บทบาทของ
ฉีเทียนต้าเซิ่นในซีรีส์ล่าสุดถูกวางให้เป็นตัวละครสำคัญที่มีทั้งความกบฏและความอ่อนแอแฝงอยู่ในคราวเดียว
ฉันรู้สึกว่าการตีความบทนี้เน้นที่ความเป็นฮีโร่ที่มีบาดแผล—ไม่ได้เป็นแค่ลิงเจ้าเล่ห์ตามตำนาน แต่ถูกขยายให้มีความทรงจำที่ขมขื่นและความรับผิดชอบที่ฉุดรั้งเอาไว้ ฉีเทียนต้าเซิ่นถูกวางให้เป็นทั้งผู้ปกป้องและผู้ท้าทายระบบ เขามีมุมตลกขบขันที่ช่วยผ่อนคลายบรรยากาศ แต่ก็มีฉากที่ต้องทิ้งความโง่งมและเผชิญหน้ากับผลกรรมของการเลือกของตัวเอง ฉันชอบฉากที่เขาต้องเผชิญหน้ากับอดีตเพื่อนร่วมทาง—ฉากนั้นทำให้บทดูมีมิติและทำให้ตัวละครไม่ใช่แค่สัญลักษณ์ แต่เป็นคนจริงๆ ที่ต้องเลือกและสูญเสีย
มุมมองทางการแสดงนั้นค่อนข้างหล่อหลอมบทจากงานเวอร์ชันคลาสสิก เช่น 'Journey to the West' แต่ซีรีส์นี้ใส่ความทันสมัยและความขัดแย้งภายในมากขึ้น ฉันคิดว่าเขาแสดงออกมาได้ทั้งความ
เร่าร้อนและความเหนื่อยล้าในเวลาเดียวกัน ทำให้ฉากแอ็กชันมีน้ำหนักและฉากเรียบง่ายที่คุยกันสองคนกลับโดดเด่นกว่าฉากระเบิดใหญ่บางฉากเลยทีเดียว เสียงลงท้ายของเขาในตอนสุดท้ายยังคงดังวนอยู่ในหัวฉันหลายวัน — นั่นแหละคือสิ่งที่ทำให้บทนี้น่าจดจำ