เพราะอยากรู้ว่าเขาเหมือนอย่างในข่าวลือจริงหรือไม่ แบบนี้ก็ยิ่งเข้าทางคนอยากรู้อยากเห็นอย่าง ซุปไก่ แถมสเปกยังโคตรตรงใจ ภารกิจสตอล์กเกอร์สตอล์กใจจึงได้เริ่มต้นขึ้น...
Lihat lebih banyakตอนที่ 1
ล็อกเป้าหมาย
50%
--------------------
"ฉันล่ะกลัวแกจริง ๆ"
"ไหงงั้นอะ"
"ก็เวลาแกอยากรู้เรืื่องอะไรแกจะมุ่งไปทางนั้นอย่างเดียวไง กับการเรียนไม่เห็นตั้งใจแบบนี้บ้าง"
ซุปไก่ยิ้มขำ หูฟังเพื่อนพูด ขณะที่ตามองหน้าจอส่วนมือก็พิมพ์ข้อมูลที่หามาได้ลงไป เกิดมาเป็นจอมสอดรู้สอดเห็นก็ต้องมืออาชีพกันหน่อย
"ก็ว่าไป อันนี้มันสนุกกว่าการเรียนนี่นา หรือว่าแกเชื่อที่ในหมูติดปีกเขาว่ากัน"
"ไม่รู้ดิ ไม่เคยเจอกับตัวเอง ยังตัดสินไม่ได้หรอก"
"ใช่ไหมล่ะ คนเราไม่ควรตัดสินใครง่าย ๆ"
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ปรางทิพย์ หรือ ชีส เองก็อยากรู้เช่นกัน ฉะนั้น... เต็มที่ไปเลยเพื่อน
ความขยันถ้าเอาไปใช้ให้ถูกทางคงกลายเป็นอัจฉริยะ แต่เพราะเรื่องชาวบ้านมันสนุกซุปไก่เลยไม่รู้สึกเบื่อ ส่วนเรื่องเรียนก็พอถูไถ พ่อกับแม่ไม่เคยคาดหวังเธอเลยรู้สึกไม่กดดันเหมือนคนอื่นเขา
ช่วงนี้หมกมุ่นกับรุ่นพี่คนหนึ่ง ชื่อของเขาคือ อหัสกร ที่แปลว่า พระอาทิตย์ แถมชื่อเล่น ซันนี่ ก็ยังแปลว่าแสงแดดของพระอาทิตย์อีก แต่พี่เขาอนุญาตให้คนทั่วไปเรียกได้แค่ ซัน เท่านั้นนะ
เรียนอยู่ปีสาม คณะบริหารธุรกิจ เป็นทายาทคนรองของท่านเจ้าสัวจักรวาลกับคุณหญิงพันดารา พี่ชายคนโตชื่อ วินดี้ และมีน้องสาวคนเล็กชื่อ เรนนี่
ตระกูลมาเฟียใหญ่ผู้ครอบครองอสังหาริมทรัพย์มากที่สุดในประเทศ และร่ำรวยจากการทำการค้าทุกรูปแบบ เป็นหนึ่งในผู้ขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจ สำคัญขนาดที่ว่าไม่มีใครกล้าต่อกร
ฉะนั้นข่าวลืออาจเกิดจากความอิจฉาของกลุ่มคน หรือเกิดจากนิสัยจริง ๆ ของเจ้าตัวก็เป็นได้ ทั้งนี้ซุปไก่จึงต้องพิสูจน์ให้ความจริงปรากฎ
.
.
.
"แกเลิกทำแบบนี้เหอะ"
"ทำไมล่ะ"
"มันเนียนตรงไหนก่อน"
"มันได้ก็แล้วกันน่า"
เริ่มแรกของทุกภารกิจที่ซุปไก่ทำเหมือนกันคือการปลอมตัวไปแอบดูหน้าค่าตาของเป้าหมาย
แล้วยิ่งอยู่คณะข้างกันยิ่งไปมาสะดวก หลังจากเลิกคลาสเพื่อพักกลางวัน จอมแสบก็หยิบวิกผมยาวสลวยออกมาให้เพื่อนรักใส่พร้อมหมวกไปจ่ายตลอดของแม่ ส่วนตัวเองใช้วิกผมหยิกยาวประบ่าพร้อมสวมแว่นสายตาเพื่ออำพรางใบหน้าจริง
เนียนไม่เนียนไม่รู้ รู้แค่ว่าทำแบบนี้มาตลอดแล้วก็ไม่เห็นมีใครจับได้ นิสัยนี้เริ่มมาตั้งแต่ตอนอยู่มัธยมปลาย กระทั้งเข้ามหาวิทยาลัย เป็นปีหนึ่งใส ๆ ก็ยังเอามุขนี้มาใช้
ชีสเองก็ต้องคอยตามน้ำไปกับเพื่อนซี้ พาทำอะไรก็ทำแม้จะขัดใจแต่ก็ถือว่าลงเรือลำเดียวกัน
ปลอมตัวมานั่งกินข้าวในโรงอาหารของคณะบริหาร ตามข้อมูลที่ได้มารุ่นพี่คนนั้นมักจะมากินข้าวกับแก๊งเพื่อนที่นี่เป็นประจำ
"แกจะใส่แว่นดำทำไมเนี่ยชีส ถอดออก"
"ก็เดี๋ยวมีคนจำได้ไง"
"มันเยอะไป"
"โหย แล้วที่ทำอยู่ไม่เรียกว่าเยอะเลยมั้ง ทั้งหมวกทั้งวิกผมเนี่ย"
"เออ น่า... กำลังดี เอาแว่นเก็บ"
ความเจ้ากี้เจ้าการในเรื่องไม่เป็นเรื่อง ชีสถอนหายใจเก็บแว่นตามคำสั่ง ไม่นานเป้าหมายก็ปรากฎตัว สองเพื่อนซี้อ้าปากตะลึงงันเมื่อเห็นหน้าชายหนุ่มเจ้าของข่าวลือ
เป็นอย่างที่ในชุมชนหมูติดปีกคุยกันจริงด้วยถึงเรื่องรูปร่างหน้าตา แม้จะมีีรูปถ่ายมากมายให้ไล่ดูแต่ก็ไม่สู้เห็นตัวเป็น ๆ
"หล่ออะไรขนาดนั้น" ชีสไม่รู้จะบรรยายภาพที่เห็นอย่างไรดี เช่นเดียวกับซุปไก่ที่กลืนน้ำลายแล้วกลืนน้ำลายอีก
"หุ่นนั่นโคตรจะเพอร์เฟค" วินัยในการออกกำลังกายน่ะสำคัญ ถึงชุดนักศึกษาจะบดบังแต่กว่าจะปั้นหุ่นแบบนั้นได้ไม่ง่ายเลย มองอย่างไรก็เซ็กซี่ชวนให้อยากลูบไล้ไปทั่วร่างกาย
"ใจเย็นนะซุป" เพราะรู้ว่านั่นน่ะสเปกของเพื่อนเลยไงล่ะ
"น่าเลีย..."
"ไอซุป! ไม่เอาาาา"
"อะ! เอ่อ โทษที เกือบสติหลุด"
เจอคนตรงไทป์เข้าให้สัญชาตญาณดิบเลยผุดขึ้นมา ซุปไก่น่ะไม่ใช่ผู้หญิงใส ๆ ทำเรื่องไร้สาระไปวัน ๆ อย่างที่ใครเข้าใจหรอกนะ นั่นมันก็แค่ฉากหน้า อย่าให้นิสัยจริง ๆ โผล่ออกมาเลยเดี๋ยวจะวุ่นวายเปล่า ๆ แค่นี้ก็วุ่นวายมากพอแล้ว
"จะเสียเรื่องไหมเนี่ย ล้มเลิกดีกว่าไหม เห็นความพังมาแต่ไกล"
"โอ๊ยแกก็ ไม่หรอกน่า"
จากนั้นทั้งสองคนหันกลับไปสนใจเป้าหมายกันต่อ เจ้าของข่าวลือนั่งลงที่โต๊ะห่างออกไปไม่ไกล ชาวแก๊งเองก็หน้าตาดีไม่แพ้กัน ทุกคนวางท่าน่าเกรงขาม ค่าความเป็นมิตรติดลบ
"นี่มันพวกนักเลงมีเทสหรือเปล่าเนี่ย" ชีสว่า พวกอันธพาลบ้านรวย หล่อร้ายกาจอะไรเทือกนั้น ยิ่งใหญ่ถึงขนาดทุกคนต้องก้มหน้าหลบตา
"ไม่แปลกที่ข่าวลือจะกระจายออกไปแบบนั้น" ซุปไก่จดบางอย่างลงไปในสมุดบันทึกเล่มเล็ก
แววตาดุดันแฝงไปด้วยความเหย่อหยิ่ง ร้ายกาจ และเย็นชา โดยเฉพาะหัวหน้าแก๊งที่ตวัดสายตามาสบกันเพียงชั่วครู่ทำเอาสาวเจ้าสะดุ้งตกใจรีบหลุบตาลงพัลวัน
"เกือบไปแล้ว ถูกจับได้หรือยัง" ซุปไก่ใจหาบวาบ แล้วดันนั่งหันหน้าเข้าหากันด้วยนะ
"แกก็อย่าจ้องมากนักสิ" ชีสเตือน พลอยกระสับกระส่ายว้าวุ่นใจตามไปด้วย
สองเพื่อนรักเนียนตักข้าวกิน มีแอบมองบ้างบางครั้งเพื่อเก็บข้อมูล แก๊งอันธพาลบ้านรวยก็ดูไม่ได้ระรานใครไปทั่ว พวกเขาซื้อข้าวมานั่งกินด้วยกันโดยไม่สนรอบข้าง แต่เป็นรอบข้างต่างหากที่สนใจพวกเขา มองแล้วซุบซิบกัน บ้างก็แอบถ่ายรูป พูดก็พูดเถอะถ้าเจอแบบนี้ทุกวันใครมันจะไม่หงุดหงิด
ซุปไก่จดบันทึกสิ่งที่เห็นเพื่อเอามารีเลทกับข่าวลือว่ามีความเกี่ยวโยงกันจริงหรือไม่
"จะไปซื้อผลไม้ แกเอาอะไรไหม" ชีสเลิกสนใจ หยิบเงินในกระเป๋าสตางค์ออกมาถือไว้เตรียมลุกไปหาอะไรล้างปาก
"เอาโรตีก็ได้"
"ใส่ไข่ กล้วย ช็อกโกแลต เหมือนเดิมนะ"
"อาฮะ แต๊งกิ้วน้าาา"
วันแรกยังไม่สามารถตัดสินได้ทันทีหรอกนะ ซุปไก่ปิดสมุดบันทึกเก็บใส่กระเป๋าเป้ก่อนเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเล่นแทน
-------------------
50%
Tbc.
ตอนที่ 15มีความสุขดีหรือเปล่า50%------------------------ซันนี่คิดว่าทุกอย่างปกติสุขดีจนกระทั่งเริ่มรู้สึกตัวว่ามันไม่ใช่...ไม่ใช่สักนิดความเงียบสงบที่เคยโปรดปรานตอนนี้กลับมองว่ามันแปลกไป สงบสุขก็จริงแต่ดันเงียบเหงาขึ้นมาเสียอย่างนั้น มันขาดบางสิ่งบางอย่างไปจนรู้สึกหงุดหงิดงุ่นง่านกระทั่งเปิดเทอมขึ้นชั้นปีใหม่เขาก็ยังคงจมอยู่กับความรู้สึกนั้นไม่หายซึ่งมันคือความคิดถึงนั่นเอง...คิดถึงใครบางคนที่ห่างกันมาพักใหญ่ หลายเดือนเห็นจะได้ โคตรอยากเห็นหน้าจับใจ"มึงนี่มันแน่นอนจริง ๆ ว่ะไอ้คุณชาย ทำได้ไงวะสองสามเดือนเอาแต่ขังตัวเองอยู่ในบ้าน" เฟลอยากมอบโล่เชิดชูให้มันเหลือเกิน ชวนไปไหนก็ไม่ยอมไป"ทำตัวเหมือนคนอกหักไปได้ ทั้งที่เป็นคนหักอกเขาแท้ ๆ" อาร์คส่ายหน้าหน่าย พฤติกรรมน่าด่าซ้ำไม่น่าปลอบสักนิด"หักอกอะไร ไม่ได้บอกเลิกสักหน่อย แค่ขอห่างสักพัก" ซันนี่ว่าพวกเขานั่งกันอยู่ใต้อาคาร เป็นรุ่นพี่ปีสี่แล้วนะ ชั้นปีอื่นกำลังวุ่นวายกับกิจกรรมรับน้องกัน มหาวิทยาลัยในเวลานี้กลับคึกคักอีกปี"ไปดูหน่อยไหมล่ะ คณะข้าง ๆ นี่เอง" สกุลชวน หากไม่กล้าไปคนเดียวเดี๋ยวพวกเขาไปเป็นเพื่อน"ถ้าน้องมันเข้าใจว
ตอนที่ 14เด็กดื้อต้องโดนอะไร100%-------------------------หลังจากนั้นจวบจนปิดเทอมซุปไก่ก็ไม่ได้เจอหน้าซันนี่อีกเลย ราวกับไม่เคยรู้จักกัน และเป็นเธอเองที่ไม่กล้าไปเจอหน้าเขาสอบเสร็จก็กลับบ้านที่อยุธยา ช่วยบิดาขายของที่ร้าน มือถือแทบไม่ได้จับ ของปลอมตัวก็เอาไปขายจนหมด ได้เงินมาไม่ถึงหมื่นด้วยซ้ำ ไม่พอแค่นั้นยังถูกพี่ชายหักค่าขนมชีวิตแสนเศร้า อกหักรับปิดเทอม ทริปร่องเรือก็ไม่ได้ไป อีกฝ่ายไม่แม้แต่ติดต่อมาบอกด้วยซ้ำ เธอเองก็ไม่กล้าเสนอหน้าไปขนาดนั้น"น้องซุปกินข้าวลูก ตอนเย็นเฮียมานะ กินเสร็จแล้วขึ้นไปทำความสะอาดห้องนอนไว้ให้เฮียเขาทีนะ ห้องนอนแขกด้วยนะลูก เห็นว่าพาเพื่อนมาเที่ยวบ้าน"ซุปไก่นั่งอยู่หลังเคาน์เตอร์คิดเงิน กำลังเอาของใส่ถุงให้ลูกค้า ป๊ายุ่งอยู่กับการเช็คสต๊อก ส่วนคนงานอีกสองคนก็ช่วยกันขนของขึ้นรถเตรียมเอาไปส่งลูกค้า"พวกเฮียเจ็งเหรอแม่""ไม่รู้นา เฮียเขาบอกแค่เพื่อน""หรือว่าเฮียจะพาแฟนมาเซอร์ไพรส์!""สาธุเลย พามาสักทีเถอะ" คุณใจดียกมือไหว้ท่วมหัวซุปไก่ลุกไปกินข้าวกลางวันพร้อมมารดา ปิดเทอมกลับมาอยู่กับพ่อแม่ก็ดีเหมือนกัน แทบไม่ต้องใช้เงิน เงียบสงบไม่วุ่นวายเท่าในเมืองใ
ตอนที่ 14เด็กดื้อต้องโดนอะไร75%--------------------------ในวันเดียวกันนั้นเอง เวลาสองทุ่ม ซันนี่นอนอยู่บนเตียงให้เฮียไข่ตุ๋นลงรายละเอียดลายสักที่ขา ระหว่างนั้นก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังไปด้วย "เออดี มึงทำถูกแล้ว ตอนแรกกูคิดว่ามึงจะตามใจมัน""เรื่องแบบนี้ตามใจได้เหรอ""แล้วเรื่องเงินน่ะ กูต้องกันไว้ใช้จ่ายคงชดใช้ให้ทีเดียวไม่ได้...""ไม่เป็นไรครับพี่ ผมไม่เอา""ได้ไงวะ มึงต้องมาเดือดร้อนก็เพราะน้องกู""ผมไม่เอา ไม่ต้องมาใช้คืน""เหอะ! จะมาเรียกคืนทีหลังไม่ได้นะโว้ย ส่วนค่าสักจ่ายราคาเต็มกูไม่ลดให้"ซันนี่ยิ้มขำพลางพยักหน้า "และที่กูเข้าใจคือมึงจะห่างกับน้องกู?""สักระยะน่ะครับ""เลิก ๆ ไปเลยก็ได้นะ แป๊บเดียวเด็กนั่นก็ลืมแล้ว พอเจอคนใหม่มันก็ไปเกาะคนใหม่ แต่สเปกมันไม่เปลี่ยนมานานแล้ว ไทป์แบบมึงหาง่ายจะตาย" ...มั้งนะ ไข่ตุ๋นก็ไม่ค่อยมั่นใจ"พี่ไม่คิดว่าผมก็ชอบน้องพี่บ้างเหรอ" อย่างน้อยก็ไม่คิดเลิกล่ะนะ ยังอยากให้ซุปไก่อยู่ข้าง ๆ ต่อไป"ไปตลกไกล ๆ ตีน เฮ้อ~ กลับไปกูต้องฟาดมันหน่อยแล้ว เรื่องนี้แม่งอันตรายกว่าเรื่องไอ้สายฟ้าอีก""ถึงขั้นต้องตีเลยเหรอพี่" คุยกันดี ๆ ก็ได้ไหม"เออดิ
ตอนที่ 14เด็กดื้อต้องโดนอะไร50%------------------------น่าจะเป็นความเจ็บช้ำอันเกิดจากการพาเพื่อนไปเจอเรื่องสะเทือนใจ ซุปไก่กอดชีสร้องไห้อยู่ที่ห้องพักในโรงพยาบาล เห็นเท้ากับหัวเข่าขาว ๆ มีบาดแผลก็ยิ่งรู้สึกผิด สะอึกสะอื้นพอ ๆ กัน ต่างฝ่ายต่างโล่งใจ ชีสเห็นเพื่อนรักไม่ได้ถูกทำอะไรก็ใจชื้น เล่าว่าตอนที่อีกฝ่ายหนีออกไปได้แล้วตัวเองเจออะไรบ้าง ยังสั่นกลัวไม่หาย"ฉันก็เตือนแกแล้ว เป็นไงล่ะ ฮึก ๆ ถ้าฉันไปตามพี่ซันไม่ทันจะเกิดอะไรขึ้น""ฮือออออ ขอโทษ เราจะไม่ทำอีกแล้ว ฮึก ฮือออ"เสียงร้องไห้ดังออกไปถึงข้างนอกห้อง ทั้งซันนี่และอาร์คหันมองหน้ากันแล้วนั่งฟังเงียบ ๆ เสียขวัญอยู่ไม่น้อยเลย"เราบนไว้ ฮึก ๆ ถ้ารอดไปได้จะเลิกอยากรู้อยากเห็นเป็นเวลาหนึ่งปี ฮึก ฮืออออ""ปีเดียวเองเนี่ยนะ ตดยังไม่ทันหายเหม็น เลิกตลอดชีวิตไปเลยดีกว่า อย่ามาทำครึ่ง ๆ กลาง ๆ""มันหยุดไม่ได้นี่นา ขณะที่พักอยู่ก็ไม่รู้จะทนไหวหรือเปล่า ฮืออออ แย่ชะมัดเลย""อาการหนักหนาแล้วนะ ไปพบจิตแพทย์ซะดีกว่ามั้ง เอาไหมเดี๋ยวพาไป""แงงงงงง ไม่เอา! เราไม่ได้เป็นบ้านะ""แต่เป็นโรคจิตชนิดหนึ่งค่าาาา เพลา ๆ บ้างเหอะเรื่องชาวบ้านน่ะ" ชีสส
ตอนที่ 13เหมือนจะงานเข้าแล้วล่ะ100%----------------------------"แฮ่ก! แฮ่ก!"ชีสกัดฟันวิ่งไปยังคณะบริหาร อีกนิดเดียวก็จะถึง เธอถอดวิกทิ้ง ถอดรองเท้าแล้วถือมันวิ่งไปด้วย ถอดซิลิโคนบนจมูกกับคางออก สภาพอย่างกับคนบ้าแต่ใครสนกันล่ะ เพื่อนของเธอกำลังตกอยู่ในอันตราย วิ่งเท้าเปล่ามาถึงก็สอดส่ายสายมองหา วิ่งเข้าไปในอาคารไม่เจอ ออกมายังลานจอดรถเห็นแผ่นหลังคุ้นตาก็ดีใจ อีกฝ่ายกำลังเดินไปที่รถกับเพื่อน ๆ"โอ๊ย!"ด้วยความรีบร้อนกลัวไม่ทันทำให้ขาพันกันจนเสียหลักล้ม เข่่าครูดไปกับพื้นปูน เจ็บมากแต่ก็อดทนกัดฟันลุกขึ้นวิ่งต่อ"พี่ซัน!" เธอร้องเรียกเสียงดังใบหน้าเหยเกเต็มทีทั้งเจ็บทั้งกลัว พอชายหนุ่มกับเพื่อนหันกลับมามองเธอก็ปล่อยโฮออกมาทันทีซันนี่พอเห็นว่าเป็นเพื่อนของยัยตัวแสบก็รีบสาวเท้าตรงไปหา ใบหน้าเรียบนิ่งหากแต่คิ้วเริ่มขมวด สภาพของอีกฝ่ายเหมือนผ่านเริ่องราวมามากมาย"เกิดอะไรขึ้นวะ" อาร์คเอ่ยถามพลางไล่สายตาสำรวจ"ฮืออออ ช่วยด้วย ช่วยเพื่อนเราด้วย ซุปไก่น่ะ ฮึก ๆ ฮืออ
ตอนที่ 13เหมือนจะมีเรื่องแล้วล่ะ50%------------------------"เราจะรับบทเป็นพี่สาวน้องสาวกันนะชีส แกเป็นพี่สาวแสบเปรี้ยวซ่ามีความมั่นใจในตัวเองสูง ส่วนเราจะเป็นน้องสาวจอมเฉิ่มแสนขี้กลัว""โอเค แต่ต้องเสริมจมูกเสริมคางด้วย?""ให้ดูเป็นคนเสพติดศัลยกรรมนิด ๆ มันจะต้องไม่เหลือเค้าเดิมไงพี่สาว แต่สวยไม่น่าเกลียด"บ่ายสี่โมงครึ่งเลิกเรียนเป็นธรรมดาของทุกวัน สองเพื่อนซี้รีบพากันมาอยู่ที่ห้องน้ำหลังคณะ ซึ่งติดกับสวนเลยไม่ค่อยมีคน ชีสกำลังนั่งให้ซุปไก่แปลงโฉม สาวแซ่บวันนี้ใส่วิกผมสีแดง เป็นวิกผมแท้นะว่าไม่ได้ ของทุกอย่างจะมากิ๊กก๊อกได้อย่างไรแต่งหน้าเอฟเฟ็กต์เพิ่มโดยการเสริมสันจมูกกับคางให้แหลมนิดหน่อย จากนั้นก็แต่งหน้าให้ดูโฉบเฉี่ยว กรีดตาคม ๆ ทาปากและปัดแก้มด้วยโทนสีแดง คอนแทคเลนส์นี่ขาดไม่ได้เลย เลือกเปลี่ยนเป็นสีฟ้าอมเขียว ตอนนี้แทบไม่ใช่ชีส แทบจะเป็นคนอื่นที่สวยมาก ไม่พอแค่นั้นชุดนักศึกษาก็ต้องรัดรูปอวดทรวดทรงองค์เอว ชีสเป็นคนสวย มีหุ่นที่ดีอยู่แล้ว ขณะที่ตัวของซุปไก่นั้นเตี้ยกว่าแต่ไม่มาก
Komen