แชร์

ตอนที่4 มั่นใจว่า

ผู้เขียน: มี่เยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-24 22:03:54

ไม่นานซิ่นเฉิงก็กลับมา เขารายงานว่าได้ดำเนินการตามที่เจ้านายสั่งเรียบร้อย มู่เลี่ยงหรงได้ยินดังนั้นก็หัวเราะเสียงเย็น นัยน์ตาสีนิลส่องประกายคมกริบ อากัปกิริยาดังกล่าวทำให้เยี่ยนเยว่ฉีเริ่มหนาวๆ ร้อนๆ ขึ้นมา บุรุษผู้นี้มีรังสีอำมหิตรอบกายมากกว่าที่คิดเอาไว้ นางตระหนักแล้วว่าตนคงเคยชินที่เขาทำดีด้วยอยู่เสมอ หากนี่คือปฏิกิริยาของเขาสำหรับเรื่องเล็กๆ แล้วถ้าเป็นเรื่องใหญ่โตกว่านี้เล่า สามีของนางจะแสดงความโหดร้ายได้ถึงเพียงไหนกัน

เมื่อเริ่มเห็นอีกมุมหนึ่งของมู่เลี่ยงหรงชัดถนัดขึ้น เยี่ยนเยว่ฉีจึงยิ่งมั่นใจว่าการเป็นปฏิปักษ์กับฉินอ๋องไม่เป็นการดี นางก็มีแต่ต้องปรนนิบัติเขาให้สำราญใจมากที่สุด เพื่อที่สามีจะได้ไว้ใจและสนับสนุนตระกูลเยี่ยนในวันข้างหน้า

ขณะนั้นนางกำนัลที่เพิ่งย้ายมารับใช้จำนวนสองนางต่างยืนก้มหน้านิ่ง ตัวสั่นเทา ทั้งๆ ที่อากาศก็ไม่ได้หนาว สตรีทั้งสองตระหนักแล้วว่าสองวันมานี้ที่ท่านอ๋องอารมณ์ดีเป็นเพราะเพิ่งแต่งงาน หาได้เปลี่ยนนิสัย เมื่อครู่ก็พิสูจน์แล้วว่าฉินอ๋องผู้เด็ดขาดไม่ได้หายไป เพียงแต่ซุกซ่อนด้านนี้เอาไว้เมื่ออยู่ต่อหน้าหวางเฟยคนงามเท่านั้นเอง

“พวกเจ้าเป็นอะไร ทำไมยืนตัวสั่น ไม่สบายหรือ” ซูจิ้งถามนางกำนัลทั้งสองเบาๆ ด้วยความเป็นห่วง

“นี่พี่ซูจิ้งไม่รู้สึกอะไรจริงๆ หรือ” นางกำนัลนามเจียวมี่มี่กระซิบตอบ ในใจคิดว่าสาวใช้คนสนิทของหวางเฟยนั้นซื่อบื้อ ความรู้สึกช้าหรือนี่

“ก็ไม่เห็นจะมีอะไรเลย” ซูจิ้งทำหน้าไร้เดียงสา

“จะไม่ให้พวกข้าหวาดกลัวได้อย่างไร ตอนนี้ท่านอ๋องกำลังมีโทสะ ถ้าเป็นเมื่อก่อน...”

“หยุดพูดเหลวไหลเดี๋ยวนี้นะมี่มี่ หรือเจ้าอยากลงไปนอนที่ก้นบ่อปลา” นางกำนัลนามลี่ฮวากล่าวห้าม พร้อมเหลือบมองไปยังท่านอ๋อง พวกนางทั้งสองดูหวาดกลัวจริงๆ “ซูจิ้ง มี่มี่นางยังเด็กจึงพูดเหลวไหล”

ซูจิ้งพยักหน้ารับว่าเข้าใจแล้ว

ความจริงสาวใช้คนสนิทของเยี่ยนเยว่ฉีสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่เปลี่ยนแปลงไปรอบกายฉินอ๋อง เพียงแต่ตนอยู่ใกล้ชิดเยี่ยนจิ้นหลิงมานาน เวลาคุณชายรองคิดแผนร้ายก็มักทำให้บรรยากาศรอบตัวขมุกขมัวขึ้นเช่นนี้เหมือนกัน แต่รังสีเหี้ยมเกรียมของท่านอ๋องแรงกว่าจึงทำให้เขายิ่งดูน่ากลัว อย่างไรเสียซูจิ้งก็รับใช้ผู้ชายที่ชอบออกไปฆ่าฟันผู้อื่นเป็นประจำ อย่างท่านกั๋วกงกับคุณชายใหญ่มาตั้งแต่จำความได้ เหตุใดนางต้องกลัวท่านอ๋องเล่า ตนไม่ใช่คนที่เขาอยากกำจัดทิ้งเสียหน่อย นางกำนัลพวกนี้เป็นบุตรสาวมาจากตระกูลผู้ดีในเมืองหลวงเลยขวัญอ่อนกระมัง

‘เอ๊ะ...แต่ชิงหรูก็ดูเหมือนจะไม่สะทกสะท้านเช่นกัน’

ชิงหรูเห็นซูจิ้งมองมาก็ยิ้มน้อยๆ นางเองก็รู้ว่านายตนสร้างบรรยากาศขมุกขมัวได้เก่งเพียงไร แรกๆ ตอนถูกคัดเลือกมาก็กลัวเช่นกัน แต่พอนานวันเข้าก็เคยชิน นางกำนัลรุ่นพี่ก็ได้แต่หวังว่านางกำนัลใหม่ทั้งสองจะปรับตัวได้ดีเหมือนซูจิ้ง

“ดูเหมือนสองคนนี้จะไม่ใช่คนที่ปรนนิบัติท่านอ๋องอยู่ก่อนแล้ว” ซูจิ้งหันไปคุยกับชิงหรู

“พวกนางเพิ่งถูกย้ายมาประจำที่ตำหนักใหญ่ นางกำนัลข้างห้องก่อนหน้านี้มีอีกสี่นาง รวมข้าด้วยเป็นห้าคน แต่ท่านอ๋องจัดการพวกนางหมดไปแล้ว เหลือข้าเพียงผู้เดียวที่มีคุณสมบัติพอที่จะอยู่ต่อ”

“จัดการ! ท่านอ๋อง...” ซูจิ้งทำตาโต เอานิ้วปาดที่คอเป็นเชิงถาม นี่ท่านอ๋องฆ่านางกำนัลข้างห้องไปถึงสี่คนเลยหรือ

“มิได้ ท่านอ๋องเพียงให้พวกนางกลับบ้านเดิม”

ซูจิ้งเกิดอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา จึงเดินเข้าไปถามชิงหรูใกล้ๆ พลางเหลือบมองฉินอ๋องกับพระชายาอย่างระมัดระวัง “พวกนางทำความผิดอะไรหรือ”

“พวกนางคือสตรีที่ท่านอ๋องเคยใช้อุ่นเตียง” ชิงหรูกระซิบ สายตาเหลือบมองไปทางเจ้านายทั้งสองเช่นกัน “ข้าคงจะเผยความไม่ได้มากกว่านี้แล้ว มิเช่นนั้นเราทั้งคู่อาจจะเดือดร้อนได้”

“ข้าทราบแล้ว” ซูจิ้งรับคำ พลางคิดไปว่าท่านอ๋องช่างใจดำ ถวายตัวแล้วไม่ถูกใจก็ทิ้งขว้างกันแบบนี้เลยหรือ ดังนั้นชาตินี้นางจะไม่ยอมเป็นอนุบ่าวของใครอย่างเด็ดขาด

มู่เลี่ยงหรงเห็นว่าได้เวลาอันสมควรแล้ว จึงหันไปสั่งพ่อบ้านใหญ่ให้เตรียมรถม้า อันที่จริงจิวจื่อรู้งานเป็นอย่างดีจึงตระเตรียมทุกอย่างเอาไว้เรียบร้อย เมื่อผู้เป็นนายต้องการเดินทางก็สามารถออกจากจวนได้ทันที

รถม้าถูกเตรียมเอาไว้สองคัน สำหรับท่านอ๋องกับหวางเฟยคันหนึ่ง ส่วนอีกคันสำหรับบรรทุกสัมภาระ ของขวัญ พร้อมผู้ติดตามรับใช้ มีองครักษ์ประมาณห้าสิบนายดูแลอารักษ์ขาไปตลอดทาง ถือว่าเป็นขบวนส่งเจ้าสาวกลับบ้านที่ใหญ่โตมาก

จากจวนฉินอ๋องไปยังจวนเยี่ยนกั๋วกงต้องใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วยาม เยี่ยนเยว่ฉีจึงเอนกายพิงซบกับไหล่กว้างของสามี เพื่อพักสายตาระหว่างการเดินทาง

“อ้ายเฟย...ตื่นได้แล้ว” มู่เลี่ยงหรงกระซิบปลุกเยี่ยนเยว่ฉีจากนิทรา

“ถึงแล้วหรือ”

“อืม...” มู่เลี่ยงหรงตอบ

เมื่อเห็นว่าชายาของตนตื่นดีแล้ว เขาจึงลุกขึ้นเดินออกไปก่อน พอเท้าแตะพื้น ก็ยื่นมือให้เยี่ยนเยว่ฉีจับเอาไว้ขณะก้าวลงจากรถม้า เขาประคบประหงมนางเป็นอย่างดี หากอุ้มได้ก็คงลงมือทำไปเสียแล้วด้วยซ้ำ

พ่อบ้านใหญ่จวนไคกั๋วกงออกมารอต้อนรับ แม้ว่าช่างลี่จะอายุมากแต่กลับคล่องแคล่วเป็นอย่างยิ่ง ชายวัยกลางคนนำทางแขกคนสำคัญไปเรือนรับรองด้านใน

มู่เลี่ยงหรงเพิ่งได้เข้ามาในจวนไคกั๋วกงเป็นครั้งที่สอง ด้วยอุปนิสัยช่างสังเกต เขายังพยายามเก็บรายละเอียดรอบด้านเหมือนครั้งแรกที่มา พบว่าคนในจวนเป็นวรยุทธ์แทบทั้งหมด แม้แต่พ่อบ้านใหญ่ที่เดินนำอยู่เบื้องหน้าก็ไม่เว้น

ระหว่างทางมีเวรยามวางอยู่แน่นหนาพอสมควร ทั้งหมดเป็นทหารฝีมือดี นับว่าความปลอดภัยของที่นี่อยู่ในระดับสูงมากกว่าจวนขุนนางทั่วไป

ในที่สุดพ่อบ้านใหญ่ก็นำพวกเขาก็มาถึงเรือนรับรอง เมื่อก้าวเข้าไปในอาคารหลังใหญ่ เยี่ยนหยางเจวี๋ยกับฮูหยิน พร้อมด้วยบุตรชายทั้งสองต่างยืนรอต้อนรับอยู่อย่างพร้อมหน้า

“กระหม่อม / หม่อมฉัน คารวะฉินอ๋อง” สมาชิกตระกูลเยี่ยนคำนับอ๋องหนุ่มอย่างพร้อมเพรียง ก่อนจะทำเช่นเดียวกันกับเยี่ยนเยว่ฉีที่ครานี้กลายเป็นฉินหวางเฟยแล้ว

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว เล่ม2    ตอนที่82 เข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ

    “กระหม่อมผิดไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ” จิวจื่อคุกเข่าโขกศีรษะกับพื้นเสียงดังปึ้ก แต่ฉินหวางเฟยไม่แม้แต่จะมองดู“พอเถิด หากเจ้าตายอยู่ตรงนี้ เกรงว่าท่านอ๋องจะต้องเสียเวลาหาคนมาทำงานแทน” เยี่ยนเยว่ฉีพูดเปลี่ยนท่าทีกลับไปเป็นสบายๆ ดังเดิม“ขอบพระทัยหวางเฟยที่ทรงเมตตาพ่ะย่ะค่ะ”“เรารู้ว่าเจ้าเป็นคนฉลาด จิวจื่อ...” น้ำเสียงหวานปานระฆัง ทว่ากลับทำให้ผู้ฟังรู้สึกเย็นยะเยือกจนขนลุกหลังจากนั้นจิวจื่อก็รีบรายงานถึงสิ่งที่พระชายาฉินอ๋องต้องการรู้ทั้งหมดอย่างไม่อิดออด เขาถึงออกมาจากห้องหนังสือในเรือนจันทราได้ ครานี้พ่อบ้ายหนุ่มซาบซึ้งแล้วว่าบุตรสาวแม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นไม่ใช่สตรีอ่อนแอทั่วไป ที่แท้ก็คือนางเสือดีๆ นี่เองในที่สุดพ่อบ้านใหญ่จวนฉินอ๋องก็ลงความเห็นว่าหวางเฟยเหมาะสมกับท่านอ๋องราวกิ่งทองใบหยกวันนี้เองเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ ในราชสำนักมีการเปลี่ยนแปลงโยกย้ายตำแหน่งขุนนาง จอหงวนทั้งฝ่ายบู๊และบุ๋นได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ รวมไปถึงเยี่ยนหยางจงที่ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งแม่ทัพ คุมกองทัพพยัคฆ์ภายใต้ธงสัญลักษณ์ของฉินอ๋อง ยามนี้จึงเป็นที่รับรู้โดยทั่วกันว่าตระกูลเยี่ยนมีอำนาจมั่นคงแข็งแกร่งจึงมีขุนนางมากมายพ

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว เล่ม2    ตอนที่81 ต้องพิษร้าย

    มู่เลี่ยงหรงลงความเห็นว่าซูจิ้งอาจพบเห็นคนร้ายที่กำลังทำร้ายนางกำนัลซุน คนร้ายจึงคิดแผนสร้างความวุ่นวายเพื่อจะได้มีเวลาหนีออกจากจวน จนทำให้เกิดเรื่องน่าเศร้าขึ้น ซิ่นเฉิงย้อนคิดถึงวันวานจึงได้เข้าใจการกระทำของเยี่ยนจิ้นหลิงทั้งหมด ที่บุรุษผมสีเงินกีดกันเขาให้ห่างไกลจากซูจิ้งคงเป็นเพราะล่วงรู้ลิขิตสวรรค์ ว่านางต้องตายด้วยน้ำมือของตนหากทั้งสองไม่ดื้อดึงที่จะคบหากัน หญิงสาวคงไม่ต้องไปที่เรือนพัก และคงไม่ถูกเขาสังหาร“จิ้งเอ๋อร์ ข้าขอโทษที่ทำร้ายเจ้า ชาตินี้ทั้งชาติข้าจะมีเจ้าเป็นภรรยาเพียงคนเดียว หากชาติหน้ามีจริงขอให้เราสองคนได้กราบไหว้ฟ้าดิน อยู่กินกันจนแก่เฒ่า ยามนี้เจ้าจากไปก่อน แต่อีกไม่นานหรอก อีกไม่นาน ข้าจะตามเจ้าไป”ชายหนุ่มนั่งคร่ำครวญอยู่หน้าหลุมศพหญิงอันเป็นที่รักท่ามกลางลมหนาวที่พัดผ่าน...หลังเกิดเหตุร้ายในจวนฉินอ๋อง การรักษาความปลอดภัยก็เข้มงวดมากขึ้น ผู้คนที่มาค้าขายหรือติดต่องานล้วนถูกตรวจตราอย่างละเอียด แม้แต่คนในก็มีกฎห้ามไม่ให้เดินไปไหนมาไหนเพียงลำพัง บรรยากาศยังคงรายล้อมไปด้วยความตึงเครียดเยี่ยนเยว่ฉีขมวดคิ้วเมื่ออ่านรายงานของพ่อบ้านใหญ่ เนื่องจากตรวจพบว่ามีการเ

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว เล่ม2    ตอนที่80 เป็นเจ้าได้อย่างไร

    ฉับพลัน เสียงกรีดร้องของหญิงสาวก็ดังออกมาจากในเรือนพักอันมืดมิด ซิ่นเฉิงหัวใจหล่นวูบเมื่อคิดว่าคนรักกำลังมีอันตราย ผู้ใดกันกล้าเข้าไปทำร้ายนางถึงในเรือนพักหัวหน้าองครักษ์ของฉินอ๋องช่างไม่กลัวตายชายหนุ่มพุ่งตัวไปที่ประตูแล้วใช้เท้าถีบเต็มแรง เมื่อเข้าไปก็แลเห็นคนร้ายคลุมหน้าในชุดสีดำกำลังยืนหันหลังให้เขาในความมืด ในมือถือดาบยาวเล่มหนึ่ง ส่วนที่พื้นมีร่างของผู้หญิงนั่งกรีดร้องด้วยความตกใจ ในขณะที่คนร้ายกำลังยกดาบขึ้นนั้น ซิ่นเฉิงทะยานเข้าไป ง้างมือแล้วฟันกลางหลังคนในชุดดำทันที“กรี๊ดดด...” เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดของคนร้ายกลับละม้ายเสียงร้องของซูจิ้งไม่มีผิด ซิ่นเฉิงจึงรีบถลาเข้าไปเปิดผ้าคลุมหน้าของคนในชุดดำที่ล้มอยู่บนพื้น แสงสลัวจากคบไฟที่นอกหน้าต่างสะท้อนใบหน้าหญิงคนรัก“จิ้งเอ๋อร์! ไม่...ไม่จริง เป็นเจ้าได้อย่างไร” ความตระหนก หวาดหวั่น และความเสียใจถาโถม มือของซิ่นเฉิงสั่นเทา ใบหน้าบิดเบี้ยว ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาลงมือทำร้ายคนรักของตนเอง“พะ...พี่เฉิง” ซูจิ้งพูดเสียงเบาจนแทบไม่ได้ยิน “ตะ...ตาม...หะ...หวาง...” เสียงของนางเริ่มขาดห้วง“อะไรนะ หวาง...หวางเฟยหรือ” เขาถามย้ำ ซูจิ้งใ

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว เล่ม2    ตอนที่79  ห้องหนังสือ จวนฉินอ๋อง

    การเดินทางอันยาวนานสิ้นสุดลง ฉินอ๋องกับหวางเฟยกลับมาถึงเมืองหลวงอย่างปลอดภัยครั้นกลับมาถึงจวน มู่เลี่ยงหรงตะลีตะลานเขียนรายงานเรื่องพระชายาเอกตั้งครรภ์แล้วให้คนนำไปใหไทเฮา ส่วนตัวเองรีบแต่งกายเข้าวังไปพบฮ่องเต้เพื่อกราบทูลเรื่องนี้โดยตรงเมื่อทราบข่าว ไทเฮาจึงไม่มีเหตุให้ส่งหญิงงามเข้าจวนฉินอ๋องเพิ่ม หนำซ้ำยังรับปากกับเขาว่าหากเยี่ยนเยว่ฉีคลอดซื่อจื่อได้ พระนางจะไม่เข้าไปยุ่มย่ามเรื่องเรือนหลังของจวนฉินอ๋องอีก ทำให้ความตึงเครียดของสองสามีภรรยาลดน้อยถอยลงอย่างมากวันรุ่งขึ้น ข่าวลือเรื่องฉินอ๋องไปขอบุตรไกลถึงเมืองเวิ่นเซียนจนได้ผล ตอนนี้ฉินหวางเฟยที่ตั้งครรภ์แล้ว ก็ดังไปทั่วเมืองหลวง ครั้นพบท่านอ๋องเหล่าขุนนางต่างเข้ามากล่าวแสดงความยินดีเมื่อชาวบ้านเข้าใจว่าการไปขอพรกับหินศักดิ์สิทธิ์ได้ผลจริงๆ บรรดาตระกูลที่ยังไม่มีบุตรชายสืบทอดก็แห่แหนกันไปยังเมืองเวิ่นเซียน ส่วนบ่อนการพนันต่างๆ ก็เริ่มเปิดรับแทงเรื่องฉินอ๋องจะได้บุตรชายหรือบุตรสาวแล้ว ห้องหนังสือ จวนฉินอ๋องมู่เลี่ยงหรงคิดว่าต้องรีบสะสางงานเป็นการใหญ่ แต่สิ่งที่พบทำให้เขาค่อนข้างแปลกใจ เพราะเอกสารไม่ได้กองท่วมโต๊ะอย่างที่คิดเอาไว

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว เล่ม2    ตอนที่78 ผลของการดื้อดึง

    “เพราะข้าเคยคิดแบบเจ้ามาก่อนยังไงล่ะ ซึ่งความคิดแบบนี้มันเป็นหายนะชัดๆ รู้หรือไม่เล่าว่าบุรุษขี้เบื่อมากเพียงใด หากเรายังเอาแต่อายสุดท้ายเขาจะไปมีอนุ ด้วยเหตุนี้ภรรยาเอกอย่างพวกเราจึงต้องหาวิธีรับมือ” เยี่ยนเยว่ฉีทำหน้าจริงจัง “ไว้ข้าจะสอนเจ้าเอง”“หวางเฟยได้โปรดชี้แนะบ่าวด้วย” ซูจิ้งถึงกับคุกเข่าคารวะ“วางใจได้ รับรองว่าพ่อองครักษ์เนื้อหอมไปไหนไม่รอดแน่” ระหว่างที่นายบ่าวกำลังสนุกสนานกับการอ่านหนังสือนิยายเล่มนั้น มู่เลี่ยงหรงที่เตรียมตัวแจ้งข่าวเรื่องการตั้งครรภ์ของนางก็เดินเข้ามาในห้อง เขามั่นใจว่าตอนนี้กลิ่นกายของเขาสะอาดดี แม้แต่แม่เสือก็อิ่มแล้วด้วยคงจะยังไม่แผลงฤทธิ์มู่เลี่ยงหรงหย่อนกายลงนั่งข้างๆ เยี่ยนเยว่ฉี เมื่อเห็นว่านางไม่มีท่าทีขยะแขยงตนเองอย่างเมื่อเช้าก็เบาใจ เขาค่อยๆ ดึงนางเข้ามากอดพร้อมจุมพิตที่พวงแก้ม“อ้ายเฟย อารมณ์ดีขึ้นแล้วใช่หรือไม่”“อืม ข้ารู้สึกดีขึ้นนิดหน่อยแล้ว” ความจริงแล้วเยี่ยเยว่ฉีรู้สึกรำคาญอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เท่าเมื่อเช้า จึงไม่โวยวายและปล่อยให้เขาง้องอนอย่างเต็มที่ เพราะก็รู้สึกผิดอยู่บ้างที่อาละวาดขว้างปาข้าวของ“ข้ามีข่าวดีจะบอกเจ้า”“หากเป็นเรื

  • ท่านอ๋องเจ้าขา...ข้ายอมแล้ว เล่ม2    ตอนที่77 มีอันใดแปลกเล่า

    นางโมโหที่กินเต้าหู้ไม่อิ่ม มิหนำซ้ำยังเหม็นขี้หน้าสามียิ่งนัก“เจ้าเป็นบ้าไปแล้วหรือ หยุดเดี๋ยวนี้นะ” มู่เลี่ยงหรงตวาด ขณะที่ตัวเองพยายามเอามือปัดข้าวของออกไป“ข้าไม่หยุด จนกว่าท่านจะออกไป” เยี่ยนเยว่ฉีลงจากเตียงได้ก็วิ่งไปยังกองข้าวของที่ถูกเตรียมเอาไว้สำหรับการเดินทางในวันพรุ่งนี้ นางเดินลมปราณแล้วจัดการซัดทุกอย่างออกไปอย่างไม่บันยะบันยัง“ให้ตายเถอะ เจ้าเลิกโมโหสักที” มู่เลี่ยงหรงโกรธก็จริง แต่กลับเริ่มรู้สึกหวาดกลัวความเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันนี้มากกว่า หรือว่าภรรยาของเขาจะโดนผีป่าสิง‘ให้ตายเถอะ เยี่ยนจิ้นหลิงก็ไม่อยู่ที่นี่ แล้วใครจะไล่ปีศาจให้นางเล่า’เยี่ยนเยว่ฉีที่กำลังอาละวาดเริ่มรู้สึกหมดเรี่ยวแรง นางหยุดขว้างปาทุกสิ่งเพราะรู้สึกเวียนศีรษะ ภาพที่เห็นก็เริ่มลางเลือนจนท้ายที่สุดสติก็ดับวูบ มู่เลี่ยงหรงปราดเข้าไปรับร่างบางเอาไว้ได้ทัน รีบอุ้มนางกลับไปที่เตียงด้วยความเป็นห่วงอย่างสุดแสน จากนั้นจึงตะโกนเรียกเหล่านางกำนัลให้มาจัดการเก็บข้าวของ และให้ไปตามหมอหลวงมา“เสี่ยวเยว่ ข้าขอโทษที่ยั่วโมโหเจ้า อย่าเป็นอะไรไปนะ” มู่เลี่ยงหรง กอดเยี่ยนเยว่ฉีไว้ไม่ปล่อย เขาพึมพำเรียกนางไม่หย

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status