ตอนที่8
เป่าผมให้หนูหน่อย
ไม่พูดเปล่า คว้าข้อมือหนาของเมธัชพร้อมทั้งดึงแกมลากเข้าไปในห้อง โดยที่เมธัชไม่ทันได้ตั้งตัว
“เอ๊ะนี่ จะทำอะไรน่ะ” เมธัชร้องถามด้วยความตกใจ
แปะ
ไดรเป่าผม ถูกยัดเข้ามาในมือของชายหนุ่ม เขามองมันอย่างงง ๆ
คนตัวเล็ก นั่งอยู่หน้ากระจกโต๊ะเครื่องแป้ง ดวงตากลมใสกำลังมองเขาผ่านเงาสะท้อนในกระจก พร้อมกับออกคำสั่ง
“พี่ชายเป่าผมให้หนูหน่อยสิคะ เนี่ย หนูเคยดูในซีรี่ย์ มีเด็กหญิงหน้าตาน่ารักอย่างหนูนี่แหละ เป็นน้องสาวคนสุดท้อง และมีพี่ชายตั้งสามคนแน่ะ พี่ชายทั้งสามก็จะช่วยกันดูแล แล้วก็เป่าผมให้แบบนี้เลยค่ะ เป่าสิคะ” ท้ายประโยคยังย้ำขึ้นอีกครั้ง แล้วเมธัชก็ทำตามคำสั่งนั้นอย่างงง ๆ ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องทำด้วย
“นั่นมันในละคร แต่นี่มันชีวิตจริง เราไม่ควรให้ผู้ชายเข้ามาในห้องนอนนะ”
เขาค่อย ๆ เป่าผมเส้นเล็กสีน้ำตาลเข้มให้อย่างเบามือ แต่ไม่วายสั่งสอนไปด้วย เพราะดูแล้ว น้องสาวของเขาคนนี้ไม่ได้เรียบร้อย พูดน้อย อ่อนแอขี้กลัวเหมือนที่เขาจินตนาการไว้เสียแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังเอ็นดูและยินดีที่จะมีน้องสาว แม้จะดูห้าว ๆ ไปหน่อยก็ตาม
“ก็ถ้าคนนั้นเป็นพ่อ เป็นพี่ ก็เข้ามาได้ไม่ใช่หรือคะ”
เมธัชหลับตาพร้อมกับถอนหายใจแรง ๆ ก่อนจะพูดออกมา โดยไม่รู้ตัวว่าเขาชักจะเริ่มกลายเป็นคนช่างพูดเหมือนวุ้นเย็นเข้าไปทุกที
“ก็ได้ ถ้ามีเหตุจำเป็น เช่นเจ็บไข้ไม่สบาย ยิ่งถ้าเราโตเป็นสาวแล้ว ยิ่งควรสงวนความเป็นส่วนตัวให้มากกว่านี้นะเข้าใจหรือยัง”
เด็กหญิงทำสีหน้าครุ่นคิดก่อนจะพยักหน้า
“ไม่เข้าใจเท่าไหร่ค่ะ แต่หนูจะเชื่อที่พี่ชายสอนทุกอย่างเลยค่ะ”
วุ้นเย็นพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น สีหน้าก็จริงจัง เรียกรอยยิ้มบาง ๆ ให้กับใบหน้าหล่อเหลาคมคายนั้น
“เสร็จแล้ว” เขาบอก พร้อมกับเผลอลูบเส้นผมนุ่มลื่นเบา ๆ แต่พอเห็นอีกฝ่ายมองตาแป๋ว จึงรีบหดมือกลับมา
“รีบลงไปกินข้าวเถอะ อย่าให้ผู้ใหญ่ต้องรอ มันจะไม่ดี” พูดจบก็รีบเดินออกจากห้องไปทันที วุ้นเย็นรีบลุกจากเก้าอี้แล้ววิ่งตามไป
“พี่ชายรอหนูด้วยค่ะ”
...........................................................................
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา งานแต่งเล็ก ๆ แต่เต็มไปด้วยความโรแมนติกก็ถูกจัดขึ้นบนเรือสำราญ ที่วิชัยได้เหมาไว้สำหรับงานแต่งงานของเขาในค่ำคืนนี้
โสภาที่อยู่ในชุดแต่งงานสีขาวดูสวยงามโดดเด่นสมกับเป็นเจ้าสาว ยืนเคียงข้างเจ้าบ่าวที่อยู่ในชุดสูทราคาแพงสีน้ำเงินดูสง่างาม เช่นเดียวกับเมธัช ที่สวมชุดสูทสีน้ำเงิน ข้างกายก็มีวุ้นเย็นที่สวมชุดคล้ายกับของเจ้าสาว สีขาวฟูฟ่อง
ทรงผมและใบหน้าเรียวเล็กถูกช่างจัดแต่งให้อย่างสวยงาม จนใคร ๆ ต่างก็มองด้วยความชื่นชม ว่าสวยเหมือนแม่ไม่มีผิด ส่วนเมธัชนั้นก็หล่อเหลาเหมือนกับพ่อด้วยเช่นกัน
“ดูสิคะพี่ชาย ใคร ๆ ต่างก็ชมว่าเราสองคนทั้งสวยทั้งหล่อ เป็นคู่ที่เหมาะสมกันมากเลยด้วยล่ะค่ะ” เด็กหญิงพูดด้วยน้ำเสียงที่สดใสร่าเริงตามบุคลิกของเธอ
“คู่ที่เหมาะสมอะไร เราเป็นพี่น้องกันนะ” เด็กหนุ่มรู้สึกเขินแปลก ๆ ในคำพูดนั้น แม้จะเป็นคำพูดที่ไม่ได้มีเลศลมคมในอะไรก็ตาม จึงร้องปรามขึ้นเบา ๆ
“ก็คู่พี่น้องไงคะ ไม่ใช่พี่น้องแล้วจะเป็นคู่อะไรได้อีกล่ะคะพี่ชาย คิก ๆ” วุ้นเย็นหัวเราะคิกอย่างล้อเลียน ทำเอาเมธัชหน้าแดงไปถึงใบหู
เพราะจริง ๆ คำพูดของเด็กหญิงก็ไม่มีอะไรเลย จู่ ๆ หัวใจของชายหนุ่มก็กระตุกวาบ เมื่อเข้าใจว่าเป็นเขาที่คิดไปเอง กับน้องสาวที่ถึงจะเป็นลูกติดของแม่เลี้ยง ที่ทั้งพ่อและโสภาต่างก็ฝากฝังให้รักและเอ็นดูเหมือนเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของตนเอง
‘น้องสาวเรา วุ้นเย็นเป็นน้องสาวเรา คิดอะไรไปเรื่อยได้เนี่ย’ เด็กหนุ่มพ่นลมหายใจออกมาเบา ๆ เขายอมรับว่า หนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา เด็กหญิงคนนี้ ตามติดแทบจะสิงร่างของเขา เธอทั้งซุกซน ชอบขอให้พาไปสำรวจรอบ ๆ คฤหาสน์ ทั้งยังถามนั่นนี่จนบางครั้งก็รู้สึกรำคาญ แต่กลับกลายเป็นความเคยชิน ที่หากตื่นมาแล้วไม่ได้ยินเสียงเจื้อยแจ้วก็จะรู้สึกเหงาแปลก ๆ ไปแล้ว
“ตอนนี้ก็ต้อนรับแขกครบทุกคนแล้ว ธัช” วิชัยหันมาทางลูกชาย
“ครับคุณพ่อ”
“พาน้องไปหาอะไรกินสิ น่าจะหิวกันแล้ว เดี๋ยวพ่อกับน้าโสภา จะไปนั่งคุยกับแขกสักหน่อย”
“ได้ครับคุณพ่อ ไปกันเถอะ” ประโยคท้ายหันมาพูดกับเด็กหญิงที่ยืนยิ้มแป้นอยู่ข้าง ๆ พร้อมกับแบมือไปตรงหน้า
วุ้นเย็นยื่นมือเล็กวางลงไปบนฝ่ามืออุ่นอย่างยินดี
“แล้วอย่าซุกซน จนเกิดเรื่องอีกล่ะยายวุ้น” โสภาปรามอย่างเป็นห่วง
“คุณน้าวางใจเถอะครับ ผมจะดูแลน้องเอง”
เมธัชพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ก่อนจะดึงคนตัวเล็กไปที่โซนอาหารบุฟเฟ่ต์
“ว้าว น่ากินทั้งนั้นเลยค่ะ” วุ้นเย็นกวาดตามองไปที่ขนมหน้าตาน่ากินที่ส่งกลิ่นหอม พร้อมกับกลืนน้ำลายลงคออึกหนึ่ง
“ก็กินสิ”
ตอนที่30 ดูแลกันถึงบนเตียงเมธัชกลับมาถึงคอนโดก็อาบน้ำแล้วสวมเพียงกางเกงบ็อกเซอร์ กับเสื้อกล้ามสีขาว อวดกล้ามแขนที่เรียงเป็นมัดสวยแบบพอดี ไม่เหมือนกับคนที่เพาะกล้ามหรือนักยกน้ำหนักอะไรแบบนั้น แต่มัดกล้ามที่อยู่บนเรือร่างของเมธัชนั้นดูละมุน มีเสน่ห์แบบพอดิบพอดีชายหนุ่มสวมเสื้อผ้าเรียบร้อยก็เดินเข้าไปในครัว จัดการต้มบะหมี่ใส่หมูสับอย่างง่าย ๆ เสร็จแล้วก็กำลังจะกิน แต่ยังไม่ทันได้คีบบะหมี่เข้าปาก เสียงกริ่งก็ดังขึ้นเสียก่อน คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ตาคมก็หรี่ลงด้วยความแปลกใจ แต่เมื่อเสียงกริ่งดังขึ้นซ้ำ ๆ เขาจึงเดินไปดูที่ตาแมวเมื่อเห็นร่างที่อยู่ตรงประตู รูม่านตาของเขาก็หดเล็กลง ก่อนจะหันหลังกลับเข้าไปในครัว พร้อมกับหัวใจที่เต้นแรงชายหนุ่มคีบบะหมี่เข้าปาก ทำเป็นไม่ได้ยินเสียงกริ่งที่ดังมาเป็นระยะ สุดท้ายเขาก็ทนไม่ไหว คว้าแก้วน้ำขึ้นดื่ม แล้วลุกขึ้นเดินเร็ว ๆ ไปกระชากประตูออกด้วยความหงุดหงิด โดยลืมไปว่ากำลังอยู่ที่ชุดที่หมิ่นเหม่แค่ไหน “มาทำไ
ตอนที่29 รอผลตรวจ “คุณธัช ยายดาวล่ะคะ ยายดาวเป็นอย่างไรบ้าง เจ็บมากหรือเปล่า โถ่เอ๊ย! แม่บอกว่าไม่ให้พูดอะไรที่ไม่เป็นมงคลก่อนแต่งงานก็ไม่ฟัง เกิดเรื่องจนได้ ฮือ..”ญาดาร้องถามทันทีที่เห็นเมธัชยืนอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน พร้อมทั้งโวยวายตีโพยตีพายด้วยความเป็นห่วงลูก สีหน้าก็ซีดขาวราวกระดาษ เนื้อตัวอ่อนปวกเปียกคล้ายจะเป็นลม จนภากรต้องเข้ามาพยุงไว้เมธัชขยับจะพูดแต่ประตูห้องฉุกเฉินก็เปิดออกมาเสียก่อน ดุจดาวเดินออกมา เมื่อเห็นว่าแม่กำลังร้องไห้และมีท่าทีคล้ายจะเป็นลมเธอก็ถลาเข้าไปหาทันที “คุณแม่” “ยายดาว ฮือ...เจ็บตรงไหนไหมลูก แม่แทบจะช็อคตายเมื่อรู้ว่าเกิดอุบติเหตุขึ้นกับลูก ฮือ..” ญาดาพูดพลางสังเกตุไปตามเนื้อตัวของลูกสาวไปด้วยดุจดาวจับมือของแม่ไว้ พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวานและอ่อนโยน&nb
ตอนที่28 หากต้องจากกันชั่วนิรันดร์ “ทำไมดาวถึงอนุญาตให้เจ้าของร้านเอารูปไปทำโปสเตอร์ติดหน้าร้านละครับ” เมธัชเอ่ยถาม ระหว่างการเดินทางกลับบ้านดุจดาวแหงนมองเขา ด้วยสีหน้าที่กังวลเล็กน้อย “ทำไมคะธัชไม่ชอบหรือ งั้นดาวโทรไปยกเลิกไม่ให้เขาเอารูปไปใช้นะ” พูดพลางล้วงหยิบมือถือขึ้นมา เพื่อที่จะโทรหาเจ้าของร้าน เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเมธัชจะไม่โอเค แต่ข้อมือบางก็ถูกคว้าไว้ด้วยฝ่ามือหนาเสียก่อน “เปล่า ๆ ผมโอเค แต่อยากฟังความคิดของดาวแค่นั้นเอง ผมรู้ว่าทุกอย่างที่ดาวทำจะต้องมีเหตุผล แค่อยากรู้เหตุผลนั้นเองครับ” น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนและจริงใจ ดุจดาวจึงยิ้มหวานออกมา “ธัชแน่ใจนะว่า จะฟังความคิดและเหตุผลของดาวได้ โดยที่ไม่ตกใจ”ถามหยั่งเชิงดูก่อน เพราะความคิดบางอย่างของเธออาจทำให้คนฟังตื่นตกใจได้ ต
ตอนที่27เลือนรางราวหมอกควันเรือนร่างบอบบางที่อยู่ในชุดแต่งงานสีขาว ค่อย ๆ ก้าวออกมาจากห้อง ผ่านผ้าม่านบาง ๆ ชายหนุ่มมองไล่ขึ้นไปจากเท้าเล็ก ๆ ที่อยู่ในรองเท้าส้นสูงสีเดียวกับชุดผ่านช่วงเอวที่คอดกิ่ว ไปจนถึงผิวเนื้อเหนือเนินอกที่ขาวนวลเนียน ลำคอที่บางระหง แต่พอถึงใบหน้าเรียวเล็ก เขาก็ต้องผงะ นิ่งงันไปชั่วคราวเพราะนั่นไม่ใช่ดุจดาว แต่เป็นใบหน้าของวุ้นเย็นน้องสาวของเขานั่นเอง “ธัชคะ ธัช” ดุจดาวเห็นเมธัชเอาแต่จ้องมอง ด้วยสีหน้าที่แปลก ๆ จึงร้องเรียกขึ้นเบา ๆเสียงหวานทำให้เขาได้สติ ที่แท้ก็แค่เกิดภาพหลอน มองเห็นดุจดาวเป็นวุ้นเย็นไปได้ “เจ้าสาวสวยมากจนเจ้าบ่าวตกตลึง พูดไม่ออกเลยเชียวค่ะ” เจ้าของร้านดีไซเนอร์ชื่อดัง เอ่ยแซวพร้อมกับขยิบตาให้ดุจดาวอย่างมีจริตดุจดาวก้มหน้าลงเล็กน้อย หลบตาคมด้วยความเอียงอาย ถึงแม้เธอกับเขาจะสนิทกันมาก และรู้จักกันมานานแต่เธอก็ไม่เคยกล้าสบตาคม
ตอนที่26 หนูก็หวังว่าจะเป็นแบบนั้นโสภากอดลูกสาว พยายามฝืนกลั้นน้ำตาไว้ภายในอย่างเข้มแข็ง เพราะรู้ว่าลูกกำลังอ่อนแอ เธอจะต้องเป็นหลักให้ลูก “มันก็อยู่ที่ว่าหนูจะรอให้ใครมาปลดปล่อยความรู้สึกนั้น หรือหนูจะปลดปล่อยด้วยตัวเอง มันก็อยู่ที่หนูจะเลือก หัวใจเป็นของหนู หนูจะยอมให้ใครหรืออะไรมากักขังมันไว้ทำไมล่ะ” “แต่หัวใจของหนูมันไม่ดีนี่คะ ทั้งอ่อนแอทั้งขี้เกียจ พร้อมที่จะหยุดทำงานได้ทุกเมื่อ หนูเกลียดหัวใจดวงนี้เหลือเกินค่ะ ทำไมละคะแม่ ในเมื่อให้หนูเกิดมาแล้ว ทำไมถึงไม่ให้หนูเอาหัวใจที่แข็งแรงเหมือนคนอื่นมาด้วย มันอ่อนแอกับทุกความรู้สึกของหนูเลยค่ะ”เธอรำพึงรำพันด้วยความทุกข์ที่อัดอั้นอยู่ในใจ พร้อมกับซุกใบหน้าเล็กเข้าหาความอบอุ่นจากอกของผู้เป็นแม่ “แม่ถึงบอกให้หนูอยู่กับความเป็นจริงอย่างไรล่ะลูก หากเลือกได้แม่ก็จะเลือกเอาหัวใจของแม่ ให้กับลูก
ตอนที่25ความรู้สึกผิดกักขังหัวใจคนวุ้นเย็นพยักหน้าอย่างดีใจ เพราะเธอเป็นคนที่ชอบกินน้ำส้มคั้นสดมาก ๆ โสภารีบเทน้ำส้มใส่แก้ว แล้วเอาไปส่งให้ลูกสาว วุ้นเย็นรับมาก่อนจะดื่มอึก ๆ ไปครึ่งแก้ว “ค่อย ๆ ดื่มซิลูก เดี๋ยวก็สำลักเอาหรอก” โสภาพูดไม่ทันขาดคำ วุ้นเย็นก็สำลักจนน้ำตาไหล “เห็นไหม แม่บอกแล้วว่าให้ค่อย ๆ ดื่ม สำลักจนหน้าแดงแล้ว แม่ออกไปเรียกหมอดีกว่า”โสภาพูดขึ้นด้วยความกังวล พลางหมุนตัวจะออกไปเรียกหมอ แต่วุ้นเย็นคว้าข้อมือของผู้เป็นแม่ไว้เสียก่อน “แค่ก ไม่ต้อง ๆ หนูไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ” “แน่ใจนะว่าไม่เป็นไรแล้ว ถ้าเหนื่อยก็รีบบอกนะลูก” โสภายังไม่คลายกังวล “หนูหายแล้วจริง ๆ ค่ะ นี่ไงไม่สำลักแล้ว เขาว่ากันว่า เวลาที่จู่ ๆ เราจามหรือว่าสำลักแสดงว่ามีคนคิดถึง นี่ก็แสดงว่ามีคนคิดถึงหนูแน่ ๆ เลยค่ะ” วุ้นเย็นพูดติดตลกเพียงเพื่อไม่ให้แม่กังวลมากเกินไปโสภาส่ายหน้าก่อนจะบีบที่ปลายจมูกโด่งรั้นของลูกสาวเบา ๆ “คิดถึงจนทำให้ เกือบเอาชีวิตไม่รอดแบบนี้แม่ว่าอย่าคิดถึงเลยดีกว่า” โสภาพูดกลั้วหัวเราะวุ้นเย็นยิ้มบาง ๆ ตากลมหรุบมองแก้วน้ำส้มในมือ