แชร์

ตอนที่ 4 ลูกสาวเจ้าพ่อ 1.1

ผู้เขียน: จ้าวฮุ่ยอิง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-09-23 20:06:27

ค.ศ.2020

  กรุงปักกิ่ง

  รถสปอร์ตสีดำคันงามสุดโออ่าแล่นมาด้วยความเร็วพอประมาณ ด้านหลังมีรถรุ่นเดียวกันและสีเหมือนกันแล่นตามมาติดๆ ก่อนจะจอดสนิทอยู่ตรงบริเวณหน้าประตูสถาบันศึกษาชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงปักกิ่ง 

 ประตูทั้งสองข้างบริเวณด้านหน้าและด้านหลังถูกเปิดออกจากคนภายในอย่างรวดเร็วพร้อมกันทั้งสองคัน ติดตามด้วยชายฉกรรจ์ในชุดสูทสากลสีดำก้าวออกมาจากรถทั้งสองคันรวมแล้วทั้งหมดหกคน ยืนเรียงรายอย่างเป็นระเบียบพร้อมประตูรถคันหลังถูกเปิดออกอย่างรวดเร็ว

  ตึก! ตึก! สองเท้าของหญิงสาวแรกรุ่นในวัย 18 ปี สวมใส่เสื้อผ้าสไตล์วัยรุ่นนำสมัยจากแบรด์ดังเป็นที่สะดุดตาแก่ผู้พบเห็นด้วยรูปลักษณะภายนอกที่มีใบหน้าสวย คม เฉี่ยว โครงหน้าเก๋ลงตัวน่ามองสุดๆ แต่จะให้ดีกว่านี้ถ้าเธอจะไม่แสดงท่าทียียวนกวนประสาทรับรองได้เลยว่าสวยสมราคาสตรีมีมารยาทงดงาม สมกุลสตรีแม่ศรีเรือนโคตรๆ 

 หญิงสาวก้าวลงมาจากรถคันงามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเบื่อหน่ายอย่างเห็นได้ชัด พลางเงยหน้าขึ้นมองประตูสถานศึกษาชื่อดังและป้ายชื่อที่เขียนบรรยายคุณสมบัติของสถานที่แห่งนั้นเอาไว้อย่างเริดหรู

  “เชอะ! โรงเรียนดีเด่นเสียด้วย ท่าทางรวมเจ้าถิ่นกับพวกไฮโซเอาไว้เยอะ”หญิงสาวคาดเดาตามความรู้สึกพลางจับลูกอมยัดใส่ปากตัวเอง

  “คุณหนูขอรับ นายท่านกำชับมาว่า นี่เป็นสถาบันสุดท้ายแล้วที่ยินดีรับคุณหนูเข้าเรียน นอกนั้นปฏิเสธหมดเลยไม่กล้ารับคุณหนูเข้ามาเรียนเพราะกลัววีรกรรมที่ผ่านมา พยายามตั้งใจเรียนจบให้ได้นะขอรับ รู้ไหมว่านายท่านต้องเสียเงินไปหลายล้านหยวนเพื่อทำให้คุณหนูเข้าเรียนที่ดีๆ แบบนี้ได้ ยินดีบริจาคเงินมากมายมหาศาลเพื่ออนาคตของคุณหนูนะขอรับ”

  เกาหยงเล่อชายวัยกลางคนอายุประมาณ 45 ปี มีหน้าที่คอยดูแลว่านฉีฉี ซึ่งถูกส่งมาเรียนในเมืองปักกิ่งแทนที่จะเรียนในเมืองเซี่ยงไฮ้ที่เป็นเมืองเกิดของตัวเอง สืบเนื่องมาจากเพราะพ่อขอเธออยู่ในวงการสีเทา มีอาชีพที่รัฐบาลจีนต้องคอยจับจ้องและตรวจสอบอยู่ตลอดเวลา พ่อของเธอเป็นผู้มีอิทธิพลในเมืองเซี่ยงไฮ้ สืบทอดกันมาอย่างยาวนานตั้งแต่รุ่นปู่ในยุค 60 ซึ่งเป็นยุคเจ้าพ่อครองเมือง

  แม้ว่าในปัจจุบันทางการจะปราบปรามบรรดาเจ้าพ่อและมาเฟียที่มีอยู่อย่างเกลื่อนเมืองลงได้ และเข้าทำการจัดระเบียบสังคมเมืองเพื่อให้ปราศจากกลุ่มผู้มีอิทธิพลแล้วก็ตาม แต่ขึ้นชื่อว่าเจ้าพ่อที่มีรากเหงามาอย่างยาวนานตั้งแต่ยุค 60 ย่อมไม่มีวันตาย เจ้าพ่อตระกูลอื่นตายแต่สำหรับตระกูลว่านแล้วยังไม่ตาย ว่านตงหัวซึ่งเป็นพ่อแท้ๆ ของว่านฉีฉีจึงต้องส่งลูกสาวเพียงคนเดียวให้ออกมาจากอกอยู่ให้ห่างไกลเขาและ ต้องห่างจากเมืองเซี่ยงไฮ้ เพื่อความปลอดภัยของลูกสาว

  แต่แม่ลูกสาวคนเดียวของเขาก็ช่างสร้างวีรกรรมเชื้อไม่ทิ้งแถวพ่อของเธอเลยจริงๆ ใครทำให้โกรธ แม่ก็ลงมือทันที ชนิดที่ว่าตาต่อตา ฟันต่อฟัน กัดมา กัดกลับ ต่อยมา ต่อยกลับ ไม่ยอมลงและอ่อนข้อให้ใครง่ายๆ ถอดแบบนิสัยพ่อออกมาไม่มีผิดเพี้ยนเพราะเธอเกิดมามีเพียงว่านตงหัวเท่านั้นที่คอยเลี้ยงดูประคบประหงม 

 ส่วนแม่ของเธอถูกครอบครัวพาหนีไปตั้งแต่ว่านฉีฉีเกิดเพราะครอบครัวของแม่ไม่ยอมรับที่ว่านตงหัวเป็นพวกอันธพาลครองเมือง จึงบังคับแม่ของว่านฉีฉีให้ไปแต่งงานกับผู้ชายที่มีฐานะชาติตระกูลสูง มีความรู้และร่ำรวยกว่าว่านตงหัว 

 แต่แม่ของเธอก็มีชีวิตอยู่ได้ไม่นานหลังจากแต่งงานใหม่กับผู้ชายที่ครอบครัวบงการจัดหามาให้ แม่ของเธอก็จากไปเพราะตรอมใจที่ถูกสามีใหม่ทำร้ายจิตใจอยู่ตลอดเวลาเพราะว่ามีผู้หญิงมากหน้าหลายตา รับเลี้ยงนำมาเป็นภรรยาน้อยก็มีอีกหลายคนโดยทางครอบครัวของแม่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย

  การจากไปของอดีตภรรยานั้นทำให้ว่านตงหัวเสียใจมาก ที่ไม่สามารถปกป้องผู้หญิงที่เขารักได้เลย ดังนั้นว่านตงหัวจึงทุ่มเทความรักและคอยดูแลปกป้องลูกสาวคนเดียวของเขาอย่างใกล้ชิด และพยายามถีบตระกูลว่านให้มายืนหนึ่งอยู่ในระดับแถวหน้าของตระกูลเจ้าพ่อในเมืองเซี่ยงไฮ้ และมีอิทธิพลทัดเทียมกับตระกูลหวง ดังนั้นเจ้าพ่อของเมืองเซี่ยงไฮ้ที่ถูกทางการเพ่งเล็งและพยายามเข้ากวาดล้างอยู่ตลอดเวลาก็คือว่านตงหัวและหวงจ้านเซี่ย

  เพราะสาเหตุนี้ว่านตงหัวจึงส่งว่านฉีฉีให้มาอาศัยอยู่ในเมืองปักกิ่งทันทีที่เรียนจบชั้นประถมศึกษา โดยที่ลูกสาวไม่ได้เต็มใจเพราะเป็นห่วงพ่อและรักพ่อมาก จึงทำทุกอย่างเพื่อที่จะให้ได้กลับไปอยู่เมืองเซี่ยงไฮ้เหมือนเดิม เด็กสาวจึงมีเรื่องชกต่อยกับเพื่อนผู้ชายและทะเลาะวิวาทกับเพื่อนในชั้นเรียน ต่างชั้น รวมไปถึงต่างโรงเรียนแทบจะทุกวัน 

  แต่ถึงแม้จะมีเรื่องชกต่อยกับเพื่อนผู้ชายทุกวัน ว่านฉีฉีก็เป็นขวัญใจของเพื่อนผู้หญิงเพราะเธอคอยปกป้องเพื่อนที่อ่อนแอและคอยช่วยเหลือไม่ให้ถูกนักเรียนเจ้าถิ่นรังแก 

 ชีวิตในวัยเรียนที่อยู่ภายในเมืองปักกิ่งไม่แน่จริงอยู่ยาก มีจำนวนไม่น้อยที่กลายเป็นโรคซึมเศร้า ขาดความมั่นใจเพราะถูกบูลี่และกลั่นแกล้ง และมีอีกนับไม่ถ้วนเลือกที่จะจบชีวิตตัวเองเพื่อจบปัญหาทุกอย่าง

  “พ่อบ้านเกาสบายใจเถอะ ฉีฉีจะเป็นเด็กดี อย่างมากก็แค่เปลี่ยนที่เรียนใหม่ก็เท่านั้นเอง”หญิงสาวพูดออกมาหน้าตาเฉยพลางดึงลูกอมเข้าออกปากไปมาเป็นการล้อเลียนก่อนจะเดินเข้าประตูของสถาบัน

  ในขณะที่พ่อบ้านเกาแทบจะเอาหัวโขกกับขอบประตูรถพอได้ยินคุณหนูของเขาบอกออกมาแบบนั้น

  “คุณหนูอย่าทำแบบนั้นนะขอรับ ไม่มีที่ไหนให้ไปเรียนอีกแล้ว อดทนหน่อยอีกเทอมเดียวก็จบแล้วนะคุณหนูหลังจากเรียนจบแล้ว นายท่านก็จะส่งคุณหนูให้ไปเรียนต่อต่างประเทศ”

 พ่อบ้านเกาตะโกนบอกตามหลัง แต่แล้วก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นเหตุการณ์บางอย่างกำลังปรากฏขึ้นพร้อมเสียงของว่านฉีฉีแทรกขึ้นมา

  “ถ้าหากไม่มีที่ไหนรองรับก็ไม่ต้องเรียน ง่ายจะตายไป! ส่วนเรื่องที่จะส่งให้ไปเรียนต่อต่างประเทศ เลิกคิดไปได้เลย...เพราะว่าฉีฉีไม่ไป!!!”หญิงสาวตะโกนตอบกลับเสียงดังก้อง

  พรึบบบ!!! ขบวนม้าขนาดใหญ่มีธงรบเหน็บอยู่ด้านหลังคล้ายกองทัพ บนหลังม้าแต่ละตัวล้วนเป็นชายฉกรรจ์สวมชุดเกราะโบราณทั้งสิ้น เสียงฝีเท้าม้าจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังวิ่งห้อตะบึงผ่านหน้าของว่านฉีฉี ในขณะที่ม้าสีดำตัวขนาดมหึมากำลังวิ่งตรงมาทางหญิงสาว คนที่กำลังอยู่บนหลังม้าซึ่งวิ่งอยู่นำหน้าสวมชุดเกราะแตกต่างไปจากคนอื่น ใบหน้าดุดัน ถมึงทึงและน่ากลัวเต็มไปด้วยหนวดเคราปกคลุม 

 แต่สิ่งที่สำคัญจนทำให้ว่านฉีฉีถึงกับหยุดก้าวเดินต่อไป นั่นก็เพราะเธอเห็นดวงตาของผู้ชายคนนั้นเป็นสีเลือด และยังมีไอดำทะมึนพวยพุ่งออกมาจากร่างของเขาอยู่ตลอดเวลา

 ตุบ!!! ลูกอมที่อยู่ในปากตกลงพื้นทันทีด้วยความตกใจ

 พรึบ!!! ดวงตาสีดำกลมโตของว่านฉีฉีเปลี่ยนเป็นสีเลือดขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว ว่านฉีฉีรีบปิดเปลือกตาของตัวเองลงอย่างรวดเร็วพลางส่ายศีรษะไปมาอย่างแรงติดต่อกันเมื่อเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า

 “เฮ้ย..อะไรกันเนี่ยทำไมเห็นภาพหลอนลวงตาตั้งแต่เช้าเลยเหรอ..หรือว่าเพราะไม่ได้กินข้าว”หญิงสาวบ่นพึมพำออกมา แต่แล้วก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อถูกมือของผู้ชายวัยกลางคนจับเข้าที่ต้นแขนทางด้านหลัง

 เฮ้ยยยย!!! ว่านฉีฉีแหกปากตะโกนออกมาด้วยความตกใจจนสุดเสียงที่ถูกจับทางด้านหลังอย่างไม่รู้ตัว

 “คุณหนูขอรับกระผมเอง”เสียงของพ่อบ้านเกาบอกเบาๆ กับเด็กสาว

  เฮ้อ!!!! ว่านฉีฉีถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกที่ได้ยินเสียงของคนสนิทที่คอยดูแลเธอมาโดยตลอด พลางเปิดตาขึ้นมองไปรอบบริเวณเพื่อความแน่ใจของตัวเองอีกครั้ง

 “ก็ไม่มีนี่หว่า...สงสัยเราจะตาฝาดเห็นภาพหลอนไปเอง”หญิงสาวบ่นพร้อมหันกลับไปมองทางด้านหลังของเธอทันที

  “โอ้ยพ่อบ้านเกา ทำไมมาเงียบๆแบบนี้ ฉีฉีตกใจหมดเลยรู้ไหม หัวใจจะวายตายให้ได้เลยรู้บ้างหรือเปล่า”หญิงสาวบ่นกระปอดกระแปด

  “กระผมขอโทษขอรับที่มาเงียบๆ แต่เห็นคุณหนูจู่ๆ ก็ยืนนิ่งไม่ยอมก้าวเดินก็เลยกลัวว่าจะเป็นอะไรหรือมีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า ก็เลยรีบตามมาคอยดูแลมีอะไรหรือเปล่าขอรับ”พ่อบ้านเกาเลียบๆ เคียงๆ ถามไป

  ว่านฉีฉีกลอกตาไปมาภายในใจคิดว่าควรจะพูดในสิ่งที่เห็นดีหรือไม่ แต่พอคิดอีกทีตอนนี้ก็ไม่มีอะไรขืนพูดออกไปจะถูกเหมารวมว่าเธอพูดจาเพ้อเจ้อไปเรื่อยเปื่อย

  “ไม่มีอะไรหรอกพ่อบ้านเกา พอดีว่าฉีฉีใจลอยมัวแต่ยืนคิดอะไรเพลินไปหน่อยก็เท่านั้น นี่ก็สายแล้วเข้าไปเรียนก่อนนะแล้วก็ตอนเย็นมารอรับหน้าประตูได้เลย สัญญาว่าจะเป็นเด็กดีไม่หาเรื่องใครและไม่ให้ใครมาหาเรื่องด้วย..ไปนะ”หญิงสาวรีบพูดตัดบทเพื่อที่จะไม่ต้องเสียเวลาอธิบายต่อไป โดยมีสายตาของพ่อบ้านเกามองตามหลังอยู่ตลอดเวลา

  ว่านฉีฉีไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้ร่างของเธอมีบางอย่างเปลี่ยนไป ทั่วร่างมีไอดำทะมึนแผ่ออกมาและมีพ่อบ้านเกาเท่านั้นที่เห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในเวลานี้

  “เป็นไปได้อย่างไง ไอมารของคุณหนูทำไมถึงออกมาได้ภายในสถานที่แห่งนี้มีคนที่เกิดตอนดาวแห่งความตายปรากฏอยู่ในบริเวณนี้ด้วยเหรอ ไม่น่าจะเป็นไปได้ก่อนจะพาคุณหนูย้ายมาเข้าที่นี่ก็ตรวจสอบทุกอย่างดีหมดแล้ว และทำไมวันนี้ถึงได้เห็นอะไรแบบนี้ได้นะ”พ่อบ้านเกาพึมพำอย่างสงสัย

  “หรือเป็นเพราะเดือนหน้าคุณหนูอายุครบ 18 ปีเต็มและยังเกิดตรงกับเทศกาลหยวนเซียวก็เลยทำให้ไอมารออกมา แต่ถึงคุณหนูจะมีไอมารออกมา แต่บนโลกนี้ไม่มีใครมีไอมารเหมือนคุณหนูอีกแล้ว เพราะหนึ่งพันปีมีแค่คนเดียวเท่านั้น เดี๋ยวไอมารจะหายไปเองพอคุณหนูแต่งงาน มันไม่น่าผิดไปจากที่เราคิดไว้หรอกแต่ถึงอย่างไรก็ต้องรีบรายงานให้นายท่านรู้เอาไว้ล่วงหน้าก่อน”

 พ่อบ้านเกาพูดพลางรีบล้วงโทรศัพท์มือถือต่อสายสนทนารายงานข่าวให้ว่านตงหัวได้รับรู้ พร้อมหันหลังเดินกลับไปที่รถเมื่อว่านตงหัวรับสายทันทีที่เขาต่อสายคุยด้วย

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • บำเรอรัก แม่ทัพปีศาจ   ตอนที่ 15 ฉีฉีของข้า 1.3

    บริเวณลำธาร ว่านฉีฉีวิ่งหนีเตลิดออกมาจากนอกกระโจมอย่างไม่คิดชีวิต ก่อนจะมาหยุดยืนมองสายน้ำตรงหน้าที่ใสราวกระจก บริเวณลำธารมีหินน้อยใหญ่เกิดขึ้นตามธรรมชาติมากมาย น้ำตกไหลตรงหน้ามีสายธารามาจากที่สูงลงมาเบื้องล่างท่ามกลางต้นไม้สูงใหญ่มากมายที่เกิดขึ้นล้อมรอบ ซึ่งบริเวณดังกล่าวที่หญิงสาวเห็นในยุคปัจจุบันก็คือพื้นที่หลังสถาบันที่มีเจดีย์โบราณเกิดขึ้น แต่ในยุคอดีตยังเป็นป่าดงดิบที่อุดมสมบูรณ์ แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติปกคลุมไปทั่ว “โอโห่สวยจังแฮะ! มีน้ำตกด้วย น้ำใสแจ๋วเลย”หญิงสาวพูดออกมาอย่างลืมตัวก่อนจะนึกขึ้นได้ว่ากำลังหนีผู้ชายหน้าตาหล่อโคตรๆ แต่กลับแต่งกายประหลาดเหมือนกำลังถ่ายละครย้อนยุค “แย่แล้วฉีฉี...ต้องรีบหนีอีตาผู้ชายหื่นกามคนนั้นให้พ้น คนอะไรก็ไม่รู้มองอย่างกับจะกลืนกินเราเข้าไปได้ทั้งตัวเลย”หญิงสาวบ่น ว่านฉีฉีรีบถลกผ้าห่มเดินลุยสายน้ำในลำธารมุ่งหน้าไปทางขอบน้ำตกที่เธอเห็นโพรงคล้ายถ้ำอยู่ภายใน หญิงสาวแทบอยากจะทิ้งผ้าห่มที่กำลังคลุมร่างเธอลงเสียให้ได้เพราะพอมันถูกน้ำแล้ว ทำให้เธอต้องแบกน้ำหนักของผ้าห่มไปกับตัวเองด้ว

  • บำเรอรัก แม่ทัพปีศาจ   ตอนที่ 14 ฉีฉีของข้า 1.2

    ยามอู่ว่านฉีฉีลูกสาวเจ้าพ่อจากเมืองเซี่ยงไฮ้ในยุคอนาคต ยังคงนอนหลับใหลอยู่บนฟูกนอนอันหนานุ่ม กายงามยังคงนอนเปลือยเปล่าไร้สิ้นอาภรณ์ห่อหุ้ม ผมสีดำยาวสยายเต็มหมอนหนุน หลังจากร่างกายได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่แล้ว ความรู้สึกและสติของว่านฉีฉีก็เริ่มเกิดขึ้นมาอย่างช้าๆร่างเริ่มเคลื่อนไหวไปมา ใบหน้าเหยแกด้วยรู้สึกเจ็บระบมไปหมดทั่วทั้งร่างกายอย่างไม่เคยรู้สึกเป็นเช่นนี้มาก่อน เปลือกตาค่อยๆ เปิดขึ้นอย่างช้าๆ ดวงตาสีดำกลมโตจับจ้องอยู่แต่เพดานที่ทำจากผ้าเนื้อหยาบอยู่ชั่วขณะ“นี่เรามาออกเที่ยวเดินป่าอีกแล้วเหรอ จำได้ว่าไม่ได้มีแผนเดินป่าที่ไหนเลยนะ แล้วมานอนอยู่ในเต๊นท์ผ้าของใครกันละเนี่ย”หญิงสาวพึมพำอย่างสงสัยพร้อมหยัดกายลุกขึ้นมานั่งบนฟูกนอนแปลบบบ!!! อาการเจ็บเสียวปลาบเกิดขึ้นบริเวณท้องน้อยและตรงหว่างขาซึ่งเป็นสิ่งสำคัญของลูกผู้หญิงโอ้ยยยย!!! ว่านฉีฉีส่งเสียงร้องออกมาเบาๆ ด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวดแปลบไปทั่วกายซึ่งกำลังส่งผลอยู่ในเวลานี้หญิงสาวจดจำอะไรไม่ได้เลยว่าได้ผ่านการเสพสังวาสกับแม่ทัพเฉียนฉินเมื่อคืนที่ผ่านมาอย่างสาหัสสากรรจ์เลยทีเดี

  • บำเรอรัก แม่ทัพปีศาจ   ตอนที่ 13 ฉีฉีของข้า 1.1

    ยามเหม่า กระโจมแม่ทัพ ภายในกระโจมของหลี่เหวินฉางเวลานี้ร่างเปลือยของว่านฉีฉีนอนหมดเรี่ยวแรงอยู่ภายในอ้อมกอดของแม่ทัพปีศาจ ร่างใหญ่โตบดบังร่างงามเอาไว้จนมิด ท่อนแขนกำยำอัดแน่นด้วยกล้ามเนื้อกอดร่างของฉีฉีเอาไว้กับอกกว้างใหญ่ของเขาอย่างหวงแหน แม่ทัพเฉียนฉินร่วมรักเสพสวาทกับว่านฉีฉีอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย กลืนกินอย่างหื่นกระหาย ชำเรารักนางอย่างบ้าคลั่งแต่นางกลับตอบโต้และรับมือเขาได้อย่างเผ็ดร้อนถึงพริกถึงขิง สตรีพรหมจรรย์ไม่เคยมีประสบการณ์แต่สามารถรับมือแม่ทัพปีศาจผู้เจนสงครามราคะในระดับปรมาจารย์นี้ได้อย่างชะงักงัน และนางยังสามารถทำให้แม่ทัพปีศาจกลืนกินนางแทนที่จะสูบพลังชีวิตเข้าไป เป็นสตรีคนแรกที่ยังคงมีชีวิตอยู่จนรุ่งอรุณของเช้าวันใหม่มาเยือนพร้อมกับเสียงเรียกของมู่เฉิน “ท่านแม่ทัพขอรับ! ท่านแม่ทัพ!”มู่เฉินส่งเสียงร้องเรียกดังอยู่ด้านนอกกระโจม เหวินฉางที่เพิ่งจะหลับใหลไปด้วยความอ่อนแรงได้ไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ และพบว่าแสงสีทองของดวงอาทิตย์กำลังโผล่พ้นจากขอบฟ้าขึ้นมาบ้างแล้ว &

  • บำเรอรัก แม่ทัพปีศาจ   ตอนที่ 12 บำเรอรัก บำเรอสวาท 1.2

    “โอวว….ซี้ดดด..โอยยย…อูวววว” หญิงสาวแอ่นอกชูชันขันรับความเสียวซ่านจนขนทั่วกายลุกเกรียว แม่ทัพหนุ่มใช้ลิ้นสากโลมเลียมาถึงเนินสวรรค์ ก่อนจะใช้นิ้วแหวกกลีบดอกไม้งามออกกว้าง ร่องสวรรค์ของแม่สาวน้อยสีแดงแจ๋ เม็ดบัวยื่นออกมาน่าดูดน่าเม้มเสียเหลือเกิน แม่ทัพปีศาจซุกใบหน้าใช้ลิ้นสากของเขาเลียร่องสวรรค์อย่างหิวกระหาย ลากขึ้นลากลง คว้านซ้ายและขวาและห้อลิ้นแทงเข้าร่องสวรรค์อย่างเมามัน จนร่างงามบิดเร้าไปมาเส้นผมยาวสลวยกระจายไปมาอย่างไร้ทิศทาง ว่านฉีฉีเสียวซ่านจนกายงามสั่นระริกเพราะยังไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน ในเวลานี้ไอปีศาจที่อยู่ในกายเริ่มอ่อนกำลังลง มือเรียวกำเส้นผมของตัวเองเอาไว้จนแน่นเลยทีเดียว ยิ่งโดนลิ้นสากโลมเลียเข้าไปแม่สาวน้อยก็เกร็งเด้งเอวส่ายร่อนไปมาตอบโต้ตามสัญชาติญาณทางธรรมชาติโดยไม่รู้ตัว “ซี้ด…ทนไม่ไหวแล้ว…อูววววว”หญิงสาวครางเสียงกระเส่า “โอววว…ซี้ดดดด...โอวว..อย่า…ซี้ดดด..อย่า....อูยยยย..” เธอเปล่งเสียงร้องครวญครางด้วยความเสียวซ่านเมื่อโดนนิ้วแทงร่องสวรรค์ซอยเข้าซอยออกอย่างถี่ยิบ จนเกร็งตัวสุดๆ แล้วค่อยๆ ผ่อนคลายออกมาเป็นสายธาราไหลเนืองนอง ก่อนจะถู

  • บำเรอรัก แม่ทัพปีศาจ   ตอนที่ 11 บทรัก บำเรอสวาท 1.1

    กระโจมแม่ทัพเฉียนฉิน ตุบ!!! ร่างของว่านฉีฉีถูกนำมาวางไว้บนฟูกนอนที่ยัดด้วยขนห่านอันหนานุ่ม หญิงสาวยังคงนอนไม่ได้สติอยู่เหมือนเดิมโดยมีสายตาของหลี่เหวินฉางยืนมองร่างของเธออย่างสงสัย “ปีศาจสาวตนนี้เหตุใดสวมอาภรณ์ประหลาดชอบกลนัก แดนปีศาจนิยมสวมใส่กันแบบนี้เหรอ”หลี่เหวินฉางพูดพึมพำพลางปลดชุดเกราะที่สวมใส่อยู่ในเวลานั้นออกจากกาย ชุดเกราะและเสื้อผ้าที่สวมออกไปทำศึกถูกปลดออกจากร่างสูงทะมึนกำยำจนเหลือแต่เพียงกายเปลือยเปล่าล่อนจ้อน หลี่เหวินฉางเดินกายเปลือยตรงไปยังประตูที่ใช้ผ้าผืนใหญ่ปิดอยู่ในเวลานั้นใช้มาทำเป็นประตู เปิดออกสู่ด้านนอกซึ่งมีลำธารไหลผ่าน กระโจมสำหรับใช้เป็นที่พักของแม่ทัพเฉียนฉินจะตั้งแยกออกห่างจากกระโจมของเหล่าทหาร นายกอง มาตั้งอยู่ในพื้นที่เป็นส่วนตัว ทั้งนี้เพื่อสะดวกในการเสพสังวาสกับสตรีที่ถูกนำมาบำเรอแม่ทัพปีศาจดั่งเช่นทุกครั้ง จนเป็นเรื่องปกติและกลายเป็นความเคยชินที่เหล่าทหารในกองทัพจะพบเห็นสตรีถูกมู่เฉินนำมาส่งให้แม่ทัพเฉียนฉินถึงที่พำนัก แต่ครั้งนี้แตกต่างไปจากทุกครั้งที่ผ่านมา นั่นก็เพราะว่าแม่ทัพเฉียนฉินเป็นผู้

  • บำเรอรัก แม่ทัพปีศาจ   ตอนที่ 10 สตรีบำเรอของแม่ทัพปีศาจ 1.3

    ทางด้านว่านฉีฉีว่านฉีฉีในเวลานี้ถูกกองทหารเฉียนฉินล้อมเอาไว้ไม่ให้หลบหนีไปจากที่นี่ได้ ตามคำสั่งของรองแม่ทัพมู่หรือมู่เฉิน ที่สั่งให้ทหารรีบกลับไปส่งข่าวให้เหวินฉางล่วงรู้การมาของปีศาจสาวตนนี้ ในขณะที่ว่านฉีฉีตอนนี้เธอไม่รู้ตัวและยังไม่รู้ด้วยว่าไม่ได้อยู่บนดาดฟ้าของอาคารแต่กลับมาอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่งในยุคอดีตที่เรียกว่าเมืองจี้ อันเป็นเมืองหลวงของต้าเยียนเมื่อหลายพันปีก่อนสถาบันศึกษาที่เธอเข้าเรียนล่าสุดตั้งอยู่ในพื้นที่ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงเก่าในสมัยโบราณ และที่สำคัญกองทัพเฉียนฉินตั้งทัพอยู่นอกเมืองและบุกเข้าโจมตีจนเมืองหลวงพินาศย่อยยับ ต้าเยียนล่มสลายลงภายในเวลาอันรวดเร็ว กองทัพของทั้งสองฝ่ายสู้รบกันไม่ถึงหนึ่งเดือนต้าเยียนก็แตกไม่มีชิ้นดี ทุกเมืองถูกฆ่าล้างบางจนกลายเป็นเมืองร้างในขณะที่ทุกสายตากำลังจับจ้องอยู่ที่ร่างของว่านฉีฉีท้องฟ้าที่ถูกเมฆหนาดำทะมึนบดบัง เริ่มเคลื่อนผ่านไปเผยให้เห็นพระจันทร์เต็มดวงกลมโต ที่ลอยอยู่เหนือเมืองหลวงจี้มองขึ้นไปราวกับว่าพระจันทร์อยู่ใกล้มือแค่นี้เอง แต่แล้วทุกสายตาก็ต้องพากันเบิกกว้างด้วยความตกใจ“แม่ทัพมู่บนท้อง

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status