เช้าวันต่อมา...
‘9 โมงเช้าฉันจะรออยู่ที่ห้องรับแขก’
‘คะ?’ น้ำมนต์มองไปยังร่างสูงที่นั่งทานข้าวอยู่ตรงหน้าของเธออย่างไม่เข้าใจ
‘ฉันจะพาเธอไปซื้อชุดนักศึกษา’
‘พี่เพิร์ชจะพาหนูไปซื้อชุด?’
‘เธอจะพูดตามฉันทำไม?’
‘อะ อ่อค่ะ’
‘อย่ามาสายล่ะ ฉัน ไม่ ชอบ’
‘...’ น้ำมนต์พยักหน้าเบาๆ ให้กับเขา ก่อนที่ร่างสูงจะเดินออกไปจากห้องรับประทานอาหารทันทีโดยไม่หันกลับมาสนใจเธออีก
“อย่ามาสายล่ะฉันไม่ชอบ ชิ!!” น้ำมนต์พึมพำออกมาเบาๆ ก่อนที่แขนเรียวของเธอจะถูกยกขึ้นมากอดอกของตัวเองเอาไว้
“บ่นอะไรของเธอ?”
“หูดีซะด้วย”
“น้ำมนต์”
“รีบไปกันดีกว่าค่ะ เดี๋ยวรถติดนะคะ” ร่างบางเอ่ยบอกกับชายหนุ่มตรงหน้า ก่อนที่เธอจะรีบเดินนำเขาออกไปในทันที
“จะรีบไปไหน? เธอรู้รึไงว่ารถจอดอยู่ไหน?”
“นี่ไงคะโรงรถ นี่ก็รถ นั่นก็รถ” น้ำมนต์เอ่ยบอกกับร่างสูงตรงหน้าก่อนที่เธอจะหันไปมองรถหรูเกือบ 20 คันที่จอดอยู่ตรงหน้าของเธอ ปกติโรงจอดรถของเขาถูกปิดเอาไว้ตลอดจนกระทั่งวันนี้....
“โห่~~ รถเยอะจัง พี่เพิร์ชขับคนเดียวหมดเหรอคะ?” น้ำมนต์เอ่ยถามร่างสูงตรงหน้าออกมาด้วยความสงสัย ก่อนที่หันกลับไปมองรถที่จอดนิ่งอยู่ตรงหน้าอีกครั้งอย่างตื่นเต้น...
“...”
“ปกติหนูเคยเห็นแต่ในทีวี” น้ำมนต์ยกยิ้มออกมาก่อนที่เธอจะเดินดูรถหรูของเขา
“เดี๋ยวนี้ยังมีคนดูทีวีอยู่อีกเหรอ?”
“มีค่ะ ที่บ้านหนูไง”
“หึหึ เธออยากนั่งคันไหน?” เพิร์ชเผลอยิ้มออกมาก่อนที่เขาจะเอ่ยถามร่างบางตรงหน้าด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง
เพิร์ชยอมรับว่าตัวเองรู้สึกผิดต่อเธออยู่มากที่วันนั้นเขาเอ่ยปากว่าเธอออกไป ทั้งๆ ที่เด็กผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเขาในตอนนี้ไม่ได้ทำอะไรผิดเลยด้วยซ้ำ
“หนูเลือกได้เหรอคะ?”
“ได้สิ”
“งั้นหนูขอเลือกคันนี้ค่ะ” น้ำมนต์เอ่ยบอกกับร่างสูงตรงหน้าเสียงสดใส พร้อมกับยกยิ้มออกมาด้วยความดีใจ เพราะนี่จะเป็นการนั่งรถซุปเปอร์คาร์ครั้งแรกของเธอ ‘เป็นบุญตูดของเธอแล้วน้ำมนต์ แต่เดี๋ยวนะ...’ รอยยิ้มบนใบหน้าของเด็กสาวค่อยๆ จางหายไป ร่างบางหันกลับมามองหน้าชายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านหลังของเธออีกครั้ง
“ใจดีกับหนูแบบนี้ พี่เพิร์ชไม่ได้วางแผนแกล้งหนูอยู่ใช่ไหมคะ?” เด็กสาวเอ่ยถามหมอหนุ่มออกไปอย่างไม่ไว้ใจ
“ฉันดูเป็นคนแบบนั้นรึไง?”
“ก็ไม่รู้สิคะ หนูต้องระวังตัวไว้ก่อน”
“หึหึ ขึ้นรถได้แล้ว” เสียงหัวเราะดังออกมาจากลำคอของชายหนุ่ม ก่อนที่เขาจะเอ่ยบอกกับน้ำมนต์เสียงเรียบ
“ค่ะ”
บรรยากาศภายในรถตกอยู่ในความเงียบอีกครั้งก่อนที่รถซุปเปอร์คาร์จะขับออกไปจากบริเวณคฤหาสน์หลังงาม ดวงตางามค่อยเบิกขึ้นด้วยความตกใจปนหวาดกลัว ก่อนที่หญิงสาวจะหันไปสบตากับหญิงสาวผมยาวลากพื้น เธอสวมใส่ชุดสีดำสนิทกำลังจ้องเขม่งมาที่เธอกับพี่เพิร์ช
“พะ พี่เพิร์ชคะ”
“มีอะไร?”
“นะ หนูขอจับมือพี่ได้ไหม?”
“...”
“นะคะ” น้ำมนต์เอ่ยขออนุญาตเขาอีกครั้ง ในขณะที่สายตายังคงจับจ้องไปยังดวงวิญญาณดวงนั่น ‘โหงพราย’ น้ำมนต์พึมพำภายในใจก่อนที่เจ้าของรถหรูจะร้องออกมาด้วยความตกใจ น้ำมนต์จึงรีบเอื้อมมือไปจับแขนแกร่งของชายหนุ่มเอาไว้ในทันทีด้วยความตกใจไม่ต่างกัน
‘มองไปข้างหน้า / ระวัง’ เสียงของใบเงินและใบทองดังเข้ามาในหัวของน้ำมนต์
เอี๊ยดดดดด~~
“อะไรวะ?”
“พี่เพิร์ช”
เสียงล้อรถเสียดสีกับถนนดังลั่นไปทั่วบริเวณ ก่อนที่รถหรูจะจอดนิ่งสนิทอยู่กลางถนนในทันที พร้อมกับเสียงของเพิร์ชอุทานออกมาอย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่ตัวเองเห็น ก่อนที่ตาคมจะเหลือบมามองมือบางที่จับแขนแกร่งของเขาเอาไว้แน่น ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าสวยหวานของหญิงสาวข้างกายอีกครั้งพร้อมกับมุมปากหนาที่ค่อยๆ ยกยิ้มออกมาอย่างลืมตัว
“ไม่มีอะไรแล้วค่ะ”
“...”
“พี่เพิร์ชขับรถออกไปก่อนนะคะ”
เพิร์ชทำตามที่หญิงสาวข้างกายเอ่ยบอกอย่างว่าง่าย ก่อนที่รถหรูจะเลี้ยวเข้าถนนใหญ่ทุกอย่างยังคงเป็นปกติ ร่างบางจึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“...” เพิร์ชขับรถไปเงียบๆ ในขณะที่สายตาของเขายังคงจับจ้องไปยังถนนตรงหน้าสลับกับมองมาที่มือบางของเด็กสาวที่ยังคงจับแขนแกร่งของเขาเอาไว้ไม่ยอมปล่อย
“พี่เพิร์ชจะเลี้ยวไปไหนเหรอคะ?”
“เรามีเรื่องต้องคุยกัน”
“คะ?”
รถหรูเลี้ยวเข้าไปจอดยังลานจอดรถของคาเฟ่แห่งหนึ่ง ‘Café of Love (coffee and bakery)’ ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินเข้าไปด้านในโดยที่ไม่ได้มีใครเอ่ยคำใดออกมาจนกระทั่ง...
“ลุงเพิร์ชค้าบ”
“เฮกเตอร์พึ่งตื่นเหรอครับ”
“ครับ สวัสดีครับพี่สาว” เด็กชายพยักหน้าให้กับลุงของเขา ก่อนที่เขาจะหันไปทักทายหญิงสาวที่เดินตามเข้ามาเสียงอ่อน พร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้กับเธอ
“สวัสดีค่ะ สวัสดีค่ะ” น้ำมนต์ทักทายเด็กชายกลับไป ก่อนที่เธอจะไหว้ทักทายหญิงสาวอีกคนอย่างนอบน้อม น้ำมนต์เดาว่าพวกเขาน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดีดูจากท่าทางที่สนิทสนมของพวกเขา
“สวัสดีจ้ะ...วันนี้พี่เพิร์ชพาสาวสวยมาคาเฟ่ด้วย”
“นี่ตะวัน ส่วนตะวันนี้น้ำมนต์ครับ...”
“แฟนพี่เพิร์ชเหรอคะ”
“มะ ไม่ใช่นะคะ หนูเป็นแค่เด็กที่มาอาศัยอยู่ในบ้านพี่เขาเฉยๆ ค่ะ” น้ำมนต์ตอบหญิงสาวตรงหน้ากลับไปเสียงอ่อน พร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้กับเธอ
“เด็กในบ้านเหรอคะ?”
“ออเดอร์เข้าแล้วตะวัน เดี๋ยวพี่เลี้ยงเฮคให้ก่อน”
“ฮ่าฮ่าฮ่า โอเคค่ะ อยู่กับลุงเพิร์ชกับน้าน้ำมนต์ก่อนนะลูก”
“ครับ”
“นั่งสิ”
“เชิญนั่งครับ...คุณลุงอย่าดุพี่สาวสิครับ” เฮคเตอร์เอ่ยบอกกับร่างสูงเสียงอ่อน ก่อนจะหันไปส่งยิ้มหวานให้กับพี่สาวตรงหน้าอีกครั้ง
“ลุงไม่ได้ดุครับ”
“พี่สาวย้ายมาอยู่บ้านข้างเฮคเหรอครับ”
“อะ เอ่อ?”
“บ้านเฮคเตอร์อยู่ข้างๆ บ้านของเรา” เพิร์ชอธิบายให้กับร่างบางตรงหน้าฟัง ก่อนที่เขาจะหันกลับมาหยอกล้อกับหลานชายที่นั่งอยู่บนตักแกร่งของเขา
“...” น้ำมนต์มองไปยังภาพตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองเห็น ‘ผู้ชายเย็นชาอย่างเขาก็มีมุมน่ารักเหมือนกันนะเนี่ย’ น้ำมนต์ยกยิ้มออกมาก่อนที่เธอจะชะงักไปทันทีที่ชายหนุ่มหันกลับมามองหน้าเธอ
10 นาทีผ่านไป...
หลังจากที่ตะวันอุ้มเฮคเตอร์ออกไปแล้ว เพิร์ชจึงเอ่ยถามร่างบางที่นั่งอยู่ตรงหน้าของเขาออกมาทันทีด้วยความสงสัย ก่อนหน้านี้เขาเข้าใจมาตลอดว่าตัวเองตาฝาด หรืออาจจะนอนไม่พอ แต่ภาพวันนี้มันชัดมากเขามั่นใจว่าสิ่งที่เขาเห็นมันคือเรื่องจริง
เพิร์ชเห็นผู้หญิงยืนอยู่ริมถนน แต่พอรถเขาขับเข้ามาใกล้เธอก็วิ่งเข้ามาตัดหน้ารถของเขา แต่ทันทีที่น้ำมนต์สัมผัสโดนตัวของเขาร่างนั้นก็สลายหายไปในทันที
“พร้อมอธิบายให้ฉันฟังรึยัง?”
“อธิบาย?”
“ใช่”
“พี่เพิร์ชจะเชื่อหนูเหรอคะ”
“ลองพูดมาก่อนเดี๋ยวฉันตัดสินใจเองว่าจะเชื่อหรือไม่”
“เอ้า...” น้ำมนต์ยู่หน้าเล็กน้อยทันทีที่ได้ยินคำตอบจากปากของชายหนุ่มตรงหน้า ก่อนที่เธอจะหยิบแก้วน้ำตรงหน้าขึ้นมาดื่มพร้อมกับหันหน้าหนีเขาไปอีกทาง
“น้ำมนต์”
“เฮ้อ...พี่เพิร์ชเห็นอะไรละคะถึงได้เบรกรถกะทันหันแบบนั้น?”
“ผู้หญิง”
“หนูก็เห็นเธอเหมือนกันค่ะ”
“แล้วเธอหายไปไหน?”
“พี่เพิร์ชเห็นกับตาของตัวเองกลางวันแสกๆ แบบนี้พี่ยังคิดว่าเธอเป็นคนอยู่อีกเหรอคะ?” น้ำมนต์เอ่ยถามร่างสูงตรงหน้าออกไปอีกครั้ง พร้อมกับมองไปที่เขานิ่งๆ อย่างรอคำตอบ
“มันไม่มีเหตุผล”
“เรื่องบางเรื่องก็ไม่มีเหตุผลหรอกค่ะ”
“เธอเห็นเหมือนฉันจริงๆ เหรอ?” เพิร์ชเอ่ยถามร่างบางตรงหน้าออกไปอีกครั้ง
“หนูเห็นมากกว่าที่พี่เห็นอีกค่ะ”
“ฉันไม่อยากจะเชื่อ”
“หนูเข้าใจค่ะ แต่ถ้าพี่เพิร์ชจะไม่เชื่อก็ช่วยรับฟังหนูสักหน่อยนะคะ” น้ำมนต์เอ่ยบอกกับร่างสูงตรงหน้าเสียงอ่อน
“สำหรับฉันมันยากที่จะเชื่อ”
“พี่ไม่เชื่อแม้แต่ในสิ่งที่ตัวเองเห็นเหรอคะ?”
“มีงานวิจัยอธิบายเกี่ยวกับปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติพวกนี้ มันอาจจะมาจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรืออาจจะเป็นการขาดออกซิเจนในสมอง”
“เอาเป็นว่าหนูเข้าใจที่พี่เพิร์ชพูดนะคะ และหนูก็ไม่ขอให้พี่เชื่อหนูด้วย แต่หนูขออย่างเดียว...”
“...”
“พี่เพิร์ชอย่างประมาทเด็ดขาด และต้องมีสติให้มากๆ เข้าใจที่หนูพูดไหมคะ?”
“หึหึ สอนฉันให้มีสติตัวเธอเองมีหรือยังหืม?” เพิร์ชหัวเราะออกมาก่อนที่ชายหนุ่มจะเอ่ยถามร่างบางตรงหน้าด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง
“แฮร่...หนูไม่มีสติจนชินแล้วน่ะค่ะ”
“...” เพิร์ชยกยิ้มหวานออกมาก่อนที่เขาจะชะงักไปทันที ราวกับว่าเขาพึ่งนึกได้ว่าตัวของเขาเองทำอะไรพลาดไป
“พี่เพิร์ชยิ้มแบบนี้แสดงว่าอารมณ์ดีแล้วใช่ไหมคะ?”
“อืม มีอะไรจะพูดก็ว่ามา”
“คือว่าไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วหนูมีเรื่องจะขอร้องพี่เพิร์ชค่ะ” น้ำมนต์ยกยิ้มออกมาก่อนที่เธอจะเอ่ยปากบอกกับเขาถึงสิ่งที่เธอต้องการเสียงอ่อน พร้อมกับขยับเข้าไปนั่งใกล้ชายหนุ่มมากกว่าเดิม
“เธอต้องการอะไร?”
“อย่างน้อยเรื่องวันนี้ก็ทำให้พี่เพิร์ชเห็นแล้วว่าสิ่งที่หนูพูดมีที่มาที่ไป หนูอยากให้พี่เพิร์ชเปิดใจรับฟังเรื่องที่หนูกำลังจะบอกต่อไปนี้ค่ะ”
“...”
“ตั้งแต่หนูจำความได้ทุกๆ วันพระหนูจะเห็นสิ่งที่คนทั่วไปเรียกว่าดวงวิญญาณ ทูต หรือผีค่ะ แต่หลังจากที่หนูได้อยู่ใกล้พี่หนูก็เห็นพวกเขาโดยไม่เลือกว่าเป็นวันพระหรือไม่”
“เธอกำลังจะบอกว่าฉันเป็นตัวดึงดูดวิญญาณพวกนั้นมาหาเธออย่างงั้นเหรอ?”
“ค่ะ ตอนแรกหนูก็คิดแบบนั้น แต่วันนั้นที่มือของหนูบังเอิญสัมผัสโดนร่างกายของพี่ พวกดวงวิญญาณพวกนั้นก็สลายหายไปในทันทีเลย”
“เพราะแบบนี้เธอถึงได้ขอฉันจับมือสินะ”
“ใช่ค่ะ”
“...”
“หนูขออนุญาตจับพี่เพิร์ชได้ไหมคะ? ...นิดเดียวก็ได้ค่ะ”
“ทุกวันพระเธอต้องเห็นดวงวิญญาณพวกนั้นอยู่แล้ว และฉันไม่ได้อยู่ใกล้เธอ เธอจะทำอย่างไร?”
‘ดวงวิญญาณอื่นแค่หนูทำเป็นไม่เห็นก็จบ แต่ดวงวิญญาณที่ตามพี่อยู่เขาไม่จบกับหนูด้วยนี่สิคะ’ น้ำมนต์เอ่ยออกมาภายในใจ เธอไม่กล้าที่จะบอกกับเขาออกไปตรงๆ ว่ารอบตัวของเขามีอะไรติดตามอยู่ น้ำมนต์คิดว่าต่อให้เธอบอกกับเขาออกไป...เขาก็คงจะไม่เชื่อเธออยู่ดี
“หนูจัดการกับพวกเขาได้ค่ะ”
“แล้วทำไมตอนอยู่กับฉันเธอจัดการไม่ได้?”
“ถ้าหนูพูดอะไรออกไปพี่จะเชื่อหนูไหมคะ?” น้ำมนต์เอ่ยถามร่างสูงตรงหน้าออกไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ
“พูดมา...”
“ผีที่ตามพี่เพิร์ชอยู่น่ากลัวกว่าค่ะ”
“ไร้สาระ”
“เห็นไหมพอหนูบอกกับพี่ พี่ก็ไม่เชื่อหนู” น้ำมนต์ยู่หน้าเล็กน้อยก่อนที่เธอจะยกแขนเรียวขึ้นมากอดอกเอาไว้ พร้อมกับทิ้งตัวไปด้านหลังกับพนักพิง สีหน้าที่แสดงออกมาอย่างชัดเจนว่าเธอกำลังโกรธเคืองเขาอยู่ ทำให้ชายหนุ่มเผลอยิ้มออกมาอย่างลืมตัว
“ได้ เธออยากจะจับเมื่อไหร่ก็จับ”
“จริงเหรอคะ?”
“อืม ไหนๆ แม่ของฉันก็ไปป่าวประกาศจนทั่วแล้วว่าเราจะหมั้นกัน”
“ชื่อเสียงของฉันคงเสียหายไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้วล่ะ”
“จิ๊!!! ชื่อเสียงของพี่ไม่ได้เสียหายคนเดียวสักหน่อย”
“น้ำมนต์...”
9 ปีต่อมา... “น้ำฟ้าพร้อมนะ”“พร้อมค่ะ” น้ำฟ้าในวัย 8 ขวบเอ่ยบอกกับเพื่อนของเธอในวัยเดียวกันเสียงอ่อน ก่อนที่เด็กสาวทั้งสองคนจะพากันกระโดดลงมาจากชิงช้า ด้วยความเป็นเธอโตมากับพี่ๆ ที่เป็นผู้ชาย ทำให้เด็กหญิงน้ำฟ้าดูแก่นแก้วกว่าเด็กสาวในวัยเดี๋ยวกัน“อะ โอ้ยยยย!!!”“บันนี่!!!” น้ำฟ้าร้องเรียกเพื่อนของเธอออกมาด้วยความตกใจ ก่อนที่เธอจะรีบวิ่งเข้าไปดูเพื่อนรักในทันที“เราขอดูหน่อยนะ” มือบางนวดข้อเท้าของเพื่อนตัวเองเบาๆ ก่อนที่เด็กหญิงจะเปิดกระเป๋าและหยิบยาขึ้นมาทาให้กับคนตรงหน้าอย่างเบามือ คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเล็กน้อยก่อนที่น้ำฟ้าจะลุกวิ่งออกไปทางโรงอาหารที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล“น้ำฟ้า”“ไปไหนมาเหรอ?”“ไปทำที่ประคบเย็นมาน่ะ น่าจะช่วยแก้ปวดได้ดีกว่า”“เราประคบเย็นให้แล้วอาจจะช่วยบันนี่เบาปวดลงได้บ้าง กลับบ้านไปพยายามอย่าให้บริเวณที่เจ็บโดนความร้อนนะ”“ทำไมละ?” บันนี่เอ่ยถามน้ำฟ้าออกมาด้วยความสงสัย ก่อนที่เธอจะมองไปที่เพื่อนรักอย่างรอคำตอบ“ถ้าเส้นเลือดบริเวณนี้ขยายตัวมันจะทำให้บันนี่ปวดและก็จะหายช้าลงด้วย” น้ำฟ้าอธิบายให้เพื่อนของเธอฟังอย่างใจเย็น ก่อนที่เธอจะเก็บอุปกรณ์ลงกระเป๋าเป้ของตัว
“พี่เพิร์ชจะรีบไปไหนคะ?” น้ำมนต์เอ่ยถามชายหนุ่มออกมาด้วยความสงสัย ก่อนที่เขาจะวางร่างบางของเธอลงบนเตียงอย่างเบามือ“รีบตามไอ้ฮันเตอร์ครับ”“พี่ฮันเตอร์ทำไมคะ?”“ไอ้ฮันเตอร์มันลูก 4 แล้วนะครับเราต้องรีบตามไป” เพิร์ชยกยิ้มออกมาก่อนที่เขาจะ กระโดดขึ้นไปคล่อมร่างบางของคนรักเอาไว้ในทันที ชายหนุ่มค่อยๆ โน้มใบหน้าหล่อเหลาของเขาลงใกล้กับใบหน้าของหญิงสาว...“เดี๋ยวค่ะ...”“ครับ?”“หนูขออาบน้ำก่อนได้ไหมคะ?”“หึหึ ได้สิครับ” เพิร์ชหัวเราะออกมาเบาๆ อย่างรู้ทันในความคิดของของร่างบางตรงหน้า ก่อนที่ชายหนุ่มจะหลบทางเพื่อให้เธอลุกขึ้นไปอาบน้ำได้สะดวกยิ่งขึ้น“ขอบคุณค่ะ”“ต้องการผู้ช่วยถอดชุดไหมครับ?”“ขอบคุณค่ะ แต่ไม่ดีกว่าหนูไม่อยากรบกวนพี่เพิร์ช”น้ำมนต์ถอดชุดเดรสของตัวเองออกจากร่างบางของตัวเองต่อหน้าหมอเพิร์ช ก่อนที่เธอจะเดินเข้าห้องน้ำไปหญิงสาวหันกลับมามองชายหนุ่ม พร้อมกับยกยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา“หึหึ”“...” น้ำมนต์เดินเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนที่เธอจะหยุดยืนอยู่ที่หน้ากระจกเงา หญิงสาวมองไปยังนิ้วนางข้างซ้ายของตัวเองก่อนที่เธอจะเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าของตัวเองที่ถูกแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มหวานอีกครั้ง“ไม่อยา
ณ บ้านพักตากอากาศปราณบุรี“พวกเราจะใส่ได้จริงๆ เหรอ?” ตะวันที่นั่งเงียบดูน้ำมนต์กับชูใจลองชุดอยู่นานเอ่ยถามขึ้น พร้อมกับมองชุดบิกินี่สีชมพูบานเย็นในมือของตัวเองอย่างหนักใจ ตะวันจำได้ดีว่าครั้งล่าสุดที่เธอใส่บิกินี่โดยที่ไม่ได้รับอนุญาตจากสามีของเธอมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง“ใส่ได้ค่ะ เชื่อชูใจสิพี่ตะวัน”“จริงด้วยค่ะ มีแต่พวกเราพี่ฮันเตอร์ไม่ว่าอะไรหรอกค่ะ”“เอางั้นก็ได้จ้ะ” ตะวันเอ่ยบอกกับน้องๆ ก่อนที่เธอจะเดินไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำทันที“ถ้าไม่มีผ้าก๊อซปิดแผลคงจะสวยกว่านี้นะคะ” น้ำมนต์มองตัวเองในกระจกก่อนที่เธอจะยู่หน้าขึ้นมาเล็กน้อย ทันทีที่เห็นผ้าก๊อซแปะอยู่บนหน้าผากของเธอ“ไหนพี่ขอดูหน่อยสิ” ชูใจเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าของน้ำมนต์ ก่อนที่มือบางจะประคองปลายคางของหญิงสาวพร้อมกับหมุนไปทางซ้ายทีขวาทีเพื่อดูความเรียบร้อยให้กับคนตรงหน้า“เป็นไงบ้างค่ะ?”“ไม่ว่ามุมไหนน้ำมนต์ก็สวย เดี๋ยวตอนถ่ายรูปถ่ายมุมนี้นะพี่รับรองความปัง”“ค่ะ”“แล้วบิกินี่สีฟ้าแบบนี้เข้ากับหนูไหมคะพี่ชูใจ?”“สวยมากค่ะลูกสาว” ชูใจเอ่ยบอกกับน้ำมนต์เสียงหวาน พร้อมกับมองเงาสะท้อนของตัวเองในกระจกอย่างช่างใจ บิกินี่สีส้มแบบนี้ยิ
ณ โรงพยาบาลเอกชน“ไอ้เพิร์ช / ไอ้เพิร์ช” เสียงของฮันเตอร์กับสกายร้องเรียกเพิร์ชรักของเขาออกมาเสียงหลง ก่อนที่ทั้งคู่จะวิ่งมาหาชายหนุ่มอย่างร้อนใจสกายจับตัวเพิร์ชหมุนไปมาเพื่อสำรวจความเรียบร้อย จนชายหนุ่มที่พึ่งประสบอุบัติเหตุมาได้ไม่นานเวียนหัวไปหมด แต่เพิร์ชก็ไม่ได้คิดจะห้ามปรามอะไรเพราะเขารู้ดีว่าเพื่อนรักเป็นห่วงเขามาก และที่สำคัญเขามีคนให้ต้องสนใจมากกว่า ‘น้ำมนต์’“น้ำมนต์ล่ะคะ?” ตะวันที่ยืนเงียบอยู่นานเอ่ยถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง ทันทีที่ทุกคนรู้ว่าหมอเพิร์ชกับน้ำมนต์ประสบอุบัติเหตุก็รีบพากันมาที่โรงพยาบาลในทันที โดยมีชูใจคอยดูแลเด็กๆ อยู่ที่บ้านพัก...“อยู่ในห้องฉุกเฉินครับ”“น้องเป็นยังไงบ้าง?” ฮันเตอร์เอ่ยถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง ก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปตบไหล่แกร่งของเพื่อนรักเพื่อปลอบใจเพิร์ช สกาย และฮันเตอร์เป็นเพื่อนกันมานานแค่มองตาก็รู้ใจแล้ว ถึงบุคลิกของเพิร์ชจะดูเป็นคนขรึมๆ ไม่ค่อยแสดงความรู้สึกกับใครทั้งนั้น แต่ครั้งนี้มันต่างไปเพิร์ชที่เก็บสีหน้าเก่งมาตลอดกลับแสดงความกังวลออกมาอย่างเห็นได้ชัด“ยังไม่ออกมาเลยว่ะ”“...”“กูเคยคิดว่าตัวเองเป็นหมอที่เก่งช่วยคนมาได้ไม่รู้
วันต่อมา...“แม่รักลูกนะ“หนูก็รักแม่ค่ะ”น้ำหนึ่งกอดลูกสาวเพียงคนเดียวของเธอไว้แน่น มือบางลูบลงที่หัวน้อยๆ ของเด็กสาวตรงหน้าอย่างทะนุถนอม ก่อนที่ทั้งคู่จะคลายอ้อมกอดออกจากกัน หญิงสาวจึงเดินเข้าไปกอดยายของเธอที่ยืนอยู่ไม่ได้“อยู่กับพี่เขาก็อย่าดื้อ ตั้งใจเรียนนะลูก จุ๊บ~” ยายแม้นเอ่ยบอกกับร่างบางเสียงอ่อนพร้อมกับจุ๊บลงที่หน้าผากหลานสาวอย่างอ่อนโยน“จ้ะยาย”“เดินทางปลอดภัยนะลูก” นทีกอดตอบลูกสาวตัวน้องของเขา มือหนาลูบลงที่หัวของเธออย่างอ่อนโยน ก่อนที่เขาจะกระซิบเบาๆ ที่ข้างหนูของเธอเพื่อให้รู้กันเพียงแค่ 2 คนเท่านั้น“ถ้าหนูอยากจะหนีก็โทรบอกมาหาพ่อ พ่อจะรีบไปพาลูกหนีได้ทุกเวลาที่หนูต้องการ เข้าใจไหมยัยหนูน้อยของพ่อ...?”“เข้าใจแล้วค่ะ”“หรือถ้าหนูอยู่แล้วไม่มีความสุขก็กลับมาบ้านเรานะลูก พ่อจะรออยู่ที่บ้านเสมอ”“จ้ะพ่อ” น้ำมนต์ยกยิ้มออกมาพร้อมกับพยักหน้าให้กับบิดาของเธอเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะเดินไปยืนอยู่ข้างกายของหมอเพิร์ช“พวกเราลาครับ สวัสดีครับ / สวัสดีค่ะ”น้ำมนต์โบกมือลาพร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้กับทุกคน ก่อนที่หญิงสาวจะหันไปร่ำลากุมารน้อยทั้งสองตนเสียงอ่อน ครั้งนี้พวกเขาไม่ได้ตามกลับ
“ตรงนี้เงียบดีนะครับ” เพิร์ชเอ่ยขึ้นมาก่อนที่ชายหนุ่มจะจูงมือบางให้เดินตามเขาขึ้นไปยังศาลากลางน้ำ ดอกบัวชมพูที่บานสะพรั่งอยู่ในสระน้ำตรงหน้ายิ่งมองดูยิ่งน่าหลงไหล“ลมเย็นดีด้วยนะคะ” น้ำมนต์เดินไปนั่งลงบนม้านั่งพร้อมกับทอดสายตามองไปที่สระน้ำเบื้องหน้า“ครับ อากาศน่านอนจริงๆ” เพิร์ชเอ่ยบอกกับร่างบางเสียงอ่อน ก่อนที่เขาจะทิ้งตัวลงนอนหนุนตักของเธอ ชายหนุ่มดึงมือบางไปกุมเอาไว้ที่อกแกร่งของเขา พร้อมกับนิ้วเรียวลูบลงที่หลังมือบางของเธอเบาๆ“พี่เพิร์ชเก่งมากเลยนะคะเข้ากับที่บ้านของหนูได้เป็นอย่างดีเลย”“ก็พี่รักลูกสาวเขานี่ครับ พี่ก็ต้องทำให้พวกเขารักและไว้ใจพี่” มุมปากของชายหนุ่มยกยิ้มหวานออกมาพร้อมกับเอ่ยบอกกับเธอออกไปเสียงอ่อน“หนูรักพี่เพิร์ชนะคะ”จุ๊บ!!!“พี่ก็รักหนูครับ” ริมฝีปากหนาจุ๊บลงที่หลังมือของหญิงสาวอย่างอ่อนโยน ก่อนที่เขาจะเอ่ยบอกกับคำรักกับเธอออกไป‘น่าอิจฉาคนมีความรักจริงๆ โวย’‘เออวะ กลางนาก็ยังไม่เว้น’เสียงของใบเงินกับใบทองดังขึ้นมาจากด้านหลังของต้นไม้ใหญ่ ก่อนที่ร่างของกุมารน้อยทั้งสองตนจะค่อยๆ ปรากฏขึ้นมา แต่ถึงอย่างนั้นชายหนุ่มก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะลุกออกจากตักของหญิงสา