ใจร้าย

ใจร้าย

last updateLast Updated : 2025-11-29
Language: Thai
goodnovel16goodnovel
Not enough ratings
98Chapters
253views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

ร่างบางดำดิ่งลึกลงเรื่อยๆ ร่างกายทุรนทุรายเพื่อความอยู่รอด แต่ใจเธอยอมแพ้แล้ว มันอึดอัด มันหนาวเหน็บ นี่สินะความตาย ความตายของเธอที่พี่อิสร์ต้องการ เอมทำให้แล้วนะคะ หวังว่าการกระทำของเอมในครั้งนี้ จะเป็นสิ่งสุดท้ายที่เอมทำให้พี่อิสร์มีความสุข ขอให้ความรักความแค้นระหว่างเราจบลงแค่นี้ เอมเจ็บ เจ็บจนไม่อยากจะหายใจแล้วเช่นกัน ขอบคุณที่บอกให้เอมมาตาย มันน่าจะเป็นหนทางดับทุกข์ที่ดีที่สุดของเอมแล้ว ลาก่อนค่ะพี่อิสร์...

View More

Chapter 1

บทที่ 1

บทที่ 1

               

                สภาพการจราจรยามพลบค่ำยังคงแออัดเช่นเดียวกับทุกวัน อากาศช่วงปลายเดือนเมษายนซึ่งเป็นฤดูร้อน ยิ่งทำให้เมืองที่แออัดไปด้วยผู้คนและตึกรามบ้านช่อง ทวีความร้อนอบอ้าวมากขึ้นไปเป็นเท่าตัว ผู้คนที่อยู่บนยวดยานและสัญจรไปมาบนท้องถนน สีหน้าล้วนแต่ปราศจากรอยยิ้ม หากทว่ากลับเป็นข้อยกเว้นสำหรับชายหนุ่มในชุดกางเกงยีนเสื้อช็อปสีแดงเลือดหมูที่ปักตราสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยชื่อดัง โครงหน้าคมคร้ามหล่อเหลาเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม ดวงตาเปล่งประกายแห่งความสุขออกมาอย่างน่าอิจฉา เหมือนดั่งว่าสภาพแวดล้อมอันเลวร้ายเหล่านั้นไม่สามารถทำอะไรเขาได้

ร่างสูงเกือบหกฟุตก้าวลงจากรถเมล์ แล้วตรงไปยังร้านบะหมี่ข้างทาง ที่มีหญิงวัยกลางคนกำลังจัดวางเก้าอี้อยู่ หนังสือในมือสองสามเล่มกับถุงพลาสติกที่มีต้นไม้ชนิดหนึ่งอยู่ข้างในถูกวางไว้ใกล้ๆ กับรถเข็น ก่อนที่เจ้าตัวจะรีบกระวีกระวาดไปช่วย ท่าทางการหยิบจับโต๊ะอะลูมิเนียมสีแดงขณะนำมันมากางเป็นไปอย่างคล่องแคล่วและกระตือรือร้น ปราศจากอาการเก้กังเคอะเขินโดยสิ้นเชิง  และในอีกไม่กี่นาทีต่อมา โต๊ะสี่ห้าตัวกับเก้าอี้พลาสติกเข้าชุด ก็พร้อมให้ลูกค้าที่เป็นขาประจำและขาจรได้นั่งกินบะหมี่ริมทาง

“สอบกี่วิชาลูก ทำไมวันนี้กลับค่ำจัง” กรองทองถามลูกชายด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ไม่ได้มีท่าทีเคลือบแคลงระแวงสงสัยหรือตำหนิติเตียนใดๆ เพราะลูกชายของตนเป็นเด็กดีตลอด ไม่เคยทำตัวเหลวไหล เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กกระทั่งเรียนอยู่ปีสาม แม้พฤติกรรมบางอย่างจะมีเปลี่ยนแปลงไปบ้างตามวัย แต่ก็ไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง เหมือนดั่งคนบนฟ้าส่งลูกชายคนนี้มาเป็นของขวัญ ช่วยเยียวยาความเจ็บปวดในชีวิตของเธอ

“สอบสองวิชาครับแม่ สอบเช้าวิชาหนึ่ง บ่ายวิชาหนึ่ง จริงๆ อิสร์สอบเสร็จตั้งแต่บ่ายสี่โมงแล้วละ แต่ที่ไม่ได้กลับบ้านเลยก็เพราะอิสร์ไปเอาต้นไม้ที่สั่งไว้”

“ต้นอะไรเหรอลูก”

“ต้นไม้ของขวัญวันเกิดน้องเอมน่ะครับ พรุ่งนี้วันเกิดน้องเอม”

“จริงสินะแม่ลืมไปเลย งั้นพรุ่งนี้พาน้องมากินข้าวที่บ้านนะลูก เดี๋ยวแม่จะทำเค้กส้มของโปรดหนูเอมไว้รอ”

“ครับ”

เป็นคำตอบรับสั้นๆ แต่กรองทองรู้ดีว่าลูกชายของตนจะทำตามที่พูด กวินภพกับเอมมาลินคบหากันด้วยความรักแบบบริสุทธิ์และอยู่ในสายตาเธอมาตลอดหลายปี มันเริ่มจากความสัมพันธ์แบบพี่ชายกับน้องสาว ก่อนจะพัฒนาเป็นความรู้สึกลึกซึ้งที่มากกว่าความผูกพัน แม้ตนจะรู้อยู่แก่ใจดีว่าสักวันความรักของลูกต้องมีอุปสรรค เพราะฐานะทางครอบครัวที่แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว แต่กรองทองก็ไม่ได้คิดจะห้ามปรามใดๆ ด้วยเห็นแก่ความสุขของเด็กสองคน และเชื่ออยู่ลึกๆ ว่าลูกชายของตนเป็นคนดีและเป็นคนเก่งมากพอ ที่จะฝ่าฟันขวากหนามซึ่งอาจเกิดขึ้นในวันข้างหน้าไปได้

ร้านบะหมี่ข้างทางเริ่มคึกคักเมื่อเวลาล่วงผ่านไปเรื่อยๆ หนุ่มวัยยี่สิบเอ็ดทำหน้าที่เสิร์ฟบะหมี่ให้โต๊ะนั้นโต๊ะนี้อย่างแข็งขัน โดยไม่มีความเขินอายเลยแม้แต่น้อย ทำให้สายตาของลูกค้าหลายคนต่างมองเขาอย่างชื่นชมและภูมิใจแทนคนเป็นแม่

เวลาผ่านไปจนถึงสามทุ่ม รถสปอร์ตราคาหลายล้านแล่นมาจอดที่หน้าร้านบะหมี่ ดึงสายตาคนทั้งร้านให้หันไปมองด้วยความสนใจ เพราะนอกจากความสวยและราคาของรถแล้ว เด็กหนุ่มสองคนที่ลงมาจากรถคันนั้นก็น่าสนใจไม่แพ้กัน คนหนึ่งหล่อเหลาดูดีสะอาดสะอ้าน อีกคนแม้จะเซอร์ๆ แต่ก็เท่และหล่อเข้มชวนมอง ซึ่งจากองค์ประกอบภายนอก ทั้งรถและบุคลิกของทั้งสอง ก็ทำให้รู้ได้ทันทีว่าทั้งคู่คงเป็นทายาทของมหาเศรษฐี เพียงแต่คนมองยังไม่แน่ใจว่าเด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาทั้งสองคนนั้น มาทำอะไรที่ร้านบะหมี่ข้างทางแบบนี้

 กระทั่งสองหนุ่มตรงเข้าไปหาแม่ค้าและยกมือขึ้นไหว้ ก่อนจะขยับมาทักทายชายหนุ่มวัยเดียวกัน คนที่แอบเฝ้ามองดูอยู่เงียบๆ จึงรู้คำตอบ

“มาทำอะไรวะตะวัน ปรัชญ์” กวินภพเอ่ยถามเพื่อนสนิททั้งสองคน หลังจากยกชามบะหมี่ไปเสิร์ฟให้ลูกค้าเสร็จแล้ว

“มาหาแกน่ะสิ จะชวนไปนั่งชิล” คนที่ตอบคือรังสิมันต์ซึ่งเป็นเจ้าของรถหรูที่จอดอยู่ริมฟุตพาท

“ไม่ว่างว่ะ ช่วยแม่ขายบะหมี่อยู่ วันนี้คนเยอะด้วย”

“ก็กะอยู่ว่าแกจะตอบแบบนี้ ฉันกับไอ้ปรัชญ์ก็เลยจะมาช่วยแกขาย ขายหมดแล้วเราค่อยไปกัน” รังสิมันต์กับปรัชญ์พยักพเยิดอย่างกระตือรือร้น บ่งบอกว่าเตรียมตัวล่วงหน้ามาอย่างดี ความจริงเขาหรือปรัชญ์สามารถเหมาบะหมี่หมดร้านได้สบายๆ แต่ก็ไม่ทำ เพราะรู้นิสัยของกวินภพดีว่าเป็นคนหยิ่งในศักดิ์ศรีมากแค่ไหน หากเขากับปรัชญ์ทำแบบนั้น กวินภพคงโกรธจนไม่มองหน้าแน่ๆ

“เฮ้ย…ไม่ต้องเลย พวกแกสองคนไปนั่งรอ เดี๋ยวฉันกับแม่ขายเอง” 

“เหอะน่า แกอยู่เฉยๆ ให้ฉันกับไอ้ปรัชญ์ช่วย รับรองว่าบะหมี่ร้านแกหมดภายในครึ่งชั่วโมง”

“พวกแกจะอะไรนักหนาวะ ไปเที่ยวกันสองคนก็ได้นี่หว่า” กวินภพอดจะบ่นเพื่อนไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้จริงจังอะไรนัก แม้เขาจะมีวิถีชีวิตที่แตกต่างจากเพื่อนสนิท ทว่าก็ไม่ได้ตัดขาดกิจกรรมที่ควรจะมีร่วมกับเพื่อนฝูงเป็นบางครั้งบางคราว ซึ่งแม่เขาเองก็เข้าใจดี

“ไอ้ไปน่ะไปได้ แต่ขาดแกมันก็ไม่ครบแก๊งดิวะ อีกอย่างวันมะรืนฉันกับไอ้ปรัชญ์ก็ต้องไปฝึกงานแล้วนะเว้ย ใจคอแกจะไม่ไปเลี้ยงฉลองสั่งลาฉันสองคนหน่อยเหรอวะ”

“ไปฝึกงานไม่ใช่เหรอ ต้องสั่งลาอะไรกันนักหนา หรือว่าพวกแกจะไม่กลับมา”

“กลับดิวะ ไม่ได้ตายนี่หว่า แต่มันนานไง ตั้งสามเดือนเลยนะเว้ย”

“โอเคๆ ไปก็ไป แต่ขอช่วยแม่ขายบะหมี่กับเก็บร้านก่อน”

“มีฉันสองคนช่วย รับรองว่าแป๊บเดียว”

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters
No Comments
98 Chapters
บทที่ 1
บทที่ 1 สภาพการจราจรยามพลบค่ำยังคงแออัดเช่นเดียวกับทุกวัน อากาศช่วงปลายเดือนเมษายนซึ่งเป็นฤดูร้อน ยิ่งทำให้เมืองที่แออัดไปด้วยผู้คนและตึกรามบ้านช่อง ทวีความร้อนอบอ้าวมากขึ้นไปเป็นเท่าตัว ผู้คนที่อยู่บนยวดยานและสัญจรไปมาบนท้องถนน สีหน้าล้วนแต่ปราศจากรอยยิ้ม หากทว่ากลับเป็นข้อยกเว้นสำหรับชายหนุ่มในชุดกางเกงยีนเสื้อช็อปสีแดงเลือดหมูที่ปักตราสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยชื่อดัง โครงหน้าคมคร้ามหล่อเหลาเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม ดวงตาเปล่งประกายแห่งความสุขออกมาอย่างน่าอิจฉา เหมือนดั่งว่าสภาพแวดล้อมอันเลวร้ายเหล่านั้นไม่สามารถทำอะไรเขาได้ร่างสูงเกือบหกฟุตก้าวลงจากรถเมล์ แล้วตรงไปยังร้านบะหมี่ข้างทาง ที่มีหญิงวัยกลางคนกำลังจัดวางเก้าอี้อยู่ หนังสือในมือสองสามเล่มกับถุงพลาสติกที่มีต้นไม้ชนิดหนึ่งอยู่ข้างในถูกวางไว้ใกล้ๆ กับรถเข็น ก่อนที่เจ้าตัวจะรีบกระวีกระวาดไปช่วย ท่าทางการหยิบจับโต๊ะอะลูมิเนียมสีแดงขณะนำมันมากางเป็นไปอย่างคล่องแคล่วและกระตือรือร้น ปราศจากอาการเก้กังเคอะเขินโดยสิ้นเชิง และในอีกไม่กี่นาทีต่อมา โต๊ะสี่ห้าตัวกับเก้าอี้พลาสติกเข้าชุด ก็พร้อมให้ลูกค้าที่เป็นขาประจำและขาจรได้
last updateLast Updated : 2025-11-08
Read more
บทที่ 2
บทที่ 2พูดจบรังสิมันต์กับปรัชญ์ก็แยกย้ายไปทำหน้าที่ โดยรังสิมันต์เป็นคนเรียกลูกค้าเข้าร้าน ส่วนปรัชญ์ช่วยเสิร์ฟและเก็บชามที่ลูกค้ากินเสร็จแล้ว ไม่นานร้านก็แน่นขนัดไปด้วยผู้คนจนโต๊ะไม่มีที่ว่างดวงตาเข้มขรึมมองเพื่อนทั้งสองคนแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ รังสิมันต์กับปรัชญ์ดูสนุกสนานกับสิ่งที่กำลังทำ เพราะนั่นคือความแปลกใหม่สำหรับพวกเขา คงไม่บ่อยนักหรอกที่ลูกมหาเศรษฐีจะได้มาทำอะไรแบบนี้คิดแล้วเขาก็นึกตลกกับโชคชะตาของตัวเองเหมือนกัน เขามีชีวิตที่ลำบากและจนแสนจน ทว่ารอบตัวกลับมีแต่เหล่าบรรดาทายาทมหาเศรษฐี มิตรภาพเหล่านี้คงเกิดจากการที่เขาได้มีโอกาสได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยชื่อดังระดับประเทศกระมัง จึงนำพาให้เขาได้รู้จักกับเพื่อนอย่างรังสิมันต์ซึ่งเรียนภาควิชาอุตสาหการเช่นเดียวกับเขา และรังสิมันต์ก็ทำให้เขาได้รู้จักกับปรัชญ์ ที่แม้ว่าจะเรียนภาควิชาโยธา ทว่าปรัชญ์ก็เป็นเพื่อนสนิทของรังสิมันต์ที่มาจากเชียงใหม่ด้วยกัน เขากับปรัชญ์พลอยสนิทสนมกันไปโดยปริยายนอกจากนี้ยังมีรุ่นพี่อีกสองคนที่เขารู้จักตอนเข้าเรียนปีหนึ่ง คือปราณต์พี่ชายของปรัชญ์กับศาสตราเพื่อนของปราณต์ซึ่งซิ่วจากคณะอื่นมาเรียนวิศวอุตสาหการ ท
last updateLast Updated : 2025-11-08
Read more
บทที่ 3
บทที่ 3“คนนี้รักมากกว่าใครเลย แล้วพี่อิสร์ล่ะคะเมื่อไหร่จะบอกรักเอมเสียที”“บอกผ่านการกระทำอยู่ทุกๆ วัน ไม่รู้สึกบ้างเหรอ”“อยากได้ยินจากปากบ้างนี่”“พี่จะบอกเมื่อถึงเวลา”“เมื่อไหร่คะ เมื่อไหร่ที่พี่อิสร์จะบอกรักเอมบ้าง”สีหน้าอันสดใสง้ำงอลงเล็กน้อย แววตากับวาจาตัดพ้อแกมประท้วงแค่พอน่าเอ็นดู ด้วยเพราะเห็นด้วยว่าการกระทำที่ผ่านมาของเขามันสำคัญกว่าอะไรทั้งหมด เหมือนอย่างที่เขาว่าจริงๆ ทว่าเธอแค่อยากได้ยินถ้อยคำบอกรักตามประสาผู้หญิงบ้างก็เท่านั้น“เมื่อเอมโตพอจะรับรู้ว่าความรักที่แท้จริงมันคืออะไร”“เอมโตแล้ว เรียนจบม.ปลายแล้วด้วย นี่ยังไม่เรียกว่าโตเหรอคะ”“ยังไม่โตหรอก เพิ่งจะสิบเจ็ดปีเต็มวันนี้เอง ยังไม่บรรลุนิติภาวะเลย”“ถึงเอมจะยังเด็กในสายตาของพี่อิสร์ หรือพี่อิสร์คิดว่าเอมยังไม่เข้าใจความรักจริงๆ แต่ขอให้รู้ไว้นะคะว่าพี่อิสร์คือรักแท้ของเอม พี่อิสร์คือผู้ชายที่ดีที่สุดในชีวิตของเอม เอมจะไม่รักใครอีก นอกจากพี่อิสร์คนเดียว”คำบอกรักช่างหวานซึ้งและแสนซื่อ สายตาก็ฉายชัดว่ามันคือคำพูดที่ออกมาจากใจทุกคำ ตาคมไม่ละไปจากดวงหน้าหมดจดแม้แต่เสี้ยววินาที ดวงหน้าแสนหวานนั้นล้อมกรอบด้วยผมดำขลั
last updateLast Updated : 2025-11-08
Read more
บทที่ 4
บทที่ 4“ไม่รู้ ไม่กล้าคิด ไม่อยากคิด” ทั้งน้ำเสียง สีหน้า แววตา เต็มไปด้วยความแง่งอน เมื่อพี่อิสร์ไม่ยอมตอบคำถามตรงๆ แถมพูดจายอกย้อนคล้ายดั่งต้องการให้เธอคิดมากอีก“ถ้าพี่เคยล่ะ เอมจะว่ายังไง”“ไม่ว่ายังไง ก็แค่เสียใจที่ไม่ได้เป็นจูบแรกของพี่อิสร์”กวินภพยิ้มกว้าง ก่อนจะยกมือขึ้นแนบพวงแก้มใสและไล้นิ้วไปมาเบาๆ ตาจ้องมองใบหน้างดงามอย่างมีความหมายเต็มเปี่ยมไปด้วยรัก“ไม่ต้องเสียใจไปหรอก นี่เป็นจูบแรกของพี่”“จริงนะคะ” ตากลมโตฉายแววระริก เช่นเดียวกับปากนุ่มที่ยิ้มกว้างจนโลกสดใสอีกครั้ง“จริงสิ หรือพี่เคยโกหก”“งั้นให้เอมเป็นคนสุดท้ายด้วยได้ไหม”“โลภมากจริง”“นะคะ” น้ำเสียงออดอ้อน ตาเว้าวอนขอคำสัญญา เพราะรู้ดีว่าคนคนนี้คำไหนคำนั้น ถ้าเขารับปาก เขาจะทำตามที่พูดเสมอ“เอมจะเป็นคนแรกและคนสุดท้ายที่พี่จะรัก…พี่สัญญา”“สัญญาแล้วนะ” นิ้วก้อยชูขึ้นรอให้นิ้วก้อยของอีกคนยกขึ้นมาเกี่ยว เพื่อเป็นการยืนยันคำสัญญาโดยสมบูรณ์“สัญญา”“เอมไม่อยากไปเรียนต่อเมืองนอกเลยค่ะพี่อิสร์ ไม่ไปได้ไหม” ใบหน้าหวานซบลงบนไหล่แกร่ง ยามพูดประโยคนั้นด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ“ไปเถอะนะ เพื่ออนาคตของเอม”“เอมอยากข้ามเวลาได้จัง เอมอ
last updateLast Updated : 2025-11-08
Read more
บทที่ 5
บทที่ 5 กรองทองยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้ แล้วดึงมือเรียวบางไปที่โต๊ะ จากนั้นเค้กส้มก็ถูกตัดแบ่งเป็นชิ้นๆ ก่อนที่เอมมาลิน กวินภพ และกรองทองจะนั่งกินด้วยกันอย่างมีความสุข ตามมาด้วยบะหมี่ต้มยำสูตรเด็ดซึ่งเป็นของโปรดอีกอย่างของเอมมาลิน สาวน้อยซึมซับเอาความสุขนี้ เพราะมันคงเป็นความสุขเดียวที่จะได้รับในวันเกิดวันนี้ ส่วนพ่อแท้ๆ ของเธอ ตอนนี้อยู่ในช่วงเที่ยวต่างประเทศกับเมียและลูกสาวคนใหม่ของพ่อ ตาคู่สวยหม่นเศร้าลงเล็กน้อยเมื่อประหวัดคิดถึงบิดา เธอเป็นคนนอกสำหรับพ่อมานานมากแล้ว นับตั้งแต่พ่อแต่งงานใหม่หลังจากที่แม่ของเธอตายไป และมีลูกสาวเพิ่มอีกคน พ่อพยายามทำให้เธอสนิทสนมกับภรรยาใหม่ของพ่อ ทว่าเธอกลับถูกฝ่ายนั้นกีดกัน กระทั่งแม่เลี้ยงของเธอมีลูก เธอก็กลายเป็นส่วนเกินสำหรับครอบครัวไปโดยปริยาย พ่อเห่อและใส่ใจแต่ลูกสาวคนใหม่ จนเอมมาลินรู้สึกว่าพ่อหลงลืมไปแล้ว ว่ายังมีเธอเป็นลูกอีกคน การเลี้ยงฉลองวันเกิดของเอมมาลินสิ้นสุดลงในเวลาเกือบสองทุ่ม เธอยกมือไหว้ลากรองทอง จากนั้นกวินภพก็ปั่นจักรยานไปส่งที่หน้าบ้านของเธอ เช่นเดียวกับทุกครั้งที่เอมมาลินมาหา
last updateLast Updated : 2025-11-08
Read more
บทที่ 6
“พ่อคุยอะไรกับพี่อิสร์คะ”“พ่อก็สั่งห้ามไม่ให้มันมาคบหากับเอมอีกน่ะสิ เอมไปคบกับคนแบบนั้นได้ยังไง ทำไมไม่รักศักดิ์ศรีของตัวเองบ้างเลย”“พี่อิสร์เป็นคนดี เอมคบกับพี่อิสร์ด้วยความบริสุทธิ์ใจ”“แต่ไอ้หมอนั่นเป็นคนไม่มีหัวนอนปลายเท้า”“พี่อิสร์มีแม่ค่ะ แล้วแม่พี่อิสร์ก็เป็นคนดี แม้จะไม่ได้ร่ำรวยเงินทองแต่ก็ร่ำรวยน้ำใจ และดีกับเอมมาตลอด”“นี่เอมไม่รู้หรือไงว่าตัวเองเป็นใครมันเป็นใคร ทำไมถึงได้ลดตัวลงไปเกลือกกลั้วกับคนที่อยู่คนละชั้นกับตัวเอง” ธนินเริ่มใช้เสียงเข้มดุกับลูกสาว ทว่าเอมมาลินก็ยังไม่มีท่าทีลดละที่จะโต้เถียงกับตน“เอมก็ไม่ได้สูงส่งไปกว่าใครนี่คะ เอมก็เป็นแค่ส่วนเกินสำหรับครอบครัวใหม่ของพ่อไม่ใช่เหรอ ไม่อย่างนั้นพ่อคงไม่ส่งเอมไปเรียนเมืองนอกหรอก”“ยัยเอม!”“ทำไมเหรอคะ การที่มีเอมอยู่บ้านหลังนี้ มันขวางหูขวางตาพ่อกับเมียและลูกของพ่อมากเลยหรือไง พ่อถึงต้องส่งเอมไป ทั้งๆ ที่เอมบอกพ่อแล้วว่าเอมไม่อยากไป” เอมมาลินตัดพ้อพ่อบิดาด้วยความเก็บกด ที่ตอนนี้มันพร่างพรูออกมาอย่างหยุดไม่อยู่ เหมือนทำนบกั้นน้ำพังทลาย“ที่กล้าเถียงพ่อฉอดๆ แบบนี้ ก็เพราะไอ้ผู้ชายคนนั้นมันสอนมาใช่มั้ย”“ไม่มีใครสอน
last updateLast Updated : 2025-11-29
Read more
บทที่ 7
เสียงรอสายที่ดังครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าคนปลายสายจะกดรับ ทำให้กวินภพถอนหายใจออกมาแรงๆ อย่างไม่สบายใจ เขาแค่อยากจะโทร.ถามข่าวคราวเอมมาลินว่าเป็นอย่างไรบ้าง ทว่าหลังจากที่เขากลับจากบ้านของเธอ เขาก็ไม่สามารถติดต่อเธอได้อีกเลย และท่าทีเป็นกังวลของลูกชายก็ไม่ได้รอดพ้นสายตาของกรองทองไปได้“เป็นยังไงบ้างอิสร์ ติดต่อหนูเอมไม่ได้เหรอลูก”“ครับแม่ เอมไม่รับสายเลย ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น” เสียงของกวินภพแม้จะฟังดูเรียบๆ แต่ก็เจือเอาไว้ด้วยความกังวลใจอย่างมาก“ถ้าเป็นอย่างที่อิสร์เล่า พ่อของหนูเอมคงไม่ให้รับสาย แต่ไม่เป็นไรนะลูก เดี๋ยวถ้าหนูเอมสะดวกคงโทร.กลับมาหาอิสร์เอง” คนเป็นแม่ปลอบลูก เจ็บปวดไม่น้อยเหมือนกันที่ลูกชายโดนรังเกียจเพราะความจน ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงไม่มีใครกล้าดูถูกและรังเกียจลูกชายของเธอ แต่จะให้ยอมทนอยู่กับการทรยศของคนที่รัก เธอก็ทนอยู่ไม่ได้เหมือนกัน ดังนั้นสิ่งที่ทำได้ดีที่สุดตอนนี้คือให้กำลังใจลูกเท่านั้น“อิสร์แค่เป็นห่วงเอมน่ะครับแม่ อิสร์กลัวว่าตัวเองจะทำให้เอมเดือดร้อน”“แม่เข้าใจอิสร์นะ แต่ตอนนี้เราทำอะไรไม่ได้ นอกจากรอหนูเอมเท่านั้น อิสร์ไปนอนเถอะ พรุ่งนี้ก็ต้
last updateLast Updated : 2025-11-29
Read more
บทที่ 8
“เป็นไงบ้างตาแทน กลับมาเมื่อไหร่” ธนินทักทายบุตรชายของเพื่อนสนิท ซึ่งเป็นเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง“เพิ่งกลับมาถึงเมื่อวันก่อนนี่เองครับ พอดีคุณพ่อมีของฝากมาให้คุณอา เป็นชาจากทิเบตครับ ผมเลยอาสาเอามาให้ ถือโอกาสแวะมาสวัสดีคุณอากับคุณนงนภาด้วย”“ขอบใจมากนะแทน ฝากความคิดถึงหาพ่อเราด้วย วันอาทิตย์อาว่าจะชวนไปไดรฟ์กอล์ฟอยู่เหมือนกัน ไม่ได้ออกรอบด้วยกันนานแล้ว แล้วนี่จะทำงานที่โรงพยาบาลตัวเอง หรือจะทำที่อื่นก่อน”“คงเป็นโรงพยาบาลตัวเองนั่นแหละครับ ทำที่อื่นพ่อคงไม่ยอมแน่ๆ”“ดีแล้วละ เป็นอาอาก็คงไม่ยอมเหมือนกัน”“แล้วนี่น้องเอมไม่อยู่เหรอครับ ได้ข่าวว่ากำลังจะไปเรียนต่อต่างประเทศเหมือนกัน”การไถ่ถามของแทนไททำให้ธนินแอบดีใจอยู่ลึกๆ เพราะตนก็แอบหวังจะให้เอมมาลินได้ลงเอยกับแทนไท ทว่าเอมมาลินกลับไปมีใจปฏิพัทธ์กับกวินภพเด็กหนุ่มที่ไม่มีอะไรเหมาะสมกับลูกสาวของเขาเลย“อยู่ข้างบนน่ะ ไม่ค่อยสบาย” “ให้คุณแทนตรวจดูอาการหนูเอมหน่อยไหมคะคุณพี่” นงนภารีบเสนอเพื่อที่ทุกอย่างจะได้เป็นไปตามแผนที่ตัวเองแอบวางไว้ในใจ“ผมจบด้านจิตแพทย์มา ไม่แน่ใจว่าจะตรวจอาการน้องเอมได้แค่ไหนนะครับ แต่ลองหน่อยก็ได้ครับ จะไ
last updateLast Updated : 2025-11-29
Read more
บทที่ 9
รถยุโรปคันหรูสมฐานะลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลเอกชน แล่นออกจากคฤหาสน์ที่ใหญ่โตหรูหรามากที่สุดในย่านชุมชนแถบนั้น แม้จะเป็นช่วงกลางวันแต่ถนนก็ไม่ได้โล่งเลยสักนิด ซึ่งเป็นเรื่องปกติของกรุงเทพฯ ที่การจราจรหนาแน่นมากกว่าเมืองใดๆ อยู่แล้ว บวกกับเป็นเวลาเที่ยงพอดีทำให้รถรายิ่งมากกว่าเดิม รถคันนั้นจึงแล่นได้ไม่เร็วมากนัก และความโดดเด่นของรถที่สวยและดูแพงกว่ารถทั่วไป เลยกลายเป็นอาหารตาของรถคันอื่นๆ และคนที่ยืนรอรถอยู่ข้างทางไปโดยปริยาย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็รวมถึงชายหนุ่มที่ใส่ชุดนักศึกษาผูกเนกไทอย่างเรียบร้อย ที่กำลังยืนรอรถเมล์อยู่ที่ป้ายรถประจำทาง มันเป็นช่วงเวลาเที่ยงวันของการฝึกงานวันแรก แต่เขาต้องกลับมากินข้าวที่บ้านและเอาเอกสารบางอย่างไปให้ทางฝ่ายบุคคลของบริษัทที่ต้องการเพิ่มเติม ตลอดช่วงครึ่งวันแรกเขาแทบจะไม่มีสมาธิกับการฝึกงาน เพราะบ่อยครั้งที่ใจพะว้าพะวงและนึกเป็นห่วงสาวน้อยผู้เป็นที่รัก ซึ่งติดต่อกันไม่ได้ตั้งแต่ช่วงค่ำของเมื่อวาน ทว่าเขาก็พยายามควบคุมตัวเองให้จดจ่ออยู่กับการเรียนรู้ และทำหน้าที่นักศึกษาฝึกงานให้ดีที่สุด หัวใจของคนยืนรอรถกระตุกวาบ เมื่อสายตามองเห็นรถหรูคันนั้น
last updateLast Updated : 2025-11-29
Read more
บทที่ 10
อีกห้านาทีต่อมา ร่างบางก็มายืนหน้าบ้านซึ่งอยู่ท้ายสุดของซอย สายตาสอดส่ายหาเจ้าของบ้าน เมื่อไม่เจอจึงกดกริ่งเรียก รอไม่นานกรองทองก็เปิดประตูออกมา และทันทีที่รั้วบ้านเปิดออก ไร้สิ่งขวางกั้น เอมมาลินก็โผเข้าไปกอดหญิงวัยกลางคนที่ตนรักดั่งแม่คนที่สองเอาไว้แน่น พร้อมกับเอ่ยเรียกด้วยเสียงสั่นเครือ “น้ากรอง...” “หนูเอม เป็นอะไรลูก” กรองทองกอดตอบอย่างอ่อนโยนเพื่อปลอบใจ และค่อนข้างตกใจเมื่อรู้สึกได้ว่าร่างบางในอ้อมกอดนั้นสั่นเทา “พี่อิสร์อยู่มั้ยคะ” “พี่อิสร์ไปฝึกงานวันแรกลูก ตอนนี้คงเลิกงานแล้ว นี่ก็น่าจะกำลังกลับ เข้าบ้านก่อนมั้ย ไปรอพี่อิสร์ในบ้านก็ได้” กรองทองจะจูงแขนเล็กเข้าในบ้าน ทว่าเอมมาลินรั้งเอาไว้พร้อมกับส่ายหน้าเป็นเชิงปฏิเสธ “ไม่ค่ะน้ากรอง เอมมีเวลาไม่มากค่ะ เอมแค่จะมาลาน้ากรองกับพี่อิสร์” “ลาไปไหนหนูเอม เกิดอะไรขึ้น” “เอมจะไปอยู่กับน้าอรที่ภูเก็ตค่ะ”“แล้วบอกคุณพ่อหรือยังลูก” กรองทองเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง ดูจากสีหน้าและแววตาของเอมมาลิน เธอก็รู้ว่าสถานการณ์น่าจะไม่สู้ดีนัก“ไม่ค่ะ พ่อไม่รักเอมแล้ว เอมก็เลยตัดสินใจว่าจะไม่ไปเรียน
last updateLast Updated : 2025-11-29
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status