Share

บทที่ 4 ขโมยวาสนา

last update Terakhir Diperbarui: 2025-10-31 03:05:14

บทที่ 4 ขโมยวาสนา

       บรรยากาศความวุ่นวายถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง สายตามาดมั่นขัดกับใบหน้าอ่อนเยาว์ดูเป็นแม่นางน้อยไม่ประสาของเจ้าตัว ตกอยู่ภายใต้สายตาคู่หนึ่งที่เพ่งพินิจดู และก้าวย่างตามมาอย่างใคร่รู้

       ไป๋ลี่เฟยที่เดินลัดมายังประตูเก่าที่ถูกปิดการใช้งานไปแล้วของสำนักศึกษาหลวง นางลอดออกไปยังตรอกที่เป็นทางเชื่อมกับตลาด ทว่าเมื่ออยู่ในตรอกที่เงียบสงัด เสียงฝีเท้าที่คราแรกปัดไปว่าเป็นเสียงของคนในสำนัก ก็ยังคงดังก้องต่อเนื่อง

       เมื่อหันไปก็พบกับอาจารย์ผู้หนึ่งที่ยืนยิ้มแย้มรออยู่ก่อนแล้ว “หากไม่รู้ตัวไปนานกว่านี้ ข้าคงผิดหวังแล้ว” ชายวัยกลางคนผู้นั้นเผยรอยยิ้มคล้ายเอ็นดูลูกหลาน แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นจูจูก็นำตัวไปขวางระหว่างชายในอาภรณ์สีเขียวอ่อนและคุณหนูของตนไว้

       ผู้ที่เดินตามมาคือ ‘อาจารย์โฉ่โม่จิน’ ผู้ที่นางกราบกรานเป็นหนึ่งในศิษย์เอกเมื่อภพที่แล้ว แต่ยามนี้ลี่เฟยเป็นเพียงเด็กหญิงคนหนึ่งที่ยังไม่มีความโดดเด่นใดให้อยากรับเป็นศิษย์ คุณหนูไป๋จึงสับสนว่าเหตุใดอาจารย์โม่จึงลอบติดตามมา

“ลี่เฟยไม่คิดว่าจะมีผู้ใดสนใจติดตามแม่นางน้อยผู้หนึ่งมาเช่นนี้ จึงไม่ได้ระวังตัว” นางตอบไปเพียงเท่านั้นมิได้เผยอะไรไปมากเกินจำเป็น และสะกิดบ่าวด้านหน้าให้หลบออกไป

“เด็กหญิงที่ยังไม่เข้าสำนักศึกษาแต่กลับใช้วิชาปกปิดพลัง ทั้งยังเป็นรูปแบบการขัดปราณที่ข้าคิดค้นขึ้น มีศิษย์เอกของข้าสอนสั่งเจ้าไว้หรือ” อาจารย์โฉ่ตามออกมา เพราะสิ่งที่คุณหนูใหญ่แห่งจวนสกุลไป๋ทำเมื่อครู่สะดุดตาเขาเข้าทั้งยังรู้สึกคุ้นเคยทั้งที่พึ่งพบเจอเป็นครั้งแรก

        อาจเป็นเพราะโชคช่วย แต่ท่าทางของเด็กหญิงผู้นี้ยามเด็กขึ้นแท่นวัด มีท่าทางกึ่งมั่นใจกึ่งกระวนกระวายจึงทำให้ตัวอาจารย์โฉ่จับตาเป็นพิเศษ นั่นทำให้เขาเห็นในสิ่งที่อาจารย์คนอื่นไม่ทันเห็น

“ไม่มีใครสอนสั่งเจ้าค่ะ…” ลี่เฟยคิดหาคำแก้ตัวไม่ได้จึงเลือกที่จะเงียบลง นางใช้วิชาที่อาจารย์สอนในชาติเดิมจนชินชา หลงลืมไปว่าลักษณะเฉพาะย่อมทำให้จับสังเกตได้ว่าใครเป็นผู้สอนสั่งมา

“เช่นนั้นรู้ได้อย่างไร คิดเอาเองหรือ ทั้งการปกปิดนั่นอีก แสร้งเป็นคนพลังน้อยไปด้วยเหตุผลใดกัน” โฉ่โม่จินที่แม้จะสงสัยในตัวลี่เฟย แต่กลับมีความรู้สึกเอ็นดูอยู่ จึงมิได้จับตัวไปคาดคั้นเอาความอย่างรุนแรงอันใด

“เรื่องสาเหตุที่ปิดพลัง ศิษย์คงไม่อาจแจ้งความนี้กับผู้ใดได้ แต่เรื่องที่รู้วิชาได้อย่างไร หากข้าพูดความจริง ท่านอาจารย์ต้องหาว่าลี่เฟยผู้นี้เสียสติเป็นแน่” 

“เล่ามาเถิด ข้าจะตัดสินเองว่าสติของเจ้าสูญสิ้นไปแล้วหรือไม่” เมื่ออาจารย์ตอบมาเช่นนี้ ลี่เฟยจึงสั่งให้จูจูยืนรอห่างไปสามช่วงตัว อย่างไรคนผู้นี้ก็เปรียบเสมือนเป็นบิดาคนที่สองของนาง

       ไป๋ลี่เฟยเล่าว่าเคยใช้ชีวิตนี้มาครั้งหนึ่งแล้ว บอกรายละเอียดทุกอย่าง แม้กระทั่งความลับของอาจารย์โฉ่ที่มีเพียงไม่กี่คนที่รับรู้ก็ยกมากล่าวพิสูจน์ จะเว้นไว้ก็แต่เรื่องสุสานของจักรพรรดิหูหลงฉาง และความแค้นของนางที่มีต่อองค์ชายสามสารเลวผู้นั้น อาจารย์โฉ่เมื่อฟังจบก็ออกสีหน้าคล้ายเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ทำให้ลี่เฟยรู้สึกคล้ายสุนัขที่ถูกเจ้าของทอดทิ้งก็ไม่ปาน

“ท่านอาจารย์ทำสีหน้าเช่นนั้นเหมือนยามจี้จับโกหกข้าและศิษย์พี่ศิษย์น้องไม่มีผิด เรื่องนี้มีวิธีพิสูจน์ท่านอาจารย์รอลี่เฟยเข้าเรียน ก็สามารถเรียกมาทดสอบกับแท่นหินใหม่ได้ ขอเพียงไม่มีคนอยู่รอบข้างก็เพียงพอแล้วเจ้าค่ะ ข้าอยากเก็บเป็นความลับ” ไป๋ลี่เฟยที่แม้จะอยู่ในชาติใหม่ก็ยังคงเคารพอาจารย์ของตนเช่นเดิม นางไม่อาจปล่อยให้เขาคิดว่านางโป้ปด

“ไม่ต้องรอถึงขนาดนั้นหรอก หากทนได้ถึงเขียวขั้นต่ำย่อมหมายความว่าเจ้ามีปราณในกายสีเขียวขั้นกลางจริงๆ” โฉ่โม่จินยื่นมือออกมาให้เด็กหญิงตรงหน้าจับ หากเรื่องที่ไป๋ลี่เฟยพูดเป็นจริงการส่งลมปราณเข้าไปตรวจสอบก็สามารถประเมินระดับพลังได้คร่าวๆ เช่นกัน แม้ไม่แม่นยำเท่าหินทดสอบแต่ก็ทดแทนได้

        การส่งพลังเสร็จสิ้นในเวลาไม่ถึงเค่อ ไป๋ลี่เฟยยืนได้อย่างสบายๆ จนถึงระดับเขียวขั้นต่ำ และเริ่มต้านไม่ไหวเมื่อขึ้นไปยังระดับที่เท่ากับปราณในกายตน จึงทำให้อาจารย์โฉ่อยากลากตัวนางเข้าไปในสำนัก เพื่อทดสอบความรู้ให้หมดสิ้น 

       อาจารย์โฉ่ดีใจจนเนื้อเต้น หากที่เด็กคนนี้พูดเป็นจริง นั้น ย่อมหมายความว่าชาตินี้คุณหนูไป๋จะสามารถเรียนรู้ต่อยอดจากชาติเดิม และเก่งกาจได้มากกว่าเดิมหลายเท่าตัว แต่ก็ต้องถูกขัดคอ เพราะลี่เฟยไม่อาจรั้งรอไปได้มากกว่านี้

“ไว้ตรวจสอบเพิ่มภายหลังเถิด ข้าสัญญาว่าจะตั้งใจฝึกฝน และเป็นสิทธิ์เอกที่ท่านปลุกปั้นให้โดดเด่นจนผู้คนร่ำลือ แต่ตอนนี้ต้องไปแล้วเจ้าค่ะ” นางกล่าวเท่านั้น แล้วก็รีบวิ่งออกไปโดยที่จูจูร้องเรียกก็ไม่ได้ทำให้ลี่เฟยวิ่งช้าลง ร้องบอกเพียงว่า ‘ตามมา’

ขอให้ทันเถิด มิเช่นนั้นแผนการณ์นี้อาจพังไม่เป็นท่า

       ภาพในจอที่เห็นจากโลกอนาคตฉายให้เห็นว่าซินหยานมีองค์ชายมาติดพันหลายพระองค์ และนั่นเป็นจุดที่ทำให้จ้าวหลินไฉ่ละสายตาจากไป๋ซินหยานไม่ได้ ความต้องการเอาชนะคงเคลื่อนผ่านกายองค์ชายสามอย่างห้ามไม่อยู่

        ในภพนี้นางต้องการชิงความสนใจนั้นมาไว้ที่ตนเองแทน มิใช่เพื่อเรียกร้องความรัก แต่เพื่อคัดเลือกหาตัวละครใหม่ที่ลี่เฟยจะผลักดันให้ได้ตำแหน่งรัชทายาทแทนที่องค์ชายสามผู้นั้น หากจะดึงมาร่วมแผนย่อมต้องสนิทสนมไว้

        เสียงคึกคักของตลาดดังแว่วเข้ามาในโสตประสาท สายตาดอกท้อหันมองหาเด็กขอทานเป้าหมายของตน เมื่อกวาดสายตาก็พบเห็นเด็กน้อยกำลังยื้อแย่งยาต้มห่อหนึ่งกับหญิงชราที่กลางถนนคนเดิน

ฟ้ายังเป็นใจสินะ

“ท่านป้า เด็กน้อย พวกท่านมีปัญหาอันใดกัน อ๊ะ” แม้หน้าตาของทั้งสองจะแตกต่างจากคนแสดงในจอประหลาด แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ผิดเพี้ยนไปจากนี้ ไป๋ลี่เฟยจึงแทนกตัวไปขัดขวางไว้จนถูกลูกหลงทุบตีไปหลายครา

“ข้าซื้อยาเทียบนี้ แต่เจ้าเด็กสกปรกนี่กลับมาฉุดยื้อแย่งไปจากข้า สันดานขโมยต้องตีให้ตาย” เมื่อพูดจบหญิงชราคนดังกล่าวก็เอื้อมมือจะไปตบตีอีก ฟาดลงบนตัวจูจูแทน 

        แม้บ่าวตัวน้อยอย่างจูจูจะไม่เข้าใจการกระทำของเจ้านายตน แต่ก็เอาตัวไปบังไว้ไม่ให้ลี่เฟยเจ็บ

        คุณหนูไป๋สวมหน้ากากแม่พระผู้มีจิตใจอ่อนโยนหันไปถามเอากับเด็กน้อยด้านหลัง “ที่ท่านป้าพูดมาจริงหรือไม่”

       เด็กน้อยเมื่อเห็นท่าทางใจดีบริสุทธิ์เช่นนี้จึงไม่กล้าโกหก แต่ก็ยังพูดจาให้เหลือช่องเอาตัวรอดไว้ “จริงขอรับ แต่ข้ามีเหตุผล” 

“เช่นนั้นคืนของให้ท่านป้าไปเสีย หากเจ้าต้องการยาข้าจะซื้อให้เอง” ไป๋ลี่เฟยส่งยิ้มที่แฝงด้วยไอความเป็นพี่สาวผู้ใจดี แม้จะโตกว่าเด็กอีกคนแค่สามสี่ปี แต่อาจเป็นเพราะดวงจิตมีอายุมากกว่าร่างกาย จึงส่งกลิ่นไอที่ทำให้เด็กน้อยยินยอมแต่โดยดีออกมา

“ท่านป้า ให้อภัยเด็กเถิดหนา” เมื่อส่งของคืนแล้วลี่เฟยก็ลอบส่งตำลึงเงินใส่มือไปด้วย ทำให้หญิงผู้นั้นไม่ติดใจเอาความใด 

หากจะให้ลับฝีปากกับท่านป้าผู้นี้อย่างซินหยาน ข้าไม่ยอมเสียเวลาหรอก

       แม้นางจะมาช่วยเหลือเหมือนกัน แต่จะให้ลี่เฟยไปก่นด่าคนที่ถูกขโมยของก็เห็นจะใช่ที่ และประเด็นสำคัญคือองค์ชายผู้นั้นเพียงประทับใจในความมีน้ำใจของซินหยานที่พาเด็กน้อยไปซื้อเทียบยาใหม่เท่านั้น 

“เจ้าจะเอายาไปทำสิ่งใด มีคนที่บ้านป่วยหรือ” ลี่เฟยหันไปสอบถาม เมื่อเห็นที่หางตาแล้วว่าจ้าวโจวเฉิงยังลอบมองเหตุการณ์เบื้องล่างอยู่จากหน้าต่างชั้นบนของโรงเตี๊ยม 

“น้องสาวของข้าไม่สบายจึงอยากนำยาไปให้นาง”

“เช่นนั้นไปร้านยา อธิบายอาการของน้องสาวเจ้าให้หมอยาจัดเทียบให้ถูกต้องดีกว่าหรือไม่ และคราวหลังห้ามขโมยเจ้าใจหรือไม่ ต่อให้ลำบากก็ต้องไม่ทำความผิด”

       ไป๋ลี่เฟยจัดการทุกอย่างด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม นางไม่ทำอะไรที่มากไปหรือน้อยไป ก่อนจะออกจากตลาด ลี่เฟยเงยหน้าขึ้นไปมององค์ชายหกที่ยังคงมองออกมานอกหน้าต่าง แสร้งทำสีหน้าสงสัยส่งไปเล็กน้อย ชายผู้นั้นส่งรอยยิ้มเป็นมิตรตอบกลับมา จึงทำให้คุณหนูใหญ่จวนไป๋มั่นใจแล้วว่าวาสนาที่เคยเป็นของซินหยานคงตกมาเป็นของนางเรียบร้อยแล้ว

.

.

.

“โกเว่ย แม่นางน้อยผู้นั้นเป็นบุตรหลานสกุลใด ตามไปดูที” โจวเฉิงหันไปถามองครักษ์ข้างกาย ที่ไม่โต้ตอบสิ่งใด เพียงแค่พยักหน้ารับ แล้วติดตามแม่นางน้อยผู้ช่วยเหลือเด็กน้อยไป

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ไม่เป็นมันแล้วนางรองผู้แสนดี   บทที่ 5 พบหน้าคู่หมาย

    บทที่ 5 พบหน้าคู่หมาย หลังเรื่องว้าวุ่นในวันนี้จบลงไป๋ลี่เฟยนั่งรับลมราตรีที่หอบเอากลืนหอมสะอาดบางเบาของเหล่าบุปผาในสวนข้างเรือนมาหมุนวนรอบกายบาง เรือนนอนของคุณหนูใหญ่ผู้นี้ถูกประดับตกแต่งอย่างหรูหรา ทั้งยังเป็นเรือนส่วนตัวแยกจากมารดา ไป๋ลี่เฟยถูกเอาออกเอาใจเป็นพิเศษเพราะถูกวางตัวเป็นชายาขององค์ชายตั้งแต่คลอดออกมาได้ไม่กี่ชั่วยาม มารดาของนางและมู่กุ้ยเฟยเป็นสหายสนิทกันมาตั้งแต่เกิด จึงคิดให้บุตรชายบุตรสาวได้ดองเป็นครอบครัว ไป๋ลี่เฟยแค่นยิ้มบางๆ วันพรุ่งนี้แล้วที่นางต้องได้พบจ้าวหลินไฉ่อีกครั้ง ครานี้บทนางรองผู้สนับสนุนและปักใจจะส่งเสริมว่าที่สามีจะไม่ใช่ตัวนางที่เป็นผู้รับ ลี่เฟยจะเป็นนางร้ายผู้ไม่ส่งเสียง วางแผนทำลายอยู่เบื้องหลัง แสแสร้งแกล้งทำด้วยใบหน้าอ่อนโยนประดับรอยยิ้มอาบยาพิษ เป็นนางร้ายที่มีมี่สอนสั่งว่าเป็นมารดาของนางร้ายทั้งปวง หากจะมีสิ่งใดที่นางเสียดายเมื่อต้องกลับมา คือการต้องจากลากับสหายผู้นั้น แม้จะเป็นช่วงเวลาไม่นาน แต่มิตรภาพที่นางให้คือสิ่งที่จริงแท้“หวังว่าข้าจะได้พบเจอเจ้าอีกครา มีมี่” ลี่เฟยพึมพำกับตนเอง“คุณหนูว่าอย่างไรนะเจ้าคะ บ

  • ไม่เป็นมันแล้วนางรองผู้แสนดี   บทที่ 4 ขโมยวาสนา

    บทที่ 4 ขโมยวาสนา บรรยากาศความวุ่นวายถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง สายตามาดมั่นขัดกับใบหน้าอ่อนเยาว์ดูเป็นแม่นางน้อยไม่ประสาของเจ้าตัว ตกอยู่ภายใต้สายตาคู่หนึ่งที่เพ่งพินิจดู และก้าวย่างตามมาอย่างใคร่รู้ ไป๋ลี่เฟยที่เดินลัดมายังประตูเก่าที่ถูกปิดการใช้งานไปแล้วของสำนักศึกษาหลวง นางลอดออกไปยังตรอกที่เป็นทางเชื่อมกับตลาด ทว่าเมื่ออยู่ในตรอกที่เงียบสงัด เสียงฝีเท้าที่คราแรกปัดไปว่าเป็นเสียงของคนในสำนัก ก็ยังคงดังก้องต่อเนื่อง เมื่อหันไปก็พบกับอาจารย์ผู้หนึ่งที่ยืนยิ้มแย้มรออยู่ก่อนแล้ว “หากไม่รู้ตัวไปนานกว่านี้ ข้าคงผิดหวังแล้ว” ชายวัยกลางคนผู้นั้นเผยรอยยิ้มคล้ายเอ็นดูลูกหลาน แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นจูจูก็นำตัวไปขวางระหว่างชายในอาภรณ์สีเขียวอ่อนและคุณหนูของตนไว้ ผู้ที่เดินตามมาคือ ‘อาจารย์โฉ่โม่จิน’ ผู้ที่นางกราบกรานเป็นหนึ่งในศิษย์เอกเมื่อภพที่แล้ว แต่ยามนี้ลี่เฟยเป็นเพียงเด็กหญิงคนหนึ่งที่ยังไม่มีความโดดเด่นใดให้อยากรับเป็นศิษย์ คุณหนูไป๋จึงสับสนว่าเหตุใดอาจารย์โม่จึงลอบติดตามมา“ลี่เฟยไม่คิดว่าจะมีผู้ใดสนใจติดตามแม่นางน้อยผู้หนึ่งมาเช่นนี้ จึงไม่ได้ระวังตัว” นางตอบไปเพี

  • ไม่เป็นมันแล้วนางรองผู้แสนดี   บทที่ 3 ทดสอบพลัง

    บทที่ 3 ทดสอบพลัง ดวงตาดอกท้อเบิกโพลง สะดุ้งตัวขึ้นมานั่ง ร่างเล็กของไป๋ลี่เฟยหอบหายใจอยู่บนเตียงกว้าง เหงื่อเย็นผุดขึ้นตามกรอบหน้า นางก้มลงมองร่างของตนเอง ควานหาคันฉ่องเล็กที่มักเก็บไว้ข้างหมอนยังไม่ตายจริงด้วย! เมื่อตั้งสติไปประมาณหนึ่งไป๋ลี่เฟยจึงเริ่มสูดหายใจเข้าออกยาวๆ เพื่อให้ใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะนี้สงบลง ยกมือขึ้นเช็ดเหงื่อที่กรอบหน้าก็ต้องตกใจอีกครั้ง เพราะยามที่ลากมือผ่านหน้าผากมีแสงสีม่วงลวดวายดั่งไม้ใหญ่ที่เคยพบเมื่อครั้งแรกที่ไปยังภพประหลาดนั้นแปลว่าทั้งหมดเป็นเรื่องจริง แล้วข้ากลับมาที่ช่วงเวลาใดกัน…ใบหน้าเช่นนี้คงไม่เกินสิบสามปีเป็นแน่ ไม่นานเกินรอบ่าวประจำตัวที่ได้ยินเสียงนางขยับเขยื้อนก็ยกน้ำเข้ามาเตรียมรอให้ไป๋ลี่เฟยล้างหน้าบ้วนปาก“คุณหนูตื่นเร็วนัก วันนี้ต้องไปวัดระดับพลัง เหตุใดจึงไม่นอนเอาแรงอีกเสียหน่อยเจ้าคะ” จูจูข้ารับใช้คนสนิทเอ่ยถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ส่งให้ลี่เฟยรู้ว่ายามนี้นางมีอายุสิบสองปี“อาจเป็นเพราะข้าตื่นเต้นเกินไป เป็นสตรีชั้นสูงพลังไม่มากก็ไม่เป็นอันใดหรอกจูจู” คุณหนูไป๋ภายนอกดูพูดจาเจือความขบขัน แต่ภายในใจนั้นกำลังนึกถึงซินหย

  • ไม่เป็นมันแล้วนางรองผู้แสนดี   บทที่ 2 หลีกหนีไม่ได้แล้ว

    บทที่ 2 หลีกหนีไม่ได้แล้ว ไป๋ลี่เฟยอยู่วนเวียนในห้องน้องสาวผู้ยังไม่ตายของมีมี่ จนเอ็นดูหลานของมีมี่ดั่งว่าเป็นลูกหลานของตนไปด้วยเสียแล้ว คนในบ้านหลังนี้ หากไม่นั่งดูอะไรร่วมกันในจอใหญ่ก็จะดูให้จอเล็กที่ใช้ทำอะไรได้มากมายนัก บางคราแม่นางน้อยลูกของน้องสาวมีมี่ก็ใช้ทำแบบฝึกหัดที่อาจารย์จากสำนักศึกษาของนางสอนสั่งระหว่างรอมาดูเรื่องราวของนาง ที่ตอนนี้แล่นมาถึงโค้งสุดท้าย“ไป๋ลี่เฟย หากวันนี้มีอะไรไม่ถูกใจเธออีก เธอห้ามทำให้ไฟดับนะ” มีมี่เดินเข้ามาหาลี่เฟยที่นั่งเหม่อลอยรอเวลา“ข้าไม่เคยรู้เลยว่าองค์ชายสามรักน้องรองถึงเพียงนั้น หากข้ารู้มาก่อนย่อมยินดีหลบทางให้ก่อนที่จะได้หมั้นหมายกันเป็นทางการ” ลี่เฟยยิ้มบางตอบในตอนล่าสุดองค์ชายสามไปลาซินหยานเพื่อไปยังสุสานของจักรพรรดิหูหลงฉางกับตัวนาง การจากลาที่หวานซึ้งไม่ได้ทำร้ายน้ำใจให้นางรู้สึกเจ็บปวดดั่งคนอกหักปางตาย แต่ลี่เฟยรู้สึกเสียหน้าจนเกินกว่าจะให้อภัย ความเจ็บปวดเรื่องความรักสำหรับนางไม่เท่าการไม่ให้เกียรติกันเช่นนี้“ข้าทุ่มเทมากมายถึงเพียงนี้ ยอมเสี่ยงตายไปหุบเขานั้นเพื่อความฝันขององค์ชาย หาทุกวิถีทางให้เส้นทางการขึ้นเป็นรัช

  • ไม่เป็นมันแล้วนางรองผู้แสนดี   บทที่ 1 นั่นมันเรื่องราวของข้า?!

    บทที่ 1 นั่นมันเรื่องราวของข้า?!“มีมี่ข้าเข้าไปได้แน่หรือ” ไป๋ลี่เฟยฉงนอยู่หน้าประห้องน้องสาวของมีมี่สหายในโลกวิญญาณผู้นี้ คราแรกนางเข้าใจว่าทั้งตึกเป็นจวนประจำสกุลของผีสาวนางนี้ แต่เมื่อรู้ว่าคนในยุคสมัยนี้อยู่ในห้องกันเสียส่วนมากก็ตกใจไม่น้อย“เข้าได้สิ เจ้าที่แถวนี้น่ะไม่มีพลังขนาดนั้นแล้ว กันเราเข้าไปไม่ได้หรอก” มีมี่ทะลุประตูเข้าไปโดยที่ฉุดไป๋ลี่เฟยตามเข้าไปด้วย“เห็นไหมว่าเข้าได้” มีมี่ยักคิ้ว“เหตุใดเจ้าที่ไม่มีพลัง” ไป๋ลี่เฟยยังยึดติดกับคำพูดก่อนหน้าอยู่จึงกล่าวถามเช่นนี้ออกไป“ก็ไม่มีใครสนใจจะบูชาอะไรแล้วน่ะสิ เหลือแค่ส่วนน้อยเท่านั้น มาเร็วเข้า กำลังเริ่มพอดี” มีมี่ที่เห็นน้องสาวของตนนั่งข้างหลานสาวตรงหน้าโทรทัศน์แล้วก็รีบเรียกให้มาทันที ไป๋ลี่เฟยก้าวตามไปหยุดตรงที่นั่งซึ่งมีมี่หันมาบอกว่าคือโซฟา แล้วก็นั่งลงเลียนแบบคนทั้งสอง และผียุคอนาคตของนางอีกหนึ่งตน ดวงตาจับจ้องไปที่กล่องสี่เหลี่ยมบางจนเกือบเป็นกระดาษอย่างไม่เข้าใจนัก “เหตุใดมีคนอยู่ในที่บางเช่นนั้นได้ ช่วยพวกเขาออกมาเร็วเข้า!” คุณหนูไป๋ตกใจสุดขีด แม้จะพบเรื่องประหลาดมากมาย แต่สิ่งที่เห็นอยู่นี้ทำให้นางไม่เข้า

  • ไม่เป็นมันแล้วนางรองผู้แสนดี   บทนำ วิชาถนอมวิญญาณ

    โปรยเนื้อหา‘เป็นคนดีไปก็ไม่มีใครรัก ทุ่มเทเท่าไหร่สุดท้ายไอ้พระเอกก็ทิ้งข้าไปรักกับแม่นางเอกที่ไม่เคยทุ่มเทอันใดให้ เช่นนั้นก็ร้ายแทนแล้วกัน!’ ไป๋ลี่เฟยดื่มยาพิษเพื่อช่วยเหลือชายผู้เป็นที่รักไว้ เกิดวิญญาณหลุดลอยไปเห็นว่าเรื่องราวของนาง(?) ถูกบอกเล่าอยู่ในกล่องสี่เหลี่ยมน่าประหลาด แล้วดูนั่นเหตุใดจึงเลือกหญิงสาวหน้าตาจืดจางเช่นนั้น มาแทนตัวไป๋ลี่เฟยสาวที่นับว่าน่ารักน่าเอ็นดูงดงามเป็นหนึ่งในสี่ของเมืองหลวงกัน?! ยังกรุ่นโกรธได้ไม่เต็มที่กล่องนั้นก็ฉายภาพเป็นเหตุการณ์ที่นางเสียสละตนเองดื่มพิษเจ็ดทวารสี่ทรมานพอดี ไป๋ลี่เฟยที่เป็นวิญญาณจึงอยากตั้งใจดูว่ามีสิ่งใดเกิดขึ้นตามมา ลี่เฟยพบว่าการกระทำของนางไม่ถูกจารึกลงในหัวใจเขาเลย ต้องกลับกลายเป็นหญิงโง่งม เป็นสิ่งที่คน ณ ที่แห่งนี้รู้สึกเวทนาสงสาร “นี่ล่ะนะ นางรองน่าสงสารจริงๆ ทำไปเท่าไหร่ คนไม่รักเขาก็ไม่รักอยู่ดี” ลี่เฟยอดทนดูไปจนถึงตอนจบพวกเขาที่เป็นพระเอกนางเอกก็ใช้ชีวิตอย่างสุขสม องค์ชายสามที่นางหลงรักเอาชนะหัวใจไป๋ซินหยานที่ผู้คนในที่แห่งนี้เรียกว่านางเอกมาเป็นฮองเฮาคู่บัลลังก์ได้ในที่สุด เมื่อทำดีแล้วไม่เห

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status