เข้าสู่ระบบวันต่อมา
ของขวัญเดินทอดน่องเข้าไปในพื้นที่ของคณะศิลปกรรมศาสตร์อย่างเร่งรีบ ชุดนักศึกษาถูกคลุมเอาไว้ด้วยเสื้อกันหนาวคอเต่าอีกชั้นเพื่อปิดบังรอยจ้ำทั้งที่อากาศค่อนข้างร้อน ใบหน้าสวยถูกปกปิดไว้ด้วยหน้ากากอนามัยราวกับกลัวว่าใครจะจำหน้าได้
เธอทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ เดินเข้าไปนั่งกับเพื่อนสนิทที่โต๊ะหินอ่อนหน้าคณะ
“ของขวัญ”
เพลินตา เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของของขวัญ เอ่ยเรียกอย่างไม่ค่อยแน่ใจนักว่าใช่เพื่อนของเธอหรือเปล่า แต่ก็คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเพื่อนสาวสุดโก๊ะของเธอที่ชอบทำตัวแปลกประหลาดอยู่บ่อย ๆ
“เป็นอะไรทำไมต้องใส่แมส แล้วนี่ไม่ร้อนเหรอใส่เสื้อกันหนาวซะมิดชิดเชียว”
เพลินตาเอ่ยถามเพื่อนสาว อดไม่ได้ที่จะหัวเราะท่าทางของเธอ
“ไม่สบายนิดหน่อย กลัวเพื่อนจะติดไข้” ลดหน้ากากอนามัยลงก่อนจะยิ้มเจื่อนให้เพื่อนแล้วตอบเสียงเบา
“เออ! แล้วเป็นยังไงบ้าง จ๊อบวันเสาร์เรียบร้อยไหม”
เพลินตาเอ่ยถามถึงงานพิเศษที่เพื่อนสาวรับจ๊อบเอาไว้เมื่อวันเสาร์ มีคนจ้างให้เธอไปเสิร์ฟอาหารในงานวันเกิดของคุณยายวัยเกษียณ แต่ทว่าพอเข้าไปในบ้านหลังดังกล่าว กลับเจอเข้ากับแก๊งขององศา คู่อริเก่าสมัยเรียนมัธยมปลายของเธอ
คิดขึ้นมาแล้วก็รู้สึกโมโหสุดขีด หากคืนนั้นเธอหนีออกมาไม่ได้ คงได้กลายเป็นเมียมัน เผลอๆ อาจได้เป็นเมียของเพื่อนมันไปด้วย เธอรู้สึกคับแค้นใจไม่หาย
“ว่าไง เรียบร้อยไหม” เพลินตาถามย้ำ
“เพลิน จำไอ้องศาได้ไหม คนที่เราเคยเล่าให้ฟังว่ามันเล่นงานเราไม่เลิกอะ”
“จำได้ ทำไมเหรอ”
“วันนั้นเป็นมันที่หลอกเราไป พวกมันตั้งใจจะข่มขืนเรา”
“จริงเหรอ แล้วขวัญเป็นอะไรไหม”
“ไม่เป็นไร พอดีเราหนีออกมาได้”
“ทำไมมันถึงตามรังควานเธอไม่เลิกสักทีนะ” เพลินตาเอ่ยอย่างไม่เข้าใจ
ของขวัญครุ่นคิด ทั้งที่ความจริงแล้วเธอกับองศาเป็นเพื่อนที่เรียนมาด้วยกันตั้งแต่สมัยมัธยมต้น แต่ไม่ได้สนิทกันสักเท่าไหร่เพราะเธอเป็นพวกเด็กตั้งใจเรียนถึงแม้จะเรียนไม่ค่อยเก่งก็เถอะ ส่วนองศาเป็นพวกเด็กเกเร ชอบรีดไถเงินคนในโรงเรียนไปทั่วไม่เว้นแม้แต่เด็กเล็ก
แต่ช่วงมอปลาย องศามาสารภาพรักกับเธอต่อหน้าคนทั้งโรงเรียนแต่ถูกเธอปฏิเสธ มันคงทำให้เขารู้สึกเสียหน้า จึงคิดอยากเอาคืนเธอหลายเท่า
เมื่อปีก่อนองศาเคยจะฉุดกระชากลากเธอเข้าไปในรถ ดีที่ทิศเหนือผ่านมาเห็นเข้าจึงช่วยเอาไว้ ตอนนั้นทิศเหนืออัดองศาซะน่วมไปทั้งตัว มันเลยยิ่งไปเพิ่มความแค้นให้องศามากขึ้นไปอีก
หลังจากนั้นองศาก็หาวิธีเล่นงานเธอสารพัด ตาของเธอเคยพาไปแจ้งความที่โรงพัก แต่ตำรวจก็ทำอะไรมันไม่ได้ เพราะเขาเป็นลูกของผู้มีอิทธิพลในละแวกนั้น
หลังจากวันนั้นของขวัญจึงตัดสินใจย้ายมาเช่าหอพักอยู่ใกล้ ๆ กับมหาวิทยาลัยเพื่อหนีมัน แต่สุดท้ายมันก็ยังตามมาเล่นงานเธออีกจนได้
“ไม่รู้เมื่อไหร่มันจะเลิกตามจองเวรเราสักที เฮ่อ!”
หญิงสาวย่นคิ้วคิดหนัก
เที่ยงวัน
ของขวัญเดินลงจากตึกเรียนพร้อมกับเพื่อนสาว พวกเธอกำลังมุ่งหน้าไปที่โรงอาหารของคณะ
แต่ทว่าร่างบางต้องหยุดชะงักแล้วหันหลังขวับ เมื่อเห็นว่าด้านหน้าทางเข้าโรงอาหารมีกลุ่มของทิศเหนือยืนอยู่
“ของขวัญเป็นอะไร จู่ ๆ หยุดเดินทำไม”
“พอดีเรานึกขึ้นมาได้ว่าลืมของน่ะ เพลินเข้าไปก่อนเลยนะเดี๋ยวเรากลับไปเอาของแล้วจะรีบตามไป”
พูดเสร็จก็แยกตัวออกมาจากเพื่อน พอลับตาเพื่อนเธอก็เดินเข้าไปหลบอยู่ในห้องน้ำบริเวณนั้น หน้าสวยชะโงกออกมาดูกลุ่มคนหน้าโรงอาหารอยู่เรื่อย ๆ เพื่อคอยสังเกต
ทางด้านของทิศเหนือ หลังกินข้าวเสร็จเขาและพวกเพื่อน ๆ กำลังนัดแนะกันเรื่องงานปาร์ตี้อยู่ตรงด้านหน้าของโรงอาหาร
ระหว่างนั้นสายตาคู่คมเหลือบไปเห็นหญิงสาวคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามาพร้อมกับเพื่อนของเธอ แม้เธอจะใส่หน้ากากอนามัยปกปิดไว้เป็นอย่างดิบอย่างดี แต่รูปร่างของเธอดูคุ้นตาชะมัด
แต่จู่ ๆ เธอกลับหยุดชะงักแล้วหันหลังวิ่งออกไปเสียอย่างนั้น
ทิศเหนือรู้สึกสนใจผู้หญิงคนนั้นขึ้นมาทันที ชักอยากจะรู้แล้วสิว่าจะใช่อย่างที่เขาคิดเอาไว้หรือเปล่า
ร่างสูงรีบแยกตัวออกมาจากเพื่อนแล้วเดินย่องเข้าไปแถว ๆ ห้องน้ำ
ของขวัญชะโงกหน้าออกมาจากห้องน้ำอยู่หลายครั้ง ก่อนที่ครั้งสุดท้ายจะเห็นว่าอีกคนไม่ได้ยืนอยู่ตรงบริเวณนั้นแล้ว เธอจึงเดินออกมาจากที่ซ่อน
เธอมองไปที่หน้าโรงอาหารอีกครั้งเพื่อเช็กให้แน่ใจ มือเล็กยกขึ้นมาทาบไว้ตรงอกด้านซ้ายก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“เฮ่อ! โล่งอกไปที”
หมับ!
เดินออกมาจากห้องน้ำเพียงไม่กี่ก้าว ก็ถูกใครบางคนกระชากอย่างแรงจนตัวแทบปลิว แรงกระชากทำให้ร่างเธอกระทบเข้ากับคนตัวสูงเสียงดัง ปึก!
ของขวัญเงยหน้าขึ้นช้า ๆ เพื่อมองหน้าคนที่กระชากข้อมือของเธอว่าเป็นใคร
“ค...คุณ”
เผลอเรียกคนตรงหน้าด้วยความตกใจ
ทิศเหนือแสยะยิ้มมุมปากจ้องมองคนตัวเล็ก ก่อนจะยกมือขึ้นมากระชากหน้ากากอนามัยของเธอออกในทันที
“หึ”
เสียงแค่นหัวเราะดังออกมาเบาๆ อย่างพอใจ คิดแล้วไม่มีผิดว่าต้องใช่เธอจริง ๆ
ของขวัญยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาปิดหน้าตัวเองอย่างลนลานราวกับคนกลัวความผิด ก่อนจะก้มหน้าหลบตาคนที่พยายามจะจับผิด แอบหวังว่าบางทีเขาอาจจะจำเธอไม่ได้
“ขอตัวนะคะ” สะบัดแขนแล้วรีบเดินออกมา
“เดี๋ยว”
ข้อมือเล็กถูกคว้าเอาไว้อีกครั้งแล้วกระชากเบา ๆ ให้เธอหยุด
หญิงสาวหันกลับมามองเขา ย่นหัวคิ้วเล็กน้อยแล้วถามขึ้น
“อะไรคะ”
“เสื้อฉันอยู่ไหน”
“ฮะ”
มองเขาอย่างไม่เข้าใจ แค่จะทวงเสื้อจากเธอหรอกเหรอ ถึงจะไม่ได้อยากได้ของของเขาก็เถอะ แต่คนรวยอะไรก็ไม่รู้ขี้หวงชะมัด กะอีแค่เสื้อยืดตัวหนึ่งกับเสื้อแจ็กเกตหนังตัวหนึ่งแค่นั้นเอง เธอคืนให้ก็ได้ ไม่ได้อยากได้สักหน่อย
คิดแล้วก็ตวัดสายตามองเขา ก่อนจะรีบเอ่ย
“อยู่ที่ห้องค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะเอามาคืนให้”
“ฉันจะเอาวันนี้”
“ก็ตอนนี้มันไม่ได้อยู่ที่นี่ ฉันจะคืนให้คุณได้ยังไงล่ะคะ”
ขมวดคิ้วมองหน้าเขาอย่างไม่พอใจ
“เอาเบอร์โทรมา เดี๋ยวตอนเย็นฉันจะไปเอาที่ห้องเธอ”
เขาเอ่ยพร้อมกับยื่นมือถือราคาแพงให้เธอ หญิงสาวมุ่ยหน้าใส่เขาแล้วรับมือถือมากดเบอร์ของตัวเองลงไปในนั้นก่อนจะยื่นมันคืนให้เขา
หลังจากรับมือถือคืนมา ทิศเหนือก็กดโทรออกทันที เขาต้องเช็กให้แน่ใจว่าเบอร์ที่เธอให้มา เธอไม่ได้กดสุ่มมั่ว ๆ
ครืด! ครืด! ครืด!
ยิ้มอย่างพอใจเมื่อได้ยินเสียงมือถือในกระเป๋าสะพายข้างของหญิงสาวดังขึ้น หลังจากนั้นจึงกดวางสาย
“ไม่มีอะไรแล้วฉันไปนะคะ”
ของขวัญเอ่ยบอกแล้วตั้งท่าจะเดินออกมา แต่ทว่า
หมับ!
“เดี๋ยวก่อน”
เขาดึงรั้งข้อมือเธอไว้อีกครั้ง
“มีอะไรอีกคะ”
หันกลับมาแล้วใช้น้ำเสียงไม่สบอารมณ์ถามเขา
“คืนเงินที่เธอขโมยไปด้วย”
“ฮะ”
กลั้นอารมณ์โมโหเอาไว้แล้วล้วงเอากระเป๋าสตางค์ออกมาเปิด หยิบเงินแบงก์พันหนึ่งใบยื่นให้คนตรงหน้า ก่อนจะชักสีหน้าแสดงอาการไม่พอใจใส่เขาแล้วรีบเดินออกมา
อดสงสัยไม่ได้ว่าเขาเป็นคนรวยประเภทไหนกัน ทำไมถึงขี้งกได้ขนาดนี้ หรือแท้จริงแล้วเป็นพวกคนรวยจอมปลอมกันแน่
หนึ่งปีผ่านไปท่ามกลางค่ำคืนที่เงียบสงัด ทิศเหนือเดินอยู่ท่ามกลางความมืดมิดเพียงลำพัง ทั้งสองข้างทางเต็มไปด้วยป่ารกร้างเต็มไปหมดไม่มีแม้แต่บ้านคนสักหลัง เขาหันรีหันขวางอย่างสับสนไม่รู้ว่าต้องเดินไปในทิศทางไหนดีจู่ ๆ ก็มีแสงไฟสว่างขึ้นตรงปลายทางด้านหน้า เขาเดินย่างก้าวเข้าไปช้า ๆ เมื่อเห็นว่ามีใครบางคนยืนอยู่ตรงจุดนั้น“องศา”ทิศเหนือหยุดชะงักนิ่งงัน ก่อนจะอุทานเรียกชื่อคนที่ยืนยิ้มให้เขา องศามองมาที่เขาด้วยใบหน้าอิ่มเอมก่อนจะเอ่ยกับทิศเหนือว่า“ขออยู่ด้วยคนสิ”ชายหนุ่มสะดุ้งตื่นตกใจ เนื้อตัวท่วมท้นไปเหงื่อจนเปียกชุ่ม มีคำอุทานเบา ๆ เล็ดลอดออกมาจากลำคอแข็งแกร่ง“องศา”ของขวัญลุกขึ้นนั่งอย่างงัวเงีย มือเล็กเอื้อมไปเปิดโคมไฟหัวเตียง ก่อนจะหันมาทางผู้เป็นสามี“ฝันร้ายเหรอคะ”“ไม่รู้สิ ไม่รู้ว่าเป็นฝันร้ายหรือฝันดี”“ฝันว่าอะไรบอกขวัญได้ไหมคะ”ทิศเหนือนิ่งชะงักไปชั่วครู่ เหมือนว่าเขาจะคิดอะไรขึ้นมาได้บางอย่าง เขารีบหันมาถามผู้เป็นภรรยาของตัวเองทันที“ประจำเดือนของเดือนนี้มารึยัง”“ยังนะคะ แต่เอ้..ความจริงน่าจะมาได้แล้วนะ นี่ก็เลยมาหลายสัปดาห์แล้วก็ยังไม่เห็นมาสักที พี่เหนือถามทำไมเหรอคะ”
รถซูเปอร์คาร์คันหรูขับมาจอดที่โรงจอดรถ คนขับลงจากรถได้ก็โยนกุญแจรถให้ลูกน้องสนิทพร้อมทั้งเอ่ยปากสั่งทันที“เอารถไปล้างให้หมดทุกคันเลยนะ”“ฮะ”หมดทุกคันหมายความว่ายังไง กล้าถึงกับต้องมายืนไล่เลียงนับรถที่มีทั้งหมด ทั้งรถหรู รถซูเปอร์คาร์และรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์รวม ๆ กันแล้วก็เกือบสิบคันได้ ล้างทั้งหมดนี้จะเสร็จวันไหน ได้แต่คิดในใจแต่ไม่กล้าพูดออกไป กล้าจำต้องเกณฑ์ลูกน้องที่มีทั้งหมดมาช่วยกันขับรถออกไปล้างตามคำสั่งของเจ้านายทิศเหนือแอบสอดส่องมองลูกน้องของตัวเองแล้วยิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะหันมาสนใจคนที่นั่งเล่นมือถืออยู่ที่โซฟาห้องรับแขกเขานั่งลงข้างหญิงสาวแล้วสอดแขนสวมกอดเอวคอดกิ่วเอาไว้ ก่อนจะโน้มใบหน้าเข้าหาเธอแล้วจูบซับที่เปลือกตาคู่สวยเบา ๆ“พวกนั้นออกจากบ้านไปหมดแล้ว”“คนเจ้าเล่ห์”“เจ้าเล่ห์แล้วรักไหม”“ทั้งรักทั้งหลงหัวปักหัวปำเลยค่ะ”พูดจบริมฝีปากทั้งสองก็ประกบเข้าหากันแล้วจูบอย่างดูดดื่มเร่าร้อน สองมือต่างก็เร่งถอดอาภรณ์ที่ขวางกั้นให้กันและกันอย่างไม่มีใครยอมใครจนร่างทั้งสองเปลือยเปล่าล่อนจ้อน ก่อนที่ทิศเหนืออุ้มร่างเล็กขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน พาเธอเดินไปยังห้องนอนที่ตอนนี้เป็นขอ
สองสัปดาห์ผ่านไป ความชื่นมื่นสุขสมเกิดขึ้นจนล้นปรี่หลังจากที่มรสุมของชีวิตผ่านพ้นไป บทบาทใหม่กำลังจะเริ่มต้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าหลังจากที่งานแต่งงานถูกกำหนดวันเวลาเอาไว้แน่ชัด หลังจากเขียนใบลาออกจากมหาวิทยาลัยเสร็จเรียบร้อย ของขวัญก็มานั่งที่โต๊ะหินอ่อนหน้าตึกคณะศิลปกรรมศาสตร์ เธอกวาดสายตาไปรอบ ๆ บริเวณนั้นเพื่อจดจำเรื่องราวดี ๆ ที่เคยเกิดขึ้นที่นี่ นัยน์ตาสวยสั่นระริกพร้อมกับน้ำใส ๆ ที่ไหลรื้นออกมาคลออยู่ทั้งสองเบ้าจนขอบตาแดงก่ำ“เฮ่อ!”เธอพ่นลมหายใจออกมาเล็กน้อย เมื่อความรู้สึกเสียดายผสมปนเปเข้ามาในห้วงความคิด หลังจากที่ตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัยเพื่อไปใช้ชีวิตเป็นภรรยาให้กับทิศเหนือไม่รู้วันข้างหน้าจะเป็นยังไง แต่เธอก็คิดว่าชีวิตคนเรามันคงไม่ได้มีโอกาสให้เลือกมากนัก การที่เธอเลือกใช้ชีวิตอยู่กับคนที่เธอรักมันก็คงไม่ผิดครืด! ครืด! ครืด!นั่งคิดอะไรเพลิน ๆ จู่ ๆ มือถือในมือก็ดังขึ้น ของขวัญยิ้มหวานเมื่อเห็นว่าเป็นทิศเหนือ “ค่ะ” กดรับแล้วพูดเสียงหวาน “เรียบร้อยรึยังครับ” “เรียบร้อยแล้วค่ะ” “ถ้าอย่างนั้นนั่งรอพี่อยู่แถว ๆ นั้นก่อนน
เวลาผ่านไปนานนับเดือน แม้ความโศกเศร้าจะเริ่มคลายลงแต่ทว่าเหตุการณ์วันนั้นยังคงติดตรึงอยู่ในส่วนลึกของความทรงจำไม่อาจเลือนหาย ทิศเหนือขอบคุณองศาทุกครั้งที่นึกถึงเรื่องนี้ หากไม่มีองศาวันนั้นอาจจะเป็นเขาก็ได้ที่ต้องจากโลกนี้ไป ทั้งสองคนหมั่นทำบุญกรวดน้ำและอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับองศาอยู่เสมอสองเดือนผ่านไปร่างเล็กเดินลงจากรถซูเปอร์คาร์ของแฟนหนุ่มด้วยใจที่เต้นตึกตัก หลังจากที่ทิศเหนือบอกกับเธอว่าจะพาไปพบกับคุณพ่อของเขาชายหนุ่มจูงมือหญิงสาวเข้าไปยังห้องอาหารของโรงแรมห้าดาว เมื่อประตูห้องอาหารเปิดออก ของขวัญประหลาดใจเป็นอย่างมาก นอกจากในห้องอาหารจะมีคุณพ่อของทิศเหนือ ยังมีตาและยายของเธอนั่งรออยู่ด้วยขอบตาคู่สวยแดงก่ำขึ้นทั้งสองข้าง ก่อนที่จะน้ำตาจะไหลรื้นออกมาเป็นสาย หญิงสาวรีบวิ่งเข้าไปสวมกอดผู้เป็นตายายแล้วร้องไห้สะอึกสะอื้นเสียงดัง“ร้องไห้ทำไมล่ะหืม เดี๋ยวชุดสวย ๆ ก็เปื้อนหมดหรอก”ผู้เป็นยายเอ่ยพร้อมกับลูบลงบนแผ่นหลังของหลานสาว ของขวัญกลับยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม“ขวัญดีใจนี่จ้ะ”“ดีใจก็หยุดร้องไห้ได้แล้ว เกรงใจคุณพ่อของทิศเหนือเขา”ผู้เป็นยายเอ่ยในขณะที่มีรอยยิ้มจาง ๆ ให้หลานสาว ส
เช้าวันต่อมา แสงตะวันโผล่พ้นขอบฟ้าเล็กน้อยยังไม่ทันสว่างมาก ทิศเหนือรีบเดินตามรอยเท้าของคนสองคนที่เขาพยายามแกะรอยมาทั้งคืน จนมาพบเข้ากับของขวัญที่กำลังนอนพิงซบไหล่ขององศาอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ปลายกระบอกปืนของลูกน้องที่ตามมาด้วยชี้ไปที่ใบหน้าขององศาสองกระบอกพร้อมกับขึ้นลำปืนเอาไว้ ในขณะที่ทิศเหนืออ้อมมานั่งลงข้าง ๆ หญิงสาวแล้วสะกิดตัวเธอให้ตื่น ดวงตาคู่สวยค่อย ๆ ปรือขึ้นทีละนิดจากการสะกิด ก่อนจะลุกวาวขึ้นเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าคือทิศเหนือ “พี่ทิศเหนือ” ร้องอุทานเรียกชื่อชายคนรักแล้วโผเข้ากอด ชายหนุ่มเองก็สวมกอดร่างเล็กเอาไว้แนบแน่นด้วยความดีใจที่เห็นเธอปลอดภัย ระหว่างนั้นองศาก็ตื่นลืมตาขึ้นมา เขายังไม่ทันได้กระดุกกระดิกก็ต้องนิ่งชะงักเมื่อเห็นปลายกระบอกปืนชี้มาตรงหน้าถึงสองกระบอก “พี่ทิศเหนืออย่าทำอะไรองศานะคะ องศาเป็นคนช่วยขวัญไว้” หญิงสาวรีบออกตัวปกป้องชายหนุ่มด้านข้าง เมื่อเห็นว่าลูกน้องของทิศเหนือตั้งท่าจะจัดการกับองศา “มันเนี่ยนะช่วยขวัญ” “ใช่ค่ะ องศาเป็นคนพาขวัญหนีออกมา” ใช้สายตาคมกริบจ้องมององศาอยู
ทางด้านขององศา หลังจากที่อุ้มของขวัญเข้ามาหลบซ่อนตัวในป่าจนมั่นใจว่าปลอดภัย เขาก็วางหญิงสาวลงใต้ต้นไม้ใหญ่ จ้องมองใบหน้าที่เมื่อก่อนเขาชอบมองแล้วคลี่ยิ้ม ก่อนจะค่อย ๆ ปลุกเธอให้ตื่น “ของขวัญ ของขวัญ” หญิงสาวค่อย ๆ ปรือตาขึ้นทีละน้อย ก่อนจะรีบดีดตัวลุกนั่งเมื่อคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น “ฉันต้องกลับเข้าไปในโกดังตอนนี้” “ใจเย็น ๆ ก่อนสิของขวัญ เธอตั้งสติหน่อยตอนนี้มันมืดแล้วเธอจะกลับเข้าไปยังไง ในนี้มีแต่ป่าขืนเดินไปตอนนี้เธอได้หลงป่าแน่” “แล้วนายจะให้ฉันอยู่เฉย ๆ รึไง ฉันเป็นห่วงพี่ทิศเหนืออะองศา” พูดพลางจะร้องไห้ออกมา มองซ้ายทีขวาทีเพื่อหาทางกลับเข้าไปในโกดังอีกครั้ง “นี่เธอรักมันมากขนาดนั้นเลยเหรอของขวัญ รักจนไม่ห่วงชีวิตของตัวเองเลยรึไง” แววตาเศร้าสร้อยลงเมื่อเห็นว่าหญิงสาวเอาแต่ห่วงผู้ชายคนอื่นจนลืมสนใจเขาซึ่งเป็นคนช่วยเธอออกมา ความน้อยใจทำให้เขาเอ่ยถามออกไปอย่างไม่อาย “ใช่ ฉันรักเขา รักมาก มากกว่าชีวิตของตัวเองอย่างที่นายบอกนั่นแหละ” องศาพ่นลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ จ้องมองใบหน้าของหญิงสาวที่เขามอบหัว







