" ท่านอ๋อง บางทีการแต่งงานครั้งนี้อาจเป็นเรื่องดีสำหรับท่านก็ได้นะ"
เจี้ยนไห่เหม่อมองท้องฟ้าที่มีดวงดาวระยิบระยับ ภาพของซ่งเนี่ยนที่ชี้มือมาที่เขา บอกว่าเลือกเขาจะแต่งงานกับเขาก็แว่บเข้ามา นางต้องการอะไรจากเขากันแน่ เขาเป็นเพียงโอรสที่ถูกลืมของฮ่องเต้ มารดาของเขาเป็นเพียงกุ้ยเหรินที่ไม่เป็นที่โปรดปรานอยู่ตำหนักหลังเล็กท้ายสุดของวังหลวง มีข้ารับใช้เพียงไม่กี่คน ทุกคนต่างดูหมิ่นดูแคลนเขา เขากับมารดามักจะเก็บตัวเงียบอยู่แต่ในตำหนักไม่ออกไปไหน แต่งานเลี้ยงคืนนี้ฮองเฮากลับให้คนมาบอกว่าให้เขาเข้าร่วมด้วย ไม่คิดว่าเขาจะถูกเลือกให้แต่งงานกับซ่งเนี่ยน เขาเองก็เคยได้ยินชื่อเสียงของนางว่าเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้และฮองเฮา แต่ไม่เคยเห็นนางมาก่อน พึ่งจะเห็นก็วันนี้ จุดประสงค์ที่นางเลือกเขาคงเพราะต้องการประชดฉีเส้าเฟินกระมัง คิดไปก็น่าเห็นใจ รักกันมาหลายปีไปศึกกลับมาดันไปขอสมรสพระราชทานกับหญิงอื่น ยังให้นางแต่งเป็นภรรยารองอีก แบบนี้มันเหยียบย่ำศักดิ์ศรีนางชัดๆ
" ไม่รู้ว่าแม่ทัพฉีคิดอะไรถึงได้ขอพระราชทานสมรสแบบนั้น องค์หญิงแคว้นฉู่อะไรนั่นยังจะเป็นองค์หญิงอะไรได้อีกแคว้นฉู่ก็ล่มสลายไปแล้ว ตอนนี้แคว้นเหลียวของเราเข้ายึดครอง นางก็มีฐานะเป็นแค่เชลย"
" ใช่ๆไม่รู้ว่าแม่ทัพทำไมถึงได้เห็นผิดเป็นถูก เห็นตาปลาเป็นไข่มุก ใครๆก็รู้ว่าคุณหนูซ่งเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้กับฮองเฮาตอนนี้ยังได้รับแต่งตั้งเป็นท่านหญิงอีก ไหนจะทรัพย์สมบัติที่บิดามารดานางทิ้งไว้ให้อีก ชาตินี้ก็ใช้ไม่หมด ใครได้แต่งกับนางสุขสบายไปทั้งชาติ"
" ถ้าเป็นข้า ข้าก็เลือกคุณหนูซ่ง"
" ข้าก็เช่นกัน มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่เลือกองค์หญิงไร้บัลลังก์ผู้นั้น ฮ่าฮ่า"
" องค์ญงองค์หญิงอะไรกัน นางมีแต่ตัว ข้ารับใช้สักคนก็ไม่มี ทรัพย์สินเงินทองรึก็ไม่มีแม้แต่จวนยังไม่มีอยู่ แล้วพวกเจ้ายังเรียกนางองค์หญิงกันอยู่อีก เหอะ เทียบคุณหนูซ่งไม่ได้สักนิด"
เฉียวม่านนั่งหันหลังอยู่โต๊ะไม่ไกล กำถ้วยน้ำชาแน่น ฟังคำทหารกลุ่มนั้นดูถูกนาง
โครม นางหันควับไปดู ก็เห็นร่างของทหารคนหนึ่งถูกเหวี่ยงไปไกลจนถูกโต๊ะพัง ฉีเส้าเฟินทั้งถีบทั้งเตะทหารกลุ่มนั้น จนแต่ละคนมีสภาพสะบักสะบอม
" หากข้าได้ยินพวกเจ้าพูดจาดูถูกภรรยาข้าอีก วันหน้าพวกเจ้าจะไม่ได้แค่เจ็บตัว แต่ข้าจะตัดลิ้นพวกเจ้าด้วย"
ทหารพวกนั้นรีบลนลานวิ่งออกไป เฉียวม่านลุกเดินเข้ามากอดแขนฉีเส้าเฟิน ฉีเส้าเฟินลูบผมนางอย่างอ่อนโยน
" ขอโทษที่มาช้า ปล่อยให้เจ้าต้องรอนาน"
เฉียวม่านส่ายหน้าซบบ่าเขา
สามวันต่อมางานแต่งงานก็ถูกจัดขึ้น ซ่งเนี่ยนขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวแปดคนหาม สินเดิมยาวเป็นหางว่าวพร้อมขบวนแห่ยิ่งใหญ่เอิกเกริกทุกขั้นตอนฮองเฮาส่งคนในวังมาดูแล ฮ่องเต้ประทานตำหนักใหม่ให้ ยังมีของรับขวัญเป็นทรัพย์สินเงินทองอีกหลายร้อยหีบ ในงานมีขุนนางและครอบครัวมาเป็นแขกเหรื่อคับคั่ง รวมทั้งชาวบ้านทั้งหลายที่อยากมาร่วมงาน ฮ่องเต้ก็อนุญาติให้มาได้ ยังมีอาหารกินดื่มฟรีตลอดงานทั้งวันทั้งคืนทำให้ผู้คนนับพันมารวมตัวกันในงานแต่งงานของซ่งเนี่ยนกับเจี้ยนไห่
ฮองเฮาหลิวนาน่าทำหน้าที่เป็นมารดาเจ้าสาวแทนมารดาของซ่งเนี่ยน ลู่หนิงกุ้ยเหรินที่ถูกลืม ก็พลอยได้เชิดหน้าชูตาในงานแต่งของบุตรชายครั้งนี้ เหล่านางสนมรวมทั้งฮูหยินของขุนนางหลายคนพากันเข้ามาประจบประแจง ทั้งที่ก่อนหน้าไม่เคยคิดอยากจะสนทนากับนาง
จวนตระกูลฉี
เนื่องจากเฉียวม่านไม่มีใครจึงไม่ต้องขึ้นเกี้ยวเจ้าสาว แต่ทำพิธีกราบไหว้ฟ้าดินเลย ฉีเส้าเฟินจับจูงเฉียวม่านออกมาเพื่อทำพิธี มองไปก็ไม่เห็นมีใครสักคนมาร่วมงาน ทั้งที่เขาก็ส่งบัตรเชิญให้ทุกคนแล้ว
" เกิดอะไรขึ้น ทำไมไม่มีใครมาร่วมงานสักคน หรือว่ายังไม่ถึงเวลา"
" ไม่ใช่ขอรับ นี่ก็ถึงเวลาแล้ว แต่ว่า"
" แต่อะไร"
" ท่านแม่ทัพ ท่านก็รู้ว่าวันนี้ก็เป็นงานแต่งงานของคุณหนูซ่งกับเจี้ยนอ๋องด้วย ฝ่าบาทกับฮองเฮาทรงเป็นประธานจัดงานเองพวกขุนนางทั้งหลายจึงพากันไปที่งานนั้นหมด"
ฉีเส้าเฟินหน้าตาบูดบึ้งกัดฟันกรอด ซ่งเนี่ยนแต่งงานกับคนพิการไร้ประโยชน์ประชดเขายังไม่พอ ยังเลือกแต่งวันเดียวกับเขาอีก เพราะแบบนี้ถึงไม่มีใครมางานแต่งของเขา นางจงใจชัดๆ
" ใครไม่มาก็ช่าง เจ้าให้คนไปเกณฑ์ชาวบ้านมาร่วมงาน บอกทุกคนว่างานนี้กินฟรีดื่มฟรีแถมให้ห่อกลับบ้านได้อีก"
เห็นบ่าวรับใช้ยืนเฉย ฉีเส้าเฟินก็หันไปจ้องมองนัยตาดุดัน ตะคอกเสียงดัง
" ทำไมยังไม่ไปอีก ไม่ได้ยินที่ข้าสั่งรึไง"
" เอ่อคือว่า ท่านแม่ทัพขอรับ"
บ่าวรับใช้มัวแต่พูดตะกุกตะกัก จางเฉาจึงพูดแทน
" ตอนนี้พวกชาวบ้านแห่กันเข้าวังหลวงไปงานแต่งคุณหนูซ่งกับเจี้ยนอ๋องหมดแล้ว ฝ่าบาทก็ทรงประกาศให้กินดื่มฟรีเช่นกัน"
ฉีเส้าเฟินโกรธจนหน้าดำหน้าแดง
" ช่างหัวมัน ไม่มีใครมาร่วมงานก็ช่างประหยัดดี มีแค่บ่าวไพร่ในจวนก็พอ ทั้งเหล้าทั้งอาหารพวกเจ้าก็กินดื่มให้เต็มที่ไปเลย เหลือก็เททิ้ง"
" เอ่อคือว่า"
" อะไรอีก"
ฉีเส้าเฟินมองตามสายตาของจางเฉา เห็นอาหารมีเพียงแค่ไม่กี่อย่างส่วนมากมีแต่ผักหาเนื้อแทบไม่เห็น เหล้าก็วางอยู่ไม่กี่ไห
" นี่มันอะไรกัน จนป่านนี้พวกเจ้าก็ยังทำอาหารไม่เสร็จอีกรึ"
" ไม่ใช่เจ้าค่ะ พวกข้าทำเสร็จหมดแล้ว"
" ทำเสร็จ นี่หรือที่เรียกว่าเสร็จของเจ้า มีอาหารแค่ไม่กี่อย่างเหล้าไม่กี่ไห หรือพวกเจ้าเห็นว่าไม่มีใครมาร่วมงานเลยเอาอาหารออกมาแค่นี้ ข้าบอกแล้วไงถึงไม่มีใครมาก็ต้องจัดเต็ม จัดเต็ม พวกเจ้าไม่เข้าใจรึไง ไปเอามาอีก"
" ท่านแม่ทัพ ที่โรงครัวมีวัตถุดิบแค่นี้เจ้าค่ะพวกข้าใช้สิ่งที่มีทำออกมาได้แค่นี้เท่านั้น"
" มีแค่นี้แล้วทำไมไม่ซื้อเตรียมไว้ พวกเจ้าก็รู้ว่าวันนี้ข้าจะแต่งงาน เหตุใดถึงไม่เตรียมพร้อม"
" พวกข้าเตรียมแล้วเจ้าค่ะ แต่หามาได้แค่นี้จริงๆ คนจากวังหลวงกว้านซื้อไปหมด"
ฉีเส้าเฟินโกรธจนอยากจะฆ่าคน เขาพยายามระงับอารมณ์เอาไว้ ยังไงวันนี้ก็เป็นวันมงคลของเขา
" ช่างเถอะ แล้วท่านแม่หล่ะ"
" ฮูหยินบอกว่าไม่มาเจ้าค่ะ บอกว่าหากท่านแม่ทัพจะแต่งงานก็ให้ทำพิธีเอง"
เฉียวม่านกำมือแน่น นางเป็นถึงองค์หญิงไม่คิดว่าจะถูกหยามเกียรติเช่นนี้ งานแต่งไม่ได้นั่งเกี้ยวเจ้าสาว ไม่มีสินเดิมเป็นขบวนยาว นางก็อับอายมากแล้ว ยังไม่มีใครมาร่วมงานอีก ในพิธีสำคัญมารดาสามียังไม่เข้าร่วมให้นางกราบไหว้ หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไปนางจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
" ม่านม่านไม่เป็นไรนะ ตอนนี้ท่านแม่ยังโกรธอยู่ ไว้วันหน้าเราค่อยจัดงานแต่งใหม่ข้าสัญญาว่าจะต้องยิ่งใหญ่สมเกียรติองค์หญิงเช่นเจ้าแน่นอน ตอนนี้เรามาทำพิธีกันก่อนเดี๋ยวจะเลยฤกษ์มงคล"
เฉียวม่านพยักหน้า
" เจ้าไปนั่งตรงนั้นทำหน้าที่เป็นผู้ใหญ่ของข้าแทน"
ฉีเส้าเฟินหันไปบอกจางเฉา
" จะดีหรือขอรับ"
เห็นสายตาดุดันของฉีเส้าเฟิน จางเฉาจึงรีบเดินไปนั่งที่เก้าอี้ และเริ่มพิธีกราบไหว้ฟ้าดิน
ซ่งเนี่ยนมองดูเจี้ยนไห่ที่เดินคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้มกลับมา เขานั่งลงอยู่ตรงข้ามกับนางรินเหล้าใส่จอกยกดื่มไม่พูดไม่จา นางเพียงมองเขาเฉยๆไม่มีคำพูดคำถาม สักพักก็ลุกขึ้นเดินออกไป" ท่านอ๋องท่านหายไปไหนมา ปล่อยให้พระชายานั่งอยู่ตามลำพัง"" นางอยู่คนเดียวที่ไหน เจียวจูก็อยู่เจ้าก็อยู่คนอื่นๆก็อยู่เยอะแยะไปหมด"" โธ่ท่านอ๋องมันเหมือนกันซะที่ไหน ท่านมองดูคนอื่นสิ ใครเขาก็นั่งอยู่เคียงข้างภรรยาทั้งนั้น"เจี้ยนไห่มองดูรอบๆ เห็นจริงอย่างที่จั่วหมิงว่า เขาพูดแก้ตัว" ข้าปวดท้องเลยไปปลดทุกข์ แต่ข้าก็รีบไปรีบมาแล้วนี่ไง"สายตาของเจี้ยนไห่มองเห็นซู่อิงจื่อเดินมาพอดี นางส่งยิ้มให้ เจี้ยนไห่ถึงกับทำจอกเหล้าหลุดมือ จั่วหมิงมองตามสายตาเห็นทั้งสองส่งสายตาให้กันจึงพูดเตือนสติ" ท่านอ๋อง ท่านมีชายาแล้วนะ ท่านอย่าลืมสิว่าที่ท่านเดินได้ก็เป็นเพราะพระชายา ท่านจะทรยศนางไม่ได้นา"" ข้าก็ไม่ได้คิดจะทรยศนางนี่"" แต่เมื่อกี้ข้าเห็นท่านกับสตรีผู้นั้นส่งสายตาให้กัน"" ข้าแค่ดีใจที่ได้พบนาง"" นี่ท่าน"" เจ้าอย่าคิดไปไกล นางคือสหายในวัยเด็กคนเดียวของข้า ซู่อิงจื่อ ข้าดีใจที่ได้พบนางในตอนที่ร่างกายของข้าเป็นปกติก็เท่
" พวกเจ้าไม่รู้อะไร เขาคือเจี้ยนอ๋อง ว่ากันว่าพิการตั้งแต่เกิดพึ่งจะเดินได้ นี่เป็นครั้งแรกของเขาเลยนะที่เข้าร่วมงาน"" ดูท่าทางเขาผอมบางแบบนั้น ไม่รู้จับธนูไหวรึเปล่า ข้าว่าคงยิงธนูไม่เป็นด้วยแหละถึงได้ล่าสัตว์ไม่ได้สักตัว"" ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าก็ว่าเหมือนเจ้านั่นแหละ"เสียงนินทาจากคนรอบข้างทำให้เจี้ยนไห่โกรธจนพูดเสียงดัง" ใครว่าข้าล่าสัตว์ไม่ได้สักตัว นั่นพวกเจ้าแหกตาดูซะ"เจี้ยนไห่ชี้ไปที่สัตว์ที่เขามาหาได้ ทุกคนมองตามก็มีท่าทีตกใจ เห็นสีหน้าไม่อยากเชื่อของทุกคน เขาจึงหันไปดู นอกจากเก้ง5ตัวแล้วยังมีหมูป่าโผล่มาจากไหนไม่รู้อีก3ตัวไก่ป่าตัวใหญ่อีก5ตัว เอ๊ะ เขาจำได้ว่ามีแต่เก้ง5ตัวนี่ แล้วหมูป่ากับไก่ป่าโผล่มาจากไหน เขาเดินไปกระซิบถามทหารที่ติดตาม" หมูกับไก่มาจากไหน"" ข้าเองก็ไม่ทราบ หันไปคุยกับคนอื่นแป๊บเดียวกลับมาอีกทีพวกมันก็มานอนกองรวมกันอยู่ตรงนี้แล้ว"เจี้ยนไห่เห็นหานซิ่นขมวดคิ้วทำหน้าไม่เชื่อจ้องมองดูสัตว์ที่เขาล่ามาได้ เขาจึงหยิบกระต่ายโยนคืนไปให้" เอากระต่ายของท่านคืนไป ข้าไม่อยากติดหนี้บุญคุณใคร"" ทุกคนมารวมกันทางนี้ อีกสักครู่จะมีการนับจำนวนสัตว์ที่ล่ามาได้และจะประกาศผล"หาน
" ไม่จริงข้าเห็นนางเดินออกมาจากกระโจมพร้อมสาวใช้ เลยตามนางมาแล้วนางก็"" ก็อะไรหรือขอรับ"หากเขาพูดไปว่าเห็นซ่งเนี่ยนกลายเป็นจิ้งจอก ก็คงไม่มีใครเชื่อแน่ จนกว่าจะพิสูจน์ได้" ช่างเถอะ ไม่มีอะไร"" ก่อนข้าจะมา ข้าเห็นพระชายาออกมาจากกระโจมพร้อมเจี้ยนอ๋อง ยังถามข้าอยู่เลยว่าเกิดอะไรขึ้น"" เจ้าว่าอะไรนะ"" เสียงร้องของท่านดังมาก ปลุกทุกคนให้ตื่นคนอื่นๆต่างก็ออกมานอกกระโจกันหมด"" ข้าถามว่าเจ้าเห็นนางออกมาจากกระโจมพร้อมเจี้ยนอ๋องจริงๆใช่ไหม"" ใช่ ใช่ขอรับ"ฉีเส้าเฟินส่ายหน้า เป็นไปไม่ได้ หรือว่าเขาจะตาฝาด หรือจะเกิดภาพหลอน ไม่ ไม่ใช่เขาเห็นนางกลายเป็นจิ้งจอกจริงๆ จิ้งจอกที่มีหางสีขาวปุกปุย7หาง แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งสงสัยเคยได้ยินแต่จิ้งจอกมี9หาง แล้วทำไมนางถึงมีแค่7หางนะ" ท่านแม่ทัพ ท่านแม่ทัพขอรับ"" พวกเจ้าเคยได้ยินเรื่องจิ้งจอก7หางไหม"พวกทหารพากันส่ายหน้า" พวกข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน"" ไม่ใช่จิ้งจอกมีเก้าหางหรือขอรับ"ฉีเส้าเฟินพยายาครุ่นคิด แต่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกว่าที่เขาเห็นตกลงคือจิ้งจอกอะไรกันแน่ หางของมันหายไปไหนถึงไม่ครบเก้าใช้เวลาเดินทางเพียงสองวันก็เข้าเขตแคว้นเยี่ยน มีแม่ทัพนา
" พระชายาเพคะ"เจียวจูทำจมูกฟุดฟิด ซ่งเนี่ยนฟุดฟิดตามก่อนจะมองไปที่ป่าฝั่งตรงข้าม แล้วว่ายน้ำขึ้นไปบนฝั่ง จิ้งจอกนับสิบตัวพากันออกมาหานาง กลายร่างเป็นมนุษย์" นายหญิง เป็นท่านจริงๆด้วย""พวกข้าตามหาท่านมาตั้งนาน"" แต่ว่าทำไมท่านถึงได้"" เรื่องนี้หากเล่ามันยาวนัก"" ตอนนี้นายหญิงอยู่ในสถานะพระชายาของเจี้ยนอ๋อง"บริวารจิ้งจอกต่างมองหน้ากัน" เอาเป็นว่าข้าปลอดภัยดี อยู่ดีมีสุข พวกเจ้าไม่ต้องเป็นห่วง อาถูข้าแต่งตั้งให้เจ้าดูแลจิ้งจอกทุกตัวในป่าไผ่แทนข้าไปก่อน"" น้อมรับคำสั่ง นายหญิง แล้วท่านจะกลับไปเมื่อไหร่"" ข้าบอกไม่ได้ "เฉียวม่านแอบดูอยู่หลังต้นไม้ด้วยความหวาดกลัว ซ่งเนี่ยนพูดคุยกับพวกจิ้งจอกพวกนั้นอย่างสนิทสนม หรือว่านางกับจิ้งจอกพวกนั้นจะเป็นพวกเดียวกัน ใช่ ต้องใช่แน่ๆ ซ่งเนี่ยนคือปีศาจจิ้งจอก นางขยับเข้าไปใกล้พยายามเงี่ยหูฟัง ว่าพวกนั้นพูดคุยอะไรกัน แกรบ เสียงเหยียบกิ่งไม้แม้ไกลแต่หูของซ่งเนี่ยนและจิ้งจอกทุกตัวได้ยินชัดเจน เฉียวม่านรีบซ่อนตัวหลังต้นไม้ " ข้าจัดการเอง"เจียวจูพูดแล้วซัดพลังฝ่ามือสีทองใส่ต้นไม้ งูนับสิบก็ร่วงหล่นลงมา " กรี๊ดดดดด"เฉียวม่านกรีดร้องด้วยความตกใจก
ซ่งเนี่ยนจ้องมองเจี้ยนไห่ที่พยายามหลบหน้านาง เขาก้มหน้าตักข้าวใส่ปาก" ท่านอ๋องเหตุใดตาของท่านถึงได้ดำคล้ำราวอดนอนเช่นนั้นเล่า"เจี้ยนไห่หยุดชะงัก ยิ่งก้มหน้าเข้าไปอีก เขาจะบอกนางได้อย่างไรว่าเมื่อคืนเขาอ่านตำราวสันต์ทั้งคืน เจียวจูมองหน้าเจี้ยนไห่แม้ว่าเขาจะพยายามก้มหน้าหลบ แต่ยังมองเห็นใต้ตาดำคล้ำอยู่ดี" เจ้าไปทำอะไรมา"" ปะเปล่าเสด็จแม่ ข้าไม่ได้ทำอะไร แค่เมื่อคืนอากาศร้อนไปหน่อยเลยนอนไม่ค่อยหลับ"" อย่างนี้นี่เอง จริงสิเจ้ากับเนี่ยนเนี่ยนก็แต่งงานมาได้ครึ่งค่อนปีแล้ว ขาของเจ้าก็เดินได้แล้ว พวกเจ้าก็ควรรีบเข้าหอกัน จะได้มีหลานให้ข้าอุ้มเร็วๆ"เจี้ยนไห่ถึงกับมือไม้อ่อนทำตะเกียบหลุดมือ" เสด็จแม่เรื่องนี้ข้า"" เสด็จแม่ขาของเขาพึ่งจะเดินได้ไม่นาน รอให้เขาแข็งแรงดีกว่านี้ก่อน เรื่องลูกข้าไม่รีบ"ซ่งเนี่ยนเห็นท่าทีลำบากใจของเจี้ยนไห่จึงพูดแทน ลู่หนิงมองดูทั้งสองสลับไปมาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ แต่ก็ไม่ได้พูดออกมา" ถ้าอย่างงั้นพวกเจ้าก็ควรย้ายไปอยู่ห้องเดียวกัน เป็นสามีภรรยาไม่ควรแยกกันอยู่"เห็นเจี้ยนไห่ไม่พูดอะไรแต่ดูจากสีหน้าซ่งเนี่ยนก็รู้ว่าเขาไม่เต็มใจ นางจึงพูดขึ้นมา" ข้านอนค
ซ่งเนี่ยนกำลังจะเข้านอนก็ได้ยินเสียงเอะอะดังมาจากด้านนอก จึงเปิดประตูออกไปดู" มีอะไรกัน"นางกำนัลพยายามขัดขวางไม่ให้ฉีเส้าเฟินเข้ามา"พระชายาท่านแม่ทัพเขา" " เนี่ยนเนี่ยน ข้ามีเรื่องขอร้องเจ้า"" ปล่อยให้เขาเข้ามา"" เนี่ยนเนี่ยน"" เจ้าเรียกข้าว่าอะไร"" พระชายา ข้ามีเรื่องขอให้ท่านช่วย ตอนนี้ม่านม่านนางตกเลือดหมดสติ ท่านช่วยไปดูนางหน่อยได้ไหม ข้ารู้ว่าท่านช่วยนางได้ ได้โปรดเถอะ ข้าขอร้อง"" ข้าไม่ใช่หมอตำแย ไม่เคยทำคลอด ท่านควรไปหาหมอตำแยถึงจะถูกไม่ก็หมอหลวง"" ทั้งหมอตำแยหมอหลวงก็ไปหมดแล้ว แต่ก็บอกว่าหมดหนทาง ตอนนี้นางยังเลือดไหลไม่หยุด เด็กในท้องก็ไม่มีสัญญาณชีพแล้วข้าขอร้องได้โปรดช่วยนางด้วย"ฉีเส้าเฟินคุกเข่าลงตรงหน้า" ขอเพียงท่านช่วยนางกับลูกให้ปลอดภัยจะให้ข้าทำอะไรข้ายอมหมดทุกอย่าง"เห็นซ่งเนี่ยนเงียบเฉยเขาก็ร้อนใจพูดขึ้นมา"หรือจะให้ข้าลดสถานะนางเป็นรอง แล้วแต่งท่านเข้ามาเป็นฮูหยินเอกก็ย่อมได้"" เจ้าว่าอะไรนะ"ซ่งเนี่ยนไม่คิดว่าเขาจะกล้าพูดเช่นนี้ออกมา" ข้ารู้ว่าท่านยังรักข้าอยู่ ก็แหงหล่ะ ท่านกับข้ารักกันมาตั้งหลายปี อยู่ดีๆจะเลิกรักง่ายๆได้ยังไง ข้าเข้าใจที่ท่านแต่งงาน