หลังจากที่รับพรจากผู้หลักผู้ใหญ่และส่งแขกคนสุดท้ายออกจากห้องหอจบลง นันทวัฒน์เดินออกมาจากห้องหอโดยไม่ให้ใครเห็น เขาขับรถคันที่จอดไว้ด้านนอกบ้านและให้ยามเฝ้าไว้ให้ ชายหนุ่มขับรถออกไปยังที่ที่เขารู้ว่าจะพบกับเอมอร หญิงสาวที่เขารักสุดหัวใจ เธอคือทุกสิ่งที่เขาต้องการในชีวิต แต่ตอนนี้ทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนไป ก่อนหน้าหน้าเอมอรโทรมาบอกกับเขาว่าหลังจากที่กลับจากงานแต่งของเขาขณะกำลังจะเดินเข้าไปในคอนโด เธอโดนขู่ทำร้ายถ้ามายุ่งกับเขาผู้ชายที่เพิ่งแต่งงาน เธอกลัวมากทั้งร้องห่มร้องไห้เลยโทรไปหาเขาทันทีที่ชายสองคนปริศนานั้นกลับไป
นันทวัฒน์เดินเข้าไปในคอนโด เขาเห็นเอมอรนั่งรอเขาอยู่ที่ชั้นล่างของคอนโด ที่พวกเขามักจะมาพบกัน สายตาของเธอเต็มไปด้วยความหวาดหวั่นและวิตกกังวลเมื่อเห็นเขาเดินเข้ามา
“เกิดอะไรขึ้น มันทำอะไรมากหรือเปล่า” เขาถามเธอทันทีที่นั่งลง
นันทวัฒน์จับมือเธอแน่น สายตาเต็มไปด้วยความกังวลอย่างชัดเจน “พวกเขาทำอะไรเอมมากกว่าขู่ไหม”
เอมอรส่ายหน้าพร้อมกับใบหน้าซีดเผือดมีน้ำตาไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ ความรู้สึกที่เหมือนฝันร้าย “ไม่ค่ะพี่วัฒน์ เค้าไม่ได้ทำอะไร นอกจากใช้มีดขู่”
“นี่ถึงขนาดขู่เลยเหรอ โอเคไม่เป็นไรก็ดีแล้ว เอมไปนอนเถอะเดี๋ยวพี่จะกลับแล้ว เดี๋ยวแม่จับได้ว่าพี่แอบออกมาจากห้อง..” คำว่าห้องหอถูกกลืนเข้าไปในลำคอ ไม่ได้เปล่งออกมาหมด เพราะเกรงว่าแฟนสาวจะเสียใจที่ได้ยิน
“ไม่ว่ายังไง พี่จะหาทางสืบเรื่องนี้เอง แถวนี้น่าจะมีกล้องวงจรปิดติดอยู่ พี่รักเอมนะ เอมอร และพี่จะไม่ยอมให้ใครมาทำอะไรเอมแน่นอน” นันทวัฒน์กล่าวเสียงหนักแน่น
เอมอรพยักหน้าแต่ในใจของเธอกลับเต็มไปด้วยความกังวล เธอรู้ว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะหลีกเลี่ยงได้ง่าย ๆ และเธอไม่แน่ใจว่าความรักของพวกเขาจะสามารถต่อสู้กับชะตากรรมที่ถูกกำหนดไว้แล้วได้หรือไม่
“พี่วัฒน์ไปอยู่เป็นเพื่อนเอมในห้องได้ไหม เอมยังกลัวอยู่เลย เอมคงนอนไม่หลับแน่เลยคืนนี้” นันทวัฒน์ลังเลอยู่เพียงชั่วครู่ เขาก็พยักหน้ารับพร้อมกับพาเอมอรคนรักขึ้นไปส่งเธอที่ห้องและอยู่เป็นเพื่อนเธอทั้งคืน
เมื่อคืนทั้งคืนนลินีไม่อาจข่มตาให้หลับได้ กว่าจะหลับได้ด้วยความเพลียก็เกือบรุ่งเช้า พอลืมตาตื่นขึ้นมา เธอก็กวาดตามองหาเจ้าบ่าวของเธอที่ออกจากห้องหอไปเมื่อคืนจนเช้าแล้วเขายังไม่กลับมาเลย นลินีกลัวแค่ว่าถ้าเธอออกจากห้องไปจะมีคนถามหาเขาไหม แล้วเธอจะตอบคำถามว่ายังไง โดนเจ้าบ่าวทิ้งตั้งแต่วันแรกที่เข้าหอ หรือว่าเขาขออนุญาตที่บ้านเขาแล้ว นลินีตัดสินใจลุกขึ้นเปลี่ยนอาบน้ำแต่งตัวเพื่อที่จะลงไปข้างล่าง
“อ้าว ตื่นแล้วเหรอลูก ทำไมไม่นอนต่อก่อนล่ะหนูลินยังเช้าอยู่เลย เมื่อวานก็เพลียทั้งวัน” คุณหญิงวิไลทักขึ้นหลังจากที่เห็นลูกสะใภ้หมาดๆ เดินเข้ามาในห้องครัว นัยน์ตาสวยดูเศร้าแม้จะพยายามทำให้ดูสดใส ทำไมเมื่อคืนนางจะไม่รู้ว่าลูกชายตัวดีแอบหนีออกจากห้องหอ และไปไหนเพราะนางได้สั่งให้คนคอยสะกดตามดู เพียงแต่ไม่อยากพูดให้ลูกสะใภ้ไม่สบายใจ
“ไม่เป็นไรค่ะคุณแม่ ลินหลับพอแล้วค่ะ มีอะไรให้ลินช่วยบ้างไหมคะ”
“งั้นหนูมาทำกับข้าวกับแม่มาเร็ว ตาวัฒน์กับคุณพ่อทำงานเสร็จจะได้ทานข้าว” พอได้ยินคุณหญิงวิไลบอกว่าชายหนุ่มทำงานกับคุณนิรันดร์ผู้เป็นพ่อ นลินีก็ค่อยสบายใจขึ้นอย่างน้อยเมื่อคืนที่เขาออกจากห้องหอไปเขาไม่ได้ไปไหน เพราะไปทำงานกับพ่อเขาจริงๆ
วันเวลาผ่านไป นลินีพยายามปรับตัวให้เข้ากับชีวิตใหม่ เธอทำทุกอย่างเพื่อให้บ้านหลังใหม่ของเธอดูความสะอาด เธอดูแลห้องนอน ทำอาหารที่เธอรู้ว่านันทวัฒน์ชอบ แต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่เขาจะแสดงความสนใจหรือยินดีกับสิ่งที่เธอทำ นันทวัฒน์กลับใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่ทำงานมักกลับมาในช่วงดึก และเมื่อเขากลับมา เขาก็มักจะเข้าห้องทำงานโดยไม่พูดคุยกับเธอ นลินีรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเพียงเงาที่ไร้ความสำคัญในชีวิตของเขา
เธอพยายามที่จะทำให้ชีวิตคู่ของพวกเขาดีขึ้น แต่ทุกความพยายามของเธอกลับไม่ได้รับการตอบสนอง นันทวัฒน์ยังคงใช้ชีวิตของเขาโดยไม่สนใจความรู้สึกของเธอ ความรักที่เธอมีให้เขาเริ่มถูกแทนที่ด้วยความเหงาและความเจ็บปวด
ในบางคืน เมื่อเธอไม่สามารถทนกับความเงียบงันได้อีกต่อไป นลินีจะนั่งมองรูปถ่ายเก่าๆ ของเธอและนันทวัฒน์ในวัยเด็ก ที่ทั้งสองคนเคยมีความทรงจำที่ดีร่วมกัน แม้จะเป็นเพียงความทรงจำเล็กน้อย แต่มันก็เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เธอยังมีความหวังว่าสักวันหนึ่ง นันทวัฒน์อาจหันกลับมามองเธอด้วยความรักแต่จนถึงตอนนี้ นลินีก็ยังคงรอคอยอย่างเดียวดายในห้องหอที่ควรจะเป็นสถานที่ของความสุข แต่มันกลับกลายเป็นเพียงที่พักพิงของความเจ็บปวดและความว่างเปล่า
ก่อนหน้านี้ที่นันทวัฒน์จะกลับมาถึงบ้านหลังจากการเดินทางไปติดต่องานที่ต่างประเทศ เขาได้พบกับเอมอรคนรักของเขาโดยบังเอิญที่สนามบิน เอมอรกำลังจะเดินทางไปต่างจังหวัดเพื่อดูแลธุรกิจส่วนตัวของเธอ เมื่อทั้งสองเจอกัน เอมอรยิ้มกว้างอย่างมีความสุข เธอเห็นโอกาสที่จะใช้เวลาอยู่กับนันทวัฒน์อีกครั้ง จึงรีบเดินเข้าไปทักทายเขาทันที “พี่วัฒน์ เอมดีใจจังเลยค่ะ ไม่คิดเลยว่าจะเจอพี่วัฒน์ที่นี่” เอมอรกล่าวด้วยน้ำเสียงร่าเริง ขณะที่เดินเข้ามาใกล้เขา แม้จะรู้สึกเสียดายที่วันนั้นเธอใช้ยาปลุกอารมณ์กับเขา แต่เขากลับไม่ได้อยู่กับเธอ เขารีบหันหันกลับบ้านไปก่อน ดีที่เขาไม่สงสัยเธอ นันทวัฒน์ที่กำลังรอรับกระเป๋าสัมภาระ หันไปมองตามเสียงเรียกนั้น เมื่อเห็นเอมอร เขารู้สึกแปลกใจแต่ก็ยิ้มตอบ “เอม นี่เอมมาทำอะไรที่นี่ครับ” “เอมกำลังจะไปดูงานที่ต่างจังหวัดค่ะ พี่วัฒน์ล่ะคะ กลับมาจากที่ไหน แล้วนี่มาคนเดียวเหรอคะ” เอมอรถามต่อขณะที่พยายามทำตัวใกล้ชิดกับเขาอย่างที่เคย เเละพยายามที่จะสอดส่ายหาคนอื่น “พี่เพิ่งกลับมาจากการติดต่องานที่ต่างประเทศน่ะ พี่ไปกับเลขา” นันทวัฒน์ตอบเรียบ ๆ แม้ในใจจะรู้สึกดีที่ได้เจอเอมอร แต่เขาก็ยัง
หลังจากที่นลินีเริ่มฟื้นตัวจากอาการเจ็บป่วย คุณหญิงวิไลก็พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยให้ลูกสะใภ้ของเธอรู้สึกดีขึ้น คุณหญิงมาคอยอยู่เป็นเพื่อนหากิจกรรมต่างๆทำกัน ไม่ว่าจะทำขนมทำอาหาร วันนี้เมื่อได้รับข่าวจากสามีของเธอว่านันทวัฒน์กำลังจะกลับมาจากการเดินทางไปดูงานที่ต่างประเทศ คุณหญิงวิไลจึงคิดว่ามันเป็นโอกาสที่ดีที่จะทำให้นลินีรู้สึกมีชีวิตชีวามากขึ้นกว่านี้“หนูลินจ๊ะ วันนี้เห็นคุณพ่อบอกว่าพี่วัฒน์จะกลับมาแล้วนะ ลูกอยากลองทำอาหารเย็นไว้ต้อนรับพี่วัฒน์ไหมคะ” คุณหญิงวิไลชักชวนด้วยรอยยิ้ม “แม่คิดว่าถ้าหนูลินได้ทำอาหารโปรดของพี่เค้า พี่วัฒน์น่าจะดีใจเพราะไม่ได้กินอาหารไทยมาหลายวัน และที่สำคัญพี่เค้าจะได้รู้ถึงความรักและความห่วงใยที่หนูลินมีให้เขาไงลูก”นลินีมองดูคุณหญิงวิไลที่มีแต่ความอบอุ่นและหวังดีให้เธอเสมอ แต่ลึก ๆ แล้วเธอก็ยังคงมีความหวังเล็ก ๆ ว่าความพยายามของเธออาจจะช่วยเชื่อมความสัมพันธ์กับนันทวัฒน์ได้บ้าง นันทวัฒน์จะหันกลับมามองเธอบ้าง“ค่ะคุณแม่ ลินจะทำอาหารโปรดของเขา อย่างน้อยมันก็น่าจะทำให้พี่วัฒน์รู้สึกดีที่ได้ทานมัน”นลินีตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความตั้งใจ แม้ว่าหัวใจของเธ
เมื่อตื่นขึ้นมาในตอนสายของวัน นันทวัฒน์รู้สึกตัวเต็มที่และความคิดกลับมาชัดเจนอีกครั้ง เขามองไปรอบ ๆ ห้อง ก่อนที่จะกลับมามองนลินีนอนหลับอยู่ข้าง ๆ กาย ในใจของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกผสมปนเป ทั้งความผิดหวังในตัวเองที่เหมือนนอกใจคนรักอย่างเอมอร ความโมโหตัวเองที่ไม่อาจยับยั้งชั่งใจปล่อยให้ยามีอำนาจเหนือกว่า และความรู้สึกผิดที่มีต่อนลินีที่มีอะไรกับเธอทั้งที่ไม่ได้รัก เขารู้ดีว่าความสัมพันธ์ทางกายที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไม่ใช่เพราะความรัก แต่มันเป็นเพราะความต้องการทางกายที่ถูกกระตุ้นด้วยยา และเขารู้สึกเหมือนตัวเองได้ใช้ประโยชน์จากความไว้ใจของนลินีอย่างไม่ยุติธรรม แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าที่เขาจะมีอะไรกับเอมอรเพราะถ้าเมื่อคืนเป็นเอมอรเเทนที่จะเป็นนลีนี คนรักของเขาก็จะโดนสังคมตราหน้าว่าเป็นชู้ทันที นันทวัฒน์ลุกขึ้นจากเตียงอย่างเงียบ ๆ เขาไม่อยากให้เธอตื่นขึ้นมาเห็นเขาในสภาพนี้ เขารีบอาบน้ำแต่งตัวออกจากห้องไปโดยไม่ทิ้งร่องรอยใด ๆ นลินีที่ยังคงหลับอยู่ไม่ได้รู้เลยว่าเขาได้หนีออกไปอย่างรวดเร็ว นันทวัฒน์รีบออกจากบ้านไปทำงานโดยที่ยังไม่ได้ทานอาหารเช้า เขาไม่สามารถเผชิญหน้ากับนลินีได้ในตอนนี้ ความรู้สึกผ
“ซี๊ดดด มาต่ออีกรอบนะลิน วันนี้ลินโดนพี่เอาถึงเช้าแน่ทำใจไว้ได้เลย”“อือออ ตะ…แต่ ลินยังเจ็บอยู่นะคะ อูยยยย” ถึงแม้นลินีจะค้านแต่คนโดนยาปริมาณมากอย่างนันทวัฒน์หรือจะฟัง ร่างสูงเริ่มขยับโยกสะโพกเป็นจังหวะช้าๆ จนหญิงสาวเสียวสะท้านไปทั้งตัว แม้จะรู้สึกแน่นจุกจนแทบทนไม่ไหว แต่นลินีก็ต้องกัดฟันทนเอาเมื่อนึกถึงความเสียวที่รออยู่ข้างหน้า และความสัมพันธ์ที่จะดีขึ้นหลังจากค่ำคืนนี้ที่เธอตกเป็นของคนที่เธอรักทั้งกายและใจผ่านพ้นไป ยิ่งพอได้ยินเพียงเสียงครวญครางอย่างพึงใจของชายหนุ่ม เธอก็รู้สึกดีทุกครั้งที่นันทวัฒน์มีความสุขที่มีอะไรกับเธอนันทวัฒน์ประกบปากดูดลิ้นนลินีอย่างดูดดื่ม พร้อมกับส่ายสะโพกซ้ายขวาไปมาจนนลินีรู้สึกว่าเสียวซ่านขึ้นมาอีกครั้ง มันช่างเสียวเกินคำจะบรรยายได้จริงๆ“อูยยยย ซี๊ดดด พี่วัฒน์ ซี๊ดดดด"“หืมมมม ซี๊ด อ๊าาาาา เสียวเหรอ ทนหน่อยนะ พี่อยากจับกระแทกแรงๆ กว่านี้ ปล่อยขาก่อนเร็ว มีอะไรที่เสียวกว่านี้รออยู่” หลังจากที่นลินนีวางขาเรียวของตัวเองออกจากเอวของคนตัวสูง มือยาวของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีก็รวบขาทั้งสองข้างมาวางพาดไว้ที่บ่าแกร่งของตัวเอง และโย้ไปข้างหน้า ท่านี้เผยให้เป็น
นลินีตกใจและไม่ทันตั้งตัวกับการกระทำของเขา เธอไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้มาก่อน เธอพยายามขัดขืนเล็กน้อยในตอนแรก แต่เมื่อเห็นว่านันทวัฒน์ดูจริงจังและไม่อยากให้เธอปฏิเสธ เธอก็ยอมให้เขาทำตามที่ต้องการ “พี่วัฒน์…” นลินีร้องด้วยความตกใจ และไม่ทันตั้งตัวกับการกระทำของเขา เธอไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้มาก่อน แม้เธอจะพยายามขัดขืนเล็กน้อยในตอนแรก แต่เมื่อเห็นว่านันทวัฒน์ดูจริงจังและไม่อยากให้เธอปฏิเสธ เธอก็ยอมให้เขาทำตามที่ต้องการ นันทวัฒน์ผลักร่างบางของนลินีให้ล้มลงบนเตียงนอน พอหลังสัมผัสกับความเย็นของผ้าปูที่นอนสติสัมปชัญญะของนลินีก็กลับมา เธอคิดว่าต้องมีบางอย่างผิดปกติไปเพราะนันทวัฒน์ปกติจะไม่ค่อยเฉียดเข้าใกล้เธอเลย ต่างจากครั้งนี้มาถึงก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงเขามุ่งเข้ามาสัมผัสใกล้ชิดกับเธอ มือเรียวจึงดันหน้าคมที่กำลังซุกไซ้ซอกคอขาวของเธออยู่“พี่วัฒน์อย่าค่ะ อย่าทำแบบนี้”“ฟอดดดด ทำไมจะทำไม่ได้ เธออย่าลืมนะเราแต่งงานกันแล้ว ครอบครัวพี่ต้องเสียเงินไม่ใช่น้อยที่ต้องจ่ายค่าตัวเธอ มาทำหน้าที่เมียเลย อย่ามาทำเป็นห้ามเลย จะได้สมใจเธอไงที่อยากเป็นเมียพี่นักหนาไม่ใช่เหรอ” ร่างสูงพูดจบ ปากของนลินีก็โดนปิดด
หลังจากที่พานลินีกลับบ้านในช่วงบ่าย นันทวัฒน์ก็กลับไปที่ออฟฟิศเพื่อสะสางงานที่ยังค้างอยู่ แม้ว่าภายในใจของเขาจะรู้สึกว้าวุ่นเล็กน้อยจากการเผชิญหน้ากับคุณหญิงวิไลแม่ของเขากับนลินีผู้เป็นภรรยาในนามในร้านกระเป๋า แต่เขาพยายามบังคับตัวเองให้จดจ่อกับงานเพื่อที่จะได้ไม่ต้องคิดถึงสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกอึดอัดเมื่อถึงช่วงเย็น นันทวัฒน์ได้รับเชิญไปงานเลี้ยงสังสรรค์ของนักธุรกิจซึ่งจัดขึ้นในโรงแรมหรู เขาคิดว่าอาจจะเป็นการดีที่จะใช้เวลาผ่อนคลายตัวเองและหลีกหนีจากความเครียดที่สะสมมาตลอดทั้งวัน เขาโทรไปบอกคุณนิรันดร์ว่าเขาจะไปงานเลี้ยงให้กลับบ้านไปก่อนได้เลยที่งานเลี้ยง บรรยากาศเต็มไปด้วยความหรูหราตามแบบฉบับของนักธุรกิจมีเงินและผู้คนที่แต่งตัวอย่างดีมาพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน นันทวัฒน์เดินเข้ามาในงานโดยไม่ได้คาดหวังอะไรมากไปกว่าการพบปะสังสรรค์กับเพื่อนในแวดวงธุรกิจอื่น ๆ แต่ทันทีที่เขาเข้าไปในงาน เขาก็เจอเข้ากับเอมอรที่กำลังยืนอยู่กับกลุ่มเพื่อนเอมอรเห็นนันทวัฒน์ทันทีที่เขาเข้ามาในห้อง เธอยิ้มออกมาอย่างสดใสและเดินตรงเข้ามาหาเขา “พี่วัฒน์ มาเร็วช้าจังเลยนะคะ แต่เอมคิดไว้อยู่แล้วล่ะว่าพี่วัฒน์ต้อ