การตื่นขึ้นมาในร่างของ ไป๋ผิง จิ้งจอกเก้าหางผู้สูงศักดิ์ นำพานางเข้าสู่โลกใบใหม่ที่เต็มไปด้วยอำนาจ การเมือง และศัตรูที่พร้อมจะกำจัดนางทุกเมื่อ
View Moreไป๋เฉินกลับไปยังตำหนักของตน คิ้วคมขมวดเข้าหากันทันทีเมื่อไม่เห็นเงาของไป๋ผิงอยู่ในห้อง นางหายไปไหนกัน? "นางอยู่ที่ไหน?" น้ำเสียงเย็นเยียบดังก้องไปทั่ว บรรดาข้ารับใช้ต่างตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว ไม่มีใครกล้าเงยหน้าขึ้นมองเขา "..พวกเราไม่ทราบพะยะค่ะ! องค์หญิงไป๋ผิงอยู่ในห้องเมื่อกลางวัน แต่แล้วจู่ ๆ... นางก็หายตัวไป!" ปัง! เพียงสะบัดแขนเบา ๆ โต๊ะไม้แกะสลักงดงามก็ลอยกระแทกผนังแตกกระจายเป็นเสี่ยง พลังสังหารอันน่าสะพรึงกลัวแผ่กระจายออกจากร่างของเขา จนทุกคนรอบข้างแทบหายใจไม่ออก! "ไปตามหานางมาให้ข้า! หากหานางไม่พบ... ก็ไม่ต้องกลับมาให้ข้าเห็นหน้าอีก!" ข้ารับใช้หน้าซีดเผือด ต่างรีบกระจัดกระจายกันออกไปราวกับจิ้งจอกล่าตัวเหยื่อ ไป๋เฉินกำมือแน่น นัยน์ตาสีอำพันลุกโชนด้วยเพลิงโทสะ ใครกัน... ใครบังอาจพานางไปจากข้า?! ค่ำคืนมืดมิด กลิ่นไอของความปั่นป่วนยังคงวนเวียนอยู่ในตำหนักของเขา ข้ารับใช้ที่ออกตามหาไป๋ผิงล้วนกลับมามือเปล่า ทุกคนเริ่มกังวล เพราะนางไม่ใช่คนที่จะหายตัวไปโดยไร้ร่อง
ไป๋เฉินเหลือบมองไป๋ผิงซึ่งหมดสติอยู่บนพื้น แววคิดคำนึงวาบผ่านดวงตาของเขา เขาเพิ่งใช้พลังทั้งหมดช่วยชีวิตนางไว้ แต่ยิ่งคิดถึงสิ่งที่นางทำไว้การหลอกลวง ฆาตกรรม และความโหดเหี้ยมที่ฝังลึกในตัวนางความโกรธของเขาก็ยิ่งปะทุขึ้นอีกครั้ง "เจ้าคิดว่าจะหนีข้าไปง่ายๆ อย่างนั้นหรือ?" เขาขบกรามพูดเสียงเย็น พร้อมรอยยิ้มแฝงความโหดร้าย เขาช้อนร่างนางขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อช่วยนางออกไปสู่ที่ปลอดภัย เขาพานางตรงไปยังคุกใต้ดินของเขาแทน เมื่อไป๋ผิงลืมตาขึ้น นางกระพริบตาสองสามครั้งเพื่อปรับสายตา ก่อนจะพบว่าข้อมือและข้อเท้าของตนถูกพันธนาการด้วยโซ่เย็นเฉียบ นางตัวสั่นสะท้าน หัวใจบีบรัดแน่นทันที "ไป๋เฉิน..!" นางกัดฟันแน่น พยายามขัดขืน ทว่าร่างกายที่อ่อนล้าของนางไม่อาจตอบสนอง เสียงฝีเท้าดังขึ้นจากความมืด ก่อนที่ร่างสูงจะก้าวออกมา ดวงตาสีดำสนิทของเขาส่องประกายคมกริบ ไร้ความปรานี "เจ้ารู้ตัวหรือไม่ว่าทำอะไรลงไป?" เสียงของเขาเย็นเยียบดังน้ำแข็งที่ไหลเวียนในเส้นเลือดของนาง ไป๋ผิงกัดริมฝีปาก ไม่ตอบคำ
ไป๋เฉินมองไปยังไป๋ผิงที่อ่อนแอและโซเซไปมา ดวงตาของเขาเย็นชา แต่กลับซ่อนบางสิ่งไว้ในนั้น ตนนั้นแอบตามไป๋ผิง แล้วเห็นว่านางนั่นเริ่มมีอาการ อ่อนแอลง ตนเดินออกมาอย่างเปิดเผยแล้วกล่าวว่า"เจ้าคิดว่าพิษที่สะสมอยู่ในร่างกายตลอดหลายปีถูกกระตุ้นขึ้นมาเองอย่างมหัศจรรย์งั้นหรือ" เขากล่าวเรียบๆ ก่อนจะยื่นมือออกไปปลายนิ้วของเขาแตะเบาๆ ที่หน้าผากของไป๋ผิง มันเป็นเพียงสัมผัสแผ่วเบา ทว่าแรงพลังบางอย่างกลับพุ่งพล่านไปทั่วร่างของนางในทันที‘พลังของข้า… ถูกกดข่ม…!’ดวงตาของไป๋ผิงขยายกว้าง นางรู้สึกถึงบางสิ่งที่พันธนาการพลังของนางจากภายใน"ไป๋เฉิน เจ้า… ทำอะไรกับข้า!" นางกัดฟันตะโกนเสียงแหบพร่า เพราะพิษที่ไหลเวียนในร่างชายหนุ่มเพียงยิ้มบาง ก่อนจะดึงมือกลับอย่างไม่ใยดี "ข้าแค่… ทำให้เจ้ากลายเป็นคนที่อ่อนแอลง"สายตาของเขาสงบนิ่ง เย็นชา และไร้ความปรานี"เจ้ามีพลังมากเกินไป… และอิทธิพลของเจ้าก็โหดเหี้ยมเกินไปเช่นกัน" เขากล่าวอย่างเฉยเมย "ถึงเวลาต้องลดมันลงบ้างแล้ว"ไป๋ผิงพยายามขยับนิ้วมือเพื่อเรียกพลังภายใน แต่กลับเงียบสงัด ไม่มีสิ่งใดตอบสนอง"… ข้าไม่สามารถใช้พลังได้อีกแล้ว"นางเงยหน้าขึ้นจ้องมองชายที่ยื
นางรับสารจากจิ้งจอกต่ำต้อยอย่างเงียบ ๆ ขณะที่ใบหน้าของไป๋ผิงไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ทุกสายตาจับจ้องมาที่นาง รอคอยคำสั่งอย่างกลั้นหายใจ“พาข้าไปดูที่เกิดเหตุ” นางกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ แต่เต็มไปด้วยอำนาจที่ไม่อาจปฏิเสธได้จิ้งจอกกระโดดเล็กน้อย ก่อนพยักหน้าอย่างรวดเร็วและรีบออกจากห้องประชุมพร้อมกับนาง ขณะที่พวกเขาเดินผ่านทางเดินยาว จิ้งจอกที่อยู่ใกล้ ๆ มองพวกเขาด้วยความระมัดระวัง บางตัวดูเป็นกังวล บางตัวกระซิบกระซาบกันอย่างเงียบ ๆ“มนุษย์เข้ามาในอาณาเขตของเราได้อย่างไร?”“หรือว่าจะเป็นนักล่าที่มีพลังพิเศษ?”ไป๋ผิงไม่สนใจเสียงซุบซิบเหล่านั้น นางติดตามจิ้งจอกออกจากพระราชวังไปยังเขตชายแดน ซึ่งอยู่ไกลเกินกว่าเมืองของจิ้งจอกขาวกลิ่นเลือดยังคงลอยอยู่ในอากาศเมื่อพวกเขามาถึง ซากปรักหักพังของบ้านบ่งบอกถึงความโหดร้ายของการโจมตี ไป๋ผิงมองไปรอบ ๆ ก่อนจะคุกเข่าลงสัมผัสพื้นดิน นางลูบคราบเลือดสีสนิมบนดินด้วยนิ้วเรียวบาง“ลายพลังงานนี้…” เสียงของนางขาดหายไป ดวงตาแคบลงเล็กน้อยนางรู้สึกถึงบางสิ่งที่แปลกประหลาด ไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา แต่กลับคุ้นเคยอย่างประหลาด…ดวงตาของนางเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย เมื่อความทรงจำที่
ไป๋ผิงลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ หลังจากการนอนหลับที่เต็มอิ่ม นางยังคงรู้สึกมึนงงอยู่บ้าง แต่ก่อนที่นางจะขยับตัว บ่าวสาวคนสนิทของนางก็เดินเข้ามาพร้อมรายงานข่าว"องค์หญิง วันนี้จะมีการประชุมของชนเผ่าทั้งหมด ท่านจะเข้าร่วมประชุมหรือไม่ "ไป๋ผิงขมวดคิ้วเล็กน้อย และนางก็รู้ดีว่าในสถานการณ์ปกติ นางจะไม่เข้าร่วมประชุมเหล่านั้นอยู่แล้ว นางมักจะไปเที่ยวเล่นไปทั่วและกลั่นแกล้งเราจิ้งจอกบางกลุ่มอยู่เรื่อยไป การบริหารไม่เคยมีความสนใจสำหรับนาง และนางก็ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับความวุ่นวาย"ข้าต้องไปจริงๆ หรือ?" เธอถามด้วยน้ำเสียงเรียบๆสาวใช้ลังเล และบอกนางด้วยความเคารพ "ตามประเพณีแล้ว ท่านไม่จำเป็นต้องไปเจ้าค่ะ... แต่ในครั้งนี้มีข่าวว่า มีเรื่องสำคัญที่เกี่ยวข้องกับเผ่าจิ้งจอก"ไป๋ผิงหยุดคิดครู่หนึ่ง นางไม่ได้โง่ และรู้ดีว่าถ้ามีการประชุมใหญ่ขนาดนี้ ก็ต้องมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นแน่ๆ นางถอนหายใจเล็กน้อย ลุกจากเตียง และดูเหมือนจะใช้สายตาคมๆ พิจารณาความคิดของตัวเอง"ข้าจะไปดูว่าพวกเขากำลังพูดถึงอะไร"สาวใช้อ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ นี่อาจจะเป็นครั้งแรกในหลายปีที่องค์หญิงของพวกเขายอมเข้าร่วมประชุม...เมื่อไป๋ผิงเ
ไป๋ผิงสูดหายใจเข้าลึก ๆ ขณะกัดริมฝีปากอย่างแน่นหนา เมื่อสายตาเย็นชาของไป๋เฉินจ้องมองมาที่นาง ดวงตาของนางสั่นไหว นางข่มความรังเกียจที่เริ่มขึ้นในตัวเอง ไป๋เฉินรู้สึกถึงความลังเลของนาง ดวงตาสีอำพันของเขาหดตัวลงเล็กน้อย ความสงสัยในใจของเขากลายเป็นเรื่องที่จริงจังขึ้น เขาไม่ได้พูดอะไร แค่คว้าเนื้อชิ้นหนึ่งแล้วใส่เข้าปากของนางอย่างรวดเร็ว“เจ้ากลัวอะไร?” เสียงของเขาเย็นชาและเต็มไปด้วยอำนาจ ก่อนที่นางจะได้ตอบ เขาก็โน้มตัวเข้ามาใกล้ รูปร่างสูงใหญ่ของเขากำมือแน่นที่คางของนาง แล้วบังคับให้นางเปิดปากและใส่เนื้อเข้าไปโดยไม่ให้นางมีเวลาเกร็งไป๋ผิงใจติดขัดด้วยความไม่เชื่อ ขณะที่พยายามต่อต้าน แต่มันก็ไร้ผล จิตใจของนางลอยไปยังรสชาติขมๆ ของเนื้อที่ติดอยู่ในปาก ราวกับกลิ่นที่แรงมากจนทำให้เธออยากอาเจียน น้ำตาคลอเบ้า แต่นางก็ไม่สามารถทำอะไรได้“กินมันซะ” ใบหน้าของไป๋เฉินเผยรอยยิ้มอันโหดเหี้ยม "ฮ่า!" “เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นเลือดเดียวกับพวกเราไม่ใช่รึ ”หัวใจของไป๋ผิงเต้นรัว นางพยายามหายใจให้สงบ และรู้ว่า หากเขาสงสัยมากขึ้น นางอาจตกอยู่ในอันตรายนางกลืนเนื้อเน่าที่อยู่ในปากลงไป แม้ว่ามันจะทำให้นางอยากจะพ่นอ
Comments