แชร์

บทที่ 46 คุกเข่า

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-24 23:09:05

หลี่เฟิ่งเซียนรีบร้อนไปรับยู่ยี่กลับมา แต่พอไปถึงที่พักของคนใช้นอกจวน นางก็ได้รับรู้ว่ายู่ยี่ไม่ได้อยู่ในที่พักนี้ ยู่ยี่ถูกบังคับให้ไปเช่าบ้านอยู่ และวันนี้นางก็ต้องไปซักผ้าที่แม่น้ำ หลี่เฟิ่งเซียนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น นางยิ่งรู้สึกผิดต่อยู่ยี่ที่พามาลำบากอยู่ในเมืองหลวง หลี่เฟิ่งเซียนสัญญากับตัวเองว่าหากพานางมาได้แล้วจะดูแลนางให้ดีขึ้น

เรื่องนี้ หรือเรื่องสามี ทั้งสองเรื่องผิดที่ตัวนาง นางเป็นคนพาพวกเขามาแต่ไม่ดูแลพวกเขา คิดว่าท่านย่ารักนางอย่างไรก็จะดูแลคนของนางให้ดี ที่ไหนได้ท่านย่ากลับเห็นคนไม่เท่ากัน บ่าวก็ยังเป็นบ่าว บ่าวก็ยังแบ่งกันเป็นหลายชั้น สูงต่ำกันไปตามมารยาทที่ได้รับฝึกสอนอีก 

ส่วนเขยของจวนแม่ทัพอย่างลู่มู่เฉิน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าท่านย่ารังเกียจเขาเพียงใด บังคับให้เขาอยู่ในห้องมืดๆ ผนังไม่ดี ลมเย็นพัดเข้ามาได้ตลอดคืน ผ้าห่มฟู่ปูนอนก็เป็นของเก่า ทั้งที่นางก็บอกไปแล้วว่าเขาป่วยอยู่ในห้องที่มีอากาศเย็นนานๆไม่ได้ นางไม่อาจไม่รับความผิดนี้ นางจะชดเชยให้พวกเขา

หลี่เฟิ่งเซียนควบขี่ม้าไปรับยู่ยี่ที่แม่น้ำ ทันทีที่นางเห็นคุณหนูใหญ่ ยู่ยี่ก็ร้องไห้ออกมายกใหญ่ ทั้งด่าทั้งบ่นคุณหนูใหญ่จนนางไม่มีเวลาตอบคำถาม แต่หลี่เฟิ่งเซียนก็ปล่อยให้ยู่ยี่ได้บ่นจนพอใจ ถือว่าเรื่องนี้นางเป็นคนผิดนางยินดีรับฟังคำบ่นของสาวใช้ ค่าเช่าบ้านที่ยู่ยี่ใช้จ่ายไปทั้งหมดคุณหนูใหญ่เช่นนางก็ลงบัญชีให้ไปเก็บที่จวนแม่ทัพหลี่ภายหลัง

หลี่เฟิ่งเซียนจัดการหาที่พักให้ยู่ยี่ใกล้ๆกับเรือนนอนของตัวเอง บังคับให้ฮูหยินรองย้ายข้าวของของลู่มู่เฉินมาไว้ที่ห้องของตัวเอง แม้สัมภาระของเขาจะมีเพียงน้อยนิด ย้ายเพียงรอบเดียวก็เสร็จแล้ว แต่สิ่งที่ยากคือบรรดาถุงหอมและเครื่องบดยารวมถึงสมุนไพรในห้องของท่านเขยนั้น 

หลี่เฟิ่งเซียนบังคับให้พวกบ่าวไพร่ย้ายอย่างระมัดระวังที่สุดและของสิ่งใดวางอยู่ที่ไหนเมื่อย้ายมาที่ห้องของนางก็ต้องวางตามตำแหน่งเดิม แม้ในห้องของนางจะใหญ่กว่าห้องของเขามากก็ตาม นางยังสั่งให้ฮูหยินรองหยิบเครื่องนอนชุดใหม่ออกมาเปลี่ยนให้ลู่มู่เฉินได้นอนด้วย ฟูกที่นอนหนาอย่างดี ผ้าห่มผืนใหม่ และผ้าปูผ้าไหมชั้นยอด 

ฮูหยินรองบอกหลี่เฟิ่งเซียนว่าทำไปโดยพลการเช่นนี้อย่างไรก็ไม่ใช่เรื่องดี ควรไปบอกกล่าวท่านย่าเสียก่อน แต่หลี่เฟิ่งเซียนกลับพูดออกมาว่านางไม่อยากเคารพคนแก่ร้อยเล่ห์ แอบทำอะไรลับหลังนาง

ท่านย่ารู้ข่าวเข้าก็ด่านางยกใหญ่ว่าเป็นหลานไม่รักดี มีสามีเข้าหน่อยก็ลืมหัวหงอกของย่าไปเสียแล้ว ยังลงโทษให้นางไปคุกเข่าอยู่หน้าเรือนของท่านย่าด้วย หลี่เฟิ่งเซียนก็นั่งคุกเข่าไม่บ่นสักคำ แต่เมื่อผ่านมื้ออาหารกลางวันไปได้ครึ่งชั่วยาม ในใจท่านย่าเริ่มหายโกรธและนึกถึงสิ่งที่ลู่มู่เฉินทำเมื่อคืน 

เขาดูแลและเข้าอกเข้าใจหลี่เฟิ่งเซียนเป็นอย่างดี คล้ายว่าท่านย่าก็เริ่มจะเข้าใจแม่ทัพหลี่ขึ้นมาบ้างแล้ว แม้เขาจะอัปลักษณ์ รูปร่างผอมแห้ง ดูไม่มีสง่าราศีไม่เหมาะสมจะเป็นเขยของจวนแม่ทัพ แต่สิ่งที่เขาทำนั้นล้วนคิดถึงความรู้สึกของหลี่เฟิ่งเซียน

แต่อย่างไรท่านย่าก็ไม่อาจรักและเอ็นดูลูกเขยจนๆคนนี้ได้ ทั้งยังเป็นพวกคนไม่มีการศึกษาจากชายแดนไกล ถึงจะรักและเอ็นดูหลานสาวคนนี้มากแต่ท่านย่าก็ไม่อยากให้นางต้องทนทุกข์เพราะสามีดูแลนางไม่ได้

ชายอ่อนแอเช่นลู่มู่เฉินจะดูแลหลานสาวของนางได้อย่างไร ที่นี่คือจวนแม่ทัพ ต้องการคนที่แข็งแกร่ง เป็นชายชาตรีที่สามารถแบกความหวังของทั้งตระกูลไว้ได้ เสียดายก็เพียงแต่

ตลอดเวลาที่ผ่านมาหลี่เฟิ่งเซียนไม่เคยชมชอบชายชาตรี นางวิ่งไล่ตามเกี้ยวแต่บุรุษรูปงามเอวอ้อนแอ้น ท่านย่าทำใจอยู่นานกว่าจะยอมรับได้ว่าจวนแม่ทัพหลี่อาจจะต้องรับเขยเป็นบุรุษงดงาม

แต่สุดท้ายหลานสาวตัวดีกลับพาคนอัปลักษณ์ผู้หนึ่งเข้าจวน ทั้งยังมือพิการใช้การไม่ได้ แม่ทัพหลี่ลูกชายของนางก็ไม่คัดค้าน ยังเห็นดีเห็นงามให้หลี่เฟิ่งเซียนแต่ง 

ดูรูปร่างลู่มู่เฉินคนอัปลักษณ์นั่นสิ ทั้งผอมทั้งไร้เรี่ยวแรง ยามนี้มีแต่หลี่เฟิ่งเซียนที่จะเป็นฝ่ายดูแลเขา ต่อไปนางยังต้องแบกตระกูลหลี่เอาไว้บนบ่าคนเดียวอีก ดูอย่างไรลู่มู่เฉินก็ไม่เหมาะเป็นเขยตระกูลแม่ทัพสักนิด

วันนี้ก็ทำให้หลานสาวคนเดียวของนางโทษนางว่าเป็นคนแก่ร้อยเล่ห์อีก นี่มันจงใจทำให้หลานย่าแตกคอกันเพื่อแย่งตำแหน่งชัดๆ สุดท้ายท่านย่าจึงปล่อยให้หลานรักคุกเข่าอยู่หน้าจวนไปสองชั่วยาม

เมื่อลู่มู่เฉินกลับมาถึงจวน เขารับรู้ข่าวจากสาวใช้คนใหม่อย่างหยวนหยวนว่าหลี่เฟิ่งเซียนยังคงคุกเข่าอยู่ เขารีบเดินตรงไปทางเรือนพักของท่านย่า เห็นหลี่เฟิ่งเซียนยังคงคุกเข่าอยู่จริง ลู่มู่เฉินเป็นห่วงนางมาก เหตุใดนางถึงก่อเรื่องได้ไม่เว้นวัน เมื่อวานก็ทำคนเกือบตายสองคน วันนี้ก็ทำให้ฮูหยินผู้เฒ่าโมโห ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้ ภรรยาของเขาจะก่อเรื่องใดอีก

เขาสาวเท้าเร็วๆไปดึงนางให้ลุกขึ้นมา นางเห็นเขาก็รู้สึกขอบตาร้อนผ่าว ถึงนางจะโกรธเขามากที่ขึ้นรถม้าไปกับสาวน้อยชุดขาว แต่เมื่อนางเห็นหน้าของเขา นางอยากบีบน้ำตาอ้อนเขาสักครั้ง

ยังดีที่หลี่เฟิ่งเซียนยังนึกได้ว่า หากนางร้องไห้ไปอีกคนผู้ใดจะเป็นคนแบกความโกรธเคืองของท่านย่าเอาไว้ สามีของนางไม่มีทางทำให้ท่านย่ายอมโอนอ่อน นางรู้จักท่านย่าของนางดี หลี่เฟิ่งเซียนจึงกลั้นหยดน้ำตาเอาไว้

ลู่มู่เฉินคุกเข่าลงไปแทนภรรยา

"นายหญิงผู้เฒ่า ข้าน้อยลู่มู่เฉินขอคารวะ ได้โปรดลงโทษข้าแทนเถิดไม่ว่านางจะทำผิดอันใดก็ตาม คุณหนูใหญ่เป็นสตรีบอบบางไม่อาจทนรับการทำโทษที่ทารุณเช่นนี้ได้ ขอให้ฮูหยินผู้เฒ่าโปรดพิจารณา" ลู่มู่เฉินกล่าวขอร้องแทนหลี่เฟิ่งเซียนที่ยืนมองตาเขาปริบๆ

ท่านย่ารู้สึกหงุดหงิด

“เฮอะ ข้าแก่อายุปูนนี้ ยังไม่เคยถูกผู้ใดบีบบังคับ พวกเจ้าสองสามีภรรยาอยากให้ข้าให้อภัย ข้าก็ต้องให้หรือ!” ท่านย่าด่าออกมาจากในเรือน

 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 55 เข้าหอครั้งละสามสี่คน

    “ข้าเป็นผู้ชายเหตุใดจะมองไม่ออกว่าเขาหวั่นไหวกับท่านแทบแย่ แต่พยายามเก็บอาการ ข้าไม่รู้ว่าท่านกับเขาผิดใจอันใดกัน แต่ลองพูดคุยกับเขาตรงๆ เขาย่อมต้องเข้าใจท่านอยู่แล้ว” จ้าวเหลียงให้คำแนะนำหลี่เฟิ่งเซียนหัวใจระส่ำไม่เป็นจังหวะ นางทำเรื่องเลวร้ายไปมากมายเช่นนั้น ยังจะมีเรื่องเข้าใจผิดอันใดอีก แต่หากเป็นดั่งที่จ้าวเหลียงพูดจริง นางควรทำเช่นไรดี อยากลองพูดคุยจริงจังกับเขาสักครั้ง แต่ก็กลัวว่าหากเขาตอบว่าชื่นชอบหญิงในชุดขาวผู้นั้น นางควรทำอย่างไร แต่หากเขาชอบนางอย่างที่จ้าวเหลียงพูดจริงๆ และนางปล่อยไปเช่นนี้ ดีแล้วแน่หรือ“ข้าต้องไปก่อนนะ” พูดแล้วหลี่เฟิ่งเซียนก็เดินออกจากห้องพักของจ้าวเหลียงทันที อยากรีบไปหาสามีของตัวเองเพื่อพูดคุยให้รู้เรื่องนางไปรอเขาที่หน้าประตูจวน เพียงไม่นานก็เห็นรถม้ากำลังใกล้เข้ามา นางรอจนกระทั่งรถม้าจอด เขาเปิดประตูออกมา นางคล้ายว่าไม่ได้เห็นเขามาหลายวันมาก คิดถึงเขาจนอยากวิ่งเข้าไปกอด แต่นางไม่กล้าหลี่เฟิ่งเซียนพบว่าเขากำลังมองมาที่นางเช่นกัน คล้ายว่าเขาจะขมวดคิ้วและทำหน้าโกรธ จู่ๆ นางก็กลัวที่จะเข้าไปหาเขา จึงเลือกที่จะหนีออกมาอย่างรวดเร็วลู่มู่เฉินรู้สึกเจ็

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 54 เมา

    หลี่เฟิ่งเซียนเดินออกไปจากห้องนานแล้ว แต่เขายังคงนั่งมองมือซ้ายของเขา เขาเริ่มรู้สึกเสียใจที่วันนั้นตัดสินใจหักมือข้างนั้น คิดอีกที หากเขาไม่ทำเช่นนั้นคงไม่สามารถรอดมามีความสุขเช่นนี้ได้ แต่ความสุขเช่นนี้ดีแน่แล้วหรือ เขาคิดกลับไปกลับมาอยู่เช่นนั้นทั้งคืน บ่าวชายที่มาช่วยเขาเช็ดตัว เขาก็จำหน้าไม่ได้หลังจากเรื่องวันนั้น หลี่เฟิ่งเซียนก็หลบหน้าเขา แต่มีหยวนหยวนส่งน้ำแกงปลาและน้ำแกงไก่มาให้เขาทุกเช้า เขาเองแม้จะเริ่มคิดถึงนางมากแต่ไม่กล้าไปหานางที่ห้อง เพราะความอับอายที่ลูกผู้ชายคนหนึ่งต้องถูกจู่โจมอย่างสิ้นท่า ไร้การต่อต้านแม้นางจะพูดว่านางเป็นคนผิด แต่เขารู้ดีว่าไม่ใช่ หากวันนั้นเขาไม่ยินยอมจริงๆ นางตัวเล็กเพียงนั้นจะถึงขั้นขืนใจเขาได้หรือ เขาประเมินความต้องการของเขาผิดไป ไม่นึกว่าจะต้องการนางมากถึงขั้นขาดสติ ปล่อยให้เรื่องราวเช่นนั้นเกิดขึ้นต่อมาลู่มู่เฉินยังได้ยินพ่อบ้านพูดว่านายหญิงผู้เฒ่าร้อนใจจนทำอะไรไม่ถูก เพราะจู่ๆ หลี่เฟิ่งเซียนก็กลับไปเที่ยวหอเข่อซินอีกแล้ว ท่านพ่อบ้านขอให้เขาช่วยพูดกับคุณหนูใหญ่ว่าไม่ควรไปเที่ยวสถานที่เช่นนั้นอีกเพราะนางแต่งงานแล้วแต่เมื่อเขาเดินไปถึงหน้า

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 53 ตื่นตะลึง (NC)

    หลี่เฟิ่งเซียนหันไปมองแท่งหยกที่นางกำไม่มิดนั้น กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น ตัดสินใจยกก้นขึ้นและจับท่อนหยกร้อนของเขาถูไปมา ยามนี้ผลท้อของนางเต็มไปด้วยน้ำแห่งความสุขแล้ว‘เพียงลูบคลำเจ้านี่ ข้าก็สามารถหลั่งน้ำแห่งความสุขได้แล้วหรือ’ นางสงสัย จำได้อาหงบอกว่าเช่นนี้นางจะเจ็บน้อยลงลู่มู่เฉินรู้ทันทีว่านางคิดจะทำอะไร ถึงเขาจะอยากให้นางทำ และต้องการมากเพียงใด แต่มโนสำนึกของเขาและความตั้งใจของเขายังคงทำให้เขามีแรงจะดึงสติกลับมาได้“อย่า อย่าทำเช่นนี้” เขาขอร้องอย่างร้อนรน“เจ้าไม่อยากเสียใจภายหลังหรอกนะ เชื่อข้าเถิด เฟิ่งเอ๋อร์” เขาอ้อนวอนนาง แต่หลี่เฟิ่งเซียนใช้มือข้างหนึ่งยันเขาไว้ บังคับไม่ให้เขาลุกขึ้นหนีไปไหน มืออีกข้างของนางก็จับแท่งหยกร้อนนั่นถูไปมาที่ร่องกลีบดอกไม้ของนาง ก่อนที่นางจะออกแรงดันตัวเองลงไป หลี่เฟิ่งเซียนรู้สึกได้ถึงความดุดันของท่อนหยางร้อนลวกของเขาที่กำลังดุนดันเข้าไปในร่องกลีบดอกท้อ“พอแล้ว ขอร้อง อย่าทำเช่นนี้ อย่า” เสียงต่ำแหบพร่าของเขาขอร้องให้นางหยุด ในขณะที่อีกใจหนึ่งของเขากำลังรอให้นางดันตัวลงมากอดรัดเอ็นอุ่นนั้นไว้ เพียงแค่นางถูไถโลมเล้าเคล้าคลึงไปมา ความนุ่มลื่

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 52 ข้าจะเบามือ (NC)

    เขาพลิกตัวอยากจะกระโดดหนีลงไปด้านล่าง แต่เพียงแค่เขาเอียงตัวนางก็ใช้เท้าเล็กๆของนางเหยียบลงมาที่ไหล่ของเขา ดันให้เขาพลิกตัวประชันหน้ากับนางตรงๆ เขาอยากมีแรงมากกว่านี้เพื่อดันเท้านั้นให้หลุด น่าเสียดายที่วันนี้เขาอ่อนแอมากกว่าทุกที เขายังได้รับบาดเจ็บจากการทดลองยาอยู่ และภาพภรรยาตัวเปลือยเปล่า งดงามจนเขาตกตะลึง ลืมว่าต้องหนีสองมือถูกมัดไว้พ่ายหลัง ยิ่งดันให้ช่วงสะโพกแอ่นขึ้น ท่อนหยกร้อนของเขาชูชันแสดงตัวอย่างกับต้องการบอกให้นางรู้ว่าเขารู้สึกอย่างไร มันชูชันสูงใหญ่ดั่งเสาค้ำสวรรค์ก็ไม่ปาน หลี่เฟิ่งเซียนตาโต จ้องมองหัวใจสั่นไหว ลู่มู่เฉินงอขาและพยายามหนีบเจ้านั่นเอาไว้ แต่ยามนี้มันขยายใหญ่จนปิดไม่มิด ภาพที่นางอ้าขาเหยียบไหล่เขาเอาไว้ แม้งดงามจนเขาถอนสายตาไม่ได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาในฐานะบุรุษผู้หนึ่ง อย่างไรเขาก็ไม่อาจรับตัวเองได้ เขาอ้าปากเพื่อหายใจ หลับตาแน่นเพื่อลดทอนความอับอายในใจหลี่เฟิ่งเซียนมองดูเจ้าสิ่งนั้นแล้วตกใจไม่น้อย ในใจนางนึกถึงตอนเขาป่วยและนางเช็ดตัวให้เขา มันยังเล็กมากเท่านิ้วเท้าหัวแม่โป้ง แต่ยามนี้มันชูชันจนแทบจะใหญ่เท่าข้อมือของนาง! หลี่เฟิ่งเซียนเริ่มหายใจไม

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 51 จู่โจมร้อยแผน (NC)

    แต่ครั้งเข้าไปในห้องของตัวเองและเห็นพวกรูปต่างๆ ที่อาหงวาดขึ้นเพื่อการเรียนรู้เหล่านั้น ในใจนางเกิดความรู้สึกหึงหวงอย่างบอกไม่ถูก ไม่ใช่ว่าเขาไม่ยอมเข้าหอกับนาง เพราะหญิงแพศยานั่น!!...พวกเขาไปถึงไหนกันแล้ว!! มิน่าเขาถึงได้เชี่ยวชาญมาก เพียงจูบก็ทำให้นางสามารถหลั่งน้ำแห่งความสุขได้ เขาอาจจะเคยทำกับผู้อื่นมาก่อน เขาถึงทำเช่นนั้นได้อย่างเชี่ยวชาญ นางยอมไม่ได้ นางต้องรีบรวบหัวรวบหางเขา!! ทนรอให้เขายินยอมด้วยตัวเองไม่ได้แล้ว!!หลี่เฟิ่งเซียนวิ่งไปถึงหน้าห้องของเขา เห็นว่าด้านในยังมีแสงไฟอยู่ นางผลักประตูเข้าไปไม่บอกกล่าวไม่เคาะประตู“เจ้า เจ้าเข้ามาได้อย่างไร” ลู่มู่เฉินเพิ่งอาบน้ำเสร็จ เขากำลังใส่เสื้อผ้า นางก็ผลีผลามเข้ามา เขาตกใจ รีบร้อนใส่เสื้อให้เรียบร้อย แต่เชือกผูกเอวอยู่บนโต๊ะ เขายืนอยู่ใกล้เตียงนอน จึงทำได้เพียงใช้มือจับสาบเสื้อคลุมตัวยาวเอาไว้หลี่เฟิ่งเซียนเห็นว่าเขายังแต่งตัวไม่เรียบร้อย แผนในใจของนางผุดขึ้นมาเป็นร้อยแผน คำพูดของอาหงดังก้องอยู่ในหู‘หากเจ้าทำให้เขาภูมิใจมากพอ เขาจะเอ็นดูเจ้ามากขึ้น’นางหันไปปิดประตูลงกลอน ยังเดินไปปิดหน้าต่างที่เขาแง้มเอาไว้รับลมด้วย“เจ้า เจ้า

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 50 ภรรยาผู้อื่นยืนอยู่ตรงนี้

    เรื่องราวในคืนนั้น ความหอมหวานที่เขากอดกกนาง รสจูบ ความนุ่มนิ่มนุ่มนวล ทุกอย่างทำให้เขาไม่กล้าเดินไปที่เตียงนั่น แม้บนเตียงนั้นจะเปลี่ยนผ้าปูผ้าห่มใหม่ทั้งหมดแล้วก็ตาม เขายังคงรู้สึกว่ากลิ่นหอมหวานจากตัวนางยังคงติดอยู่ที่จมูก'ตัวเจ้าหอมมาก' คำพูดของหลี่เฟิ่งเซียนลอยมา นางเคยพูดชมเขาเช่นนั้นหลายครั้งแล้ว เขาไม่แน่ใจว่านางได้กลิ่นอันใดทั้งที่บนตัวเขามีแต่กลิ่นยา เขาเองก็อยากจะบอกกับนางว่า 'ตัวเจ้าหอมน่ากินมาก' เพราะบนตัวของนางมีกลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายดอกไม้ผสมกลิ่นบางอย่างคล้ายหนิวหน่าย[1] ต้มผสมน้ำผึ้ง เป็นอาหารของชาวอิ่นตู้ที่เขาเคยได้ลิ้มลองเมื่อครั้งยังท่องเที่ยวไปทั่ว มันอร่อยและหอมติดจมูก ดังนั้นเมื่อเขาได้กลิ่นนี้จากตัวนาง เขาจึงรู้สึกน้ำลายสอ อยากจะกลืนกินครั้งแล้วครั้งเล่า เสียดายก็แต่เขาพูดออกไปเช่นนั้นไม่ได้ ในที่สุดลู่มู่เฉินก็ดึงผ้าห่มจากเตียงและลงไปนอนบนพื้นแทน เขาไม่รังเกียจที่จะนอนบนพื้นเพราะเขาเคยนอนในที่ที่ลำบากมากกว่านี้ พื้นแข็งๆที่ทำจากไม้ขัดมันอย่างดี ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการนอนหลับของเขาลู่มู่เฉินนอนหลับด้วยความยากเย็นเพราะมัวแต่คิดถึงนาง ในขณะที่หลี่เฟิ่งเซียนแทบ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status