หน้าหลัก / รักโบราณ / ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี / บทที่ 39 : พวกเขาเรียกมันว่าหมาสู่

แชร์

บทที่ 39 : พวกเขาเรียกมันว่าหมาสู่

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-08 03:42:23

บทที่ 39 : พวกเขาเรียกมันว่าหมาสู่

หลังหวงจื่อถงได้เข้าไปเรียนในสำนักศึกษา หม่าซูเหวินก็ไม่ได้มาสอนเด็กน้อยเรียนหนังสืออีกต่อไป สำหรับหลินลู่ฉีแล้วนางเข้าใจหลักการเขียนหมดแล้ว ส่วนเรื่องการอ่านนั้นนางอ่านออกตั้งแต่แรก ยกเว้นหวงจื่อเหยา นางจำตัวอักษรยังไม่ได้ด้วยซ้ำ

“ท่านลุงทำอะไรหรือเจ้าคะ”

หลินลู่ฉีหยิบขนมโก๋ที่ฉินซื่อปรับสูตรล่าสุดออกมากินเล่น ไม่คิดว่านางจะเห็นหวงชางกำลังใช้กิ่งไม้ ขีดเขียนอยู่บนพื้นดินในลานบ้าน

หวงชางรีบวางไม้ลง แล้วยืนขึ้นมองเด็กน้อยอย่างเก้อเขิน หลินลู่ฉีเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ สิ่งที่เขาเขียนลงไปบนพื้นดินนั้น ดูยึกยือไม่คล้ายตัวอักษร

“นี่คือ”

“เอ่อ ลุงอยากเขียนชื่อตัวเองดู ไม่มีอะไรหรอก”

หลินลู่ฉีเงยหน้าขึ้นมองเขา ทันใดนั้นนางก็สัมผัสได้ถึงความปรารถนาอันแรงกล้า หวงชางอยากรู้ตัวอักษรนี่เอง เขาคงอายเกินกว่าจะบอกหม่าซูเหวินตรง ๆ

“ท่านลุงข้าขอถามท่านตรง ๆ ท่านอยากอ่านออกเขียนได้ใช่หรือไม่” นางจ้องเขานิ่ง ๆ ไม่มีท่าทีล้อเล่นแต่อย่างใด

หวงชางหัวเราะออกมาเบา ๆ “มันก็ใช่ แต่ว่า”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี   บทที่ 106 : ฉีฉีบอกว่านี่เป็นการแต่งกายตบตาโจร

    บทที่ 106 : ฉีฉีบอกว่านี่เป็นการแต่งกายตบตาโจร หลินลู่ฉีมองหาเรือนให้เช่า เพราะต้องอยู่ที่นี่หลายวัน พักผ่อนก่อนสอบสามวัน ลงสนามสอบอีกสามวันสามคืน เมื่อสอบเสร็จนางจะพาพี่ชายท่องเที่ยวในเมืองฉางสองสามวัน เพื่อให้เขาคลายเครียดหลังสอบ เมื่อหารือกับหวงชางเรื่องนี้เขาเองก็เห็นด้วย “ฉีฉีข้าคิดว่าครอบครัวพี่จงน่าจะมีปัญหาหาเรื่องที่พัก ข้าได้ยินพวกเขาถามหาวัดกันอยู่” หวงจื่อถงกระซิบบอกน้องสาว หลินลู่ฉีหันไปทางหวงชาง เห็นเขาเดินหน้าเครียดเข้ามา หลังจากเข้าไปพูดคุยกับครอบครัวของจงหยุนได้พักใหญ่ ๆ “พวกเขาจะไปอยู่ที่วัดกัน ข้าเลยมาถามพวกเจ้า ว่าจะเอาอย่างไรกันต่อ” “ท่านลุงเชิญท่านลุงจงไปพักที่เรือนเช่ากับพวกเราเถอะ อย่างน้อยก็มีสหายช่วยทบทวนบทเรียนให้พี่จื่อถง เขาจะได้ไม่แอบไปอู้ที่ไหน” “ฉีฉีในสายตาเจ้า พี่ชายอย่างข้าเลวร้ายปานนั้นเชียว” “ลุงบอกไปแล้ว แต่พวกเขาปฏิเสธ” หลินลู่ฉีหันไปทางพี่ชาย เอ่ย “พี่จื่อถงไปช่วยท่านลุงพูดกับพวกเขาที บอกว่าพวกเราคิดค่าเช่าให้แบบถูก ๆ” “ได้” หวงจื่อถงเดินตรงเข้าไปห

  • ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี   บทที่ 105 : สิบตำลึงก็หมดเนื้อหมดตัวแล้ว

    บทที่ 105 : สิบตำลึงก็หมดเนื้อหมดตัวแล้ว เมื่อเงินเดินทางมาไม่ทันเวลา อาหารการกินของสองพี่น้องบ้านใหญ่ก็ไม่เพียงพอ พวกเขานำเงินมาแค่ห้าสิบตำลึง แต่ถูกโจรแย่งชิงเอาไปจนหมด เงินที่จี้ฮุ่ยเหอรวบรวมได้นั้น เขากลับใช้จ่ายเหมือนเช่นเคย ไม่มีการประหยัดแต่อย่างใด สุดท้ายแล้วก่อนถึงเมืองฉางสองวัน เงินของพวกเขาก็หมด ไม่สามารถจ่ายค่าที่พักได้อีกต่อไป “พวกเจ้าทำงานกันอย่างไร ไหนว่าเดินทางไปกลับด้วยม้าเร็ว เหตุใดยังมาไม่ถึงอีก” จี้ฮุ่ยเหอโวยวายใส่คนของตนเอง “ขออภัยคุณชายจี้ ข้าน้อยไม่รู้จริง ๆ ว่าทางนั้นเกิดเรื่องอะไรหรือไม่ คำนวณเวลาดูแล้ว วันนี้เงินต้องมาถึงวันนี้ขอรับ” “ไปบอกผู้ดูแลว่าข้าเป็นลูกชายนายอำเภอหยาง” “ข้าน้อยบอกไปแล้ว แต่พวกเขายืนยันว่าตามกฎของโรงเตี๊ยม ต้องจ่ายเงินก่อนเข้าพักเท่านั้น” “พวกสุนัขตาไร้แวว !” จี้ฮุ่ยเหอด่าทอแต่ก็ไม่กล้าเข้าไปด้านในโรงเตี๊ยม อยู่อำเภอหยางเขาอวดเบ่งได้ แต่ที่นี่เขาไม่มีอำนาจทำเช่นนี้ หากไม่ดูให้ดีล่วงเกินคนไม่สมควรเข้า อาจทำให้ตัวเองลำบากได้ อำเภอแห่งนี้อยู่ใกล้เมืองฉาง ดูแล้วรุ่งเรืองก

  • ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี   บทที่ 104 : พวกไม่ได้เรื่อง !

    บทที่ 104 : พวกไม่ได้เรื่อง ! หวงชางหันมามองคนบุตรชายของตนเอง พลันตระหนักได้ว่าเขากับหลินลู่ฉีต่างหาก คือคนในครอบครัวที่ต้องปกป้อง “ได้ข้าฟังฉีฉี ขืนมีใครมาทำอันตรายพวกเจ้า กลับไปอาอี้คงได้ไล่ข้าออกจากบ้านเป็นแน่” “ข้าว่าโจรพวกนั้นคงมาปล้นคนรวยเดินผ่านคนจน ถือว่าพวกเราโชคดีแล้ว” จงซือหยางเอ่ยขึ้นเบา ๆ “พี่ชายพวกเราจนเลยโชคดีหรือเจ้าคะ” อาเจียวกระตุกข้อมือพี่ชายระหว่างถาม “ใช่แล้วล่ะอาเจียว” เขาลูบศีรษะกลมน้อยของนางสาวเบา ๆ เสียงปะทะกันเงียบลงแล้ว พวกโจรได้ของที่ต้องการ ก็ร่นถอยกลับไปในทันที ทิ้งไว้เพียงกลุ่มคนที่นอนโอดโอยด้วยความเจ็บ หลินลู่ฉีเห็นสีหน้าเป็นกังวลของหวงชาง นางจึงเอ่ย “ตรงนั้นไม่มีใครตายหรอก พวกเรานอนต่อกันเถอะ” “ฉีฉีเจ้าขึ้นรถม้าไปนอนก่อน ตรงนี้ข้าจะเฝ้ายามเอง” หวงชางยังไม่วางใจ จงซือหยางเดินมาหาหวงจื่อถง พร้อมเอ่ยถาม “ข้าได้ยินบิดาเจ้าบอกว่า ญาติของเจ้าอยู่ในรถม้าคันนั้นด้วย” หวงจื่อถงดึงเขาไปกระซิบตรงที่เงียบ ๆ เล่าเรื่องราวระหว่างพวกเขากับสองคนนั้นให้ฟังอย่างคร่าว ๆ เพ

  • ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี   บทที่ 103 : ข้าเป็นผู้หญิง

    บทที่ 103 : ข้าเป็นผู้หญิง ต่อให้จี้ฮุ่ยเหอจะพยายามนำหน้าไปไกลเพียงใด แต่จุดพักค้างคืนระหว่างทาง กลับมีไม่มากนัก ยิ่งตอนที่ต้องพักแรมกลางป่าเขา หลายคนจึงจับกลุ่มค้างคืนอยู่ใกล้กัน ป้องกันเหตุร้ายไม่ให้เกิดขึ้น “ท่านพ่อมีอะไร” หวงจื่อถงถามบิดาขณะที่กำลังหาที่พักค้างคืนกลางป่าอยู่ “ข้าคิดว่ากลุ่มของฟงเอ๋อร์มีคนเยอะ อยากจะขอค้างแรมใกล้ ๆ กัน แต่ว่าคุณชายจี้ผู้นั้นไม่อนุญาต” เพราะเป็นห่วงเด็ก ๆ จึงอยากอาศัยกำลังคนของอีกฝ่าย ช่วยคุ้มกันระหว่างทางด้วย “ท่านพ่อข้าบอกไปแล้วว่าอย่าไปยุ่งกับพวกเขา ใช่ว่าพวกเราเอาตัวไม่รอดเสียเมื่อไหร่” “ข้ารู้แต่ว่าคนเยอะไม่ดีกว่าหรือ” “ท่านลุงเขาไม่อยากให้พวกเขาเข้าใกล้เขา ท่านก็อย่าได้พยายามอีกเลย ตรงนั้นข้าเห็นว่ามีบัณฑิตอยู่ครอบครัวหนึ่ง พวกเราไปพักใกล้ ๆ กับพวกเขาดีหรือไม่” หลินลู่ฉีชี้ยังครอบครัวบัณฑิตยากจนใต้ต้นไม้ “ได้ ๆ ข้าจะลองเข้าไปถามพวกเขาดูก่อน พวกเจ้ารอสักครู่” หวงชางเดินเข้าไปถามพวกเขาอย่างสุภาพ ไม่ช้าเขาก็กลับมาพร้อมกับข่าวดี พวกเขาเป็นชาวบ้านจากอำเภอแห่งห

  • ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี   บทที่ 102 : ไม่คิดว่าญาติของพวกเจ้าจะซอมซ่อเพียงนี้

    บทที่ 102 : ไม่คิดว่าญาติของพวกเจ้าจะซอมซ่อเพียงนี้ หวงชางคิดว่าตัวเองหูแว่วไป เขาไม่ได้กลับตระกูลหลักหลายปี จึงแทบจำหน้าของหลานชายทั้งสองไม่ได้ เขากำลังยุ่งอยู่กับการจอดรถม้า และพาเด็ก ๆ ลงมาจากรถม้า “ท่านอาสามของพวกเจ้ารึ” จี้ฮุ่ยเหอมองหวงชางแล้วแอบดูแคลนเล็กน้อย ดูจากเสื้อผ้ากับรถม้าเก่าโทรม สีหน้าของจี้ฮุ่ยเหอทำให้สองพี่น้องลอบส่งสายตาให้กัน รู้ได้ในทันทีว่าจี้ฮุ่ยเหอรังเกียจพวกเขา นิสัยดั้งเดิมของเขานั้นดูเหมือนสุภาพอ่อนโยน แต่ลึก ๆ แล้วแอบแบ่งชนชั้นการคบหาอย่างชัดเจน หากเขาสองพี่น้องไม่พูดจาน่าฟัง คอยเอาอกเอาใจเขาตลอดเวลา มีหรือจะได้กลายเป็นสหายร่วมเรียนที่สนิทสนมเช่นนี้ได้ “ท่านอาสามข้าฟงเอ๋อร์เองขอรับ” หวงชุนฟงเดินเข้าไปทักทายเขาตามมารยาท แต่ก็เว้นระยะห่างอย่างไว้ตัว “ท่านอาสามข้าอี้เอ๋อร์ขอรับ” หวงหลินอี้ทำตามพี่ชายอย่างรู้ความ “พวกเจ้าเองรึ ดี ๆ ไม่คิดว่าจะเจอกันที่นี่ ถงเอ๋อร์นี่พี่ชายของเจ้าอย่างไร” หวงชางหมายจะตบไหล่ของหวงชุนฟง แต่เขากลับเบี่ยงตัวหนีมือสกปรกอย่างรังเกียจ หวงชางยกมือค้างกลางอากาศ เริ่มรู

  • ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี   บทที่ 101 : กลัวว่าพี่จื่อถงไปเกาะแกะคุณชายสูงศักดิ์คนนั้นกระมัง

    บทที่ 101 : กลัวว่าพี่จื่อถงไปเกาะแกะคุณชายสูงศักดิ์คนนั้นกระมัง ด้านของหวงชุนฟงกับน้องชาย ทั้งคู่อาศัยติดรถม้าของจี้ฮุ่ยเหอ สหายร่วมเรียนคนสำคัญ ทั้งยังเป็นบุตรชายคนที่สามของนายอำเภอหยาง วันนี้พวกเขาได้พักค้างแรมกันที่เมืองลี่หยาง “พี่ใหญ่ชื่อโรงเตี๊ยมเยว่ไหลนี่ท่านว่าคุ้น ๆ ไหม” หวงหลินอี้เหมือนจะจำได้ว่า อำเภอหยางเคยมีโรงเตี๊ยมชื่อนี้อยู่ หวงชุนฟงส่ายหน้า “จะใช่ได้อย่างไร เจ้าดูสิมีอาหารแปลกใหม่ เป็นเนื้อเสียบไม้ย่างรสชาติดีขนาดนี้ ที่อำเภอหยางไม่มีอาหารชนิดนี้เสียหน่อย” “จริงของชุนฟง ข้าไม่เคยกินเนื้อเสียบไม้ย่างอร่อยแบบนี้มาก่อน บังเอิญชื่อเหมือนกันเท่านั้นแหละ” จี้ฮุ่ยเหอเป็นคุณชายรูปร่างผอมเพรียว แลดูเป็นคุณชายผู้สุภาพอ่อนโยน หวงชุนฟง “จริงของคุณชายจี้ แค่บังเอิญเท่านั้นเอง” หลังกินอาหารที่โรงเตี๊ยมอิ่มแล้ว พวกเขาได้ทำการจองห้องพักที่นี่ด้วย ทุกคนเข้าห้องนอนหลับพักผ่อนเอาแรง การเดินทางหลายวันที่ผ่านมา ไม่ค่อยสะดวกสบายมากนัก คืนนี้ถือว่าได้นอนหลับในสถานที่ดีที่สุดแล้ว “พี่ใหญ่ท่านว่าพวกเราควรไปตามหาท่านอาสามหร

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status