ตอนที่ 8
อนุ
“ข้าบอกเจ้าแล้วแต่เจ้าไม่เชื่อข้าเอง แม้ที่ผ่านมาข้าจะ ไม่ค่อยชอบหน้าเจ้า แต่หากนางจะมาเป็นแม่เลี้ยงของฉินเอ๋อร์อย่างไรข้าก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้”
ซุนหนิงเจี้ยนเอ่ยขึ้นพลางแสดงสีหน้าหนักใจ แต่ก็แอบอมยิ้มเล็กน้อยตอนที่จางลู่เหวินไม่เห็น
“เล่ามาให้หมด เจ้าไปได้ยินอะไรมาอีก” จางลู่เหวินเอ่ยถามบ่าวคนนั้นต่อ
“ข้าน้อยไปสอบถามที่ร้านค้าทุกร้าน ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่อยากต้อนรับนายหญิงกับคุณหนู เพราะพวกนางมีสถานะ เออ...เป็นชู้กับลูกชู้ขอรับ”
บ่าวผู้นั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก พลางเหลือบมองผู้เป็นนายเป็นระยะ
“มีเรื่องใดอีก!”
จางลู่เหวินนั้นโกรธมากที่คนอื่นมาดูถูกภรรยากับบุตรสาวคนโตเช่นนี้
“บ่าวถามแล้วว่าคุณหนูรองได้ส่งคนมาบอกให้พวกเขาทำเช่นนั้นหรือไม่ ทุกร้านกลับตอบว่าไม่มีเลยขอรับ”
“.....”
“ที่พวกเขาไม่ขายของให้นายหญิงกับคุณหนูใหญ่เป็นเพราะไม่ชอบพวกนางเอง”
“....”
“หลงจู้ทุกร้านและลูกค้าในร้านก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่ได้ยินหลงจู้เอ่ยถึงคุณหนูรองเลยแม้แต่คำเดียวขอรับ”
เมื่อบ่าวผู้นั้นเอ่ยจบ จางลู่เหวินก็รู้สึกเสียใจขึ้นมาทันที เพราะตนหลงคิดว่าบุตรสาวคนรองสร้างเรื่องทั้งหมดขึ้นมา เพราะโกรธที่ตนแอบปิดบังเรื่องของสามแม่ลูก
“เจ้าเลี้ยงฮุ่ยฉินมาเจ้าก็น่าจะรู้ว่านางมีนิสัยเป็นเช่นไร แต่ตอนนี้เจ้าแน่ใจหรือ ว่าจะยกสตรีนางนั้นขึ้นเป็นฮูหยินเอกของจวน” ซุนหนิงเจี้ยนเอ่ยพลางแอบยิ้มมุมปาก
“ข้ารับปากนางไว้แล้วคงต้องเป็นเช่นนั้น เห้อ!!” เขาเอ่ยพลางถอนหายใจ
“ตอนนี้คนในเมืองหลวงต่างพูดถึงนางกับลูกไปในทางที่เสียหาย หากเจ้ายกให้นางเป็นฮูหยินเอกอีก คงได้ถูกชาวเมืองประณามแน่ และคงส่งผลต่อกิจการตระกูลซูไปด้วย”
“.....”
“เจ้าก็น่าจะรู้อาชีพพ่อค้าอย่างเราชื่อเสียงมีผลมากแค่ไหน ยิ่งตระกูลซูได้ชื่อว่าเป็นคหบดีที่อดีตฮ่องเต้เคยเอ่ยปากชมอีก”
“....”
“เจ้าจะให้ชื่อเสียงตระกูลซูที่เจ้าทุ่มเทมาครึ่งชีวิต ต้องด่างพร้อยเพราะเรื่องสตรีงั้นหรือ”
“.....”
“เลี่ยงลี่ก็เหมือนน้องสาวข้า เราทั้งสองก็ไม่ต่างจากสหายทางการค้า เรื่องที่สหายอย่างข้าควรพูดก็พูดไปหมดแล้ว จากนี้เจ้าจะตัดสินใจอย่างไรก็ลองตรองดูเถิด ข้าคงต้องขอตัวก่อน”
ซุนหนิงเจี้ยนเอ่ยจบก็เดินออกจากห้องทำงานไปทันที ทิ้งให้เจ้าของจวนนั่งคิดอะไรคนเดียว
เมื่อขึ้นรถม้าได้ก็ยิ้มกว้างออกมาราวผู้ชนะ หลานสาวข้าช่างฉลาดและเก่งกาจยิ่งนัก ไม่คิดว่าเพิ่งพ้นวัยปักปิ่นไม่นานนางจะคิดวางแผนได้ถึงขนาดนี้
นางคิดวางแผนทุกอย่างราวกับรู้เหตุการณ์ณ์ล่วงหน้า ทั้งที่นางอ่านเพียงนิสัยพื้นฐานของคนเหล่านี้เท่านั้น
หากการค้าตระกูลซูตกอยู่ในมือนาง นางคงได้เป็นวาณิชหญิงคนแรกในรัชศกนี้แน่
ซูฮุ่ยฉินนั่งฟังซินซินรายงานข่าวลือด้านนอกอย่างสบายใจ เรื่องทุกอย่างอยู่ในแผนการที่จะให้ฟางเจียวเหมยชวดตำแหน่ง ฮูหยินเอก
ส่วนจะได้เป็นอนุหรือหญิงอุ่นเตียงท่านพ่อก็อีกเรื่องหนึ่ง และนางก็จะดูเป็นบุตรสาวที่ถูกพี่สาวกับแม่เลี้ยงใส่ร้าย ท่านพ่อก็จะสงสารและรักนางมากกว่าเดิม
ตอนนี้นางยังไม่มีอำนาจมากพอจะสั่งการทุกอย่างในจวนได้อย่างเด็ดขาด จึงต้องอาศัยอำนาจบิดาเข้าช่วย เพราะงั้นนางจึงต้องทำให้บิดาเห็นใจนางให้มาก
“คุณหนูจะจัดการอย่างไรต่อไปเจ้าคะ” ซินซินเอ่ยถามขึ้น
“เอายานี้ผสมใส่อาหารให้เหิงเยว่กินทุกมื้อ ไม่ต้องมากล่ะใช้เพียงนิดเดียวพอ หากหมดแล้วให้มาเอาที่ข้าอีก” นางเอ่ยพลางยื่นห่อยาให้ซินซิน
“เจ้าค่ะ แล้วชิงชิงล่ะเจ้าคะ ตั้งแต่สามแม่ลูกนั่นเข้ามา ดูเหมือนนางจะบังเอิญไปพบกับคุณชายผู้นั้นบ่อยครั้งทีเดียว”
ก่อนหน้านี้นางสั่งให้ซินซินจับตาดูชิงชิงเอาไว้ เพราะนางมาลองคิดไตร่ตรองดูแล้ว เวลานั้นนางถูกย้ายไปอยู่ที่เรือนท้ายจวน
คนที่อยู่กับนางตลอดก็มีแต่ชิงชิงเท่านั้น ยามกลางคืนแมลงก็เยอะนัก นางจึงปิดหน้าต่างลงกลอนอย่างดี
หากคนในไม่ปลดกลอนไว้ และชี้บอกตำแหน่งห้องนอนนาง มีหรือบุรุษชั่วช้าคนนั้นจะปีนเข้ามาในเรือน แล้วย่ำยีนางถึง บนเตียงได้
“สาวใช้ที่อยู่กับข้ามาตั้งแต่เด็กจะมีความรักทั้งที ข้าก็ต้องส่งเสริมสิ ให้คนของเราสร้างบรรยากาศให้ทั้งสองได้อยู่ด้วยกัน จากนั้นจะเกิดอะไรขึ้นก็เป็นเรื่องของพวกเขาแล้ว”
“เจ้าค่ะ เมื่อครู่คนเรือนใหญ่ให้คนมาเชิญคุณหนูไปพบนายท่านด้วยเจ้าค่ะ คุณหนูจะไปเลยหรือไม่”
“เร็วเพียงนี้เชียวหรือ เช่นนั้นเจ้าเอาเสื้อคลุมสีน้ำเงินมาใส่ให้ข้าเถอะ ให้ท่านพ่อรอนานไม่ดีนัก” นางเอ่ยอย่างอารมณ์ดี
นางออกจากเรือนไปพบบิดาที่เรือนใหญ่ เมื่อก้าวขาเข้าไปก็เห็นสามแม่ลูกนั่นนั่งรออยู่ก่อนแล้ว
“ท่านพ่อเรียกเจ้ามาด้วยหรือ” เสียงเหน็บแนมของซูเยว่ซินดังมาให้ได้ยินขณะนางเดินผ่าน
“ข้าก็เรียกทุกคนมานั่นแหละ แล้วอีกอย่างพ่อไม่เคยสอนให้เจ้าแสดงกิริยาเช่นนี้ เจียวเหมยเจ้าสอนบุตรสาวของเจ้าใหม่เสีย” จางลู่เหวินเอ่ยตำหนิไปถึงมารดาของนาง
ฟางเจียวเหมยถึงกับหน้าเสีย เพราะสามีไม่เคยตำหนิตนเช่นนี้มาก่อน
“เจ้าค่ะข้าจะสั่งสอนลูกให้ดีกว่านี้ เยว่ซินขอโทษพ่อเจ้าเสีย และขอโทษน้องเจ้าด้วย” ฟางเจียวเหมยรีบเอ่ยแก้สถานการณ์
ซูเยว่ซินหน้ามุ่ยทันที แต่ก็ยอมทำตามที่มารดาบอกทั้งที่ในใจไม่ยินยอม
“ลูกขออภัยเจ้าค่ะท่านพ่อ พี่สาวขอโทษเจ้าด้วนนะ”
“เอาล่ะ ที่ข้าเรียกทุกคนมาวันนี้เพราะมีเรื่องสำคัญจะบอกแก่ทุกคน เรื่องตำแหน่งในจวนของแม่พวกเจ้า”
สิ้นคำนี้สามแม่ลูกยิ้มออกมาทันที บิดาคงจะแต่งตั้งให้ท่านแม่เป็นฮูหยินเอกแล้วเป็นแน่ ซูเยว่ซินมองน้องสาวต่างแม่อย่างสะใจ
“ท่านพ่อจะให้ท่านแม่อยู่ในตำแหน่งฮูหยินเอกใช่หรือไม่เจ้าคะ จากนี้ก็จะมีคนส่งเทียบเชิญให้ท่านแม่ไปเข้าร่วมงานเลี้ยงตามจวนต่าง ๆ แน่” ซูเยว่ซินเอ่ยพลางเขย่ามือมารดาอย่างตื่นเต้น
“เห้อ!! มารดาเจ้าจะอยู่ในจวนนี้ในฐานะอนุ และพวกเจ้าแม่ลูกต้องไปคุกเข่าขอโทษฮูหยินเสนาบดีฝ่ายซ้ายที่จวนกับข้าพรุ่งนี้ด้วย” สิ้นคำพูดนี้สามแม่ลูกก็ผุดลุกขึ้นพร้อมกันเพราะตกใจ
“เพราะเหตุใดขอรับท่านพ่อ!!”
ซูเหิงเยว่เอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ ยามแรกที่คุยกันท่านพ่อจะให้ท่านแม่เป็นฮูหยินเอกนี่
พวกตนจึงยอมอยู่อย่างหลบซ่อน เพื่อรอให้นังฮูหยินเอกนั่นตายก่อน เช่นนั้นพวกเขาจะทนอยู่อย่างไร้ตัวตนไปเพื่ออะไร
“เจ้าก็ลองถามมารดากับน้องเจ้าดูสิ ว่าไปก่อเรื่องอะไรไว้ แถมคนผู้นั้นยังเป็นถึงฮูหยินท่านเสนาบดีฝ่ายซ้ายอีก ไม่รู้ว่าพวกเจ้าแม่ลูกเอาความกล้ามาจากที่ใดกัน!!”
“จริงหรือขอรับท่านแม่!!”
“นางจะไปฟ้องร้องเจ้าสองแม่ลูกที่ศาล ดีนะที่ข้าไปขวางรถม้าไว้ทัน กว่านางจะยอมลงให้ ข้าต้องคุกเข่าขอร้องนางต่อหน้าคนทั้งเมืองหลวง รู้หรือไม่ว่าข้าอับอายเพียงใด!!!!”
จางลู่เหวินยิ่งพูดก็ยิ่งโกรธจนเผลอตะคอกใส่คนทั้งสาม ทำให้คนใจห้องโถงนั้นเงียบไปด้วยความตกใจ
ตอนพิเศษ 2.1โซ่ทองเส้นนี้ชวนหงุดหงิดเสียจริง“ยินดีด้วยขอรับท่านประมุข ตอนนี้นายหญิงตั้งท้องได้สองเดือนแล้ว ข้าจะไปจัดยาบำรุงครรภ์ให้นายหญิงนะขอรับ”หมอเอ่ยจบแล้ว แต่ตัวคนฟังยังไม่ได้สติ เพราะดีใจจนทำอะไรไม่ถูกจนซีหลิงหยุนมาสะกิด“นายท่านไม่เข้าไปหานายหญิงหรือขอรับ หรือนายท่านไม่ดีใจที่นายหญิงท้อง”เพี๊ยะ!!!!เมื่อซีหลิงหยุนเอ่ยจบก็ถูกผู้เป็นนายตีเข้าที่หน้าทันที จนเกิดเสียงดังลั่น คนเฝ้าหน้าเรือนหันมามองตาปริบ ๆ“เจ้าพูดจาเช่นนี้ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วกระมั้ง ตบปากตนเองจนกว่าเลือดจะออกเสีย” เอ่ยลงโทษเสร็จก็เดินลิ่วเข้าไปในเรือนทันที“โธ่!!! นายท่าน ข้าเพียงพูดหยอกล้อท่านเท่านั้น ข้าเป็นคนสนิทท่านนะ เหตุใดท่านทำกับข้าเช่นนี้”เอ่ยจบก็ตบปากตนเองหนึ่งทีจนเลือดไหล แล้วรีบวิ่งตามผู้เป็นนายเข้าเรือนไป“ฮูหยินเจ้าท้องแล้ว สามีดีใจที่สุดเลย”อันเฉียนฟานเอ่ยพพร้อมกับกางแขนจะเ
ตอนพิเศษ 2โซ่ทอง ซูฮุ่ยฉินได้เดินทางไปเยือนพรรคของเขาอย่างที่เคยตกลงกันเอาไว้ เมื่อไปถึงก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น พวกเขาเตรียมงานเลี้ยงไว้รอต้อนรับนางเย็นนี้ แต่กว่าจะถึงช่วงเย็นนางจึงมานอนเอาแรงเสียก่อน ไม่รู้เป็นอะไรช่วงนี้นางรู้สึกว่าง่วงนอนบ่อยนัก “ซินซินข้าขอนอนก่อนนะ ข้าง่วงมากเลย” นางเอ่ยพร้อมหลับตาลง เหมือนพักสายตา แต่ไม่นานก็ได้ยินเสียงคนร้องโหวกเหวกโวยวายดังมาจากนอกเรือน “ข้าต้องการพบนายหญิง! ข้าต้องการเรียกร้องความ เป็นธรรมให้กับลูกของข้า ปล่อยข้านะ พวกเจ้าปล่อยข้าสิ!!” เสียงร้องของสตรีผู้นั้นทำให้นางตื่น ความหงุดหงิดที่ไม่ได้นอนทำให้นาง
ตอนพิเศษ 1แค้นที่ต้องชำระแทน ครั้งหนึ่งยามอดีตอันเฉียนฟานกลับไปที่อารามแต่กลับไม่พบสตรีที่ตนตั้งใจมาหา เมื่อถามชีกับหลวงจีนในอารามก็พบว่าคืนที่นางคลอดลูก นางตกเลือดและเสียชีวิตในห้องพัก“เป็นไปได้อย่างไร กำหนดคลอดของนางอีกหนึ่งเดือนข้างหน้าไม่ใช่หรือ” เขาถามชีสามคนตรงหน้า“พวกข้าก็ไม่รู้เช่นกัน เช้ามาไม่เห็นนางออกจากห้องจึงได้ไปเคาะเรียก แต่นางก็ไม่ตอบรับจึงได้พังประตูเข้าไป ก็เห็นนางนอนจมกองเลือดสิ้นชีพจรไปแล้ว” แม่ชีผู้หนึ่งเอ่ยอันเฉียนฟานได้ฟังใบหน้าของเขามืดครึ้มลงอย่างเห็นได้ชัด เหล่าผู้ติดตามเองก็มีสีหน้าไม่ต่างกัน“พวกท่านไม่ได้ยินเสียงนางกรีดร้องบ้างหรือ คนเจ็บท้องคลอดลูกก็ต้องร้องขอความช่วยเหลือบ้างสิ” เขาถามสิ่งที่สงสัย“ไม่เลยเจ้าค่ะ หากพวกข้าได้ยินคงเข้าไปช่วยเหลือนางแล้ว ไม่ปล่อยให้นางต้องตายจากไปอย่างเวทนาเช่นนี้แน่” แม่ชีคนเดิมเอ่ยตอบ
ตอนที่ 36สู่ขอประโยคที่ซินซินบอกนางเมื่อครู่ ทำให้นางหยุดชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะหันมาถามสาวใช้ตัวเองอีกครั้ง“เมื่อครู่เจ้าว่าอย่างไรนะ!”“คุณหนูออกไปดูด้วยตาตนเองเถอะเจ้าค่ะ” ซินซินเลี่ยงที่จะพูดซ้ำซูฮุ่ยฉินจึงรีบร้อนออกไปหาผู้เป็นป้าที่สวน จนซินซินต้องวิ่งตามไปเพราะนายสาวเดินเร็วนักเมื่อไปถึงนางก็เห็นว่ามีขบวนข้าวของมากมายพร้อมผู้คนเต็มหน้าประตูจวนไปหมดหว่านเหมยฮวาเห็นหลานสาวออกมาจึงรีบเข้าไปหา ก่อนจะจูงมือนางไปหาแม่สื่อที่ยืนอยู่“เจ้ามาทางนี้ ตอนนี้เจ้าไม่มีญาติผู้ใหญ่ ข้าจึงอาสามาเป็นญาติผู้ใหญ่ให้เจ้าเอง นี่คือแม่สื่อถังนางนำขบวนสินสอดมาส่ง”เพราะเป็นการแต่งเข้า ฝ่ายชายจึงต้องเอาสินสอดมาส่งที่จวนแทนผู้เป็นป้าเอ่ยอย่างอารมณดี แต่ก็ต้องแปลกใจที่เห็นหลานสาวทำสีหน้าเช่นนั้น“คุณหนูซูเหตุใดทำหน้าเช่นนั้นกันเล่า” แม่สื่อเองก็เริ่มจับสังเกตบางอย่างได้แล้ว“ขออภัย
ตอนที่ 37รักมานาน และจะรักตลอดไป (จบ) วันเวลาผ่านไปจนถึงวันที่นางแต่งงานกับเขา ทุกอย่างราบรื่นจนนางยังแปลกใจ เพราะหลังจากประกาศออกไปว่านางจะแต่งกับเขา ก็มีคนมาวิ่งเล่นที่จวนนางแทบทุกคืน บางครั้งก็ที่ร้านตามสาขาต่าง ๆ แรก ๆ นางก็ปวดหัวไม่น้อย เพราะข้าวของที่ให้กักตุนไว้เสียหายเกือบครึ่ง อันเฉียนฟานจึงให้คนของตนลงเขามาคุ้มกันให้ ทำให้จัดการคนพวกนั้นไปได้บ้าง แต่ก็ยังมีโพล่มาทุกวัน ทั้งคนของคู่แข่งทางการค้า และคนของสตรีนางนั้นที่เคยมาแสดงตัวว่าเป็นภรรยาเขา “น้องหญิงเจ้าคิดสิ่งใดอยู่กัน เหตุใดจึงทำหน้าเช่นนั้น” เขาเอ่ยขึ้นด้านหลังพร้อมกับหอมแก้มนางไปฟอดใหญ่&nb
ตอนที่ 34ผลกรรม 1 เดือนต่อมาซูฮุ่ยฉินเริ่มให้ร้านในสาขากักตุนเสบียงเอาไว้แล้ว เพราะอีกไม่กี่เดือนจะมีข่าวเรื่องสงครามออกมาแน่อันเฉียนฟานช่วงนี้ก็เข้าออกจวนนางเป็นว่าเล่น ทั้งมาอย่างเป็นทางการ และมาแบบโจรเด็ดบุพผาอย่างตอนนี้“นายหญิงไม่สนใจไปเที่ยวพรรคเราบ้างหรือขอรับ รับรองว่านายหญิงต้องชอบแน่ นายท่านของข้ารับประกันด้วยหัวใจเลยขอรับ”ซีหลิงหยุนที่จัดการธุระเสร็จแล้ว วันนี้จึงตามผู้เป็นนายมาช่วยเกี้ยวนายหญิงด้วย“ขอบคุณนายท่านซีที่ชวนเจ้าค่ะ แต่ข้าคงทิ้งกิจการทุกอย่างไปไม่ได้” นางตอบปัดไปจึงได้เห็นใบหน้าบูดบึ้งของบุรุษที่นั่งอยู่ตรงข้าม“ข้าจะให้คนของข้าเข้ามาช่วยดูแลเอง ขอเพียงเจ้ารับปากมาเท่านั้น” อันเฉียนฟานเอ่ยขึ้นบ้าง“จริงขอรับ นายหญิงเพียงเอ่ยปากมาเท่านั้น ซินซินเจ้าเองก็อยากไปเที่ยวพรรคของพวกเราใช่หรือ