมากับเลดี้ อแลง..เพราะอย่างนั้นเจ้าช่วยแนะนำเลดี้อแลงให้ข้ารู้จักหน่อยได้ไหมครับ..” ในชีวิตของเฟมนั้นมีหนึ่งอย่างที่ต่อให้เธอพยายามลบแค่ไหนแต่กลับไม่อาจลบออกไปได้เลย นั่นคือการก้าวเท้าที่ผิดพลาด..เธอก้าวเดินเข้าไปหากองไฟเช่นท่านเคาน์มาเอลเพียงเพราะต้องการความอบอุ่นในค่ำคืนที่เหน็บหนาว เธอคิดว่ากองไฟเช่นเขาจะให้ความอบอุ่นแก่แมลงที่ไร้เดียงสาอย่างเธอได้ เพราะอย่างนั้นเธอจึงโผบินเข้าไปโดยไม่สนใจว่าตัวเองจะมอดไหม้หรือพังทลาย..เพื่อให้ได้ไออุ่นจากเขาแค่ครั้งเดียวเท่านั้น..และสุดท้ายเธอพังทลาย มอดไหม้จนแหลกละเอียดเป็นผุยผง สายตาที่อบอุ่นนั้นเขามีเอาไว้ให้สตรีทุกนาง อ้อมแขนที่แสนจะแข็งแกร่งของเขาไม่ได้มีเอาไว้ให้เธอเพียงผู้เดียว..ทุกอย่างมันหลอกลวงและ..เป็นเธอที่เข้าไปเล่นกับไฟเอง “เอโลอีสไม่เหมาะกับท่านเคาน์หรอกค่ะ นางผุดผ่องมากเกินกว่าที่ท่านเคาน์จะกระทำให้นางแปดเปื้อน..อีกทั้งข้าไม่มีความคิดที่จะแนะนำบุรุษชั่วช้าให้สหายของข้ารู้จักหรอก” เคาน์มาเอลหัวเราะออกมาเบาๆ “เย็นชาจังเลยนะเลดี้เฟม ไม่เห็นแก่ความสัมพันธ์ครั้งก่อนเก่าของเราหน่อยเหรอ หากคืนนั้นมันดีเจ้าก็ควรจะแบ่งปันความดีงามนั้นให้สหายรักของเจ้าบ้างสิ” “...ซ่า!!” สุราในมือของเลดี้เฟมถูกราดลงบนศีรษะของเคาน์มาเอลในทันที และเหตุการณ์นั้นทำให้เราทั้งคู่กลายเป็นจุดสนใจในงานนี้ไปโดยปริยาย เอโลอีสที่กำลังยืนรอสหายรัก รีบวิ่งเข้ามาหาเลดี้เฟมในทันทีเมื่อเธอเห็นเหตุการณ์นั้น “เฟม..เกิดอะไรขึ้นแล้วเจ้าบาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า?” เลดี้เฟมส่ายหน้าเบาๆ พร้อมกับหลบสายตาของเพื่อนรักที่กำลังมองมา “..คนเจ็บคือข้าต่างหากล่ะครับเลดี้ อแลง ไม่ทราบว่าเลดี้พอจะมีผ้าเช็ดหน้าให้ข้าบ้างรึเปล่า” เอโลอีสไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์เบื้องหน้าเท่าไหร่นัก แต่ทว่าเธอก็ยินยอมยื่นผ้าเช็ดหน้าของเธอให้กับบุรุษเบื้องหน้า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในยามนี้ทุกสายตากำลังมองมาที่เฟมและกำลังตำหนิการกระทำของเฟมอย่างชัดเจน เธอรู้ว่าเพื่อนรักของเธอนั้นไม่มีทางทำอะไรที่ไร้เหตุผลหรอก แต่ถึงอย่างนั้น..เราไม่ควรทำให้งานวันเกิดขององค์หญิงเกิดเรื่อง “ข้าขอโทษแทนเลดี้เฟมด้วยนะคะ หวังอย่างยิ่งว่าท่านเคาน์คงจะไม่โกรธ” เคาน์มาเอลแสยะยิ้ม “ข้าไม่โกรธหรอกครับ หากเลดี้เข้าไปช่วยข้าเช็ดคราบสุราพวกนี้ออกน่ะ” เฟมหันมองหน้าของเคาน์มาเอลด้วยแววตาเดือดดาล “แค่สุรามันไม่เพียงพอที่จะทำให้ท่านเคาน์มีสติอย่างนั้นสินะคะ เช่นนั้นครั้งหน้าข้าจะนำน้ำกรดมาด้วยเผื่อว่าท่านเคาน์จะคิดได้บ้างว่าคำใดควรพูดแล้วคำใดไม่ควรพูดออกมา”ถ้อยคำที่เคาน์มาเอลทิ้งท้ายเอาไว้ ทำให้ซีโมนสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่เยือกเย็นอย่างบอกไม่ถูก“ซีโมน..เท่าที่ข้ารู้ครอบครัวของมาเอลล้มหายตายจากไปแล้วใช่หรือไม่ ทั้งมารดา บิดาและญาติพี่น้องล้วนแล้วแต่เสียชีวิตไปหมดแล้วทั้งสิ้น..”ลูตินเอ่ยถามด้วยแววตาเย็นยะเยือก และนั่นทำให้ซีโมนยกมือขึ้นมาปาดเหงื่อเบาๆ“เรื่องนั้นมันก็ใช่..”“เช่นนั้นหากหมอนั่นตายไปอีกคนเขาก็จะได้พบเจอกับครอบครัวใช่หรือไม่ ข้าควร..ทำให้เพื่อนรักได้พบเจอครอบครัวในเร็ววันอย่างนั้นสินะ”ซีโมนส่งยิ้มแห้งๆ ให้กับลูติน เขาอยากจะบอกกล่าวออกไปเหลือเกินว่านั่นเพื่อนนะโว้ย แค่สตรีนางเดียวถึงกับจะฆ่าจะแกงกันเลยงั้นเรอะ!!“ลูติน..มาเอลก็แค่ล้อเล่น เจ้าอย่าไปถือสาเขาเลยน่า..ตอนนี้หากเจ้าอยากจะเข้าหาเลดี้อแลงจริงๆ คนที่เจ้าควรกังวลคือเซอร์ลาเบนผู้นั้นต่างหาก”เมื่อลูตินได้ยินเช่นนั้นเขาก็ปรายสายตาไปมองที่เอโลอีส สิ่งที่เขาพบเห็นคือเธอกำลังแย้มยิ้ม..เป็นรอยยิ้มละมุนละไมชวนให้หัวใจรู้สึกอบอุ่น และบุรุษที่กำลังยืนอยู่ข้างๆ เธอคือเซอร์ลาเบน..เพื่อนวัยเด็กนี่มันช่างน่ารำคาญชะมัดเลยโว้ย!!หรือว่าเซอร์ลาเบนคือสามีในอนาคตของเอโลอีส ส่วนเขา..เ
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะลูติน หรือว่าวันนี้ม้าที่เจ้าลงเดิมพันมันวิ่งได้ห่วยรึไง”ซีโมนเอ่ยถามพร้อมกับปรายสายตาลงไปมองที่สนามแข่งม้า“นี่ซีโมน..ปกติแล้วหลังจากที่เจ้ากระทำเรื่องเช่นนั้น เมื่อตื่นขึ้นมาก่อนที่เจ้าจะแยกทางกัน เจ้าทำอย่างไร..”นั่นมันคำถามอะไรวะนั่น ซีโมนวางฝ่ามือของเขาลงบนหน้าผากของลูติน“เจ้าไม่สบายรึเปล่าลูติน ถามคำถามแบบนั้นทำไมกัน ปกติเราต่างหากที่เป็นฝ่ายลุกออกจากเตียงก่อน เพราะไม่อยากอยู่รอจนถึงช่วงเช้าเพื่อให้อีกฝ่ายเข้าใจผิดว่าเรามีใจน่ะ”ใช่ไหมล่ะ ปกติเขาก็เป็นเช่นนั้น เมื่อถึงรุ่งเช้าเป็นเขาที่ต้องลุกขึ้นก่อนแล้ววางของมีค่าเอาไว้ให้สตรีที่นอนอยู่บนเตียง นั่นก็เพื่อให้เราเข้าใจตรงกันว่าเขาไม่ต้องการสานต่อความสัมพันธ์ในครั้งนี้“..แล้วสมมุติว่าสตรีผู้นั้นลุกออกไปก่อนเจ้าล่ะ”ซีโมนยกมือขึ้นมาลูบคางเบาๆ“เรื่องนั้นไม่เคยเกิดขึ้นกับข้ามาก่อนเลย แต่หากให้เดานะที่สตรีผู้นั้นลุกขึ้นไปก่อนอาจจะเป็นเพราะว่าลีลาและท่าทางของเจ้ามันห่วยจนเกินจะรับไหวอะไรแบบนั้นรึเปล่า”คำตอบนั้นทำให้ลูตินหน้าชาไปหมด เขายกแก้วสุราขึ้นมาดื่มเพื่อเรียกสติของตัวเองกลับมา อันที่จริงเขาก็แอบๆ คิดถึ
เอโลอีสลืมตาขึ้นมาในกลางดึก เธอผล็อยหลับไปเพราะความเหนื่อยล้า และเมื่อตื่นขึ้นมาอีกทีก็ไม่เห็นท่านลูเซียนนอนอยู่ข้างกายเสียแล้ว..ในใจเกิดเป็นความรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาพร้อมกับคำถามที่อัดแน่นอยู่ในนั้น..หรือว่าที่เขาจากไปมันเป็นเพราะว่าเขาต้องการบอกกล่าวเป็นนัยๆ ถึงจุดจบของความสัมพันธ์เธอและเขาเมื่อได้บทสรุปเช่นนั้นอยู่ๆ น้ำตาที่พึ่งจะแห้งเหือดไปมันก็รินไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ เธอลุกขึ้นพร้อมกับเดินไปหยิบชุดเดรสที่แขวนอยู่มาสวม เอโลอีสใช้หลังมือในการเช็ดน้ำตาเป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว..ในเมื่อเขาไม่ได้คิดอะไรกับเธอเช่นนั้นให้มันจบลงเร็วๆ ก็ดีแล้วล่ะเธอจัดการยืนสงบสติอารมณ์อีกพักหนึ่งก่อนจะเดินออกไปจากที่นี่..เธอไม่ควรกลับไปที่คฤหาสน์ในยามนี้ เพราะอย่างนั้นเอโลอีสจึงเลือกที่จะไปหาเฟมที่คฤหาสน์ ความเจ็บปวดจากตรงส่วนนั้นส่งผลให้การเดินนั้นยากลำบากมากพอสมควร..เธอกัดฟันแน่นพร้อมกับดึงสติของตัวเองกลับมา..ไม่เป็นไร..เธอจะผ่านความเจ็บปวดนี้ได้ และเธอจะกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งในเร็ววัน..“ดูสภาพเจ้าสิ..ให้ตายเถอะไม่บอกก็รู้ว่าเจ้าคงจะพบเจอกับความสัมพันธ์ที่มันไม่สวยหรูเท่าไหร่ใช่ไหม..เอโลอีสไม่ต้อ
เอโลอีสปรือตามองหน้าเขา..มันน่าตกใจที่เขาจับจูงมือเธอเดินมาจนถึงขั้นนี้ แต่ทว่าเมื่อได้ลองคิดดูดีๆ เป็นเธอที่เรียกร้องให้เขากระทำเช่นนี้เอง เธอเป็นคนเริ่มมันมาเองเพราะอย่างนั้นในยามนี้สิ่งที่เอโลอีสกำลังทำคือการรับผิดชอบคำพูดของตัวเองขาทั้งคู่ถูกแยกออกจากกัน มือใหญ่ช้อนใต้เข่าเพื่อรั้งเรียวขายกขึ้นจนถึงไหล่ แรงปรารถนาซัดสาดไปทุกหนทุกแห่งจนร่างกายสะท้านไหว จริงอยู่ที่ในครั้งแรกนั้นมันมีเพียงความเจ็บปวดเท่านั้นที่ฉายชัดเข้ามาในร่างกาย แต่ทว่าในช่วงเวลาถัดมา เมื่อความเจ็บปวดเริ่มจางหายความรู้สึกสั่นไหวก็เข้ามาแทนที่ ทุกครั้งที่ช่องทางนุ่มๆ ถูกเสียบด้วยความแข็งตึงนั้นความสุขสมอย่างรุนแรงก็แล่นริ้วไปทั่วทั้งร่างดวงตาของลูตินไม่ละไปจากใบหน้าของเอโออีสเลย เขาจ้องมองเธอตลอดเวลา คอยมองดูใบหน้าที่งดงามนั้นอย่างไม่คาดสายตาว่าเธอจะแสดงสีหน้าออกมาแบบไหน“อา..ลึกไปแล้วค่ะ”เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยก่อนจะพรมจูบไปที่ใบหน้าของเธอ“แล้วไม่ชอบรึไง..แบบนี้เสียวกว่าเยอะเลยไม่ใช่เหรอ”ต้นขาด้านในสั่นสะท้าน เอโลอีสได้แต่บิดตัวเร่าเมื่อการสอดแทรกทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ..จะกล่าวออกไปว่าชอบมากมันก็ช่างน่า
นิ้วที่สามซึ่งมันไม่น่าเข้ามาได้ตั้งแต่แรกกำลังขยับเข้าออกในร่างกายของเธอ เอโลอีสส่งเสียงร้องครางออกมาอย่างห้ามไม่ได้ แพรขนตางอนงามเปียกชื้นไปด้วยน้ำตา เธอพยายามร้องขอเพื่อให้เขาหยุด อย่างน้อยก็ช่วยหยุดพักให้เธอหายใจสักหน่อยก็ยังดี แต่ทว่าท่านลูเซียนนอกจากไม่หยุดพัก เขายังทำมันรุนแรงขึ้นอีกต่างหาก“อะ..อ๊า! ได้โปรดหยุดเถอะค่ะ ท่านลูเซียนได้โปรด..ยะ..หยุดก่อน!”สะโพกบางบิดเกร็งทุกครั้งที่มือของเขาเคลื่อนไหว นิ้วเปียกลื่นค่อยๆ ดันเข้ามาทีละน้อย เธอขบเม้มริมฝีปากพร้อมกับพยายามดันสะโพกหนี แต่การประท้วงเล็กๆ น้อยๆ ของเอโลอีสมันไม่เป็นผลเลย เมื่อลูตินใช้มืออีกข้างของเขากอดสะโพกของเธอเอาไว้“อยากให้หยุดอย่างนั้นหรือเอโลอีส”เธอพยักหน้าทั้งน้ำตา พร้อมกับช้อนสายตามองหน้าเขาอย่างน่าสงสาร ลูตินแสยะยิ้มที่มุมปากก่อนที่เขาจะขยับใบหน้าไปกระซิบที่ข้างหูอย่างแผ่วเบา“โกหก..เจ้าจะอยากหยุดได้อย่างไรกันในเมื่อด้านในมันบีบรัดนิ้วข้าแน่นขนาดนั้น..เอโลอีสไม่ต้องเป็นห่วงเพราะเดี๋ยวข้าจะทำให้เจ้ารู้สึกดีมากกว่าการใช้นิ้วเอง”สิ้นเสียงนั้นเขาก็ยกเรียวขาทั้งสองข้างของเธอพาดเอาไว้บนบ่า รอยยิ้มของท่านลูเซียนมันแ
เอโลอีสรู้สึกได้เลยว่าเธอกำลังจะยืนไม่อยู่ ขาแข้งสั่นเทาไปหมด และคาดว่าอีกไม่นานเธอจะต้องล้มลงอย่างแน่นอน ลูตินหรี่ตาลงเล็กน้อยก่อนที่เขาจะอุ้มเธอขึ้นไปบนเตียง “พอไม่ได้สิ..ตรงนี้จะเจ็บมากแน่ๆ หากว่าข้าใส่เข้าไปน่ะ เอโลอีสเพราะว่านี่คือครั้งแรกของเจ้า..ฉะนั้นแล้วจงรับรู้เอาไว้เลยว่าในวันนี้ข้ากำลังพยายามหักห้ามใจของตัวเองอย่างถึงที่สุด” ไม่อย่างนั้นเขาคงจะกางขาเธอออกแล้วกดแทรกมันเข้าไปด้วยความต้องการทั้งหมดที่มีไปแล้วล่ะ “หากไม่อยากเจ็บก็อย่าบอกให้ข้าพอเลยเอโลอีส” เธอหน้าชาวาบเมื่อเขาใช้ปลายนิ้วอ้ากลีบดอกไม้ของเธอออก..เขาจูบตรงปากทางเข้าก่อนที่ปลายลิ้นร้อนผ่าวจะแทรกเข้ามา “อ๊า!!” ของเหลวสีใสไหลทะลักออกมาตามจังหวะของการขยับปลายลิ้น ลูตินละใบหน้าออกจากตรงนั้น เขาใช้ปลายนิ้วลูบไล้ปากทางเข้าอยู่พักหนึ่งก่อนจะกดแทรกมันเข้าไปตรงส่วนที่เปียกชื้นและอ่อนนุ่ม สะโพกของเธอลอยขึ้นในทันทีที่ได้รับสัมผัสอันแสนแปลกใหม่ “อื้อ!..ทะ..ท่านลูเซียนคะ ข้าขอพัก..ขอพักก่อน” ปลายนิ้วของเขาขยับเป็นวงกลมจากนั้นจึงเพิ่มจำนวนนิ้วแล้วเสียดสีตรงจุดเดิมย้ำๆ ราวกับเสียงอ้อนวอนแสนหวานของเอโลอีสเป็นเพีย