ซุนจือหลินสะดุ้งตื่นทันทีหลังจากที่ท่านผู้มีแสงผลักนางออกมาจากถุงวิเศษ ในตอนนี้นางมีถุงวิเศษกับกระบอกน้ำวิเศษที่ท่านเทพให้มาดื่มและภารกิจที่นางจะต้องทำ และไม่สามารถที่จะยกเลิกภารกิจได้และหากทำภารกิจไม่สำเร็จจะถูกหักเงิน 50 อีแปะ หากติดลบดวงวิญญาณจะหายไป
ในการทำภารกิจจะได้เงิน 10 อีแปะ หากทำภารกิจสำเร็จในเวลาที่กำหนดไว้จะได้เงิน 40 อีแปะ ในภารกิจที่ 1 ที่นางได้รับมา แต่ภารกิจในอนาคตนั้นขึ้นอยู่กับความยากง่ายจำนวนเงินที่จะได้ก็จะมากขึ้น
ติ่ง ตึง ติ๋ง
"สวัสดีดีซุนจือหลิน ข้าเป็นระบบภารกิจของท่านข้าชื่อโฮสต์ ข้ามีหน้าที่ดูแลภารกิจของทุกอย่างที่ท่านจะต้องกระทำทั้งหมด ข้ามีหน้าที่มอบภารกิจและเก็บเงินภารกิจของท่านที่ท่านทำได้ ท่านจะสามารถถอนเงินออกมาได้อาทิตย์ละครั้งตามที่ท่านจะสะดวก"
"โฮสต์หรือ"
"เมื่อท่านเปิดถุงวิเศษถือว่าท่านเริ่มทำภารกิจ ของวิเศษของท่านผู้มีแสงที่ให้ท่านอยู่ข้างในถุงวิเศษท่านสามารถที่จะนำเอาออกมาได้ทันที"
"แล้วข้าจะติดต่อโฮสต์ได้อย่างไร"
"เมื่อท่านต้องการข้าขอเพียงเอ่ยชื่อเรียกข้าและเปิดปากถุงวิเศษข้าจะออกมาทันที"
ซุนจือหลินมองโฮสต์เป็นระบบเพราะโฮสต์ไม่ได้เป็นผู้ดูแลอย่างเดียวเขาจะเปรียบเสมือนเพื่อนของนางในอนาคตถ้าเราสนิทกันมากพอ
"ได้ทุกเมื่อหรือไม่"
"ท่านสามารถเรียกใช้ข้าได้ทุกเมื่อ ทุกเวลา แต่ทุกครั้งที่เรียกจะเสียเงิน 5 อีแปะ"
"เสีย 5 อีแปะ ข้าจะบ้าได้ข้ายังไม่มีเงินสักอีแปะด้วยซ้ำ ไหนภารกิจที่ข้าจะต้องทำอีก นี่ใครเป็นคนตั้งกฎขูดเลือดขูดเนื้อข้าเช่นนี้"
"ภารกิจที่ท่านจะต้องทำและกฎระเบียบของโฮสต์เพียงได้รับมอบหมายมาจากท่านผู้มีแสงเท่านั้น อีกอย่างท่านผู้มีเเสงนั้นมีภารกิจให้ท่านต้องทำนอกเหนือจากสามข้อที่ท่านจะต้องทำ"
"ท่านผู้มีแสงอีกแล้วหรือท่านลุงเฒ่านั่นเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก"ซุนจือหลินนางมีเงินอยู่ 10 อีแปะ หากเริ่มทำภารกิจ แต่หากทำสำเร็จนางจะได้อีก 40 อีแปะ แต่หากต้องการพูดคุยกับโฮสต์ในช่วงเวลาที่โฮสต์นั้นไม่ได้ติดต่อมาเอง นางจะต้องเสียเงินให้โฮสต์ 5 อีแปะ
"ขอให้ท่านรับภารกิจตอนนี้"
"ข้าทราบแล้ว"ซุนจือหลินเปิดถุงวิเศษออกทันทีมีลำแสงสีฟ้าพุ่งออกจากภายในถุงวิเศษ ขึ้นเป็นจอสี่เหลี่ยมสีฟ้าน่าจะเป็นโฮสต์
"ซุนจือหลินรับทำภารกิจกดตกลงรับ 10 อีแปะ"
ซุนจือหลินกดตกลงทำภารกิจในภารกิจแรกคือนางจะต้องรักษาซุนกวางหวา ซึ่งป่วยหนักจากการทำงานหนักจากของวิเศษที่ท่านผู้วิเศษให้นางมาและต้องหาวิธีใช้และรักษาเองให้ได้"
"ซุนจือหลินรับเงิน 10 อีแปะ จากระบบโฮสต์"
"โฮสต์แล้วของที่ท่านผู้มีแสงให้ข้าล่ะ"
"เชิญท่านกดที่กล่องของขวัญ"
"หน่อกล้วยหรือ"ซุนจือหลินกดตรงกล่องของขวัญระบบก็พาไปที่ขวัญสะสมว่านางนั้นมีอะไรบ้าง ในระบบนางนั้นมีหน่อกล้วย 3 หน่อ นางจะต้องหาวิธีใช้หน่อกล้วยรักษาซุนกวางหวาให้หาย
"หน่อกล้วย 3 หน่อ นี้ เกี่ยวข้องกับภารกิจท่าจจะต้องทำภารกิจในสำเร็จภายใน 3 เดือน"
"หน่อกล้วยทั้งหมดท่านจะรับเลยหรือไม่"
"เอ่อ โฮสต์หากข้าจะเอาหน่อกล้วยออกมาวันอื่นได้หรือไม่ หากเป็นในสถานการณ์ตอนนี้ข้าคงจะไม่สะดวก"
"ได้ จะไม่เสียค่าบริการในระบบหากเป็นการถอนเงินหรือของขวัญออกจากระบบ หากเรียกใช้โฮสต์นอกเหนือจากนี้จะเสียค่าบริการระบบโฮสต์ 5 อีแปะ"
"ได้ ๆ ตกลง"ซุนจือหลินใจชื้นขึ้นมาหน่อยคิดว่าจะต้องเสียเงินอีก 5 อีแปะ เสียอีกระบบโฮสต์ของท่านผู้มีแสงยิ่งเคี่ยวอยู่ด้วย
"ขอบคุณที่เรียกใช้ระบบโฮสต์"
ซุนจือหลินรูดปิดปากถุงวิเศษทันทีหลังจากที่โฮสต์เข้าไปในถุงเป็นที่เรียบร้อย "หน่อกล้วย 3 หน่อ ยังไงก็จะต้องนำไปปลูกก่อนเป็นอย่างแรก ส่วนขั้นตอนต่อไปค่อยคิดแล้วกัน"
ซุนจือหลินเก็บถุงวิเศษไว้ใต้หมอนนอนเพราะตอนนี้คงจะต้องอยู่ในห้องอีกหลายวันจนกว่าแผลและอาการของนางนั้นจะขาดดี ส่วนกระบอกน้ำวิเศษหลังจากที่ดื่มไปกระบอกน้ำก็หายไปจากในมือเองก็ดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องหาที่แอบ เพราะหากท่านแม่เล็กเห็นก็อาจจะถามเพราะท่านแม่เล็กเป็นคนที่ขี้สงสัยและสังเกตสิ่งรอบข้างอยู่เสมอ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"ซุนจือหลินเจ้าตื่นหรือยัง"
"ข้าตื่นได้สักพักแล้วเจ้าค่ะท่านแม่เล็ก"
"เย็นแล้วเดี๋ยวข้าจะเช็ดตัวให้เจ้า เพราะเจ้ายังขยับตัวไปไหนมากไม่ได้เช็ดตัวเอาก็พอ"ซุนอีเหยียบเช็ดตัวให้ซุนจือหลินก็ออกจะบ่อยไม่รู้ครั้งนี้ซุนจือหลินนางจะอายอะไรใบหน้าถึงแดงเป็นลูกตำลึงสุกได้
"อายอะไรกัน"
"ท่านแม่เล็กข้าโตแล้วเจ้าค่ะ ข้าอายท่านแม่เจ้าค่ะ"
"ฮ่า ๆ ข้าก็เช็ดให้เจ้าออกบ่อยตอนที่เจ้าไม่สบายอีกอย่างข้าเช็ดตัวให้ท่านพ่อของเจ้าเขาไม่เห็นจะอายเลยออกจะชอบด้วยซ้ำ"ซุนกวางหวาออกจะชอบตอนที่เช็ดตัวให้หรือยามอาบน้ำให้เขาซุนกวางยิ่งตอนนี้เขาไม่สามารถที่จะอาบน้ำเองได้ไม่รู้ว่าเสียใจหรือดีใจกันแน่ที่ไม่ต้องอาบน้ำเอง เพราะทุกวันนี้นางเป็นคนทำหน้าที่นี้เอง
"แต่ท่านแม่กับท่านพ่อเป็นสามีภรรยานี่เจ้าคะอาบน้ำให้กันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร"
"เดี๋ยวเจ้ามีครอบครัวก่อนเถอะจะรู้ว่ามันแปลกตรงที่สามีชอบนั่นแหละ"
"ท่านแม่ข้าจะแต่งงานออกเรือนจริง ๆ หรือเจ้าคะ"ไม่ใช่ไม่รู้ว่าจะต้องแต่ง แต่ในใจยังห่วงคนทั้งสองที่ต้องอยู่กันสองคน
"สัญญานี้ข้าเองก็ไม่เคยรู้เพราะเป็นช่วงที่ท่านแม่ของเจ้าอยู่ตั้งแต่เจ้ายังไม่เกิด เพราะบ้านมู่มีลูกคนแรกเป็นลูกชายทั้งสองครอบครัวจึงได้ให้คำมั่นสัญญาต่อกัน เพียงไม่ได้ระบุว่าลูกสาวบ้านซุนจะแต่งกับลูกชายคนไหนของบ้านมู่ แต่มีมู่ซงหยวนที่ยังโสดอยู่ผู้เดียว เพราะทั้งมู่ฉวนก็แต่งงานแล้ว มู่จื่วชิวคนรองก็แต่งแล้วเช่นกัน"
"ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะท่านแม่เล็ก"
"ท่านลุงมู่ต๋าเขาให้คำมั่นสัญญาว่ามู่ซงหยวนนั้นเป็นคนดี ถึงเขาจะ…"
"ถึงเขาจะเป็นเช่นไรข้าก็รับได้เจ้าค่ะขอแค่เขาเป็นคนดีก็พอเจ้าค่ะ"ซุนจือหลินเองก็ไม่ได้อยากได้สามีที่ตบตีภรรยา หรือคนเจ้าชู้ให้เจ็บช้ำน้ำใจ ถึงมู่ซงหยวนจะพิการอย่างน้อยเขาก็จะมีนางแค่คนเดียวเท่านั้น
"ขอบใจเจ้าที่เข้าใจนะซุนจือหลิน"แค่นี้ซุนอีเหยียนก็ดีใจแล้วที่ซุนจือหลินรับสภาพความเป็นจริงของมู่ซงหยวนได้ เพราะทั้งนางและซุนกวางหวานั้นรับและไม่ได้รังเกียจมู่ซงหยวนเลย
"ท่านแม่เล็กหากข้าแต่งออกเรือนไปข้ามาหาท่านกับท่านพ่อบ่อย ๆ ได้หรือไม่เจ้าคะ"
"ได้สิแต่งงานหรือยังไงไม่แต่งเจ้าก็คือคนบ้านซุนจะมาบ่อยแค่ไหนก็ได้ตามใจเจ้า"ซุนอีเหยียนเองก็เป็นห่วงซุนจือหลินและก็เป็นห่วงซุนเพ่ยหนิงที่ตอนนี้ก็ไม่ได้ส่งข่าวคราวมาได้สักพักแล้ว ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นเช่นไรบ้าง
"ท่านแม่เล็กท่านมีเรื่องไม่สบายใจหรือเปล่าเจ้าคะ"ซุนจือหลินสังเกตเห็นแววตาเศร้าและคิดถึงใครบางคนอยู่ในแววตาของท่านแม่เล็ก แต่ถ้าให้เดาก็อาจจะเป็นซุนเพ่ยหนิงเพียงนางออกเรือนไปช่วงแรก ๆ มีติดต่อกลับมาบ้าง แต่หลัง ๆ นางเงียบหายไปเลยท่านแม่เล็กคงจะเป็นห่วงนาง
"ซุนเพ่ยหนิงไม่ได้ส่งข่าวคราวมาได้สักพักแล้วตอนนี้เลยไม่รู้ว่านางเป็นอยู่อย่างไร"ซุนอีเหยียบเลี้ยงลูกมาจึงรู้ว่าทั้งซุนจือหลินและซุนเพ่ยหนิงมีนิสัยที่ต่างกัน ซุนเพ่ยหนิงมีนิสัยที่ไม่ยอมคนนางจะยอมแค่พี่สาวของนางคนเดียวคือซุนจือหลิน
ส่วนซุนจือหลินมีนิสัยที่ยอมคนและนางเป็นคนซื่อ ๆ ตามคนไม่ค่อยจะทัน แต่นิสัยเล่านี้เป็นอดีตไปแล้วเมื่อเทียบกับซุนจือหลินในตอนนี้ช่างต่างกันราวฟ้ากับเหว
ซุนจือหลินไม่คิดที่จะปิดบังความคิดของนาง การทำอาหารนางมีความสุขก็จริง แต่การเปิดร้านอาหารนั้นหนักและเหนื่อยเกินไปถึงจะรู้ว่ามู่ซงหยวนสามารถที่จะเปิดร้านให้ได้ แต่การที่จะทำเช่นนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายความพร้อมต่าง ๆ อีกมากมาย"พี่เห็นเจ้าซื้อข้าวของมาเยอะเลย""ข้าขอโทษเจ้าค่ะที่ใช้เงินเยอะ แต่ข้าซื้อแต่ของที่จำเป็นนะเจ้าคะไม่ได้ซื้อของส่วนตัวเลยนะ"ซุนจือหลินกลัวว่ามู่ซงหยวนจะด่านาง เพราะวันนี้นางใช้เงินของเขาไปเยอะจริง ๆ"ไม่ได้ไม่จะดุเงินที่พี่ให้ใช้เท่าไหร่ก็ได้แล้วแต่เจ้า พี่แค่เห็นเจ้าซื้อข้าวของมามากมายเจ้าคงจะเหนื่อยน่าดูวันนี้""ข้าซื้อเสื้อสำเร็จมาให้พี่ด้วยเจ้าค่ะ"ซุนจือหลินเอ่ยออกไปอย่างยิ้ม ๆ อย่างน้อยใช้เงินของอีกฝ่ายไปตั้งเยอะก็ต้องมีอะไรมาเป็นสินบนเสียหน่อย"แล้วของเจ้าล่ะ""เสื้อผ้าข้ายังใส่ได้อยู่เจ้าค่ะ"ซุนจือหลินไม่คิดที่จะซื้อเสื้อผ้าใหม่ตอนนี้ถึงบ้านนางจะไม่ได้ร่ำรวย แต่เสื้อผ้าที่ใส่ก็ถือว่าสะอาดไม่ได้ขาดอะไรจนต้องปักเย็บมู่ซงหยวนถอนหายใจเมื่อได้ยินในสิ่งที่ไม่พอใจเป็นอย่างมาก มีสตรีที่ไหนบ้างไม่อยากมีเสื้อผ้าสวย ๆ งาม ๆ ใส่คงจะมีแต่เมียของเขาเท่านั้นแหละที่ไม่คิดจะซ
บ้านมู่ซงหยวน&ซุนจือหลินมู่ซงหยวนไม่เป็นอันทำอะไรเลยเขากระวนกระวายในใจ เขาเป็นห่วงซุนจือหลินนางไปนานแล้วยังไม่กลับมาเลย"พี่ซงหยวนเดี๋ยวพี่สะใภ้ก็มาพี่มากินข้าวเถอะ"อาหานล่ะเหนื่อยใจเพราะพี่ซงหยวนไม่ยอมกินข้าวเที่ยงเลยนี่ก็บ่ายแล้ว รอแต่พี่สะใภ้กลับมาอย่างเดียว"นานแล้วนางยังไม่กลับมาเลย""เดี๋ยวก็กลับมาพี่ซงหยวนไปในเมืองไม่ใช่ใกล้อีกอย่างพี่สะใภ้น่าจะมีธุระที่จะต้องไปทำอาจจะใช้เวลา"อาหานไม่รู้จะสรรหาประโยคไหนมาพูดให้พี่ซงหยวนของเขาจะสบายใจขึ้น"หากครั้งหน้านางจะเข้าเมืองข้าจะไปกับนางด้วยให้ได้"อาหานได้แต่ถอนหายใจเพราะรู้ว่ายังไงพี่สะใภ้ก็ไม่ให้ไปด้วยอยู่ดี หากพี่ซงหยวนขายังไม่หายเป็นปกติถึงตอนนี้จะดีจนเกือบจะหายแต่ยังไม่ได้หาย หากเดินเยอะก็จะกลับมาอักเสบอีก"พี่ซงหยวนมากันแล้วขอรับ"อาหานที่เห็นว่าพี่สะใภ้กลับมาถือข้าวของกันมามากมายจึงรีบวิ่งเข้าไปช่วยทันที"ซื้อของกันมาเยอะแยะเลยได้ชุดของข้าไหม""ได้ แต่มาช่วยถือของก่อน"เสี่ยวหมิงให้อาหานช่วยพี่สะใภ้ถือของเข้าไปเก็บในครัว เพราะว่าของส่วนใหญ่อยู่ในครัววันนี้พี่สะใภ้จะทำก๋วยเตี๋ยวให้กิน"พี่สะใภ้พี่ซงหยวนไม่ยอมกินข้าวเลยขอรับจะรอแต่พ
หลังจากที่ออกจากร้านขายเครื่องประดับซุนจือหลินก็เดินเข้าตลาดในเมือง เพราะจุดประสงค์ในการมาในครั้งนี้ของนางคือสำรวจการค้าในเมือง"เดี๋ยวหาซื้อของกลับไปทำกับข้าวกันดีกว่า""ก็ดีนะพี่สะใภ้ในตลาดของขายเยอะมาก"เสี่ยวหมิงไม่ได้ตื่นตาตื่นใจมากเท่า แต่ก็แปลกตาเท่านั้นเพราะอยู่ในหมู่บ้านไม่ได้ออกมาเปิดหูเปิดตานาน"พี่รู้แล้วว่าเย็นนี้จะกินอะไรดี"ซุนจือหลินมีความอยากกินอะไรร้อน ๆ และอะไรก็ได้ที่เป็นเส้น ๆ ก๋วยเตี๋ยวก็เป็นความคิดที่ดี ในเมืองก็มีก๋วยเตี๋ยวขายเหมือนกัน แต่หน้าตาแตกต่างกันออกไปตามสูตรของแต่ละร้าน"พี่สะใภ้จะทำอะไรหรือขอรับ""ก๋วยเตี๋ยวน่ะไปซื้อของกันดีกว่า เดี๋ยวต้องไปอีกหลายที่"ยังเหลือร้านขายเมล็ดพันธ์ุผักกับร้านขายเสื้อผ้านางเองก็อยากจะซื้อชุดสักชุดไปให้มู่ซงหยวนเหมือนกัน"ท่านป้ามีผักแค่นี้หรือเจ้าคะ""ใช่ มีไม่กี่อย่างช่วงนี้ดินไม่ดีเลยปลูกอะไรก็โตยาก ปลูกได้แต่ผักเดิม ๆ แต่ถ้าแม่นางอยากได้ผักหลาย ๆ อย่าง ก็ไปอีกสักหน่อยจะมีร้านขายผักขนาดใหญ่ แต่ราคาจะสูงหน่อยเพราะผักบางชนิดที่ปลูกยากก็นำส่งมา""ขอบคุณเจ้าค่ะท่านป้า งั้นข้าช่วยอุดหนุนท่านป้าฟักทองนี่ข้าเอาหนึ่งลูกเจ้าค่ะ""ได
ยามเฉิน(07.00-08.59 น.)ซุนจือหลินเลือกที่จะออกเดินทางแต่เช้า เพราะไม่รู้ว่าจะอยู่ในเมืองนานแค่ไหน "พี่ซงหยวนข้าไปแล้วนะ อาหานฝากกับข้าวไปบ้านซุนด้วยนะ""ขอรับพี่สะใภ้""เสี่ยวหมิง เจี้ยนโป พวกเจ้าทั้งสองต้องดูแลนางแทนข้าให้ดีและรีบไปจะได้รีบกลับกัน"มู่ซงหยวนรีบเอ่ยไล่เพราะกลัวใจจะกลับคำไม่อนุญาตให้ไปกัน เพราะวันนี้ต้องห่างซุนจือหลินเป็นวันแรกที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน"พี่ซงหยวนเข้าเมืองจะให้รีบกลับคงจะไม่ได้หรอก"อาหานรู้สึกถึงสายตาและพลังงานบางอย่างที่อยู่ตรงหน้าเขาที่แรงกล้าจนขนหัวลุก"จริงอย่างที่อาหานบอก พี่ก็อยู่บ้านไม่ต้องไปไหน""พี่จะไม่ไปไหนจะรอเจ้ากลับมา"มู่ซงหยวนเอ่ยด้วยน้ำเสียงออดอ้อนเฉกเช่นที่ซุนจือหลินเอ่ยกับเขาเมื่อวานนี้ จนทำให้สหายทั้งสามต่างพากันยืนนิ่งหลังตรง ใบหน้ามองกันอย่างซีดเซียวแปลก ๆ และขนลุกจนไม่มีอารมณ์ขบขันใด ๆซุนจือหลินเองก็ไม่ต่างจากอาหาน เสี่ยวหมิง เจี้ยนโป เพราะความขนลุกมันเกิดขึ้นมาจากมู่ซงหยวนที่เอ่ยด้วยน้ำเสียงออดอ้อนเหมือนที่นางเอ่ยกับเขาเมื่อวาน แต่ต่างตรงที่มู่ซงหยวนเอ่ยออกมาน้ำเสียงไม่ได้หวานหูแถมใบหน้ายังนิ่งและเหมือนไม่มีความรู้สึกอีกด้วยบนเกวีย
ซุนจือหลินหลังจากที่กินข้าวเที่ยงเสร็จนางเองก็สังเกตเห็นเหมือนว่าต้นกล้วยมันโตเร็วผิดปกติ มู่ซงหยวนเองก็คงคิดเช่นนาง แต่เขาคงจะไม่ถามเพราะน่าจะคิดว่าดินดีน้ำดีเท่านั้น"พี่ซงหยวนข้าอยากเข้าเมือง แต่พี่คงไปกับข้าไม่ได้""เจ้าจะอยู่ติดบ้านสักวันให้พี่ได้อุ่นใจบ้างไม่ได้หรือ ไปในเมืองโดยไม่มีพี่แบบนี้""พี่ซงหยวนเจ้าขาให้ข้าไปในเมืองเถอะน่ะ ข้าสัญญาว่าจะดูแลตัวเองให้ดี นะพี่ซงหยวนเจ้าขา"ซุนจือหลินเอ่ยด้วยน้ำเสียงออดอ้อนและเป็นครั้งแรกที่นางใช้น้ำเสียงเช่นนี้กับมู่ซงหยวน"ก็ได้ แต่พี่จะให้เสี่ยวหมิงกับเจี้ยนโปไปเป็นเพื่อนด้วย"มู่ซงหยวนเจองานยากที่เขานั้นจะปฏิเสธน้ำเสียงหวานออดอ้อนที่ได้ยินเป็นครั้งแรกเช่นนี้ แล้วเช่นนี้เขาจะไปไหนรอดได้ตายคาอกของนางอย่างแน่นอน"ขอบคุณเจ้าค่ะ""แล้วพี่อนุญาตเช่นนี้เจ้าไม่มีสิ่งใดที่จะตกรางวัลให้พี่บ้างหรือ"มู่ซงหยวนคาดหวังในการกระทำของซุนจือหลินเป็นอย่างมาก เพราะมันมีผลต่อการใช้ชีวิตของเขา"รางวัลหรือเจ้าคะ"ซุนจือหลินฉุกคิดรางวัลที่มู่ซงหยวนร้องของ นางคิดเป็นสิ่งอื่นไปไม่ได้นอกจากภารกิจอันที่สองของนาง จะง่ายขนาดนี้เชียวหรือ 100 อีแปะ จ๊ารอข้าก่อนนะจ๊ะ"งั้น
มู่ซงหยวนที่นั่งอยู่หลังบ้านเขามองและสังเกตเจ้าต้นกล้วยที่ซุนจือหลินนำมาให้เจ้าพวกนั้นปลูกให้ ว่ามันโตเร็วผิดปกติหรือเปล่าจากหน่อกล้วยต้นเล็กที่พึ่งปลูกลงดินได้ไม่นาน แต่ทำไมถึงได้โตเร็วขนาดนี้"พี่ซงหยวนแม่พี่กับสะใภ้รองกลับไปแล้วขอรับ"อาหานเอ่ย"พวกเขามานานหรือยัง""ก็พี่ไปได้สักพักแล้วดีที่ข้าออกมานอกบ้าน เห็นว่าทั้งสองคนกำลังพยายามที่จะเข้าไปในบ้านดีที่พี่สะใภ้ล็อกบ้านไว้ ไม่งั้นบ้านพี่ไม่เหลือของดีแน่ ๆ"เสี่ยวหมิงรู้สึกปวดฉี่เพราะพึ่งจะกินข้าวเช้าที่พี่สะใภ้ทำและดื่มน้ำเยอะไปจึงได้ปวดฉี่ แต่ตอนที่กำลังจะฉี่นั้นสายตาก็มองไปที่บ้านพี่ซงหยวนและเห็นคนทั้งสองพยายามจะเข้าบ้านทำให้เขาตะโกนเรียกอาหานและเจี้ยนโปออกมา จนตัวเขานั้นฉี่ไม่ออกเพราะเป็นกังวลพี่สะใภ้ฝากให้ดูแลบ้านให้ด้วย"ทำดีมากอย่าให้ใครเข้าไปในบ้านตอนที่ข้ากับนางไม่อยู่นอกจากท่านพ่อมู่ พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ใหญ่หรือท่านพ่อท่านแม่ซุน เพราะต่อไปพี่สะใภ้ของพวกเจ้าจะไปบ้านซุนบ่อยหรือไม่ก็ไปทุกวันและข้าก็จะต้องไปด้วยบ้านจึงจะไม่มีคนอยู่ในช่วงเช้า ๆ ถึงสาย ๆ"มู่ซงหยวนไม่คิดที่จะให้ซุนจือหลินไปที่บ้านซุนทุกวัน แต่ช่วงนี้ต้องตามใจนางไปก่อน