หน้าหลัก / รักโบราณ / นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง / บทที่ 2 มิติของมู่หนิงชิง (ตอนต้น)

แชร์

บทที่ 2 มิติของมู่หนิงชิง (ตอนต้น)

ผู้เขียน: ชวี่เหว่ย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-12 07:52:04

บทที่ 2 มิติของมู่หนิงชิง

ครู่ต่อมาซูซื่อก็ถือถ้วยยาต้มมาให้บุตรสาว

ประสบการณ์ลิ้มลองยาต้มครั้งแรกของมู่หนิงชิง กล่าวได้ว่าเลวร้ายสุดๆ ทั้งขมกลิ่นก็แรงแถมฝาดติดลิ้นไม่หายไปง่ายๆ ขนาดว่าดื่มน้ำกลั้วปากไปตั้งหลายรอบแล้ว ซูซื่อบอกว่านางยังต้องดื่มยาไปอีกเจ็ดวัน

ฮือออ…สวรรค์ท่านโกรธเกลียดอะไรนางนักหนา ถึงได้ส่งยาต้มมาลงโทษนางเยี่ยงนี้!

จนถึงตอนนี้ มู่หนิงชิงรับรู้แล้วว่า ตัวนางและครอบครัวสกุลมู่บ้านรอง ตั้งรกรากอยู่ที่หมู่บ้านชื่อว่าเต๋อถัง อำเภอเวินเก๋อ เมืองอี้เฉิง ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของแคว้นต้าซวิน หากเดินทางไปกลับตัวเมืองด้วยเท้า จะใช้เวลาราวสามชั่วยาม แต่หากเดินทางด้วยเกวียนก็จะย่นเวลาได้ครึ่งหนึ่ง

ครอบครัวของมู่หนิงชิงคือสกุลมู่บ้านรอง ส่วนสกุลมู่บ้านใหญ่ก็อาศัยอยู่ในละแวกเดียวกัน บ้านของพวกเขาห่างไปราวยี่สิบจั้ง

สมาชิกของบ้านใหญ่มีด้วยกันเจ็ดคน ได้แก่มู่ซานและหลัวอวี๋ ซึ่งเป็นท่านปู่และท่านย่าของมู่หนิงชิงและน้องๆ ท่านลุงใหญ่มู่อวิ๋น ภรรยาชื่อฉวนเหยา มีบุตรชายและบุตรสาวอีกสามคน ชีวิตความเป็นอยู่ของบ้านใหญ่ คงดีกว่าบ้านรองเป็นแน่หากนางคาดไม่ผิด...อนุมานเอาจากประสบการณ์ ในการอ่านนิยายและเล่นซีรีส์แนวชีวิตมาหลายเรื่อง

ราวยามเซิน (15:00-16:59) มู่เฟิงผู้เป็นบิดาและมู่หนิงเฉิงน้องชายคนรองก็กลับถึงบ้าน

มู่เฟิงอายุราวสามสิบห้า รูปร่างสูงทว่าค่อนไปทางผอม ผิวคล้ำจากการทำงานในไร่ ส่วนมู่หนิงเฉิงอายุเก้าหนาว หน้าตาคล้ายมู่หนิงอันถึงเจ็ดแปดส่วน เพียงแต่ได้คิ้วและตามาจากบิดา เด็กชายมีรูปร่างผอมบาง ผิวคล้ำจากการช่วยงานบิดาในไร่เช่นเดียวกัน

ครั้นทั้งคู่ทราบว่ามู่หนิงชิงฟื้นแล้ว ก็รีบรุดมาดูด้วยความเป็นห่วง ยิ่งมู่หนิงชิงได้เห็นว่าสมาชิกในครอบครัวแต่ละคนผ่ายผอม เสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ในสภาพเก่าสีซีด มีรอยปะชุนหลายแห่งยิ่งสะท้อนใจ

มู่หนิงชิงตั้งปณิธานแน่วแน่ทันที ว่าหากหายดีเมื่อไหร่ นางจะต้องช่วยครอบครัวนี้ ให้มีชีวิตที่ดีขึ้นและไม่อดอยากอีกต่อไป!!!

จารชนมือหนึ่งอย่างนางเรื่องหาเงินเข้ากระเป๋าคือเรื่องเล็ก!

หลังจากสนทนากับทุกคนในครอบครัวเรียบร้อย มู่หนิงชิงจึงเอ่ยกับซูซื่อว่านางรู้สึกเหนียวตัวอยากอาบน้ำ ทว่าผู้เป็นมารดาแนะนำให้นางเช็ดตัวแทนด้วยเพราะเพิ่งฟื้นคืนสติ ซึ่งมู่หนิงชิงก็ไม่ขัดข้อง

ครู่ต่อมาซูซื่อยกอ่างใส่น้ำอุ่นมาให้ที่ห้อง พร้อมผ้าอีกหนึ่งผืน

“ขอบคุณท่านแม่มากเจ้าค่ะ ข้าเช็ดตัวเองได้ท่านไม่ต้องอยู่ช่วยข้าหรอกเจ้าค่ะ” จะให้นางมาถอดผ้าต่อหน้าคนแปลกหน้าก็ใช่เรื่อง นางเพิ่งทะลุมิติมา ขอเวลาปรับตัวให้คุ้นชินกับสภาพแวดล้อมใหม่หน่อยเถอะ

“ได้ แต่ลูกค่อยๆ เช็ดตัวก็แล้วกัน ระวังหน้ามืดล่ะ” ซูซื่อวางอ่างใส่น้ำลงบนโต๊ะข้างหน้าต่าง เดินมาลูบศีรษะของบุตรสาวอย่างอ่อนโยน แววตาเปี่ยมด้วยความรักและห่วงใย

คล้อยหลังซูซื่อที่ปิดประตูให้นางเรียบร้อย มู่หนิงชิงจึงถอดเสื้อที่สวมอยู่ออก เหลือเพียงเอี้ยมสีชมพูเก่าหม่นปกปิดหน้าอกผอมแห้ง

“อุ้ย เอี๊ยมหน้าตาเหมือนที่บรรยายไว้ในนิยายเลยอ่ะ แต่เก่าไปหน่อยนะ ร่างกายนี้ก็แสนบอบบางเหลือเกิน เอาไว้คนสวยจะบำรุงให้มีน้ำมีนวลเอง ไม่ต้องห่วงนะมู่หนิงชิง” ปากก็พร่ำปลอบใจร่างกายของตน มือก็เอื้อมไปปลดสายผูกด้านหลัง

นางกำลังจะวางเอี๊ยมลงบนเตียง ทว่าสายตาเหลือบไปเห็นว่า เอี๊ยมตัวนี้มีผ้าซับตัดเย็บไว้คล้ายกระเป๋าซ่อนอยู่ด้านใน นางจึงหยิบขึ้นมาสำรวจดู และเมื่อลองสอดนิ้วเข้าไป ปลายนิ้วก็สัมผัสเข้ากับบางสิ่ง นางจึงดึงมันออกมาดู วัตถุสีแดงดูคุ้นตาปรากฏอยู่ในมือ

“เอ๋ ทำไมมันดูเหมือนจี้หยกแดงอันนั้นนักนะ รึว่า…?!”

ทันทีที่สิ้นคำกล่าว แสงสีขาววาบบังเกิดตรงหน้า มู่หนิงชิงหลับตาหนีแสงจ้านั้น และเมื่อลืมตาขึ้น สิ่งที่ปรากฏตรงหน้า คือห้องครัวขนาดใหญ่ จากภัตตาคารสุดหรูของนางซึ่งอยู่ในอีกมิติก่อนหน้านี้!

กรี๊ดดดด!!! ไม่เชื่อแต่อย่าหลบลู่ นางมีตัวช่วยเหมือนในนิยายหลายเรื่องที่เคยอ่านผ่านตากับเขาด้วยหรือนี่!

มู่หนิงชิงเจ้ารอดแล้ววว แบบนี้ไม่อดตายแน่นอน! ร่างผอมบางที่สมควรจะเปลือยอก ในเวลานี้กลับสวมชุดเชฟอยู่เสียอย่างนั้น!!

หญิงสาวตาโต ตกตะลึงกับปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้น แต่กระนั้นยังมีสติพอ รับรู้ว่านี่คือสิ่งที่เรียกว่า มิติ ซึ่งมาในลักษณะห้องครัวของภัตตาคาร ยอดเยี่ยมไปเลย! และที่นางดีใจจนเนื้อเต้น ก็เป็นเพราะของสด ของแห้ง เครื่องปรุงต่างๆ รวมถึงเครื่องดื่มทุกอย่างในครัวแห่งนี้ ล้วนเป็นของเกรดพรีเมี่ยม!

ก็คนมันรักการกินเป็นชีวิตจิตใจทำอย่างไรได้

เจ้าของมิติห้องครัว มุ่งตรงไปยังห้องเก็บของสดขนาดใหญ่ และเมื่อก้าวเข้าไปก็สัมผัสได้ถึงความเย็นของห้องแช่ทันที

“อู้ยยย สุดยอด ทุกสิ่งยังเหมือนเดิมเป๊ะ เอ๊ะ! แล้วนี่มันอะไร ทำไมมีป้ายบอกราคาด้วย”

บนห่อของเนื้อวากิว(a5) ที่นางหยิบขึ้นมาดู ปรากฏราคาบอกไว้เป็นหน่วยเงินของมิตินี้ ซึ่งไม่แตกต่างจากเงินในยุคจีนโบราณ เรียวคิ้วงามมุ่นเข้ากันด้วยความข้องใจ อย่าบอกนะว่า…

ทันใดนั้นเอง…

ติ้ง!! หน้าจอดิจิตอลขนาดกระดาษA4 ปรากฏขึ้นตรงหน้ามู่หนิงชิง มีข้อความเขียนไว้ดังนี้

ยินดีต้อนรับสู่มิติแห่งความอิ่มหนำ ทางเข้าออกมิติแห่งนี้ คือหยกสีแดงรูปดอกโบตั๋นในมือของท่าน

“นั่นปะไร!! ว่าแล้วเชียว เจออภินิหารหยกแดงจริงๆด้วย ถึงว่า…ตั้งราคาขายซะแพงยังกับคฤหาสน์ของหัวหน้าองค์กรลับ!” มู่หนิงชิงทุบกำปั้นลงบนฝ่ามืออีกข้างขณะกล่าวคำ จากนั้นจึงตั้งใจอ่านข้อความบนหน้าจอดิจิตอลต่อ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง    บทที่ 86 อาการป่วยของซวินเหิงเยว่ (ตอนปลาย)

    บทที่ 86 อาการป่วยของซวินเหิงเยว่ (ตอนปลาย) องค์ชายสี่ถูกแต่งตั้งให้มาเป็นอ๋องครองเมืองแทนซวินเหิงเยว่ คนรักของเขาซึ่งเป็นองครักษ์ส่วนพระองค์เดินทางติดตามมาด้วย องค์ชายสี่เป็นคนมีคุณธรรม และตั้งใจทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่ มีปัญหาอะไรก็จะปรึกษาหย่งหนานโหวเพื่อขอคำแนะนำ ทั้งคู่กลายมาเป็นสหายดีที่ต่อกัน ช่วยกันดูแลเมืองอี้เฉิงให้เจริญรุ่งเรืองมิต่างจากตอนที่ซวินเหิงเยว่ครองเมือง แม้นว่าโหวหนุ่มจะคิดถึงสหายรักจอมกวนอยู่บ่อยครั้ง หากแต่หน้าที่ต้องมาก่อน จะทำตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋ เหมือนตั้งแต่สมัยที่ยังเยาว์จนกระทั่งก่อนซวินเหิงเยว่อภิเษกสมรสไม่ได้อีกต่อไป ตระกูลฟ่านเปิดใจยอมรับโหวหนุ่มมากขึ้น อนุญาตให้หมั้นหมายฟ่านฮุ่ยเจินไว้ก่อน แต่กำหนดแต่งงานยังมิได้ระบุ หลังผ่านพ้นหน้าหนาวในปีนั้น องค์รัชทายาทซวินเหิงเยว่และพระชายา ออกเดินทางทั่วแคว้น เพื่อศึกษาพื้นที่ และตรวจดูความเป็นอยู่ของราษฎร ตามพระราชโองการของฮ่องเต้ซวินเสวียนคง อันที่ซวินเหิงเยว่เป็นผู้บีบคั้นพระบิดา ให้ออกพระราชโองการให้เขากับพระชายา ออกเดินทางเยี่ยมราษฎร ชายหนุ่มไม่โปรดชีวิตวุ่นวายในเมือง เนื่องจากบรรดาขุนน

  • นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง   บทที่ 86 อาการป่วยของซวินเหิงเยว่ (ตอนต้น)

    บทที่ 86 อาการป่วยของซวินเหิงเยว่ (ตอนต้น) แสงตะวันอบอุ่นยามเช้าในช่วงกลางฤดูใบไม้ผลิ สาดส่องผ่านช่องหน้าต่างห้องหอ ปลุกให้ซวินเหิงเยว่ที่ตื่นเช้าเป็นกิจวัตรลืมตาขึ้น ทั้งที่เจ้าตัวพึ่งล้มตัวลงนอนไปได้ไม่ถึงสองชั่วยาม! เขานอนตะแคงทอดมองชายาคนงาม ที่ยังอยู่ในห้วงนิทราด้วยแววตาลึกซึ้ง ท่อนแขนแกร่งพาดบนอยู่เอวคอดกิ่ว มือใหญ่วางทาบอยู่บนสะโพกเปลือยเปล่า และเมื่อขยับผ้าห่มเล็กน้อย ตั้งใจจะช่วยคลุมกายชายารักให้มากขึ้น เพราะกลัวว่านางจะหนาว ดวงเนตรคู่คมพลันเหลือบเห็นจ้ำสีกุหลาบกระจายอยู่เต็มผิวขาวเนียนละออ ริมฝีปากหยักกระตุกยิ้มอย่างพึงใจ นึกถึงภาพเร่าร้อนของเขาและนางที่ร่วมกระทำกันมาทั้งคืน เพียงแค่คิดความเป็นชายก็ตั้งตระหง่าน ชายหนุ่มมุดหายเข้าไปใต้ผ้าห่ม ซุกใบหน้าหล่อเหลากับบุปผางามที่ยังแดงช้ำจากร่วมหออย่างดุเดือด เซียวหนิงชิงรู้สึกถึงบางสิ่งร้อนชื้นกำลังดูดดึงส่วนบอบบางของตน ความรู้สึกรัญจวนวาบหวามพลันบังเกิด ถึงตายังหลับทว่ากลับส่งเสียงครางหวาน ขานรับการปรนเปรอจากลิ้นร้อนของสวามี ร่างแกร่งใต้ผ้าห่มยิ่งได้ใจ ขยับทั้งลิ้นและนิ้วเป็นจังหวะประสาน ส่งร่างบางถึงฝั่งฝันในเวลาต่อมา ก

  • นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง    บทที่ 85 ค่ำคืนที่รอคอย (ตอนปลาย)

    บทที่ 85 ค่ำคืนที่รอคอย (ตอนปลาย) เขาปลดอาภรณ์ของตนออก เผยให้เรือนกายแกร่งสมส่วน ผิวขาวเนียน แผ่นอกแกร่ง หน้าท้องแน่นเป็นลอนที่เซียวหนิงชิงหลงใหล ไล่ต่ำลงมาจนถึงความเป็นชายใหญ่โตขาวนวลส่วนปลายแดงก่ำ ที่กำลังตั้งตระหง่านชี้นางอยู่ตอนนี้! เซียวหนิงชิงหน้าร้อบวาบ ดวงตาเบิกกว้าง ตกใจกับขนาดส่วนนั้นของซวินเหิงเยว่ พลันคิดในใจว่าใหญ่ขนาดนี้นางไม่เจ็บแย่เหรอ จะใหญ่โตไปไหน…! ครั้นได้เห็นสีหน้าของคนรัก ชายหนุ่มยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ โน้มตัวลงบดจูบนางอีกครั้ง ก่อนเลื่อนริมฝีปากไปที่ข้างใบหูขาว เสียงแหบพร่าเร้าใจกระซิบใส่หูเล็กจนคนฟังใจสั่น "อย่ากลัวไปเลยเด็กดี ข้าจะอ่อนโยนกับชิงเอ๋อร์ จะทะนุถนอมเจ้าอย่างดี" ใบหน้าหล่อเหลาซุกไซ้ซอกคอหอมกรุ่น พรมจูบดูดดึงผิวขาวอย่างอย่างเอาแต่ใจ มือแกร่งกอบกุมบีบเคล้นเต้าอวบ สร้างความรู้สึกวาบหวามจนหญิงสาวเริ่มบิดเร่า ชายหนุ่มเปลี่ยนมาอ้าปากเข้าครอบครองเต้าอวบ ปลายลิ้นร้อนตวัดรัวชิมรสหวานล้ำจากยอดถันสีสวย เซียวหนิงชิงหลุดครางหวาน แอ่นอกรับสัมผัสที่เขาปรนเปรอให้อย่างลืมอาย จิกนิ้วกับผ้าปูที่นอนจนยับย่น "อื้ออ สวามี" เสียงครางแผ่วราวเสียงครางของลูกแ

  • นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง   บทที่ 85 ค่ำคืนที่รอคอย (ตอนต้น)

    บทที่ 85 ค่ำคืนที่รอคอย (ตอนต้น) เสียงดนตรีจากวงปี่พาทย์ดังขึ้นหน้าจวนแม่ทัพอุดร เป็นสัญญาณว่าบัดนี้เจ้าบ่าวมาถึงตามฤกษ์ยามที่กำหนดไว้ องค์รัชทายาทซวินเหิงเยว่ในชุดสีแดงงามสง่า ลงจากหลังอาชาสีขาวตัวใหญ่ด้วยท่วงท่าองอาจ ดวงพักตร์หล่อเหลาที่ยามปกติเย็นชาเย่อหยิ่งอยู่เป็นนิจ วันนี้ดูอ่อนโยนขึ้นหลายส่วน รอยยิ้มบางประดับมุมปากตั้งแต่ออกจากตำหนักบูรพาจนถึงตอนนี้ยังไม่เลือนหาย ตลอดเส้นทางที่ขบวนเคลื่อนผ่าน มีประชาชนออกมายืนรอชื่นชมบารมีขององค์รัชทายาท และรอรับถั่วเงินถั่วทองรวมถึงลูกวาดมงคลที่โปรยแจก นอกจากพวกเขาจะตกตะลึงในรูปโฉมหล่อเหลาของชายหนุ่มแล้ว ทุกคนยังอ้าปากค้างเมื่อได้เห็นเกี้ยวดอกไม้สีแดงแปดคนหามหลังใหญ่ ถูกสั่งทำขึ้นอย่างประณีตวิจิตร ประหนึ่งงานศิลปะชั้นยอด ครั้นมองเห็นหาบสินสอดอีกหลายสิบหีบ ที่นำมามอบให้เจ้าสาวเพิ่มเติมนอกเหนือจากวันหมั้น ชาวบ้านแต่ละคนดวงตาแทบถลนออกมานอกเบ้า ยืนอ้าปากค้างหุบไม่ลงกันไปพักใหญ่!! หลังจากทำพิธีฝั่งเจ้าสาวเสร็จก็ได้ฤกษ์ส่งตัวเซียวหนิงชิงขึ้นเกี้ยว ท่านชายฮั่นจินผู้มีศักดิ์เป็นน้องชาย ถึงแม้จะไม่เต็มใจเป็นน้องเสียเท่าไหร่ ยืนย่อเข่าลงเ

  • นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง   บทที่ 84 วันสำคัญของคู่รัก (ตอนปลาย)

    บทที่ 84 วันสำคัญของคู่รัก (ตอนปลาย) เมืองเฉินเฉิง เจ็ดวันก่อนออกเดินทาง เซียวหนิงชิงพาทุกคนไปที่ไร่ชาของครอบครัวของนักพรตหวู่หุน หวู่ฟู่เต๋อพาพวกเขาเดินดูไร่ชาด้วยตนเอง พร้อมอธิบายความรู้เรื่องชาอย่างคร่าวๆ “อีกไม่นาน ชาฤดูใบไม้ผลิยอดแรกจะถูกเก็บเกี่ยว และนี่คือยอดชาที่ดีที่สุดของปีขอรับ” เขาอธิบายให้ทุกคนฟัง เฉินอ๋องหันไปแปลเป็นภาษาฮวาล่าให้ลี่นาซาและฮั่นจินเข้าใจ ลี่นาซาเลยขอทำการค้าชากับพวกเขาในปีถัดไป เพราะปีนี้ถูกเซียวหนิงชิงกว้านซื้อไปหมดแล้ว “ข้าแบ่งให้ท่านแม่บุญธรรมครึ่งหนึ่งก็ได้เจ้าค่ะ หากสนใจทำการค้าปรึกษารุ่ยอ๋องได้เลย คนรักของข้าความสามารถทางด้านการค้าไม่เป็นรองคนตระกูลฟ่านเลยนะเจ้าคะ” เซียวหนิงชิงสนทนากับลี่นาซาด้วยภาษาฮวาล่าอย่างยิ้มแย้ม ทว่าคนที่ถูกกล่าวถึงกลับยืนหน้านิ่ง แผ่จิตสังหารจ้องตาเด็กหนุ่มชาวฮวาล่า ผู้มีหน้าตาคมคายอย่างเอาเรื่อง ทางฮั่นจินเองก็ไม่ยอมลดละ จ้องตาชายหนุ่มอายุมากกว่าอย่างท้าทาย เซียวหนิงชิงคล้ายมองเห็นสายฟ้าพุ่งปะทะกันอยู่กลางอากาศ นางกระซิบถามหลี่โหยวว่าเกิดอะไรขึ้น “ท่านอ๋องเหลือบมาเห็นตอนที่ท่านชายฮั่นจิน เอาดอกไม้มาปักผมให้ท่านหญ

  • นางร้ายอย่างข้าขอลิขิตชะตาเอง   บทที่ 84 วันสำคัญของคู่รัก (ตอนต้น)

    บทที่ 84 วันสำคัญของคู่รัก (ตอนต้น) ชาวฮวาล่าทุกคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นล้วนตกตะลึงกับถ้อยคำของท่านชายฮั่นจิน ลี่นาซาตกใจจนหน้าเหวอ ไม่รู้จะหาคำใดมาอธิบาย จึงหันไปตำหนิบุตรชายเสียงเขียว "ฮั่นจิน! ลูกจะหยาบคายกับท่านหญิงแบบนี้ไม่ได้นะ เป็นลูกผู้ชายต้องให้เกียรติสตรี" "ท่านแม่ ลูกไม่ได้หยาบคายนะขอรับ ลูกซื่อสัตย์กับความรู้สึกและหัวใจของลูก ลูกชอบนาง ลูกก็บอกนางตามตรง ไยท่านแม่กล่าวว่าลูกหยาบคาย" ในขณะที่สองแม่ลูกกำลังโต้เถียงกันอยู่นั้น เซียวหนิงชิงหันมากระซิบถามบิดา เรื่องนิสัยใจคอของบุรุษชาวฮวาล่า คำตอบที่ได้รับช่วยให้นางกระจ่างแจ้ง "ฮั่นจินเติบโตมากับพ่อก็จริง แต่นิสัยบางส่วนเหมือนกับหยาอินไม่มีผิด คิดอะไรก็พูดออกมาอย่างนั้น ชอบก็บอกว่าชอบ ไม่ชอบก็บอกว่าไม่ชอบ ถึงภายนอกจะดูดุดันไปบ้าง ทว่าจิตใจกลับอ่อนโยนยิ่ง นาซาเคยเล่าให้พ่อฟังถึงวิธีที่หยาอินใช้เกี้ยวพานนาง ลูกคิดว่าเขาเกี้ยวพานนางอย่างไร“ "อย่าบอกว่า จู่ๆก็มาสารภาพรักและขอแต่งงานเลยนะเจ้าคะ" เซียวหนิงชิงลองเดาดูจากพฤติกรรมของคนเป็นลูก เฉินอ๋องอมยิ้ม พยักหน้าเป็นคำตอบ “…” เซียวหนิงชิง 'ได้เลือดพ่อแท้ๆมาเต็มๆ' ขบวนอาคั

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status