รามัญขับรถไปส่งริณเรณูและเพื่อนของเธอที่หน้าสวนสนุกแห่งหนึ่งชายหนุ่มรอจนกระทั่งรถบัสคันใหญ่ที่พานักเรียนมาทัศนศึกษาเคลื่อนที่ออกไปจากบริเวณหน้าสวนสนุกเขาก็ขับรถกลับมายังคอนโดมิเนียมของตนเอง
ชายหนุ่มอาศัยอยู่คอนโดมิเนียมแห่งนี้ตามลำพังตั้งแต่เรียนจบเขาไม่มีครอบครัวที่ไหนเพราะเป็นเด็กกำพร้าที่ได้ทุนจากครอบครัวของคุณหญิงมณฑาส่งให้เรียนจนจบระดับปริญญาตรี จากนั้นชายหนุ่มก็ร่วมหุ้นกับเพื่อนเปิดบริษัทรับเหมาก่อสร้างเล็กๆ โดยมีรุ่นพี่ที่คอยให้คำแนะนำอยู่หลายคน
หนึ่งในนั้นก็คือคุณนครินทร์ซึ่งถ้าว่ากันตามจริงแล้วคุณนครินทร์ก็เปรียบผู้มีพระคุณอีกคนหนึ่งของเขาเพราะนอกจากจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการทำงานแล้วภรรยาของคุณนครินทร์ก็คือลูกสาวของคุณมณฑาผู้ที่ให้ทันเขาจนเรียนจบ
เรื่องที่ได้ยินมาวันนี้ทำให้รามัญคิดหนักเพราะชายหนุ่มรู้ดีว่าคุณศิตาภรรยาของคุณนครินทร์นั้นมีนิสัยยังไง คุณศิตาเธอไม่ชอบให้ผู้หญิงคนไหนอยู่ใกล้สามีของเธอ ถึงแม้ตอนนี้คุณนครินทร์จะอายุมากแล้วแต่ความหึงห่วงของคุณศิตาก็ไม่เคยลดน้อยลงเลย และถ้าหากเธอรู้ว่าคุณนครินทร์มีลูกสาวอยู่อีกคนหนึ่งก็คงจะเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ
แต่เรื่องนี้รามัญก็จะนิ่งนอนใจไม่ได้ถ้าหากเรื่องที่เด็กสาวชื่อริณเรณูเล่ามาเป็นความจริงทั้งหมดมันก็น่าเห็นใจอยู่มากๆ เขาไม่รู้หรอกว่าในอดีตคุณนครินทร์เคยแต่งงานกับมารดาของเธอก่อนที่จะมาแต่งงานกับคุณศิตาหรือเปล่า แต่ถ้าดูจากภาพถ่ายก็มีความเป็นไปได้สูง ชายหนุ่มคิดว่าต้องรีบไปคุยกับคุณนครินทร์ให้เร็วที่สุดก่อนที่มันจะสายเกินไปเพราะริณเรณูบอกกับเขาแล้วว่ามารดาของเธออาจจะอยู่บนโลกนี้ได้อีกไม่นาน
รามัญสลัดความคิดเรื่องริณเรณูออกไปจากหัวไม่ได้เลย เขาอยากจะโทรศัพท์หาคุณนครินทร์ตอนนี้แต่เมื่อดูเวลาแล้วก็เปลี่ยนใจเพราะตอนนี้คุณนครินทร์น่าจะกำลังกลับบ้านหรือไม่ก็อาจจะกำลังอยู่กับคุณสิตา
เขาจึงคิดว่าพรุ่งนี้จะโทรศัพท์ไปนัดคุณนครินทร์และขอเข้าไปพบเป็นการส่วนตัวทำทีว่าจะปรึกษาเรื่องบริษัทเมื่อคิดได้ดังนั้นเขาก็เปลี่ยนเสื้อผ้าและไปออกกำลังกายก่อนจะกลับขึ้นมาบนห้องและ อาบน้ำแต่งตัวออกไป นั่งดื่มคนเดียวที่ผับแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากคอนโดมากนัก
ขณะนั่งดื่มก็รู้สึกว่าตอนนี้โทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อมันสั่นพอหยิบออกมาดูแล้วก็อดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นว่ามีคนส่งข้อความมาทางไลน์และเธอก็คือเด็กสาวที่เพิ่งเจอกันเมื่อตอนบ่าย
“อาคะตอนนี้หนูถึงพิษณุโลกแล้วค่ะ อีกไม่เกินห้าชั่วโมงก็จะถึงจังหวัดน่านค่ะ แต่ที่หนูไลน์มาบอกอาตอนนี้ก็เพราะกว่าหนูจะกลับถึงโรงเรียนก็คงดึกมากๆ หนูไม่อยากรบกวนคุณอาดึกขนาดนั้น หนูหวังว่าอาจจะไม่ลืมเรื่องที่คุยกับหนูนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ”
จบจากข้อความก็มีสติกเกอร์รูปขอบคุณเด้งเข้ามาชายหนุ่มเห็นแล้วก็รู้สึกกดดันอยู่ไม่น้อย เขาไม่รู้เลยว่าถ้าไปคุยเรื่องเธอกับคุณนครินทร์แล้วผลมันจะออกมาเป็นยังไง แต่ก็คิดว่าตัวเองจะต้องพูดโน้มน้าวจิตใจให้คุณนครินทร์ไปเยี่ยมมารดาของริณเรณูให้ได้
แต่ก่อนอื่นก็คงต้องทำให้คุณนครินทร์เชื่อก่อนว่าเธอคือลูกสาวซึ่งเขาเองก็ไม่รู้เลยว่ารูปถ่ายที่เด็กสาวเอามาให้นั้นมันเป็นรูปจริงๆ หรือเป็นหลักฐานที่เธอทำขึ้นมา แต่ดูจากรูปถ่ายซึ่งเหมือนเก่ามากๆ แล้วก็เชื่อไปแล้วมากกว่าห้าสิบเปอร์เซ็นต์ แต่สิ่งที่มันยังคาใจก็คืออายุของเธอกับอายุของลูกสาวคนโตคุณนครินทร์มันเท่ากัน
ตอนนี้รามัญลังเลว่าจะตอบข้อความของเธอดีหรือเปล่า แต่เมื่อนึกถึงแววตาใสซื่อบนเศร้าของเธอชายหนุ่มก็ใจไม่แข็งพอ
“ปกติอาก็นอนดึกอยู่แล้ว ถ้าถึงโรงเรียนก็ไลน์มาบอกอาด้วย อาคงยังไม่นอนหรอก”
“ได้ค่ะถ้าหนูถึงแล้วจะไลน์มาบอก”
“เหลือเวลาอีกหลายชั่วโมงหนูไม่ควรเอาเวลาพักผ่อนมาเล่นโทรศัพท์นะ”
“ตอนนี้รถจอดให้เข้าห้องน้ำค่ะ หนูก็เลยตื่นแล้วไลน์มาบอกอาก่อนแต่ถ้าขึ้นรถหนูก็คงจะหลับต่อ”
“แล้วอาทำอะไรอยู่คะ ดึกแบบนี้ทำไมยังไม่นอนอีก หนูขอโทษที่ถามเพราะหนูไม่รู้ว่าคนกรุงเทพฯ เขานอนดึกกันมากแค่ไหน”
“อาออกมากินเหล้าน่ะ”
“หนูขอโทษค่ะ หนูไม่รู้ถ้างั้นหนูไม่กวนอาแล้วนะคะ บ๊ายบายค่ะ ถ้าถึงโรงเรียนแล้วหนูจะไลน์มาบอกอีกที”
ชายหนุ่มนั่งจ้องโทรศัพท์มือถือนานเกือบห้านาทีเมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่ได้ไลน์อะไรมาอีกเขาก็วางโทรศัพท์ลง
ปกติแล้วเวลาออกมานั่งดื่มแบบนี้รามัญมักเรียกเด็กสักคนให้มานั่งด้วยจากนั้นก็ออกไปต่อกันข้างนอกจ่ายเงินให้เธอแล้วเรื่องทุกอย่างก็จบไปในเวลาคืนเดียว
รามัญเป็นชายหนุ่มโสดที่ไม่เคยคิดอยากจะมีครอบครัว เขาไม่เคยคบผู้หญิงคนใหม่อย่างจริงจังเพราะคิดแล้วว่าตนเองจะไม่มีครอบครัวเนื่องจากเป็นเด็กกำพร้ามาก่อนจึงไม่ค่อยเห็นความสำคัญของครอบครัวเท่าไหร่
ชายหนุ่มนึกภาพตัวเองมีครอบครัวไม่ออกเลย ผู้หญิงที่เขาคบด้วยส่วนใหญ่ก็จะรู้ข้อนี้ดีว่าเป็นได้แค่คู่นอนของเขา แต่รามัญก็ไม่เคยคบใครนานเพราะเป็นคนเบื่อง่าย
เขามองว่าการนอนกับผู้หญิงมันก็เป็นการหาความสุขให้ตัวเองอีกแบบเป็นความสุขทางกายซึ่งไม่เคยรู้สึกผูกพันหรืออยากจะจริงจังกับใครเลยไม่ว่าผู้หญิงคนนั้นจะสวยหรือแสนดีกับเขามากแค่ไหนก็ตาม
รามัญนั่งดื่มจนกระทั่งถึงเวลาตีหนึ่งก็ขับรถกลับมายังคอนโดมิเนียมเขาอาบน้ำสระผมอีกครั้งก่อนจะมานั่งจ้องโทรศัพท์ทั้งที่ตอนนี้รู้สึกง่วงมากแต่อีกใจหนึ่งก็อยากจะรอให้ริณเรณูไลน์มาบอกก่อน เขารู้สึกเป็นห่วงเด็กสาวเป็นอย่างมากเพราะตอนนี้เธอมีมารดาแต่มารดาของเธอก็ป่วยมันก็ไม่ต่างอะไรกับการอยู่ตัวคนเดียวเลย
จากการที่ได้พูดคุยรามัญก็พอจะรู้ว่ามารดาของเธอเลี้ยงดูเธอมาอย่างดีและก็รู้สึกชื่นชมที่มารดาของเธอไม่ได้สอนให้เธอโกรธ เกลียดบิดาของตนเองทั้งที่ถูกทิ้งไป
ระยะเวลาที่คบกันนานถึงสามปีทำให้ริณเรณูและรามัญเรียนรู้กันมากขึ้นครอบครัวของหญิงสาวยอมรับชายหนุ่มเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครัวด้วยความเต็มใจแล้ววันที่ทุกคนรอคอยก็มาถึงงานแต่งงานของทั้งสองถูกจัดขึ้นที่บ้านของคุณย่านารีโดยช่วงเช้าเป็นพิธีตักบาตรและพิธีหมั้นส่วนตอนเย็นก็มีการฉลองมงคลสมรสที่โรงแรมหรูเมื่อพิธีการและงานเลี้ยงจบลงตอนนี้คู่บ่าวก็อยู่กันตามลำพังในห้องของโรงแรม“วันนี้หนูริณของอาสวยที่สุดเลยนะครับ” รามัญมองเจ้าสาวที่สวมชุดแต่งงานสีขาวด้วยความภูมิใจ“แล้ววันอื่นหนูไม่สวยเหรอคะอาราม” หญิงสาวพูดแล้วคล้องแขนไปบนลำคอของเขาแล้วส่งสายตาอ้อนเหมือนที่ชอบทำเป็นประจำ“หนูริณของอาสวยทุกวันนั่นแหละแต่ที่อาบอกว่าวันนี้สวยที่สุดก็คงจะเป็นชุดเจ้าสาวที่หนูใส่อยู่”“อารามของหนูก็หล่อที่สุดเหมือนกันค่ะ ยิ่งใส่ชุดเจ้าบ่าวแบบนี้ก็หล่อมาก เพื่อนของหนูชมกันใหญ่เลยว่าอารามหล่อ”“แล้วพวกเขาว่าอะไรไหมที่หนูริณแต่งงานกับคนอายุมากกว่าแบบอา”“ไม่เลยพวกเขาดูไม่ออกด้วยซ้ำว่าอารามอายุเท่าไหร่อารามของหนูดูเป็นวัยรุ่นอยู่เลยค่ะ”“หนูริณช่างพูดแบบนี้มันทำให้หัวใจคนแก่อย่างอาเต้นแรงทุกครั้งเวลาอยู่ใกล้หนูเล่นเลยนะ
“เจ็บแผลมากไหมคะคุณย่า” ริณเรณูถามคุณย่านารีหลังจากที่ทุกคนออกไปจากห้องพักผู้ป่วยแล้ว“ตอนนี้ไม่เจ็บเท่าไหร่จ้ะ น่าจะเป็นเพราะฤทธิ์ยาชา”“ถ้าคุณย่าเจ็บแผลหรือปวดแผลต้องรีบบอกหนูนะคะหนูจะได้กดออดเรียกพยาบาลให้เข้ามาดู”“จ้ะลูก หนูริณเพิ่งกลับจากคอนโดยังไม่ได้เอาของเก็บก็ต้องมานอนเฝ้าย่าที่โรงพยาบาลแล้ว เหนื่อยไหมลูก”“ไม่เหนื่อยเลยค่ะ หนูเต็มใจจะอยู่เฝ้าคุณย่า คุณย่าคะเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้มันเป็นความจริงใช่ไหม”“ใช่จ้ะมันเป็นความจริงทั้งหมดที่ย่าก็เพิ่งรู้มาได้ไม่นาน หนูโกรธไหมที่คุณศิตาเขาทำแบบนั้นจนทำให้หนูกลายเป็นเด็กกำพร้าพ่อ”“หนูยอมรับนะคะว่าโกรธมากเลยค่ะแต่หนูก็คิดว่ามันกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วล่ะค่ะคุณย่า ถึงแต่ก่อนหนูกับแม่จะถูกทอดทิ้งเพราะความเข้าใจผิดแต่ตอนนี้แต่ตอนที่หนูไม่เหลือใครคุณพ่อกับคุณย่าก็รับหนูมาอยู่ด้วยมันทำให้ หนูรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากอย่างน้อยก็ยังมีครอบครัวหนู”“เป็นคนจิตใจดีมากเลยนะลูกย่าก็นึกเสียดายถ้าหากแม่ของหนูได้มาเป็นสะใภ้คงย่ามันคงดีมากๆ”“หนูคิดว่าตอนนี้แม่กำลังมองดูอยู่ข้างบนและคงมีความสุขมากที่รู้ว่าเรื่องทุกอย่างในอดีตมันเกิดจากความการเข้าใจผิด
คุณย่านารีนั่งพิงหัวเตียงอยู่ในห้องพักวีไอพีของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งบนศีรษะมีผ้าพันแผลสีขาวขนาดเกือบสามนิ้วติดอยู่ขณะที่รอบเตียงรายล้อมไปด้วยลูกหลานครบทุกคนสีหน้าของผู้สูงไว้ดูเครียดถึงแม้คุณหมอจะแจ้งว่าศีรษะมีเพียงแค่บาดแผลและไม่ได้มีอาการอะไรอื่นแต่ความเครียดของเธอก็ไม่ได้ลดน้อยลงเลยเพราะตอนนี้เธอกำลังเป็นกังวลและเป็นห่วงหลานสาวที่เพิ่งรับมาอยู่ด้วยเพียงหนึ่งปีอย่างริณเรณูเป็นอย่างมาก“คุณย่าคะริต้าขอโทษนะคะ ริต้าไม่ได้ตั้งใจทำร้ายคุณย่าเลยแต่คุณย่ามาพูดแบบนั้นกับริต้าเองริต้าก็เลยโมโหและดึงแขนคุณย่าแรงไปหน่อยค่ะ” รวิตายกมือไว้คุณย่านารีแต่ท่าทางของเธอก็เหมือนไม่สำนึกผิดอะไรเลย“ริต้าพ่อว่าหนูไม่ต้องพูดอะไรแล้วนะ ยิ่งพูดมันก็จะยิ่งทำให้ทุกอย่างแย่ลง” คุณนครินทร์ดุลูกสาวหญิงสาวหันมามองผู้เป็นบิดาด้วยสีหน้าไม่พอใจเพราะน้อยครั้งมากที่เธอจะถูกบิดาดุและครั้งนี้ก็ไม่ใช่เป็นการดุตามลำพังแต่เธอถูกดุต่อหน้าทุกคนในครอบครัว“ก็มันจริงนี่คะคุณพ่อ จู่ๆ คุณย่าก็มาพูดเรื่องอะไรก็ไม่รู้ ริต้าจะไม่ใช่ลูกของคุณพ่อจะไม่ใช่หลานของคุณย่าได้ยังไง คุณย่าคงจะหลงยัยริณมากเกินไปจนมองไม่เห็นหัวริต้าแล้วล่
“นั่นสิคะคุณแม่ให้ริต้าเขาไปอยู่ใกล้ๆ มหาวิทยาลัยไหมจะได้ไม่เหนื่อยกับการเดินทางมาก” ศิตาพูดเสริมให้กับลูกสาว“แต่คอนโดแถวนั้นราคาสูงมากเลยนะ ย่าว่ามันจะสิ้นเปลืองไปเปล่าๆ อีกอย่างมหาวิทยาลัยของหนูกับที่บ้านก็ไม่ได้ไกลกันมากขนาดนั้น ถ้าเหนื่อยกับการขับรถจริงๆ ให้ลุงสนั่นคอยขับรับส่งไหม”“ไม่ค่ะคุณย่าริต้าอยากได้คอนโดริต้าไปดูมาแล้วราคาแค่เก้าล้านเองนะคะ”“ตั้งเก้าล้านย่าว่ามันแพงไปและมันไม่จำเป็นเลยนะริต้า หนูขับรถจากบ้านไปถึงมหาวิทยาลัยไม่ถึงยี่สิบนาทีเองนะ”“ไม่แพงหรอกค่ะคุณย่าซื้อให้หนูนะคะ หนูสัญญาเลยว่าจะตั้งใจเรียน” รวิตาอยากออกไปอยู่คอนโดเพราะอยากใช้ชีวิตอย่างอิสระและไม่ต้องรีบกลับบ้านเหมือนกันที่ผ่านมา“คุณย่าครับผมว่าต่อให้คุณย่าซื้อคอนโดราคายี่สิบล้านให้พี่ริต้า พี่เขาก็คงเรียนดีไม่ได้ครึ่งของพี่ริณหรอกครับ” มาวินพูดแทงใจดำของพี่สาวยังจังเขารู้ว่าที่ริต้าอยากย้ายไปอยู่คอนโดเพราะเธออยากจะออกไปเที่ยวกับเพื่อนมากกว่า“นี่นายมาวินนายได้ไปเรียนต่างประเทศใช้เงินตั้งมากและได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระพี่ขอแค่คอนโดแค่นี้นายจะมาขัดทำไม” รวิตามองน้องชายด้วยสายตาขุ่นเคือง“ก็ผมสงสารคุณย่านี่คร
ความรู้สึกที่ตื่นมาในตอนเช้าแล้วมีคนนอนอยู่ข้างๆ มันเป็นความรู้สึกที่ริณเรณูโหยหามาตลอดหลายปี แต่ก่อนเธอกับมารดาก็นอนด้วยกันแบบนี้ จนกระทั่งมารดาป่วยและเข้าไปนอนในพยาบาล จากนั้นหญิงสาวก็นอนคนเดียวมาตลอดและพอวันนี้ได้ตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของรามัญก็ทำให้เธอรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ริณเรณูอยากให้มันเป็นแบบนี้ทุกวันหญิงสาวพกอดเขาแน่นขึ้นแล้วซุกใบหน้ากับแผงอกของชายหนุ่มเหมือนกับลูกแมวน้อยทำให้คนที่ตื่นมานานแล้วยิ้มกับท่าทางของเธอ“ตื่นแล้วเหรอ”“ยังคะ”“คนหลับที่ไหนจะตอบได้” รามัญพูดพลางหัวเราะอย่างอารมณ์ดีเขาไม่เคยนอนกับใครจนถึงเช้าแบบนี้เลยสักครั้ง“ก็หนูยังไม่อยากตื่น เมื่อคืนหนูไม่ได้ฝันไปใช่ไหมคะ”“ให้อาทบทวนให้ไหมว่าใช่ฝันหรือเปล่า”“ไม่ดีกว่าคะ แค่นี้หนูก็ไม่มีแรงลุกไปไหนแล้ว อารามคะอาเสียใจไหมกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน” หญิงสาวถามโดยว่าลืมคิดไปว่าคนที่น่าจะถามคำถามนี้น่าจะเป็นฝ่ายชายมากกว่า“หนูริณลืมอะไรไปหรือเปล่า อาต่างหากที่จะต้องถามเรื่องนี้กับหนู หนูเสียใจหรือเปล่า”“หนูก็บอกอาแล้วนะคะว่าหนูไม่เสียใจเลยค่ะก็หนูรักอา”“อาก็รักหนูนะ แต่เราจะทำเรื่องแบบนี้กันอีกไม่ได้”“ทำไมเหรอค
“หนูริณของอาหัวไวมากจูบเป็นแล้ว”“ดีมั้ยคะอาราม”“ดีที่สุดเลย”“ถ้าอารามอยากให้หนูจูบเก่งอารามต้องสอนหนูนะคะ”หญิงสาวพูดออกไปตามอารมณ์และความรู้สึกเพราะเธออยากให้เขามีเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น“แน่ใจนะหนูริณว่าจะยอมเป็นของอาจริงๆ”รามัญถามหญิงสาวอีกครั้ง แม้รู้ว่าถ้าหากริณเรณูเปลี่ยนใจตนเองจะต้องจะทรมานมากแน่ไหน แต่ก็ไม่อยากจะหักหาญน้ำใจของคนที่ตัวเองรักเหมือนกัน แม้เขาจะไม่เคยบอกเธอว่าเขาเองก็รักเธอแต่คิดว่าหญิงสาวก็น่าจะเข้าใจดีเพราะถ้าหากเขาไม่รักไม่ได้รู้สึกอะไรก็คงไม่ตามดูแลเธอมาตลอดหลายปีแบบนี้“หนูไม่เสียใจค่ะอาราม” หญิงสาวยืนยันอย่างหนักแน่น“อาจะทำให้ครั้งแรกของเรามีแต่ความสุข”เขากระซิบข้างหูก่อนที่ปลายลิ้นร้อนจะลากไล้ไปตามหน้าอกอิ่มดูดดุนยอดถันกระตุ้นอารมณ์ของหญิงสาว รามัญตวัดปลายลิ้นรัวลงบนยอดถันสลับกับดูดเข้าปากจนแก้มตอบ เมื่อเห็นหญิงสาวแอ่นโค้งหน้าอกอิ่มเข้าหาเขาก็เข้าใจว่าเธอต้องการให้ตนเองทำแบบไหนฝ่ามือร้อนบีบขย้ำอย่างหนักหน่วง ปากร้อนก็ลากไล้สลับไปมาทั้งสองข้างจนเปียกชุ่ม มืออีกข้างลากต่ำลงมายังเอวนวดเฟ้นสะโพกกลมกลึง ปลายนิ้วจะไล้เข้าหาเนินเนื้อเบื่องล่างอีกครั้ง“อ๊ะ