“ไปทะเลาะกับหมาที่ไหนมาอีกล่ะยะ!” คิมมินยง สาวผมบลอนด์ลอนเบาๆ ตาเฉี่ยวหนึ่งชั้นสไตล์เกาหลีแท้ เดินมองเพื่อนสาวที่นั่งทำแผลอยู่บนโซฟา พร้อมย่นคิ้วแบบมีห่วง มีฮา
“ไม่ใช่หมา... แต่แมวจ้ะแม่”
ข้าวหอมตอบพร้อมกลอกตาเบา ๆ ขณะใช้ไม้พันสำลีแตะยาทาแผล
“วันนี้ทะเลาะกับแมว... พรุ่งนี้จะตบกับกระรอกไหมถามจริง”
“ห๊ะ เดี๋ยวนี้พัฒนาแล้วนะยะ ไม่ทะเลาะกับหมา แต่ทะเลาะกับแมว!”
คิมมินยงนั่งปุลงข้าง ๆ พร้อมแย่งสำลีมาปิดแผลให้เอง
“ไหนดูหน่อยสิ๊ เจ็บมากไหมเนี่ย หรือว่าต้องพาไปโรงพยาบาล?”
ข้าวหอมถอนใจ “ไม่ได้ทะเลาะ ฉันไปช่วยแมว…มันขาติดกิ่งไม้”
“โอ๊ย แผลแค่นี้ไม่ตายหรอก” มินยงพูดไปแปะพลาสเตอร์ไป
“แต่เดี๋ยวแวะไปฉีดยากันพิษสุนัขบ้าไว้ก่อนก็จะดี…เดี๋ยวเธอเป็นบ้าขึ้นมา เหมียวววว~!”
เธอทำเสียงแมวพร้อมแยกเขี้ยวใส่ข้าวหอมเล่น
“โอ๊ย กลัวตายเลยย่ะ! แมวน่ารักน่าเอ็นดูแบบนี้…จับขังกรงไว้เลยดีกว่า ไม่ให้ซนอีก!”
“งั้นเดี๋ยวฉันพาเธอไปจิ้มก้นก่อน แล้วค่อยไปออฟฟิศใหม่ก็แล้วกัน”
“ว่าแต่วันนี้ตารางมีอะไรเปลี่ยนไหม?” ข้าวหอมถามพลางหยิบเสื้อคลุมมาคลุมไหล่
“มีนิดหน่อย~ เรื่องจดทะเบียนบริษัท ฉันจัดการเสร็จเรียบร้อยแล้วนะ! แต่เธอแน่ใจเหรอว่าจะให้ฉันดูแลสาขาเกาหลี? มันใหญ่มากเลยนะ บอกเลยว่าฉันเป็นผู้หญิงบอบบาง!”
“หื้ม... บอบบางเหรอ? พูดเองได้ลงคอเนอะคนเรา” ข้าวหอมหัวเราะก่อนจะหยิกแก้มเพื่อนสาวเบา ๆ
“มินยงเป็นคนเดียวที่ฉันไว้ใจ ทุกอย่างที่ฉันวางแผนไว้...ไม่มีใครเหมาะเท่าเธอแล้ว!”
“โอ๊ยพอเลย เจ็บ!” มินยงตีมือนิดหนึ่งก่อนลุกขึ้น “วันนี้ฉันจะพาเธอไปดูความเรียบร้อยที่ออฟฟิศใหม่ แล้วพาไปกินข้าวที่ร้าน ‘Steak Bax’ ของครอบครัวยูคยอม!” (ยูคยอม เป็นศิลปินวง GOT7)
“ว้าววว! ยูคยอม! ลูกชายสุดหล่อของฉัน!!” ข้าวหอมตาเป็นประกายวิบวับแบบติ่งเกาหลีขั้นสุด
“แน่ใจว่าอยู่ทีมแม่? หึ… หล่อขนาดนั้นน่ะ ทีมเมียเถอะ!”
“แหม~~ พูดแบบนี้ต้องรีบไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วล่ะ เดี๋ยวจะพลาดโอกาสแต่งเป็นเจ้าสาว!” ระหว่างที่ทั้งคู่เตรียมตัวเดินทาง ข้าวหอมก็อดรู้สึกภูมิใจไม่ได้ ธุรกิจแฟชั่นของเธอที่ปักหมุดไว้ในเกาหลีจะไม่ใช่แค่สตูดิโอเสื้อผ้า แต่คืออาณาจักรย่อม ๆ ที่รวมทุกอย่างไว้ครบ ทั้งนิตยสารแฟชั่น งานออกแบบเสื้อผ้าให้ซีรีส์ ภาพยนตร์ MV และเหล่าไอดอลเพราะเธอรู้…วงการบันเทิงเกาหลี = โลกทั้งใบของแฟชั่น
“ข้าว…” มินยงหยุดพูดกะทันหัน
“มีตารางเพิ่มตอนเย็น...เราต้องไปงานวันเกิด”
“หา?! งานวันเกิดใครอ่ะ?” ข้าวหอมหยุดทุกอย่าง หันมาทำตาโต
“ฉันไม่ได้รู้จักใครในเกาหลีนอกจากเธอนะยะ!”
“ใจเย็น~ เจ้าของงานชื่อ พัคจองฮุน เจ้าของค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ในเกาหลี”
ข้าวหอมชะงักเล็กน้อย ชื่อที่ได้ยิน...ไม่รู้ทำไมถึงทำให้เธอรู้สึกแปลบในอกแปลก ๆ
“นอกจากจะใหญ่ในเกาหลี...เขายังเป็นเจ้าพ่อธุรกิจบันเทิงระดับโลก ค่ายเพลงต่างชาติบินมาเกือบครบทุกประเทศ!”
“โอเค งั้นฉันไปอาบน้ำแต่งตัวก่อน…ธีมงานเป็นแบบไหน?”
“เรียบหรูดูแพง…แต่แอบมีประกาย!”
มินยงพูดพร้อมยักคิ้ว
“ก็งานเจ้าพ่อไงจ๊ะ ไม่ใช่งานวันเกิดเพื่อนบ้านแถวบ้านเธอ~”
@THM pub ใจกลางโซล — ผับสุดลับที่ร่ำลือในหมู่คนวงใน ว่าที่นี่คือพื้นที่แห่ง “การดูตัวสำหรับอภิมหาเศรษฐี”
บรรยากาศภายใน…ดาร์คมินิมอล คลาสสิกแต่แฝงความเย้ายวน แสงไฟสีอำพันทอดเงาสลัวไปทั่วทุกมุม กลิ่นอายของเหล้าราคาแพงกับเสียงเบสต่ำกระหึ่มอยู่ในอก ผู้คนมากหน้าหลายตา หรูหรา ดารา-เซเลบจากหลากประเทศกำลังดื่มด่ำกับค่ำคืนนี้ราวกับเป็นฉากในภาพยนตร์
“Hey, Dion…”
เสียงหวานของใครบางคนทำให้เขาหันกลับไป แต่สายตากลับมองผ่านไปหยุดอยู่ที่หญิงสาวคนหนึ่ง—ข้าวหอม ในชุดเดรสเรียบหรูที่ไม่โชว์เนื้อหนังแม้แต่นิดเดียวแต่...ทุกสายตากลับจับจ้องเธอ
‘เธอไม่ต้องพยายามก็โดดเด่น…’ไดออนสบตากับเธอ และทันใดนั้น—รอยยิ้มของเธอกลับมอบให้ชายอีกคนแทน
พัคจองฮุน ชายหนุ่มในชุดสูทดำสนิทที่ไม่ได้สะดุดตาเพราะความฉูดฉาด แต่เพราะบารมีที่แผ่ออกมาทุกฝีก้าว
ข้าวหอมเอียงหน้าเล็กน้อย ฟังเขาพูดกระซิบใกล้ใบหู แค่กิริยาเพียงเท่านั้น…หัวใจของไดออนก็เต้นผิดจังหวะ ‘บัดซบ…มันคืออะไร’
มือหนากระชับขวดบรั่นดีแน่น ก่อนจะยกขึ้นดื่มรวดเดียวหมด พร้อมปล่อยลมหายใจแรง ๆ
ตึก ตัก ตึก ตัก...
“ข้าว...”
“...”
“ยัยข้าว”
“...”
“ข้าวหอม วิจิตกุลธร” เสียงของคิมมินยงสะกิดเรียกเธอให้หลุดจากภวังค์
“หา...อะไรนะ?” เธอหันมาขมวดคิ้ว
“ฉันเรียกตั้งนาน เป็นอะไรของเธอ?” มินยงกวาดตามองคู่สนทนาแล้วกระซิบ
“นั่น...คุณพัคจองฮุน เจ้าของงานวันนี้” ข้าวหอมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก สัญชาตญาณบางอย่างภายในกำลังเตือนว่า...ชายคนนี้ “อันตราย”
“แผลที่แขนคุณเป็นยังไงบ้าง?” เสียงทุ้มเข้ามากระซิบชิดใบหู…ใกล้เกินไป
“อ๊ะ!” ข้าวหอมผงะถอยโดยอัตโนมัติ
“ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจให้คุณตกใจ” เขายิ้มบาง ๆ แต่สายตากลับลึกซึ้งจนอ่านไม่ออก
“คุณ...ยังไม่ไปหาหมอใช่ไหม?”
ยังไม่ทันที่เธอจะตอบ เสียง เพล้ง! ก็ดังขึ้นข้างตัว
“เฮ้ย! เดินระวังหน่อยสิวะ!” จองฮุนสบถใส่บริกรที่ทำแก้วบรั่นดีหกราดลงบนเสื้อสูทของเขา
บริกรคนนั้นรีบก้มหน้าขอโทษ “ขะ ขอโทษครับ ผมไม่ทันระวังจริง ๆ…”
“มึงเอามันไปจัดการซะ” คำพูดเย็นชาจนข้าวหอมหันขวับมา
เธอชะงัก — สบตาจองฮุนตรง ๆ เธอไม่แน่ใจว่าเขาหมายถึงอะไร แต่เธอรู้…บริกรคนนั้นไม่ใช่แค่พนักงานธรรมดา
‘อย่าเพิ่ง…อย่าเพิ่งรู้ตัวนะคะ’ เธอภาวนาในใจ
จองฮุนหันมาหาเธออีกครั้ง “ผมหมายถึงอบรมเรื่องมารยาทน่ะครับ” เขาเอ่ยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วเปลี่ยนสีหน้าอย่างแนบเนียน
“แมวคุณเป็นยังไงบ้างคะ?” เธอถามออกไปเพื่อเบี่ยงประเด็น
“เจ้าโบโบ้ปลอดภัยดีครับ…แต่คุณล่ะ? ขึ้นต้นไม้ช่วยแมว แต่ตกลงมาแทน” เขาหัวเราะเบา ๆ
“ผู้หญิงแบบคุณ...น่าสนใจมาก”
“แค่เจ้าโบโบ้ไม่เป็นไรก็ดีแล้วค่ะ” ข้าวหอมตอบเรียบ ๆ พลางมองหาทางออกจากบทสนทนาอันตรายนี้
“คุณเชื่อในพรหมลิขิตไหมครับ คุณข้าวหอม?” เสียงเขาทุ้มนุ่มแต่แฝงพลัง
“ผมเชื่อว่า...คนที่ควรจะเจอกัน ต่อให้ซ่อนอยู่สุดขอบโลก ก็ต้องเจอกันจนได้” ข้าวหอมเงยหน้ามองเขา...สายตาอ่านยาก และในใจ...เต้นไม่เป็นจังหวะ
ไรท์ ขอกำลังใจจากรีด ทุกๆท่าน แค่เม้นติชม มาก็พอค่ะ
สวนฮานึล / เวลาพระอาทิตย์ตก – 18:47 น.สายลมยามเย็นพัดหญ้าเส้นยาวพลิ้วตามเนินเขา แสงสีทองจากดวงอาทิตย์ที่กำลังตกกระทบลงบนยอดหญ้าและผิวไม้ของทางเดินอย่างนุ่มนวล ข้าวหอมกับไดออนเดินเคียงกันบนทางเดินไม้ ท่ามกลางผู้คนที่มาเดินเล่น สูดอากาศ และชมพระอาทิตย์ตกไม่มีการหลบกล้องอีกต่อไป ไม่มีการแอบจับมือเหมือนวันก่อน ๆวันนี้พวกเขา "เลือกแล้ว" ที่จะยืนอยู่เคียงกัน…ในที่แจ้งข้าวหอมใส่เดรสสีขาวเรียบ ๆ ถือเสื้อคลุมบางในมือ ผมเธอถูกรวบไว้หลวม ๆ เพราะลมแรง ไดออนในชุดสบาย ๆ สีเอิร์ธโทน โพกหมวกเบเรต์ไว้หลวม ๆ คล้ายอยากปิดบังแต่ก็ไม่ปิดซะทีเดียวพวกเขายิ้มให้กัน พูดคุยถึงงานแฟชั่นโชว์ใหม่ของเธอในไต้หวัน และการเตรียมเพลงใหม่ของเขาสำหรับซัมเมอร์นี้“แล้วคอลเลกชั่นนี้จะมีอะไรแปลกใหม่บ้างครับ ดีไซเนอร์?” ไดออนแกล้งถามด้วยเสียงล้อ ๆ“แปลกใหม่สำหรับเฮียคงเป็นเสื้อผ้าที่ไม่ต้องรีด” ข้าวหอมเลิกคิ้วตอบกลับ“งั้นเฮียคงเป็นเทรนด์ใหม่ละ เพราะเฮียไม่เคยรีดอยู่แล้ว”ทั้งคู่หัวเราะเบา ๆ และก้าวเดินต่อ เหมือนโลกนี้มีแค่สองคน…แต่ไม่ใช่ในวันนี้เสียงกระซิบจากข้างหลังเริ่มแทรกเข้ามา ราวกับฝุ่นในลมที่แทรกผ่านรูจมูก แม้
ในความหวานนั้นไม่มีใครรู้เลยว่า มีเสียงกดปากกาบนโต๊ะดังชัดในความเงียบพัคจองฮุนนั่งนิ่งอยู่ในห้องทำงานส่วนตัว แสงจากจอคอมพิวเตอร์สาดเข้าดวงตาเขาอย่างไม่ปรานี บนหน้าจอคือคลิปไลฟ์ของไดออน ที่ยังเล่นวนอยู่ที่วินาทีเดิม—“ใช่ครับ…เธอคือข้าวหอม และผม...รักเธอ”เขาไม่กดปิด ไม่เลื่อนข้าม ไม่แม้แต่เบือนหน้า ฟังซ้ำไปซ้ำมา เหมือนต้องการให้ถ้อยคำนั้น “ตอก” ลงในหัวใจให้ลึก…ลึกกว่าเดิมมือที่ถือปากกากระตุกเบา ๆ ก่อนจะหยุดนิ่ง เขาหลับตา… และภาพความทรงจำที่เขา “ไม่เคยเล่าให้ใครฟัง” ก็ฉายชัดขึ้นในหัว[สามปีก่อน]เช้าที่อากาศสดใส…แต่กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของบางสิ่งที่เขาไม่เคยลืม เขากำลังก้าวออกจากบ้าน ทว่าต้องชะงักเมื่อเห็นฝูงคนมุงแน่นอยู่ริมรั้ว เสียงแมวร้องโหยหวนดึงดูดความสนใจโบโบ้—แมวพันธุ์บองกอนขนฟูของเขา มันติดอยู่บนกิ่งไม้ ขาหลังพันกับเส้นลวด เลือดไหลหยดลงพื้น ตัวห้อยกลางอากาศเหมือนชะตากำลังแขวนอยู่บนเส้นด้ายไม่มีใครกล้าขยับ ไม่มีใครกล้าเสี่ยง…ยกเว้นเธอหญิงสาวตัวเล็ก ๆ โผล่เข้ากลางวง หยิบเก้าอี้แถวนั้นก่อนปีนขึ้นเกาะกิ่งไม้ที่โค้งงอ เสียงแกร๊ก! ดังพร้อมกิ่งไม้ที่แทบหัก เธอคว้าโบโบ้ไว้ในอ้อม
บ่ายวันนั้น…ท้องฟ้าโปร่งใสจนน่าใจหาย ลมพัดบางเบา เงาแดดทอดลงบนพื้นถนนเหมือนวันธรรมดาทั่วไปแต่กับเขา—โลกไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปหลังไลฟ์จบลง เซิร์ฟเวอร์ที่แทบล่มกลับมาเสถียร ยอดแชร์ทะลุหลักสิบล้านในเวลาไม่ถึงชั่วโมง แต่ไดออนยังยืนนิ่งอยู่หน้าอาคาร BBOOM Entertainment คนเดียวเท่านั้น เพราะเขาขอไว้—ขอให้ไม่มีใครเลยเขาแค่ต้องการความเงียบ เพื่อย้ำกับตัวเองอีกครั้ง ว่าเขาเลือกแล้ว และจะไม่หันหลังกลับมือถือสั่นไม่หยุด ข้อความเด้งรัวทั้งจากยองบอม คริส ทีมงาน พรีเซนเตอร์ แม้แต่ CEO ค่ายคู่แข่งยังส่งมาแค่สั้น ๆ ว่า“Respect. ขอให้โชคดี...กับความจริงที่ตามมา”ไดออนเพียงกดปิดเสียง แล้วเก็บมันเข้ากระเป๋า ไม่ตอบใครเขาเดินจากอาคารออกมาเงียบ ๆ ไม่มีรถหรู ไม่มีบอดี้การ์ดมีเพียงเสื้อเชิ้ตดำ ร่างที่ล้า และใจ…ที่หนักแน่นอย่างน่าประหลาดเสียงประตูห้องพักเปิดแผ่วเบาไดออนก้าวเข้ามาเงียบ ๆ ยังคงอยู่ในชุดเดิมจากไลฟ์ ท่าทางของเขานิ่ง…แต่ในดวงตากลับมีแววเหนื่อยล้าปนเปล่งประกายบางอย่างที่เธอไม่เคยเห็นข้าวหอมเงยหน้าขึ้นจากโซฟา เธอไม่ได้ลุกพรวดหรือร้องเรียก แค่ยืนขึ้น รอให้เขาค่อยๆก้าวเดินเข้ามาหา และหยุดอยู่ต
“ผมแค่มาในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง…ที่กำลังคบกับใครบางคนอยู่จริง”“ใช่ครับ…เธอคือข้าวหอม”เสียงฮือในแชตแทบกลบเสียงไลฟ์บางคนเริ่มร้องไห้บางคนเริ่มพิมพ์คำว่า “ไม่” ซ้ำไปมาแต่หลายคน…เริ่มพิมพ์ “ยอมรับได้” “ให้โอกาส” “โคตรกล้าเลย”“และผม…รักเธอ”เขาพูดช้าแต่ชัด น้ำเสียงในคำว่า รัก ไม่ได้เน้นพิเศษ แต่ฟังแล้วหนักแน่นเกินจะปฏิเสธได้“ผมรู้ บางคนอาจผิดหวัง บางคนอาจตั้งคำถาม”“แต่ถ้าคุณเคยเชื่อในตัวผม…วันนี้ขอให้เชื่อแบบเดิมอีกครั้ง”“เชื่อว่าผู้หญิงที่ผมรัก…มีค่าพอโดยไม่ต้องพิสูจน์อะไรให้ใครทั้งนั้น”“และต่อจากนี้ไป…เธอจะไม่เดินคนเดียวอีกแล้ว”“เพราะผมจะอยู่ข้างเธอเสมอ”ทันทีที่เขาพูดจบ—กล้องซูมออกช้า ๆ ให้เห็นภาพเต็มตัวอีกครั้งไดออนยืนอยู่ตรงกลางเวทีเดิมท่ามกลางความเงียบ เช่นเดิมแต่ในโลกออนไลน์—เสียงปรบมือ เสียงสะอื้น และข้อความนับแสนหลั่งไหลเข้ามาแทบพร้อมกัน“เขาพูดแล้ว…พูดอย่างที่ไม่ต้องพูดแทนใคร”“ไอดอลอันดับหนึ่งกล้ายืนตรงนี้…เพื่อคนคนเดียว”“นี่ไม่ใช่แค่ความรัก แต่มันคือการยอมรับ”“พี่เลือกเธอ…เราก็จะเลือกอยู่ข้างพี่”แฮชแท็ก #Dionเลือกแล้ว, #แฟนไอดอลอันดับหนึ่ง, #ข้าวหอมพุ่งขึ้นเทรนด์
เสียงลมหายใจของเช้าวันใหม่ยังบางเบา แสงแดดอ่อนลอดผ่านผ้าม่านโปร่งบางในห้องพักหรูของตึกสูงกลางกรุงโซล สีทองนวลแตะต้องพื้นไม้เบา ๆ คล้ายอ้อมกอดของวันใหม่ที่ยังไม่ตื่นเต็มตา เงาร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งยืนพิงราวระเบียง มือหนึ่งแนบโทรศัพท์กับใบหู อีกมือกำราวระเบียงไว้แน่น ขณะสายโทรศัพท์เชื่อมต่อออกไปที่หนึ่ง ในชั่วอึดใจเสียงปลายสายดังขึ้นด้วยน้ำเสียงเหนื่อยล้าแต่คุ้นเคย“อะไรของนายแต่เช้า ไดออน… ฉันเพิ่งหลับ หลังสะสางเอกสารไอดอลเจ็ดวงเสร็จ”เสียงของโอยองบอม—CEO แห่ง BBOOM Entertainment คนเดิมที่ไม่เคยพักผ่อนอย่างแท้จริง แม้ในเวลาที่โลกหลับสนิท“ฉันจะไลฟ์ตอนสิบโมง” ไดออนตอบกลับด้วยเสียงนิ่ง เรียบ แต่มีแรงกดดันแฝงอยู่ในทุกถ้อยคำ“ขอห้องไลฟ์ของบริษัท ใช้ทุกแพลตฟอร์มที่เรามี”เขาหยุดหายใจชั่วครู่ ก่อนพูดชัดเจนในถ้อยคำต่อมา“ฉันจะพูดเรื่องของฉันกับข้าวหอม…ให้ชัดเจน”ความเงียบจากปลายสายกินเวลาสั้น ๆ แต่กดทับความรู้สึกในอากาศได้อย่างน่าประหลาด ราวกับอีกฝ่ายกำลังประเมินขอบเขตของผลกระทบทั้งหมดที่คำพูดนี้จะก่อขึ้นและเมื่อเสียงของยองบอมกลับมาอีกครั้ง—มันไม่ใช่เพื่อนขี้ง่วงคนเดิม แต่คือเสียงของผู้บริห
ข้าวหอมอ่านข้อความเพียงไม่กี่บรรทัด ก่อนจะกดปิดหน้าจอ เสียงคลิกเบา ๆ ของโน้ตบุ๊กที่พับลงฟังดูดังผิดปกติในห้องที่เงียบจนได้ยินเสียงลมหายใจของทั้งสองคนเธอหลับตา มือข้างหนึ่งกำแน่นแนบตัก“ดื่มหน่อย…” ไดออนเดินเข้ามาช้า ๆ วางแก้วนมอุ่นข้างเธอ“วันนี้ยังไม่แตะข้าวเลยนะ”ข้าวหอมไม่ได้มองแก้วนม เธอแค่เงยหน้าช้า ๆ“เฮียเห็นข้อความพวกนั้นแล้วใช่ไหม…”ไดออนพยักหน้า“เห็น”“และเฮียก็ไม่แปลกใจ…แต่โกรธ”น้ำเสียงของเธอสั่นเพียงเล็กน้อย แต่ดวงตายังคงนิ่งเหมือนเดิม เธอสูดลมหายใจลึกก่อนจะพูดต่อ“ข้าวไม่กลัวที่คนไม่เชื่อ…”“แต่ข้าวไม่ชอบให้ใครพูดถึงเฮียในทางที่ไม่ดี”ไดออนไม่พูดอะไรในทันที เขาค่อย ๆ ทรุดตัวนั่งลงข้าง ๆ มือหนาคว้ามือเธอมาไว้ในอุ้งมือของเขา จับไว้แน่นแต่ไม่บีบเหมือนจะบอกว่า—"ฉันอยู่ตรงนี้แล้ว"“เฮียชินแล้ว ข้าวไม่ต้องปกป้องเฮียหรอก” เขาพูดเสียงเรียบ“ตอนนี้เฮียแค่อยากอยู่ตรงนี้…เพื่อให้น้องข้าวไม่ต้องเผชิญทุกอย่างคนเดียว”ข้าวหอมพยายามยิ้ม แต่มันเป็นรอยยิ้มที่แฝงด้วยความเหนื่อยล้า เหมือนพยายามจะฝืนยิ้มให้กำลังใจคนอื่นทั้งที่ตัวเองแทบจะยืนไม่ไหว“มันตลกเนอะ…แค่เราสองคนรักกัน คนอื่นกลับเจ