ยามเช้าของวันถัดมาหลี่ซินตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดศีรษะยิ่งนัก นางรู้สึกว่าเมื่อคืนนางดื่มสุราดอกท้อมากไปเสียแล้ว
นางอยู่ในเรือนได้อย่างไร อีกทั้งใครพานางมา นางนึกไม่ออก
อีอีเดินมาพร้อมชามน้ำแกงสร่างเมา
"เมื่อคืนข้ามาได้อย่างไร" สาวใช้รีบเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เจ้านายฟังทันที
หลี่ซินไม่สลดใจเลยแม้แต่น้อย คนเช่นนั้นสมควรโดนมากกว่านี้ แค่อ้วกมันยังน้อยไป มุมปากงามกระตุกยิ้ม
"พระชายาแย่แล้วเพคะ ท่านหญิง ท่านชายไม่ยอมเสวยอาหารเช้า" ข้ารับใช้จากเรือนสองแฝดรีบเข้ามารายงาน ตามคำสั่งแม่นมจาง
หลี่ซินดื่มน้ำแกงแล้วให้อีอีนำอาภรณ์ตัวใหม่ มาเปลี่ยนให้นาง แล้วมุ่งหน้าไปที่เรือนของสองแฝด
ภายในเรือนสองแฝดไม่พอใจที่บิดาสั่งให้อี้ชางกับอี้โจมาเฝ้าพวกเขาไว้ ทำให้สองแฝดประชดโดยการไม่กินข้าวปลา
เพียงหนึ่งถ้วยชาหลี่ซินก็มาถึงเรือนของสองแฝด ดวงตางามมองสองแฝดรีบลุกจากตั่งเตี้ยมากอดนาง ทั้งสองโอบกอดนางด้วยความรัก
"ท่านแม่ ข้าเกลียดท่านพ่อ"
"ข้าก็เกลียด"
"เอาล่ะ เด็กดี เจ้าไม่ควรจะเกลียดบิดาไม่ว่าเหตุผลอันใดก็ตาม เขาคือผู้ให้กำเนิดพวกเจ้าทั้งสอง หากไม่มีบิดา พวกเจ้าจะได้เกิดรึ"
แม้หลี่ซินจะไม่ชอบหยางอ๋อง แต่นางจะสอนให้บุตรเกลียดบิดาไม่ได้ การกตัญญูรู้คุณ คือสิ่งที่ต้องปลูกฝังไว้ตั้งแต่เด็ก
จากนั้นนางก็ป้อนข้าวเช้าสองแฝดด้วยตัวเอง แม้สองแฝดจะดื้อรั้นไปบ้าง แต่สำหรับนาง เด็กดื้อคือเด็กฉลาด ถ้านางหย่ากับหยางอ๋องเจ้าแฝดจะเป็นเช่นไร นี่คือสิ่งที่นางกังวลอย่างที่สุด
ยามนี้หยางอ๋องยังอยู่ในห้องหนังสือ เมื่อคืนเขากลับมาจากเรือนหลี่ซินนอนในห้องหนังสือทั้งคืน ให้อาหวังนำชุดจากเรือนมาผลัดเปลี่ยนให้เขา อี้ชาง อี้โจเข้ามารายงาน
"ว่าอย่างไร" หยางอ๋องที่จิบชายามเช้า สายตามสององครักษ์
"เรียนท่านอ๋อง พระชายาอยู่ในเรือน ท่านหญิง ท่านชาย กำลังป้อนข้าวทั้งสองขอรับ"
"โอ๋ กันเข้าไป เพราะมีนางคอยเสี้ยม บุตรของข้าถึงไร้มารยาท" หยางอ๋องยกชาขึ้นมาจิบ รสชาดียิ่งนัก
ข้ารับใช้ทั้งสามคนต่างงุนงงกับเจ้านาย เหตุใดถึงได้เปลี่ยนไปถึงเพียงนี้ เมื่อวันก่อนยังเห็นรักและห่วงใยพระชายาอย่างมาก แต่พอเข้าเฝ้าฝ่าบาทอีกทั้งจะสมรสกับสตรีต่างแคว้น หยางอ๋องก็ไร้เยื่อใยต่อพระชายายิ่งนัก
ผู้ใดบ้างเล่าจะไม่ปวดใจ ข้ารับใช้สามคน ไม่เข้าใจเจ้านาย แต่พูดอันใดไม่ได้เลย
"ท่านอ๋องขอรับ หวังกงกงเชิญท่านเข้าวังเพื่อฝึกยิงธนูกับองค์หญิงเทียนหนิง" ข้ารับใช้หน้าจวนเข้ามารายงาน หยางอ๋องรู้ดีเขามิอาจปฏิเสธได้ ยิ่งใกล้จะถึงงานใหญ่ใจต้องนิ่ง
ความนี้ไปถึงหลี่ซินที่กำลังจะนั่งเล่นกับสองแฝดในเรือน อีอีไปที่โรงครัวมาเมื่อครู่ได้ยินสาวใช้ที่ล้างชามพากันเอ่ยขึ้นว่า พระชายาคงจะโดนเขี่ยทิ้งแน่งานนี้อีกทั้งยังกล่าวอีกว่า หวังกงกงเชิญหยางอ๋องไปที่วังหลวง เพื่อสอนองค์หญิงเทียนหนิงยิงธนู
พอหลี่ซินได้ยินกระนั้น ใช่แล้วนางมีป้ายทองคำของชิงไทเฮา
"พาข้าไปแต่งตัวใหม่ ข้าจะเข้าวังหลวงไปเข้าเฝ้าชิงไทเฮา"
ฟางเส้นสุดท้ายของนางขาดแล้ว หลี่ซินไม่เสียใจเลยที่ตัดสินใจจะหย่าขาดจากหยางอ๋อง สองแฝดที่เล่นตุ๊กตาปั้นดินเผาอยู่ มองมารดาด้วยแววตารักใคร่
"ท่านแม่ อย่าทิ้งพวกข้าไป ท่านพ่อจะแต่งงานใหม่ ท่านแม่ยังทิ้งพวกข้าไปอีก" เสี่ยวเปากอดมารดา
"ไม่มีใครรักพวกข้าแล้ว" เสี่ยวเปยก็เช่นกันกอดมารดา สองแฝดไม่ยอมให้มารดาไปหาชิงไทเฮา
"ในวันที่บิดาของเจ้าแต่งงานใหม่ แม่จะรับพวกเจ้าไปอยู่ด้วย"
"จริงนะท่านแม่"
"จริงสิ" หลี่ซินให้สัญญา มองสองแฝดตาแป๋ว เด็กช่างหลอกง่ายเหลือเกิน กระนั้นสองแฝดจึงยอมปล่อยนางออกไป แม่นมจางได้แต่กอดสองแฝดไว้
หลี่ซินมาที่วังหลวงมุ่งหน้าไปวังหลังตำหนักของชิงไทเฮา เกากงกงมองหลี่ซินที่แต่งกายอย่างงดงาม รีบเข้าไปรายงานพระนางทันที
เมื่อได้รับอนุญาตจากชิงไทเฮา หญิงสาวย่างกรายอย่างเนิบช้า
"ถวายพระพรไทเฮาเพคะ" พระนางทอดพระเนตรดูการแต่งกายของหลี่ซินในวันนี้ไม่เหมือนวันวาน นางกลับมาแต่งกายด้วยอาภรณ์สีสันฉูดฉาด อาภรณ์สีแดง ลายบุปผาโอบตะวันถักทอด้วยดิ้นทองอย่างงดงาม อีกทั้งทำผมม้วนขึ้นสูงปักด้วยปิ่นหงส์สีทองอย่างงดงาม ดวงหน้านั้นประทินด้วยแป้งหอมทำให้ดวงหน้านวลผ่อง
"เจ้านั่งตามสบายเถอะ" หลี่ซินนั่งเก้าอี้ที่ข้ารับใช้จัดเตรียมให้
"ขอบพระทัยเพคะ"
"เจ้ามีอันใดมาหาเรา"
หลี่ซินชูป้ายทองคำขึ้นมา ในใจชิงไทเฮาใจคอไม่ดีแล้ว นางอยากได้หลานสะใภ้คนนี้มาก ไม่อยากให้หย่าขาดจากหยางอ๋องด้วยซ้ำ
"หม่อมฉันมิอาจจะอยู่กับหยางอ๋องได้จริง ๆ ขอให้ไทเฮาโปรดช่วยให้หม่อมฉันได้หย่าจากหยางอ๋องเถอะเพคะ"
"หลี่ซิน เจ้าตรองดูแล้วรึ"
"หม่อมฉันทบทวนดูแล้วเพคะ ชาตินี้ถ้าหยางอ๋องมีหญิงอื่น ต้องไม่มีหม่อมฉัน"
ชิงไทเฮาได้ยินเช่นนี้ถึงกับถอนหายใจ พระนางไม่อยากเสียหลานสะใภ้คนนี้ไปจริง ๆ ฉู่เฟิงเป็นคนพระราชทานสมรสให้ แต่พระนางต้องมาเขียนใบหย่าให้ เพราะป้ายทองคำแท้ ๆ
นี่มันอาวุธอันใดกัน แน่นอนว่านี่คือปืนสั้นที่มาจากห้องวิเศษของถังลี ถังลีมอบปืนสั้นนับพันกระบอกให้แม่ทัพเซี่ยท่านตาของหนิงอ๋องให้ไปรบกับองค์ชายรองตงเปยแล้ว"เจ้า...""ข้าได้มอบให้ท่านแม่ทัพเซี่ยแล้ว เกรงว่าองค์ชายรองตงเปยต้องแพ้กลับไป อีกทั้งยังคงต้องโดนประหาร" สวีไทเฮาอุตส่าห์วางแผนมาหลายปี มาล่มจมเพราะนังแพศยาน้อยนี่"สวีไทเฮาท่านยอมรับความพ่ายแพ้เถอะ พิษในตัวรัชทายาทกับหนิงอ๋องถูกกำจัดหมดแล้ว อีกทั้งหนอนกู่หนิงอ๋องก็ไม่ได้กินเข้าไป แม่นมหงสารภาพหมดแล้ว" ถังลียิ้มอย่างสะใจว่านฮองเฮาตกใจไม่คิดว่านังแก่สารเลวกล้างวางยาพิษรัชทายาท"คนของท่านในจวนรัชทายาทถูกสังหารแล้ว" "เสด็จย่าพิษกู่อยู่ในร่างกายท่าน" หนิงอ๋องยิ้มเย็น"พวกเจ้ามันสมควรตาย" "ไท่ชางหวงโดนวางยาก็เป็นฝีมือท่าน ท่านตาของข้าโชคดีนักที่มิได้ท่านเป็นภรรยา ท่านจึงถูกส่งตัวเป็นสนม" ทุกคนกระจ่างแล้วสวีไทเฮารักนายผู้เฒ่าเซี่ยฝ่ายเดียว นางไม่ได้รักไท่ชางหวง"พวกเจ้าทำลายแผนการดี ๆ ของข้า นังสารเลวถังลีตายเสียเถอะ" สวีไทเฮานำมีดสั้นออกมาหมายจะแทงถังลี แต่ทว่าอาวุธอันใดจะไวกว่าปืนสั้นของถังลีสวีไทเฮาโดนยิงที่หน้าผากร่างบางล้มลงกั
แผนซ้อนแผน ได้ยินว่าจะมีการล่าสัตว์ช่วงนั้นสวีไทเฮาจะให้คนสังหารเปยหานแล้วโยนความผิดให้รัชทายาทต้าโจว สวีไทเฮาช่างวางแผนได้ล้ำลึกยิ่งนัก ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว...เช้าของวันถัดมาในลานพระราชวังฤดูร้อนรัชทายาทตงเปยแม้จะเสียใจแค่ไหน แต่เขาก็ต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงล่าสัตว์ในครั้งนี้ถังลีกับหนิงอ๋องสบตากัน รัชทายาทตงเปยควงม้าตามหลังรัชทายาทต้าโจวเข้าไปในป่าด้านในสวีไทเฮาที่พักในตำหนักใหญ่จิบน้ำชาอย่างสบายใจ พระนางกำลังรอฟังข่าวดี "บอกให้เมิ่งฉีจัดการได้" นางกำนัลรับคำของสวีไทเฮา วันนี้จะเป็นวันตายของรัชทายาทตงเปยและคนรับกรรมคือรัชทายาทต้าโจว เขาไม่ใช่สายเลือดโดยตรงของนางกระนั้นนางจึงไม่สนใจอะไรทั้งนั้น...เปยหานกับฉินเทียนต่างแยกกันเพื่อล่าสัตว์ เปยหานมาป่าด้านหนึ่งในหัวสมองหวนคิดแต่คำของชายาเอกหนิงอ๋องและหนิงอ๋องเท่านั้นตุบ !!!ร่างของเปยหานล่วงจากหลังม้ามีธนูปักที่กลางอกเลือดไหลออกจากอกดวงตาเบิกกว้าง"แย่แล้วรัชทายาทต้าโจวสังหารรัชทายาทตงเปย" เสียงคนตะโกนขึ้นดังลั่นในป่าทางด้านฉินตี้กับเหล่าสนมและฮองเฮาที่กำลังสำราญอยู่กับการรายรำของเหล่าสาวงามได้ยินมาว่าร้ชทายาทตงเปยสิ้น
พระราชวังฤดูร้อน คังอ๋องกินข้าวเย็นกับอนุและชายารองที่ห้องโถงใหญ่ของเขา การเข้าเฝ้าสวีไทเฮาในครั้งนี้ ทำให้เขาได้ข้อคิดหลาย ๆ อย่างหากอยากจะเป็นใหญ่ควรเชื่อฟังสวีไทเฮา อีกไม่นานรัชทายาทก็จะตายแล้ว คังอ๋องจึงเอาใจฮวาหรงแม้เขาจะรังเกียจนางก็ตามอีกทั้งเอาใจเปยหรันด้วยเช่นกัน เนื่องจากว่าองค์รัชทายาทเปยหานย่อมต้องขึ้นเป็นฮ่องเต้ในการข้างหน้า เขาจะละเลยสองคนนี้ไปมิได้ ส่วนถังเหมยค่อยชดเชยให้นางทีหลัง ส่วนถังลีถึงอย่างไรเขาก็จะแย่งมาจากหนิงอ๋องหลังจากที่เขาได้แผ่นดินต้าโจวเปยหรันมองคังอ๋องนางจะฝากชีวิตนี้ไว้กับเขาได้จริงหรือไหนจะมีฮวาหรงหลานสาวสวีไทเฮาอีก ฮวาหรงในยามนี้นางขอเพียงคังอ๋องจริงใจต่อนาง นางย่อมตอบแทนเขา ทั้งสามกินข้าวเย็นอย่างมีความสุข...งานพระราชวังฤดูร้อนก็มาถึงแล้วเหล่าขุนนางและเชื้อพระวงศ์ต่างออกเดินทางมุ่งหน้าสู่เมืองโจว รถม้ายาวเหยียดเต็มท้องถนนมุ่งออกสู่ประตูเมือง"ชายารักการไปพระราชวังฤดูร้อนในครั้งนี้ เจ้าต้องระวังตัวไว้" หนิงอ๋องเกรงว่าสวีไทเฮาต้องมีแผนร้ายอะไรสักอย่าง"เจ้าค่ะ" คนอย่างนางเตรียมรับมือไว้ทุกสถานการณ์อยู่แล้วมิต้องห่วงนางแม้แต่น้อย ใช้เวลาทั
รัชทายาทตงเปยไม่ตาย ความนี้ทรายไปถึงฮวาหรงใบหน้างามระบายด้วยรอยยิ้มด้วยความดีใจ สุดท้ายแล้วคังอ๋องก็ทำพิธีไม่สำเร็จช่างน่าขันสิ้นดีในคืนเข้าหอเปยหรันได้แต่นอนเฝ้าเจ้าบ่าวของนาง ช่างน่าเจ็บใจนัก เช้าวันถัดมาถังลีนึกสมน้ำหน้าคังอ๋องเสียจริงที่ได้แต่สตรีทั้งสองนาง ถังลีมาที่หอประดิษฐ์นั่งนับเงินอย่างมีความสุขข่าวของคังอ๋องเป็นลมดังไปทั่วต้าโจวจริง ๆ ถังลีกับบ่าวเดินไปทางไหนก็ได้ยินแต่คนนินทาเรื่องนี้ถังเหมยนั่งบนเก้าอี้ไม้จันทน์หอมสั่งให้บ่าวไปเรียกชายารองและอนุมายกน้ำชาให้นาง เนื่องจากนางคือชายาเอกคังอ๋องสองคนนี้ต้องให้ความเคารพแก่นางสายตาพลันมองไปที่ประตูเมื่อไรนังแพศยาทั้งสองคนจะเข้ามาเสียที ฮวาหรงกับเสี่ยวเถาพลันสาวเท้าเข้ามาถังเหมยมองไปที่ชุดฮวาหรงเป็นสีแดงอย่างงดงามปักด้วยดิ้นทองอย่างดี แน่นอนว่าชุดนี้สวีไทเฮาเป็นคนมอบให้หลานรักเองกับมือ ถังเหมยใบหน้าแดงก่ำ "เป็นอนุยังกล้าใส่ชุดสีแดงเทียบชายาเอกอีกรึ ช่างไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเสียจริง" ฮวาหรงยิ้มเย็นหลังฟังคำพูดของถังเหมย"เหตุใดข้าจะสวมมิได้ ข้าเป็นถึงหลานสาวสวีไทเฮา เจ้าก็แค่ลูกขุนนางระดับล่างที่บังเอิญโชคดีได้แ
เจ้าบ่าวเป็นลมในงาน หากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ก็น่าสงสารแม่นมหงอยู่เหมือนกันถังลีกับมู่หรงมีความคิดเดียวกัน ต่างจากบุรุษทั้งสองอย่างรัชทายาทกับหนิงอ๋องนักต้องสังหารคนทรยศเท่านั้น"บ่าวผิดไปแล้วเจ้าคะ บ่าวผิดไปแล้ว" แม่นมหงตัวสั่นเทิ้ม "แม่นมหงหากเจ้าอยากมีชีวิตรอดจงเป็นหมากให้ข้าต่อกรกับนาง นางสั่งไว้อย่างไรบ้างหลังจากที่วางหนอนกู่ในตัวข้า" หนิงอ๋องอยากรู้ว่าแม่นมหงจะซื่อสัตว์ต่อเขารึไม่ รัชทายาทไม่คิดว่าเสด็จย่าจะชั่วช้ามากแม่นมหงตัดสินใจเล่าให้หนิงอ๋องฟัง หลังจากหนึ่งเดือนผ่านไปหนิงอ๋องจะกลายเป็นคนสติหลุดอีกทั้งจะเชื่อฟังคำสั่งของพระนาง หนิงอ๋องยิ้มเย็นขึ้นมา"เอาล่ะ แม่นมหงนับจากนี้ เจ้าได้จงทำตัวตามปกติ เจ้าไปรายงานนางว่าข้านั้นได้กินหนอนแล้ว หากเจ้าไม่ซื่อสัตว์อย่าหาว่าข้าไม่เตือน" แม่นมหงกับเสี่ยวฮวาอิงโขกศีรษะให้หนิงอ๋อง จากนั้นให้องครักษ์เงาแอบตามแม่นมหงไป"เค่อจ้าวอีกประเดี๋ยวเจ้าไปที่ตำหนักของสวีไทเฮาหานางเอาหนอนพิษใส่ในน้ำให้นางดื่ม หากมิสำเร็จมิต้องกลับมา" เค่อจ้าวรับคำสั่งของเจ้านาย ถังลีมองหนิงอ๋องที่ใบหน้าเขียวด้วยความโกรธ นางกุมมือเขาไว้ รัชทายาทกับชายากลับจวนไปแ
แต่งชายารองสองคน ทั้งสามคนแต่งกายเรียบร้อยแล่วนั่งคุกเข่าในห้องทรงอักษร ฉินตี้อยากจะตบคังอ๋องยิ่งนัก เหตุใดเป็นคนสารเลวเช่นนี้เปยหานอยากจะเอามีดแทงคังอ๋องให้ตาย ถังเหมยเป็นลมถูกหามกลับจวนไปก่อนหน้านี้แล้ว ในห้องมีเพียง สวีไทเฮา เปยหาน เต๋อเฟย ฉินตี้ ที่กำลังพิพากษาทั้งสามคนอยู่ฮวาหรงไม่คิดว่าเรื่องราวจะเป็นเช่นนี้พอฮวาหรงเข้ามาในเรือนรับรองคังอ๋องก็จุมพิตนางอย่างเร่าร้อน แน่นอนว่าในห้องมีกำยานจุดอยู่บัดนี้นางให้เสี่ยวเมาจัดการนำไปทิ้งแล้ว แต่ที่น่าแปลกคือนังเปยหรันมาได้อย่างไรเปยหรันนั้นใช้กำปั้นทุบท้ายทอยของฮวาหรงจนสลบไป จากนั้นนางก็บรรเลงเพลงรักกับคังอ๋องต่อ เหตุใดทุกอย่างจึงเป็นเช่นนี้ นางอยากได้หนิงอ๋องมิใช่คังอ๋องสองสตรีต่างคิดเช่นเดียวกันคนที่เจ็บใจที่สุดเห็นจะเป็นคังอ๋องเสียมากกว่าเขาคิดไม่ถึงเลยว่า ถังลีจะทำกับเขาเช่นนี้ เหตุใดนางต้องทำร้ายเขาด้วย"เสด็จพี่ข้าไม่รู้เรื่องจริง ๆ" เปยหรันเสียใจอย่างมากฉินตี้มองทั้งสามคนในเมื่อเป็นเช่นนี้ "เปยหรันเป็นชายารองคังอ๋อง ส่วนฮวาหรงเป็นอนุของคังอ๋องแล้วกัน" ฉินตี้คิดดีแล้วในเมื่อพวกเขาชอบพอกันเขาก็จะสงเคราะห์ให้เสียหน่อยแล