อลิสครูสาวบรรจุใหม่กับหัวใจที่แสนมุ่งมั่น เดินทางไปด้วยใจรักในอุมดมการณ์ ธนาตุลหนุ่มไฮโซ ที่เลือกจะมาเป็นตำรวจตระเวนชายแดน แทนการอยู่ในสังคมที่สวยหรู เขาได้รับคำสั่งให้มาปฏิบัติหน้าที่ดูแลความสงบ ในหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกล แต่หนทางข้างหน้า ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่มันเต็มไปด้วยขี้โคลน กับลำบาก ห่างไกลจากความสะดวกสบาย เมื่อความรักก่อตัวขึ้น ขวากน้ำของความรักที่ผู้กองปิดบังไว้ ก็แสดงออกมา ผู้กองธนาตุลมีคู่หมั้นอยู่แล้ว
View Moreตอนที่1
การเดินทางตามเส้นทางของความฝัน
“คุณพ่อกับคุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วง ทุกคนที่นั่นจะดูแล อลิสเป็นอย่างดีค่ะ”
วันนี้เป็นวันที่อลิสลูกสาวสุดที่รักของอดีตผู้อำนวยการโรงเรียนวิทยากับแพทย์หญิงมุกดาต้องเดินทางไปรายงานตัวและเข้ารับการบรรจุทันที ที่โรงเรียนบ้านน้ำฝายที่อยู่ติดกับตะเข็บชายแดนไทยพม่า
“พ่อกับแม่ส่งหนูแค่นี้นะลูก ดูแลตัวเองดีๆ ทำงานที่ลูกรักให้มีความสุข”
วิทยากับมุกดาส่งลูกสาวแค่เพียงตัวจังหวัด โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน ทำหน้าที่มารับอลิสไปส่งยังหมู่บ้านอีกที
“ ผมร้อยตำรวจเอกธนาตุล ได้รับมอบหมายให้มาทำหน้าที่ดูแลการเดินทางของคุณครูอาริสา “
ชายหนุ่มในชุดตำรวจแนะนำตัวให้พ่อและแม่ ของอลิสรู้ว่าเขาคือใครและมาทำหน้าที่อะไรในเวลานี้
“ฝากด้วยนะคะ”
มุกดาทำท่าจะยกมือไหว้แต่ธนาตุลจับมือเธอไว้ก่อน เพราะเขาอายุน้อยกว่าเธอหลายปี
“ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ทางกองร้อยของเราจะมีตำรวจผลัดเปลี่ยนกันไปดูแลคุ้มครองชาวบ้านตลอดทั้งปีครับ”
เมื่อนายตำรวจพูดถึงการดูแล มุกดาและวิทยาก็พอสบายใจขึ้นมาบ้าง
ทั้งสองคนไม่เต็มใจนักที่ลูกสาวจะเดินทางไปบรรจุในถิ่นทุรกันดาร แต่ด้วยมันเป็นความฝันของเธอ ทั้งคู่จึงจำใจต้องให้เธอไป
“ผมชื่อธนาตุลนะ เรียกผมผู้กองตุลก็ได้”
ชายหนุ่มแนะนำตัว เมื่อขึ้นไปประจำการในตำแหน่งคนขับ และมีคุณครูคนใหม่นั่งอยู่เบาะข้างๆ ส่วนตำรวจอีกสองนายนั่งอยู่ที่กะบะหลัง
“ฉันชื่ออาริสา แต่เรียกอลิสเฉยๆก็ได้ค่ะ” หญิงสาวแนะนำตัว
“ดูแล้วผมน่าจะอายุมากกว่าคุณนะ ตอนนี้ผม30แล้ว” ชายหนุ่มหลอกถามอายุ
“ถ้าอย่างนั้นเป็นพี่แน่นอนค่ะ”
รอยยิ้มของคุณครูคนใหม่ ที่กำลังจะได้ไปเริ่มทำงานที่ตัวเองรัก อดทำให้ธนาตุลคิดถึงเมื่อครั้งที่เขาเลือกมาอยู่ที่นี่ใหม่ๆ ตอนนั้นเขาก็มีรอยยิ้มแบบนี้ เพราะมีความสุขและตื่นเต้นที่จะได้ทำตามความฝัน
“ผู้กองอยู่ที่นี่มากี่ปีแล้วคะ”
หญิงสาวชวนคุย เพราะอยากจะรู้ข้อมูลหมู่บ้านที่เธอจะไปอยู่ก่อนที่จะไปถึง
“เข้าปีที่สามแล้วครับ อยู่จนไม่อยากย้ายไปไหนแล้ว ทุกคนที่นั่นมีแต่ความเรียบง่ายไม่วุ่นวายเหมือนในกรุงเทพ รับรองถ้าคุณครูไม่เบื่อความลำบากเสียก่อน จะรักและอยากอยู่ที่นั่นเหมือนผม”
อลิสมองสีหน้าคนเล่า เขาคงรักที่นั่นจริงๆถึงได้อยู่ถึงสามปี แล้วไม่คิดย้ายไปไหน
ระหว่างทางหญิงสาวนั่งมองข้างทางตลอด เธออยากจำเส้นทางเองให้ได้ เพราะต่อไปคงไม่มีใครมาคอยรับส่งเธอแบบนี้ทุกครั้ง
“อีกไกลไหมคะ กว่าจะถึงหมู่บ้าน”
หญิงสาวเริ่มคิดว่าใกล้เวลาอาหารกลางวันแล้ว และรอบตัวก็มีแต่ป่า ภูเขา นานๆทีจะมีบ้านคนสักหลัง
“กว่าจะถึงก็คงค่ำเลย มีอะไรหรือเปล่าครับ”
ตุลถามเพราะเห็นคนมาใหม่ทำท่าเหมือนอยากจะพูดอะไร แต่ไม่กล้า
“คือ...ฉันเริ่มหิวข้าวแล้วค่ะ” คนพูดเอามือทั้งสองข้างกุมท้อง ที่กำลังส่งเสียงร้องอยู่ข้างใน
“โถ่...ผมก็นึกว่าอะไร เดี๋ยวข้างหน้าจะมีร้านก๋วยเตี๋ยวของชาวบ้าน อร่อยสุดๆ คุณครูทนรออีกนิดนะครับ”
ทุกครั้งที่เข้าตัวจังหวัด ธนาตุลและลุกน้องจะมาแวะกินที่ร้านนี้ตลอด รสชาติถูกใจ ผักที่ใช้ก็ปลูกเอง แถมราคาก็แสนจะถูกมาก
“เห็นวัดที่อยู่ข้างหน้าไหมครับ ตรงนั้นแหละที่มีร้านของกิน ไว้วันหลังถ้าคุณครูต้องเดินทางเข้าเมืองจะได้มาแวะกินได้ สังเกตจากวัดจะช่วยให้จำง่ายขึ้น”
อลิสดีใจที่ใกล้จะถึงร้านแล้ว เธอรู้สึกหิวมากเพราะเมื่อเช้าด้วยความตื่นเต้นเลยกินอาหารที่โรงแรมมาเพียงไม่กี่คำ
“จ่าสั่งกันเลยนะ สั่งกลับไปกินที่หมู่บ้านด้วย”
ชายหนุ่มตะโกนบอกลูกน้องที่นั่งกันอยู่หลังรถ ให้ลงมากินอาหารมือกลางวัน
“เหมือนเดิมครับป้า” ธนาตุลตะโกนบอก
“ฉันเอาเหมือนคุณ ”
หญิงสาวคิดไม่ออกว่าจะกินอะไรดี เลยขอลอกเมนูจากผู้กอง เพราะเขาน่าจะมากินบ่อยจนรู้ว่าอะไรอร่อย
“ป้าครับของผมขอสามเลยนะ” ชายหนุ่มตะโกนสั่งอีกครั้ง
“ทำไมสั่งสามล่ะคะ” หญิงสาวสงสัยเพราะมันควรจะเป็นแค่สอง
“ตุนไว้ก่อน อีกนานกว่าจะถึง คุณครูก็ควรกินไว้เยอะ ๆ นะครับ” ชายหนุ่มแนะนำ
“เอาเพิ่มเป็นสี่เลยค่ะ” อลิสลองตะโกนสั่งบ้าง
สองคนมองหน้ากันและหัวเราะ ที่หญิงสาวคอยทำตามเขาทุกอย่าง อลิสเองก็ขำตัวเองที่เลียนแบบผู้กองไปเสียทุกเรื่อง
เมนูประจำของชายหนุ่มคือเส้นเล็กหมูสับต้มยำผักหวาน ที่ใส่ผักจนแทบจะล้นจาน
“อันนี้คือผักอะไรคะ” อลิสไม่รู้จัก
“ผักหวานค่ะ ลองกินดูนะ อร่อยมากจ้า” ป้าแม่ค้าตอบด้วยสีหน้าเหมือนอยากรู้จักคนถาม
“ผมมัวแต่กินลืมแนะนำเลย นี่คุณครูอลิส เธอจะมาสอนที่โรงเรียนบ้านน้ำฝาย”
ตุลแนะนำหญิงสาวทั้งที่ปากยังเคี้ยวผักหวานของโปรดอย่างอร่อย
“ดีจังเลย บ้านน้ำฝาย มันเป็นหมู่บ้านใหญ่ที่สุดของแถวนี้ มีครูมาใหม่เด็กๆจะได้ไปเรียนหนังสือกัน”
ป้าแม่ค้าเธอดีใจ เพราะที่โรงเรียนบ้านน้ำฝายมีครูเพียงคนเดียวคือคุณครูชะลอ อายุท่านก็มาก จึงสอนได้ไม่เต็มที่ เด็กๆในหมู่บ้านอื่นเลยไม่ได้ไปเรียน เพราะแค่เด็กบ้านน้ำฝายก็หลายคนแล้ว
“ป้าเขาหมายความว่าอะไรคะ”
อลิสกระซิบถามผู้กอง เพราะกลัวป้าคนขายจะได้ยิน เธอไม่เข้าใจในสิ่งป้าเขาต้องการสื่อสาร
ผู้กองหนุ่มจึงเริ่มเล่าถึงการเสียโอกาสทางการศึกษาของเด็กที่นี่ เพราะไม่ได้อยู่รวมกันเป็นหมู่บ้านเหมือนบ้านน้ำฝาย จึงไม่มีโรงเรียนเป็นของตัวเอง ครูชะลอแกเกษียณแล้วแต่แค่มาช่วยสอนต่อ ทุกคนรอคุณครูคนใหม่มานาน ก็เพิ่งจะได้คุณมานี่แหละ เพราะไม่มีใครยอมเลือก
หญิงสาวฟังแล้วรู้สึกหดหู่ใจ เธอไม่คิดว่าจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นจริงๆ
“ฉันดีใจค่ะ ที่ทุกคนรอการมาของครูคนใหม่ ”
สองคนในฐานะข้าราชการไทยมองหน้ากันอย่างเข้าใจ แต่ในใจของธนาตุลยังไม่เชื่อมั่นว่า อลิสจะสามารถทนความลำบากและอยู่ที่นี่ไปได้ตลอด
ทุกคนอิ่มท้องเต็มที่ และยังพกใส่ถุงกลับไปอีกหลายถุง เพื่อไว้กินเมื่อถึงหมู่บ้าน รถก็ออกเดินทางต่อ
จากถนนลาดยางค่อยๆกลายเป็นถนนดิน และในที่สุดมันก็แทบจะดูไม่ออกว่าเส้นทางที่ผู้กองกำลังขับรถอยู่มันคือถนน
“ผู้กองขับรถเก่งมากเลยค่ะ” อลิสหันไปมองคนขับอย่างชื่นชมและทึ่งในความสามารถ
“คุณอลิสขับรถเป็นไหม”
“เป็นค่ะ แต่หมายถึงขับบนถนนธรรมดานะคะ ไม่ใช่ข้ามเขา ข้ามห้วยแบบนี้”
ชายหนุ่มตั้งใจว่า ถ้าเขามีเวลาจะพาคุณครูคนใหม่มาหัดขับรถข้ามลำธารเสียหน่อย เวลามีเหตุฉุกเฉินจะได้เอาตัวรอดได้
เมื่อข้ามลำธารได้ อลิสก็มองเห็นแสงไฟที่ส่องสว่างอยู่ไม่ไกลจากที่เธอกำลังอยู่
“แสงสว่างตรงนั้นใช่บ้านน้ำฝายไหมคะ”
“ใช่ครับ ที่นั่นคือบ้านของคุณ”
หญิงสาวหันมามองคนตอบ เขาใช้คำพูดได้ดูอบอุ่นมาก เขาคงรักที่นี่จริงๆ
ตอนที่ 10เพราะเธอคือที่สุดของหัวใจ วิธานยังไม่ละความพยายาม เขาทำตัวใหม่และเข้าหาทางพ่อและแม่ของอดีตภรรยา เพราะตอนนี้เขาอยากได้ทั้งภรรยาคืนและอยากได้ลูกในท้องด้วย ตัวเขาเองไม่สามารถมีลูกได้และเขาก็ไม่คิดจะพึ่งหมออยู่แล้ว ดาราเห็นการเปลี่ยนแปลงในตัวอดีตลูกเขย เธอก็เริ่มใจอ่อนสงสาร แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะบังคับให้ลูกสาวของเธอกลับมาคืนดี เพียงแต่เธอคงต้องคุยกับนาเดียร์จริงจังอีกสักรอบ ก่อนที่เธอจะบอกให้วิธานเลิกหวังเถอะ “เดียร์แม่แค่จะมาถามลูกอีกครั้ง แม่ยอมรับว่าแม่เริ่มสงสารวิธานเพราะเขากลับมาทำตัวดี แต่แม่ก็ไม่เคยลืมว่าเขาเคยทำอะไรกับเดียร์นะลูก” “คุณแม่อยากถามอยากพูดอะไรกับเดียร์พูดได้เลยค่ะ ลูกเข้าใจ” “วิธานเขายังรักลูกอยู่และเขาคงเป็นพ่อที่มีหน้ามีตาให้กับหลานของแม่ได้ แต่ถ้าลูกเลือกคนที่ลูกรักชีวิตก็ต้องมีขวากหนามความลำบาก คำดูถูกเข้ามาบ้าง ลูกก็ต้องเข้มแข็ง เอาเป็นว่าลูกตัดสินกับแม่อีกครั้งแล้วแม่จะได้ไปบอกกับวิธานให้รู้เรื่อง” “เดียร์รักราเชนและจะรักเขาคนเดียวตลอดไปค่ะแม่ เขาคือผู้ชายที่ทำเพื่อเดียร์มาตลอด เ
ตอนที่ 9สามีที่เป็นอดีต “เดียร์ พี่ขอโทษ พี่ขอโทษ” วิธานจอดรถขวางหน้าบ้าน เขาพุ่งตัวมากอดหญิงสาวอย่างที่ทุกคนไม่มีใครคาดคิด ต่างตกใจเพราะไม่มีใครเห็นเลยว่าเขามาตอนไหน รู้กันอีกทีวิธานก็ถึงตัวนาเดียร์แล้ว “ปล่อย เดียร์บอกให้ปล่อย” วิธานยังคงกอดอดีตภรรยาแน่น ด้วยความตกใจราเชนพุ่งตรงเข้าต่อยสามีเก่าของภรรยาจนล้มลงไปกองกับพื้น เพราะวิธานมาในสภาพที่เมาจนยืนเซไปเมา พอเจอหมัดหนักเข้าไปก็ล้มทั้งยืน “มึงเป็นใคร กูจะให้แม่กูแจ้งตำรวจจับมึง มึงใช่ไหมที่พาเมียกูหนี” วิธานยังลุกไม่ขึ้นแต่ก็ยังโวยวายปากกล้า ทำท่าจะเอาเรื่องกับราเชนให้ได้ “ไหนเมียมึงตรงนี้มีแต่เมียกู” ราเชนไม่ยอม ธงชัยเห็นสถานการณ์ดูแล้วถ้ายังยืนปะทะคำพูดกันแบบนี้ วิธานเจ็บหนักแน่นอน “เดียร์พาเชนเข้าไปในบ้าน ดาราคุณโทรศัพท์หาศิริให้เขามาเก็บลูกเขาไป ไม่อย่างนั้นเราจะแจ้งความข้อหาบุกรุก” “กูจะเอาเมียกูคืนไอ้กระจอกมึงมันรวยสู้กูไม่ได้หรอก” วิธานยังคงตะโกนตามหลังราเชน ทั้งที่ตัวเองก็ยังเลือดกบปากอยู่ นาเดียร์ไม่คิดว่าสิ่งที่เธอก
ตอนที่ 8เธอคือของขวัญ กิจการอู่ซ่อมรถของราเชนโตขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะเขามีวัยรุ่นแถวบ้านเป็นผู้สนับสนุนอยู่แล้ว เวลาเด็ก ๆ มาซ่อมรถบางครั้งเขาก็ไม่เก็บเงิน เพราะเข้าใจว่าเวลาไม่มีเงินชีวิตมันเป็นอย่างไร ร้านข้าวแกงของนาเดียร์จากตอนแรกตั้งใจจะขายแค่ วันละสี่ถึงห้าอย่าง ตอนนี้กลายเป็นร้านข้าวแกงที่ใหญ่และหมดเร็วมาก วิภาต้องหาลูกจ้างมาช่วยทำเพราะเขาทำคนเดียวไม่ไหว ส่วนลูกสะใภ้ก็ต้องรีบไปเปิดร้าน ราเชนสังเกตภรรยามาหลายวันแล้ว นาเดียร์มีอาการ เวียนหัวเหมือนคนอยากจะเป็นลมตลอด และตอนนี้ที่หนักสุดคือเธอเหม็นอาหารบางอย่าง จนต้องคอยเก็บเงินอย่างเดียวและ จ้างคนมาตักแกง “เดียร์ไปหาหมอไหม ผมคิดว่าคุณไม่สบายนะ” หญิงสาวเดินมากอดสามี เธอมีคำตอบอยู่หลายวันแล้วแค่รอว่าเมื่อไหร่ราเชนจะถามว่าที่เธอมีอาการแปลกเธอเป็นอะไร “ไม่ต้องไปหาหมอหรอกค่ะ เพราะเดียร์รู้ว่าอาการที่เป็นอยู่เกิดจากอะไร รอก็แต่ช่างเชนเมื่อไหร่จะถามสักที” ชายหนุ่มยังคงไม่เข้าใจว่าภรรยาของเขาหมายถึงอะไรกัน แล้วทำไมรู้แล้วถึงไม่บอกต้องรอให้เ
ตอนที่ 7สามีที่ได้เลือก ราเชนตัดสินใจเลิกเป็นหนุ่มบาร์โฮส เขาออกหาดูทำเล ที่จะเปิดอู่แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจที่จะทำที่หน้าบ้านของตัวเอง “เชนเปิดอู่คนเดียวเหรอ เดียร์ขอหุ้นด้วยได้ไหม” หญิงสาวรู้ว่าเงินเก็บที่ราเชนมีไม่ได้เยอะสักเท่าไหร่ แต่ถ้าเธอจะให้เขาก็คงไม่เอาหญิงสาวจึงเปลี่ยนเป็นขอหุ้นด้วย “ได้สิ หุ้นทั้งตัวทั้งใจเลย” อู่กำลังเริ่มก่อสร้าง นาเดียร์อยากขายข้าวแกงเธอจึงทำร้านต่ออกมาเธอทำหน้าที่ขาย ส่วนแม่สามีทำหน้าที่ทำกับข้าวให้เธอ โชคยังดีที่หน้าบ้านมีพื้นที่เหลือเยอะและเป็นที่ริมน้ำบรรยากาศดี ดารากับธงชัยทนคิดถึงลูกสาวไม่ไหวและอยากรู้ความจริงจากปากของลูกสาวจึงให้ส้มช่วยอ้อนวอนให้นาเดียร์กลับมาหาพ่อกับแม่บ้าง “เดียร์ไปค้างกับพ่อแม่สักพักนะ ไม่ต้องนอนร้องไห้ล่ะ” หญิงสาวดูออกว่าอีกฝ่ายไม่ได้กลัวจะคิดถึงแต่เขากลัวว่าเธอจะไม่กลับมามากกว่า “สัญญาได้ไหมว่าจะกลับมา” หญิงสาวพยักหน้ากอดสามีของเธอไวแน่น เธอรักเขาเต็มหัวใจแล้ววันนี้ไม่มีทางที่เธอจะไม่กลับมาแน่นอน ธงชัยเห็นภาพสภาพลูกสาว
ตอนที่ 6ทางแยก เสียงรถยนต์ของวิธานที่ขับเข้ามาในบ้าน มันไม่ได้ทำให้ นาเดียร์รู้สึกเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมาเกือบสองปี แต่ครั้งนี้เธอกำลังจะรู้ทางออกของชีวิตและที่เธอยังไม่รู้คือจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอในวันนี้ เพียะ! วิธานเปิดประตูบ้านเข้ามาและตรงมายังภรรยาที่ยังไม่ทันจะพูดอะไรสักคำ เขาตบหน้าเธออย่างแรงก่อนที่จะผลักหญิงสาวลงไปนอนกับพื้นและเตะไปที่สะโพกอย่างเต็มแรง “มึงไปทำร้ายเมียกูทำไม มึงเอาเพื่อนไปรุมมึงเห็นไหมว่าเขาท้องอยู่” นาเดียร์อยากจะพูดแต่เธอพูดไม่ออกมันจุกไปหมด เธอค่อย ๆ คลานหนีด้วยความกลัว ที่เธอคิดไว้มันไม่ใช่แบบนี้ เขาทำร้ายเธอเหมือนไม่เคยเห็นเธอเป็นเมียเลย มือหนาจิกผมของคนตัวเล็กที่กำลังพยายามหนี ผมของหญิงสาวหลุดตามแรงดึง นาเดียร์ยกมือไหว้น้ำตาไหลอาบแก้ม เธอกลัว กลัวจนไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรได้แต่ยกมือไหว้ ร้องขอให้อีกฝ่ายเมตตาเธอบ้าง “มึงรู้ไหมทรายเขายอมให้กูมาอยู่กับมึงถึงสองปี โดยที่เขาไม่เคยเรียกร้องอะไรเลย แต่วันนี้กูแค่ต้องการอิสระกูจะไปอยู่กับลูกกับเมียกูมึงยังจะยื้อ ถ้ามึงไม่อยากตายหย่าให้กูแล้วอย่าใ
ตอนที่ 5อยู่ดี ๆ ก็เจ็บ นาเดียร์นั่งรถกลับบ้านด้วยหัวใจที่มุ่งมั่น เธอจะขอแก้ตัว เธอพร้อมจะทำทุกอย่างตามที่สามีต้องการ ขอแค่ให้เขาไม่ไปจากเธอ ถึงแม้นาเดียร์จะรู้สึกลึก ๆ ว่าเธอไม่ได้ทำอะไรผิด แต่เธอกลับยอมเป็นคนผิดขอแค่ไม่ให้อีกฝ่ายไป ราเชนได้แต่หันไปสบตาคนข้าง ๆ เป็นครั้งคราว เขาเป็นคนอื่นและเพิ่งเข้ามาในชีวิติของหญิงสาวได้ไม่นาน คงได้แต่อยู่ในมุมเงียบ ๆ รอเมื่อไหร่ที่อีกฝ่ายต้องการเขาคงมาหาเธอเอง “ขอบคุณนะเชน ที่อยู่เป็นเพื่อนในวันที่ไม่เหลือใครมาสองครั้งแล้ว ขอให้การเจอกันของเราครั้งต่อไป ขอให้เดียร์มีความสุขอย่าได้ทุกข์เหมือนทุกครั้งเลย ไว้ว่าง ๆ เจอกันนะ” หญิงสาวกำลังจะเปิดประตูรถของตัวเอง แต่กลับถูก มือหนาจับแขนเธอไว้ “ขอให้คุณโชคดี ขอให้เขากลับมาเป็นคนเดิมแต่สัญญากับผมได้ไหม ว่าคุณจะไม่รักเขาจนลืมรักตัวเอง ผมอยู่ข้าง ๆ คุณตลอดนะถึงแม้ว่าคุณอาจมองไม่เห็น” นาเดียร์โผเข้ากอดราเชนอีกครั้ง เธอรู้ความหมายดีแต่เธอก็รู้ว่าสุดท้ายที่เธอพยายามจะกลับไปทำมันคือการทำร้ายตัวเองอยู่ก็ตาม บ้านถูกปิดไว้ในสภาพเดิม หญิงส
ตอนที่ 4เพราะเธอคือกำลังใจ “เชนคุณจะพาฉันไปไหน ขับออกมานอกเมืองแบบนี้” นาเดียร์ไม่รู้หรอกว่าเส้นทางที่เชนกำลังพาเธอไปคือเส้นทางที่จะไปยังที่ไหน เธอรู้แค่เพียงว่ามันออกมาพ้นจาก ตัวกรุงเทพแล้ว รถเริ่มติดน้อยลง บรรยากาศข้างทางเริ่มดูสบายตามากขึ้น “ผมจะพาไปบ้านผม ตอนนี้มีคุณแม่อยู่คนเดียว ส่วนตัวผมเองมาเช่าคอนโดอยู่เพราะจะได้สะดวกในการทำงาน” “แล้วคุณจะพาไปบ้านทำไมคะ ป่านนี้คุณแม่คุณคงหลับแล้ว เกรงใจท่าน” ราเชนหันมาส่งยิ้มให้กับหญิงสาวที่ตอนนี้เธอหยุดร้องไห้แล้ว และดูจะสนใจปลายทางที่เขาจะพาไปจนลืมความทุกข์ไปได้พักหนึ่ง “ผมบอกแม่ไว้แล้ว ที่ผมพาคุณไปเพราะเราจะได้รู้จักกันมากขึ้นที่บ้านผมวิวดีนะอยู่ติดแม่น้ำและที่สำคัญถ้าคุณได้คุยกับแม่ของผม คุณจะรู้ว่าแม่มักจะมีทางออกที่ดีให้กับทุกคน” นาเดียร์เชื่อในคำพูดของคนที่เพิ่งรู้จักกันอีกครั้ง อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้พาเธอไปที่ที่ต้องอยู่กันสองต่อสองและคืนนี้เธอก็มั่นใจว่าเขาจะอยู่เป็นเพื่อนเธอไปจนเช้าแน่นอน บ้านของราเชนเป็นบ้านไม้ที่จัดได้ว่าสวยงามถึงจะมีขนาดไม่ใหญ่
ตอนที่ 3เวลาที่ไม่มีใคร “เป็นไงบ้าง เห็นคุยกันถูกคอเชียว ติดใจบอกได้นะพรุ่งนี้ให้พามาอีกก็ได้” ส้มถามเพื่อนที่เธอเพิ่งเคยพามาเที่ยวบาร์โฮสเป็นครั้งแรก เพราะตัวเธอมาเที่ยวบ่อยมาก “เขาก็คุยสนุกดีนะ แต่เราไม่ชอบเที่ยวแบบนี้ ส้มเราไปนอนด้วยนะ พรุ่งนี้เช้าเราค่อยกลับยังไม่อยากเจอหน้าพี่วิธาน” ส้มมองนาเดียร์ด้วยความสงสารแม้แต่ชีวิตของตัวเองยังไม่มีสิทธิ์เลือกทางเดิน นาเดียร์กลับถึงบ้านด้วยสภาพที่ยังง่วงนอนเพราะเธอเองไม่ค่อยได้นอนดึกตื่นเช้าจึงตั้งใจว่าจะขึ้นไปนอนข้างบนแล้วค่อยลงมาทำงานบ้าน “ถ้าจะกลับเช้าแบบนี้หย่ากันดีไหม” วิธานเดินลงมาจากบ้านด้วยชุดที่ไม่ใช่ชุดทำงาน พร้อมด้วยกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ “เดียร์ไปนอนกับส้มมา แล้วพี่วิธานจะไปไหนคะ” หญิงสาวรู้สึกใจหายแบบบอกไม่ถูกที่อยู่ดี ๆ ก็ถูกสามีชวนหย่าและเขาก็กำลังจะเดินออกจากบ้านพร้อมกระเป๋าเดินทาง “ไม่ต้องเสือกนะคะคนดี” วิธานยื่นหน้าจนแทบจะชนกับหน้าของหญิงสาว และพูดด้วยน้ำเสียงเน้นเหมือนรู้สึกสะใจที่ได้พูด เสียงรถออกไปแล้วหญิงสาวทรุดตัว
ตอนที่ 2เมื่อทุกอย่างไม่เหมือนเดิม หลังจากกลับมาจากทะเลได้เพียงแค่ไม่ถึงเดือน นาเดียร์ก็สัมผัสได้ว่าสามีของเธอเปลี่ยนไป จากที่เคยกลับบ้านตรงเวลาตอนนี้เขาก็กลับบ้างไม่กลับบ้าง ด้วยเหตุผลที่เกี่ยวกับงานที่มีปัญหา “พี่วิธานคะ มีปัญหาอะไรที่พอจะให้พ่อของเดียร์ช่วยไหมคะ เห็นพี่ทำงานหนักทุกวันเดียร์เป็นห่วง” ภรรยาคนสวยเดินมาคล้องแขนสามีที่เพิ่งกลับมาจากทำงานเพื่อหวังเอาใจ “อยากช่วยไหม ถ้าอยากช่วย เลิกถามสักทีผมรำคาญ” วิธานไม่ได้พูดคำพูดแบบนี้กับนาเดียร์เป็นครั้งแรก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะพูดบ่อย หญิงสาวจึงให้อภัยและคิดว่าสามีคงเหนื่อยจากเรื่องงานมาจริง ๆ ชายหนุ่มทำท่ารำคาญและหงุดหงิด จากที่จะนั่งโซฟาตามปกติ เขากลับเอาขาทั้งสองข้างขึ้นมาวางบนโต๊ะ “มาถอดถุงเท้าให้หน่อย เหนื่อยไม่อยากก้ม” วิธานชี้นิ้วไปที่เท้าทั้งสองข้างด้วยกิริยาที่ดูหยาบคายเหมือนต้องการทำร้ายจิตใจของอีกฝ่ายให้รู้สึกต่ำต้อย นาเดียร์ทำท่าลังเลว่าเธอจะถอดหรือจะปฏิเสธ แต่ยังไม่ทันที่เธอจะตัดสินใจ แก้วน้ำที่วางอยู่ข้างหน้าชายหนุ่มก็ถูกปาไปที่กำแพง
Comments