“ท่าน ท่าน ท่านจะไม่ไปใช่ไหม” เมื่อสตรีนางนั้นเห็นปึงเฮียงเฉยชา นางจึงพลันจากไป
ปึงเฮียงถอนใจ ก่อนจะหันมากล่าวกับอี้อึ้ง “ขอตัวสักประเดี๋ยว แต่งกายให้เรียบร้อยแล้วออกมาต้อนรับท่าน”
อี้อึ้งมองบุรุษแซ่ปึงเข้าไปด้านใน เมื่อนึกว่าบุรุษต้องแต่งกาย คำว่าแต่งกายกระตุ้นภาพมังกรร้ายสะบัดตัวอยู่นอกผ้าเมื่อครู่ ทำให้นางแอบหน้าแดงซ่าน
ชั่วลัดนิ้วมือเดียว ปึงเฮียงก็ออกมา เขารีบกล่าว “เสร็จแล้ว”
“รวดเร็วยิ่งนัก”
“แต่อย่างอื่นข้าช้านะ”
“อย่างอื่นอันใด”
“อย่างที่นางเห็นไงล่ะ”
อี้อึ้งนึกถึงคำว่าอันใด ปีชวด อายุ 20 นางถึงร่ำร้องในใจ ฮุ้นกอ ข้าพบแล้ว!
วิกาลยาวนานยังไม่สิ้นสุด แต่ในสายลมได้พัดพากลิ่นอายของอรุณมาพร้อมกับอี้อึ้ง นางคล้ายหลับตาไม่ลง ตลอดนิทราอันข่มตาไม่หลับ นางเฝ้าคิดหาแต่วิธีเข้าหาบุรุษแซ่ปึง
นับแต่อายุสิบสามเป็นต้นมา นางเอียงอายต่อหน้าเพศบุรุษเสมอ มิเคยคิดเป็น “กิ่งดอกซิ่งแดง” แม้แต่คราเดียว จนกระทั่งพบฮุ้นกอที่ถอนพิษและสอนเพศรสให้นางเต็มที่ นางกล้าสบสายตาบุรุษทุกนามในแผ่นดิน ใช่แล้ว! ข้าต้องทอดสะพาน อี้อึ้งคิดได้แล้ว จึงผล็อยหลับได้ตอนไก่ขัน
แสงตะวันสาดส่องแสงเข้ามาทางหน้าต่าง อี้อึ้งเปิดเปลือกตาพลางหลุบตาเพราะแสงแดดสาดใส่ คล้ายปรากฏเงาร่างของเล็กเซี่ยวฮุ้นบนม่านหน้าต่าง นางจึงลุกออกจากเตียงตรงไปดูฮุ้นกอที่นอนขยับเขยื้อนมิได้
นางเข้าครัวหุงข้าวต้มและปรุงเนื้อหมูสับกับซี่อิ๊วให้เล็กเซี่ยวฮุ้น แล้วจัดการประคองถ้วยอาหารไปที่เตียง แล้วค่อยๆ ดันหลังฮุ้นกอให้นั่งบนเตียง
“รับประทานข้าวต้มนะท่านพี่ กำลังร้อนเชียว”
เล็กเซี่ยวฮุ้นพยักหน้ารับพลางยิ้มให้ นางประคองตักข้าวต้มใส่ปาก ในใจนึกว่าควรจะเล่าให้พี่ท่านฟังดีหรือไม่
ว่าได้พบบุรุษปีชวดที่เหมาะสมแล้ว ทว่า อย่าเลย พี่ท่านไม่ชอบให้ข้าต้องมือชายอื่นอีก อย่ากระนั้นเลย ลงมือจัดการให้เสร็จสรรพก่อนค่อยขบคิดหาคำพูดบอกกล่าวพี่ท่าน
หลังมื้อเช้า นางจัดแจงเปลี่ยนอาภรณ์เป็นแดงสด พร้อมสางผมให้เงางาม ก่อนจะกรีดกรายไปยังร้านขายผ้า
ที่นั่นปึงเฮียงตระเตรียมร้านอยู่ก่อนแล้ว มันรู้สึกปั่นป่วนภายในช่องท่องเหลือแสน เมื่อวานซืนมันมิอาจสำเร็จสมอารมณ์หมายกับนางภรรยาน้อยของเถ้าแก่หลงห้าวที่ร่านสวาท มาหาถึงเรือน
ทว่ากลับมิเสียดายเลย
หลังจากพบพานนางอี้อึ้งเป็นต้นมา ภายในใจและท้องไส้ของเขาล้วนปั่นป่วนมิยอมหยุด ปรารถนาจะได้ตัวนางมาเชยชม เขาแอบจินตนาการถึงเรือนร่างภายใต้ร่มผ้า จนตอนเช้าแอบเผลอขยับมังกรร้ายไปมาขณะอาบน้ำในอ่างน้ำมิได้ แต่เขามิยอมให้มังกรคายพิษ เขาปรารถนาจะเก็บไว้ให้นาง พิษแห่งตัณหาจึงวิ่งวนในท้องน้อยมาตั้งแต่เช้าแล้ว
เมื่อเห็นนางปรากฏกายบริเวณประตูร้าน บุรุษแซ่ปึงแทบอดใจไม่ไหว เขากล่าวต้อนรับเธอ
“แม่นาง มาแต่เช้าเชียว” สายตาเขาจับจ้องเธออย่างเสน่หา
นางดูออก คงไม่ยากที่จะเข้าหาบุรุษหนุ่มนามเฮียงท่านนี้
บุรุษแซ่ปึงหัวร่อเบาๆ “เชิญเข้ามานั่งก่อน”
อี้อึ้งกล่าวเข้ามาภายในร้าน กวาดตามองโดยรอบ มิพบพานสิ่งมีชีวิตใด บนถนนหน้าร้านรึก็แปลก มิมีผู้ใดผ่านมาเลย นางรู้สึกตื่นเต้น ยิ่งเมื่อบุรุษแซ่ปึงกล่าววาจา
“อยากได้อาภรณ์ชิ้นใดก็เชิญเลือก”
อี้อึ้งกวาดตามอง นางเคยคิดอยากได้แพรเหลืองไว้ตัดชุดสักชิ้น แต่บัดนี้เพียงแต่ปรายตามองผ่านๆ บุรุษแซ่ปึงเมื่อเห็นอี้อึ้งมิใครสนใจนัก เขาลอบยิ้ม “เชิญนั่ง แม่นาง ชาหอมๆ พร้อมสำหรับท่าน”
อี้อึ้งหย่อนสะโพกลงนั่ง สายตารับรู้ได้ว่าเขาลอบมองสะโพกอันกลมกลึงและผายออกของตน นางจึงมองไปยังร่างสูงโปร่ง มีเสน่ห์ตรงหน้า ภายใต้อาภรณ์ชุดขาว เธอปรารถนาจะเห็นกล้ามเนื้อมัดแน่น ไม่ใหญ่ไม่โตแต่พองาม แขนอันกำยำที่จะโอบรัดเธอไว้รอบ
บุรุษแซ่ปึงยิ้มแย้ม ชวนนางจิบชา ก่อนจะทำเป็นสัมผัสข้อมือเธออย่างไม่ตั้งใจ
“ขออภัยแม่นาง ข้าล่วงเกินท่าน”
“มิได้”
“มิได้เช่นไร”
“เช่นใดที่ท่านต้องการ แววตาท่านของท่านต้องการเช่นไร ข้าก็ต้องการเช่นนั้น” นางกล่าวอย่างกล้าหาญ
บุรุษหนุ่มถึงกับเคอะเขินสียเอง เขาเคยชินกับการเป็นฝ่ายรุก กลับถูกสตรีแปลกหน้ารุกไล่ ทำเอาเขาถึงกับวางตัวไม่ถูก ร่างกายทุกส่วนล้วนคึกคัก นางสบโอกาสทำเป็นก้าวไปข้างหน้าแต่ลื่นล้ม บุรุษแซ่ปึงคว้ารับไว้ได้ เขาสูดกลิ่นกายของนางเข้าเต็มปอด
“หอม หอมยิ่งนัก มันทำให้ตัวข้าตื่นเต้นและปรารถนาในตัวเจ้ายิ่งนัก”
กล่าวจบบุรุษพลันดึงร่างกายมาโอบกอด บุรุษเมื่อเห็นสตรีไม่ปัดป้อง เขาหลับตาลงแล้วดมดอมหอมไล่ตั้งแต่แก้มลงต้นคอ ส่งลิ้นออกควานไล้ไปตามริมฝีปากรูปกระจับ
นางเผยอออกรับ ริมฝีปากเขาลูบไล้ไปตามริมฝีปากนาง แล้วส่งลิ้นควานในปาก นางดูดลิ้นของเขาตอบ พลางแอ่นกายรับการลูบไล้ปทุมถัน
บุรุษแซ่ปึงลูบไล้ปทุมถันช้าๆ เขาคลึงเค้นถันซ้ายแล้วย้ายไปทางขวาอย่างช้าๆ ละมุนละไม อีกมือไม่ปล่อยเปล่า กลับลูบไล้ต้นขาของนาง ลมหายใจเขาหนักขึ้นๆ
เมื่อนางตอบโต้เขาด้วยการจับกุมมังกรร้ายของเขา มันส่ายศีรษะตอบรับและแข็งกายหยัดใหญ่อย่างปัจจุบันทันด่วน
บุรุษแซ่ปึงปลดสายรัดเอวนางออก ก่อนจะร้องบอกอย่างพึงใจ มันก้มลงส่งลิ้นดูดเม้มเม็ดบัว มือขวาไม่อยู่นิ่ง มันส่งมือไปลูบไล้เนินสวาทที่ปกคลุมไปด้วยหญ้าอ่อน มันขยี้ลงไปที่เม็ดมณีด้วยนิ้วกลาง จากแผ่วเบาแล้วแรงขึ้น
นางแหงนหน้าสูดลมหายใจแล้วครางออก
บุรุษแซ่ปึงอุ้มนางวางบนโต๊ะน้ำชา แล้วแหวกขานางออก เปลี่ยนคลึงเม็ดมณีด้วยนิ้วชี้กับนิ้วโป้ง นิ้วแห้งๆ ส่งสัมผัสอันแปลกประหลาด อี้อึ้งถึงกับร้องครางอย่างพออดพอใจ
มันกลับหยุดแล้วรีบกล่าว “อยากให้เจ้าสัมผัสร่างกายข้าบ้าง”
หนุ่มลูกน้องกระแทกอย่างบ้าคลั่งและเมามันอยู่พักใหญ่มันพานางไปที่เตียง ตัวมันนั่งลง ปล่อยคามังกรไว้ นางหมุนตัวไปทางเท้าของมันมังกรของมันจึงอยู่ในท่าที่นางจะควบขี่ได้โดยง่าย นางจึงโยกขึ้นโยกลงโยกไปทางซ้าย หมุนไปทางขวา“โอ้ว เสียวยิ่งนัก แม่นาง” มันตะโกนร้อง “มันดีอย่างนี้ได้เช่นกัน”นางผลักตัวเองออก ก่อนหันหน้ามาหามัน “ข้าชอบให้เจ้าถึงร่วมกันกับข้าทางด้านหน้า”“มิอาจมีปัญหา” มันกล่าวนางแอ่นกาย หยัดเกร็ง พลางเสียวซ่านตัวเกร็งไปทั่งสรรค์พางกาย ขยี้ปทุมถันของตนไปตามอารมณ์มุ่งหมายขณะที่มันดันมังกรเข้าถ้ำเป็นจังหวะครั้งแล้วครั้งเล่า กระแทกกระทั้นอย่างแรงไม่หยุด แล้วมันก็ดันมังกรเข้าครั้งสุดท้ายสุดแรงเกิด ร่างมันก็กระตุกเฮือกครั้งใหญ่ ก่อนจะปล่อยน้ำพลังหยางเข้าสู่ร่างกายนางนางกลับกอดร่างบุรุษแน่น ยกขาก่ายกอดรวบรัดสะโพกมันไว้ มันกระตุกอีกสองสามครา ก่อนจะฟุบร่างลงซบอกนางมันถอนกายออกเพื่อนมันอีกคนเข้าหานาง จับสะโพกนางให้โด่งเด่น แล้วดันมังกรของตนเข้าบ้างเป็นท่าสุนัขที่มันชื่นชอบนางสูดลมหายใจเข้าออก “เอาสิ อย่าช้า ข้ายังต้องการของพวกเจ้า”มันคนนี้จับสะโพกนาง โยกคลึงมังกรของตนบดเข้ากับส
ย่งฟางครางเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ แล้วที่สุดนางก็ร้องลั่นห้อง“ข้า ไม่ เคย เสียว อย่าง นี้ มา ก่อน เล ย ย ย ย ย ย ย ดี ที่สุด เลยย ย โอ้ว ย๊ากกกกกก”นางปล่อยน้ำรักผสมกับน้ำของบุรุษไหลมาตามง่ามขาหมิงป้าก้มลงซุกไซร้ไปตามใบหน้านาง ซอกคอนาง แล้วขบกัดเบา นางถึงร้องอีกคราฝ่ายหมิงจางเห็นดังนั้นจึงเล้าโลมนางอีก เขาเลียข้อเท้านาง มือก็วนคลึงสะโพกแล้วแอบสอดลิ้นตวัดเลียไปรอบถ้ำนางด้านหลัง ย่งฟางถึงกับเสียวสะดุ้งเป็นอีกความรู้สึกที่นางเพิ่งเคยได้รับหมิงจางอุ้มนางวางลงกับเก้าอี้ที่มีผ้าไหมรองตรงกลางห้อง เขาก้มลงกวาดลิ้นไล้ไปรอบปากถ้ำและรอบประตูหลัง นางแอ่นกายขึ้น แหงนหน้าสูดปากร้องอีกครา หมิงป้ายทำวนสลับไปมาเช่นนี้ อย่างมิหยุดหย่อนหมิงจางดูดเลียถันนางจากซ้ายย้ายไปขวา มันใช้มืออีกข้างคลึงเม็ดบัวนาง ขณะที่ปากก็ดูด ดุน วนเลียเม็ดบัวอีกข้าง สลับไปมาเช่นนี้อู่อีกพักหนึ่งลูกน้องคนสนิทยืนรูดมังกรขึ้นลง นางแหงนหน้ามองมันแล้วร้องวู้ มังกรมันกำยำเต็มไปด้วยหนามรัด มันจับมังกรมันถูไถไปตามขานางได้สักพัก ลูกน้องคนสนิทก็ถอยห่าง เพราะนางจ้างมันมา“เจ้าต้องรอ” หมิงปู้กล่าวหมิงปู้ว่าแล้วก็เดินไปถอดสายรัดนางอ
“พวกท่านเป็นแต่บุรุษ” “ใช่สิ พวกข้าบุรุษทั้งแท่ง” “ข้า รำไม่ได้หรอก” “หาไม่รำ ข้าจะฟ้องมารดาท่านเรื่องแอบมองมังกรของเขามังกรที่ถูกรูดขึ้นรูดลงด้วย ลองคิดดูสิ มารดาเจ้าจะเป็นเช่นไร” ย่งฟางนึกถึงมังกรกำยำใหญ่ยาวในมือนั้นแล้วร้อนวุบวาบ แอบหน้าแดง หมิงป้ายจึงพูด “ถึงกับหน้าแดงเชียว ฮ่าๆ” ย่งฟางยิ่งมีใบหน้าที่แดงมากขึ้น หมิงจางจึงถาม “ไหนลองบอกข้าหน่อยสิ เมื่อเจ้าเห็นมังกรเขาแล้ว เจ้าทำสิ่งใดต่อจากนั้น” นางก้มหน้าหลบ “ข้า ข้า มิได้ทำสิ่งใด” “เจ้ามิได้มีอารมณ์ร้อนหรือ” “มี” “แล้วเจ้าไม่ขจัดมันให้หมดหรือ” “ขจัด? ข้าทำไม่เป็น” “นี่เจ้า อย่าบอกนะว่าทำไม่เป็น” “ข้าไม่รู้จักว่ามันคืออะไร” ทั้งสี่คนหัวร่อขึ้น หมิงป้ายถึงกับพูด “โถ เจ้านี่ไร้เดียงสานัก” กล่าวจบเขาก็กระซิบที่หูนาง เคราที่เพิ่งโกนออกไปมันแหลมทิ่ม ทำเอานางจักกะจี้และรู้สึกแปลกๆ “ข้าจะสอนให้” “อย่างไร” “อย่างนี้ไง” หมิงป้ายเอื้อมไปลูบที่ต้นขานาง เขาลูบแผ่วๆจ
มังกรที่บุรุษกำอยู่นั้นขยายใหญ่ ขณะที่บุรุษหลับตาพริ้ม เขาสาวมันขึ้นลง มังกรที่ขยายใหญ่ก็เผยให้เห็นศีรษะที่แดงก่ำ เขาสูดปาก โก่งเอว หน้าท้องเขาแบนราบและเต็มไปด้วยกล้ามมัดเล็กๆ มังกรนั้นก็ยาวใหญ่พ้นมือที่กำไว้ล้นเหลือ จนนางลอบมองมือตนเองที่อาจจะเล็กกว่ามังกรของเขาก็เป็นได้ เขาสาวๆ มังกรขึ้นลงอยู่นั้นพักหนึ่งก็ต้องหยุดลง เมื่อบุรุษนายหนึ่งเดินผิวปากส่งเสียงมา มันคือหมิงป้าย คุณชายใหญ่ของพวกมันนั่นเอง บุรุษคนนั้นรีบชำระกาย เลิกสนใจมังกรตัวเองและมันก็ค่อยๆ เล็กลง บุรุษชำระกายอย่างรวดเร็วและออกจากห้องนั้น ขณะที่คุณชายใหญ่ผิวกายมาถึงห้องชำระกาย “ใครอยู่” “ข้าผู้น้อย หลินอันขอรับนายท่าน” “อืม มิมีอันใด ข้าแค่เดินเล่นผ่านมา เจ้าชำระกายอยู่หรือ ตามสบายเถิด” “ผู้น้อยธุระเสร็จแล้วนายท่าน” กล่าวจบเขาก็เปิดประตูออกมาและคำนับนายน้อย ก่อนจะเร่งเดินรุดๆ จากไป นายน้อยของพวกมันเดินไปอีกทาง พวกมันหายไปแล้ว ย่งฟางถอนหายใจอย่างเสียดาย นางกลับไปที่เตียง นั่งลงแล้วหลับตานึกถึงมังกรนำมือชายผู้นั้น ท้องน้อยนางถึงกับร้อนวูบวาบ นางไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่
พี่เขยบอกให้นางแนบสะโพกลงกับเตียงแล้วเขาก็ออกแรงโยกต่อ พี่เขยเอ่ยปากพูดแต่คำว่ารัก รัก รัก ขณะที่บั้นท้ายก็ยังไม่หยุดสอย เขายกสะโพกตัวเองขึ้นสูง แล้วกระแทกลงอย่าป่าเถื่อนบ้าคลั่ง“ชอบไหม ชอบไหม”“ข้าชอบท่านพี่ แรงอีก แรงอีก อย่าหยุด ขอร้อง อย่าหยุด”นางถูกพี่เขยกระแทกใส่อีกนับไม่ถ้วน แล้วอึดใจต่อมานางก็ทนไม่ไหว นางตัวเกร็งกระตุกเฮือกๆๆ แรงมาก จากนั้นความสุขสุดยอดที่นางปรารถนามาแสนนานก็แล่นพล่านไปทั่วทั้งร่าง รู้สึกเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ชั้นสูงสุดยิ่งกว่าครั้งไหนๆ และห้วงเวลาเดียวกันนี้พี่เขยก็ตัวกระตุกปล่อยน้ำพลังหยางอันร้อนผ่าวเข้ามาในตัวนางด้วยพร้อมกัน ในที่สุดนางก็เป็นของพี่เขยจริงๆ แล้ว นางร้องยินดีในใจพอเสร็จสมกันไป ทั้งสองคนก็นอนหอบกอดกันบนเตียง นางมีความสุขที่สุดโลก แต่ในเวลาเดียวกันก็รู้สึกแย่ที่ตัวเองเพิ่งทำเรื่องเลวทรามแย่งแฟนของพี่สาวมา แล้วตอนนี้คงกลับตัวไม่ได้แล้วเพราะโดนเปิดบริสุทธิ์ไปแล้ว จินเหนียงเผลอร้องไห้ออกมาพี่เขยตกใจใหญ่ เขาถามว่าเกิดอะไรขึ้น นางบอกไปตรง ๆ ว่าเสียใจที่ทำเรื่องไม่ดีแย่งแฟนพี่สาว พี่เขยนิ่งไปพักหนึ่งแล้วก็กอดจินเหนียงแน่น นาทีนั้นเองที่พี่สาวเป
นางลองทำตามแบบมึนงง เพราะกำลังเสียว พอผ่านไปสักพักจินเหนียงก็เริ่มตัวเกร็งทนไม่ไหว พี่เขยเร่งมือเร็วจี๋จนนางตัวกระตุกเฮือก แต่ต้องยกมือขึ้นปิดปากเพราะกลัวเสียงครางหลุดออกไป แล้วนางก็นั่งหอบเพราะถึงสวรรค์คานิ้วของพี่เขยไปหนึ่งรอบพี่เขยบอกว่าให้ช่วยทำให้เขาบ้าง นางจึงช่วยรูดมือเร็วถี่กว่าเดิม พี่เขยมีสีหน้าพอใจ แต่น่าเสียดายที่ครู่เดียวพี่สาวก็ปักผ้าเสร็จเสียก่อน นางจึงต้องรีบถอนมือ รีบดึงชายกระโปรงตัวเองลง แต่พอหันไปมองพี่เขยก็ต้องใจหายวาบ เพราะดูแล้วไม่น่าจะจับมังกรยาวใหญ่กลับเข้าไปในกางเกงได้ เคราะห์ดีที่พี่เขยหัวไวรีบคว้าเอาหมอนมาวางทับปิดเอาไว้ได้ทัน พี่สาวที่เดินผ่านไปจึงไม่เห็นสิ่งผิดปกติ หลังจากวันนั้นทั้งสองก็พยายามหาโอกาสใกล้ชิดกันอยู่เสมอ แต่พี่สาวกลับยิ่งประกบพี่เขย เรียกว่าประกบติดแจ เหมือนราวกับเอะใจ แต่ยังจับคาหนังคาเขาไม่ได้ ทั้งสองจึงไม่มีโอกาสจริงจัง มีแค่โอกาสเล็กๆ น้อยๆ อย่างเวลาเดินสวนกันพี่เขยก็จะรวบนางไปกอดแล้วจูบปาก บางครั้งก็ตีก้น หรือขยำถันนางเล่น นางเองก็ทำทีเป็นเอียงอาย เก้อเขิน ปัดป้องไปบ้าง บางครั้งเมื่อแอบนึกถึงใต้ชายผ้าของพี่เขย หน้ามันก็แดงขึ้นมาเองจริ