Share

๑ ทะลุมิติย้อนกลับมา

last update Last Updated: 2025-08-16 02:58:11

เรือนไม้ทรุดโทรมหลังหนึ่งท้ายหมู่บ้านมีหญิงสาวผู้หนึ่งนั่งเหม่อลอยอยู่ริมทางเดิน ไอความร้อนพัดโชยตามแผดเผาหญ้าจนมอดไหม้ แก้มขาวนวลก็เช่นกัน ยามนี้ถูกเฉียดคมจนเป็นรอยขีดบาดข้างแก้มจนแดงเถือก

ที่นี่ที่ไหน

เธอตายไปแล้วเหรอ

อย่าบอกอะไรโง่ๆ นะว่าเธอทะลุมิติมา

ทันทีที่รู้สึกตัวเธอก็ถูกจับแต่งงานร่วมผูกผมกับบุรุษหน้าน้ำแข็งผู้หนึ่งแล้ว นับจากวันนั้นก็ผ่านมาหลายวันเอาไฉ่หงยังคงเอาแต่จิตใจล่องลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัว หญิงสาวยุคปัจจุบันอย่างเธอตอนนี้ทะลุมิติย้อนกลับมาในอดีตแบบนั้นเหรอ

เหลือเชื่อเกินไปแล้ว

พนักงานสาวออฟฟิตที่ทำงานงกๆ ไม่มีเวลาแม้กระทั่งเข้าห้องน้ำจะทะลุมิติมาได้ยังไงหรือจริงๆ แล้วเธอทำงานหนักจนตาย

ถ้างั้นบอกหน่อยได้ไหม ถ้าเธอทะลุมิติมาแล้วเป็นอีกคนเหมือนในนิยายแล้วทำไมไม่มีความสนจำมากมายแล่นเข้าหัวล่ะ แต่นี่เธอมาด้วยสมองที่ขาวโพรงที่แต่ความจำในโลกก่อน

ไฉ่หงไม่มีว่าจะคิดวิเคราะห์หาคำตอบยังไงก็ยังไม่มีความสมเหตุสมผลสักนิดก่อนจะมีเงาดำๆ เดินผ่านไป

“เดี๋ยวก่อน...เอ่ออ ท่านจะไปไหน”

ดวงตาสีน้ำสนิทเพียงปรายมองเท่านั้น เขายืนนิ่งสบตานางนางอยู่ครู่หนึ่งก่อนเปิดปาก “เข้าป่า”

เข้าป่าหาของกินใช่ไหม แบบนั้นก็ดีเลยนับแต่นางทะลุมายังไม่ได้ลิ้มลองกินเนื้อสัตว์สักครั้ง ทุกมื้อล้วนแต่กินผักกับแป้งหมั่นโถวเท่านั้น

“เช่นนั้นไปด้วยได้ไหม”

“เกะกะ”

ไฉ่หงได้ยินแบบนั้นก็คร้านจะใส่ใจหาเรื่องอีกฝ่าย เอาเถอะ เขาเป็นสามีนางที่ต้องทนอยู่ร่วมกันจนกว่านางจะหาทางกลับไปได้ มีมิตรย่อมดีกว่ามีศัตรู

“ท่านฆ่าล่าสัตว์แล่เนื้อมาได้ไหม”

“ข้าไม่ฆ่าสัตว์"

เหอะ! ไม่ฆ่าก็ไม่กิน นางก็ไม่ง้อเข่นกัน

ไฉ่หงรู้ตัวอีกทีพระอาทิตย์ก็ลับขอบฟ้าถูกแทนที่ด้วยดวงจันทร์แล้ว ไฉนบุรุษผู้นั้นยังไม่กลับมาอีกไม่ใช่เพราะลื่นตกเขาไปแล้วหรอกนะ มือเรียวยกขึ้นวนลูบท้องน้อยๆ ที่ส่งเสียงร้องจ้อกแจ้กตั้งแต่เที่ยงจรดเย็น เธอจะเป็นแบบนี้ถ้าในครัวเหลืออะไรไว้ให้บ้างแต่นี่แม้แต่เศษข้าวขดหมอยังไม่มีหลงเหลือ

เขาเป็นยาจกเหรอ?

เหอะ ทะลุมิติมาแทนที่จะได้เป็นตัวร้ายผู้แสนร่ำรวยแต่นี่อะไร เธอมาอยู่กับยาจกแบบนี่เหรอ สวรรค์ลำเอียงเกินไปแล้วไหม หรือชาติที่แล้วเธอไปขายชาติหรือทำอะไรให้ไม่พอใจเลยลงโทษกับแบบนี้ ไฉ่หงสถบด่ามากมายอยู่ในใจหารู้ไม่ว่ามีสายตาอีกคู่หนึ่งกำลังเพ่งมองอยู่

นางไม่สมประกอบรึ?

นับว่าที่ผ่านมาแม้จะทำคล้ายไม่สนใจภรรยาผู้นี้ของตนแต่อาซานกับจับตามองอย่างไม่ไว้วางใจ ท่าทีที่ผิดแปลกจากผู้คน วาจาพิกลที่เอ่ยทีไม่เข้าใจ แท้จริงแล้วนางเป็นผู้ใดกันเอง

หลายวันผ่านมา

“อาซานนน”

“อาซานนน ท่านอยู่หรือไม่”

น้ำเสียงหวานตะโกนร้องเรียกหาอีกคน เมื่อตื่นขึ้นมากับพบความเงียบเหมือนวันที่ผ่านๆ มา เขาที่ใดก็ไปเถิดแต่ช่วยเตรียมอาหารไว้หรือปลุกนางลุกมากินข้าวด้วยได้หรือไม่

บางวันเป็นข้าวต้นเกลือ

บางวันเป็นผักต้นเกลือ

หรือเป็นหมั่นโถวจิ้มเกลือ

รันทนเกินไปแล้ว!!!

สรุปแล้วนางทะลุมิติมามีสามีเป็นยาจกที่แสนจะขี้เกียจคร้าน ชายอื่นในหมู่บ้านมีแต่ออกไปหาเงินส่วนสามีนางวันๆ เอาแต่เข้าป่าไม่รู้จักหาเงินเข้าบ้าน น่าโมโหยิ่งนัก

“น่ารำคาญ”

สามคำง่ายๆ ถูกเอ่ยออกมาจากอีกคนทำให้นางตั้งสติได้ พูดจาไม่เข้าแต่เช้ามัรสมควรให้อดข้าวนัก คอยดูเถิดนางหาเงินได้เมื่อไหร่จะไม่ง้อเด็ดขาด

“ข้าหิว”

อะไร?

เศษหมั่นโถวเล็กๆ ถูกบิออกแล้วยืนมาตรงหน้านางทันที เข้าใจอะไรผิดหรือไม่สามี ข้าไม่ใช่ไก่นะ

“ข้าไม่อิ่ม”

“เช่นนั้นก็ไม่มีอีกแล้ว”

นางหูฝาดหรือ

“หมายความว่าเช่นใด”

ใบหน้านิ่งของอาซานหรือสามีที่ถามคำตอบคำทำเอาคนใจร้อนอย่างนางกระชากสาบคอเสื้อมาคาดเค้นเอาคำตอบบัดเดี๋ยวนี้

“ไม่มีอะไรให้กินอีกต่อไป”

“มารดามันเถอะ ท่านเป็นยาจกใช่หรือไม่ หากเช่นนั้นจึงไม่รู้จักออกบ้านไปหางานทำเสียไยจึงต้องเข้าป่าทุกวันในนั้นมีงเงินให้ท่านใช้หรือกระไร”

นางร่ายยาวเอ่ยออกมาอย่างอดสู่ไม่พักเว้นช่วงให้หายใจแม้สักวินาทีหนึ่ง ทว่าทำไมคนตรงหน้ายังเอาแต่นิ่งเฉยอีก ควรจะสำนึกผิดไม่ใช่รึ

“แล้ว…”

“บัดซบมารดามันเถอะ” ไฉ่หงยันกายลุกขึ้นหมุนตัวหันหลังเส้นทางคล้ายเดินออกจากไผที่ใดสักหน

“จะหย่ากับข้าแล้วหรือ”

“ไปหาเงิน”

ไว้ค่อยมาอย่ากันเมื่ออนางร่ำรวยแล้วกันจากนี้ก็ฝันไปเถอะ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ฉันทะลุมิติมามีสามีเป็นยาจก   ๒๙ เป็นใหญ่ในจวน

    จวนชินอ๋องตลอดหลายวันที่ผ่านมานี้ยามค่ำคืนมีแสงไฟส่องสว่างตลอดทั้งคืน เสมือนกำลังเตรียมตัวให้พร้อมกับบางอย่างไฉ่หงส่ายหน้า “ข้าไม่เป็นไร”บุรุษผู้นี้ไม่มีความพอดีเอาซะเลย ตั้งแต่รู้ว่าในท้องของนางมีเด็กตัวแดงอาศัยก็เฝ้าถามด้วยสายตาสงสารตลอดว่าเด็กจะออกมาเมื่อไหร่นางมิใช่สุนัขที่ต้องตั้งท้องสองเดือนแล้วออกนะเฟยหลงชินอ๋องพยักหน้า ทว่าไม่ได้ช้อนตาขึ้นมองนางหากแต่กำลังจดจ้องอยู่ที่หน้าท้องกลมใหญ่“เขาอึดอัดหรือไม่” มนุษย์อาศัยอยู่ในนั้นได้นานเพียงนี้เชียวหรือ“ไม่รู้ แต่มารดาอึดอัด” ไฉ่หงเบะปากเจ้าเด็กตัวแดงนี่พอหิวก็โวยวายถีบท้องนางจนจุก พออิ่มแล้วก็นอนสบายใจจนใจหาย ช่างเหมือนสามีผู้นี้ไม่มีผิด!เอาแต่ใจ!“เขาเหมือนท่าน”“……” เฟยหลงชินอ๋องเขาเงียบไปพักหนึ่ง จ้องคนบนเตียงอย่างจริงจัง เห็นได้ชัดว่าหลังคลอดลูกแล้ว เขาจะช่วยนางอบรบสั่งสอนลูกให้เป็นคนดีเอง เกรงว่าหากไม่เป็นเช่นนั้นคงมีนิสัยไม่ต่างจากมารดาแน่ แค่นางคนเดียวก็เกินจะรับมีไหวแล้ว“มานั่งนี่” ไฉ่หงตบมือลงเตียงที่ว่างข้

  • ฉันทะลุมิติมามีสามีเป็นยาจก   ๒๘ เชื่อฟังภรรยาแล้วจะได้ดี

    หลังปีใหม่ผ่านพ้นไปดูเหมือนอากาศจะเย็นลงทุกพื้นที่ยามพลบค่ำและรุ่งสางมีหมอกแผ่ปกคลุมขึ้นมา ยามลมพัดโชยมาเห็นได้ว่าวันนี้คงเป็นวันที่หนาวเย็นที่สุดในฤดูกระมัง เฟยหลงชินอ๋องยืนหลับตาเหม่อลอยหวนคิดถึงเหตุการณ์เมื่อสามเดือนก่อนปลายฤดูใบไม้ผลิอีกตามเคย“สามี..”สองคำเรียกสั้นๆ นั้นทำให้เขาปรือตาขึ้น เหลียวตัวหันกลับไปมอง ทั่วหล้านี้จะมีผู้ใดเอ่ยเรียกเช่นนี้นอกจากนางเฟยหลงชินอ๋องเลิกคิ้วมองสองมือน้อยที่แบออกมา“ขวัญถุง”ขวัญถุง? ตัวเขายังจะมีเบี้ยอะไรติดตัวอีกเล่า ทุกอย่างล้วนมอบให้อยู่ในมือนางแล้วเขาเอื้อมมือไปกอบกุมฝ่ามือเย็นเฉียบไว้ออกแรงถูกเบาๆ ให้เกิดความร้อน “ยามนี้สามีเองไม่ต่างจากยาจกผู้หนึ่งแล้ว ถึงแบบนั้นอยากได้อะไรก็เอ่ยปากมาย่อมให้ภรรยาได้”“อยากได้อาหลง…ได้หรือไม่”ไฉ่หงถอนหายใจ ก่อนปล่อยมือเปลี่ยนเป็นคล้องกอดแขนชินอ๋องพร้อมบ่นพึมพำ “ท่านนี่นะซื่อบื้อยิ่งนัก”ผู้ใดจะกล้าเอ่ยบอกด่าชินอ๋องหากไม่ใช่ไฉ่หง“ผู้ใดได้ยินจะถูกครหาเอาได้” ชินอ๋องชะงักเอ่ยห้ามปราบ ยามอยู่ในห้องนางจะเรี

  • ฉันทะลุมิติมามีสามีเป็นยาจก   ๒๗ ความฝันตื่นหนึ่ง

    ไฉ่หงเพิ่งลืมตาตื่น ค่อยข้างสะลึมสะลือ ร่างทั้งร่างบังเกิดความปวดเหนื่อยส่วนที่เจ็บที่สุดคงเป็นศีรษะ นางไม่มีแต่เรี่ยวแรงที่จะลุกขึ้นจากเตียง“ชินหวางเฟย”ชิงชิง?น้ำเสียงเล็กแหลมเช่นนี้จะเป็นใครไปได้อีก ไฉ่หงปรายตามองเห็นร่างเล็กของสาวใช้ข้างกายฉุกละหุกวิ่งออกไป ได้ยินแจ่เสียงตะโกนว่า ‘ชินหวางเฟยพื้นแล้ว’ ดังไม่ขาดสาย“ชะ ชิง ชิง” ทว่าบอกเอ่ยปากเรียกน้ำเสียงนางกับแหบแห้งประหนึ่งปลาขาดน้ำครั้นตั้งสติได้ เมื่อคืนนางฝัน คล้ายรู้สึกว่าเป็นความฝันที่เหมือนจริงเกินไป ทั้งความเจ็บปวด ทั้งความเสียใจ ยามนี้แม้กระทั่งนึกถึงขอบตากับร้อนผ่าว น้ำตาจะไหลออกมาได้ทุกเมื่อหรือแต่จริงแล้วนั่นคือเจ้าของร่างก่อนที่นางจะมานางชื่อซูเม่ยมองค์หญิงแคว้นล่มสลายมารดาเป็นสนมขั้นเฟย บิดาเป็นฮ่องเต้พี่สาวต้องพระราชสมรสเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างแคว้นเพื่อให้รอดพ้นจาะสถานการณ์บ้านเมือง เสด็จแม่ทรงทำทุกวิธีทางเพื่อให้ท่านพี่ได้ตบแต่งออกไป แล้วข้าเล่า….จนหนึ่งปีให้หลังแคว้นล่มสลาย บุรุษถูกประหารไม่เว้นส่วน

  • ฉันทะลุมิติมามีสามีเป็นยาจก   ๒๖ ชาติกำเนิดแท้จริง

    “มันตัวใดขวางทางก็ฆ่าทิ้งซะ”ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในคืนนี้เป็นซื่อจื่อรนหาที่เองเพียงประโยคนี้ประโยคเดียวของชินอ๋องก็เพียงพอแล้ว องค์รักษลับล้วนพยักศีรษะเข้าใจเฟยหลงชินอ๋องชินยืนอยู่หน้าท้องพระโรง สวมเสื้อคลุมขนสุนัขจิ้งจอกยามมีสายลมเย็นโชยมาก็บิดพริ้วปลิ้วไสว ทั้งใบหน้านิ่งเย็นยะเยือก นัตย์ตาสีน้ำหมึกดุจมัจจุราชก็ไม่ปานทหารกบฎเห็นเฟยหลงชินอ๋องปรากฎกายเบื้องหน้า ตัวพลันหวั่นหวาดกลัวเพราะความสามารถของอีกฝ่ายอยู่ลึกในใจ “ท่านอ๋อง...เฟยหลงชินอ๋อง ทรงกลับไปเถอะขอรับ สายเกินไปแล้ว” แม้น้ำเสียงช่วงแรกจะตะกุตะกะหากแต่ช่วงหลังเต็มไปด้วยความมั่นใจ ท้ายที่สุดแล้วบังลังก์มังกรก็ตกเป็นของซื่อจื่อ เป็นหลานของสกุลหลี่อยู่ดี“ถอยไป!” เฟยหลงชินอ๋องแค่เสียงฮึออกมาจะไม่หลีกบิดาแน่ใจแล้วหรือ เขาเบี่ยงเบนสายตาส่งสัญญาณไปยังโม่เหวินก่อนที่อีกฝ่ายจะชักคมดับออกจาฝักเดินก้าวขุมก็ตะบันคอกบฎหลุดออกจากบ่าไม่มีขอกาสได้ร้องขอชีวิตทหารรักษาหน้าประตูห้องพระโรงขาดความระมัดระวังมาก ไม่นานก็มีเสียงดาบครืนเคร้งปะทะกัน กลิ่นเลือดคละคลุ้งตามอากาศชวนอ้วกแต

  • ฉันทะลุมิติมามีสามีเป็นยาจก   ๒๕ ก่อกบฏ

    ไฉ่หงรูม่านตาหดเล็ก หลี่มองชินอ๋องที่เดินมาแต่ไกลใบหน้าอิดโอย “อาหลง…” ยังไม่ทันได้เอ่ยอันได้ออกไปนางก็ถูกรวบเข้าอ้อมกอดนัตย์ตาสีน้ำหมึกพลันคลายความตึงเครียดลงเมื่อเห็นนางยืนอยู่เบื้องหน้าตนผ่านมาครึ่งปีแล้วที่นางย้ายนำพักมาอาศัยอยู่เมืองหลวงและผ่านมาเกือบจะหนึ่งปีแล้วที่สถานการณ์ภายในวังหลวงเริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ ไม่เว้นวันต่อวันที่มีขุนนางใหญ่ถูกฆ่าปิดปากนางเม้มปาก มือลูบหลังเขาเบาๆ ก่อนเอ่ยขึ้น “ไม่ดีขึ้นเลยหรือ”“ไม่” น้ำเสียงพูดขึ้นห้วนๆ แผ่วเบา เว้นช่วงจึงพูดว่า “สมควรตาย” บิดาอยากจะหยิบดาบขึ้นไปตะบั่นคอกบฎผู้นั้นให้แล้วสิ้นไป เพียงแต่เขาไม่ใช่แม่ทัพแคว้นและจะทำเรื่องเช่นนี้ข้ามหน้าข้ามตาฮ่องเต้ได้อย่างไรบรรยากาศโดยรอบเงียบสงบได้ยินแต่เสียงลมหายใจฟืดฟัดของเขาเท่านั่นเฟยหลงชินอ๋องกระแอ่มไอกลบเกลือนทีหนึ่ง ได้สติว่าตนพลั้งปากสถบออกไปด้วยความเคยชิน “นั่นไม่ใช่ข้า…”ไม่ใช่ท่านแล้วจะใครอีกล่ะ“นั่นไม่ใช่ท่านจริงแท้ อาหลงของข้านั่นสุภาพกับสตรี อ่อนโยนต่อผู้อื่นยิ่งนัก”“ไฉนจึงเพ้อเจ้อ” ถึงแบบนั้นเขาก็ฟังจนจบประโยค รู้สึกว่าไม่ถูกนัก เพียงแต่นางพูดอะไรเขาย่อมเชื่อโดยไม่เอ๊ะใจไ

  • ฉันทะลุมิติมามีสามีเป็นยาจก   ๒๔ อันธพาลน้อย

    ไฉ่หงยืนรออยู่เนินนานจนกระทั่งยามโหย่ว(17.00-18.59) ก็ยังไม่เห็นแม้กระทั่งเงาของเจ้าของจวน สถานการณ์ในวังหลวงยามนี้จากคำบอกเล่าของชินอ๋องน่าจึงรู้สึกเป็นกังวลใจ“เรากลับไปรอในจวนดีไหมเพคะ” ชิงชิงแอบสังเกตอยู่เงียบๆ นายท่านได้เข้าวังหลวงในสถานการณ์เช่นนี้เกรงว่าจะปลีกตัวออกมายากนางเหลือบตามองแวบหนึ่งเอ่ยตอบ “รอเพียงนี้แล้วก็รออีกหน่อยเถิด”สองสามเดือนที่ผ่านมาสิ่งที่มองออกคือหวางชินใจเย็นรอคอยผู้อื่นแน่วแน่โดยมิปริปากชิงชิงเป็นเพียงบ่าวไพร่นายว่าเช่นไรก็ตามนั้น“สตรีบำเรอในหลังจวนชินอ๋องมีมากมายเพียงนี้ หากเราใช้โอกาสในยามเทศกาลปล่อยพวกนางไปจะได้หรือไม่”“ล้วนขึ้นอยู่กับเจ้าของจวนเพคะ”เช่นนั้นก็หมายความว่าได้ทว่าไฉ่หงได้ยินแล้วกลับไม่ได้เอ่ยอะไรออกไป หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงเอ่ยขึ้นเรื่องที่ข้องคาใจ “จะตรวจร่างกายประจำเดือนอีกเมื่อใด”เหตุใดบุตรของนางยังไม่มาไม่อยากเกิดมาใช้เงินจวนชินอ๋องให้หมดคลังรึ มีมากมายกลายกองเพียงนี้มาเถิดสักสิบคน“ทำมารดายังไม่ท้อง” ไฉ่หงพิมพำชิงชิงมองไฉ่หงด้วยความตกตะลึง กระพริบตาปริบๆครู่หนึ่งพลันได้ยินเสียงรถม้าเคลื่อนที่มาแต่ไกลโพ้น แสงตะเกียง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status