แชร์

ตอนที่ 6 คำสั่งห้ามเข้าใกล้

ผู้เขียน: จิตอักษร
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-10-11 14:38:42

ตอนที่ 6

คำสั่งห้ามเข้าใกล้

บ่ายวันหนึ่งในจวนสกุลเฟิง ท้องฟ้าเหนือเรือนกระจ่างใส แต่ในศาลากลางสระบัวกลับปกคลุมด้วยความเงียบและแรงกดดันแผ่ว ๆ จากผู้มาเยือนที่ไม่ได้รับเชิญ

องค์ชายสามหลี่อวี้เหิง เขาอยู่ในชุดคลุมสีดำสนิท ยืนสงบนิ่งราวกับเงามืด อยู่ที่ทางเข้าศาลา

ตรงข้ามเขา เฟิงเหม่ยหลินนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ประณีตกลางศาลา เธอดื่มชาอย่างไม่เร่งรีบ ราวกับไม่ได้สนใจสายตาคมที่จ้องมองเธอแม้แต่น้อย

“ข้าไม่ได้คิดจะมาเยี่ยมเยียน แต่มีบางเรื่องที่ข้าไม่อาจนิ่งเฉยได้”

หลังจากยืนนิ่งอยู่นานเขาก็พูดขึ้น น้ำเสียงของเขาเรียบ เยือกเย็น ทว่าแฝงด้วยแรงสะกดดวงตาเรียวหรี่ลงเล็กน้อย

“เจ้ารู้หรือไม่ ว่าซูเยี่ยนแอบมาหาเจ้าทุกวัน”

เฟิงเหม่ยหลินไม่ตอบทันที เธอวางถ้วยชาลงเบา ๆ แล้วเงยหน้าขึ้นมองชายตรงหน้า สายตาคู่นั้นนิ่ง เย็นชา และเรียบเฉยราวกับน้ำแข็งที่ไม่ยอมละลาย

“ข้ารู้”

เพียงคำเดียว น้ำเสียงแผ่วเบา ทว่านิ่งเสียจนคล้ายจะกระแทกอากาศรอบตัว

หลี่อวี้เหิงขมวดคิ้วเล็กน้อย

“เจ้ากำลังใช้วิธีตีสนิทกับนาง เพื่อให้ทุกคนตายใจ แล้วกลับเข้าสู่วงในของวังหลวงใช่หรือไม่”

หลังองค์ชายสามพูดจบ เฟิงเหม่ยหลินก็หัวเราะเบา ๆ ราวกับได้ยินเรื่องขบขัน

เธอเอนตัวพิงเก้าอี้เล็กน้อย ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งเหมือนเดิม

“ถ้าท่านกลัวนัก ก็ล่ามโซ่นางไว้เสียสิ”

ถ้อยคำเรียบง่าย แต่แรงพอจะทำให้องค์ชายสามชะงักไปครู่หนึ่ง

เขาไม่คิดว่าเฟิงเหม่ยหลินจะกล้าพูดกับเขา ด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยเยี่ยงนี้

“เจ้า” หลี่อวี้เหิงจ้องเธอนิ่ง ดวงตาคมวาว “เจ้ากำลังวางแผนร้ายอีกครั้งใช่หรือไม่ ข้ารู้ว่าเจ้าคิดอะไร”

เฟิงเหม่ยหลินยกถ้วยชาขึ้นอีกครั้ง ดวงตายังสบกับเขาอย่างตรงไปตรงมา ก่อนจะคลี่ยิ้มเหยาะเล็กน้อยที่มุมปาก

“ท่านรู้” เธอจิบชาเบา ๆ แล้วเอ่ยเสียงราบเรียบ แต่แฝงความหมิ่นแคลนจาง ๆ “ข้าคิดว่าท่านจะฉลาดกว่านี้เสียอีก”

ดวงตาขององค์ชายสามไหววูบ ในวินาทีนั้น เขาไม่แน่ใจว่าหญิงตรงหน้า คือเฟิงเหม่ยหลินคนเดิมที่เขารู้จักจริงหรือไม่

เธอสงบขึ้น ไม่โวยวาย ไม่ยื้อแย่ง ไม่แสดงตัวเด่น แต่กลับมีแรงกดดันบางอย่าง ที่ทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกมองทะลุ

ไม่ใช่ด้วยไฟแค้น แต่ด้วยแววตาของคนที่ไม่สนใจเขาอีกแล้ว

“เจ้าเปลี่ยนไป” เขากล่าวเสียงเบา เหมือนเป็นคำพูดกับตัวเอง

เฟิงเหม่ยหลินเพียงยกยิ้มจาง ๆ วางถ้วยชาลงเบา ๆ ก่อนจะหันหน้ามองสวนที่มีดอกเหมยผลิบานอยู่ไกล ๆ

“ข้าไม่ได้เปลี่ยน ข้าแค่ไม่อยากเสียเวลาทำเรื่องเดิมซ้ำอีก จะเชื่อหรือไม่ก็สุดแล้วแต่ท่านองค์ชาย”

เหม่ยหลินพุดแค่นั้น แล้วเธอก็มองออกไปข้างนอนศาลาอย่างไม่สนใจคนที่ยื่นอยู่ เหมือนกลับกำลังบอกว่าให้เขากลับไปได้แล้ว

องค์ชายสามเลยได้แต่หันหลังด้วยความหงุดหงิด แล้วหันหลังเดินจากไป

ช่วงบ่ายของวันนั้นหลังจากองค์ชายสามกลับไปได้นานแล้ว ฟ้าสีครามโปร่ง ลมฤดูใบไม้ผลิพัดเอื่อยผ่านระเบียง เฟิงเหม่ยหลินยังคงนั่งอยู่ในศาลาเล็กของเรือนหลัง นิ่ง เงียบ

แต่เสียงฝีเท้าเร่งรีบกับเสียงเอ่ยชื่อของคนที่จากสาวใช้ กลับทำให้หัวใจของเธอสะดุดจังหวะขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

“คุณหนูดเจ้าคะ คุณหนูซูมาแล้วเจ้าค่ะ”

เมื่อหญิงสาวในชุดสีฟ้าอ่อนก้าวเข้ามา ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มแฝงความเก้อเขิน ราวกับเด็กที่ทำผิดแล้วกลับมาขอโทษ

“ข้าขอโทษนะ ที่หายไปหลายวัน”

ซูเยี่ยนกล่าวเสียงแผ่ว แต่เต็มไปด้วยความจริงใจ เฟิงเหม่ยหลินไม่ได้ถามอะไร เธอเพียงยกถ้วยชาขึ้นจิบอย่างเงียบ ๆ เหมือนเช่นเคย

“ข้ารู้ว่าองค์ชายสามมาหาเจ้า ข้าขอโทษเจ้าแทนเขาด้วย” เสียงของซูเยี่ยนเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด

เฟิงเหม่ยหลินกลับส่ายหน้าเบา ๆ พลางวางถ้วยชาลง แล้วเอ่ยเสียงเรียบนิ่ง

“ไม่เป็นไรหรอก เขาทำไปเพราะรักเจ้าก็เท่านั้น”

เพียงคำเดียว ทำให้แก้มของซูเยี่ยนแดงเรื่อขึ้นทันที นางเบือนหน้าหนีเล็กน้อยอย่างเขินอาย ไม่กล้าสบตา

เฟิงเหม่ยหลินเห็นเข้าก็หลุดยิ้มบาง ๆ ออกมาโดยไม่ตั้งใจ ไม่ใช่ยิ้มเย็นชา ไม่ใช่ยิ้มดูแคลน แต่เป็นรอยยิ้มอบอุ่น นุ่มนวล ราวกับแดดยามเช้าในวันที่ไม่มีหมอก

ซูเยี่ยนเงยหน้าขึ้นสบตานาง แล้วชะงัก ดวงตาของนางเบิกขึ้นเล็กน้อย ริมฝีปากเผยอเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง ก่อนจะยิ้มออกมาทั้งใบหน้า

“นี่เป็นครั้งแรกเลยนะ ที่ข้าเห็นเจ้ายิ้มแบบนี้”

เฟิงเหม่ยหลินเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะถามด้วยความสงสัย “แบบไหน”

ซูเยี่ยนยิ้มกว้างกว่าเดิมก่อนจะตอบ “ไม่ใช่ยิ้มเย็น ๆ แบบเดิมที่เหมือนซ่อนไม้เรียวไว้ข้างหลัง แต่เป็นรอยยิ้มที่สบายตา และทำให้คนอยากมอง” นางพยายามอธิบาย ก่อนจะพูดต่อ

“ข้าว่าเจ้าควรจะยิ้มบ่อย ๆ นะ เพราะเวลาที่เจ้ายิ้มเจ้าสวยมากเลย”

เฟิงเหม่ยหลินนิ่งไปชั่วครู่ ไม่ใช่เพราะเขิน แต่เพราะเธอไม่รู้ว่าควรจะตอบว่าอะไรดี

เธอไม่ชินกับคำชม ไม่ชินกับความจริงใจ และไม่ชินกับความรู้สึกอบอุ่นที่ไม่แฝงผลประโยชน์ใด เธอเพียงเบือนหน้าหนีเล็กน้อยก่อนจะยกถ้วยชาขึ้นจิบอีกครั้งแทนคำตอบ

หลังจากพูดคุยกันอีกครู่ใหญ่ ซูเยี่ยนก็ลุกขึ้นเตรียมตัวกลับ ขณะกำลังจะก้าวลงจากศาลา เธอหันกลับมาอีกครั้งแล้วยิ้มบาง ๆ ด้วยแววตาที่ซื่อตรง

“ถ้าท่านคิดถึงข้า จะไปหาข้าที่จวนตระกูลซูเมื่อไรก็ได้นะ ทุกคนที่นั่นยินดีต้อนรับท่านเสมอ”

เฟิงเหม่ยหลินเพียงพยักหน้าไม่พูดตอบอะไร แต่ในใจกลับมีเสียงหัวเราะแผ่วเบา

“ยินดีต้อนรับหรือ ข้าแค่เหยียบเข้าลานจวน เจ้าแม่ทัพนั่นคงจะโยนข้าออกหน้าประตูเสียมากกว่า”

เมื่อเงาหลังของซูเยี่ยนลับสายตา เฟิงเหม่ยหลินก็หันกลับมามองถ้วยชาในมืออย่างเงียบ ๆ

“นางพูดว่ายิ้มแล้วสวยหรือ” นิ้วเรียวแตะริมฝีปากของตัวเองเบา ๆ ราวกับจะจดจำความรู้สึกนั้นไว้

“บางที ข้าอาจควรเริ่มทำสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนบ้างก็ได้”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • นางร้ายอย่างข้าขออยู่คนเดียวเงียบ ๆ เถอะ   บทส่งท้าย

    บทส่งท้ายหลายปีผ่านไป ฤดูใบไม้ผลิหมุนเวียนมาอีกครั้ง แต่จวนแม่ทัพกลับไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เสียงหัวเราะของเด็ก ๆ ดังไปทั่วทั้งสวน ลูกชายคนโตของซูหมิงเฉินและเฟิงเหม่ยหลินอายุสิบสามปีแล้ว รูปร่างสูงโปร่ง ดวงตาคมดุดันถอดแบบจากพ่อทุกกระเบียดนิ้ว ขณะนี้กำลังยืนอยู่กลางลานฝึกดาบ ใบหน้าจริงจังไม่ต่างจากตอนหมิงเฉินยังเป็นแม่ทัพหนุ่มหมิงเฉินในชุดฝึกยืนประจันหน้าลูกชาย มือใหญ่ถือดาบไม้ ดวงตาคมกริบเต็มไปด้วยความเข้มงวด “จับดาบให้มั่น อย่าปล่อยให้ศัตรูเห็นความลังเลของเจ้า”เด็กหนุ่มยกดาบขึ้นอย่างมั่นคง ก้าวเท้าเข้าโจมตีด้วยท่วงท่าที่เปี่ยมพลัง เสียงฟันดาบไม้เสียงดัง ก่อนหมิงเฉินจะเบี่ยงตัวหลบอย่างรวดเร็ว รอยยิ้มพึงพอใจฉายบนใบหน้าเข้ม “ดีขึ้นมาก อีกไม่นานเจ้าจะใช้ดาบได้เฉียบคมยิ่งกว่าพ่อ”กลางศาลา เฟิงเหม่ยหลินนั่งจิบชาพร้อมลูกสาววัยสิบขวบที่ฉลาดและแสนซน ดวงตากลมโตเปล่งประกาย รอยยิ้มและความเจ้าเล่ห์เหมือนแม่ เธอนั่งมองพี่ชายฝึกดาบ พลางเอ่ยถามเสียงใส “ท่านแม่ เมื่อไรข้าจะได้ฝึกดาบกับพ่อเหมือนท่านพี่บ้าง”เฟิงเหม่ยหลินยิ้มบาง ลูบผมนุ่มของลูกสาวเบา ๆ “เจ้าฉลาดพอ ๆ กับแม่แล้ว ฝึกดาบคงไม่ใช่สิ่งที่เจ

  • นางร้ายอย่างข้าขออยู่คนเดียวเงียบ ๆ เถอะ   ตอนที่ 73 ลูกสาวแม่ทัพ

    ตอนที่ 73 ลูกสาวแม่ทัพยามค่ำในฤดูใบไม้ผลิ จวนแม่ทัพถูกปกคลุมด้วยความตึงเครียดและความตื่นเต้นอีกครั้ง เมื่อเสียงฝีเท้าบ่าวไพร่ดังเร่งรีบไปมาหน้าห้องคลอด บรรยากาศวันนี้ไม่ต่างจากวันที่ลูกชายคนโตลืมตาดูโลกซูเยี่ยนที่ท้องอ่อนยืนพิงอี้เหิง มือหนึ่งจับท้องของตน อีกมือกุมมือสามีแน่นอย่างลุ้นไปพร้อมกับเพื่อนรักเหวินซียืนอยู่ไม่ไกล มือถือพัดแต่พัดแรงจนเส้นไหมขาดเล็กน้อย สีหน้าแสดงถึงความตื่นเต้นสุดขีดองค์รัชทายาทมานั่งจิบชาช้า ๆ ที่โต๊ะไม้ข้างทางเดิน ที่เก้าอี้ข้าง ๆ พระองค์มีเด็กชายสองคนนั่งกินขนมอยู่อยู่ นั่นคือลูกชายของเหม่ยหลินกับซูเยี่ยน พระองค์มองไปที่เด็กชายทั้งสองพร้อมยิ้มบาง ๆก่อนจะหันไปกล่าวล้อ “ข้าว่าแม้คราวนี้เป็นลูกคนที่สอง แต่บรรยากาศไม่ต่างจากครั้งคนแรกเลย ยิ่งกว่านั้นพวกเจ้าดูตื่นเต้นกว่าเดิมเสียอีก”ภายในห้องคลอด แสงตะเกียงสว่างไสว หมิงเฉินนั่งอยู่ข้างเตียง กุมมือเฟิงเหม่ยหลินแน่นเหมือนเดิม ดวงตาคมลึกเต็มไปด้วยความกังวลและความรักที่ไม่เคยจางหายเฟิงเหม่ยหลินแม้จะเหนื่อยหอบแต่ยังคงดวงตาคมที่เด็ดเดี่ยว เธอบีบมือสามีแน่น เสียงแผ่วแต่ชัดเจน “ครั้งนี้ ท่านก็ยังไม่ยอมออกไปเหมื

  • นางร้ายอย่างข้าขออยู่คนเดียวเงียบ ๆ เถอะ   ตอนที่ 72 ลูกชายแม่ทัพ

    ตอนที่ 72 ลูกชายแม่ทัพภายในห้องพักของฮูหยินแม่ทัพ บรรยากาศอบอวลไปด้วยความสุขและเสียงหัวเราะ เฟิงเหม่ยหลินนอนพิงหมอนนุ่ม ใบหน้างดงามแม้ยังซีดเล็กน้อยจากความเหนื่อยล้า แต่ดวงตาคมเต็มไปด้วยประกายแห่งความรักเมื่อมองลูกชายตัวน้อยที่นอนอยู่ในอ้อมแขนของหมิงเฉินหมิงเฉินในชุดแม่ทัพลำลอง นั่งอยู่ข้างเตียงอย่างมั่นคง มือใหญ่ประคองลูกชายด้วยความทะนุถนอมราวกับของล้ำค่าที่สุดในโลก ดวงตาคมที่มักเด็ดขาดและแข็งกร้าวบนสนามรบ วันนี้กลับเต็มไปด้วยความอบอุ่นและอ่อนโยนซูเยี่ยนกับเหวินซียืนอยู่ปลายเตียง น้ำตาคลอด้วยความตื้นตันใจ ซูเยี่ยนกระซิบกับเหวินซี “ดูสิ…หมิงเฉินอุ้มลูกเหมือนกลัวว่าลมจะพัดแรงไปหน่อยก็จะทำให้เจ้าตัวเล็กเจ็บ”เหวินซีหัวเราะเบา ๆ “ถ้ามีใครบอกว่านั่นคือแม่ทัพที่น่าเกรงขามที่สุดในแผ่นดิน ข้าคงไม่เชื่อถ้าไม่ได้เห็นกับตา”อี้เหิงก้าวเข้ามาใกล้ เอ่ยยิ้ม ๆ “ข้าขออุ้มหลานได้หรือไม่แม่ทัพซู”หมิงเฉินหันมามองด้วยสายตาที่แม้ไม่ดุดันแต่ก็เต็มไปด้วยความระแวดระวัง เขาเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะค่อย ๆ ยื่นลูกชายให้อี้เหิงอย่างช้า ๆ พร้อมกับกำชับเสียงทุ้มต่ำ “ระวังหัว ระวังตัวเขาด้วย ถ้าเจ้าทำให้เขาเจ็บแ

  • นางร้ายอย่างข้าขออยู่คนเดียวเงียบ ๆ เถอะ   ตอนที่ 71 ตอนรับสมาชิกใหม่

    ตอนที่ 71 ตอนรับสมาชิกใหม่ยามบ่ายในจวนแม่ทัพ แสงแดดลอดผ่านม่านผ้าไหมสีอ่อนเข้ามาในห้องนั่งเล่น กลิ่นดอกเหมยหอมอ่อน ๆ ลอยฟุ้ง ซูเยี่ยนกับเหวินซีเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มสดใส ตามหลังมาด้วยองค์ชายสามอี้เหิงที่ถือห่อผ้าไหมซึ่งมีของขวัญสำหรับทารกน้อย และองค์รัชทายาทที่เดินเข้ามาเป็นคนสุดท้ายเฟิงเหม่ยหลินนั่งพิงหมอนบนเก้าอี้ไม้สลักลายมังกร มือเรียววางบนหน้าท้องที่เริ่มใหญ่ขึ้นทุกวัน เมื่อเห็นเพื่อนสนิทเข้ามา ดวงตาคมก็อ่อนลงทันทีซูเยี่ยนรีบเดินเข้ามานั่งข้างเธอ มือเรียวลูบหน้าท้องเบา ๆ ดวงตาเป็นประกายตื่นเต้น “พี่สะใภ้ อีกไม่นานเจ้าก็จะได้เป็นแม่คนแล้ว ข้าตื่นเต้นแทนเจ้าจริง ๆ”เฟิงเหม่ยหลินยกคิ้วเล็กน้อย มุมปากยกยิ้มบาง ๆ ก่อนจะพูดเสียงเรียบแต่เต็มไปด้วยความสนิทสนม “ถ้าเจ้าตื่นเต้นนัก ก็รีบแต่งกับองค์ชายสามเสียสิ แล้วรีบมีลูก ลูก ๆ ของข้ากับเจ้าจะได้โตมาเป็นเพื่อนเล่นกัน”ซูเยี่ยนหน้าแดงวูบทันที ก่อนจะหันไปมองอี้เหิงที่ยืนอยู่ไม่ไกลอย่างเขินอาย “ข้า” เสียงเธอสั่นเล็กน้อย แต่ยังไม่ทันพูดต่ออี้เหิงก็หัวเราะเบา ๆ พร้อมก้าวมานั่งฝั่งตรงข้าม ดวงตาคมเป็นประกายระหว่างมองซูเยี่ยนกับเฟิงเหม่ยหลิน “

  • นางร้ายอย่างข้าขออยู่คนเดียวเงียบ ๆ เถอะ   ตอนที่ 70 จบสงครามด้วยจดหมายฉบับเดียว

    ตอนที่ 70 จบสงครามด้วยจดหมายฉบับเดียวคืนนั้น หลังการกวาดล้างเสร็จสิ้น เฟิงเหม่ยหลินนั่งอยู่ในห้องลับของจวนแม่ทัพ มือเรียวเขียนจดหมายลงบนกระดาษอย่างใจเย็น“ถึงผู้นำกองกำลังตะวันออก ข้าคือเฟิงเหม่ยหลิน ฮูหยินแม่ทัพซู ข้าทราบว่าแผนของพวกท่านคือการใช้จังหวะที่ราชสำนักวุ่นวายเพื่อบุกเมืองหลวงหากพวกท่านยังไม่หยุดแผนนี้ ข้าจะสั่งให้ทางเมืองตะวันออกที่ข้าเคยเดินทางไป ใช้ไฟเผาทุกเส้นทางและป่าที่เป็นเสบียงของพวกท่านให้หมด ข้าสอนพวกเขาแล้วว่าจะหยุดไฟป่าไม่ให้ลามมาถึงบ้านเมืองของตนเองอย่างไร แต่ข้าไม่ได้สอนว่าจะหยุดไฟที่ไหม้ดินแดนของพวกท่านอย่างไรถ้าไม่อยากเห็นแผ่นดินของท่านกลายเป็นทะเลเพลิง ให้ถอนกองกำลังและลืมแผนการนี้ซะ”หมิงเฉินก้าวเข้ามาในห้องเงียบ ๆ เขาอ่านข้อความในจดหมาย สายตาคมจ้องภรรยาที่กำลังเขียนเสร็จ ก่อนจะยิ้มบางและพูดเสียงทุ้ม “ข้าบอกแล้ว เจ้าร้าย แต่ร้ายถูกที่เสมอ”เฟิงเหม่ยหลินพับจดหมายอย่างสงบ ดวงตาคมหันมาสบสายตาสามี “ข้าจะไม่ยอมให้ใครมาทำลายความสงบของแผ่นดินนี้ และจะไม่ให้ใครพรากความสงบสุขของเราสองคนไปอีก”หมิงเฉินเดินเข้ามากอดร่างบอบบางไว้แน่น กระซิบเสียงหนักแน่น “ข้าจะจัดก

  • นางร้ายอย่างข้าขออยู่คนเดียวเงียบ ๆ เถอะ   ตอนที่ 69 ปิดฉากพวกกบฏ

    ตอนที่ 69 ปิดฉากพวกกบฏค่ำคืนหนึ่งหลังการวางแผนลับ ห้องลับในวังหลวงถูกใช้เป็นจุดเริ่มต้นของปฏิบัติการ เฟิงเหม่ยหลินนั่งอยู่ที่หัวโต๊ะ มือเรียววางพัดพู่กันลงบนโต๊ะอย่างสงบ แต่ในดวงตาคมกริบส่องแสงเย็นชาที่ทำให้ทุกคนในห้องสัมผัสได้ถึงพลังของผู้ล่าหมิงเฉินยืนอยู่ด้านหลังเธฮ แขนแข็งแรงพาดไว้บนอก สีหน้าสงบนิ่งแต่ดวงตาคมลึกจับจ้องเธอด้วยรอยยิ้มบางอย่างภาคภูมิใจและหวงแหน เขาเคยพูดกับเธอครั้งหนึ่ง “เจ้าร้าย แต่ร้ายอย่างถูกที่ และนั่นทำให้เจ้าหยุดยั้งสิ่งที่ไม่มีใครทำได้” และคืนนี้ เขาได้เห็นว่าคำนั้นเป็นความจริงองค์รัชทายาทนั่งข้าง ๆ องค์ชายสาม ขณะฟังเฟิงเหม่ยหลินอธิบายแผนการอย่างละเอียดบนแผนที่“พวกมันคิดจะโค่นราชสำนักโดยใช้กองกำลังของแคว้นชิงลู่ ก็ดี” เธอกล่าวเสียงเรียบแต่เฉียบคม “ข้าจะปล่อยข่าวว่าหนึ่งในสามตระกูลที่สมรู้ร่วมคิดมีแผนจะหักหลังอีกสองตระกูล และเตรียมเจรจาลับกับแคว้นชิงลู่เพื่อตัดพวกมันออกจากข้อตกลง”องค์ชายสามหัวเราะเบา ๆ พลางพยักหน้า “พวกนั่นจะกัดกันเอง จนไม่มีใครไว้ใจใคร”เฟิงเหม่ยหลินยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “ใช่ ข้าจะให้พวกมันทำลายกันเองโดยที่เราไม่ต้องเสี่ยงแม้หยดเลือดเดียว

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status