แชร์

บทที่ 2

ผู้เขียน: จิ้งซิง
พิธีปักปิ่นอันใด?

พิธีปักปิ่นของยางผ่านไปนานแล้วไม่ใช่หรือ?

ความอัปยศที่ได้รับในพิธีปักปิ่นเวลานั้น นางยังคงได้จำได้จนถึงทุกวันนี้

เสียงหัวเราะเยาะของแขกทั้งหลาย การเยาะเย้ยถากถางของพี่ชาย การถอนหมั้นของคู่หมั้น รวมไปถึงการตำหนิของบิดามารดา...

นางเคยผ่านสถานการณ์เช่นนั้นมาแล้วครั้งหนึ่ง

ทว่าตอนนี้ เหตุใดถึงเป็นพิธีปักปิ่นอีกเล่า?

หรือว่าเวินเยวี่ยจะเล่นปาหี่ใหม่อะไรอีก อยากให้นางอับอายขายหน้าอีกครั้งแล้วค่อยส่งนางไปตายหรือ?!

เวินซื่อหายใจถี่กระชั้นขึ้นในพริบตา

แต่ในตอนที่นางกำลังจะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ สายตาของนางกลับหยุดชะงักไปทันที

เดี๋ยวก่อน!

นางเบิกตาโต จ้องมองมือสองข้างที่สมบูรณ์ไร้บาดแผลของตัวเอง แล้วก้มหน้ามองขาเท้าสองข้างของตัวเองทันที ใบหน้าค่อย ๆ ฉายแววเหมือนไม่อยากจะเชื่อ

มือและเท้าของนางถูกทำลายจนพิการไปแล้วไม่ใช่หรือ?

เหตุใดตอนนี้กลับหายดีหมดแล้ว?

นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?

ควรรู้เอาไว้ว่าเอ็นมือเอ็นเท้าของนางถูกตัดจนขาดหมดแล้ว ไม่มีทางฟื้นฟูกลับมาได้อีก!

เวินซื่อที่ตระหนักได้ถึงความผิดปกติจึงค่อย ๆ หันหน้ากลับมามองห้องนี้อีกครั้ง

เป็นการตกแต่งทั้งหมดที่ค่อย ๆ ผสานเข้ากับในความทรงจำ

นางเบนสายตาไปยังโต๊ะเครื่องแป้งที่อยู่ด้านหนึ่งของห้อง

เดินเข้าไปทีละก้าว เรือนร่างเพรียวบางค่อย ๆ สะท้อนอยู่บนกระจกทองแดง

ดวงหน้าอ่อนเยาว์ หน้าตาที่สมบูรณ์ดี และเครื่องแต่งกายที่อ่อนวัย...

นี่เห็นได้ชัดว่าเป็นรูปลักษณ์ของนางก่อนที่จะโดยเวินเยวี่ยทำลายใบหน้า และเป็นรูปลักษณ์ของนางก่อนพิธีปักปิ่น!

มือเท้าที่สมบูรณ์ ห้องที่คุ้นเคย และใบหน้าที่ไม่มีรอยแผลเป็นสักนิดเดียว...

เวินซื่อพลันผุดการคาดเดาอันน่าเหลือเชื่อขึ้นในก้นบึ้งของจิตใจ...

...หรือว่านางกลับมาเกิดใหม่แล้ว?

ย้อนกลับมาวันพิธีปักปิ่นของนาง?

เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้นี้ เวินซื่อก็เอามือทั้งสองข้างปิดหน้าตัวเอง เผยให้เห็นสีหน้าคลุ้มคลั่ง

ใช่แล้ว ใช่แล้ว...

นางตายไปนานแล้ว!

ตายภายใต้ดาบของเวินจื่อเยวี่ย!

น่าเสียดาย นายไม่ได้ตายไปเลย

นางเกิดใหม่แล้ว?!

เหอะ!

สวรรค์ช่างชอบกลั่นแกล้งนางเสียจริง

ทั้ง ๆ ที่นางไม่อยากมีความเกี่ยวพันใด ๆ กับตระกูลเวินอีกต่อไปแล้ว แต่สวรรค์กลับอยากให้นางกลายเป็นบุตรสาวของตระกูลเวินอีกครั้ง!

เวินซื่อกัดริมฝีปากแน่นจนเลือดเกือบจะไหลออกมา

หลังจากที่ได้ลิ้มรสชาติคาวเลือด นางถึงใจเย็นลงในที่สุด ก่อนจะทำสีหน้าเฉยเมย

แม้สวรรค์จะเล่นตลกกับนาง แต่ดูเหมือนว่าการเล่นตลกนี้ก็ไม่ใช่ว่าไม่อาจใช้ประโยชน์ได้เหมือนกัน

ถึงอย่างไรแม้แต่ความตายนางก็ยังไม่กลัว แล้วนางยังจะกลัวการมีชีวิตอยู่หรือไร?

ชาติที่แล้ว

นางเป็นบุตรสาวภรรยาเอกที่ได้รับความรักความเอ็นดูที่สุดของจวนเจิ้นกั๋วกง ตั้งแต่เล็กก็เป็นน้องห้าที่พี่ชายทั้งสี่คนโปรดปรานที่สุด เป็นบุตรสาวคนเล็กที่บิดาปกป้องมากที่สุด

กล่าวได้ว่าก่อนอายุสิบห้านางเป็นไข่มุกในมือของทั้งจวนเจิ้นกั๋วกง

ทว่าจนกระทั่งเวินซื่ออายุสิบห้า บิดาพาเด็กสาวคนหนึ่งมาจากข้างนอก บิดาบอกว่านั่นเป็นบุตรสาวอีกคนที่เขาทิ้งไว้ข้างนอก เป็นน้องสาวของพวกเขา ชื่อว่าเวินเยวี่ย

และตั้งแต่นั้นมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป

ท่านพ่อให้ความสนใจเวินซื่อน้อยลงเรื่อย ๆ และเอาใจใส่น้องสาวมากขึ้นเรื่อย ๆ

พี่ชายทั้งสี่คนก็พากันเก็บความรักความเอ็นดูที่เคยมอบให้นางคืนกลับไป แล้วเปลี่ยนไปมอบสิ่งเหล่านี้ให้กับเวินเยวี่ยทั้งหมด

ชาติก่อนนางไม่รู้เลยว่าตนเองทำความผิดอันใด

นางพยายามคิดหาทางกู้กลับคืนมา แต่สิ่งที่แลกมาคืออะไร?

ขอเพียงเวินเยวี่ยร้องไห้

พี่ใหญ่บังคับให้นางคุกเข่าต่อหน้าผู้คน

พี่รองตัดมือเท้าทั้งสองข้างของนาง

พี่สามทรมานนางอย่างหนัก

พี่สี่ทำลายโฉมหน้าและชื่อเสียงของนาง

แม้แต่บิดาก็ขับนางออกจากวงศ์ตระกูล ไล่ออกจากบ้านเพื่อเวินเยวี่ยด้วยคำพูดประโยคเดียวว่า “ไม่คู่ควรกับแซ่เวิน” ตั้งแต่นั้นมานางก็กลายเป็นที่จงเกลียดจงชังที่ทุกคนในเมืองหลวง

เวลาสามปีสั้น ๆ บุตรสาวภรรยาเอกของจวนกั๋วกงที่สูงส่งอย่างนางก็มีจุดจบด้วยการสูญเสียทั้งฐานะและชื่อเสียงเกียรติยศ

นางสิ้นหวังหมดกำลังใจ เดิมทีเตรียมตัวจะออกจากสถานที่แห่งความโศกเศร้าเสียใจอย่างเมืองหลวง คิดจะหาสถานที่เริ่มต้นชีวิตใหม่ใช้ชีวิตอย่างเงียบ ๆ ปิดบังตัวตน

ทว่าจู่ ๆ เวินเยวี่ยกลับใส่ความว่านางขโมยหยกแขวน สกุลเวินจึงส่งคนไปจับตัวนางกลับมาทันที บีบบังคับให้นางมอบหยกแขวนออกมา

เรื่องที่น่าขันคือ จนกระทั่งตอนสุดท้าย นางยังคาดหวังว่าพวกเวินเฉวียนเซิ่งจะเห็นแก่ความรักความผูกพันที่มีต่อนางอยู่บ้างหรือไม่

แต่ผลสรุปของการเอาชีวิตมาเดิมพันก็คือความผิดเพ้อฝัน!

เวินซื่อสูดลมหายใจลึก หลับตาตัดขาดจากความทรงจำอันแสนทุกข์ทรมานในชาติที่แล้วของตน

บางทีของพวกนั้นอาจไม่ใช่ของนางเลย

ดังนั้นนางไม่ควรฝืนมาตั้งแต่แรกแล้ว

ไม่เป็นไร ชาติที่แล้วเลือกผิด ชาตินี้นางจะเปลี่ยน!

“แกรก”

ในตอนนี้เอง หยกแขวนที่คุ้นเคยพลันร่วงลงมาจากร่างของเวินซื่อ

เมื่อเวินซื่อที่ได้สติกลับมาเพราะความเคลื่อนไหวมองไป นางก็ดีอกดีใจไม่หยุดทันที “เป็นหยกแขวนของท่านแม่นี่นา!”

นางรีบหยิบหยกแขวนขึ้นมา เช็ดฝุ่นบนนั้นอย่างระมัดระวัง

แต่การเช็ดครั้งนี้กลับทำให้นางพบความผิดปกติ “หยกแขวนหักแล้ว?”

นางจำได้ว่าหยกแขวนที่มารดาให้นางคือหยกทรงวงกลมคู่ ทว่าตอนนี้หยกแขวนชิ้นนี้กลับหักไปครึ่งหนึ่ง เหลือเพียงชิ้นตรงกลางเท่านั้น

นางค้นหาไปทั่ว แต่ก็ยังหาไม่เจอ

สุดท้ายนางทอดสายตาไปที่หยกแขวนอีกครั้ง มองรอยหักที่เรียบเสมอกันนั้นแล้วสงสัยเล็กน้อย

“หรือว่าอีกครึ่งหนึ่งของหยกแขวนนี้ไม่ได้ร่วงลงมา?”

นางยื่นมือไปลูบจุดที่หัก ใครจะรู้ว่าวินาทีต่อมา นางจะหายตัวไปจากที่เดิมในพริบตา

หลังจากที่วิงเวียนอยู่ชั่วครู่ เวินซื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง กลับพบว่าตนเองไม่ได้อยู่ในห้องเดิมแล้ว แต่ว่าอยู่ในพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลปกคลุมด้วยหมอกขาว

ที่นี่คือที่ใด?

เวินซื่อนั่งยองลงมาสัมผัสทุ่งหญ้าข้างใต้เท้าที่ให้ความรู้สึกสมจริงอย่างยิ่ง การคาดคะเนอย่างกล้าหาญพรั่งพรูขึ้นมาในความคิดของนาง

ที่นี่คงไม่ได้อยู่ในหยกแขวนกระมัง?

นอกจากนี้ยังมีเรื่องการเกิดใหม่ของนางอีก หรือว่าจะเกี่ยวข้องกับหยกแขวนนี้ด้วย?

เวินซื่อข่มกลั้นความสงสัยในใจ มองไปรอบด้าน มิติแห่งนี้ไม่ได้ซับซ้อนเลย มีทุ่งราบ ลำธารใสกระจ่าง นอกจากนี้ยังมีกระท่อมฟางที่สร้างอย่างเรียบง่ายมาก

นางเดินเข้าไปดู น่าเสียดายที่ไม่มีคนอยู่ข้างใน ดูไม่เหมือนว่าเคยมีคนอาศัยมาก่อน

นางออกจากระท่อมฟางแล้วเดินไปข้างหน้า ถึงค่อยพบว่าปลายอีกฝั่งของลำธารเหมือนจะปลูกพืชพรรณดอกไม้ไว้มากมาย

ผิดแล้ว ไม่พืชพรรณดอกไม้

เวินซื่อรีบเดินเข้าไปใกล้ เบิกตาโตมองให้ละเอียด

นี่มันโสมคน?

เห็ดหลิงจือ?

โสมทะเลทราย?

สือหูผิวเหล็ก?

ยังมีถังเช่าด้วย?

นอกจากพวกนี้แล้ว ยังมีพืชสมุนไพรอีกมากมายที่เวินซื่อแทบไม่รู้จัก

ทว่าแค่นางจำออกมาได้หลายชนิดนั้นก็คาดเดาได้ว่าทั้งหมดที่ปลูกในนี้ล้วนเป็นสมุนไพร

นอกจากนี้มีหลายชนิดยังเป็นสมุนไพรมายากยิ่ง

แต่สมุนไพรเหล่านี้เติบโตในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน บางชนิดอยู่บนหน้าผา บางชนิดอยู่ในป่าลึก บางชนิดต้องการสภาพแวดล้อมที่หนาวเย็นสุดขีด หรือว่ามีความร้อนสูงจัด...

สมุนไพรที่มีความต้องการแตกต่างกันมากมายเช่นนี้ล้วนปลูกขึ้นที่นี่ได้ทั้งหมด!

หรือว่าเป็นเพราะมิติแห่งนี้?

ไม่สิ ยังมีน้ำด้วย!

เวินซื่อพบว่ายิ่งเป็นสมุนไพรที่ปลูกยากก็จะยิ่งอยู่ใกล้ลำธาร เกรงว่าน้ำในลำธารก็เป็นหนึ่งในปัจจัยท่ามารถทำให้สมุนไพรเหล่านี้เติบโตขึ้นที่นี่

เวินซื่อมองทุกสิ่งทุกอย่างนี้ แล้วอดพึมพำกับตัวเองไม่ได้ “ท่านแม่ หยกแขวนที่ท่านทิ้งไว้ให้ข้าคืออะไรกันแน่?”

หลังจากที่ตกตะลึง เวินซื่อพลันนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

ชาติที่แล้วจู่ ๆ เวินเยวี่ยบีบบังคับให้นางมอบหยกแขวนออกมา หรือว่าเวลานั้นเป็นเพราะนางค้นพบมิติแห่งนี้?

แต่ก็ไม่ถูกเหมือนกัน หยกแขวนชิ้นนี้ไม่เคยออกห่างจากตัวนางเลย

หากไม่ใช่เพราะวันนี้นางเข้ามาในนี้โดยบังเอิญ นางก็คงไม่สามารถค้นพบมิติแห่งนี้ได้เลย

อีกทั้งดูจากท่าทางก่อนหน้านี้ของเวินเยวี่ย เห็นได้ชัดว่าไม่รู้เรื่องเช่นกัน

ดังนั้นหากไม่มีคนอื่นล่วงรู้ว่าหยกแขวนชิ้นนี้มีมิติอยู่แล้วค่อยบอกเวินเยวี่ย ก็เป็นเวินเยวี่ยไม่ได้ทำเพื่อมิติเลย แต่เป็นเพราะสาเหตุอื่น

ไม่รู้ว่าเหตุใดลางสังหรณ์ในใจของเวินซื่อเอนเอียงไปทางอย่างหลังมากกว่า

แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ตอนนี้นางรู้ความลับนี้แล้วก็ต้องซ่อนหยกแขวนไว้ให้ดี ไม่อาจให้ใครสังเกตเห็นได้เป็นอันขาด!

ตอนนี้มีมิติของหยกแขวนอยู่ในมือเช่นนี้ แผนการที่เวินซื่ออยากจะแก้แค้นเวินเยวี่ยกับคนของสกุลเวินก็ยิ่งมีความมั่นใจขึ้นเล็กน้อยว่าจะประสบความสำเร็จ

หลังจากที่นางทำความเข้าใจวิธีการเข้าออกมิติของหยกแขวน ไม่นานก็กลับมาที่ห้อง

นางไม่อาจอยู่ในมิตินานเกินไป ถึงอย่างไรวันนี้เป็นพิธีปักปิ่นของนาง นางรู้ว่าจะมีคนมาหานาง

แต่สิ่งที่เวินซื่อไม่รู้คือ หลังจากที่นางออกจากมิติของหยกแขวน จวนใหญ่อีกแห่งของเมืองหลวง หรือก็คือภายในจวนอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน ชายหนุ่มรูปงามที่พิงข้างหน้าต่างงีบหลับพลันตื่นขึ้นมาจากฝัน

เขาหยิบหยกแขวนบนโต๊ะขึ้นมา มองหยกแขวนทรงวงกลมคู่ที่ไม่รู้ว่าเหตุใดจู่ ๆ ถึงเหลือเพียงครึ่งเดียว ก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อย

.....

“ปัง!”

“น้องห้า ไสหัวออกมานะ!”

“อย่าคิดว่าเจ้าหลบอยู่ในห้องแล้ว ข้าจะไม่กล้ามาหาเจ้า!”

ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ท่าทางดุดัน น้ำเสียงดูหัวเสีย ราวกับสิงโตที่เต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราดบุกเข้ามาในห้องของคุณหนูห้าเวินซื่อ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (6)
goodnovel comment avatar
onnalin
กลับมาที่เก่า เริ่มต้นใหม่ เช็ง
goodnovel comment avatar
Suthada
อ่านอย่างทำใจ
goodnovel comment avatar
ฉัตรชนก วงค์สูน
น่าสนใจมาก
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 682

    “เวินซื่อ? นางมาทำอะไร?”เวินจื่อเยวี่ยได้ยินดังนั้นก็เป็นคนแรกที่เอ่ยปากขึ้น กล่าวด้วยความไม่พอใจเวินเฉวียนเซิ่งจึงหันไปมองจงหย่งโหว “ท่านเรียกนางมาหรือ?”ถึงแม้จะเป็นคำถาม แต่น้ำเสียงมั่นใจอย่างยิ่งจงหย่งโหวไม่สนใจเขาเลยแม้แต่น้อย ลุกขึ้นเตรียมพาภรรยาและบุตรชายของเขาออกไปต้อนรับในขณะนั้นเอง กลับมีร่างหนึ่งเดินออกไปนอกประตูเร็วกว่าเขาจงหย่งโหวเหลือบมอง นั่นมิใช่เวินฉางอวิ้นหรอกหรือ?เขาไม่ได้มองผิดไปใช่หรือไม่?ตอนนี้คนของสกุลเวินล้วนมีอคติกับเวินซื่อมิใช่หรือ?เหตุใดฉางอวิ้นผู้นี้ พอได้ยินว่าเวินซื่อมาถึง กลับรีบร้อนยิ่งกว่าเขาเสียอีก?ถึงขั้นที่มองเยื้องไปทางด้านหลัง มุมปากของฉางอวิ้นนั่น ดูเหมือนจะประดับไปด้วยรอยยิ้มยินดี?เวินฉางอวิ้นคาดไม่ถึงจริงๆ ว่า น้องห้านางจะมาที่จวนเจิ้นกั๋วกงของพวกเขาในวันนี้?!เป็นเพราะน้องรองหรือ? หรือว่าเพื่อชุยเส้าเจ๋อเจ้านั่น?ช่างเถอะ ไม่ว่านางจะมาด้วยเหตุผลใดก็ตาม แค่ได้พบน้องห้า เขาก็ดีใจแล้ว“คุณชายใหญ่ ช้าหน่อยขอรับ ร่างกายท่านยังไม่หายดี อย่าวิ่งเร็วขนาดนั้น”เวินฉางอวิ้นรีบร้อนวิ่งออกไป อันเซิ่งที่อยู่ข้างหลังเขารีบตามไปติดๆ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 681

    “ท่านแม่ ไม่ใช่ความผิดของท่าน เป็นความผิดของลูกเอง ลูกผิดเองที่ไม่เชื่อฟังท่าน”ชุยเส้าเจ๋อก็กอดมารดาของเขาพลางร้องไห้โฮสองแม่ลูกยังคงนั่งร้องไห้อยู่บนพื้นเช่นนั้น ร้องห่มร้องไห้เสียงดังจนทำให้เวินเฉวียนเซิ่งและคนอื่นๆ ฟังแล้วปวดหัวไปตามๆ กันเวินเยวี่ยที่เป็นคนกลางรู้สึกกระอักกระอ่วนใจเป็นอย่างยิ่งนางไม่คาดคิดจริงๆ ว่า เวินจื่อเยวี่ยและเวินอวี้จือพวกเขาจะลงมือกับชุยเส้าเจ๋อ ในวันที่นางกลับบ้านเดิมเช่นนี้แถมยังโหดเหี้ยมถึงเพียงนั้น ทั้งหักขา ทั้งวางยาพิษ แก้แค้นเขาถึงเพียงนี้ หรือคิดจะให้นางใช้ชีวิตอยู่ในจวนจงหย่งโหวไม่ได้อีกต่อไปแล้ว?!ไอ้โง่สองคนเมื่อวานเวินเยวี่ยดีใจมากเพียงใดตอนที่ได้กลับบ้านเดิม วันนี้นางก็เสียใจมากเท่านั้นหากนางรู้ตั้งแต่แรกว่าเวินจื่อเยวี่ยและเวินอวี้จือจะลงมือกับชุยเส้าเจ๋อ นางยอมที่จะไม่ให้ชุยเส้าเจ๋อกลับมากับนางเสียยังดีกว่า!ก็คงจะไม่ถูกไอ้โง่สองคนนั้นก่อเรื่องวุ่นวายใหญ่โตเช่นนี้ แถมยังลากนางเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย!แต่ตอนนี้เรื่องมันเกิดขึ้นไปแล้ว เวินเยวี่ยทำอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงคิดหาวิธีมาชดเชย“ฮูหยิน บนพื้นเย็นนัก มิเช่นนั้น ท่านกับท่านพี่

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 680

    วันถัดมารถม้าของจวนจงหย่งโหวและองครักษ์หลายคนของจวนจงหย่งโหว มาถึงนอกประตูใหญ่อารามสุ่ยเยว่แต่เช้าตรู่แต่พวกเขาไม่ได้เข้าไปเคาะประตูทันทีกลับรอให้เวินซื่อทำวัตรเช้าและสวดมนต์ขอพรเสร็จแล้ว จึงขอร้องแม่ชีคนหนึ่งอย่างนอบน้อมให้ช่วยไปแจ้งข่าวหลังจากนั้นครู่หนึ่ง เวินซื่อที่สวมชุดพื้นสีขาวลายสีม่วงนั่งอยู่บนรถม้าของจวนจงหย่งโหวโยกเยกตลอดทางเพื่อมุ่งหน้าเข้าเมืองหลวงภายในรถ เวินซื่อนั่งตัวตรง หลับตาพักผ่อน จิตใจนิ่งสงบดั่งน้ำแต่บรรยากาศที่ตรงข้ามกับภายในรถม้าคือผู้คนด้านนอกวันนี้ผู้ที่มารับเวินซื่อล้วนเป็นทหารคนสนิทของจงหย่งโหวในนั้นชุยหย่วนคนที่เป็นผู้นำองครักษ์คือลูกพี่ลูกน้องฝั่งบิดาของจงหย่งโหวเรื่องหลายอย่างของจงหย่งโหวล้วนให้เขาจัดการ รวมถึงเรื่องที่ติดต่อกับจวนเจิ้นกั๋วกงดังนั้นแผนในครั้งนี้ของจงหย่งโหวก็ไม่ได้ปิดบังเขา เพราะตอนนี้จงหย่งโหวกำลังต่อกรกับคนสกุลเวินในจวนเจิ้นกั๋วกง ดังนั้นเขาจึงส่งชุยหย่วนมารับเวินซื่อชุยหย่วนไม่ค่อยรู้เรื่องราวของธิดาศักดิ์สิทธิ์อย่างเวินซื่อมากนัก ดังนั้นเมื่อรู้ว่าญาติผู้น้องของตนจะเชิญธิดาศักดิ์สิทธิ์อายุน้อยคนนี้ไปสยบจวนเจิ้น

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 679

    สิ่งที่จงหย่งโหวนำออกมาคือสมุดบัญชีเล่มหนึ่งเมื่อเห็นสมุดบัญชีในมือเขา เวินซื่อฉุกคิดถึงบางอย่างทันที สีหน้านางเปลี่ยนพลัน เอ่ยอย่างตะลึง “สมุดบัญชีเล่มนี้เป็นของตระกูลใด?”คงไม่ใช่สมุดบัญชีของจวนจงหย่งโหว ยิ่งไม่ใช่สมุดบัญชีของจวนเจิ้นกั๋วกงหรอกนะ?หากเป็นของจวนเจิ้นกั๋วกงจริง ถ้างั้นจงหย่งโหวยังต้องการให้นางออกหน้าทำไม?ดังนั้นสมุดบัญชีเล่มนี้ต้องเป็นของตระกูลที่เวินซื่อนึกถึงเท่านั้นเมื่อเห็นปฏิกิริยาของเวินซื่อ จงหย่งโหวรู้ว่านางน่าจะรู้อะไรสักอย่างแน่นอนดังนั้นเขาจึงเอ่ยเถรตรง “หลังจากข้าน้อยรู้ว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์เตรียมจะสืบเชื้อสายสกุลหลาน นี่เป็นสิ่งที่ข้าน้อยเตรียมมอบให้ธิดาศักดิ์สิทธิ์ในพิธีเปลี่ยนแซ่ ซึ่งก็คือมรดกบางส่วนของสกุลหลาน”เป็นไปตามคาด!เวินซื่อรีบเดินลงจากบันได รับสมุดบัญชีเล่มนั้นมาจากมือจงหย่งโหว จากนั้นเปิดดูทันทีจงหย่งโหวไม่ได้ห้ามนาง มรดกเหล่านี้ของสกุลหลานอยู่ในมือเขามานานหลายปีแล้ว ในเมื่อยามนี้เวินซื่อจะเปลี่ยนเป็นแซ่หลาน สืบทอดสายเลือดสกุลหลาน เช่นนั้นมอบของเหล่านี้ให้เวินซื่อก็ถือว่ามอบคืนเจ้าของ“สิ่งที่อยู่ในสมุดบัญชีข้าน้อยล้วนได้รับมาจาก

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 678

    “หากครั้งนี้ธิดาศักดิ์สิทธิ์ยอมออกหน้าทวงความยุติธรรมให้จวนจงหย่งโหว นับจากนี้ไม่ว่าเรื่องใดพวกเราจวนจงหย่งโหวจะสนับสนุนธิดาศักดิ์สิทธิ์ คอยรับใช้ธิดาศักดิ์สิทธิ์”ไม่มีใครคาดคิดว่าหลังชุยเส้าเจ๋อเกิดเรื่องที่จวนเจิ้นกั๋วกง จงหย่งโหวที่ทราบข่าวไม่ไปจวนเจิ้นกั๋วกง แต่กลับมาที่ภูเขาหนานทันที พร้อมตะโกนเสียงดังหน้าอารามสุ่ยเยว่ เชิญเวินซื่อออกหน้าแทนจวนจงหย่งโหวผ่านไปสักครู่ เวินซื่อยืนอยู่หน้าประตูใหญ่อารามสุ่ยเยว่บนขั้นบันได้ นางยืนอยู่ที่สูง สีหน้าเรียบเฉย“ข้าน้อยคารวะธิดาศักดิ์สิทธิ์ ธิดาศักดิ์พันปีพันปีพันพันปี”จงหย่งโหวทำความเคารพอย่างนอบน้อมเวินซื่อเอ่ยเสียงเรียบ “อารามสุ่ยเยว่เป็นดินแดนบริสุทธิ์ ไม่ว่าเรื่องใดจงหย่งโหวโปรดระวังกิริยาวาจาด้วย อย่าเอะอะโวยวาย”“ขอธิดาศักดิ์สิทธิ์โปรดอภัย ข้าน้อยร้อนใจไปชั่วขณะจึงทำเช่นนี้ วันหน้าจะขึ้นเขามาใหม่ เพื่อขอรับผิดกับพระพุทธองค์ ขอขมาอาจารย์ทั้งหลายภายในอาราม”จงหย่งโหวรู้ว่าตัวเองทำกิริยาไม่เหมาะสม ดังนั้นจึงกล่าวคำขอรับผิดและขอขมาอย่างจริงใจเวินซื่อดูออก จึงไม่ถือสาหาความกับเขา“ดังนั้นท่านโหวเสียงดังด้วยเรื่องใด ตอนนี้พู

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 677

    เขาจะไม่ถือสาได้อย่างไร?!นั่นคือยาพิษเชียวนะ!ซ้ำยังทำให้ลำไส้เน่าเฟะ เป็นยาพิษร้ายแรงที่ทำให้คนทรมานยิ่งกว่าตายเชียวนะ?!เดิมทีชุยเส้าเจ๋อก็ทรงตัวไม่มั่นอยู่แล้ว เมื่อเห็นเวินจื่อเยวี่ยถือยาพิษเดินเข้ามาหาเขา เขาตกใจจนเซถอยหลังติดต่อกัน“ท่านอย่าเข้ามา อย่าเข้ามานะ!”“เวินจื่อเยวี่ย! ข้าเป็นญาติผู้น้องของท่านนะ เป็นสามีของเยวี่ยเอ๋อร์! ทั้งที่ตอนนี้พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว ทำไมพวกท่านยังทำกับข้าเช่นนี้?!”“ที่แท้เจ้ายังจำได้ว่าตัวเองเป็นสามีของน้องหกหรือ?”เวินจื่อเยวี่ยเดินไปตรงหน้าเขา สายตาที่มองดูเขาเย็นชามาก“ดังนั้นเจ้าในฐานะสามีที่เพิ่งแต่งงานของน้องหก กลับบ้านพร้อมน้องหก เจ้าไม่อยู่กับน้องหก แล้วมาอยู่ที่นี่ทำไม?”ชุยเส้าเจ๋อที่เหมือนถูกจับผิดในใจลนลานขึ้นมาทันที“ข้า...ข้าก็แค่ออกมาเดินเล่นเท่านั้น...”สายตาของเขาหลบหลีก ท่าทางที่แค่มองก็รู้ว่าร้อนตัวไม่อาจปิดบังเวินจื่อเยวี่ยกับเวินอวี้จือได้ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขารับรู้ถึงความคิดที่น่ารังเกียจของชุยเส้าเจ๋อตั้งแต่แรกนึกไม่ถึงว่าตอนนี้เขาแต่งงานกับเวินเยวี่ยแล้ว แต่ก็ยังนึกถึงเวินซื่อ!“ออกมาเดินเล่น?”เว

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status