Share

พรานหนุ่ม

last update Last Updated: 2025-06-11 16:54:40

เสียงคำรามของหมีดำดังก้องกังวานไปทั่วหุบเขา คลื่นความกลัวแผ่ซ่านไปในกลุ่มทหารองครักษ์ แม้จะได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี แต่การเผชิญหน้ากับสัตว์ร้ายขนาดมหึมาเช่นนี้ในป่าลึกย่อมสร้างความหวาดหวั่นไม่น้อย หลี่เฟยหลงที่อยู่บนหน้าผาพยายามเร่งตัวเองให้ลงมาอย่างสุดกำลัง แต่หมีดำกลับพุ่งเข้าใส่กลุ่มทหารอย่างรวดเร็ว เขี้ยวแหลมคมและกรงเล็บอันแข็งแกร่งของมันน่ากลัวเกินกว่าจะต้านทานไหว

"ถอยไป! จัดรูปขบวน!" หลี่เฟยหลงตะโกนลงมาด้วยความร้อนรน แต่ก็ไม่ทันการณ์ หมีดำตบเข้าที่ร่างของทหารองครักษ์นายหนึ่งอย่างจังจนกระเด็นไปกระทบต้นไม้ใหญ่

เหม่ยหลินมองสถานการณ์ตรงหน้าด้วยความเด็ดเดี่ยว เธอรู้ว่าการใช้กำลังอย่างเดียวไม่สามารถเอาชนะสัตว์ร้ายตัวนี้ได้ เธอต้องใช้ สติปัญญา และ ความรู้ ที่มี

"หยุดนะ!" เหม่ยหลินตะโกนสุดเสียง เสียงของเธอไม่ได้มีพลังอำนาจเหมือนเจ้าเมือง แต่กลับมีความหนักแน่นที่ทำให้หมีดำชะงักไปชั่วครู่

ขณะที่หมีดำกำลังหันมามองเหม่ยหลินด้วยสายตาดุดัน ทันใดนั้นเอง!

ฟิ้ว! ฉัวะ!

ลูกธนูอาบยาพิษก็พุ่งตรงเข้าปักที่ต้นขาของหมีดำอย่างแม่นยำ! หมีดำคำรามด้วยความเจ็บปวด มันหันไปมองหาผู้โจมตีอย่างบ้าคลั่ง

ปราด!

เงาร่างหนึ่งปราดออกจากพุ่มไม้ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก เขาเป็นชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง วัยราว 34 ปี สวมชุดหนังสีเข้มที่กลมกลืนไปกับธรรมชาติ ใบหน้าคมเข้ม ดวงตาคมกริบแต่แฝงด้วยความสงบ และรอยยิ้มบางๆ ที่มุมปากทำให้เขามีเสน่ห์อย่างประหลาด ในมือของเขาคันธนูไม้มะค่าที่ขึ้นเงาวับ

"หึ! เจ้าร้ายกาจนักนะไอ้หมี!" ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ แต่แฝงด้วยความมั่นใจ

หมีดำคำรามตอบ มันพุ่งเข้าใส่ชายหนุ่มอย่างไม่คิดชีวิต ชายหนุ่มกลับไม่แสดงท่าทีหวาดกลัว เขากระโดดหลบการโจมตีของหมีดำได้อย่างคล่องแคล่วว่องไวราวกับวานร มือของเขายังคงน้าวคันธนูอย่างต่อเนื่อง ฟิ้ว! ฟิ้ว! ลูกธนูอีกสองดอกพุ่งเข้าปักที่ไหล่และลำตัวของหมีดำ

ยาพิษเริ่มออกฤทธิ์ หมีดำเริ่มมีอาการเซซวน ดวงตาของมันเริ่มพร่าเลือน การเคลื่อนไหวเริ่มช้าลง และในที่สุด มันก็ล้มลงกระแทกพื้นด้วยเสียงอันดัง สิ้นใจในที่สุด

นายพรานผู้ช่วยชีวิต

ทุกคนในกลุ่มต่างตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พวกเขามองไปยังชายหนุ่มผู้ช่วยชีวิตด้วยความทึ่งและชื่นชม

"ท่านพี่! ท่านสุดยอดมากขอรับ!" หลี่เฟยหลงที่ลงมาจากหน้าผาได้อย่างปลอดภัยรีบวิ่งเข้ามาหาชายหนุ่มด้วยความตื่นเต้น

ชายหนุ่มยิ้มบางๆ "ไม่เป็นไรหรอกน้องชาย ข้าแค่ทำหน้าที่ของข้า"

เหม่ยหลินเดินเข้ามาใกล้ชายหนุ่ม เธอก้มศีรษะเล็กน้อย "ขอบพระคุณท่านมากที่ช่วยชีวิตพวกเราไว้ ข้าคือเหม่ยหลิน"

ชายหนุ่มมองเหม่ยหลินด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น "ข้าคือ ไป๋หู่ เป็นนายพรานในป่าแห่งนี้ ข้าได้ยินเสียงเอะอะโวยวายก็เลยเข้ามาดู ไม่คิดว่าจะเจอแม่นางที่งดงามและกล้าหาญเช่นนี้"

คำชมของไป๋หู่ทำให้เหม่ยหลินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เธอก้มหน้าเล็กน้อยเพื่อซ่อนรอยยิ้ม

"ท่านไป๋หู่ มีอะไรให้ข้าตอบแทนท่านหรือไม่เจ้าคะ?" เหม่ยหลินถาม

ไป๋หู่โบกมือ "ไม่จำเป็นหรอกแม่นางเหม่ยหลิน การช่วยชีวิตผู้บริสุทธิ์เป็นหน้าที่ของข้าอยู่แล้ว แต่ถ้าท่านอยากจะตอบแทนข้าจริงๆ...ก็จงระวังตัวให้ดี ป่าแห่งนี้ไม่ได้มีแค่สัตว์ร้ายเท่านั้น แต่ยังมีอันตรายที่มองไม่เห็นอีกมากมาย"

คำพูดของไป๋หู่ทำให้เหม่ยหลินครุ่นคิด เขารู้เรื่องราวในป่าแห่งนี้ดีกว่าเธอแน่นอน

"ท่านไป๋หู่ ท่านรู้จัก 'ผลไม้แห่งสวรรค์' หรือไม่เจ้าคะ?" เหม่ยหลินถาม

ไป๋หู่ยิ้ม "แน่นอน! ข้าเป็นนายพรานในป่าแห่งนี้มาทั้งชีวิต ข้าไม่เพียงรู้จักผลไม้แห่งสวรรค์ แต่ข้ายังรู้จักแหล่งที่มาของมันด้วย"

ดวงตาของเหม่ยหลินเป็นประกาย "ท่านสามารถพาพวกเราไปที่นั่นได้หรือไม่เจ้าคะ?"

ไป๋หู่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้า "ได้สิ! แต่การเดินทางไปยังที่นั่นนั้นอันตรายนัก หากท่านไม่กลัวความลำบาก ข้าก็จะนำทางท่านไปเอง"

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ข้านี้แหละที่จะทำให้ตระกูลนี้ร่ำรวย   พลังงานลึกลับ

    หลายเดือนหลังจากการเอาชนะภัยแล้งและความร่วมมือกับเผ่าหินทมิฬ ความสงบสุขก็กลับมาสู่แคว้นอีกครั้ง เหม่ยหลินยังคงทำหน้าที่เชฟหลวงและครูสอนทำอาหารอย่างไม่ย่อท้อ แต่ในใจของเธอ เธอรู้ว่าความสงบสุขนี้เป็นเพียงช่วงเวลาที่ยืมมาจากโชคชะตาเท่านั้น พลังงานลึกลับ ที่คุณหมอชลธีกล่าวถึง เริ่มแสดงอาการที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆพลังงานที่ปั่นป่วนและอาการผิดปกติของธรรมชาติในคืนหนึ่งที่เงียบสงบ เหม่ยหลินกำลังนั่งสมาธิอยู่ในสวนหลวงเพื่อฝึกจิตให้สงบตามที่คุณหมอชลธีแนะนำ ทันใดนั้น เธอก็รู้สึกได้ถึงคลื่นพลังงานประหลาดที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย คลื่นพลังงานนั้นทำให้เธอรู้สึกวิงเวียนศีรษะ และได้ยินเสียงกระซิบที่เธอไม่เข้าใจ ความรู้สึกนี้คล้ายกับความรู้สึกในวันที่เธอเดินทางข้ามมิติมายังโลกนี้!เธอรีบไปยังที่พักของคุณหมอชลธีทันที และพบว่าเขากำลังยืนอยู่หน้าต่างด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด"คุณหมอชลธี! คุณรู้สึกไหมคะ!?" เหม่ยหลินถามด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก"ครับ...ผมรู้สึก" คุณหมอชลธีตอบ "มันไม่ใช่แค่ในร่างกายเราแล้วนะครับคุณเหม่ยหลิน...แต่ผมรู้สึกว่ามันกำลังปั่นป่วน มิติ นี้อยู่"อาการผิดปกติเริ่มปรากฏขึ้นทั่วแคว้น สัตว์เลี้ยง

  • ข้านี้แหละที่จะทำให้ตระกูลนี้ร่ำรวย   มิตรภาพกลางทะเลทราย

    การเผชิญหน้าระหว่างสองอารยธรรมที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ได้ถูกตัดสินด้วยเงื่อนไขที่แปลกประหลาดที่สุด นั่นคือ "อาหาร" เหม่ยหลินไม่รู้สึกหวาดหวั่นเลยแม้แต่น้อย เธอมองไปยังไป๋เฟิงและคุณหมอชลธีด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ ส่วนหัวหน้าหินทมิฬและพรรคพวกของเขาก็จ้องมองเธอด้วยความสงสัยระคนดูถูก"ท่านหัวหน้าหินทมิฬ" เหม่ยหลินกล่าวด้วยน้ำเสียงที่สงบ "ก่อนที่ข้าจะเริ่มทำอาหาร ข้าอยากจะขอให้ท่านแสดงน้ำใจแก่พวกข้าเสียก่อน โปรดนำน้ำมาให้พวกข้าสักเล็กน้อยเพื่อใช้ในการปรุงอาหาร และถ้าท่านอนุญาต...ข้าอยากจะขอให้พวกท่านช่วยนำทางพวกเราไปหาวัตถุดิบบางอย่างในพื้นที่ของท่านเพคะ"หัวหน้าหินทมิฬหัวเราะในลำคอ "เจ้ากล้าขอของจากข้าอย่างนั้นรึ! ก็ได้! แต่ถ้าเจ้าปรุงอาหารให้ข้าไม่พอใจ...เจ้าจะต้องถูกโยนลงไปในทะเลทรายที่ร้อนระอุจนกลายเป็นอาหารของสัตว์ร้าย!"เขาสั่งลูกน้องให้นำน้ำมาให้เหม่ยหลินเพียงน้อยนิด และให้ชายหนุ่มคนหนึ่งนำทางเธอไปหาวัตถุดิบ เหม่ยหลินรับน้ำมาด้วยรอยยิ้ม แล้วเดินนำไป๋เฟิงและคุณหมอชลธีออกไปพร้อมกับผู้ช่วยจากเผ่าหินทมิฬการล่าวัตถุดิบในแดนทุรกันดารการเดินทางไปหาวัตถุดิบในดินแดนของเผ่าหินทมิ

  • ข้านี้แหละที่จะทำให้ตระกูลนี้ร่ำรวย   ภัยแร้ง

    บรรยากาศระหว่างคนทั้งสามตึงเครียดราวกับสายธนูที่ถูกน้าวสุดแรง ไป๋เฟิงมองเหม่ยหลินและคุณหมอชลธีสลับไปมาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม เหม่ยหลินรู้สึกเหมือนถูกบีบรัดด้วยความลับที่ปกปิดมานานหลายปี เธอรู้ว่าไม่อาจหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าในครั้งนี้ได้อีกต่อไป"ไป๋เฟิง" เหม่ยหลินเอ่ยขึ้น น้ำเสียงของเธอสั่นเครือแต่แฝงด้วยความเด็ดเดี่ยว "ข้าจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ท่านฟัง แต่ท่านต้องให้สัญญากับข้าว่า ท่านจะไม่ตัดสินข้า และจะเชื่อในสิ่งที่ข้าพูด"ไป๋เฟิงพยักหน้าอย่างช้าๆ "ข้าให้สัญญาขอรับ"เหม่ยหลินจึงเริ่มเล่าเรื่องราวทั้งหมด ตั้งแต่วันที่เธอเป็นเชฟในโรงพยาบาลในโลกที่เธอจากมา เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันที่ทำให้เธอหลุดข้ามมิติมายังโลกนี้ การได้พบกับครอบครัวของเจียงเหวิน และการใช้ความรู้จากโลกเดิมเพื่อเอาชีวิตรอดและสร้างชีวิตใหม่ เธอไม่ได้ละเว้นแม้แต่เรื่องราวที่เธอเคยบอกไปแล้วอย่างเรื่องการทำอาหารจากวัตถุดิบประหลาด หรือเรื่องราวของโลกที่เทคโนโลยีเจริญก้าวหน้าไปไกลกว่าโลกนี้มากไป๋เฟิงฟังอย่างเงียบสงบ สีหน้าของเขาแปรเปลี่ยนจากความสงสัยเป็นความเข้าใจและตกตะลึง ในขณะที่คุณหมอชลธีก็เสริมข้อมูลบางอย่างที่เหม่ยห

  • ข้านี้แหละที่จะทำให้ตระกูลนี้ร่ำรวย   กองโจรกับการหลับมา

    หลายปีผ่านไปนับตั้งแต่เหตุการณ์โจรสลัดหมาป่าทมิฬ ทุกมุมของแคว้นได้ฟื้นคืนชีวิตชีวาอย่างเต็มที่ภายใต้การนำอันชาญฉลาดของเหม่ยหลินและองค์จักรพรรดิ ตระกูลหลี่ได้กลายเป็นตระกูลที่มีเกียรติยศสูงสุดในแผ่นดิน หลี่เฟยหลงก้าวขึ้นเป็นแม่ทัพใหญ่ผู้แข็งแกร่งและซื่อสัตย์ ชิวลี่ฮวาเป็นที่รู้จักในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านพืชพรรณและศิลปะในวัง ส่วนหลี่เฟยหานก็เติบโตเป็นข้าราชการหนุ่มผู้ซื่อตรงและเปี่ยมด้วยความสามารถ หลี่เฟยหยาง น้องสุดท้องก็เป็นหนุ่มน้อยผู้ร่าเริง มีสติปัญญา และมักจะสร้างเสียงหัวเราะให้กับทุกคนในวังเสมอมิตรภาพระหว่างแคว้นของเหม่ยหลินกับแคว้นเยว่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเหล็กกล้า ไป๋เฟิงยังคงเป็นราชทูตผู้ทรงอิทธิพล และมักจะเดินทางมาเยี่ยมเยียนเหม่ยหลินและครอบครัวอยู่เสมอ ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเหม่ยหลินนั้นลึกซึ้งเกินกว่าคำว่ามิตร และเป็นที่รับรู้กันในหมู่คนใกล้ชิดว่าไป๋เฟิงมีใจให้กับเชฟหลวงผู้นี้อย่างสุดซึ้ง แต่ความแตกต่างของสถานะและแคว้นทำให้เรื่องนี้ยังคงเป็นเพียงความรู้สึกที่งดงามในใจเท่านั้นแม้ทุกสิ่งจะดูสมบูรณ์แบบ แต่บางครั้ง เงาจากอดีต ก็มักจะคืบคลานกลับมาทักทาย โดยเฉพาะอดีตที่เ

  • ข้านี้แหละที่จะทำให้ตระกูลนี้ร่ำรวย   โจร

    ความรุ่งเรืองของแคว้นที่ฟื้นคืนชีพจากวิกฤตภัยธรรมชาติ เป็นดั่งแสงสว่างที่ดึงดูดสายตาจากทุกทิศทุกทาง ชื่อเสียงของ "ซุปแห่งชีวิตอมตะ" และความอุดมสมบูรณ์ที่กลับคืนมาอย่างรวดเร็วภายใต้การนำของ เชฟหลวงเหม่ยหลิน ไม่ได้สร้างความชื่นชมยินดีไปทั่วทุกสารทิศเสมอไป ในดินแดนที่ห่างไกลออกไป ความโลภ กำลังเริ่มคืบคลานเข้าปกคลุมจิตใจของผู้คนบางกลุ่ม เสียงกระซิบของความมั่งคั่งและแผนการร้ายจากแดนเถื่อน ทางทิศตะวันออกไกลโพ้นจากแคว้นที่กำลังฟื้นฟู มีกลุ่มโจรขนาดใหญ่ที่เรียกตัวเองว่า "หมาป่าทมิฬ" อาศัยอยู่ พวกมันเป็นที่หวาดกลัวของผู้คนในแถบนั้น ด้วยความโหดเหี้ยม ป่าเถื่อน และความสามารถในการปล้นสะดมอย่างรวดเร็วราวกับฝูงหมาป่าที่หิวโหย หัวหน้ากลุ่ม คือชายร่างยักษ์ผู้มีใบหน้าดุร้ายและรอยแผลเป็นพาดผ่านดวงตา "ไคเฟิง" เขาได้ยินข่าวลือเรื่องความมั่งคั่งของแคว้นที่ฟื้นคืนชีพ รวมถึงเรื่องอาหารวิเศษที่ทำให้ผู้คนมีพละกำลังและสุขภาพดี "พวกแกได้ยินข่าวลือเรื่องแคว้นทางตะวันตกนั่นรึไม่!" ไคเฟิงคำรามเสียงดังในค่ายโจรที่เต็มไปด้วยกองไฟและเสียงเอะอะโวยวาย "มันว่ากันว่าแคว้นนั้นมีอาหารวิเศษที่ทำให้คนไม่เจ็บไม่ป่วย!

  • ข้านี้แหละที่จะทำให้ตระกูลนี้ร่ำรวย   การฟื้นฟู

    เสียงโห่ร้องยินดีดังกึกก้องไปทั่วลานประลอง เมื่อขันทีหลงและผู้นำพรรคอัคคีทมิฬถูกคุมตัวออกไป ภาพของประชาชนที่ดื่มด่ำ "ซุปแห่งแสงตะวัน" และฟื้นคืนพลังขึ้นมาอย่างน่าอัศจรรย์ ได้สยบทุกความแคลงใจ ทุกเสียงกระซิบกระซาบของความไม่พอใจมลายหายไปสิ้น แทนที่ด้วยประกายแห่งความหวังและความเชื่อมั่นที่กลับคืนมาองค์จักรพรรดิทรงเดินลงจากบัลลังก์ มาประทับยืนข้างเหม่ยหลิน พระหัตถ์ของพระองค์วางลงบนบ่าของเธอด้วยความเมตตาและภาคภูมิใจ"ประชาชนของข้า!" องค์จักรพรรดิรับสั่งด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมด้วยพลัง "วันนี้! พวกเจ้าได้เห็นแล้วถึงความจริงใจของวังหลวง! พวกเจ้าได้ลิ้มรสแล้วถึงความเมตตาของสวรรค์! และพวกเจ้าได้ประจักษ์แล้วถึงพลังแห่งความสามัคคี! เราจะร่วมกันฟื้นฟูแคว้นของเราให้กลับมารุ่งเรืองยิ่งกว่าเดิม!"เสียงกู่ก้อง "ทรงพระเจริญ!" ดังกึกก้องไปทั่วทั้งลานประลอง ประชาชนต่างคุกเข่าลงด้วยความเคารพและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแผนฟื้นฟูแผ่นดิน: เมล็ดพันธุ์แห่งความหวังหลังเหตุการณ์จลาจล องค์จักรพรรดิได้เรียกประชุมเหล่าขุนนางและผู้เชี่ยวชาญทุกสาขา เพื่อวางแผนฟื้นฟูแคว้นครั้งใหญ่ เหม่ยหลิน ไป๋เฟิง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status