Share

บทที่ 4

Penulis: ซูซี
เซบาสเตียนตามหาซาบริน่ามาหนึ่งเดือนแล้ว

เมื่อเขาคิดว่าคงตัดสินใจผิดพลาดไป และซาบริน่าไม่ได้มีมลทินหรือมีเรื่องเสื่อมเสียตามรายงานการสืบสวนของเขา เธอก็กลับมาปรากฏตัวเป็นพนักงานเสิร์ฟที่อยู่ด้านนอกห้องนี่ และกำลังทำงานทุ่มเทเป็นพิเศษให้กับเขา

เขาประเมินเธอต่ำไปจริง ๆ

“ผู้อำนวยการฟอร์ด… นี่มันเรื่องอะไรกัน?” ผู้จัดการร้านอาหารที่มากับเซบาสเตียนตัวสั่น เมื่อมองมาที่เขา

“เธอมาอยู่ที่นี่มานานแค่ไหนแล้ว?” เซบาสเตียนมองผู้จัดการอย่างเย็นชา

“ดะ… เดือนนึงแล้วครับ” ผู้จัดการตอบกลับอย่างติดขัด

หนึ่งเดือน!

เมื่อหนีมาจากตระกูลฟอร์ด จริง ๆ และไม่ได้จะพยายามหลบหนี เธอเพียงแค่ต้องการเพิ่มราคาของตัวเธอเอง

บ้าเอ้ย!

ซาบริน่ามองเซบาสเตียนด้วยความขุ่นเคืองและรู้สึกผิด

โลกแคบขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย?

“ฉันไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณพูด ปล่อยฉันนะ! ถ้าไม่ปล่อยฉัน ฉันจะโทรแจ้งตำรวจ” เธอพยายามอย่างหนักที่จะให้ตัวเองหลุดพ้นจากเงื้อมมือของเซบาสเตียน แต่เธอไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลย

ซาบริน่าเริ่มเจ็บปวดมากขึ้นจนมีเหงื่อบาง ๆ เริ่มก่อตัวบนหน้าผากของเธอ

ผู้จัดการตำหนิซาบริน่าด้วยความตกใจ “ไลลา ยัง มันจะมากเกินไปแล้วนะ!”

เซบาสเตียนยิ้มเยาะ “ไลลา ยัง เหรอ? เธอปกปิดความจริงที่ว่าเธอเพิ่งออกจากคุกโดยเปลี่ยนชื่อเป็น ไลลา ยัง อย่างนั้นสินะ?”

ในขณะนั้น หัวหน้าของชั้นทั่วไป เด็กผู้หญิงคนเดียวกับที่ขอให้ซาบริน่าเข้ามาช่วยแทนที่เธอ รีบวิ่งเข้ามา แต่ก็กลัวเกินกว่าที่จะพูด

ซาบริน่าอยู่ในความสิ้นหวัง

เธอเหลือเวลาอีกแค่เพียงสองวัน ในการรวบรวมเช็คเงินเดือนในเดือนนี้

อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างก็พังทลายลงอีกครั้ง

“ทำไมคุณถึงไม่ยอมปล่อยฉันไปใช้ชีวิตที่เหลือของฉันล่ะ? ทำไม?!” เธอเหมือนถูกเข้าใจผิดอะไรบ้าง ดวงตาของเธอเริ่มมีน้ำเอ่อล้นในทันทีด้วยความโกรธ เธอยกแขนขึ้นและกัดไหล่ของเซบาสเตียน เซบาสเตียนรู้สึกเจ็บปวดอย่างกะทันหัน ดังนั้น เขาจึงปล่อยมือที่จับเธอออก ซาบริน่าหันหลังวิ่งออกไป

เธอไม่สามารถต่อสู้กับใครได้ ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงแค่วิ่งหนี

เมื่อเซบาสเตียนเริ่มรู้สึกตัวในที่สุด ซาบริน่าก็วิ่งออกจากร้านอาหารและขึ้นรถประจำทางไปอย่างรวดเร็วแล้ว เธอลงจากรถหลังจากหยุดไปสองสามป้าย

เมื่อเดินไปตามถนน เธอก็เริ่มโวยวายอย่างควบคุมอารมณ์ไม่ได้

เธอไปอยู่ในเรือนจำแทนเซลีนเป็นเวลาหนึ่งเดือน ชายหนุ่มที่ตายไปแล้วได้พรากเอาความบริสุทธิ์และครั้งแรกที่มีค่าของเธอไปอีก และในที่สุดก็ออกจากคุกมาด้วยความยากลำบากอย่างมาก แต่เธอก็ไม่ได้พบแม่ของเธออีกเลย

เธอยังโชคร้ายไม่พออีกเหรอ?

ชายหนุ่มชื่อฟอร์ดคนนี้เป็นปีศาจจากนรกขุมไหนกัน? ทำไมเขาถึงตั้งใจจะไม่ปล่อยเธอไป?

ทำไม?!

เป็นเพราะเธอเพิ่งออกจากคุกและไม่มีใครให้พึ่งพิง ดังนั้น จึงเหมาะกับการถูกรังแกอย่างนั้นเหรอ?

ซาบริน่าสะอื้นจนท้องไส้ปั่นป่วน ในท้ายที่สุด เธอนั่งยอง ๆ อยู่ริมถนนและอาเจียนออกมาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เธออาเจียน คือของเหลวที่เป็นกรดสีเขียวเพราะเธอไม่ได้กินอะไรเลย

หญิงคนหนึ่งที่เพิ่งผ่านไป มาตบหลังเธอเบา ๆ แล้วพูดว่า “สาวน้อย คุณดูเหมือนจะมีอาการของคนที่ท้องอ่อน ๆ อย่างนั้นแหละค่ะ?”

“ท้องอ่อน ๆ?” ซาบริน่าตัวสั่น

เมื่อเร็ว ๆ นี้เธอรู้สึกคลื่นไส้อยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่เคยคิดเลยว่าเธออาจจะท้องได้ หลังจากได้รับการเตือนจากผู้หญิงคนนั้น เธอก็นึกขึ้นได้ว่าคืนนั้นผ่านไปมากกว่าหนึ่งเดือนแล้ว

เธอมาที่โรงพยาบาลด้วยความตื่นตระหนก และถือเงินเพียงไม่กี่สิบดอลลาร์ที่มีอยู่ในมือของเธอ มันยังไม่เพียงพอที่จะทำการทดสอบใด ๆ ด้วยซ้ำ

แพทย์ให้แผ่นทดสอบกับซาบริน่าเพื่อตรวจปัสสาวะ

สิบนาทีต่อมา หมอก็ยืนยันว่า “คุณกำลังตั้งครรภ์”

ซาบริน่าชะงักไปครู่หนึ่ง “ไม่ ฉันไม่สามารถตั้งครรภ์ได้”

“ท้องได้ก็แท้งได้ครับ” หมอพูดอย่างเย็นชา แล้วมองออกไปข้างนอก

“คนต่อไป”

ซาบริน่าเดินออกมาจากห้อง นั่งคนเดียวบนม้านั่งของโรงพยาบาล และรู้สึกหมดหนทาง

“อย่าร้องไห้… อย่าร้องไห้ เช็ดน้ำตา” เสียงที่พูดพล่ามและน่ารักปรากฏขึ้นต่อหน้าซาบริน่า เธอเงยหน้าขึ้น และเห็นเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ยังสวมผ้าอ้อมยืนอยู่ตรงหน้าเธอ

เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ยกมือเล็ก ๆ ที่อวบอ้วนของเธอ ขณะที่เธอต้องการเช็ดน้ำตาของซาบริน่า แต่เธอเอื้อมไม่ถึง เธอจึงตบขาของซาบริน่าอีกครั้งเพื่อปลอบโยนเธอแทน สาวน้อยคนนี้ทำให้หัวใจของซาบริน่าละลายในทันที

“ขอโทษด้วยนะคะ ลูกของฉันเป็นเด็กที่มีอัธยาศัยดี และมีความรู้สึกทางอารมณ์ค่อนข้างเยอะ” คุณแม่ยังสาวยืนตรงข้ามกับซาบริน่าและยิ้มให้

“ลูกสาวของคุณน่ารักมากเลยนะคะ” ซาบริน่าตอบอย่างสุภาพ

เธอมองด้วยความอิจฉาไปที่แม่และลูกสาว ขณะที่พวกเขาเดินจากไป เธออดไม่ได้ที่จะสัมผัสไปที่หน้าท้องส่วนล่างของเธอ เธอไม่มีครอบครัวแล้ว ทารกในท้องเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขเพียงอย่างเดียวของเธอ

ความรู้สึกปิติและความคาดหวังในการเป็นแม่มือใหม่แล่นไปทั่วทั้งตัวของเธอ

อย่างไรก็ตาม เธอจะสามารถเลี้ยงดูลูกน้อยได้อย่างไร?

เธอไม่สามารถแม้แต่จะทำแท้งได้ด้วยซ้ำ

เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น ซาบริน่ามีความคิดแวบเข้ามาในการเห็นความหวัง เธอมาที่เรือนจำและขอร้องผู้คุม “ฉันขอพบป้าเกรซได้ไหมคะ?”

เมื่อซาบริน่าเข้ามาในเรือนจำเป็นครั้งแรก เกรซ ซัมเมอร์ ก็อยู่ในเรือนจำมาหลายปีแล้ว เกรซดูแลซาบริน่าและช่วยชีวิตเธอจากปัญหาต่าง ๆ มากมาย เธอไม่รู้ภูมิหลังของเกรซ แต่เธอสามารถบอกได้ว่าเกรซรวยมาก

ในทุกเดือน ผู้ที่มาเยี่ยมเธอจะนำอาหารและเงินสำหรับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ มาให้เธอ เมื่อเธอได้รับการปล่อยตัว เกรซมอบเงินสองสามร้อยดอลลาร์ให้กับซาบริน่า ขณะที่เธอยังอยู่ในนั้น

“เกรซ ซัมเมอร์ ได้รับการปล่อยตัวออกไปเดือนกว่าแล้ว” ผู้คุมกล่าวขณะคำนวณเวลา

“อะไรนะ?” ซาบริน่าประหลาดใจ

“คุณคือซาบริน่า สก๊อตต์ ใช่ไหม?” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ถามขึ้น

ซาบริน่าพยักหน้า “ใช่ ฉันเอง”

“เกรซทิ้งเบอร์ไว้ให้คุณตอนที่ได้รับการปล่อยตัว วันที่คุณถูกปล่อยตัว มีรถหรูมาพาคุณไป ฉันตะโกนเรียกคุณแล้ว แต่คุณคงไม่ได้ยิน” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยื่นหมายเลขโทรศัพท์ให้ซาบริน่า

“ขอบคุณค่ะ”

สองชั่วโมงต่อมา ซาบริน่าก็อยู่ในตึกผู้ป่วยวีไอพี ที่โรงพยาบาลเอกชนระดับหรูในเซ้าท์ซิตี้ เธอเห็นเกรซ ซัมเมอร์ เพื่อนร่วมห้องขังของเธอ

ดวงตาของเกรซห่อเหี่ยวเล็กน้อยขณะที่เธอนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย อย่างไรก็ตาม ผมหงอกของเธอดูนิ่มนวลและสวยงาม

ซาบริน่าสามารถบอกได้เลยว่า เมื่อเธอยังเป็นเด็กสาว เธอต้องเป็นคนที่สวยมากแน่ ๆ แต่ซาบริน่าไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงถูกคุมขังแบบนั้น

“ป้าเกรซคะ ?” ซาบริน่าเรียกเบา ๆ

เกรซค่อย ๆ ลืมตาขึ้น เมื่อเธอเห็นซาบริน่า เธอตื่นเต้นมากจนเริ่มไออยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็สงบลงและพูดขึ้น “ซาบริน่า ในที่สุดป้าก็ได้เจอหนู ป้าขอให้เด็กเหลือขอนั่นพาหนูมาหา แต่เขาก็เอาแต่บอกว่าหนูกลับไปบ้านเกิดของหนูแล้ว ในที่สุดวันนี้หนูก็กลับมาแล้ว ป้าดีใจที่หนูกลับมานะ”

“หนูเพิ่งกลับมาจากบ้านเกิดน่ะค่ะ ป้าเกรซ” ซาบริน่าช่วยปกปิดเรื่องโกหก เธอรู้ว่าเด็กเหลือขอที่เกรซพูดถึง ต้องเป็นลูกชายของเธออย่างแน่นอน

ในที่สุดซาบริน่าก็เข้าใจว่าทำไมเธอจึงพ้นผิดได้ก่อนหน้านี้ เป็นเพราะลูกชายของเกรซใช้ความพยายามอย่างมากในการพาเธอออกไป

ความจริงที่ว่าพวกเขาเต็มใจที่จะช่วยเธอออกไปนั้นค่อนข้างดีอยู่แล้ว แต่พวกเขาจะยอมให้เกรซมีเพื่อนแบบเธอ ซึ่งพวกเขาเป็นครอบครัวที่ร่ำรวยแบบนี้ได้ยังไง?

การโกหกที่บอกกับเกรซเกี่ยวกับการที่เธอกลับบ้านเกิดของเธอนั้น ไม่ได้มากเกินไปเลย

“ป้าจะไม่มีวันลืมว่าจริง ๆ แล้ว ป้าจะอยู่ได้ไม่นานขนาดนี้ ถ้าหากไม่มีหนูอยู่ในคุก และป้าคงจะไม่ได้พบกับลูกชายของป้าอีก” เกรซซาบซึ้งมากเสียจนร้องไห้ออกมา

ซาบริน่าส่ายหัว “อย่าพูดแบบนั้นเลยนะคะป้าเกรซ ตอนที่หนูดูแลป้า หนูไม่ได้คาดหวังอะไรตอบแทนเลย … ”

เธอกำลังคิดว่า 'ฉันจะขอยืมเงินจากป้าเกรซที่กำลังป่วยหนักอย่างนี้ได้อย่างไรกัน?'

เธอกัดริมฝีปากและพูดด้วยความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าไปว่า “ป้าเกรซคะ หนูรู้ว่าหนูไม่ควรบอกป้าในตอนนี้ แต่หนูไม่มีทางเลือกจริง ๆ หนู… ”

“เกิดอะไรขึ้น? ตอนนี้หนูอยู่เคียงข้างป้าแล้ว ถ้ามีปัญหาอะไรก็บอกป้าได้นะ” เกรซถาม

“ป้าเกรซคะ ป้าช่วย… ให้หนูยืมเงินหน่อยได้ไหมคะ?” ซาบริน่าก้มหน้าลงต่ำ เธอไม่กล้ามองเธอ

“เธอต้องการเท่าไหร่? ฉันจะให้เธอเอง” เสียงอ่อนโยนที่สามารถได้ยินมาจากข้างหลังเธอ

ซาบริน่ารีบหันศีรษะไป และตกใจมากจนพูดไม่คล่อง “เป็นคุณได้ยังไง?”
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 330

    คิงส์ตัน มาร์คัส และ ซาบริน่าต่างตกตะลึงมาร์คัสพยายามปกป้องซาบริน่าที่อยู่ข้างหลังของเขา ขณะที่มองเซบาสเตียนอย่างสยองขวัญ “เซบาสเตียน...ถ้านายมีปัญหาอะไร เข้ามาหาฉัน อย่าแตะต้องซาบริน่า เพราะยังไง เธอก็เป็นแม่ของลูกนายนะ“ถ้า...นายอยากจะฆ่าใครสักคน ให้มันเป็นฉันเถอะนะ”เซบาสเตียนไม่ตอบ เขาเพียงแค่ถอดเนกไทและปลดกระดุมเสื้อของเขาออก ในชั่วขณะนั้น ร่างที่กำยำของเขาก็สัมผัสกับมาร์คัสจากนั้น เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ว่า “นายกำลังคิดอะไรอยู่? รถค่อนข้างอับชื้น ฉันก็เลยรู้สึกร้อนเฉย ๆ ดังนั้น ฉันจึงแกะกระดุมเพื่อให้เย็นลงเล็กน้อย”มาร์คัสรู้สึกโล่งใจ “อ๋อ...เซบาสเตียน นาย...คอของนาย ได้รับบาดเจ็บได้ยังไง?“อ๋อ ฉันได้รับบาดเจ็บจากแมวป่า” เซบาสเตียนตอบอย่างไม่ใส่ใจทั้งคิงส์ตันและซาบริน่ายังคงถูกแช่แข็งอยู่กับที่ใบหน้าของซาบริน่าเปลี่ยนเป็นสีแดงจนเธอละสายตาจากทุกคนที่นั่น และมุ่งความสนใจไปที่การลูบผมของไอโนะลิ้นของคิงส์ตันผูกเป็นปมในขณะคิดกับตัวเอง'นายน้อย คุณไม่ใช่คนโกหกเก่งเลย แมวป่าพันธุ์ไหนที่ทิ้งร่องรอยของฟันไว้ได้''แม้ว่าจะเป็นแมวป่า แต่คุณไม่รู้หรือว่าแมวและมนุษย์ม

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 329

    “ฉันจะไม่ทำแบบนั้นอีก“ถ้าในอนาคตเธอต้องการเงิน ไม่ว่าจะมากขนาดไหน เธอก็มาหาฉันได้เสมอ“อย่าปล่อยให้ตัวเองต้องทนทุกข์เพียงลำพังซาบริน่ารับนามบัตรโดยกล่าวว่า “ขอบคุณค่ะ นายน้อยชอว์”ความจริงแล้ว เธอไม่อยากรับนามบัตร แล้วเธอจะรับไปเพื่ออะไร? ซาบริน่าและลูกสาวของเธออยู่กับเซบาสเตียนแล้ว ดังนั้น พวกเขาจึงไม่ต้องกังวลเรื่องเงินอีกในอนาคต นอกจากนี้ เธอยังได้งานทำแล้ว ซึ่งเธอตัดสินใจที่จะอุทิศเวลาของเธอและสร้างเนื้อสร้างตัวเธอไม่จำเป็นต้องพึ่งพาใครอีกต่อไปแต่เมื่อเห็นว่ามาร์คัสเคยช่วยเธอมาก่อน เธอไม่ต้องการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของมาร์คัสด้วยการปฏิเสธนามบัตรไปขณะที่เธอกำลังเอื้อมมือไปหยิบการ์ดนั้น ก็มีรถจอดอยู่ข้างหลังทั้งคู่ มาร์คัสและซาบริน่าต่างหันความสนใจไปที่รถท่าทีของซาบริน่าเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันเหตุใดจึงเป็นเรื่องบังเอิญที่เซบาสเตียนกลับมาถึงบ้านในขณะนั้น?ด้วยเหตุผลบางอย่าง ซาบริน่ากลัวว่าภาพก่อนหน้านี้จะทำให้เซบาสเตียนหึง แต่หลังจากคิดถึงเรื่องนี้แล้ว เธอก็ตระหนักว่ามันไม่สมเหตุสมผลเลยที่เซบาสเตียนจะรู้สึกแบบนั้นซาบริน่าคิดมากไปคนแรกที่ลงจากรถคือคิงส์ตัน เมื่อเห็นมาร

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 328

    มาร์คัสถึงกับพูดไม่ออกเขาไม่รู้จะปลอบเด็กสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาอย่างไร เขาได้แต่แบ่งปันความเจ็บปวดของเธอในใจ ในขณะนั้นเอง ฝนก็เริ่มตกราวกับว่ามีใครให้สัญญาณฝนเริ่มตกหนักขึ้นภายในไม่กี่วินาทีซาบริน่ายกแขนขึ้นเพื่อกันศีรษะจากฝน แต่มาร์คัสดึงเธอเข้าไปในล็อบบี้ของอาคารชั้นหนึ่งทันทีขณะที่ทั้งสองตั้งสติ มาร์คัสหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วกดหมายเลข “ซินดี้ ช่วยฉันเอาเอกสารไปที”ซาบริน่าไม่พูดอะไรมาร์คัสไม่ได้ตั้งใจที่จะขึ้นไปข้างบนเหรอ? ทำไมเขาถึงเรียกใครบางคนมาที่นี่เพื่อรับเอกสารไปแทน?ไม่นานหลังจากนั้น หญิงสาวสวยในชุดอย่างมืออาชีพและรองเท้าส้นสูงก็มาถึงล็อบบี้ มาร์คัสจึงส่งเอกสารบางส่วนให้กับผู้หญิงคนนั้นและสั่งว่า “บอกผู้อำนวยการของเธอว่าฉันจะไม่ขึ้นไปชั้นบน มีบางอย่างที่ฉันต้องจัดการที่นี่”“ค่ะ ผู้อำนวยการชอว์” หญิงสาวตอบด้วยรอยยิ้มก่อนจะเดินกลับขึ้นไปชั้นบนมาร์คัสหันมาสนใจซาบริน่าอีกครั้ง “เธอจะไปไหน? เดี๋ยวฉันจะไปส่ง”ซาบริน่าไม่รู้จะตอบอย่างไร เธออยากกลับบ้านหลังจากชะงักเล็กน้อยเธอก็เริ่มพูดอีกครั้ง “ไม่จำเป็นหรอกค่ะ นายน้อยชอว์ ฉันไปเองได้”มาร์คัสยิ้ม “เธอกำลังจ

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 327

    ความสัมพันธ์ที่ซาบริน่ามีกับครอบครัวลินน์เป็นความทรงจำที่เจ็บปวดสำหรับเธอเสมอมา มันเป็นรอยแผลเป็นที่เธอไม่อยากเปิดเผย อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่เรื่องน่าอายแต่อย่างใดแม้ว่ามาร์คัสจะเชื้อเชิญ แต่ซาบริน่าก็ไม่ได้ไปร้านกาแฟกับเขา ตอนนี้ ทั้งสองคนยืนอยู่บนถนนสายหลักนอกทางเข้าบริษัท ซาบริน่าตั้งใจที่จะเล่าเรื่องราวอย่างง่าย ๆ ที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอกับครอบครัวลินน์ เพราะเธอต้องการกลับบ้านโดยเร็วเพื่อจะได้รู้ว่าไอโนะทำอะไรลงไปที่บ้านตระกูลฟอร์ด“ตอนอายุน้อยกว่าสิบสองปี ฉันอาศัยอยู่ในบ้านเกิดของฉัน ซึ่งอยู่ในเขตชานเมืองของเมืองเล็ก ๆ พ่อแม่ของฉันอาศัยอยู่ที่นั่นโดยปลูกผักครัวเรือน ในช่วงที่ซบเซา พ่อของฉันก็จะไปเป็นคนส่งสินค้าให้โกดังด้วย“ตอนที่ฉันอายุได้สิบขวบ ตอนที่พ่อของฉันทำงานอยู่ที่โกดัง เขาถูกของบางอย่างตกใส่เขา ของทับจนเสียชีวิต ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น แม่ของฉันป่วยและไม่อาจรักษาหายได้ตลอดทั้งปี“หลังจากนั้น เธอก็ไม่ดีขึ้นเลย และร่างกายของเธอก็อยู่ในสภาพที่เปราะบางอยู่เสมอ“แต่เพราะฉันเรียนเก่ง แม่ของฉันอยากให้ฉันเรียนต่อ สองปีต่อมา เธอพาฉันมาที่เมืองเซ้าท์ ซิตี้“นั่นเป็นค

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 326

    มาร์คัส ชอว์เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นกว่าเมื่อหกปีก่อนมาก และมีลักษณะเป็นนักวิชาการ ซาบริน่านึกถึงความช่วยเหลือทุกอย่างที่เขาให้ไว้กับเธอในตอนที่เธอหนีไปจากเมืองเซ้าท์ ซิตี้ แม้แต่ตอนเธอออกมาจากบ้านเช่าเพื่อไปห้ามไม่ให้เซบาสเตียนแต่งงาน มาร์คัสก็ยังอยู่ที่นั่นเพื่อช่วยเธอเมื่อซาบริน่ามองเข้าไปในดวงตาของมาร์คัส เธอรู้ได้เลยว่าดวงตาคู่นั้นอ่อนโยนและใจดีเพียงใดเขาเริ่มถามว่า “ซาบริน่า สบายดีไหม? ฉันรู้ว่าเซบาสเตียนเป็นคนจับตัวและพาเธอกลับมาที่นี่ แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ ครอบครัวของฉันเริ่มจับตาดูฉันอย่างเข้มงวดมากขึ้น ดังนั้น หากว่าฉันไปหาเธออย่างไม่ระมัดระวัง ก็รังแต่จะยั่วโมโหเซบาสเตียนมากขึ้นเรื่อย ๆ ฉันจึงไม่พยายามติดต่อเธอมาโดยตลอด บอกฉันทีว่าตอนนี้เธอเป็นอย่างไรบ้าง?“เซบาสเตียนปฏิบัติต่อเธอยังไงบ้าง...”"ดีมาก" ซาบริน่าตอบเพียงสองคำเธอเพียงยิ้มให้มาร์คัสโดยไม่ได้อธิบายอะไรแม้ว่าเธอจะรู้สึกอยากขอบคุณใครสักคน แต่ซาบริน่าก็ยังเป็นคนที่เก็บความรู้สึกของเธอไว้ข้างในเสมอ แทนที่จะใช้คำพูดเพียงผิวเผินเพื่อแสดงความรู้สึกเหล่านั้น มันเหมือนกับความสำนึกบุญคุณที่เธอรู้สึกต่อไนเจลในตอนนั้นที่เธอไ

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 325

    เด็กน้อยคนนี้ไม่เคยกลัวเลยจริง ๆ ในช่วงสองปีที่เธอใช้เวลาอยู่ในโรงเรียนอนุบาลที่เขตเมืองเคียร์ราย เธอตีกับเด็กผู้ชายตัวเล็ก ๆ นับไม่ถ้วนแน่นอน ไอโนะเคยทะเลาะกับเด็กคนอื่น ๆ เท่านั้น เมื่อพวกเขาล้อเลียนเธอว่าไม่มีพ่อหรือดูถูกแม่ของเธอไอโนะจะเอาชนะเด็กคนอื่นอย่างกล้าหาญทุกครั้งหลังจากทะเลาะกับเด็กในโรงเรียนอนุบาล ตอนนี้ เธอไปยั่วยุพวกผู้ใหญ่แล้วเหรอ?ซาบริน่าโพล่งออกมาด้วยเหงื่อเย็นเยียบโลกของผู้ใหญ่นั้นซับซ้อนขนาดไหน? มันไม่ใช่สิ่งที่เด็กห้าขวบอย่างไอโนะจะเข้าใจได้อย่างแน่นอน ลูกของเธอยังเล็กอยู่ ดังนั้น ไม่ว่าเธอจะดุร้ายหรือกล้าหาญแค่ไหน เธอก็ยังไม่สามารถเอาชนะผู้ใหญ่ด้วยสติปัญญาหรือพละกำลังได้ซาบริน่ากังวลเรื่องความปลอดภัยของลูกสาวเป็นหลักเธอดุไปทางโทรศัพท์ “ไอโนะ! บอกเลยถ้าหนูทำร้ายผู้ใหญ่อีก แม่จะตีก้นหนูจนบวมเลย! แม่ไม่อยากเจอหนูอีกแล้ว!”ไอโนะตกใจกับคำพูดรุนแรงของแม่ของเธอจนถึงกับร้องไห้ออกมา เธอเช็ดจมูกขณะสะอื้นไห้ “แม่จ๋า หนูแค่อยากช่วยแม่...”“แม่ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากหนู แม่ไม่อยากให้หนูออกสร้างปัญหาข้างนอกนั่น!” ซาบริน่าดุเธออย่างเคร่งครัด เธอมักจะเข้มงวดกั

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status