แชร์

ท่านใจร้ายกับข้านัก

ผู้เขียน: l3oonm@
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-03 00:13:58

แต่ที่หว่านหนิงนางแทบจะกระอักเลือดออกมาหลังจากนั้น เมื่อหลี่เฉียงล้างตัวเรียบร้อย เขาหอบเสื้อผ้าที่ใส่แล้วทั้งหมดของเขามาให้นางนำไปซักด้วย

“หลี่ เฉียง!!!” เขาไม่อยู่รอให้หว่านหนิงนางด่าทอ นางจึงเห็นแค่ชายเสื้อของเขาที่รีบหนีตัวปลิวออกไปด้านนอกแทน

นางเดินออกมาดูด้านนอกแต่ก็ไม่พบตัวของเขาเสียแล้ว หว่านหนิงจึงได้เดินสำรวจไปด้านหลังของเรือน ยังดีที่ส่วนด้านหลังมีลำธารไหลผ่าน นางไม่ต้องเดินหอบผ้าไปซักที่แม่น้ำเช่นคนอื่น

“แล้วจะใช้อะไรซัก” หว่านหนิงเกาหัวอย่างมึนงง

สายตาของนางเหลือบไปเห็นต้นตั๊กแตนผึ้งจีนที่อยู่ติดกับลำธาร หว่านหนิงจึงได้เก็บฝักจ้าวเจี่ยวแก่ที่หล่นอยู่ใต้ต้นของมัน มาลอกเปลือกกับเมล็ดออก เหลือเพียงส่วนเนื้อสีขาวมาซักผ้า

“หึหึ หากไม่มีความรู้ติดตัวมาบ้าง คงได้ลำบากตาย”

กองผ้าที่มีจำนวนไม่น้อย ทั้งความสกปรกและกลิ่นเหม็นที่สะสมมาหลายวัน กว่าหว่านหนิงนางจะซักทั้งกองเสร็จก็เกือบสองชั่วยามเลยทีเดียว

“เสร็จสักที” นางลุกขึ้นยืนบิดเนื้อบิดตัว

ข้อเท้าข้างที่บาดเจ็บเริ่มปูดบวมอย่างน่ากลัว นางทำงานทั้งวันไม่ได้หยุดพัก โดยที่หลี่เฉียงก็ไม่รู้ว่าหายหัวไปอยู่ที่ไหน หว่านหนิงต้องเดินไปกลับริมลำธารกับเรือนของนางถึงห้ารอบกว่าจะนำผ้าทั้งหมดไปตากที่ลานเสร็จเรียบร้อย

กว่าจะได้อาบน้ำก็ต้องรอต้มน้ำใหม่อีกรอบแล้ว ตอนที่นางจะเข้าไปนอนพัก หลี่เฉียงก็ไม่มีท่าทีจะโผล่หน้ากลับมา

“ไปที่ใดกัน” หว่านหนิงเหมือนจะคิดอะไรได้ นางรีบไปค้นที่หีบใส่ของที่นางนำถุงเงินที่ยึดมาได้จากหลี่เฉียงมาเก็บไว้ทันที

“หลี่ เฉียง!!!” นางกรีดร้องออกมาสุดเสียง เมื่อด้านในหีบไม่มีถุงเงินใบนั้นอีกแล้ว

หว่านหนิงหมดสิ้นเรี่ยวแรงทันที นางทิ้งตัวลงนอนบนเตียงด้วยสภาพที่ไร้วิญญาณ

“สวรรค์ ท่านใจร้ายกับข้านัก” นางไม่รู้ว่าตั้งแต่มาถึงที่นี่ได้เพียงวันเดียว นางเสียน้ำตาไปกี่ครั้งกันแล้ว

นางปาดน้ำตาทิ้งอย่างไม่ไยดี ในเมื่อเขาเลือกที่จะทำตัวเช่นเดิม แม้จะรู้ดีว่าในเรือนเหลือเงินเพียงแค่ยี่สิบอิแปะเท่านั้น นางก็คงไม่มีทางเลือกอื่น

หากหายดีเมื่อใด นางคงต้องหาหนทางย้ายออกไปอยู่ที่อื่น แล้วตัดขาดกับบุรุษเช่นหลี่เฉียงเสีย

เมื่อคิดได้เช่นนั้น หว่านหนิงนางก็นอนพักทันที ความเหนื่อยล้าจากการเก็บกวาดเรือน ทั้งยังสภาพจิตใจที่บอบช้ำ ทำให้นางหลับสนิทแทบจะในทันทีที่ล้มตัวนอน

หลี่เฉียงที่นางคิดว่าเขาอยู่หอพนัน ก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เขานำเงินที่เหลือเพียงยี่สิบอิแปะมาเสี่ยงโชค เพราะคิดว่าหากได้เงินมาสักก้อนเขาจะนำไปลงทุนค้าขายและคิดจะเลิกเล่นพนันเสียที

จากที่เล่นน้ำตาของหว่านหนิงและการที่นางลุกขึ้นมาทำงานอย่างหนัก ทำให้เขาเริ่มพอจะคิดได้ แต่ก็เพียงแค่เริ่มจะคิดได้เท่านั้น

หึ เงินยี่สิบอิแปะจะเล่นได้นานเพียงใด หมูในอวยเช่นหลี่เฉียงมีแต่จะถูกต้มกินเสียมากกว่า เข้าไปได้ไม่ถึงครึ่งเค่อเงินในมือก็หมดลงเสียแล้ว

แต่อย่างน้อยทางหอพนันก็ไม่ปล่อยกู้ให้กับเขา เพราะรู้ดีว่าหลี่เฉียงที่เป็นคุณชายตกยากมิอาจจะหาเงินมาคืนทางหอพนันได้อย่างแน่นอน

เขากลับมาที่เรือนอีกครั้งหลังจากที่พระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว หลี่เฉียงไม่มีความรู้สึกผิดที่นำเงินก้อนสุดท้ายในเรือนไปละลายในหอพนัน เนื้อตัวของเขามีแต่กลิ่นสุรา

เพียงแค่เปิดประตูห้องเข้ามาหว่านหนิงนางก็รู้สึกตัวตื่นแล้ว ในตอนแรกนางก็ยังหวาดกลัวคิดว่าเป็นโจร แต่เมื่อได้กลิ่นสุรานำหน้ามาก่อน นางจึงได้รู้ว่านี่คือสามีในนามของนางนั้นเอง

“ออกไปนอนที่อื่น” เสียงเย็นของหว่านหนิงเอ่ยขึ้น ทำให้หลี่เฉียงทีย่องเข้ามาสะดุ้งตกใจจนเกือบจะร้องออกมา

“เจ้ายังมินอนรึ” เขาเอ่ยถามนางเสียงเบา

“ออกไปจากห้องข้า” นางไม่แม้แต่จะหันมามองให้เสียอารมณ์ไปมากกว่านี้

“หึ ห้องเจ้าอันใดกัน เรือนนี้เป็นของท่านยายข้า ก็ต้องเป็นเรือนของข้า”

หว่านหนิงลืมตาขึ้น ดวงตาของนางสว่างวาบไปด้วยโทสะ ใช่ มันเรือนของเขา หลี่เฉียงพูดถูก

“ท่านจะนอนที่นี่ใช่หรือไม่” นางลุกขึ้นมานั่งแล้วเอ่ยถามออกมา

แสงจันทร์ที่ส่องเข้ามาภายในห้อง ทำให้หลี่เฉียงมองเห็นแววตาของนางที่เย็นชาจนน่าขนลุก เขาเผลอลูบขนแขนที่ตั้งชันของตนเอง ก่อนจะทำใจกล้าเอ่ยออกมา

“ใช่ ข้าจะนอนในห้องของข้า”

“ได้ เช่นนั้นท่านก็นอนไปเสีย” หว่านหนิงลุกขึ้น เก็บผ้าห่มหมอนออกไปทันที

“จะ เจ้า นำผ้าห่มไปแล้วข้าจะใช้สิ่งใด”

หว่านหนิงนางไม่ตอบคำถามเขา แต่ปิดประตูห้องที่อยู่ด้านข้างเสียงดังเป็นคำตอบแทน

เหมือนนางจะมีญาณรู้ล่วงหน้า เมื่อตอนเย็นนางเก็บห้องด้านข้างทำความสะอาดไว้ เพื่อให้เขาได้เข้าไปนอน ตอนนี้นางเพียงแค่นำหมอนผ้าห่มมาก็นอนได้เลยในทันที

หว่านหนิงเม้มปากแน่นอย่างใช้ความคิด พรุ่งนี้นางจะกินอันใด ในเมื่อวันนี้ข้าวสารกับหัวมันที่มี นางกินมันไปในมื้อเย็นหมดเรียบร้อยแล้ว

เสียงสบถของหลี่เฉียงที่อยู่ห้องด้านข้างยังดังไม่หยุดหย่อน แต่หว่านหนิงนางไม่คิดที่จะสนใจลุกขึ้นไปดู แม้ตัวเขาจะเริ่มขว้างปาข้าวของบ้างแล้วก็ตาม

“ไม่ใช่ของของข้า อยากทำลายก็เชิญ” มันเป็นเช่นที่เขาพูด ของทุกสิ่งที่อยู่ภายในเรือนล้วนแต่เป็นข้าวของของเขา

หว่านหนิงข่มตาให้หลับลงอีกครั้ง วันพรุ่งนี้นางยังคงมีเรื่องให้ครุ่นคิดอีกเยอะ จะมาใส่ใจกับเรื่องของบุรุษไร้ค่าเช่นหลี่เฉียง นางคงได้ตายลงอีกรอบในไม่ช้านี้อย่างแน่นอน

หลี่เฉียงที่นอนอยู่อีกห้อง เขานอนลงบนเตียงที่ไร้ซึ่งผ้าห่ม อากาศยามค่ำคืนที่หนาวเหน็บเขาทำได้เพียงแค่นอนกอดตัวเองและขดตัวอยู่ที่บนเตียง

ปากก็พึมพำก่นด่าหว่านหนิงกับความใจดำของนางที่ทิ้งให้เขาต้องนอนผู้เดียว ทั้งยังนำผ้าห่มที่เหลืออยู่ผืนสุดท้ายไปนอนอีกห้องหนึ่งด้วย

“หรือว่านางรู้เรื่องที่ข้าขโมยถุงเงินไปแล้ว” หลี่เฉียงดีดตัวขึ้นมานั่งอยู่ที่เตียง

“เหอะ แล้วเช่นไร เงินของข้าจะนำไปใช้เรื่องใดก็ย่อมได้” เขาจะล้มตัวลงนอนอีกครั้ง แต่ท้องเจ้ากรรมมันดังร้องขึ้นมาเสียก่อน

วันนี้เขาเข้าไปเล่นที่หอพนันได้เพียงไม่นาน ทางหอพนันจึงไม่ยอมให้เขากินข้าวเช่นเดิม หลี่เฉียงต้องแบกท้องที่หิวโหยกลับมาที่เรือน แต่เพราะทะเลาะกับหว่านหนิงเสียก่อนเขาจึงลืมไปว่าตนยังไม่ได้กินข้าว

แต่มาตอนนี้ที่เขาหายโมโหแล้ว ท้องเจ้ากรรมมันยังไม่ลืมว่ายังไม่มีสิ่งใดตกลงท้อง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ข้าทะลุมิติมา ได้สามีไร้ค่าคนหนึ่ง   เดินทางเข้าเมืองหลวง

    “กลับมาแล้วรึ เร็วยิ่งนัก” นางหันมามองหลี่เฉียงที่ยามนี้เกยคางอยู่ที่ไหล่ของนาง“ไม่เร็วแล้ว ข้าแวะไปคุยเรื่องสุรากับอาอวี้มาตั้งนานสองนาน พักก่อนดีหรือไม่” เขารวบมือนางมากุมไว้“อืม” หว่านหนิงลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจ นางจึงได้รู้ว่ายามนี้เกือบจะได้เวลาเข้าครัวทำมื้อเย็นเสียแล้ว“เสี่ยวหู่เล่า” นางมองหาเสี่ยวหู่ แม้แต่มื้อกลางวันนางก็หลงลืมไปจนสิ้น“ขึ้นไปบนเขาเจ้าค่ะ” เสี่ยวหู่ที่ไม่อยากกวนหว่านหนิงตอนมื้อกลางวัน มันจึงขึ้นเขาไปหาเนื้อกินแทนหลังจากที่มีน้ำผึ้งของเซียงเซียง หลี่เฉียงเจ้าคนหน้าหนาก็นำไปเก็บไว้ให้ห้องทันที ทั้งยังออดอ้อนให้หว่านหนิงนางปลอบโยนเขายามค่ำคืนเสียทุกคืนไปผ้าปักฉากกั้นขององค์ชายสาม หว่านหนิงนางใช้เวลาปักเพียงแค่ห้าวันเท่านั้น แม้จะมีขนาดใหญ่กว่าของท่านเจ้าเมืองถึงสามเท่า“ข้าอยากไปเจียงหนานเสียแล้วสิ” หลี่เฉียงมองภาพปักท้องทะเลของหว่านหนิงแล้วเอ่ยออกมาเขาอยากจะไปเห็นด้วยตนของตนเองสักครั้งว่าจะเป็นเช่นที่นางปักขึ้นมาหรือไม่“ไว้ไปกันดีหรือไม่” นางเอียงคอถามเขา นางก็อยากจะเห็นท้องทะเลในยุคนี้ว่าจะสวยกว่าในยุคของนางมากเพียงใด“อืม ไว้ไปกัน” เขาดึงนางเข้ามากอดอย่า

  • ข้าทะลุมิติมา ได้สามีไร้ค่าคนหนึ่ง   ฮวาเตี๋ยลงมือ

    หลี่เฉียงจับขาของนางยกขึ้นพาดบ่า ก่อนที่จะขยับสะโพกเข้าออกเร็วขึ้นไปตามแรงปรารถนา เสียงครางหวานของหว่านหนิงยิ่งปลุกเร้าอารมณ์ของเขาให้พุ่งทะยานขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่“อ๊า...ไม่ไหวแล้ว...” นางครางหวานออกมา ก่อนจะกระตุกเกร็งไปทั้งตัว “พร้อมข้าหนิงหนิง” หลี่เฉียงเชิดหน้าขึ้นอย่างเสียวซ่าน ก่อนจะเสร็จสมตามนางไปหว่านหนิงหอบหายใจเหนื่อยอ่อน นางดันตัวของหลี่เฉียงเพื่อให้ลุกออกจากตัวของนาง แต่เขาจับนางให้ลุกขึ้นนั่งแทน ลำทวนที่แข็งขึงขึ้นมาอีกรอบกระแทกสวนขึ้นมาจนหว่านหนิงนางเผลอกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ“อาเฉียง ท่าน...” นางเกาะบ่าของเขาไว้แน่น เพราะยามนี้เขาอุ้มตัวนางขึ้นจากที่นอนแล้ว“หนิงหนิง ปลอบข้าต่ออีกหน่อยได้หรือไม่” เสียงกระเส่าที่เต็มไปด้วยความต้องหารของเขามิใช่ถามเพื่อขออนุญาตจากนาง แต่เป็นการบังคับนางเสียมากกว่าหลี่เฉียงไปหยุดที่หน้าต่าง ก่อนจะว่างนางลง แล้วจับตัวนางให้พลิกหันหลังให้เขาพร้อมทั้งสอดใส่เข้าไปอีกครั้งอย่างรวดเร็ว หว่านหนิงนางทำได้เพียงยึดเกาะขอบหน้าต่างไว้ไม่ให้ตัวนางล้มลงไปเพราะขาที่อ่อนแรงแผ่นหลังที่ขาวเนียนของนาง ยามนี้เต็มไปด้วยร่องรอยขบเม้มที่หลี่เฉียงฝากไว้เต็

  • ข้าทะลุมิติมา ได้สามีไร้ค่าคนหนึ่ง   เจ้าปลอบใจข้าหน่อย

    พอเห็นเสี่ยวหู่ขึ้นมาอยู่บนรถม้าแล้ว ก็ร้องสั่งให้ม้าทั้งสองตัววิ่งกลับไปที่หมู่บ้านด้วยตัวมันเอง“เสี่ยวหู่ เจ้าได้รับบาดเจ็บหรือไม่” หว่านหนิงหันมาสนใจเสี่ยวหู่ที่ยามนี้มันกำลังเลียเท้าเลียขนทำความสะอาดรอยเลือดอยู่“ไม่ขอรับ แต่เลือดของพวกมันเหม็นคาวยิ่งนัก” เสี่ยวหู่เบ้ปากออกอย่างรังเกียจ“ขอบใจเจ้ามาก” นางอุ้มเสี่ยวหู่เข้ามากอดไว้แน่น พร้อมทั้งมองไปที่ฮวาเตี๋ยและเซียงเซียงอย่างซึ้งใจหากไม่มีทั้งสามอยู่กับนาง ไม่รู้ว่าตอนนี้นางและหลี่เฉียงจะยังมีชีวิตรอดไปได้หรือไม่“อาเฉียง ท่านคิดว่าผู้ใดส่งคนร้ายมา”“หึ เรื่องนี้ยังต้องคิดอีกรึ” แววตาของเขาแข็งกร้าวอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนไม่คิดว่านางสุ่ยซื่อจะไม่ปล่อยทั้งสองคนไปง่ายๆ เช่นนี้ สิ่งที่หลี่เฉียงคิดไม่ผิดสักนิด เป็นนางสุ่ยซื่อที่สั่งให้สาวใช้ของตนออกไปจัดการจ้างมือสังหารให้ไปจัดการทั้งสองคนนางจะยอมเจ็บตัวโดยไม่ได้แก้แค้นได้อย่างไร แผลที่ปากของนางฉีกไม่น้อย ท่านหมอที่เมืองซานตงทำได้เพียงรักษาไปตามอาการเท่านั้น หานเจิ้งจึงต้องพามารดาของตนเดินทางกลับเมืองหลวงทันที นายท่านหานก็ต้องเดินทางกลับไปพร้อมกันด้วยเลย แต่เขายังฝากนายท่านจ้าวใ

  • ข้าทะลุมิติมา ได้สามีไร้ค่าคนหนึ่ง   มิอาจทนฟังได้

    นายท่านหานได้แต่ขมวดคิ้ว มองนางอย่างไม่พอใจ เขาเพิ่งจะได้รู้วันนี้ว่านางวางแผนลึกล้ำกับบุตรชายคนโตของเขาเช่นไร ส่วนเรื่องตระกูลซูของหว่านหนิงเขาไม่เคยได้ยินเช่นที่นางพูดมาก่อนหว่านหนิงกำมือแน่นอย่างแค้นใจ นางลืมไปเลยว่าเจ้าของร่างยังมีบิดามารดาและน้องชายอยู่ ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเป็นเช่นที่นางสุ่ยซื่อพูดจริงหรือไม่“อาเจิ้ง พามารดาเจ้าออกไปเดี๋ยวนี้!!!”“ท่านพี่ ท่านจะทำกับข้าเช่นนี้ได้อย่างไร คนที่ท่านต้องสนใจตอนนี้มีเพียงแค่ข้ากับอาเจิ้ง บุตรชายที่ไร้ค่าของท่านที่ท่านตัดขาดแล้วจะนับเป็นอันใดได้ โอ๊ยยย”ทุกคนในห้องตกตะลึงนิ่งอึ้งอยู่กับที่ ไม่คิดว่าเสี่ยวหู่ที่อยู่บนโต๊ะจะกระโดดเข้าใช้กรงเล็บของมันตะครุบไปที่ปากของนางสุ่ยซื่อจนเป็นเพราะฉกรรจ์ไม่น้อยเสียงกรีดร้องของนางสุ่ยซื่อดังไปทั่วห้อง พร้อมทั้งเสียงด่าทอที่นางพยายามพูดออกมาอย่างอยากลำบากที่หว่านหนิงนางจับใจความได้ คือนางร้องสั่งให้คนจับตัวเสี่ยวหู่ไว้ เพื่อฆ่ามันให้นาง“ท่านพูดมากเกินไป แม้แต่เสี่ยวหู่ของข้าก็มิอาจทนฟังได้” หว่านหนิงอุ้มเสี่ยวหู่ที่เชิดหน้าอยู่ที่พื้นขึ้นมากอดไว้อย่างหวงแหน“ท่านแน่ใจรึ ว่าจะฆ่าเสี่ยวหู่” หลี่เฉีย

  • ข้าทะลุมิติมา ได้สามีไร้ค่าคนหนึ่ง   ต้องตื่นเต้นด้วยรึ

    ท่านเจ้าเมืองก็เข้าร่วมงานวันนี้เช่นกัน พอได้เห็นภาพฉากกั้นมารดาป้อนข้าวบุตร เขาก็หลั่งน้ำตาออกมาทันที เหมือนว่าผู้ที่ปักภาพนี้ ปักขึ้นมาเพื่อเขาและมารดาโดยเฉพาะรอยยิ้มของมารดายามที่ป้อนข้าวบุตร ชามข้าวที่อยู่ในมือที่มีแต่เมล็ดข้าวจนล้นชาม ชั่งแตกต่างกับชามของมารดาที่อยู่บนโต๊ะอาหาร ท่านเจ้าเมืองหวนให้คิดไปถึงความลำบากเมื่อยามที่เขาเป็นเด็ก มารดาของตนก็เป็นเช่นเดียวกับสตรีที่อยู่ในรูปภาพ“เสด็จพี่ ข้าอยากได้” เยี่ยนซูหนี่นางร้องบอกองค์ชายสามแต่หว่านหนิงนางก็ร้องขัดขึ้นมาเสียก่อน“องค์หญิงสี่ ภาพนี้เดิมทีก็ทำขึ้นมาเพื่อท่านเจ้าเมือง ในวันครอบรอบวันเกิดของมารดาท่านเจ้าเมืองเพคะ แต่ฮูหยินจ้าวนางอยากจะอวดให้ผู้อื่นได้เห็นถึงงานปักที่มาจากร้านของนาง หากพระองค์อยากได้ ไว้หม่อมฉันจะปักให้พระองค์เพคะ”หว่านหนิงนางอยากให้ท่านเจ้าเมืองเป็นผู้ที่ได้ไป หากองค์ชายสามและองค์หญิงสี่ไม่ประมูลแข่ง ท่านเจ้าเมืองก็มีสิทธิ์ที่จะได้ไปครอบครองแต่สิ่งที่ทุกคนในงานคาดไม่ถึง จ้าวซื่อมิได้ประมูลภาพเช่นที่ทุกคนคิด แต่นางกล่าวออกมาเสียงดังให้ทุกคนได้เข้าใจตรงกันว่าภาพนี้จัดทำขึ้นมาเพื่อมารดาท่านเจ้าเมือง“เจ้

  • ข้าทะลุมิติมา ได้สามีไร้ค่าคนหนึ่ง   พบผู้สูงศักดิ์

    หานเจิ้งจำต้องลากตัวมารดาออกไปหาที่นั่งอย่างเลี่ยงไม่ได้“ทำพวกเจ้าเสียเวลาแล้ว ไปด้านบนเถิด ข้ามีคนจะแนะนำให้เจ้าได้รู้จัก” จ้าวซื่อเดินเข้ามาคล่องแขนหว่านหนิงอย่างสนิทสนมยิ่งทำให้คนที่มาร่วมงานต่างมองนางอย่างสนใจ บางคนถึงกับพูดออกมาว่าไม่แน่นางอาจจะเป็นคนที่ปักผ้าผืนที่จะเข้าร่วมการประมูลในครั้งนี้ ด้วยความที่จ้าวซื่อกล้าออกหน้าแทนนางหลี่เฉียงเดินขึ้นไปด้านบนพร้อมทั้งบิดาของเขา ทั้งสองพูดคุยถึงเรื่องที่ผ่านมาตอนที่หลี่เฉียงออกจากตระกูลมาแล้ว เรื่องนี้หว่านหนิงนางไม่ได้สนใจ ถึงอย่างไรนายท่านหานก็เป็นบิดาของเขา และที่ผ่านมาก็รักหลี่เฉียงไม่น้อยเลยทีเดียวจ้าวซื่อพาทั้งสองมาหยุดที่ห้องรับรองห้องหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยถามหว่านหนิงถึงความสมัครใจของนาง“อาหนิง ความจริงเรื่องนี้ข้าต้องบอกเจ้าเสียก่อน แต่เพราะการมาของผู้ที่อยู่ด้านในกะทันหันเกินไป ข้าก็เพิ่งจะรู้ก่อนหน้าเจ้าจะเดินทางมาถึงได้ไม่ถึงครึ่งชั่วยาม” หว่านหนิงนางมองหน้าจ้าวซื่อด้วยสีหน้าเรียบเฉยคงมีคนต้องการพบนางอย่างแน่นอน และคงเป็นคนที่จ้าวซื่อมิอาจปฏิเสธไม่ให้เข้าพบนางไม่ได้“เอาเถิด ข้าเข้าใจท่าน ผู้ใดหรือเจ้าคะที่ต้องการพบข้า”“อ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status