หลังจากวันนั้นท่านอ๋องก็ให้คนมาส่งขนมให้อันถิงทุกวัน ชุนอิงเริ่มอยากรู้ว่าขนมนี้มาจากร้านใดในม่านโจว นางให้คนไปสืบจนทราบว่าเป็นร้านของผู้ที่พึ่งย้ายมาใหม่
“เช่นนั้นเองหรือ ท่านหญิงพึ่งจะนอนกลางวันไป พวกเจ้าเฝ้าให้ดีข้าจะออกไปข้างนอกสักหน่อย”
“เจ้าค่ะ”
ร้านขนมหรูเฟย
ชุนอิงเดินเข้ามาในร้านขนมที่ส่งกลิ่นหอมตั้งแต่หน้าร้านจนชวนน้ำลายสอ เมื่อเดินเข้ามาจึงพบว่ามีขนมหลายอย่างที่พึ่งทำเสร็จใหม่ ๆ นางเดินเข้ามาในร้าน เวลานั้นหรูเฟยอยู่พอดีจึงได้เดินเข้ามารับรองนาง
“แม่นางไม่ทราบว่ามีอะไรให้ข้าช่วยหรือไม่”
ชุนอิงหันไปมองหน้าของไป๋หรูเฟยที่ยิ้มให้นาง เมื่อมองดูแล้วชุนอิงรู้สึกได้ทันทีว่า นางไม่เหมือนกับแม่ค้าทั่วไป แต่เหมือนกับบุตรีขุนนางชั้นสูงมากกว่า
“แม่นาง”
“อ้อ จริงด้วยข้ามาเลือกซื้อขนมสักหน่อย น้องสาวของข้าชอบกิน”
“เช่นนั้นพอดีเลย วันนี้มีขนมงาดำที่พึ่งทำออกมาใหม่ท่านจะลองชิมดูหรือไม่”
“ไม่ละสีมันไม่ค่อยน่ากิน เจ้าดูสิดำเป็นถ่านเช่นนี้ ดูไม่เหมือนของที่ให้คนกินได้เลย”
คนที่เดินในร้านเริ่มหันมามองที่นางพูด และบางคนก็เริ่มคิดตาม แต่เดิมที่จะเลือกซื้อก็เริ่มเปลี่ยนใจ หรูเฟยเริ่มรู้สึกไม่ดีกับลูกค้าคนนี้เสียแล้ว
“เช่นนั้นลองขนมเปี๊ยะนี้ดีหรือไม่ ทำเป็นรูปดอกไม้ข้างในมีไส้ถั่วเขียว ถั่วแดงตามกลีบดอก”
“น้องสาวข้าแพ้ถั่วเขียว เด็ก ๆ น่ะกินถั่วมากไม่ดีท้องจะอืด เจ้าทำของกินขาย ไม่รู้เรื่องพวกนี้หรอกหรือ”
“ขออภัยด้วย หากวันนี้ไม่มีขนมที่ถูกใจเชิญมาใหม่วันหลังดีหรือไม่”
“นี่เจ้าไล่ลูกค้างั้นหรือ เห็นว่าคนมากขายดีแล้วจะเลือกขายหรืออย่างไร เป็นแค่แม่ค้ามีหน้าที่ขายของก็ขายสิ”
“ขออภัยด้วยเจ้าค่ะ ขนมทางนี้อาจจะไม่ถูกใจ ลองไปดูหมั่นโถวดีหรือไม่เจ้าคะ ข้าพาท่านไปเอง”
จินถานรีบเข้ามาจัดการพาชุนอิงออกไปทันที เพราะตอนนี้สีหน้าของคุณหนูพวกนางเริ่มไม่ดีแล้ว อีกอย่างเพราะคำพูดของชุนอิง ตอนนี้ลูกค้าเริ่มคิดตาม แต่มีบางคนที่ไม่ได้คิดมากถึงเพียงนั้น
“ท่านแม่ข้าอยากกินกระต่าย”
“ได้สิ”
“นี่น่ะหรือกระต่าย สีออกแดงแป๊ดขนาดนั้นไม่รู้ว่าใส่อะไรลงไป กินเข้าไปจะปลอดภัยแน่หรือ”
“แม่นาง สินค้าในร้านของข้าทำมาจากผักและธัญพืช ไม่มีส่วนผสมที่อันตราย ข้าขายมานานแล้วยังไม่มีผู้ใดเห็นว่ามีปัญหา วันนี้หากเจ้ามิได้มาซื้อขนมแต่มาหาเรื่อง ข้าคิดว่าเราคงต้องคุยกันหน่อยแล้ว”
“นั่นสิ ขนมของแม่นางไป๋นอกจากจะอร่อยแล้วยังมีประโยชน์ด้วย นางมิได้ใส่แค่แป้งหรือน้ำตาล ยังผสมผักให้เด็กที่กินผักยากกินง่ายขึ้น หากเจ้าไม่รู้อะไรก็รีบออกไป อย่ามาสร้างความวุ่นวาย”
“ใช่ ๆ ออกไป สร้างความวุ่นวาย นิสัยไม่ดี”
“อะไรของพวกเจ้านี่ ข้าก็แค่…โอ๊ย! กล้าผลักข้างั้นหรือ ไม่รู้หรือว่าข้าเป็นผู้ใด”
“เจ้าจะเป็นองค์หญิง หรือใครมาจากไหนก็ไม่มีสิทธิ์มากล่าวหาคนอื่นเช่นนี้ ข้ากินหมั่นโถวกับขนมเปี๊ยะร้านเถ้าแก่ไป๋มานานไม่เห็นจะมีปัญหา เจ้าจงใจมาหาเรื่องนางชัด ๆ"
“ใช่ ๆ ออกไปนะ ออกไป!”
“อย่าผลักข้านะ พวกชั้นต่ำ ข้าเป็นคนในตำหนักท่านอ๋อง! มีหน้าที่ดูแลท่านหญิงฟู่ซึ่งเป็นพระขนิษฐาของท่านอ๋อง พวกเจ้ากล้าทำร้ายหรือ"
ทุกคนนิ่งไปเมื่อชุนอิงเอ่ยอ้างท่านอ๋องขึ้นมา ไป๋หรูเฟยนิ่งไปทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น นางเดินกลับเข้าไปในร้านทันที
“คุณหนูเจ้าคะ”
“ทำไม! เมื่อครู่ยังยืนด่าข้าอยู่เลยมิใช่หรือ ตอนนี้เป็นใบ้กันไปหมดแล้วหรืออย่างไรกัน ข้าน่ะ…”
“ซ่า…. ส์”
“กรี๊ด!! เฮือก….”
น้ำเย็น ๆ สาดไปที่สตรีที่ยืนอยู่หน้าร้าน ชุนอิงทั้งหนาวทั้งโกรธเมื่อเห็นว่าผู้ใดที่สาดน้ำใส่นาง
“เจ้า! นี่ถึงกับกล้า….”
“ก็แค่สาดน้ำไล่สุนัขตัวหนึ่งที่มากร่างผิดที่ เหตุใดจึงไม่กล้าเล่า”
“เจ้า! ข้าเป็นถึงคนของตำหนักท่านอ๋อง เจ้ากล้าทำร้ายข้าเช่นนี้ไม่กลัวความผิดเลยงั้นหรือ”
“ต่อให้เจ้าเป็นพระสนมของฝ่าบาท ก็ไม่มีสิทธิ์มากล่าวหาคนอื่น หรือหากว่าแม่นางว่างมาก เช่นนั้นก็ไปศาลาว่าการกับข้าในตอนนี้เลย เพื่อพิสูจน์ความจริงว่าผู้ใดกันแน่ที่ผิด ข้าไป๋หรูเฟยทำการค้าอย่างขาวสะอาด ไม่กลัวคนใส่ร้าย”
“ใช่ ๆ ข้าเห็นด้วย”
“ใช่ จับนางไปเลย”
“พวกเจ้า…พวกเจ้า! ฝากไว้ก่อนเถอะ ไป๋หรูเฟย”
“ไปเลย คนสารเลว”
“ไป ๆ”
เมื่อชุนอิงรีบกลับไปที่รถม้าและออกจากหน้าร้านไป หรูเฟยจึงรีบเดินกลับเข้ามาในร้านทันทีด้วยความโมโห
“คุณหนูอย่าพึ่งโมโหไปเลยนะเจ้าคะ นางคงแค่จะมาหาเรื่องเท่านั้น น่าจะเป็นคนของร้านอื่น”
“ใช่เจ้าค่ะข้าก็คิดเช่นนั้น หมั่นโถวและขนมในร้านของเราแปลกใหม่และไม่เหมือนใคร ร้านในเมืองคงจะเริ่มส่งคนมาก่อกวน ท่านก็อย่าคิดมากเลยนะเจ้าคะ”
“นางเป็นคนของตำหนักท่านอ๋องจริง ๆ พวกเจ้าไม่ทันสังเกตโคมที่ห้อยหน้ารถม้าของนางงั้นหรือ”
“อะไรนะ นี่นางเป็นคนตำหนักท่านอ๋องจริง ๆ หรือนี่ เช่นนั้นที่นางมาที่นี่ ก็เพราะท่านอ๋องสั่งงั้นหรือ”
“ไม่ใช่เป้าเซี่ยเจ้าเข้าใจผิดแล้ว นางมาเพราะคิดว่าท่านอ๋องมาที่นี่จึงจงใจมาหาเรื่องคุณหนู คิดว่าท่านอ๋อง…”
“ให้ตายเถอะ…”
“ช่างเถอะพวกเจ้าไม่ต้องเดาแล้ว ข้าขอไปสงบอารมณ์หลังร้านก่อนนะ อย่าลืมปิดร้านให้ดีด้วยล่ะ”
""เจ้าค่ะ""
ไป๋หรูเฟยคิดเอาไว้อยู่แล้วว่า การที่ท่านอ๋องเสด็จมาที่นี่ทุกวัน แม้ชาวบ้านแถวนี้จะไม่รู้ว่าเขาคือผู้ใด แต่มิใช่ว่าคนในตำหนักจะไม่รู้ ต่อให้วันนี้ไม่มีเรื่องนี้เกิดขึ้น วันข้างหน้าท่านอ๋องผู้นี้ก็คงหาเรื่องเดือดร้อนมาให้นางอีกอยู่ดี
“ไม่ควรพบกันเลยจริง ๆ ขออยู่อย่างสงบสุขเสียหน่อย มันยากมากนักหรืออย่างไรกัน”
“แล้วเหตุใดชีวิตเจ้าถึงไม่สงบเล่าไป๋หรูเฟย”
“ท่าน!”
จ้าวเฟิงหมิงเดินมาถึงเรือนด้านหลัง เพราะทราบมาจากสาวใช้ของนางที่หน้าร้านว่า หรูเฟยมานั่งพักผ่อนอยู่ที่สวนเขาจึงเดินมาหา แต่เมื่อเห็นสีหน้าที่ยิ่งกว่าโกรธของนางกลับทำให้ท่านอ๋องหุบยิ้มทันที
“ถวายบังคมท่านอ๋องเพคะ”
“เอ่อ นี่เจ้าโกรธหรือ ที่ข้าเข้ามาโดยพลการ”
“เปล่าเพคะ แต่ทางที่ดีพระองค์ไม่ควรเสด็จมาที่นี่อีกเลยจะดีกว่า”
"เพราะเหตุใดกัน นี่เดี๋ยวสิไป๋หรูเฟย รอข้าก่อน"
นางรีบเดินมาที่หน้าร้าน เพื่อเลี่ยงที่จะอยู่กับเขาตามลำพัง ในตอนนี้สิ่งที่ต้องการมากที่สุด ก็คือให้เขากลับไปโดยไม่ต้องมาที่นี่อีก
“นี่เจ้าไม่พูดกับข้า เช่นนี้แล้วจะขายขนมได้เช่นไร แม่ค้าหน้างอเช่นนี้ใช้ได้ที่ไหนกัน”
“ท่านอ๋องเพคะ…”
“ข้าพูดสิ่งใดผิดงั้นหรือ”
ท่าทางของเขายังคงนิ่งสงบราวกับไม่รู้ร้อนรู้หนาว แต่ไป๋หรูเฟยที่เห็นเช่นนี้กลับยิ่งโมโหจนอยากจะสาดน้ำใส่เขาอีกคน เหมือนกับที่ทำไปก่อนหน้านั้น ท่านอ๋องเดินตามนางออกมาหน้าร้านเงียบ ๆ
“วันนี้ข้าเอา…”
“วันนี้ขนมขายหมดแล้วเพคะ”
“แต่ข้าเห็นว่า…”
“มีคนจองแล้ว เป้าเซี่ย เก็บของเดี๋ยวลูกค้าจะมารับ”
“เอ่อ… เจ้าค่ะ”
“เช่นนั้นเอาหมั่นโถว…”
“หมดแล้วเช่นกันเพคะ จินถานเก็บของลงได้แล้ว เตรียมปิดร้าน”
“นี่ไป๋หรูเฟยมาคุยกันดี ๆ เถอะ เจ้าไปโมโหอะไรมาถึงได้มีท่าทีเช่นนี้ หากว่าข้าไปล่วงเกินอะไรเจ้า หรือทำให้เจ้าไม่พอใจก็พูดออกมาตรง ๆ ก็ได้ น้องสาวของข้ารอขนมของเจ้าอยู่นะ”
“เกรงว่าน้องสาวที่พระองค์ตรัสถึง คงจะมิได้ชื่นชอบขนมที่ร้านของหม่อมฉันถึงเพียงนั้น อีกอย่างหากพระองค์ต้องการจะซื้อขนมให้ได้ ก็เชิญเสด็จไปซื้อที่หอรุ่ยหรงเถิดเพคะ ที่นั่นเป็นร้านใหญ่เลื่องชื่อน่าจะมีขนมที่พระองค์ต้องการอยู่ ทูลลาเพคะ”
“เอ่อ …. นี่!”
นางเดินกลับเข้าไปในร้านแล้ว ตั้งแต่รู้จักนางมาเกือบสองเดือน พึ่งจะมีวันนี้ที่เห็นนางโกรธ จนไม่อยากคุยกับเขาอย่างเปิดเผย
“ลืมระงับความโมโหไปหมดแล้วหรืออย่างไรกันนะ หยวนจื่อ"
“พ่ะย่ะค่ะ”
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”
“ทูลท่านอ๋อง เมื่อครู่กระหม่อมถามสาวใช้ของเถ้าแก่ไป๋แล้ว เห็นว่าวันนี้…”
“มีอะไรก็รีบพูด”
“แม่นางชุนอิงมาที่นี่ แล้วกล่าวหาว่าขนมของเถ้าแก่ไป๋อันตรายไม่เหมาะให้เด็กกิน นางพูดจนทำให้ลูกค้าหลาย ๆ คนคล้อยตามจนมีเรื่อง สุดท้ายเถ้าแก่ไป๋จึงสาดน้ำไล่นางออกจากร้านพ่ะย่ะค่ะ”
“เจ้าว่าอย่างไรนะ ชุนอิงมาหาเรื่องนางที่นี่งั้นหรือ”
ร้านขนมหรูเฟย“ไม่ได้นะเพคะพระชายา นั่งอยู่เฉย ๆ เถิดเพคะ”หรูเฟยลุกขึ้นมาหยิบขนม เพื่อจะนำออกไปหน้าร้านแต่กลับถูกจินถานดึงเอาไว้“พี่หรูเฟยท่านอย่ายืนตรงนี้สิเพคะ เดินไปนั่งในสวน แต่ถ้าไม่รู้จะทำอะไรก็กลับตำหนักไปก่อนเถิดเพคะ เดี๋ยวหกล้มไปท่านพี่จะหาว่าข้าไม่ดูแลท่านเอานะ"“ท่านหญิงเพคะ! เหตุใดจึงต่อว่าพระชายาเช่นนั้น พระชายาเพคะ…”“แม่นมเซี่ยอย่าไปต่อว่านางเลย อันถิงก็มักจะพูดเช่นนี้ท่านยังไม่ชินอีกหรือ ข้าไปนั่งตามที่นางสั่งดีกว่าจะได้ไม่วุ่นวายคนอื่นด้วย”“หม่อมฉันพยุงไปเองนะเพคะ”แม่นมเซี่ยเป็นฝ่ายช่วยพยุงนางไปนั่ง ตอนนี้อันถิงแทบจะทำงานแทนนางได้ทุกอย่างในร้านแล้ว เพราะหรูเฟยสอนให้นางเริ่มดีดลูกคิดและทำบัญชี แม้ว่าจะยังไม่เก่งมากแต่อันถิงเป็นเด็กหัวไว สอนเพียงนิดเดียวก็จำได้แล้ว หรูเฟยนั่งมองทั้งสามคนดูแลลูกค้า สักพักอันถิงก็ยกขนมมาวางให้นาง“นี่อะไรหรือ”“พี่หรูเฟยเมื่อครู่นี้ข้าตะคอกใส่ท่านรุนแรงไปหน่อย เพราะเป็นห่วงกลัวว่าท่านจะหกล้ม ข้าขอโทษด้วยเพคะ"“เด็กดี ข้าต่างหากที่มาเพิ่มความวุ่นวายให้เจ้า นี่หมั่นโถวที่เจ้าทำเองหรือ ฝีมือเจ้าเก่งขึ้นมากเลยนะ”“ใช่เพคะ ข้าให้พี่จินถานส
“อะไรนะเพคะ เมื่อครู่นี้ในห้องอาบน้ำนั่น…ก็ตั้งหลายรอบแล้ว”“ข้ารู้ว่าเจ้าคงเหนื่อยสินะ เห็นแม่นมเซี่ยบอกว่าช่วงนี้เจ้าเอาแต่ง่วงนอนในช่วงบ่าย ขนาดสอนอันถิงเดินหมากเจ้ายังเผลอหลับ จริงหรือไม่”“หม่อมฉันแค่รู้สึกเพลียมากกว่าปกติ อีกอย่างอากาศเย็นร่างกายก็เลยมีแรงน้อยลงกระมังเพคะ”“เช่นนั้นเราก็ควรจะรีบกินให้อิ่ม แล้วพักผ่อนให้มาก ๆ คืนนี้ข้าจะไม่รังแกเจ้าแล้ว จะได้พักผ่อนให้เต็มที่”“เพคะ”ทั้งสองไม่ได้พูดคุยกันถึงหัวข้อเหล่านี้อีก แม้ว่าหรูเฟยเองจะยังรู้สึกเห็นใจท่านอ๋อง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากช่วยเขาและทำหน้าที่พระชายาให้ดีอย่างไร้ที่ติ ซึ่งที่ผ่านมาทุกคนก็ประจักษ์แก่สายตาแล้วว่านางเป็นสตรีที่เหมาะสมกับท่านอ๋องสิบวันถัดมา / ประชุมราชสำนัก“นอกจากเรื่องปัญหาชายแดนแล้ว ยังมีอะไรอีกหรือไม่”“ทูลท่านอ๋อง กระหม่อมกับเหล่าขุนนางเห็นว่าในตอนนี้ บ้านเมืองสงบไร้ศึกสงคราม เหมาะสำหรับที่จะเพิ่มตำแหน่งสตรีสูงศักดิ์ เพื่อช่วยเหลือพระองค์คลายกังวลเกี่ยวกับ…”“พอเถอะใต้เท้าจาง สุดท้ายแล้วก็อยากให้ข้าแต่งตั้งสนม หรือไม่ก็พระชายารองเพิ่มงั้นสินะ”ใต้เท้าจางกระแอมออกมา และรีบหันไปหาคนอื่น ๆ เพื่อช่วย
ตำหนักท่านอ๋องวันนี้เป็นการประชุมราชสำนักประจำเดือนที่ค่อนข้างตึงเครียด เมื่อท่านอ๋องกลับมาถึงตำหนัก ก็มุ่งหน้าไปแช่น้ำอุ่นเพื่อผ่อนคลายในทันที เสียงประตูห้องอาบน้ำเปิดออกมา พระองค์คิกว่าหยวนจื่อนำผ้ามาให้จึงได้ตะโกนออกไป“วางเอาไว้แล้วออกไปเถอะ เดี๋ยวข้าจัดการเอง”“เหตุใดจึงรีบไล่ถึงเพียงนี้เล่าเพคะ หม่อมฉันก็แค่อยากจะมาอาบน้ำให้พระองค์เท่านั้น”“หรูเฟยเจ้าเองหรือ แล้วหยวนจื่อเล่า”“หม่อมฉันให้หยวนจื่อไปรับอันถิงที่ร้านเพคะ วันนี้ควรจะกลับตำหนักเล็กได้แล้ว พรุ่งนี้มีเรียนกับอาจารย์สอนวาดภาพ”“เช่นนี้เองสินะ”ไป๋หรูเฟยเดินมาใกล้ ๆ และพลันถอดชุดออกและเดินลงมาในสระน้ำอุ่น ท่านอ๋องกับนางแม้จะอภิเษกกันมากว่าสามเดือน แต่ก็ยังไร้วี่แววทายาท บัดนี้เริ่มถูกเหล่าขุนนางกดดันอีกครั้งด้วยเรื่องของผู้สืบทอด ซึ่งหากจะพูดให้ถูกก็คือ อยากให้ท่านอ๋องแต่งตั้งพระสนมเข้าวังมาเพิ่ม หรูเฟยรับรู้เรื่องนี้จากหยวนจื่อมาก่อนแล้ว จึงได้เข้ามาหาเขา“เอนศีรษะมาสิเพคะ วันนี้พระองค์คงเหนื่อยล้ามาก หม่อมฉันจะนวดให้นะเพคะ”“อืม… ยังคงเป็นเจ้าที่รู้ใจข้ายิ่งนัก วันนี้ประชุมหลายเรื่องมากจริง ๆ เลยรู้สึกล้า ก็เลยอยากอา
หรูเฟยมิได้ขัดขืน นางเพียงแค่โอบรอบคอเขาให้แน่นกว่าเดิมเพื่อให้ท่านอ๋องอุ้มไปที่ห้องนอน ซึ่งทั้งคู่มีค่ำคืนแห่งความทรงจำครั้งแรกด้วยกันที่นี่ และบัดนี้ก็เป็นอีกครั้งที่ได้กลับมา“ยังจำได้หรือไม่”“จำได้สิเพคะ ไม่มีวันลืม”“เช่นนั้นเรามารำลึกความหลังกันอีกครั้ง ในวันนั้นเจ้ามาที่นี่เพราะเรื่องวุ่นวายในใจ ครั้งนั้นพวกเราช่วยกันก้าวข้ามเรื่องนั้นมาได้ วันนี้มาที่นี่ในฐานะพระชายาของข้า ดังนั้นคืนนี้ก็เริ่มทำหน้าที่ของเจ้าเสียแต่โดยดี”“หม่อมฉันยินดีเพคะ”หรูเฟยเริ่มจากจูบเขาและค่อย ๆ ดึงฉลองพระองค์ของท่านอ๋องออกและเริ่มปลดเปลื้องชุดของตัวเองออกต่อหน้าเขา ท่านอ๋องแทบจะทนไม่ไหวเมื่อนางทำเช่นนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นผิวเนื้อเนียนตรงหน้าที่ผ่านการขัดและอบร่ำสมุนไพรตามตำรับวังหลวง ทำเอาพระทัยท่านอ๋องสั่นไม่เป็นจังหวะ สุดท้ายก็ทนไม่ไหว และเริ่มระเริงรักอุ่นเตียงก่อนที่เสียงดอกไม้ไฟลูกสุดท้ายจะดังขึ้น“อื้อ…อ๊าา เบาหน่อยเพคะ”“หอคอยในคืนนี้ไม่มีคนอื่น มีเพียงเราสองคน ต่อให้เจ้าร้องดังมากเท่าใดก็ไม่มีใครได้ยิน”“อ๊าา….”ลิ้นของเขาฉกช่วงชิงความหวานจากยอดปทุมคู่งามอีกครั้ง มือหนาบีบเคล้นจนนาง
“เฟิงหมิง! ท่านมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วเหตุใด….”“ก็มาตอนที่เจ้ากำลังคิดแผนการจะหนีงานแต่งน่ะสิ”“ข้าเปล่านะเพคะก็แค่พูดไปเรื่อยเปื่อย”ท่านอ๋องจับตัวนางพลิกขึ้นมา และทาบตัวลงไปกดทับนางเอาไว้มิให้หนีทันที เขาใช้นิ้วหยอกไปที่ปลายจมูกของนางอีกครั้ง“ก็ลองทำดูสิ ดูว่าเจ้าจะถูกลงโทษเช่นไร”“ท่านอย่าทำรุ่มร่ามนะ ข้าไม่อยากมีรอยบนตัวในช่วงนี้ อายคนอื่น”“อายทำไมกัน เจ้าคิดว่าพวกนู่กวนหรือหมัวมัวพวกนั้นไม่เคยเห็นเรื่องแบบนี้มาก่อนหรือ ไม่เอาน่ายิ่งเจ้ามีครรภ์เร็วเท่าใดก็ยิ่งดี ข้าจะได้ไม่ต้องยุ่งยากเรื่องตอบคำถามของเหล่าขุนนาง ก่อนหน้านั้นก็เร่งให้ข้าแต่ง หลังจากแต่งก็คงเร่งให้มีบุตร ไม่จบไม่สิ้นจริง ๆ”“เหนื่อยหรือเพคะ”“นิดหน่อยน่ะ วันนี้หลังจากประชุมเสร็จ หลิวกงกงก็พาช่างภูษามาวัดตัวและคุยเรื่องงานอภิเษก เจ้ากรมพิธีการคนใหม่ก็เร่งทำผลงานเสียจริง เอาแต่ถามข้าไม่หยุดว่าเจ้าชอบหรือไม่ชอบอะไร แม้แต่ม่านในห้องส่งตัวยังถามอยู่ตั้งสามสี่ครั้งว่าข้าชอบหรือไม่ ขอเอนหลังนอนตักเจ้าพักสายตาสักครู่เถอะ"ท่านอ๋องขยับไปนอนที่ตักของหรูเฟย ซึ่งลุกขึ้นมานั่งและให้เขานอนที่ตัก มือนางถูกเขาดึงไปจูบและกอดเอาไว
หรูเฟยเงยหน้าขึ้นมา และประทับจูบลงบนจมูกคมคายตรงหน้า นางลูบไปตามใบหน้าคมของเขา ท่านอ๋องหลับตาคล้อยตามสัมผัสของนาง ริมฝีบางอุ่นของหรูเฟยค่อย ๆ บดลงมาประกบกับปากอิ่มของเขา ร่างของทั้งคู่เริ่มเบียดกันจนผ้าห่มเริ่มหลุดรุ่ยลงไปจากเตียง“หรูเฟย…ข้าสัญญาว่าจะเบามือ”“กอดหม่อมฉันเถิดเพคะ”ท่านอ๋องมิได้รั้งรอหลังจากนั้น เขาอดทนรอให้นางหายมาหลายวัน จนวันนี้ที่ทุกอย่างถูกจัดการจนจบสิ้น คนร้ายได้รับโทษตามที่สมควร และท่านอ๋องก็ทำตามที่เคยให้คำมั่นไว้ “จัดการให้หมดทุกคนไม่มีข้อยกเว้น”“ข้ารักเจ้ายิ่งนัก หากทนไม่ไหวก็รีบบอก ข้าจะอ่อนโยนลง”“ข้ารักท่านจ้าวเฟิงหมิง ได้โปรดรักข้าเถิดเพคะ”จุมพิตเร่าร้อนได้เริ่มขึ้น ท่ามกลางค่ำคืนอากาศที่เริ่มหนาวเย็นกลางฤดูใบไม้ร่วง แผลบนเรือนร่างของนางตอนนี้เริ่มหายสนิทแล้ว เหลือแค่ที่ศีรษะซึ่งยังต้องทำแผลอยู่ แต่โดยรวมแล้วถือว่าหายดีแล้ว“อ๊ะ…ท่านอ๋อง…”หน้าอกอวบถูกเขาบีบเคล้น ยอดอกที่แข็งเป็นไตสู้มือเมื่อถูกลิ้นอุ่นโลมเลียจนเปียก ร่องรักที่เริ่มแฉะถูกกระตุ้นด้วยนิ้วเริ่มส่งเสียงออกมา บทรักท่านอ๋องเร่าร้อนขึ้นตามไฟปรารถนาที่ลุกท่วม “อ๊าา…เฟิงหมิง อื้อ…”เสียงบดกระแท