ก็ถึงจะไม่ได้เป็นไฮโซโก้หรูติดตัวมาแต่เกิด ไม่ได้มียศฐาบรรดาศักดิ์อะไรในวงสังคมแต่ระดับเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญต้นๆ ของประเทศที่จะเกี่ยวก้อยดองกับเจ้าของธุรกิจวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ที่เอื้ออำนวยแก่กันทางด้านธุรกิจมาอย่างช้านานจะน้อยหน้าใครได้ซะที่ไหน
ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเพียงคนเดียวกับลูกสาวสุดรักสุดดวงใจ ถึงจะไม่ได้โด่งดังมากมายแต่รับรองได้ว่าจะต้องขึ้นหน้าหนังสือพิมพ์แน่นอน
“นี่คุณจงใจแกล้งฉันใช่ไหม”
ว่าที่เจ้าสาวจ้องมองคนตัวสูงที่ดูเหมือนจะทำหน้ายียวนกวนประสาทเธออยู่ตลอดเวลา
“ผมจะไปทำแบบนั้นทำไมล่ะคุณ ถ้าเราให้ความร่วมมืองานก็จะจบเร็วไม่ใช่หรือไง เอ๊ะหรือว่าคุณ…”
เจ้าของใบหน้าหล่อยื่นหน้าเข้ามาใกล้เจ้าของใบหน้าบึ้งตึงอย่างมีเลศนัย แถมยังยกมือชี้นิ้วมาที่เธออีกนั่นทำเอาให้อรฤดี ใบหน้าแดงก่ำเมื่อรู้เท่าทั้นความหมายแอบแฝงของชายหนุ่มแถมยังยิ่งเพิ่มความโมโหให้ทวีคูนขึ้นมาอีก
“ได้เลย คุณตั้งใจจะเล่นแบบนี้ใช่ไหม”
อรฤดีเอ่ยพูดเสียงเข้มจ้องเข้าใปในดวงตาคู่คมที่ทำเป็นจ้องกลับอย่างเก่งกาจโดยที่พยายามเก็บซ่อนความตื่นเต้นที่อยู่ในอกไว้อย่างมิดชิด
“อรพร้อมแล้วค่ะพี่แมว เราเริ่มเซ็ตต่อไปกันเถอะค่ะ”
“งั้นเข้ามาเปลี่ยนชุดที่ห้องนี้ได้เลยค่ะน้องอร พี่แมวเตรียมชุดต่อไปไว้ให้แล้วค่ะ”
การถ่ายพรีเวดดิ้งในวันนี้จัดว่าเป็นงานใหญ่ฉากอลังการ และด้วยความสวยความหล่อของคู่บ่าวสาวทำให้พี่ช่างแต่งหน้า ช่างทำผมหรือแม้แต่ลูกน้องของพี่แมวที่อยู่ในร้านอดไม่ได้ที่จะต้องถ่ายภาพเบื้องหลังอันแสนน่ารักกุ้กกิ้กของทั้งคู่อัพลงSocialที่หน้าโปรไฟล์ของตัวเองโดยเฉพาะในเพจร้านของพี่แมวที่จัดว่าเป็นร้านดังอันดับต้นๆ รับแต่งงานไฮโซรวมทั้งดารานางแบบหลายคู่เองก็เรียกใช้บริการครบวงจรจากร้านพี่แมวกันทั้งนั้น
และหลังจากที่รูปภาพของทั้งสองถูกโพสต์ลงในหน้าโซเชียลได้ไม่นานก็มีกระแสตอบรับที่ดีตอบกลับมาในทันที รวมไปถึงได้รับเสียงกรี้ดด ด้วยความรู้สึกเกลียดชังเข้าใส้จากลูกปัดคนรักของจอมทัพด้วยเช่นกัน
“กรี้ดดดด กรี้ดดดดด”
ในห้องนอนหรูหราของไฮโซสาวดังลั่นไปด้วยเสียงกรีดร้องหลายครั้ง แล้วน้ำตาหยดใสๆ ก็ค่อยๆ ไหลเอ่ออาบแก้มนวลลงมา แววตาเคียดแค้นจ้องมองไปที่รอยยิ้มของหญิงสาวในภาพที่เธอรู้สึกเกลียดได้แม้ยังไม่เคยเจอหน้าจังๆ
จะให้ชอบได้อย่างไรก็ในเมื่อผู้หญิงคนนี้กำลังแย่งคนรักไปจากเธอ
“เกลียดฉันเกลียดแก แกต้องไม่มีความสุข แกจะต้องไม่มีวันมีความสุขฉันเกลียดแก เกลียดๆๆๆๆๆ”
ลูกปัดยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาที่แก้มลวกๆ ก่อนจะเรียกสติกลับมาแล้วกดเบอร์โทรของคนรักในทันที…. หัวใจหญิงสาวหวิววาบเมื่อไร้ซึ่งการตอบรับใดๆ แม้จะกดโทรกลับไปอีกหลายต่อหลายครั้งก็ไม่มีวี่แววว่าคนปลายทางจะรับสาย
“ปัดจะพยายามเชื่อใจคุณนะคะจอม”
เธอกัดฟันพูดออกมาเบาๆ ปนน้ำเสียงสะอื้น ในหัวใจเธอมันเจ็บปวดเหลือเกินอยากจะโผตัวเข้าซบกับอกแกร่งของเขาให้รู้สึกอุ่นใจแต่ก็ทำไม่ได้ ทำได้เพียงยืนกำมือแน่นที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้นในใจอยู่เต็มอก
.
.
.
“จะทำผมแบบไหนก็สวยจะชุดไหนก็เหมาะไปซะทุกชุดเลยนะคะน้องอร เบ้าหน้าฟ้าประทานจริงๆ ถ้าชาติหน้ามีจริงพี่แมวขอเกิดเป็นฝาแฝดน้องอรนะคะ และถ้ายิ่งได้เจ้าบ่าวหล่อๆ เหมือนน้องจอมด้วยก็ยิ่งดีเลยค่ะ คิก คิก”
พี่แมวเอ่ยชมอรฤดีตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันจนว่าที่เจ้าบ่าวเริ่มไม่ค่อยจะพอใจเข้าเสียแล้วแต่เขาเองก็พยายามเก็บสีหน้าท่าทางอย่างที่สุด
ก็จะมีใครชอบกันล่ะ ที่คนอื่นมาเอ่ยปากชื่นชมคนของตัวเองถึงแม้จะแต่งกันแบบไม่เต็มใจก็เถอะแต่ถึงยังไงเธอก็ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าสาวของเขาอยู่ดี …
“เซ็ตนี้เป็นเซ็ตสุดท้ายนะคะพี่แมวขอแบบแนบเนื้อหอมจริง จุ๊บจริง กอดกันให้แน่นนนน ..กว่าทุกเซ็ตที่ผ่านมาเลยค่ะ โอเค๊”
พี่แมวพูดจีบปากจีบคอแล้วจบประโยคด้วยท่ายกมือขึ้นมาโอเคโดยที่ไม่ได้รู้สึกเลยว่าคู่ว่าที่บ่าวสาวไม่ได้อยากจะโอเคด้วยเลย
“อ่ะเรามาเริ่มจากหอมแก้มกันก่อนเลยนะคะ ช่างภาพขอมาแล้วค่ะ แสงพร้อม ไฟพร้อม ไปกันเลยค่าา”
ทั้งสองคนตัวแข็งทื่อยืนมองหน้ากันเลิกลั่กเพราะความสมจริงแบบนั้นมันไม่เคยอยู่ในหัวสมองของทั้งสองคนเลยน่ะสิ
“เอ้าเร็วสิคะ สู้ๆ ค่ะ ไม่งั้นพวกคุณพ่อคุณแม่ของน้องจอมน้องอรเอาพี่แมวตายแน่ๆ เลย ค่ะ”
ไม่พูดเปล่านะสิพี่แมวเดินเข้ามาช่วยจัดท่าทางให้อย่างกระฉับกระเฉงจับสองมือของอรฤดีจับกุมมือของจอมทัพที่พี่แมวจับมาโอบกอดเอวคอดของเธอไว้แล้วก็มายืนตรงหน้าของทั้งสองคนทำมือเป็นสัญญาณว่าให้อรฤดีเอียงแก้มแล้วให้ว่าที่เจ้าบ่าวก้มลงมาหอมแก้มนวลนั้นของเธอค้างไว้
“ดีค่าา ดีมากกสวยที่สุด ค้างไว้ก่อนนะคะ”
คงจะมีเพียงพี่แมวคนเดียวเท่านั้นที่ดีอกดีใจยิ้มร่าราวกับถูกหอมซะเอง แต่กับคนที่ถูกหอมจริงๆ ในตอนนี้นั้นหน้าแดงเป็นลูกตำลึงส่วนเจ้าของจมูกโด่งที่หอมก็หัวใจเต้นรัวจนแทบจับจังหวะไม่ได้…
มันเกิดอะไรกับหัวใจควบคุมอะไรไม่ได้สักอย่าง..
อรฤดีตัวแข็งทื่อเป็นก้อนหินไปแล้วก็นี่คือครั้งแรกที่เธอถูกผู้ชายทั้งกอดทั้งหอมถึงแม้จะเป็นเพียงแค่การแสดงก็เถอะเธอยังไม่เคยมีแฟนยังไม่เคยถูกผู้ชายใดสัมผัสแบบนี้มาก่อนเลย
ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าที่รู้สึกเหมือนกับว่าหัวใจของเขามันเต้นเร็วซะเหลือเกิน..กลิ่นหอมอ่อนๆ จากร่างกายใหญ่โตของเขาฝ่ามืออุ่นๆ ที่โอบกอดเธอ.. ทุกอย่างมันชวนให้หัวใจของเธอก็เต้นรัวไม่ได้ต่างกับเขาแม้แต่นิดเดียว
“อ่ะต่อไปจูบหน้าผากนะคะ หันหน้าเข้าหากัน…”
“คุณโอเคนะ”
คนตัวสูงเอ่ยถามเบาๆ ขณะ ที่กำลังจัดท่าเพราะเห็นว่าว่าที่เจ้าสาวของตนเองหน้าแดงผิดปกติไม่รู้ว่าเธอจะป่วยหรือเปล่า แถมเธอยังมีเหงื่อซึมอกมาตามกรอบหน้าหวานอีกต่างหาก
“มะ ไม่เป็นไรค่ะ โอเค รีบๆ ทำตามที่พี่แมวบอกเถอะจะได้เสร็จเร็วๆ ชั้นอยากกลับบ้านแล้ว”
ชายหนุ่มพยักหน้ารับเบาๆ และพยายามสังเกตุอาการเธอเพราะคิดว่าเธอคงจะกดดันจนอาจจะไม่สบายเข้าให้แล้วถ้าเป็นแบบนั้นเขาเองก็มีส่วนผิดเต็มๆ ที่แกล้งและกดดันเธอมากไปหน่อย
“อื้มมม สวยเริศมากค่ะ ทั้งสองคน จุ้บค้างไว้ก่อนนะคะ”
อรฤดีหลับตาพริ้มเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยรับสัมผัสอุ่นๆ จากริมฝีปากของชายหนุ่มที่จูบประทับลงมาบนหน้าผากมนของตัวเอง สองมือของเขาและเธอจับกันไว้ไม่ปล่อยแม้จะไม่เต็มใจแต่ภาพที่ถูกถ่ายทอดออกมากลับดูหวานละมุนอบอุ่นหัวใจรับรู้ได้ถึงความรักและความห่วงใยของกันและกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ
“อ่ะ..เซ็ตต่อไปกันเลยนะคะ เซ็ตสุดท้ายของวันนี้แล้วทำให้เต็มที่เลยนะคะ มานั่งที่โซฟาด้านนี้คะ”
เมื่อทั้งสองคนเดินมานั่งแล้วพี่แมวก็เปิดรูปตัวอย่างแบบที่ต้องการให้คู่บ่าวสาวทำตามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวังแววตาใสปิ้งๆ เป็นประกาย…
“อรว่า../ ได้ครับไม่มีปัญหา!”
จอมพัทพูดแทรกขึ้นมาโดยไม่รอให้อรฤดีพูดจบเมื่อได้ยินอย่างนั้นพี่แมวก็ยิ้มกว้างออกมาในทันที ก็คู่รักกันนี่เนอะแค่จูบกันนิดเดียวสบายมากอยู่แล้ว
“ชั้นทำไม่ได้หรอกนะ คุณไปรับปากพี่แมวแบบนั้นได้ยังไง”
“คุณอยากให้เรื่องถึงหูพ่อแม่ของเราหรือไง จูบธุรกิจเองนะคุณผมไม่ได้คิดอะไรกับคุณแน่นอนรับรองได้”
“แต่นี่มันจูบแรกของชั้นนะมันควรจะเป็นคนที่ชั้นรักสิ ไม่ใช่คุณ”
“…”
“คุณว่าอะไรนะ..จูบแรกงั้นเหรอ”
“…”
เขามองหน้าเธอด้วยแววตาเรียบนิ่งราวกับว่ากำลังค้นหาคำตอบอะไรบางอย่างในแววตาคู่นั้นของเธออรฤดีไม่ได้ตอบคำถามของเขาอีก มีเพียงใบหน้างอง้ำด้วยความไม่พอใจเท่านั้นที่แสดงออกมาให้ชายหนุ่มได้เห็น
“ผมขอโทษที่พูดแบบนั้นออกไป..”
ก๊อกๆๆ แกร่กก มือเล็กๆ เปิดประตู เข้ามาโดยไม่รอให้อีกฝ่ายได้เอ่ยคำอนุญาตใดๆ ซึ่งเพียงแค่เธอเดินผ่านประตูเข้ามาคนที่นอนอยู่บนเตียงก็รีบดีดตัวลุกขึ้นในทันที“คุณไปไหนมาผมส่งข้อความหาคุณก็ไม่ตอบ”เขาเป็นฝ่ายเอ่ยถามก่อนด้วยน้ำเสียที่เต็มไปด้วยความห่วงใย“ฉันโตแล้วนะคะจะไปไหนจะต้องรายงานคุณด้วยหรือยังไงไม่ดีหรอกเหรอที่ฉันให้เวลาคุณได้เป็นส่วนตัวกับคนรักของคุณบ้าง”“โถ่คุณ ผมขอโทษอย่าโกรธผมเลยนะถ้าแม่รู้ว่าผมทำให้คุณโกรธแล้วหายไปทั้งคืนแบบนี้คงโดนแม่เอาตายแน่เลย”“งั้นก็แปลว่าคุณไม่ได้ห่วงฉันจริงๆ น่ะสิคะแค่ห่วงตัวเองกลัวจะโดนคุณแม่บ่นเอาต่างหาก”เธอพูดออกมาโดยที่ไม่ได้หันมามองเขาด้วยซ้ำสองมือเล็กๆ ของเธอจับโทรศัพท์มือถือไว้ในแล้วใถหน้าจอเช็คความเคลื่อนไหวต่างๆ ในหนึ่งวันที่ผ่านมาซึ่งสำหรับเธอนั้นเป็นหนึ่งวันที่ผ่านมาเหตุการณ์เลวร้ายมามากมายเหลือเกิน เกิดแต่กับอรฤดีจริงๆ สินะ!มีแต่เรื่องแต่ราวไม่เว้นวันเห็นทีคงต้อง หาเวลา เข้าวัดเข้าวา ทำบุญสะเดาะเคราะห์บ้างสักหน่อย“ผมไม่ได้หมายความแบบนั้นนะคุณ ผมเป็นห่วงคุณจริงๆ”“ฉันว่าเราเลิกพูดเรื่องนี้กันดีกว่าค่ะคนที่คุณควรจะเป็นห่วงคือคนรักของคุณไ
“คุณอรฟื้นแล้ว.. ดื่มน้ำก่อนสักหน่อยนะครับ”เมื่อรฤดีลืมตาขึ้นมาก็เห็นว่าเปรมนั่งมองเธออยู่ด้วยรอยยิ้มเมื่อเขาเห็นว่าเธอได้สติลืมตาขึ้นมาแล้วเขารีบลุกขึ้นไปรินน้ำใส่แก้วมาให้เธอดื่มด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใยและท่าทางที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนยามที่ได้จ้องมองเธอ“อึก อึก.. ขอบคุณมากนะคะแล้วแผลของคุณ..”เมื่อดื่มน้ำเสร็จเธอก็รีบกวาดสายตาไปมองที่แขนของชายหนุ่มซึ่งตอนนี้เค้าทำแผลเรียบร้อยแล้ว“ไม่ต้องห่วงนะครับทำแผนเรียบร้อยแล้ว ถึงจะลึกไปหน่อยแต่อีกไม่กี่วันก็คงหายแล้วครับ”“แผลลึกมากใช่ไหมคะ อรว่าแล้วเลือดไหลเต็มเลยเพราะอรแท้ๆ เลยขอโทษนะคะคุณเปรม”“หึหึ ผมหยอกเล่นครับ แผลไม่ได้ลึกอะไรมากขยันกินยา ขยันล้างแผลไม่กี่วันก็หายแล้วครับ”เมื่อได้ยินอย่างนั้นเธอก็รู้สึกโล่งใจมันรู้สึกไม่ดีเลยจริงๆ ที่มีคนต้องมาเจ็บตัวเพราะเธออย่างนี้บ่อยๆ“คุณกำลังจะเดินไปไหนครับมืดๆ แบบนี้อันตรายถ้าคุณอรอยากได้อะไรบอกผมได้นะครับ”ชายหนุ่มเปลี่ยนเรื่องคุยเมื่อเห็นว่าใบหน้าของเธอหมองลงไปอย่างเห็นได้ชัดคงจะนึกโทษตัวเองอยู่ในใจแน่นอน“อรแค่จะเดินไปตลาดข้างหน้าเองค่ะไม่ได้อยากได้อะไรกะว่าจะไปเดินเล่นแต่เกิดเร
พี่ชายที่รักน้องสาวมากกว่าสิ่งใดเมื่อเห็นอย่างนั้นก็รู้สึกเจ็บปวดไปไม่น้อยกว่ากันถึงน้องเขาจะเคยทำเรื่องไม่ดีกับจอมทัพในอดีตแต่เมื่อได้โอกาสแก้ตัวเธอก็พยายามอย่างมากจนผ่านพ้นมาได้.. แต่เหมือนเวรกรรมจะไม่ได้ปล่อยผ่านไปเหมือนใจคน .. เลยสักนิด นี่สินะที่เขาว่ากฎแห่งกรรมยุติธรรมเสมอ ..เขาส่ายหน้าไปมาเบาๆ อย่างคิดไม่ตกเขาเข้าใจความรู้สึกของน้องสาวตัวเองดีและก็เข้าใจความรู้สึกของอรฤดีแน่นอนว่าเข้าใจความรู้สึกที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของจอมทัพด้วยเช่นกัน..แต่จะให้ทำอะไรโจ่งแจ้งได้ล่ะ .. ตืดดด ตืดดดด “อืมว่าไง..”“โอกาศมาถึงแล้วครับนาย” ขณะที่กำลังคิดไม่ตกอยู่สายสำคัญจากลูกน้องคนสนิทก็ดังขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดที่น่าพอใจริมฝีปากหนาก็เหยียดยิ้มออกมาจางๆ ก่อนจะรีบขับรถออกจากบ้านไปทางฝั่งขออรฤดีเองที่ปุบปับออกมานั้นก็ไม่รู้จะไปที่ไหนถ้ากลับบ้านแม่ของเธอจะต้องรู้เรื่องแน่ๆ แล้วยิ่งช่วงหลังๆ มานี้ทัศนีย์ขอให้เธอเฝ้าจอมทัพแทนในช่วงกลางคืนด้วยโดยอ้างว่าตนเองติดงานสำคัญในช่วงนี้ ยิ่งใกล้ค่ำแล้วด้วยไม่ได้มีแผนว่าจะไปไหนเลย แต่ด้วยความโมโหจึงปากไวเท้าไวไปหน่อยพูดปุ๊บก็เดินออกมาโดยไม่มีจุดหมายปลายทางเลย
“ผมต้องหล่อให้ทันวันแต่งงานสิ” ไม่รู้ทำไม คำพูดนี้พาให้สองสายตามาบรรจบสอดประสานกันโดยอัตโนมัติแล้วหัวใจดวงน้อยๆ ในอกของคนทั้งสองอยู่ๆ ก็เต้นแรงผิดจังหวะขึ้นมาเสียอย่างนั้น…“อะ เอ่อ.. เสร็จแล้ว สะ เสร็จแล้ว”อรฤดีใบหน้าแดงก่ำพูดออกมาตะกุกตะกักก่อนจะหลบสายตาของชายหนุ่มตรงหน้าแล้วขยับตัวลงจากเตียงคนป่วยไปซึ่งก็ไม่ต่างกันจอมทัพเองก็หันหน้ามองซ้ายมองขวาไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรหรือทำตัวยังไงต่อได้แต่ล้มตัวลงนอนแล้วเปิดทีวีดู เพื่อไม่ให้บรรยากาศในห้องตอนนี้มันอึดอัดมากจนเกินไปก๊อก ก๊อก ก๊อก แกร่กก..เสียงประตูที่ดังขึ้นไม่ได้ทำให้เขาและเธอให้ความสนใจมากนักเพราะถ้าไม่ใช่คุณหมอหรือพยาบาลก็ต้องเป็นพ่อหรือแม่ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างแน่นอน..“จอมขาาาาา” “ปัด..”ขวับ! ..ทั้งจอมทัพและอรฤดีเหมือนจะตกใจชะงักนิ่งไปชั่วครู่พร้อมๆ กันเพราะคิดไม่ถึงว่าคนที่เปิดประตูเข้ามาจะเป็นผู้หญิงคนนี้…“ปัดคิดถึงคุณจังเลยค่ะ ใจร้ายที่สุดเลยไม่ยอมบอกต้องให้สืบเองถึงได้รู้ว่าจองพักรักษาตัวอยู่ที่นี่”ลูกปัดเดินตรงไปที่ชายหนุ่มแล้วโอบกอดเขาเต็มสองแขนก่อนจะหอมแก้มทั้งซ้ายขวาของเขาราวกับในห้องนี้มีกันอยู่เพียงสองคนอร
ห้องอาหารในโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง“เอ็งว่าลูกของพวกเราจะรักกันหรือยังวะ”สุเมธยกแก้วไวน์ ในมือขึ้นมาดื่มก่อนจะถามเพื่อนรักอย่างคเชนทร์ด้วย รอยยิ้ม“ไม่รักกันวันนี้วันหน้าก็ต้องรักกันอยู่ดีแต่ลูกข้าเนี่ยสิยังใจแข็งไม่ยอมอ่อนสักทีไม่รู้จะได้อุ้มหลานเมื่อไหร่”คเชนทร์ส่ายหัวเมื่อพูดถึงลูกสาวจอมดื้อของตัวเองที่เขารู้นิสัยของเธอดี“ตาจอมก็ใช่ย่อยที่ไหนเรื่องปากแข็งน่ะที่หนึ่งไม่รู้ว่าหนูอรจะรู้ตัวหรือเปล่าว่าเจ้าคนทึ่มตรงหน้าปากไม่เคยตรงกับใจเลยสักครั้ง”ทัศนีย์เอ่ยพูดขึ้นมาบ้างถึงลูกชายของตัวเองที่ดูเหมือนก็จะยังไม่รู้หัวใจตัวเองเหมือนกัน“เอาน่าตอนนี้ทั้งสองคนก็ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันเต็มที่คงจะต้องมีอะไรดีๆ เกิดขึ้นบ้างนั่นแหละเรามาฉลองกันดีกว่า”สิริวดีพูดพร้อมกับยกแก้วขึ้นชนกับทั้งสามคนเพื่อเฉลิมฉลองให้กับแผนการของตนเองอย่างมีความสุข“นั่นสินั่นสิ แต่บอกไว้ก่อนเลยนะถ้าเป็นหลานสาวต้องมาให้มาอยู่กับข้านะโว้ยไอ้เมธ” “ได้เลยๆ ถ้าเป็นหลานชายข้าจะยกสมบัติให้หมดไม่ให้พ่อมันสักชิ้นโทษฐานที่ทึ่มดีนัก”“ฮ่าๆๆ”แล้วทั้งสองครอบครัวก็หัวเราะชอบใจกับแผนการของตัวเองที่ดูจะค่อยๆ เป็นไปได้อย่างราบรื่นดี “
“มาคนเดียวเหรอครับ ..” เสียงที่ไม่ค่อยจะคุ้นหูนักแต่ก็พอจะจำได้ว่าเป็นเสียงใครดังขึ้นดึงเธอออกจากภวังค์ความคิด“เอ่อ ค่ะ” “ผมขอนั่งด้วยได้ไหม” “หืมม ค่ะ” คนที่ยังเบลอๆ ตอบอึกอักออกไปไม่ทันได้ใช้ความคิดคนตัวสูงที่ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มอบอุ่นก็หย่อนตัวนั่งลงตรงข้ามเธอ เรียบร้อย“คุณอรมีธุระแถวนี้เหรอครับ” ที่ผ่านมาก็พอจะรู้อยู่หรอกว่าเธอไม่ค่อยอยากจะสานสัมพันธ์กับเขาสักเท่าไหร่แต่แล้วยังไงล่ะในเมื่อเธอยังไม่มีเจ้าของเขาก็มีสิทธิ์ไม่ใช่หรือไง“ใช่ค่ะ ทำธุระเสร็จแล้วอรว่ากำลังจะกลับอยู่พอดีเลยค่ะ”ถึงเพิ่งจะลงมาเพราะต้องการให้อีกคนมีเวลาส่วนตัวแต่เมื่อพูดออกไปแล้วแบบนี้ก็คงต้องไปเดินเตร่อยู่ในโรงพยาบาลก่อนก็แล้วกัน“อย่าตัดสัมพันธ์ผมขนาดนั้นเลยครับคุณอรผมไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไรเลยถ้าสุดท้ายแล้วเรื่องของเราเป็นไปไม่ได้จริงๆ ผมขอเป็นเพื่อนกับคุณอรได้ไหม”เปรมรีบพูดความในใจออกมาเมื่อเห็นท่าทีว่าเธอกำลังจะจากเขาไปอีกครั้งความรู้สึกที่เขามีให้เธอตั้งแต่วินาทีแรกมันออกมาจากความรู้สึกของเขาจริงๆ ไม่ได้มีเล่ห์เหลี่ยมอะไรกับเธอเลยแม้แต่น้อยถึงแม้จะรู้ว่าเธอกำลังจะแต่งงานแต่ความรู้สึกที่มีต่อเธอนั