คืนต่อมาในกลางดึก ชรันได้มาหาพรรณนาราอีก คราวนี้เธอเตรียมตัวอย่างดีในชุดนอนเดรสบางเบาให้เขาตายใจ ชรันกอดเธอล้มลงนอนบนเตียง กอดจูบไปทั่วและซุกหน้าลงตรงจุดซ่อนเร้นเพื่อทำรักด้วยปากให้เธอ แม้จะสะอิดสะเอียนเธอต้องอดทนและเล่นบทเออๆออๆไปก่อน
“ทีนี้ทำให้อาได้บ้างหรือยัง เด็กน้อย” “แต่หนูอายนะ ปิดไฟได้มั้ย?” “ยังไงก็ได้” พรรณนาราเดินไปที่ห้องน้ำ นำทิชชูมาทั้งแบบเปียกและแห้งมาเตรียมไว้ จนชรันแอบหยอกเธอ “ขนาดนี้เลยเหรอ? ดูเป็นงานเป็นการจังเลยนะ” “หนูจะปรนนิบัติอย่างดีไงล่ะ..” เธอทำหน้ากระหยิ่มยิ้มย่องแปลกๆ แต่เขาที่อยู่ในห้วงอารมณ์หื่นเลยไม่ได้สนใจอะไร เธอเดินไปปิดไฟ ไม่นานนักก็เริ่มลูบไล้ ลงลิ้นและใช้ปากให้อย่างช่ำชองจนชรันถึงกับดิ้นแอ่นตัวเด้งรับ เขาครางและกระหืดกระหอบอย่างแรงจนถึงจุดสุดยอด นอนหายใจรวยรินเพราะเกร็งจนหมดแรง เธอเดินเข้าห้องน้ำไปจนได้ยินเสียงบ้วนปากและออกมาเปิดไฟในห้อง นั่งลงที่ล่างเตียงแล้วใช้ทิชชูเช็ดทำความสะอาดให้เขาจนเรียบร้อย ชรันจับคางเธอเบาๆแล้วหอมแก้ม กดโอนให้ห้าพันบาททันที “น่ารักจริงๆ เสียดายเจอกันอีกทีก็วันจันทร์เลย เสาร์อาทิตย์นี้ต้องพาแม่หนูไปหัวหิน อยากไปด้วยมั้ย?” พรรณนาราส่ายหน้ายิ้มหวานให้ “พาแม่ไปสวีทบ้างเถอะค่ะ ไม่งั้นหนูจะโดนเกลียดขี้หน้าเอา คุณอารีบกลับห้องได้แล้ว อย่าอยู่นานค่ะ เดี๋ยวคุณแม่หึง” “ไม่อยากไปเลย อยากนอนกอดหนูทั้งคืน” “ไม่เอาค่ะ เดี๋ยวคุณอาจะเบื่อก่อน” พอชรันออกไปแล้ว ฟ้าก็ออกมาจากห้องน้ำ “หนูขนลุกไปหมด โคตรน่ากลัว” “เราคงใช้วิธีแบบนี้ได้ไม่กี่ครั้ง ต้องคิดเผื่อว่าจะทำยังไงต่อ” พรรณนาราโอนเงินให้ฟ้าไป 2,500 ก่อนที่แม่บ้านสาวจะค่อยๆย่องกลับออกไป ฟ้าเดินย่องไปทางหลังบ้านก็เจอธีทัตนั่งรอในมุมมืดของสวนหย่อม “คุณธี! เข้ามาทางไหนคะ? ประตูบ้านล็อก อย่าบอกนะปีนเข้ามา” เขาพยักหน้ารับด้วยหน้าตาที่เศร้าหมอง ดูจากสภาพ น้ำก็ยังไม่ได้อาบ “ผมมาเคาะห้องคุณแต่ไม่ตอบ ไม่รู้จะทำไง เลยนั่งคิดอยู่แบบนี้” เขาเงยหน้ามองที่หน้าต่างห้องของพรรณนาราที่ยังเปิดไฟอยู่ “เมื่อกี้เหมือนห้องน้องพู่ปิดไฟ ตอนนี้เปิดแล้ว” ฟ้าถึงกับทำหน้าเลิ่กลั่ก “มาหาน้องพู่หรือคะ? ไม่ลองโทรหาดู” “น้องบล็อกผม ไม่รู้จะติดต่อยังไง พ่อผมก็ห้ามมาที่นี่” แม่บ้านสาวถึงกับรู้เรื่องและเข้าใจในทันทีว่าพรรณนาราและธีทัตน่าจะชอบพอกันแต่โดนชรันขัดขวาง “ให้ฟ้าโทรให้เอามั้ยคะ?” ธีทัตทำตาโตด้วยความดีใจ “รบกวนทีได้มั้ยครับ?” “งั้นไปที่ห้องเก็บของก่อนค่ะ เผื่อใครมาเห็น” ฟ้าเดินนำธีทัตไปที่หน้าห้องเก็บของ แล้วโทรหาพรรณนารา “พี่ฟ้า ว่าไงคะ?” “คุณธีมาหาค่ะ อยู่ที่ห้องเก็บของ” “บอกให้เขากลับบ้านไปค่ะพี่ หนูจะนอนแล้ว” ฟ้าได้แต่ทำหน้าว่าเห็นใจและส่ายหน้าให้ธีทัตที่เธอปฏิเสธการพบกับเขา “ฝากจดหมายให้เธอด้วยนะครับ อย่าให้ใครเห็นนะ บอกน้องพู่ด้วยว่า..ผมรักเธอจริงๆ” ฟ้าแอบย่องขึ้นไปบนบ้านอีกครั้งและสอดจดหมายที่ใต้ประตูก่อนจะย่องกลับออกไป พรรณนาราที่นั่งกอดเข่าบนพื้นห้อง พอเห็นกระดาษที่สอดเข้ามาก็รีบลุกมาเอาไปอ่าน “จริงของน้องพู่..พี่มานั่งคิดดูแล้ว ปัญหาที่มีมันทำให้เราขยับไปทางไหนก็ไม่ได้ นอกจากต้องใช้เวลาให้ทุกอย่างมันเข้ารูปเข้ารอยมากกว่านี้ ที่สำคัญหลายๆอย่างต้องใช้เงินเพื่อแก้ปัญหา ถ้าใช้เงินแล้วยังแก้ปัญหาไม่ได้แสดงว่ามันยังไม่มากพอ พี่ต้องอดทนเหมือนที่พู่เองก็ต้องอดทนมากกว่าพี่หลายร้อยเท่า ถ้าพี่อายุมากกว่านี้ ทำงานแล้วมีเงินของตัวเองมากสักหน่อย พี่คงไม่ต้องปล่อยให้พู่ตกอยู่ในสภาพนี้ หลังจากที่พี่ได้ทุกอย่างเมื่อไหร่ พี่จะกลับมาทวงพู่คืนจากเขา โดยไม่สนว่าพู่จะเป็นยังไงหรือต้องเจอกับอะไรมา เรื่องหมั้นพี่ไม่เคยรู้มาก่อนว่าทุกคนคุยกันลับหลังโดยไม่บอกพี่ ซึ่งเรื่องนี้พี่จะหาคำตอบเอาเอง” เธอยิ้มให้ตัวเองกับสิ่งที่ได้อ่าน แม้ว่ามันจะหดหู่แต่ก็ยังดีใจที่เห็นคนที่ชอบและหลงรักจะได้มีอนาคตที่ดีไปก่อน ส่วนตัวเธอเองคงต้องหาวิธีเอาตัวรอดไปวันต่อวันแบบนี้อีกนาน ตอนเช้าที่กชกรลงมากินข้าวเช้าก็ได้เจอลูกชายที่ตื่นก่อนและกำลังจะกินเสร็จแล้ว “ตื่นเช้าจัง จะรีบไปไหน? อย่าบอกว่าจะรีบไปหานังเด็กนั่นอีกล่ะ” “แม่รู้เรื่องที่พ่อบอกว่าจะให้ผมหมั้นมั้ย?” กชกรทำท่าอึกอักที่ลูกชายรู้ก่อนที่เธอจะบอกเสียอีก “พ่อบอกลูกเหรอ?” “ผมรู้มาก็แล้วกันครับ แม่ตอบมาแค่ว่าแม่รู้มาก่อนมั้ยก็พอ” “คือ..พ่อน่ะไปคุยกับพ่อแม่ของแบมแล้วว่าจบเทอมนี้ก็หมั้นไว้ก่อน พอได้ใบจบก็ไปต่อ ป.โทที่เดียวกันเลย แค่สองปีเองลูก กลับมาพ่อจะยกทุกอย่างให้” “ผมไม่เชื่อหรอกว่าเรียนจบกลับมาพ่อจะยกให้ง่ายๆ” “เขาเอ่ยปากแล้วก็ต้องทำสิ” ธีทัตที่หน้าตาเย็นชาผิดไปจากทุกที เขามองที่แม่ด้วยแววตาที่ว่างเปล่า “ผมกำลังอยู่ในเกมของผู้ใหญ่ที่มักมากในกาม มักมากในสมบัติพัสถาน โดยไม่มีใครสนใจพวกเราว่ารู้สึกยังไง..ได้..ผมจะลงไปเล่นเกมนี้ด้วย” ธีทัตออกจากบ้านไปมหาวิทยาลัย ซึ่งไม่กี่วันก็ไม่ต้องไปเรียนอีกแล้ว และเริ่มคิดเกี่ยวกับตัวเองอย่างจริงจัง ทางด้านพรรณนาราที่ได้ไปอยู่บ้านพ่อในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ก็ได้รับฟังจากพ่อของเธอว่าแฟนใหม่จะเข้ามาอยู่ที่บ้านด้วย “พ่อคิดดีแล้วว่าจะให้ปริมมาอยู่ด้วย ไหนๆก็คบหากันแล้ว ช่วงที่ลูกไปอยู่บ้านแม่ พ่อไปสู่ขอมัดไม้มัดมือกันมา ไว้จะจัดงานแต่งงานอีกที รอดูฤกษ์ยามก่อน” “ค่ะ พ่อมีความสุข หนูก็โอเค” ซึ่งปริมได้ย้ายเข้ามาทันทีในวันเสาร์ พร้อมกับรับแม่บ้านส่วนตัวเพิ่มมาหนึ่งคนเพื่อรับใช้ตัวเธอโดยเฉพาะ แต่พรรณนาราก็รู้สึกได้ทันทีว่าภรรยาใหม่ของพ่อนั้นไม่ธรรมดา ปริมเริ่มทำตัวเจ้ากี้เจ้าการในเรื่องหยุมหยิม เช่นของใช้หรือของตกแต่งในบ้านที่รู้ว่ามาจากแม่ของเธอเคยเลือก ก็จะให้นำไปเก็บที่ห้องเก็บของหรือทิ้ง จนกระทั่งไปถึงต้นจำปีที่คุณยายของเธอได้ปลูกไว้เพื่อให้เป็นสิริมงคลตอนขึ้นบ้านใหม่ก็สั่งคนให้ถอนออก “เดี๋ยวนะ ต้นไม้ต้องถอนด้วยเหรอ?” “พี่ได้กลิ่นมันแล้วเวียนหัวน่ะค่ะน้องพู่” พรรณนาราหน้านิ่งทันทีกับความสำออยของปริม “ไปขอความเห็นพ่อกันดีกว่าค่ะ มันอยู่มานานเท่าอายุของพู่เลย คุณยายปลูกให้ตอนซื้อบ้านหลังนี้” “เอ้อ..ก็..ถ้าแบบนั้นก็ไม่เป็นไรค่ะ แค่คุยกับคุณณัฐแล้วว่า อันไหนมันเก่า จะพัง หรือดูแล้วควรเปลี่ยนเพื่อให้บ้านดูสดใสสดชื่นก็แล้วแต่พี่เลย แต่ถ้าน้องพู่ไม่โอเคพี่จะไม่ทำค่ะ” “ดีค่ะ ขอบคุณที่เข้าใจ” เธอหันหลังเดินกลับเข้าบ้านโดยมีสายตาที่เริ่มไม่พอใจของปริมมองตามหลังไป หนึ่งอาทิตย์ถัดมาธีทัตก็ไม่ต้องไปเรียนอีก พ่อและแม่สั่งให้เขาไปอังกฤษเพื่อดูมหาวิทยาลัยว่าสนใจที่ไหน หลังจากงานหมั้นที่จะจัดขึ้นที่บ้านของครอบครัวอดีตแฟนสาว แบมได้มาหาที่บ้านแม่ของธีทัตก่อนวันหมั้นสองสามวันเพื่อพูดคุยเพราะตั้งแต่บอกเลิกกันทั้งคู่ไม่ได้พบหรือพูดคุยกันเลย “ธี พอดีว่าคุณพ่อธีให้แบมไปด้วย จะได้เลือกมหาวิทยาลัยเดียวกันไปเลยน่ะ จะได้หาอพาร์ทเม้นท์ใกล้มหาวิทยาลัยด้วยเลยทีเดียว” “โอเค” เขาตอบโดยมีสีหน้าที่ปราศจากอารมณ์ใดๆ “แล้ว..แบมถามได้มั้ย? เราจะหมั้นกัน ธี..อยากยกเลิกหรือเปล่า?” “ผมทำตามที่ทุกคนอยากให้ทำแล้ว ไม่น่ามีปัญหาอะไร..ไม่ใช่เหรอ? ก็ตกลงตามนั้น” ธีทัตตอบด้วยความห่างเหิน ไม่ค่อยมองที่เธอและภาษากายที่ดูอึดอัดของเขาทำให้เธอเริ่มน้อยใจ “เพราะพ่อสั่งถึงต้องทำสินะ เรื่องระหว่างเรามันไม่มีความผูกพันอะไรเลยเหรอธี?” “ลองพูดเรื่องความผูกพันหรือความทรงจำที่ดีๆของเราทวนให้ผมฟังหน่อยสิแบม ผมอยากฟังคุณพูด” แบมรู้สึกได้ทันทีว่าเขาต้อนเธอ แต่ก็คิดหาสิ่งที่จะตอบให้เขาพอใจ “แรกๆเราคบกันทุกอย่างมันดีมาก เจอกันตลอด ไปเที่ยว ไปกินข้าว เรื่องแบบนั้นก็ดี เราคุยกันได้ทุกเรื่อง” “อือฮึ” “คือมันไม่ได้มีอะไรที่ไม่ดีเลย เราไม่เคยทะเลาะกันด้วยซ้ำ” “อืม..เราเคยผ่านอะไรที่แย่ๆด้วยกันบ้างมั้ย? หรือส่วนมากเราต่างคนต่างอยู่กับเพื่อนของตัวเอง เอาจริงๆปีที่สองก็เริ่มห่างกันไปมีกิจกรรมของตัวเอง ผมพยายามนึกว่าเรามีเรื่องที่โรแมนติกหรือมีอะไรที่เป็นความทรงจำร่วมกันไหมที่ไม่ใช่กินข้าว คุยโทรศัพท์วันละห้านาที หรือไปนั่งกินกาแฟแล้วต่างคนต่างแยกย้ายน่ะ” “คนเรามันเบื่อ พอเจอคนใหม่ก็หาเหตุผลมาจนได้นั่นแหละ” “เปล่าหรอกแบม ไลฟ์สไตล์เราต่างกัน คุณชอบมีสังคมเพื่อน ทุกที่คือคอนเทนท์เลยต้องไปกับเพื่อน ผมเข้าใจได้ เลยปล่อยให้คุณได้ทำในสิ่งที่ชอบดีกว่าอยู่กับผมที่ชอบอยู่เงียบๆ ช่างเถอะ..ผมขอตัวไปนอนสักหน่อยนะ รู้สึกเพลีย” เอาเถอะ..พอไปอังกฤษเมื่อไหร่ ฉันจะทำให้คุณปรารถนาในตัวฉันจนลืมไม่ลง..ธีทัต ……………………………………..💔🧳“คุณพ่อพี่ดูแลหนูอย่างดี ยินดีด้วยที่เรียนจบและสุขสันต์วันเกิดนะคะ”เธอพูดโดยที่แง้มประตูอยู่แค่นั้นและไม่สบตาด้วย“อวยพรให้หน่อยสิ”“หนูเขียนคำอวยพรในกระดาษให้แล้ว พี่ได้รับหรือยังคะ?”“ได้แล้ว แต่อยากได้อีก”สายตาเขาที่ทอดมองมาหมายความแบบนั้นจริงๆที่อยากได้ทั้งคำอวยพรและอย่างอื่น“ขอให้พี่ธีสุขภาพดีและคิดหวังสิ่งใดให้สมหวังทุกอย่างนะคะ” “พี่จะสมหวังแบบที่น้องพู่พูด เพราะคิดแล้วว่าต้องการอะไร”ธีทัตดันประตูเข้ามาจนได้ ทำให้พรรณนาราเกิดกลัวขึ้นมา เธอกอดอกตัวสั่นเพราะหวั่นใจถ้าใครมาเห็นเข้าพรรณนาราถอยหลังไปเรื่อยๆเพราะธีทัตเดินมาใกล้ แล้วมอบกอดที่อบอุ่นให้เธอ เขาสูดดมกลิ่นหอมจากเส้นผมของเธออย่างหลงใหล“พี่เรียนจบแล้ว ตอนอยู่อังกฤษคิดอยู่ว่า..หรือจะหางานทำแล้วพาพู่มาอยู่ด้วยกัน พี่อยากสละทุกอย่างที่นี่ พู่ก็โอนหน่วยกิตไปเรียนที่นู่นเอา พี่จะส่งเสียเอง”ถึงฉันจะมีความรู้สึกให้เขา..แต่ฉันจะไม่ยอมให้ทุกคนที่ทำให้ฉันมีแผลใจต้องสมหวังหรอก… “หนูทำแบบนั้นไม่ได้ค่ะ ตอนนี้พ่อก็มีภรรยาใหม่เหมือนกัน หนูเองต้องอยู่เพื่อปกป้องสิทธิ์ของหนูด้วย ไม่มีใครควรชุบมือเปิบเอาของๆคนอื่นมาเป็นของตัวเองทั้งน
วันที่ธีทัตเรียนจบกลับมาจากอังกฤษซึ่งใกล้กับวันเกิดของเขาพอดี แต่เขาโดนกันท่าจากพ่อและแม่ทำให้ไม่สามารถไปที่บ้านซึ่งพรรณนาราอยู่ที่นั่นได้ เขาอยากเจอเธอที่ตอนนี้อายุได้สิบแปดแล้ว แต่ก็ทำได้แค่คิดฝัน สามวันตั้งแต่กลับมาธีทัตได้พักผ่อนอยู่ที่บ้านเพื่อปรับเวลาและปรับสภาพร่างกายโดยอยู่ในสายตาของแม่อยู่ตลอด“วันนี้ครอบครัวแบมกับครอบครัวเรามีนัดทานข้าวเย็นกันที่ Lacal Bangkok นะลูก แต่งตัวดีๆล่ะ”บรรยากาศการดินเนอร์ของสองครอบครัวเป็นไปด้วยดี มีเพียงธีทัตที่พูดน้อย เน้นพูดและแสดงออกตามมารยาท เสียงเคาะประตูทำให้พรรณนาราตกใจทุกครั้ง แต่ก็เดินไปเปิดให้“ไงลูกรัก คุณอาชรันกับภรรยาเก่ามีนัดทานข้าวกับครอบครัวคู่หมั้นคุณธี ถึงเวลาที่ลูกต้องดึงเขาอย่าให้แต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น แทนที่จะมานั่งจับเจ่าเป็นทองไม่รู้ร้อนอยู่แบบนี้”“หนูมัวคุยกับเพื่อนเรื่องเรียนมหาวิทยาลัยค่ะ ไม่ได้สนใจเรื่องคนอื่นหรอก พรุ่งนี้วันศุกร์ก็ต้องไปอยู่บ้านพ่อด้วย คงไม่ได้เจอใครหรอกค่ะ”“ใกล้วันเกิดพี่ธีแล้ว แม่จะลองพูดให้เขาจัดงานวันเกิดที่นี่ดู”“แล้วแต่แม่เถอะค่ะ ขอตัวคุยกับเพื่อนต่อนะคะ”เมื่อจบจากดินเนอร์ ธีทัตไปส่งแม่ที
ไม่นานนักปริมก็คลอดบุตรสาวที่มีน้ำหนักน้อยมากจนต้องเข้าตู้อบโดยมีแม่บ้านคนสนิทคอยดูแลอย่างใกล้ชิด สามีและลูกเลี้ยงสาวได้เดินทางมาเยี่ยม “พ่อคิดชื่อไว้แล้ว ชื่อจริง ปนิตา ชื่อเล่น น้องนิต้า ลูกว่าดีไหมพู่กัน?”พรรณนาราแค่ยิ้มรับตามมารยาทแล้วพยักหน้า“ขึ้นต้นคล้ายกับลูกชายของคุณแม่เลยค่ะ ชื่อ ปภาวิน น้องชายหน้าคล้ายหนูกับคุณแม่มาก”เธอพูดกับพ่อจบก็เดินมาที่ปลายเตียงของปริม “ยินดีด้วยนะ..ที่ได้..ลูกสาว อย่าอดอาหารเพราะห่วงจะหุ่นไม่สวยเกินไป ทำเอาน้องตัวนิดเดียวเอง .. พ่อคะ เดี๋ยวไปส่งหนูที่โรงเรียนสอนขับรถยนต์ได้มั้ย?”“หือ จะหัดขับแล้วเหรอ? อ้อ จริงสินะ อีกปีนึงลูกจะจบ ม.6 แล้ว งั้นพ่อจะซื้อรถให้”“ไม่ต้องซื้อค่ะ วันเกิดที่ผ่านมาหนูได้รถเป็นของขวัญแล้ว Porsche 911 Frozen Berry Metallic สีชมพูตามวันเกิด พ่อให้อย่างอื่นหนูก็ได้นะคะ หนูอยากได้ที่พักใกล้มหาวิทยาลัยค่ะ”“แล้วแม่ว่าไง? อนุญาตเหรอ?”“แม่โอเคอยู่แล้วค่ะ ไม่ต้องห่วง”“งั้นรอลูกเลือกมหาวิทยาลัยก่อนค่อยมาบอกพ่อแล้วกัน”ปริมที่ได้แต่นอนฟังอย่างไม่มีปากมีเสียง เธอผิดหวังที่มีลูกชายให้เขาไม่ได้ พอจะขอใช้วิธีทางการแพทย์ ณัฐวีย์กลับไ
ธีทัตที่อยู่อังกฤษ เขาแชร์ที่พักกับแบมในอพาร์ทเม้นท์เดียวกัน แต่กลับทำเหมือนเป็นแค่รูมเมทกันเท่านั้น ไม่ว่าแบมจะพยายามปรับตัว เอาใจเขา หรือแม้กระทั่งยั่วยวนแค่ไหน ธีทัตกลับเอาแต่อยู่คนเดียวในห้องคิดถึงแค่คนเดียวเท่านั้น..พรรณนารา…อาทิตย์ต่อมาที่พรรณนาราไปนอนบ้านพ่อ ก็เกิดมีเรื่องขึ้นว่าปริมโดนเข็มเย็บผ้าปักที่ขาลึกพอสมควรบนที่นอนในห้อง เสียงกรีดร้องและเลือดที่ไหลเป็นทางจนณัฐวีย์รีบอุ้มขึ้นรถไปโรงพยาบาล ทำเอาคนที่บ้านแตกตื่นยกเว้นเธอ“ทำไมมีเข็มไปปักบนที่นอนได้ นี่มันอันตรายมาก จงใจทำร้ายกันชัดๆ เรียกทุกคนมาคุยที่ห้องรับแขก”เมื่อทุกคนมาถึงรวมทั้งลูกสาวของเขา ณัฐวีย์จึงเริ่มสอบถาม แต่ก็ไม่สามารถจับมือใครดมไม่ว่าใครจงใจทำ แม่บ้านคนสนิทของปริมจึงพูดขึ้นมา“คนที่ทำแบบนี้ต้องไม่ชอบกันเท่านั้นแหละค่ะ ในบ้านก็มีกันแค่นี้ แล้วต้องมาเป็นวันหยุดด้วยนะ ยางแบนอาทิตย์ก่อนก็วันอาทิตย์ เพราะเช้าวันจันทร์มันแบนแล้วค่ะ”ณัฐวีย์ถึงกับคิดและมองหน้าลูกสาวที่หน้าตาเฉยเมย“พ่อคิดว่าเป็นหนูหรือคะ? หนูกำลังคิดเลยว่าคนที่กล้าทำให้ตัวเองดูเป็นเหยื่อจนเลือดตกยางออกได้ขนาดนี้ จิตใจต้องเหี้ยมขนาดไหน น่ากลัวนะคะ
วันหมั้นระหว่างแบมและธีทัตก็มาถึง โดยชรันและกชกรต้องจำใจไปด้วยกันส่วนพิชามญช์นั้นอยู่ที่บ้าน ตัวพรรณนาราเองอยู่ก็อยู่บ้านพ่อ “น้องพู่..เห็นคุณป้าพูดว่าได้จัดการเสื้อผ้าให้คุณชรันไปงานหมั้นของคุณธี พี่สงสารคุณธีนะ เขามายืนจ้องหน้าต่างห้องน้องพู่ทุกคืนเวลาที่น้องอยู่บ้านนี้ ไม่คิดจะคุยกับเขาสักหน่อยเหรอ? คืนที่เอาจดหมายมาฝากให้ เขาฝากบอกว่ารักน้องพู่ด้วยนะ”“ชีวิตเรามันเดินละทางไปแล้วค่ะพี่ฟ้า หนูอยากเห็นพี่เขาเป็นนักธุรกิจใหญ่ ได้แต่งงานมีครอบครัวกับคนที่..ไม่มีตำหนิแบบหนู”“ชีวิตเรา..มันน่ารันทดนะที่ต้องมาเจอคนวิปริตแบบนี้ แม่ที่เห็นแก่ตัว พ่อที่บ้ากาม ไม่มีใครรู้จักพอสักคน”“แต่หนูมีพี่ฟ้า มีคุณป้า ถ้าวันหนึ่ง..หนูหลุดพ้นแล้วได้ดี เรา..ไปอยู่ด้วยกันนะพี่”ฟ้า..สาวบ้านนอก เรียนจบแค่ ม.3 ชีวิตเจอแต่คนเอาเปรียบ แต่มีลูกคุณหนูมานับเป็นพี่น้อง นั่นทำให้เธอถึงกับตื้นตันจนน้ำตาซึม“ไปสิ แต่ตอนนี้น้องพู่ต้องเรียนให้จบนะ พี่เรียนมาน้อยถึงต้องมีชีวิตแบบนี้ คอยรองมือรองตีนคนอื่น น้องพู่ต้องอย่าเป็นแบบพี่ เพชรน่ะต่อให้อยู่ในโคลนตมยังไงก็คือเพชร””หนูจะรีดเงินจากเขาให้มากที่สุด แล้วเราหนีไปด้วยก
คืนต่อมาในกลางดึก ชรันได้มาหาพรรณนาราอีก คราวนี้เธอเตรียมตัวอย่างดีในชุดนอนเดรสบางเบาให้เขาตายใจ ชรันกอดเธอล้มลงนอนบนเตียง กอดจูบไปทั่วและซุกหน้าลงตรงจุดซ่อนเร้นเพื่อทำรักด้วยปากให้เธอ แม้จะสะอิดสะเอียนเธอต้องอดทนและเล่นบทเออๆออๆไปก่อน “ทีนี้ทำให้อาได้บ้างหรือยัง เด็กน้อย”“แต่หนูอายนะ ปิดไฟได้มั้ย?”“ยังไงก็ได้”พรรณนาราเดินไปที่ห้องน้ำ นำทิชชูมาทั้งแบบเปียกและแห้งมาเตรียมไว้ จนชรันแอบหยอกเธอ “ขนาดนี้เลยเหรอ? ดูเป็นงานเป็นการจังเลยนะ”“หนูจะปรนนิบัติอย่างดีไงล่ะ..”เธอทำหน้ากระหยิ่มยิ้มย่องแปลกๆ แต่เขาที่อยู่ในห้วงอารมณ์หื่นเลยไม่ได้สนใจอะไร เธอเดินไปปิดไฟ ไม่นานนักก็เริ่มลูบไล้ ลงลิ้นและใช้ปากให้อย่างช่ำชองจนชรันถึงกับดิ้นแอ่นตัวเด้งรับ เขาครางและกระหืดกระหอบอย่างแรงจนถึงจุดสุดยอด นอนหายใจรวยรินเพราะเกร็งจนหมดแรง เธอเดินเข้าห้องน้ำไปจนได้ยินเสียงบ้วนปากและออกมาเปิดไฟในห้อง นั่งลงที่ล่างเตียงแล้วใช้ทิชชูเช็ดทำความสะอาดให้เขาจนเรียบร้อยชรันจับคางเธอเบาๆแล้วหอมแก้ม กดโอนให้ห้าพันบาททันที “น่ารักจริงๆ เสียดายเจอกันอีกทีก็วันจันทร์เลย เสาร์อาทิตย์นี้ต้องพาแม่หนูไปหัวหิน อยากไปด้วยมั