ตอนที่12
คิดว่าผมเป็นเกย์
หมับ!!
ปลายจมูกเล็กถูกบีบเบา ๆ ก่อนที่น้ำเสียงที่แหบนิด ๆ แต่มีเสน่ห์น่าฟังจะดังตามมา
“เป็นอะไร ดูทำหน้าทำตาเข้า”เมธัชร้องถาม เมื่อเห็นท่าทางแปลก ๆ ของน้องสาว
“พี่ชาย แล้วพี่ดุจดาวล่ะคะ” วุ้นเย็นเอ่ยถามเมื่อไม่เห็นดุจดาวกลับมาด้วย
“กลับแล้ว ไปเราก็กลับบ้านกันเรือเทียบท่านานแล้ว เร็วลุก” พูดพร้อมกับดึงข้อมือเล็กเบา ๆวุ้นเย็นมองตามมือเรียวแข็งแรงและอบอุ่นนั้น แล้วก็ใจหายเมื่อคิดว่าวันหนึ่งมือนี้จะต้องไปจับมือของดุจดาวหรือผู้หญิงคนอื่น และไม่มีวันกลับมาจับมือเธออีก จู่ ๆ น้ำตาใสก็ซึมออกมา ด้วยอารมณ์ที่เธอเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าเป็นอะไร
..........................................................................
ณ โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง
ดุจดาวสาวเท้าเข้าไปหาร่างสูงที่นั่งอยู่ที่โต๊ะริมหน้าต่าง ตรงหน้ามีหนังสือเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยเล่มใหญ่วางอยู่ แต่ดวงหน้าคมคร้าม และสายตาคู่นั้นกลับทอดมองออกไปนอกหน้าต่าง
“นั่งใจลอยมองใครกันน้า” เสียงหวานเอ่ยถามขึ้นด้วยความแปลกใจ พร้อมกับมองไปตามสายตาของเมธัช ก็พบว่าร่างผอมบางของวุ้นเย็นกำลังซ้อมเต้นเป็นเชียร์ลีดเดอเนื่องในงานแข่งขันกีฬาสีที่ใกล้จะถึงนี้
“อ๋อที่แท้ก็นั่งมองน้องวุ้นนี่เอง น้องเต้นได้น่ารักดีนะคะ พอผมยาวก็ยิ่งสวยเหมือนกับน้าโสภา นี่ได้ยินว่าเทอมนี้เรียนติดท้อปเท็นของระดับชั้นเลยนี่ เก่งไม่เบาเลย ธัชมีของขวัญให้น้องรึยัง”
เมธัชละสายตาจากวุ้นเส้น ก่อนจะเอ่ยตอบเสียงเบา
“ยังเลย ผมซื้อของให้เด็กผู้หญิงไม่เป็นน่ะ” เขาตอบตามตรง แม้ว่าจะเคยซื้อตุ๊กตาแมวตัวใหญ่ไว้ในห้องนอน เพื่อต้อนรับการมาของวุ้นเย็น แต่จนถึงตอนนี้เขาก็ไม่เคยรู้ว่าวุ้นเย็นชอบตุ๊กตาแมวตัวนั้นหรือเปล่า อีกอย่างเขาก็ไม่ได้บอกว่าเป็นคนซื้อให้ด้วย
ดุจดาวยิ้มหวาน ก่อนจะบอกอย่างอารมณ์ดี
“ไม่เห็นจะยากเลยค่ะ เด็กผู้หญิงน่ะชอบอะไรคล้าย ๆ กัน เอาอย่างนี้ ดาวจะเป็นคนพาธัชไปเลือกซื้อของขวัญให้น้องเอง เย็นนี้ธัชว่างหรือเปล่าล่ะ”
เมธัชได้ยินดังนั้นก็ยิ้มบาง ๆ ออกมาได้ ดุจดาวจะต้องช่วยเขาเลือกของขวัญที่วุ้นเย็นต้องชอบมากแน่ ๆ เพราะดุจดาวเป็นคนน่ารัก เรียบร้อยอ่อนโยน และที่สำคัญคือชอบวุ้นเย็นมาก ๆ ด้วย
“อื้อ ดีเลย งั้นเดี๋ยวเลิกเรียนพิเศษแล้วเราไปกัน”
“ได้ซิ งั้นเดี๋ยวดาวโทรบอกคนขับรถว่าไม่ต้องมารับนะ แต่ว่าดาวขอกินข้าวฝีมือของคุณน้าโสภาเป็นการตอบแทนแล้วกันนะ”
เมธัชหัวเราะออกมาเบา ๆ ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ได้ซิ อยากกินเมนูอะไรพิเศษไหมจะได้ขอให้คุณน้าโสภาทำให้”
ดุจดาวส่ายหน้าแรง ๆ จนผมหน้าม้าปลิวกระจาย พร้อมกับโบกมือไปมา
“ไม่ ๆ เมนูที่คุณน้าโสภาทำดาวชอบและอร่อยทุกอย่างแหละ”
“อื้อ ผมก็เหมือนกัน คุณน้าโสภาทำอาหารอร่อยเหมือนที่คุณแม่ทำเลย” เมธัชพูดออกมาจากใจจริง
ดุจดาวมองอีกฝ่าย ที่ดูมีรอยยิ้มระบายอยู่บนใบหน้ามากขึ้นกว่าเมื่อก่อน ไม่เงียบขรึมเกินวัยอีกแล้ว ส่วนหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงเขาได้ขนาดนี้น่าจะเป็นเพราะความเอาใจใส่ดูแลอย่างจริงใจ และมีวุ้นเย็นที่สดใสร่าเริงคอยชวนพูดชวนคุยอยู่เสมอนั่นเอง
“ดาวดีใจนะ ที่ธัชดูมีความสุขมากขึ้น ยิ้มและหัวเราะได้บ่อยขึ้น ไม่ได้เป็นเด็กที่มีปัญหาเหมือนคนที่มีแม่เลี้ยงส่วนใหญ่เลยสักนิดเลย”
“ใช่ คุณน้าโสภาทำให้ผมรู้สึกเหมือนคุณแม่ฟื้นคืนกลับมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เอาน้องสาวจอมกวนมาฝากด้วยคนนึง” เขาพูดพลางทอดสายตามองไปที่วุ้นเย็นอีกครั้ง ดุจดาวก็มองด้วยเช่นกันสายตาของทั้งคู่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน
“น้องสาวที่น่ารัก ซุกซน พูดจ้อย ๆ ได้ทั้งวัน แต่กลับฉลาดเรียนเก่งด้วย ดาวยังอดเอ็นดูน้องไม่ได้เลยค่ะ”
ดุจดาวพูดออกมาจากใจจริง เพราะเธอเองก็เป็นลูกสาวคนเดียว อยากมีน้องสาวเหมือนเมธัชบ้าง แต่ติดที่แม่ของเธอตรวจเจอก้อนเนื้อในมดลูก และก้อนเนื้อนั้นก็เป็นเนื้อร้าย จึงต้องผ่าตัดยกมดลูกทิ้งไปและไม่สามารถมีลูกได้อีก เธอจึงหมดสิทธิ์ที่จะมีน้อง
เมธัชฟังมาถึงตรงนี้ ก็ถอนหายใจออกมาเบา ๆ และยิ้มออกมาบาง ๆ
“อื้อ จะน่ารักมากกว่านี้ ถ้าไม่คอยสกัดสาว ๆ ที่เป็นแฟนคลับไปเสียหมดอะนะ”
“ฮื้อ ก็คงหวงพี่ชายเป็นธรรมดาน่ะแหละ แต่เดี๋ยวนะธัชชอบสาว ๆ พวกนั้น....ไม่ได้รำคาญหรอกเหรอ”
ดุจดาวเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ เพราะจำได้ที่วุ้นเย็นเคยบอกว่าเมธัชชอบผู้ชาย
“แหมดาวก็..ธัชเป็นผู้ชายนะ ไม่ได้เป็นเกย์เสียหน่อย ที่จะไม่ชอบเวลาสาว ๆ สวย ๆ มาปลื้มน่ะ” เขาพูดพลางมองไปที่ใบหน้าเรียวของดุจดาว ก่อนจะค่อย ๆ โน้มเข้าไปใกล้แล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ดุจดาวหน้าแดงเพราะคิดว่าอีกฝ่ายกำลังจะจูบเธอ และตอนนี้ก็เป็นคาบว่าง เพื่อนร่วมห้องเรียนจึงไปทำกิจกรรมตามอัธยาศัยกันหมด
“อะไร ธัช” เอ่ยถามเสียงสั่น
“หรือว่าดาวคิดว่าผมเป็นเกย์”
ตอนที่37น้องไม่ได้บอกเมื่อเห็นสีหน้าของเมธัช ยังไม่ดีขึ้น วุ้นเย็นจึงถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะพูดออกมาอย่างจริงจัง “พี่ชาย ตอนนี้หนูไม่ได้เป็นอะไรค่ะ ไม่ต้องไปตรวจหรอก หนูอยู่กับโรคนี้มานาน จนรู้จักคุ้นเคยกันดีแล้วล่ะ”เมื่อเห็นว่าวุ้นเย็นยืนยันหนักแน่น เมธัชก็เริ่มผ่อนคลายขึ้นมาบ้าง “แล้วนี่ยังไม่มีข่าวเรื่องผู้บริจาคหัวใจอีกหรือ”คำถามนี้ทำให้วุ้นเย็นมีสีหน้าสลดลงเล็กน้อย แต่ก็ยังฝืนยิ้มบาง ๆ ออกมา “ยังไม่มีวี่แววเลยค่ะ แต่ช่างเถอะหนูไม่หวังอะไรมาก เพราะการที่เอาหัวใจคนอื่นมาต่อชีวิตเรา นั่นก็หมายถึงเขาจะต้องตายแทน แบบนั้นหนูก็ไม่อยากได้หรอกค่ะ ถึงหนูจะอยากมีชีวิตอยู่ แต่ก็ไม่ได้อยากให้ใครต้องตายนี่คะ แค่อยู่ได้อุ้มหลาน ก็พอใจแล้ว”น้ำเสียงที่สดใสแต่ปนเศร้านั้นทำให้เมธัชสะเทือนใจเป็นอย่างมาก &
ตอนที่36 อย่าลืมซิคะว่าหนูเป็นโรคอะไร “อ้อ!อย่างนั้นหรือ ถ้าอย่างนั้นก็นอนเถอะ พี่ไม่รบกวนแล้ว” เขาพูดพลาง ช่วยประคองหญิงสาวให้นอนลง แต่วุ้นเย็นก็ทำตัวแข็ง ไม่ยอมนอน เมธัชจึงมองอย่างไม่เข้าใจ “ไหนว่าจะนอนไม่ใช่หรือไง” เขาถามสั้น ๆ แต่น้ำเสียงนั้นก็ไม่ได้แสดงความหงุดหงิดออกมาแม้แต่น้อย “ใช่ แต่ยังนอนไม่ได้” วุ้นเย็นพูดไม่ได้มองหน้า “ทำไมถึงยังนอนไม่ได้” “ก็หนูยังไม่ได้กินยาหลังอาหารน่ะซิ” เธอตอบด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ เย็นชาชายหนุ่มจึงเอื้อมไปหยิบยา กับรินน้ำสะอาดส่งให้อย่างใจเย็นหญิงสาวรับยามาโยนเข้าปาก พร้อมกับดื่มน้ำตามเกือบหมดแก้ว แล้วส่งคืนให้เขา ก่อนจะนอนหันหลังให้โดยไม่กล่าวขอบคุณแม้แต่คำเดียวเมธัชไม่ได้สนใจท่าทีที่วุ้นเย็นแสดงออกมา เขาดึงผ้าห่มคลุมให้อย่างอ่อนโยน เพราะแค่วุ้นเย็นไม่ไล่ตะเพ
ตอนที่35 ลบเรื่องของพี่ชายออกจากสมองวุ้นเย็นได้ยินคำพูดของโสภาแล้ว ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงดีใจจนน้ำตาไหล แต่หลังจากฟื้นตื่นในครั้งนี้ เธอก็ไม่ได้รู้สึกยินดีอีกแล้ว “ช่างเถอะค่ะ จะให้อภัยหรือไม่หนูก็ไม่ได้สนใจอีกแล้ว ต่อจากนี้ไปหนูจะลบเรื่องของพี่ชายออกจากสมอง ไม่ไปยุ่ง ไม่เข้าใกล้อีกแล้วค่ะ”ตึก!พูดจบหัวใจของเธอก็กระตุกขึ้นมา เมื่อสายตาสบเข้ากับดวงตาคมลึกของเมธัชเข้าอย่างจัง “อ้าวคุณธัช มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ” โสภาที่มองตามสายตาของลูกสาว ก็หน้าเสียไปนิดหนึ่งเมื่อเห็นว่าเมธัชเข้ามาโดยไม่ให้ซุ่มให้เสียง ไม่รู้ว่าได้ยินที่วุ้นเย็นพูดหรือเปล่า หากได้ยินก็กลัวจะโกรธจนไม่มองหน้ากันอีก “เพิ่งมาถึงครับคุณน้า” เขาตอบโสภาแต่ดวงตายังจับอยู่ที่ใบหน้าเรียวเล็กของวุ้นเย็น พร้อมทั้งค่อย ๆ เดินเข้าไปหา และหยุดยืนอยู่ข้าง
ตอนที่34แก้เคล็ด “ก็ไม่มีอะไร คุณธัชเขาบอกว่ารู้สึกผิด ที่เป็นต้นเหตุให้หนูต้องเป็นแบบนี้” โสภาบอกเสียงเรียบ แต่วุ้นเย็นใจหายวาบ เพราะวันนั้นเธอไม่ได้บอกใครว่าไปหาเมธัชที่คอนโด “ยะยังไงคะ พี่ชายไม่ได้ทำอะไรให้หนูเสียหน่อย” ถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ พลางหรุบตาลง มองแก้วน้ำสมคั้นที่อยู่ในมือ เพื่อหลบสายตาของผู้เป็นแม่ “นี่แสดงว่าหนูลืมว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนั้นหมดแล้วใช่ไหมเนี่ย แต่ก็ไม่แปลก เพราะคุณหมอก็บอกอยู่ว่า ถ้าหนูตื่นมาอาจจะจำเหตุการณ์ในวันนั้นไม่ได้ชั่วคราวงั้นเดี๋ยวแม่เล่าให้ฟัง แต่ขอเก็บชามโจ๊กไปล้างก่อนนะลูก” พูดจบโสภาก็เก็บชามเข้าไปล้าง ‘จำได้ซิคะแม่ จำได้ทุกการกระทำและคำพูดของพี่ชายเลยล่ะ แต่หนูต้องขอโทษที่บอกแม่ไม่ได้ เพราะหนูอับอายเกินกว่าที่จะพูดถึงมันอีก’ เธอได้แต่ขอโทษแม่อยู่ในใจ และอยากรู้ว่าเมธัชจะบอกทุกคนยังไงที่จู่ ๆ เธอไปเป็นลมอยู่ที่คอนโดของเขาครู่เดียวโสภาก็เดินกลับมานั่งข้างเตียง แล้วเริ่มเล่าเหตุการณ์ในวันนั้น ตามที่เมธัชได้เล่าให้ฟัง
ตอนที่33 พี่ชายเป็นคนทำ “พอ ๆ ไม่ร้องแล้ว ๆ ว่าแต่ว่าหนูหิวไหมลูกแม่มีโจ๊กเห็ดหอม กับน้ำส้มคั้นที่หนูชอบไว้ด้วยนะ” “หิวค่ะ หิวมาก ไม่ได้กินอะไรมาตั้งห้าวันแน่ะ”หญิงสาวอ้อนผู้เป็นแม่ ทั้งที่ความจริงแล้วไม่ได้รู้สึกหิวแม้แต่น้อย แค่อยากทำให้แม่สบายใจ ชดเชยกับที่ได้ทำให้ร้องไห้มาเป็นอาทิตย์แล้ว และต่อจากนี้ไป เธอจะทำทุกอย่างให้แม่มีความสุขมากที่สุด จนกว่าธรรมชาติหรือโรคภัยจะพรากชีวิตของเธอไปจากโลกใบนี้ จะไม่แม้แต่คิดจบชีวิตของตัวเองอีกเลยโสภายิ้มอย่างยินดี พลางยื่นมือไปบีบปลายจมูกเล็ก เบา ๆ ก่อนจะรีบไปที่ตู้เย็น เปิดเอาโจ๊กออกมาอุ่น ครู่เดียวก็ส่งกลิ่นหอมอบอวนไปทั่ว ยั่วน้ำลายเป็นอย่างดีเสร็จแล้วโสภาก็วางบนโต๊ะ ก่อนจะเข็นไปที่เตียง พร้อมกับประคองให้วุ้นเย็นลุกขึ้นนั่งหญิงสาวมึนหัวนิดหน่อย เพราะนอนไปหลายวัน แต่ครู่เดียวอาการมึนหัวก็หาย ตากลมมองไปที่เนื้อโจ๊กสีขาวเนียนล
ตอนที่32 หนูขอโทษค่ะแสงสีขาวโพลนสาดแยงดวงตากลมใสเข้าอย่างจัง เปลือกตาบางจึงปิดลงอีกครั้ง ทั้งยังภาวนาในใจอย่าให้ตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าเธอยังอยู่ในโลกมนุษย์เลย เพราะเธอไม่สามารถรับความอับอาย และความเสียใจผิดหวังได้อีกแล้วแต่ดูเหมือนคำภาวนาจะไม่เป็นผล เมื่อเปิดเปลือกตาขึ้นอีกครั้ง ก็พบฝ้าเพดานสีขาวและแสงจากหลอดไฟนีออน กอปรกับกลิ่นยาอ่อน ๆ ที่ลอยมาแตะจมูก เธอก็ถอนหายใจออกมาด้วยความผิดหวังใช่แล้วเธอยังไม่ตาย ยังต้องตื่นมารับกับความเจ็บปวดที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ถึงจะสิ้นสุดเสียที หรือว่าเธอจำต้องทำในสิ่งที่ไม่เคยคิดจะทำ นั่นคือการกำจัดลมหายใจของตัวเอง แต่จะด้วยวิธีใดนั้น คงต้องไว้ค่อยคิดอีกที แต่จะต้องทำแน่นอน เพราะยังไงก็ต้องตาย จะได้ไม่ต้องไปลำบากเอาหัวใจของใครมาอีกความเย็นจากเครื่องปรับอากาศบวกกับความเงียบสงบ ทำให้เธอนอนลืมตานิ่งอยู่อย่างนั้นเพื่อคิดหาวิธีที่จะจบชีวิตของตัวเอง “วุ้นเย็น ฮือ..เป็นอย่างไรบ้างลูก..ฮือ” เสียงร้องนี้ ทำให้ความคิดของ