All Chapters of ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา: Chapter 11 - Chapter 20

100 Chapters

บทที่ 11

“ท่านจะให้ข้าทอดทิ้งผู้คุ้มกันที่กำลังจะไปสนามรบเหล่านี้ เพียงเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวของข้าอย่างนั้นหรือ?”ในดวงตาของฉู่หนิงฉายแววอำมหิต ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว “หรือท่านไม่รู้ว่าสถานการณ์ที่แนวหน้ากำลังวิกฤต ต้องการกำลังคนสนับสนุนอย่างเร่งด่วน? ในยามนี้กลับจะมาสังหารเพื่อนร่วมแคว้นของตนเอง ท่านไม่คู่ควรกับการเป็นรองเสนาบดีกรมกลาโหม!”ทหารผ่านศึกเหล่านี้เขาได้มาอย่างยากลำบาก จะยอมให้เฝิงอันกั๋วสังหารไปง่าย ๆ ได้อย่างไรจ้าวอวี่ กวนอวิ๋น และทหารผ่านศึกกว่าสามสิบคนได้ฟังก็ซาบซึ้งใจอย่างยิ่งพวกเขารู้ดีว่า ในยามนี้การทอดทิ้งพวกเขาคือทางเลือกที่ดีที่สุดทว่า ฉู่หนิงไม่ได้ทอดทิ้งพวกเขา!สิ่งนี้ทำให้พวกเขาเข้าใจว่า การที่พวกเขาเลือกฉู่หนิงนั้นไม่ผิด!ผู้มีความสามารถมีอยู่มากมาย แต่ผู้ที่มองเห็นและส่งเสริมความสามารถนั้นหาได้ยากเพื่อพวกเขาแล้ว ฉู่หนิงถึงกับยอมมาตีอาวุธด้วยตนเอง กระทั่งยอมละเมิดกฎหมายเพื่อการนี้! ชีวิตนี้ได้พบนายท่านผู้ปราดเปรื่องเช่นนี้ ก็เพียงพอแล้ว!ทว่า เฝิงอันกั๋วกลับไม่สนใจฉู่หนิงที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว กล่าวอย่างเรียบเฉย “จวิ้นอ๋อง โปรดไตร่ต
Read more

บทที่ 12

“ตีเหล็กต่อไป!”ฉู่หนิงยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย สั่งการให้ทุกคนตีเหล็กต่อไปและเรื่องนี้ ก็ได้แพร่ไปถึงพระกรรณของฮ่องเต้อย่างรวดเร็วภายในตำหนักอิงอู่ที่งดงามตระการตา ฮ่องเต้กำลังจะเสวยพระกระยาหารกลางวัน แต่ในขณะนี้องครักษ์เงาก็เข้ามารายงาน“ฝ่าบาท เฝิงอันกั๋วรองเสนาบดีกรมกลาโหมนำคนไปล้อมเผิงไหลจวิ้นอ๋องที่ร้านตีเหล็กพ่ะย่ะค่ะ!”ฮ่องเต้ที่กำลังจะเสวยพระกระยาหารพลันมีสีพระพักตร์มืดมน แค่นเสียงเย็นคราหนึ่ง ตะเกียบในพระหัตถ์ถูกขว้างลงไปอย่างแรง หักเป็นสองท่อนในชั่วพริบตา“ช่างบังอาจเสียจริง แค่รองเสนาบดีกรมกลาโหมคนหนึ่ง ยังกล้ามารังแกฉู่หนิง!”ฮ่องเต้ตรัสถามด้วยสีหน้าเขียวคล้ำ “แล้วฉู่หนิงรับมืออย่างไร?”องครักษ์เงาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ให้ฟังคร่าว ๆ เมื่อฮ่องเต้ฟังจบก็พิโรธอย่างยิ่ง ทุบโต๊ะแล้วลุกขึ้นยืน!สะบัดแขนเสื้อ พระกระยาหารเลิศรสบนโต๊ะถูกปัดกระเด็นออกไปทั้งหมด จานชามแตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย“เฝิงอันกั๋ว เจ้ากล้าดีอย่างไร!”ฮ่องเต้ทรงกริ้วจนพระพักตร์แดงก่ำถึงแม้ฉู่หนิงจะเป็นบุตรนอกสมรส ในมือไม่มีทั้งอำนาจและบารมี ในราชสำนักก็ไม่มีใคร
Read more

บทที่ 13

เมื่อฮ่องเต้มีรับสั่ง ในคืนวันนั้น จ้าวหมิงก็นำรายชื่อหญิงสาวที่อยู่ในวัยเหมาะสมเข้ามาถวายใต้แสงเทียนที่ริบหรี่ในยามค่ำคืน เดิมทีควรจะเงียบสงัด แต่ฮ่องเต้ที่อยู่ภายในตำหนักอิงอู่กลับทรงกระปรี้กระเปร่า ดวงพระเนตรคมแหลมคมกวาดมองรายชื่อในมืออย่างต่อเนื่องหญิงสาววัยเหมาะสมมีอยู่มากมาย แต่การจะหาคนที่เหมาะสมกับฉู่หนิงนั้นกลับไม่ใช่เรื่องง่ายฉู่หนิงจะต้องเดินทางไปสนามรบที่แนวหน้า การไปครั้งนี้แทบจะไม่มีโอกาสได้กลับมา ภรรยาที่จะเลือกให้เขา จะต้องยอมรับในจุดนี้ได้สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้น ฉู่หนิงคือองค์ชาย ชาติตระกูลของภรรยาจะต่ำต้อยเกินไปไม่ได้“หลานสาวของมหาราชครูอายุสิบหกแล้วหรือ? น่าเสียดาย มหาราชครูคงไม่ยอมรับการแต่งงานครั้งนี้แน่”“เอ๊ะ? บุตรสาวของเสนาบดีโจวอายุสิบแปดแล้วยังไม่ออกเรือนหรือ? ไม่ได้ อายุมากไปหน่อย”“บุตรสาวของหลิวอ้ายชิงอายุสิบห้าก็นับว่าเหมาะสมดี น่าเสียดายที่หลิวอ้ายชิงนั่นนิสัยเสีย เราไม่อยากจะไปยุ่งกับเขา”ฮ่องเต้ทรงตรวจดูรายชื่อทีละบรรทัด ค่อย ๆ คัดคนที่ไม่เหมาะสมออกไปทีละคนจ้าวหมิงที่อยู่ด้านข้างมองจนหนังตากระตุกฝ่าบาทคงไม่ได้ถือโอกาสนี้เลือกสนมเข้าวัง
Read more

บทที่ 14

“ท่านอ๋อง จะให้ข้าน้อยไปสืบข่าวหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”จ้าวอวี่เป็นคนละเอียดรอบคอบ เมื่อเห็นฉู่หนิงนิ่งเงียบไปนาน เขาก็เอ่ยเสนอแนะขึ้นมาการพระราชทานสมรสอย่างกะทันหันนั้นทำให้รู้สึกประหลาดใจ ยิ่งไปกว่านั้น ท่านหญิงเสิ่นผู้นั้น ยังเป็นถึงอัจฉริยะหญิงอันดับหนึ่งของต้าฉู่ ในเมื่อยังไม่ทราบพระประสงค์ของฮ่องเต้ ก็ควรจะไปสืบข่าวที่จวนเสิ่นเสียก่อนแต่ฉู่หนิงกลับหัวเราะเบา ๆ ส่ายหน้าพลางเอ่ยขึ้น “ไม่ต้องหรอก ท่านหญิงเสิ่นผู้นั้นสูงศักดิ์เพียงใด จะยอมแต่งกับข้าได้อย่างไร?เมื่อวานเสด็จพ่อทรงพระราชทานคนของกรมกลาโหมให้มาเป็นผู้คุ้มกันของข้า พวกเจ้าสองคนตามข้าไปที่ศาลาว่าการของกรมกลาโหมสักเที่ยวเถอะ”ไม่ว่าการพระราชทานสมรสครั้งนี้จะเป็นหลุมพรางหรือไม่ ขอเพียงท่านหญิงเสิ่นไม่ยินยอม ฮ่องเต้ก็คงจะไม่สามารถบังคับให้นางแต่งเข้ามาได้กระมัง?แม้ว่าจะเป็นการพระราชทานสมรส ยากที่จะขัดราชโองการได้ แต่ฐานะของท่านหญิงเสิ่นนั้นพิเศษนัก หากนางไม่ต้องการแต่งจริง ๆ ฮ่องเต้จะสามารถบังคับนางได้หรือ?หากเป็นเช่นนั้น ฮ่องเต้ย่อมถูกผู้คนครหาเป็นแน่ราชโองการฉบับนี้ ส่วนใหญ่แล้วก็คงจะเป็นเพียงการแสดงให้คนอื่นดูเท่าน
Read more

บทที่ 15

“มู่หลาน ศาลาว่าการกรมกลาโหมไม่ใช่สถานที่ที่ใครจะเข้าไปก็ได้!”บนถนน เสิ่นหว่านอิ๋งที่อยู่ในรถม้าเลิกม่านขึ้น เผยให้เห็นใบหน้าอันงดงามของนางแต่ในยามนี้ บนใบหน้ากลับเต็มไปด้วยความจนปัญญาสำหรับความห่วงใยของสหายสนิท นางซาบซึ้งใจอย่างยิ่งแต่หากการทำเช่นนี้เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายของต้าฉู่ ก็ย่อมไม่เป็นผลดีต่อนางและตระกูลเสิ่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนนี้นางถูกพระราชทานสมรสให้ฉู่หนิง ยิ่งไม่อยากจะก่อเรื่องในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้สิ่งที่นางต้องทำในตอนนี้คือการทำให้ฉู่หนิงเป็นฝ่ายถอนหมั้นเอง!เฝิงมู่หลานที่ขี่ม้านำทางอยู่ด้านหน้ายกยิ้มมุมปาก ดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยความองอาจฉายแววเจ้าเล่ห์ “วางใจเถอะ พวกเราไม่ได้จะไปที่ศาลาว่าการกรมกลาโหม!”“ทหารของกรมกลาโหมประจำการอยู่ที่ค่ายทหารทางใต้ของเมือง ฉู่หนิงต้องไปที่นั่นแน่ เจ้าอยากให้เขายกเลิกการแต่งงานมิใช่หรือ อีกเดี๋ยวก็ไปพูดกับเขาตรง ๆ เลยสิ”เสิ่นหว่านอิ๋งนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ปล่อยม่านที่เลิกขึ้นลงเรื่องการแต่งงานนี้ จะต้องยกเลิกให้ได้ไม่อาจยืดเยื้อ!หากยืดเยื้อต่อไป รอจนกระทั่งงานแต่งงานเตรียมการพร้อมแล้ว นางจะไม่มีแม้แต่เหตุผลท
Read more

บทที่ 16

“เจ้าหมอนี่ ชักจูงจิตใจคนเก่งใช้ได้เลย!”เฝิงมู่หลานมองเลี่ยวหยวนและคนอื่นๆ ที่ก้มหน้าเงียบ มีความไม่พอใจเสี้ยวหนึ่งแวบผ่านคิ้วงามแม้คำพูดของฉู่หนิงจะทำให้นางรู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง แต่เขาจงใจกล่าวเช่นนี้เพียงเพื่อชนะใจคนกลุ่มนี้เท่านั้นพวกเลี่ยวหยวนและคนอื่นๆ ไม่ใช่คนโง่เขลา จะต้องมองแผนของฉู่หนิงออกแน่นอนทว่าเสิ่นหว่านอิ๋งที่อยู่ด้านข้างกลับส่ายศีรษะเบาๆ และจับจ้องด้วยแววตาอันเปล่งประกาย“การจะชักจูงจิตใจคนได้นั้น ต้องชนะใจคนให้ได้ก่อน!”เสิ่นหว่านอิ๋งจ้องแผ่นหลังของฉู่หนิง บนใบหน้าปรากฏแววสนใจ “ดูเหมือนเผิงไหลจวิ้นอ๋องผู้นี้ ก็ไม่ได้แย่เหมือนที่ข้าคิดนะ”เฝิงมู่หลานตะลึงงันทันทีผ่านไปครู่หนึ่ง นางจึงจะค่อยๆ หันไปมองสหายของตนเองอย่างไม่อยากเชื่อสายตา “หว่านอิ๋ง เจ้าคงไม่ได้ชอบเจ้าหมอนี่แล้วกระมัง?” เสิ่นหว่านอิ๋งส่ายศีรษะ พลางกล่าวเสียงเรียบ “แม้เขาจะพอมีความสามารถอยู่บ้าง แต่หากเก่งแต่ปากอย่างเดียว ก็ยังคงไม่สามารถปกป้องตระกูลเสิ่นของข้าได้”แม้การกระทำเมื่อครู่ของฉู่หนิงจะทำให้นางคาดคิดไม่ถึง แต่ยังคงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของนางนางจะไม่แต่งงานกับฉู่หนิงและฉ
Read more

บทที่ 17

“ถอนหมั้น?”ฉู่หนิงหัวเราะเบาๆ “ท่านหญิงเสิ่น นี่ก็คือจุดประสงค์ที่เจ้ามาหาข้าในวันนี้หรือ?”แม้เสิ่นหว่านอิ๋งรู้ตัวว่าทำไม่ถูกต้อง แต่เพื่อตระกูลเสิ่น นางก็ยังพยักหน้าอย่างหนักแน่นขณะที่กำลังจะอธิบาย ฉู่หนิงกลับยิ้มที่มุมปาก และกล่าวเสียงเรียบ “ไปแนวหน้าครั้งนี้ เกรงว่าข้าคงไม่ได้กลับมา เจ้าไม่อยากแต่งกับข้า ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้แต่นี่เป็นการหมั้นหมายที่พระราชทานโดยเสด็จพ่อ เกรงว่าจะไม่สามารถถอนหมั้นได้ง่ายๆ”ไม่สามารถถอนได้ง่ายๆ?เช่นนั้นก็แปลว่าถอนได้!ดวงตาเสิ่นหว่านอิ๋งเป็นประกาย “ขอแค่องค์ชายทูลขอถอนหมั้นต่อฝ่าบาท หม่อมฉันย่อมมีวิธีทำให้ฝ่าบาทตอบตกลงเพคะ”เฝิงมู่หลานมองบน “อย่าไปเชื่อเขา เจ้าหมอนี่สนใจเจ้าตั้งแต่แรกแล้ว มีหรือที่เขาจะยอมไปทูลขอถอนหมั้นต่อฝ่าบาทเขาแค่อยากใช้วิธีเช่นนี้ดึงดูดความสนใจของเจ้าก็เท่านั้น กลอุบายเช่นนี้ ข้าเคยเห็นพวกบ้ากามเหล่านั้นใช้มานักต่อนักแล้ว!”บ้ากาม?นี่กำลังว่าข้าอยู่หรือ?ฉู่หนิงไม่ได้โกรธ เขาเพียงหัวเราะเบาๆ “หากไม่เชื่อ เช่นนั้นก็ช่างเถิด”เมื่อเขากล่าวจบ ก็จะพาจ้าวอวี๋จากไปทันทีเฝิงมู่หลานร้อนรนทันที พลันยกกระบี่ในมือข
Read more

บทที่ 18

เสิ่นหว่านอิ๋งสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามสงบสติอารมณ์ของตนเอง“ได้ เสบียงห้าล้านต้าน ข้าตกลง!”“ฮ่าๆๆๆ ท่านหญิงเสิ่นเป็นคนรู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาวจริงๆ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าจะไปหาเสด็จพ่อเดี๋ยวนี้!”ฉู่หนิงเดินออกจากค่ายพร้อมกับเสียงหัวเราะ และยังเดินไปพลางกล่าวไปพลาง “เสบียงห้าล้านต้าน ต้องเตรียมให้พร้อมก่อนข้าไปแนวหน้า!”เสิ่นหว่านอิ๋งมองตามแผ่นหลังของฉู่หนิงเงียบๆเสบียงห้าล้านไม่ใช่ตัวเลขน้อยๆ สำหรับตระกูลเสิ่นจริงๆเดิมทีนางคิดว่าสามารถเกลี้ยกล่อมฉู่หนิงโดยแทบไม่ต้องเสียอะไร อย่างไรเขาก็เป็นเพียงคนบ้านนอกที่ไม่เคยได้เห็นโลกกว้าง หนึ่งล้านต้านสำหรับฉู่หนิงนั้น ถือว่าเป็นตัวเลขที่มากโขแล้วแต่สิ่งที่ฉู่หนิงทำเมื่อครู่นั้น เกินความคาดหมายของนางไปมากเห็นได้ชัด ฉู่หนิงรู้ว่าแนวหน้าต้องการเสบียง ไม่เช่นนั้นก็ไม่ขอเสบียงห้าล้านต้านกับนางและเมื่อนึกย้อนถึงคำพูดที่ฉู่หนิงใช้โน้มน้าวทหารเมื่อครู่…หรือตนมองพลาดแล้วจริงๆ?เสิ่นหว่านอิ๋งมองตามทิศทางที่ฉู่หนิงเดินจากไป พลางพึมพำคนเดียว “หรือคนผู้นี้มีปณิธานที่ยิ่งใหญ่จริงๆ?”“พรืด…”เสียงหลุดหัวเราะของเฝิงมู่หลาน ดึงสติเสิ่นหว่านอิ๋งก
Read more

บทที่ 19

ภายในตำหนักอิงอู่ฮ่องเต้กำลังทอดพระเนตรรายงานการพ่ายศึกด้วยสีพระพักตร์เคร่งเครียดทหารแนวหน้าหนึ่งแสนนายถูกตีจนร่นถอยมาอยู่ในกรอบแนวรบไม่ถึงสามสิบลี้ หากยังฝืนรบต่อไป จะต้องถูกฝ่ายตรงข้ามปิดล้อมทำการกวาดล้างจนหมดสิ้นแน่ “ครั้งนี้แคว้นจ้าวอยากบีบให้เราตายตกกันไปข้างหนึ่ง น่าเสียดายแม่ทัพใหญ่กำลังระดมทหารในท้องถิ่น ต้องใช้เวลาอีกสักระยะกว่าจะสามารถส่งกำลังไปที่แนวหน้า!”ฮ่องเต้วางรายงานการศึกลง แล้วทอดพระเนตรออกไปยังเบื้องนอกตำหนัก ในพระทัยพลันปรากฏภาพเงาร่างสูงใหญ่ของบุรุษผู้หนึ่งขึ้นมาแค่ฉู่หนิงไปตายในสนามรบแนวหน้า จะต้องสามารถปลุกความฮึกเหิมของทหารแนวหน้า ช่วยซื้อเวลาให้แม่ทัพใหญ่ได้แน่นอนเมื่อนึกถึงฉู่หนิง มีความลังเลปนเจ็บปวดแลบเข้ามาในพระทัยฮ่องเต้อย่างไรก็เป็นบุตรชายของตนเอง สิบกว่าปีมานี้ไม่ได้เลี้ยงดูก็ช่างเถิด ปัจจุบันยังจะให้เขาไปตายที่แนวหน้าอีกพยัคฆ์ร้ายยังไม่กินลูกตัวเองเลย!แต่เรา กลับจะส่งฉู่หนิงไปตายด้วยมือของตนเองขณะที่กำลังจมอยู่ในความคิด เสียงของฉู่หนิงดังขึ้นที่ข้างพระกรรณฮ่องเต้ “เสด็จพ่อ กระหม่อมมาถอนหมั้นพ่ะย่ะค่ะ!”ฮ่องเต้พลันตะลึงันถอนหมั้น?
Read more

บทที่ 20

แค่เติมเชื้อไฟอีกนิดก็ถอนหมั้นสำเร็จ!“เสด็จพ่อ ไม่ใช่กระหม่อมไม่อยากปรึกษาท่าน แต่ท่านหญิงเสิ่นมาหากระหม่อมถึงที่ เลยปรึกษาท่านไม่ทัน”เสิ่นหนิงแสร้งทำหน้าน้อยใจ “ท่านก็รู้ว่านางเป็นสตรีอัจฉริยะอันดับหนึ่ง นางจะยอมปล่อยให้กระหม่อมมีเวลาปรึกษาท่านได้อย่างไร?”พลันมุมพระโอษฐ์ฮ่องเต้ก็กระตุกเมื่อนึกถึงชื่อเสียงของเสิ่นหว่านอิ๋ง ก็อดส่ายพระพักตร์ไม่ได้บุตรชายคนนี้ของเราเติบโตในสภาพแวดล้อมของสามัญชน ยังไม่รู้ว่าต้องมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนอย่างไร ย่อมไม่ใช่คู่คู่ต่อสู้ของเสิ่นหว่านอิ๋งแต่คำพูดของฉู่หนิงก็มีเหตุผลเช่นกัน แต่งงานตอนนี้มีโทษมากกว่าคุณเป็นเราที่ใจร้อนเกินไป ไม่ได้คิดให้รอบคอบ!ในเมื่อฉู่หนิงกับเสิ่นหว่านอิ๋งบรรลุข้อตกลงแล้ว หากไม่ยื่นผลประโยชน์แก่ตระกูลเสิ่นสักหน่อย เกรงว่าจะไม่ได้เสบียงมาแน่นอนแต่เสิ่นหว่านอิ๋งรังแกฉู่หนิงเช่นนี้ นี่เท่ากับไม่เห็นเราอยู่ในสายตาถอนหมั้น ฮึ่ม ไม่ง่ายเช่นนั้นหรอก!พระเนตรของฮ่องตาหรี่ลง ก็พลันฉายแววครุ่นคิด “สตรีอัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งต้าฉู่ฉลาดเกินคนจริงๆ หากใช้วิธีการเช่นนี้กับผู้อื่นก็ช่างเถอะ แต่นางดันมาใช้กับเจ้า มันข้ามหน้า
Read more
PREV
123456
...
10
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status