LOGINเจตน์เหลือบมองเวลาจากตัวเลขบนระบบดิจิทัลของคอนโซลรถ มีเวลาอีกพอสมควรก่อนถึงช่วงเช็กอินที่สนามบินดังนั้นเขาจึงใช้ความเร็วระดับแปดสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น ส่วนหนึ่งก็ด้วยความระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนน อีกส่วนเขาต้องการพูดคุยกับกริชถึงสาเหตุที่เพื่อนตัดสินใจไปเป็นตัวแทนให้กับท่านศักดาที่มาเก๊าทั้งที่เคยปฏิเสธมาโดยตลอด ถึงจะรู้อยู่แก่ใจว่ากริชทำไปเพื่อแลกกับความช่วยเหลือเมลานีให้รอดพ้นจากความผิด แต่เรื่องราวคาราคาซังของทั้งคู่จะไปต่อในทิศทางไหน
สัญญาณไฟจราจรที่สี่แยกเป็นสีเขียว แต่เจตน์กลับชะลอความเร็วของรถลง ระแวดระวังยิ่งกว่าในยามที่เริ่มต้นติดไฟแดงเสียด้วยซ้ำ พอพ้นแยกมาได้เขาก็เป็นฝ่ายเปิดบทสนทนากับเพื่อนรักที่นั่งเงียบมาตลอดทาง
“มึงคิดว่าจะไปอยู่มาเก๊ากี่ปี”
“ก็คงราว ๆ เกือบสามปี จนกว่าป๋าจะออกจากคุกแล้วมาจัดการกาสิโนด้วยตัวเอง แต่กูก็จะไปดูลู่ทางที่จีนด้วย ทางนี้กูต้องฝากมึงให้ดูแลแทนด้วยนะเจตน์”
“อะไรบ้างล่ะที่มึงจะฝากกูดูแล” ด้วยความที่เป็นเวลาเช้ามืดถนนค่อนข้างโล่ง เจตน์จึงมีจังหวะเหลือบมามองหน้าเพื่อนแถมเลิกคิ้วถามอย่างยียวน
“ชีวิตกูก็เหลือแค่งานอย่างเดียว”
“แล้วน้องเมลล่ะ มึงจะปล่อยเขาไปแบบนี้ใช่ไหม” เจตน์ถามด้วยความสงสัย การที่กริชยอมเอาตัวเข้าไปพัวพันกับอดีตนักการเมืองรุ่นเก๋าทั้งที่กังวลเรื่องความยุ่งยากที่จะตามมาอีกเป็นพรวน ท่านศักดามีอิทธิพลมากก็จริง แต่ศัตรูก็ไม่ใช่น้อย การยื่นจมูกเข้าไปช่วยธุรกิจที่ทำเงินมหาศาลอย่างกาสิโน
กริชอาจจะพลอยโดนหางเลขไปด้วย ธุรกิจสีเทายากที่เจ้าของจะมือสะอาด
คนที่หลาบจำกับคุกตะรางอย่างกริชจึงพยายามที่จะออกห่าง แต่แล้วก็กลายเป็นว่าต้องกระโจนเข้าไปในวังวนอีกครั้งเพราะช่วยเมลานี ผู้หญิงคนนี้ย่อมมีความหมายกับเขามากพอที่จะทำให้ยอมเปลี่ยนจุดยืนในชีวิต เพื่อแลกกับอนาคตของเธอ
สายตาของกริชพุ่งออกไปภายนอกตัวรถ ไฟจากแอลอีดีคู่หน้าที่ถูกแต่งมาอย่างดีก็ยังไม่พอส่องสว่างไปถึงหัวใจที่มืดมิดและอ้างว้างของเขาในยามนี้
“ก็ถือว่าไม่ติดค้างกันแล้ว หลังจากนี้ทางใครทางมัน”
“ทางใครทางมันได้เหรอวะ ในเมื่อทั้งหมดที่มึงทำไปตอนนี้ก็เพื่อช่วยเขาออกมาจากคุก แถมยายจ๋ายังบอกว่ามึงให้ทำเช็คสั่งจ่ายเมลานีตั้งล้านนึง นี่คือมึงไม่คิดอะไรกับน้องเขาเลยใช่ไหม”
“กูแค่รู้สึกผิด”
“เหรอ” เจตน์ลากเสียงยาวแบบไม่เชื่อถือ
ที่ผ่านมาระหว่างเขากับเมลานีเต็มไปด้วยความหลอกลวง ไม่เคยมีความจริง ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม ต่างฝ่ายก็ต่างทำร้ายซึ่งกันและกันจนเกิดเป็นแผลลึก แถมตอนนี้หญิงสาวก็ดูเหมือนเลือกทางชีวิตของเธอเองได้แล้ว กริชไม่สามารถรักน้องสาวของคนที่ทำลายอนาคตของเขาลง ส่วนเมลานีก็คงเกลียดคนที่เป็นสาเหตุให้พี่ชายของเธอตายแถมยังยัดข้อหาให้ติดคุกอีก
“ก็อาจจะมีความสงสารปนอยู่บ้าง แต่กูถือว่าให้จบสิ้นกันแค่นี้ ตอนนี้เด็กเมลานีนั่นเกลียดกู ส่วนตัวกูก็รักเขาไม่ได้ ต่างคนต่างไปคือดีที่สุด”
“ดีกับมึงหรือเปล่าไม่รู้ แต่คงดีกับน้องเมลอยู่เหมือนกัน ทั้งสาวทั้งสวย คงหาผัวใหม่ได้เป็นโขยง” เจตน์หมั่นไส้ความสะดิ้ง ดัดจริตของเพื่อน ทั้งที่ตัวมันเองทุรนทุรายจนแทบดิ้นตายตอนเมลานีถูกขังอยู่ที่โรงพัก ยอมแม้กระทั่งกลืนน้ำลายตัวเองถอนจุดยืนที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจสีเทาและผู้มีอิทธิพลทั้งหลายแหล่ ก็เพียงเพื่อช่วยหญิงสาวคนนั้นออกมา
เมลานีเอาชนะความคั่งแค้นในอดีตของกริชได้หมด สิ่งที่มีอานุภาพมากกว่าความแค้นจะเป็นอะไรถ้าไม่ใช่ความรัก
“กูกับเขาไม่เกี่ยวข้องกันแล้ว วันข้างหน้าเด็กนั่นจะมีใครก็ไม่ใช่เรื่องของกู”
“ให้มันจริงก็แล้วกัน เอาไว้กูจะถ่ายรูปแฟนใหม่น้องเมลส่งไปให้มึงดู เวลาเหงา ๆ คนเดียวที่มาเก๊า”
“ไม่ต้องเพราะคนอย่างกูไม่เคยเหงา”
“ทำไม หรือมึงกลัวทนภาพบาดตาไม่ได้”
คราวนี้เพื่อนตัวดีของเจตน์ไม่ได้ตอบ แต่เลือกตัดบทสนทนาโดยการปรับเบาะโดยสารให้เอนไปด้านหลังจนเกือบสุด ใช้แขนข้างที่ไม่บาดเจ็บเป็นหมอนรองไว้ที่ท้ายทอยและหลับตาลงช้า ๆ
มือที่โดนมีดคัตเตอร์บาดเริ่มระบมและปวดตุบ ๆ จนน่ารำคาญ กริชยกขึ้นมาวางทาบไว้ที่อก ปลายนิ้วสัมผัสกับวัตถุเล็ก ๆ ในกระเป๋า ลูกสนแห่งชัยชนะที่ผู้หญิงคนนั้นเคยให้เขาเป็นของขวัญวันเกิด วันนั้นเมลานียิ้มเจิดจ้า สว่างไสวยิ่งกว่าแสงตะวันเสียอีก
เขาหยิบรองเท้าแตะมาให้เธอใส่เดินบนชายหาดแทนรองเท้าส้นสูงที่หญิงสาวสวมใส่แต่เดิม ฝ่าเท้าบางนิ่มเหมือนเด็กทารก ให้เดินเท้าเปล่าบนทรายละเอียดยังกลัวจะระคาย แต่เขากลับเห็นเธอวิ่งเท้าเปล่าเหยียบเศษแก้ว เศษกระจกจนได้เลือดในคืนที่เมฆาถูกวิสามัญฆาตกรรม
กริชใช้ปลายนิ้วของตนเองเลื่อนมาที่กลางอก สัมผัสถึงสร้อยพระที่ย่าคล้องคอให้ตั้งแต่เด็ก
มันถูกต้องแล้วกับทางเลือกนี้ เขาเองก็ถอยจนสุดทางแล้วเหมือนกัน มากกว่านี้ย่าจะรู้สึกอย่างไรที่หลานชายใจอ่อนกับคนในครอบครัวนั้น...
“มึงอย่ามาหอนทีหลังก็แล้วกันไอ้กริช” เจตน์ได้แต่ทำเสียงจิ๊จ๊ะอย่างขัดใจอยู่ในลำคอแต่ก็ยังดังพอที่จะให้คนที่แกล้งเฉไฉหลับตาได้ยินชัด
กริชปล่อยให้เพื่อนฮึมฮัมในลำคอด้วยความหงุดหงิดต่อไปจนกระทั่งรถที่นั่งมาเริ่มลดความเร็วลงเข้าสู่ถนนภายในสนามบิน และหยุดลงที่จุดจอดรถเพื่อส่งผู้โดยสารขาออก
ชายหนุ่มยกกระเป๋าเดินทางลงจากรถ แล้วหันมาขอบคุณเจตน์ที่มาส่งเขาด้วยตนเองถึงแม้จะเป็นเวลาเช้ามืดที่ควรจะนอนหลับอุตุอยู่บนเตียง น้ำใจที่มีให้กันมาตลอดทำให้เขาซึ้งในตัวเพื่อนคนนี้อย่างที่สุด
“ดูแลตัวเองดี ๆ แล้วกันนะมึง ระวังพวกแก๊งยากูซ่าให้มาก ๆ”
“ยากูซ่านั่นญี่ปุ่นไหม กูไปมาเก๊าเหอะไอ้เจตน์”
“เออกูก็หมายถึงพวก ๆ นั้นแหละ เอาเป็นว่ากูจะให้คาถามึงในการรักษาเอาตัวรอด”
“อะไรวะ”
“เจอมาเฟียให้วิ่งหนี ตีกะหรี่ต้องใส่ถุง”
“ไอ้เปรต หาสาระจากมึงไม่เคยได้” กริชด่าแล้วก็หัวเราะออกมา ถึงจะฟังดูตลกแต่ถ้าทำได้ชีวิตก็ปลอดภัยขึ้นแบบที่เจตน์ว่าจริง ๆ นั่นแหละ
“ท่องให้ขึ้นใจ ถ้าทำได้ มึงได้กลับมาดูหน้าน้องเมลานีกับแฟนใหม่เขาแน่” เจตน์ยังเล่นไม่เลิกทั้งที่เพื่อนเริ่มไม่สนุกด้วย
“ไอ้เจตน์” กริชเสียงเข้มขึ้น
“ว่าไงไอ้กริช” เจตน์ลากเสียงยาน กวนประสาทโดยไม่เกรงใจ
“ต่อไปมึงอย่าพูดชื่อของผู้หญิงคนนี้ให้กูได้ยินอีก”
“ทำไม เกลียดหรือเจ็บ” สายตาของชายหนุ่มทั้งคู่จ้องกันเขม็ง ก่อนที่คนถูกถามจะเป็นฝ่ายหลบไปเสียก่อน
“ถือว่ากูขอร้อง”
เจตน์ไม่ต้องการคำตอบของเพื่อนอีก เพราะความรวดร้าวทั้งหมดฉายชัดอยู่ในแววตาของกริช เขามองตามร่างสูงสมส่วนที่ลากกระเป๋าเดินทางเข้าไปสู่ตัวอาคารสนามบินด้วยความเห็นใจและก็ขัดใจจนต้องเป่าลมหายใจออกมาทางปาก ครู่ต่อมาก็สตาร์ตรถและขับออกไปจากอาคารส่งผู้โดยสารสู่ถนนเส้นหลักเพื่อกลับไปทำหน้าที่อีกอย่างของตนให้จบสิ้นเช่นกัน
Special Talk : พี่กริชถ้าช่วงชีวิตของคนเราจะมีเพลงประจำของมันอยู่ ชีวิตผมก็คงเริ่มด้วยเพลงบลูส์อันแสนเศร้าสร้อย...ผมจึงใช้มันเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดในใจ และทุกครั้งที่ผมขึ้นไปร้องเพลงบนเวที ผมจะเห็นเด็กสาวแสนสวยคนหนึ่งที่นั่งมองผมอยู่เงียบ ๆ ท่ามกลางผู้คนที่แต่งตัวมาประชันกันในบาร์ราคาแพงสายตาของผมกลับกวาดไปตกลงที่เธอเท่านั้นผมจำเธอได้ดี แม้วันนี้เธอจะไม่ใช่เด็กน้อยผมเปียแต่เติบโตเป็นหญิงสาวสวยสะพรั่ง ผมรอให้เธอเข้ามาหาเพื่อขอโทษกับสิ่งที่ทำร้ายผมในอดีต แต่เธอก็ไม่ได้ทำแบบนั้น นานวันเข้าจากที่เคยชินก็กลายเป็นผมที่เฝ้ารอให้เธอมานั่งฟังเพลงที่นี่ทุกคืน...และผมก็เลือกที่จะลงมือจัดการเธอผมเริ่มเกมด้วยความแค้นในจุดเริ่มต้น และเข้าสู่เส้นชัยด้วยความว่างเปล่าสามปีในมาเก๊า ผมอยู่กับความถวิลหาที่ไม่อาจเติมเต็ม แล้วกลับเมืองไทยอย่างคนไร้ชีวิตจิตใจ อุทิศพลังทั้งหมดเพื่อทำงาน ซมซานกลับไปโดดเดี่ยวในคอนโดหรูที่แสนเวิ้งว้างจนกระทั่งวันที่ผมได้ยินเสียงรับโทรศัพท์ของโอเปอเรเตอร์คนใหม่ ผมจึงเข้าใจว่าทำไมผมถึงเฝ้ามองหาเงาใครบางคนท่ามกลางฝูงชนอยู่ตลอดเวลาผมหันหลังไปยืมกีตาร์จากนักดนตรีในงานไมเนอร์
โซ่รักตอนพิเศษ โซ่รักวันเกิดของกริชเวียนกลับมาครบรอบอีกครั้งหนึ่ง ทุกคนต่างโหวตเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากไปทะเลอีกครั้งเพราะติดใจวิลลาริมทะเลที่เคยไปในอดีต ป้าละไมขออยู่เฝ้าบ้านเพราะกำลังติดซีรีส์อินเดียอย่างหนักหน่วง เจ้าของวันเกิดผู้เป็นทาสเมียและทาสลูกสาวโดยสมบูรณ์จึงไม่อิดออดที่จะเอาใจสองสาวต่างวัย เพียงแต่ระหว่างทางเขาพาทั้งเมลานี และหนูพายแวะที่วัดแห่งหนึ่งก่อน“แวะที่นี่ก่อนนะคะหนูเมล” จังหวัดเดิมที่เคยอาศัยเป็นทางผ่านก่อนไปทะเล และกริชตั้งใจพาลูกสาวกับเมลานีมาที่นี่อยู่แล้ว จึงถือโอกาสพิเศษนี้แวะเสียเลย“ไหว้พระเหรอคะ”“ค่ะ พี่เตรียมสังฆทานใส่รถมาแล้วด้วย ความจริงตั้งใจจะมาที่นี่ในวันเกิดนั่นแหละ อยากมาทำบุญ”“ทำไมไม่บอกล่ะคะ เมลจะได้ช่วยเตรียมของ” เมื่อเปิดท้ายรถก็พบว่าชายหนุ่มเตรียมเครื่องสังฆทานกล่องใหญ่มาแล้ว เขาเลือกของด้วยตัวเองแล้วนำมาใส่กล่องใส ไม่ใช่สังฆทานสำเร็จรูปที่มักจะใส่กระป๋องสีเหลืองตามแบบที่ร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์มักจะทำกัน“ครั้งหน้านะคะ เมื่อคืนวานพี่เห็นเมลเหนื่อย หมดเรี่ยวหมดแรงก็เลยสงสารไม่อยากกวน” เขาว่านัยน์ตาเยิ้ม สื่อความนัยที่เขาและเมลานีเท่านั้นถึง
ซ่อน 2“งั้นมีรางวัลให้ผัวที่น่ารักคนนี้ไหมล่ะคะ” เสียงห้าวแหบพร่าแต่แววตาของเขากลับเปิดเปลือยความต้องการอันร้อนแรงขึ้นมาทันที ฝ่ามือร้อนผ่าวอีกข้างถลกกระโปรงทรงเอสั้นแค่เข่าของหญิงสาวขึ้นมาแล้วประกบมือลงไปบนเนินเนื้อสามเหลี่ยมอวบอิ่ม บีบเคล้นเบา ๆ แบบจาบจ้วงแต่ก็เร้าใจ“พี่กริช เดี๋ยว” เมลานีเสียงสั่นเมื่อเขาบีบเคล้นที่ความเป็นหญิงของเธออย่างเอาแต่ใจ แต่แล้วก็ต้องซบหน้าลงกับอกและใช้มือจิกไหล่กว้างไว้เป็นหลักยึดเมื่อถูกนิ้วเรียวยาวกรีดลงไปในร่องเนื้ออันไวต่อสัมผัส เมื่อพบติ่งเนื้อนิ้วสากระคายก็กดคลึงหมุนวนจนเรียกน้ำชุ่มฉ่ำออกมาได้สำเร็จ“ดื้อกับพี่นัก คนดื้อต้องถูกลงโทษให้หนัก”“อ๊ะ” ความเสียวแปลบเกิดขึ้นทันทีที่ชายหนุ่มสอดนิ้วเข้ามาในช่องทางที่ชุ่มฉ่ำ เขาหงายมือและงอนิ้วขึ้นด้านบน ควงคว้านจนเจอกับจุดที่ทำหญิงสาวครางกระเส่า จากนั้นจึงเพิ่มจำนวนนิ้วสอดเข้าไปเพื่อจัดการกับคนดื้อ ช่องทางของเธอแม้จะชุ่มฉ่ำแต่ก็ยังคับแน่นจนอึดอัด ชวนให้อยากจะเอาตัวตนของเขาสอดใส่เข้าไปแทนที่ในตอนนี้ให้รู้แล้วรู้รอดเมลานีเสียวซ่านไปทั้งสรรพางค์กาย เลื่อนมือข้างหนึ่งมารั้งข้อมือที่รังแกเธอไม่หยุดหย่อนไว้ แต
ซ่อน 1ตั้งแต่ย้ายไปบ้านหลังที่เตรียมไว้ ข้าวของต่าง ๆ ของเมลานีและหนูพายรวมถึงป้าละไมเพิ่งย้ายเสร็จเรียบร้อย ส่วนกริชที่ข้าวของส่วนตัวของเขาน้อยมาก กลายเป็นเมลานีต้องคอยดูคอยซื้อหาเสื้อผ้าใหม่ ๆ ให้กับเขาอยู่เสมอ พอเธอถามเขาก็บอกว่าขี้เกียจเก็บของจากคอนโดเก่า แต่จริง ๆ หญิงสาวเคยแวะไปที่คอนโดของเขาก็ไม่ได้มีเสื้อผ้าเครื่องใช้เหลืออยู่เท่าไรนัก และด้วยความที่มัวแต่วุ่นวายกับการตกแต่งบ้านหลังใหม่ เมลานีจึงเพิ่งมีโอกาสที่จะเข้าไปเก็บของให้หมดเสียที เพราะรู้ว่ากริชเองก็มัวแต่ยุ่งกับการขยายสาขาหญิงสาวหยิบคีย์การ์ดของคอนโดจากลิ้นชักที่โต๊ะเครื่องแป้งเพื่อเตรียมไปเก็บของให้เขา คอนโดของกริชทำเลดี และราคาแพงลิบลิ่ว เมลานีเคยเสนอให้เขาปล่อยเช่าหากไม่ต้องการอยู่ด้วยตนเอง แต่ชายหนุ่มอ้างว่ากลัวคนเช่าจะทำให้คอนโดของเขาเละเทะ และกริชก็ตั้งใจจะเก็บไว้เป็นสมบัติของลูกเสียมากกว่า“พี่กริชคะเมลกำลังออกไปเก็บของที่เหลือในคอนโดให้นะคะ” หลังจากสตาร์ตรถและขับมาได้ครู่หนึ่งหญิงสาวก็โทรแจ้งเจ้าของสินทรัพย์ให้ทราบ“ฮะ ไม่ เมลไม่ต้องไป” ปลายสายดูร้อนรนขึ้นมาทันทีจนหญิงสาวแปลกใจ“ทำไมคะ ก็ในเมื่อพี่กริชยุ่ง
ผมเปียตั้งแต่ฝึกฝนถักเปียกับสายไฟอยู่พักใหญ่จนมั่นใจว่าถูกต้อง กริชก็เริ่มลองถักผมยาวเหมือนแพรไหมของเมลานี ครั้งแรก ๆ เขาเกร็งมากเพราะกะน้ำหนักมือไม่ถูก กลัวจะทำให้หนังศีรษะของภรรยาหลุดติดมือมาด้วย แต่เมลานีก็คอยสอนคอยบอกจังหวะ ไม่นานเขาก็ถักเปียได้สวยและเป็นระเบียบจนอยากจะลองถักให้ลูกสาวดูบ้างพอได้ทำ ก็กลายเป็นกิจวัตรที่ทุกวันมานี้กริชจะต้องถักผมเปียให้หนูพายทุกเช้าก่อนไปโรงเรียน เวลาลูกและเมียชมว่าทำได้สวย เขาภูมิใจกับมันมากกว่าการได้รับรางวัลนักบริหารดีเด่นของวงการยานยนต์เสียอีก“สวยสุด ๆ ไปเลยลูกสาวพ่อ”“พ่อกิด ไม่ใช่แบบนี้ โน โน” หนูพายเอียงศีรษะข้างซ้ายที ข้างขวาที แล้วไปเขย่าแขนคนเป็นพ่อให้จัดการแก้ไข“อะไรคะ”“ไม่สวย จะเอาแบบที่คุณแม่ทำให้ค่ะ”“แต่ปกติพ่อก็ถักเปียแบบนี้ให้นี่คะลูก” กริชบอกอย่างเอาใจลูกสาวตัวน้อยในชุดนักเรียน“หนูชอบแบบใหม่มากกว่าค่ะ” หนูพายทำปากยื่น “พ่อกิด ทำใหม่ค่ะ”“ทำ...ทำแบบไหนดี” คนเป็นพ่อเริ่มเลิ่กลั่ก กว่าเขาจะสำเร็จวิชาถักเปียก็เสียสายไฟไปหลายขด หนูพายกลับเบื่อเปียของเขาเสียง่าย ๆ กลัวเหลือเกินว่าไอ้แบบใหม่ที่ลูกสาวว่ามันจะทำให้เขาต้องกุมขมับและซื้อ
บ้านใหม่ 1กลิ่นดอกโมกหอมอ่อน ๆ โชยกรุ่นทำให้อากาศยามเช้ายิ่งสดชื่น สนามหญ้าเขียวสบายตาที่ถูกดูแลอย่างดีมีละอองน้ำจากหยาดฝนที่เพิ่งทิ้งช่วงไปตอนเช้ามืดพร่างพรมไปทั่วครั้งหนึ่งกริชไม่ชอบบ้านเพราะพื้นที่กว้างขวางทำให้คนตัวคนเดียวอย่างเขายิ่งโดดเดี่ยว แต่พอรู้ว่ามีความรักและมีลูกสาว เขาก็ซื้อบ้าน ซื้อไว้รอตั้งแต่เมลานีบอกให้เขาตัดใจใต้ต้นสนริมทะเลเขาซื้อบ้านที่มีสนามหญ้ากว้างไว้ให้ลูกวิ่งเล่น และปลูกต้นโมกที่ลูกสาวเคยมอบให้ตั้งแต่วันแรกที่เจอกันไว้รอบรั้ว ตกแต่งบ้านตามความชอบที่เมลานีเคยเพ้อฝันให้ฟังในสมัยเธอยังเป็นนักศึกษา ถ้าหลังกลับมาจากมาเก๊า เขาทุ่มเททุกอย่างเพื่อสร้างไพน์กรุ๊ป หลังกลับมาจากทะเลอย่างเจ็บปวดแสนสาหัสวันนั้น เขาก็อุทิศความหวังทั้งหมดลงมาที่บ้านหลังนี้ สร้างมันทีละส่วนอย่างตั้งใจ เหมือนกับที่เขารอคอยเมลานีอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คล้ายหวังอยู่ลึก ๆ ว่าเขาจะได้มีโอกาสเปลี่ยนบ้านที่เป็นแค่โครงสร้างให้กลายเป็นบ้านที่หมายถึงครอบครัวอย่างแท้จริงและเมื่อวันนั้นมาถึง หญ้าก็เขียวขจี ดอกโมกก็ส่งกลิ่นหอมขจรขจาย…กริชจรดศีรษะลงหอมแก้มนุ่มของลูกสาวตัวน้อยที่ขอแยกห้องนอนไปแล้ว เมื่อ


![สมิงดำ [มาเฟียร้ายรัก]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)




