แชร์

บทที่5

ผู้เขียน: ชุนกวงห่าว
เมื่อซ่งจื่ออินก้าวเข้าไปในร้านชุดแต่งงาน สืออวี๋กำลังนั่งอยู่บนโซฟาในร้าน พลางเปิดสมุดชุดแต่งงานดูอยู่ หน้าด้านข้างเงียบสงบและสง่างาม

มองดูรอบๆก็ไม่เห็นเหลียงหยวนโจว เธอขมวดคิ้วแล้วก้าวไปด้านหน้า “เหลียงหยวนโจวอยู่ไหน?”

“ไปแล้ว”

เมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตาของซ่งจื่ออินเต็มไปด้วยความไม่พอใจ “เขาทิ้งแกไว้ตรงนี้แบบนี้เหรอ?”

สืออวี๋ก้มหน้าลง นิ้วลูบไล้อัลบั้มชุดแต่งงานโดยไม่พูดอะไร

เห็นท่าทางของเธอ ซ่งจื่ออินก็ทั้งโกรธและสงสาร จึงเปลี่ยนเรื่องพูด “ลองชุดแต่งงานได้ยังไงบ้าง?”

“ฉันพอใจมาก แถมยังถ่ายรูปไว้ด้วย”

“ฉันดูหน่อยสิ”

ทันทีที่เห็นรูป ซ่งจื่ออินถึงกับประทับใจในความงดงามทันที “สวยจังเลย! แถมยังเหมาะกับแกมากด้วย รอฉันแต่งงาน แกก็ออกแบบชุดแต่งงานให้ฉันชุดหนึ่งสิ!”

สืออวี๋ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “โอเค”

“โอ้โห!”

ซ่งจื่ออินขยายรูปดูอย่างชื่นชมไปด้วย พร้อมพูดว่า “เหลียงหยวนโจวผู้ชายเลวคนนั้นมันช่างโชคดีจริงๆเลยนะ ไม่รู้ว่าชาติที่แล้วเขาทำบุญอะไรมา ถึงได้แต่งงานกับภรรยาที่สวยขนาดนี้!”

รอยยิ้มบนมุมปากของสืออวี๋ขมขื่น ที่จริงแล้วเขาก็ไม่ได้อยากแต่ง เธอเป็นฝ่ายยืนยันอยากแต่งเอง

สังเกตเห็นว่าสืออวี๋เงียบกว่าปกติ ซ่งจื่ออินจึงวางโทรศัพท์ลงขมวดแล้วมองหน้าเธอ “แกกับเหลียงหยวนโจวทะเลาะกันอีกเหรอ?”

สืออวี๋ไม่อยากให้ซ่งจื่ออินต้องเป็นห่วง จึงส่ายหน้า “เปล่า แค่ลองชุดแต่งงานแล้วรู้สึกเหนื่อยนิดหน่อย”

“นี่พึ่งไหนต่อไหนเอง?วันแต่งงานจริง ยังต้องเปลี่ยนชุดหลายชุดเลย และต้องไปคารวะเหล้าอีก……ใช่แล้ว แกคิดจะเชิญคนตระกูลสือไหม?”

เมื่อได้ยินคำว่าตระกูลสือ สืออวี๋ก็กำมือแน่นโดยไม่รู้ตัว “ฉันยังไม่ได้คิดเลย”

“เอาเถอะ ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว ยังไงการ์ดเชิญยังไม่ได้ส่งออกไปเลย แกค่อยคิดพิจารณาดูอีกทีละกัน”

สืออวี๋ตอบอืมเบาๆ เธอไม่แน่ใจว่าพิธีแต่งงานจะจัดตามกำหนดได้หรือไม่

หลังจากผ่านเรื่องวันนี้ เหมือนเธอ……ก็ไม่ได้อยากแต่งให้เหลียงหยวนโจวขนาดนั้นแล้ว

ซ่งจื่ออินลองชุดเพื่อนเจ้าสาวเสร็จ เตรียมจะออกไป ก็สังเกตเห็นเท้าที่บวมของสืออวี๋

“เป็นอะไรนี่?”

“ตอนใส่ส้นสูงแล้วไม่ระวังขาพลิก”

ซ่งจื่ออินขมวดคิ้ว “บวมเยอะอยู่นะ ฉันพาแกไปโรงพยาบาลดีกว่า”

สืออวี๋ส่ายหน้า“ไม่ต้อง ไม่ได้บอบบางขนาดนั้น กลับไปพ่นยาและพักสักสองสามวันก็หายแล้ว”

“ตอนนี้แกดูแลตัวเองละเลยเกินไปแล้วนะ?ตอนเรียนมหาวิทยาลัย แค่ฉีดยาแกยังต้องให้เหลียงหยวนโจวคอยปลอบแกครึ่งวันเลย ตอนนั้นเนี่ยบอบบางมากเลยนะ!”

สืออวี๋นิ่งไป แล้วก็ยิ้มขมขื่น

สมัยมหาวิทยาลัยเธอค่อนข้างบอบบาง แต่ตอนนั้นเป็นเพราะเหลียงหยวนโจวรักและยอมเอาใจเธอทุกอย่าง

ตอนนี้ความรักและความห่วงใยทั้งหมดของเขา ได้ให้ผู้หญิงอีกคนไปแล้ว ถ้าเธอยังเหมือนเมื่อก่อน สำหรับเขาแล้วก็กลายเป็นเสแสร้งและไม่มีเหตุผลแล้ว

ขากลับ ซ่งจื่ออินซื้อยาลดบวมในร้านยาให้ ส่งสืออวี๋กลับบ้าน และสั่งให้เธอพ่นยาตามเวลา จากนั้นก็จากไป

ในห้องนั่งเล่นเหลือเพียงตัวเธอคนเดียว เรื่องที่เกิดขึ้นในร้านชุดแต่งงานในเช้านี้ก็ผุขึ้นมาในหัวสมองอีกครั้ง ดวงตาของสืออวี๋ก็ค่อยๆมืดครึ้มลง

ตั้งแต่ทะเลาะกันในร้านชุดแต่งงาน เหลียงหยวนโจก็ไม่กลับมาอีกเลย

สืออวี๋ก็ไม่ได้โทรหาเขาอย่างบ้าคลั่งหรือส่งข้อความในไลน์ให้เขาเหมือนแต่ก่อน ทั้งสองฝ่ายต่างรอให้อีกฝ่ายยอมอ่อนข้อก่อน

ในวันที่สิบของการไม่ติดต่อหากัน สืออวี๋ก็ทิ้งเครื่องประดับอีกชิ้น

ครั้งนี้ กลับไม่ได้เศร้าโศกขนาดนั้นแล้ว

ถ้าเธอสามารถยืดเยื้อแบบนี้จนหมดความหวังในตัวเขา และตัดสินใจจากไปอย่างเด็ดขาด ก็ดูเหมือนจะไม่เลวเลย

เพราะเธอไม่อยากจะเจอกับความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง แล้วก็ต้องผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีกแล้ว

ช่วงบ่าย ซ่งจื่ออินเสร็จธุรกิจแล้วมาหาเธอ

“แกเตรียมงานแต่งงานถึงไหนแล้ว? ต้องให้ฉันช่วยอะไรไหม? เหลือเวลาอีกเดือนเดียวแล้วนะที่จะถึงงานแต่งของพวกแกสองคน ทำไมยังไม่ส่งการ์ดเชิญล่ะ เหลียงหยวนโจวทางโน้นก็เงียบสนิดเลยเหรอ?”

แม้ว่าซ่งจื่ออินจะไม่ค่อยเชื่อใจในความรักของทั้งคู่ แต่สืออวี๋เป็นเพื่อนรักของเธอ ในเมื่อสืออวี๋ยืดมั่นที่จะแต่งงานกับเหลียงหยวนโจว เธอเองก็ได้แต่อวยพร

สืออวี๋เม้มปาก ก้มหน้าแล้วพูดว่า “พิธีแต่งงานอาจจะต้องเลื่อน?”

“เลื่อน?!”

เสียงของซ่งจื่ออินดังขึ้นในทันที สีหน้าก็เคร่งขรึม “เหลียงหยวนโจวอยากเปลี่ยนใจเหรอ?”

“เปล่า แค่ช่วงนี้พึ่งทะเลาะกัน”

“ทะเลาะรุนแรงไหม?”

ตามความอดทนของสืออวี๋ที่มีต่อเหลียงหยวนโจวแล้ว ถ้าเป็นแค่ทะเลาะกันธรรมดา ก็คงไม่รุนแรงจนถึงขั้นต้องเลื่อนงานแต่ง

“ก็ประมาณนั้น”

ซ่งจื่ออินถอนหายใจ กำลังจะพูดต่อ ก็เหลือบไปเห็นกำไลหยกในถังขยะ ตาโตด้วยความไม่นาเชื่อ

“แกกับเหลียงหยวนโจวทะเลาะอะไรกันเนี่ย?ถึงขั้นทิ้งกำไลหยกนี่เลย ฉันจำได้ว่าเพื่อซื้อกำไลนี้แล้ว ตอนนั้นเขาทุ่มเทไปไม่น้อยเลยนะ”

มีช่วงหนึ่งร่างกายของสืออวี๋ไม่ค่อยแข็งแรง นอนไม่ค่อยหลับ ไปโรงพยาบาลก็ตรวจไม่เจออะไร

เหลียงหยวนโจวกังวลมาก ไม่รู้ว่าได้ยินจากใครว่าสามารถไปขอกำไลหยกที่วัดได้ ใส่แล้วจะช่วยให้หลับสบาย เขาทิ้งงานแล้วไปยังวัดชื่อดังในประเทศแล้วขอกำไลหยกนี้กลับมาด้วยตนเอง

หลังจากนั้นสืออวี๋ใส่กำไลนั้นมาหนึ่งปีกว่า ปกป้องอย่างดี ซ่งจื่ออินอยากจับก็ยังไม่ให้เลย

คิดไม่ถึงว่าเธอจะทิ้งกำไลนี้

สืออวี๋ก้มมองกำไล ไม่มีสีหน้าใดๆ

“ไม่มีอะไร เรื่องงานแต่ง ถ้าได้วันแน่นอนแล้ว ฉันจะบอกแกอีกที”

เห็นสีหน้าเธอเหนื่อยล้า ซ่งจื่ออินก็ไม่ถามต่อ ถอนหายใจแล้วลุกขึ้น “โอเค ฉันก็ไม่มีเรื่องอะไร ถ้าแกมีอะไรที่ต้องการให้ฉันช่วย โทรหาฉันได้ตลอดนะ”

“โอเค”

……

สามวันต่อมา ตอนเย็นสืออวี๋กำลังทำอาหารเย็นอยู่ จู่ๆก็ได้รับสายจากเพื่อนร่วมงาน

“ทนายสือ เพื่อนของคุณกับเลขานุการของคู่หมั้นคุณตีกันในร้านอาหาร!”

จู่ๆ นิ้วก็รู้สึกเจ็บ มองลงไปก็พบว่าที่แท้เผลอกรีดโดนมือนี่เอง เลือดหยดออกมาจากนิ้วชี้

สืออวี๋รีบถามที่อยู่ จัดการแผลคร่าวๆ แล้วรีบไปทันที

เมื่อไปถึง ก็เจอเหลียงหยวนโจวที่หน้าประตู

บนหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา ก้าวเข้าไปในร้านโดยไม่มองใครเลย ราวกับคนตรงหน้าเหมือนเป็นแค่คนแปลกหน้าคนหนึ่ง

สืออวี๋สูดหายใจลึกแล้วตามเข้าไป

ซ่งจื่ออินนั่งไขว้แขนอยู่ริมหน้าต่าง ริมฝีปากยกมุมขึ้นอย่างเย็นยะเยือก ตรงข้ามคือเสินหลีที่หน้าตาอิดโรยและดวงตาแดงก่ำ

ข้างๆของเสินหลียังมีเด็กสาวอายุไล่เลี่ยกันกับเธอ กำลังพูดคุยเบาๆกับเสินหลี และจิกตาใส่ซ่งจื่ออินเป็นระยะๆ

เหลียงหยวนโจวเดินมาถึงข้างโต๊ะอาหารก่อน เสินหลีเห็นเขาก็พุ่งเข้าไปในอ้อมกอดเขา ร้องไห้สะอึกสะอื้น

“ประ……ประธานเหลียง เมื่อกี้ฉันกับถิงถิงกินข้าวอยู่ดีๆ คุณหนูซ่งก็พุ่งเข้ามาตบฉันสองครั้ง……”

สายตาที่โกรธจัดของเหลียงหยวนโจวจับจ้องไปที่ซ่งจื่ออิน และพูดชัดถ้อยชัดคำว่า “ผมต้องการคำอธิบาย”

ซ่งจื่ออินกางมือออกอย่างไม่สนใจ มองดูเขาด้วยสีหน้าเยาะเย้ย “ฉันก็อยากให้คุณอธิบายหน่อยเหมือนกัน ทำไมไปลองชุดแต่งงานกับคู่หมั้นยังต้องพาชู้สาวของคุณไปด้วย?”
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 135

    ซือเยี่ยนเลิกคิ้ว “มีคนบอกประจำ”สืออวี๋: “...”น้ำเสียงนี้ฟังดูเหมือนแอบภูมิใจนิด ๆ ยังไงชอบกลแฮะ?เมื่อเห็นสืออวี๋พูดอะไรไม่ออก ดวงตาของซือเยี่ยนก็ฉายแววขบขันวูบหนึ่ง แต่เพียงพริบตาเดียวก็หายไป สืออวี๋จึงไม่ทันสังเกต“หมอซือคะ เมื่อกี้ตอนฉันคุยกับครอบครัวนั้น ฉันถึงได้รู้ว่าเพื่อให้ได้ลงทะเบียนนัดกับคุณ พวกเขาถึงขั้นต้องเดินทางมาจากต่างอำเภอ ตอนนี้ไม่มีเงินเหลือพอสำหรับย้ายโรงพยาบาลแล้ว ส่วนจะให้เปลี่ยนเป็นหมอคนอื่นพวกเขาก็ไม่ไว้ใจ ด้วยเหตุนี้ พวกเขาถึงได้ทำอะไรไม่ยั้งคิด ชักมีดขู่ให้คุณผ่าตัดแบบนั้นแหละค่ะ”“ในสายตาฉัน พวกเขาไม่ใช่คนเลว เพียงแต่ไม่เข้าใจผลลกระทบร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นได้จากการกินอาหารก่อนผ่าตัดแบบดมยาสลบเท่านั้น ถ้าพวกเขาเข้าใจ ก็คงไม่ทำแบบนี้แน่นอน”“ถ้าพวกเขามาขอโทษคุณอย่างจริงใจ คุณจะยอมให้โอกาสคนไข้คนนั้นอีกสักครั้งได้ไหมคะ?”สิ้นเสียงของเธอ ซือเยี่ยนก็ตอบทันที “ไม่ได้ครับ”สืออวี๋ขมวดคิ้ว “หลักการของคุณมันสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ? สำคัญถึงขั้นที่ต่อให้ถูกคุกคามถึงชีวิตก็ยังไม่ยอมประนีประนอมเนี่ยนะ?”แค่นึกถึงภาพที่เขาอยู่ร่วมห้องกับชายผู้ถือมีดเมื่อครู่ สืออ

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 134

    “ค่ะ...”ผู้หญิงคนนั้นรีบรุดไปที่ห้องทำงานของซือเยี่ยนทันที สืออวี๋ก้าวเท้าตามไปติด ๆเมื่อไปถึงหน้าห้องทำงานของซือเยี่ยน และเห็นสามีตัวเองกำลังเงื้อมีดใส่ซือเยี่ยนด้วยสีหน้าเกรี้ยวกราด เธอก็ถึงกับขวัญหนีดีฝ่อใบหน้าซีดเผือด“คุณคะ! วางมีดลงเดี๋ยวนี้เลยนะ!”หลังได้ยินเสียงหญิงสาว ชายคนนั้นก็หันขวับกลับมา และเมื่อเห็นชัดถนัดตาว่าเป็นเธอจริง ๆ ใบหน้าก็พลันบึ้งตึง ตวาดลั่นว่า “ใครใช้ให้ออกมา รีบกลับไปเดี๋ยวนี้!”ผู้หญิงคนนั้นส่ายหน้า “คุณคะ วางมีดลงเถอะ พ่อเป็นคนให้ฉันมาเอง คุณเอามีดมาขู่หมอแบบนี้มันผิดกฎหมายนะคะ...”ตอนนี้ ใบหน้าของชายคนนั้นเต็มไปด้วยไฟโทสะ “ผมไม่สนว่าจะผิดกฎหมายหรือเปล่า รู้แค่ว่าไอ้หมอนี่ต้องรับปากผ่าตัดให้พ่อเท่านั้น!”“คุณอยากให้พ่อเห็นคุณติดคุกหรือไง เรื่องนี้แต่เดิมก็เป็นฝ่ายเราที่ผิดเอง จริงสิ คุณผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ ฉันคนนี้เธอเป็นทนาย เธอรับปากแล้วว่าจะช่วยพูดกับหมอซือให้พวกเรา คุณเอาแต่ขู่หมอซือแบบนี้ มันไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมาหรอกนะ”ชายคนนั้นตวัดสายตามองสืออวี๋ที่อยู่ข้างภรรยา แววตาพลันเย็นเยียบ “ทนายบ้าบออะไร! แม่นั่นกับหมอคนนี้มันก็พวกเดียวกันนั่นแห

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 133

    เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเริ่มมีปฏิกิริยาตอบรับ สืออวี๋จึงถามด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “แค่เขาถือมีด ก็ถือว่าทำผิดกฎหมายว่าด้วยการบริหารจัดการความสงบเรียบร้อยแล้วค่ะ ถ้าพฤติการณ์ร้ายแรง ก็อาจเข้าข่ายทำผิดกฎหมายอาญาด้วยซ้ำ เรื่องนี้มีวิธีแก้ปัญหามากมาย ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีสุดโต่งแบบนี้เลยค่ะ”เมื่อสืออวี๋พูดคำสุดท้ายจบลง ภายในห้องพักผู้ป่วยก็กลับเข้าสู่ความเงียบงันอีกครั้งรออยู่ครู่หนึ่ง เสียงของคนที่พูดเมื่อครู่ก็ดังออกมาอีกครั้ง “คุณจะพิสูจน์ได้ยังไงว่าเป็นทนายความตัวจริง? แล้วคุณจะพิสูจน์ได้ยังไงว่ามาช่วยพวกเราจริง ๆ ไม่ได้เป็นพวกเดียวกับหมอคนนั้น?!”สืออวี๋นิ่งเงียบไปเล็กน้อย ก่อนกล่าวอย่างเชื่องช้าว่า “เมื่อกี้ตอนที่เขาถือมีดบุกเข้าไปในห้องทำงานแพทย์ มีคนเห็นไม่น้อย ตอนนี้มีคนแจ้งตำรวจแล้ว ถ้าพวกคุณยังไม่ไปเกลี้ยกล่อมเขาตอนนี้ รอให้ตำรวจมาถึงก็สายเกินไป เขาเป็นคนในครอบครัวของพวกคุณ พวกคุณพิจารณาดูเองเถอะ”พูดจบประโยคนี้ สืออวี๋ก็ไม่กล่าวอะไรต่อ ถ้าอีกฝ่ายตั้งใจจะดึงดันไปจนถึงที่สุด เธอก็ไม่มีปัญญาช่วยอะไรแล้วแต่ในใจของสืออวี๋ กลับยังคงไม่อาจสงบลงตอนนี้ ซือเยี่ยนกำลังเผชิญหน้ากับผ

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 132

    สืออวี๋ใจหายวาบ “พวกคุณแจ้งตำรวจหรือยังคะ?!”“แจ้งแล้วค่ะ แต่ที่นี่อยู่ไกลจากสถานีตำรวจนิดหน่อย คาดว่ากว่าตำรวจจะมาถึงก็ต้องใช้เวลาอีกสิบกว่านาที”“งั้นสิบกว่านาทีนี้ เราจะปล่อยให้ซือเยี่ยนเผชิญหน้ากับผู้ชายคนนั้นตามลำพังเหรอคะ?”“คือว่า... ตอนแรกผู้ชายคนนั้นยังไม่ได้ชักมีดออกมาค่ะ แต่พอหมอซือปฏิเสธไม่ยอมผ่าตัดให้พ่อเขาอีก เขาก็ชักมีดออกมา หมอซือเห็นมีดก็เลยรีบปิดประตูล็อกทันที”สืออวี๋ได้ยินดังนั้นก็ยิ่งกังวลใจมากขึ้น เห็นได้ชัดว่าผู้ชายคนนั้นอารมณ์แปรปรวน ยิ่งซือเยี่ยนอยู่กับเขานานเท่าไหร่ก็ยิ่งอันตรายเท่านั้นแต่ตอนนี้ ซือเยี่ยนล็อกประตูห้องทำงานจากด้านใน ต่อให้เธออยากช่วยก็ช่วยไม่ได้แล้วถ้าผลีผลามบุกเข้าไป ก็อาจเป็นการกระตุ้นอารมณ์ของผู้ชายคนนั้น ทำให้สถานการณ์ยิ่งอันตรายมากขึ้นอีกสืออวี๋สูดหายใจลึก ก่อนสอบถาม “แล้วญาติคนอื่น ๆ ของผู้ป่วยล่ะคะ? ผู้ชายคนนี้มีภรรยาหรือลูกบ้างไหม?”“มีค่ะ แต่ตอนนี้พวกเขาเอาแต่ซ่อนตัวอยู่ในห้องพักผู้ป่วย ไม่ยอมออกมา ก็คงเห็นด้วยกับการกระทำของผู้ชายคนนี้นั่นแหละค่ะ เมื่อกี้พวกเราไปที่หน้าห้องพักผู้ป่วย กะว่าจะให้ออกมาเกลี้ยกล่อมเขาสักหน่อย แต่

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 131

    ตกค่ำ สือหมิงฮุยกลับมาถึงบ้านเมื่อเข้าประตูมา ก็เห็นโจวฉินนั่งหน้าบึ้งอยู่บนโซฟาแล้วเขาหยุดชะงักเล็กน้อยขณะเปลี่ยนรองเท้า เดาได้ไม่ยากว่าที่ไปคุยกับสืออวี๋วันนี้คงไม่ค่อยราบรื่นเท่าไหร่ตามคาด ขณะเขานั่งลงบนโซฟา โจวฉินก็เริ่มโวยวาย “สืออวี๋ไม่ยอมถอนฟ้อง ฉันทะเลาะกับแม่นั่นไปรอบหนึ่ง เลยลืมให้บัตรธนาคารไปซะสนิท เดี๋ยวคุณเอาไปให้เองแล้วกัน!”สือหมิงฮุยเหลือบมองบัตรธนาคารบนโต๊ะแวบหนึ่ง ก่อนกล่าวเสียงเข้ม “ช่วงนี้บริษัทงานยุ่งจะตาย ผมจะเอาเวลาที่ไหนไปล่ะ? พรุ่งนี้คุณไปอีกรอบแล้วกัน ถ้าเธอยังไม่ยอมค่อยว่ากันอีกที”โจวฉินแค่นหัวเราะ “ฉันไม่ไป ทำไมฉันต้องเป็นคนไปตามง้อแม่นั่นทุกทีด้วย? คุณมันก็ดีแต่ปาก อ้างไปเรื่อยว่าบริษัทงานยุ่งทุกวัน มีวันไหนไม่ยุ่งบ้างไหม? ฉันว่าปล่อยให้มันเจ๊งไปก็ดี คุณจะได้ไม่ต้องยุ่งแล้ว!”“หุบปากนะ!”สือหมิงฮุยหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ “วัน ๆ ถ้าไม่เอาแต่เดินชอปปิง ก็ดีแต่พูดจาปากเสีย เกิดบริษัทผมเจ๊งขึ้นมาจริง คุณก็เตรียมตัวไปนั่งขอทานข้างถนนได้เลย!”“เป็นขอทานก็ยังดีกว่าต้องมานั่งขายหน้าทุกวัน! ยังไงฉันก็ไม่ไปหายัยนั่นอีก คุณอยากไปก็ไปเองเถอะ อีกเดี๋ยวม่านม่า

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 130

    ริมฝีปากของเธอคลี่ยิ้ม “ขอบคุณนะคะ หมอซือ”เมื่อกลับมาถึงห้องพักผู้ป่วย คุณย่าสือเห็นว่ามีเพียงสืออวี๋อยู่คนเดียวจึงขมวดคิ้วถาม “แม่แกลกลับไปแล้วเหรอ?”“ค่ะ”เมื่อเห็นสีหน้าของสืออวี๋เรียบเฉยจนอ่านอารมณ์ใด ๆ ไม่ออก คุณย่าสือจึงเอ่ยปากถาม “เธอมาพูดอะไรกับแก?”“ไม่ได้พูดอะไรค่ะ แค่บอกให้หนูดูแลคุณย่าดี ๆ หวังว่าคุณย่าจะได้ออกจากโรงพยาบาลโดยเร็วค่ะ”สืออวี๋เพิ่งพูดจบ คุณย่าสือก็สวนกลับมาอย่างหัวเสีย “เธอพูดอะไรกับแกกันแน่?! นิสัยอย่างโจวฉินฉันรู้ดี เธอไม่ถ่อมาถึงห้องพักผู้ป่วยเพื่อพูดเรื่องไร้สาระไม่กี่ประโยคนี้หรอก”สืออวี๋อดถอนหายใจไม่ได้ รู้สึกจนปัญญาอยู่บ้าง “คุณย่า เรื่องนี้จริง ๆ ค่ะ และบอกว่าจะจัดงานเลี้ยงให้สือม่าน สั่งไม่ให้หนูไปก่อกวน”คุณย่าสือเบนความสนใจไปได้จริง ๆ เธอพูดอย่างโมโห “ใครอยากจะไปงานเลี้ยงของเธอกัน ถึงเวลาเดี๋ยวฉันจัดงานที่ดีกว่าให้แกเอง!”“ค่ะ ๆ ๆ งั้นหนูจะรอคุณย่าจัดงานเลี้ยงให้นะคะ ท่านหันตัวหน่อยค่ะ หนูจะเริ่มนวดให้แล้ว”“ตอนนี้ไม่ต่อต้านการกลับบ้านตระกูลสือแล้วเหรอ?”สืออวี๋ส่ายหน้า “ถึงหนูจะต่อต้าน ก็เปลี่ยนความคิดของท่านไม่ได้อยู่ดี สู้ทำตามที่ท่า

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status