คนที่กล้าเข้ามายุ่งกับเธอ กลั่นแกล้งเธอ ...รู้จักสามีของเธอดีแล้วหรือยัง
View Moreจู่ ๆ ก็มีสามีที่ถูกต้องตามกฎหมายแบบไม่ทันตั้งตัว เพราะเป็นความต้องการของผู้เป็นบิดาที่เพิ่งจะสิ้นลมหายใจไปได้เพียงเจ็ดวัน ทำให้อลินา หรือ ฮาน่า อารอน ลูกครึ่งไทยอเมริกันวัยยี่สิบปีปฏิเสธไม่ได้ เธอจำใจต้องจดทะเบียนสมรสกับผู้ชายที่เธอไม่รู้จัก แม้กระทั่งหน้าตาของสามีในทะเบียนเป็นอย่างไรเธอเองก็ไม่เคยเห็น วันที่จดทะเบียนสมรสก็มีเพียงทนายของเขาเท่านั้นที่นำเอกสารการจดทะเบียนสมรสมาให้เธอเซ็น ทำให้เธอตัดสินใจหนีไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ประเทศไทย ประเทศที่เป็นบ้านเกิดของเธอเองในทันทีที่ทุกอย่างเรียบร้อย
การจดทะเบียนสมรสในครั้งนี้เธอขอใช้สิทธิ์ในการคงสภาพการเป็นนางสาวเอาไว้ แม้ว่านามสกุลจะเปลี่ยนไปก็ตามที ที่เธอเลือกกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศไทย เพราะเธอจากมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กและที่นั่นไม่หลงเหลือคนที่รู้จักเธออีกแล้ว ผู้เป็นสามีแค่เพียงในนามไม่ได้ห้ามปราม แต่ทว่าเขากลับมอบบัตรเครดิตที่ไม่จำกัดวงเงินให้แทนการโผล่หน้ามาให้เธอเห็น จนหญิงสาวอดที่จะสงสัยไม่ได้ว่าเขาเป็นผู้ชายแบบไหน เธอนั้นรู้เพียงแค่ชื่อของเขาเท่านั้น มิสเตอร์เอเดน วินเทอร์ เพราะแบบนี้เธอถึงได้นามสกุลวินเทอร์ติดสอยห้อยท้ายชื่อของเธอมาด้วย แต่ที่เธอพอจะโล่งใจคือเขาไม่ใช่ผู้ชายแก่หงำเหงือก แต่เป็นชายหนุ่มที่มีอายุแก่กว่าเธอสิบปี
มือบางจ้องมองพาสปอตในมือก่อนที่จะตัดสินใจเดินทางออกจากเมืองชิคาโก เมืองที่เติบโตและใช้ชีวิตมานานนับยี่สิบปี ดีที่ว่าเธอนั้นถือพาสปอตสองสัญชาติทำให้เธอไม่ต้องใช้ชีวิตอย่างยุ่งยากในประเทศไทย ร่างระหงผิวขาวเนียนที่มีส่วนสูงร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรเดินผ่านจุดตรวจตั๋วไปโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ามีสายตาของใครบางคนที่คอยจับจ้องอยู่
“จะปล่อยนายหญิงไปแบบนั้นจริงๆ หรือครับท่านเอเดน”
บุ๊ชเอ่ยถามนายหนุ่มออกมา เขารู้ดีว่านายของเขานั้นสนใจในตัวนายหญิงมากขนาดไหน และเขาก็รู้ดีว่านายของเขานั้นไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนเหมือนกับภรรยาที่กำลังจะเดินทางออกจากเมืองชิคาโกไปในไม่ช้า
“อือ...ให้เธอได้ใช้ชีวิตอิสระไปอีกสักหน่อย นายก็รู้นี่ว่าเรายังมีงานที่ยังต้องจัดการอยู่อีกเยอะ ให้เธอสนุกกับชีวิตอิสระไปอีกสักพัก ก่อนที่ฉันจะได้ไปใช้สิทธิ์ของฉัน ตอนนี้ก็ส่งพวกที่อยู่ที่นั่นไปคอยสอดส่องดูแลเธอแทนฉันไปก่อนก็แล้วกัน ย้ำว่า...อย่าให้มีแมลงไม่ว่าจะตัวเล็กหรือตัวใหญ่มาไต่ตอมเธอเด็ดขาด เข้าใจไหม!!!”
เสียงทุ้มเย็นชาดังออกมาจากริมฝีปากหนาสีกุหลาบ แว่นตาสีดำที่ปกปิดดวงตาคมกล้าและค้ำอยู่บนสันจมูกโด่งของเขานั้นชวนให้สาวๆ เหลียวมอง แต่ก็ไม่มีผู้หญิงคนไหนเลยที่ได้รับไมตรีกลับไป
“เข้าใจครับเจ้านาย ผมจะสั่งให้ลูกน้องที่นั่นคอยดูแลนายหญิงอย่างดีเลย” บุ๊ซรับคำสั่งก่อนที่จะรีบสาวเท้าเดินตามนายเล็กไป
เอเดน วินเทอร์ ทายาทมาเฟียลำดับที่สามรุ่นที่ห้าของตระกูลวินเทอร์ ตระกูลของเขาทำธุรกิจสีเทามากมายในทวีปอเมริกาเหนือ ทวีปอเมริกาใต้และทวีปแอนตาร์กติกา เขามีพี่ชายสองคนที่ดูแลธุรกิจของตระกูลซึ่งอยู่ทวีปอเมริกาใต้และทวีปแอนตาร์กติกา ส่วนตัวเขานั้นเพิ่งจะขึ้นมารับหน้าที่ดูแลธุรกิจของครอบครัวแทนบิดาที่อายุมากขึ้นในทวีปอเมริกาเหนืออย่างประเทศสหรัฐอเมริกา ก่อนหน้านี้เขาทำธุรกิจส่งออกกับทวีปเอเชียอยู่และหนึ่งในนั้นก็มีประเทศไทยรวมอยู่ด้วย
ดวงตาคู่สวยจ้องมองวิวทางด้านนอกหน้าต่างของเครื่องบินลำใหญ่ ที่กำลังจะพาเธอเดินทางไปยังประเทศเป็นบ้านเกิด ดีที่ตัวเธอนั้นไม่เคยหยุดที่จะเรียนรู้ภาษาไทยเลย หรือแม้แต่ภาษาจีน ฝรั่งเศส และเยอรมัน เธอนั้นก็ถือว่าพูดได้อย่างเชี่ยวชาญ ผลการเรียนของเธอก็ได้รับเกียรตินิยมอันดับหนึ่งจากมหาวิทยาลัยชื่อดังของเมืองชิคาโก แต่เธอนั้นไม่คิดฝันมาก่อนเลยว่าสุดท้ายแล้วอนาคตของเธอจะต้องมาจบลงด้วยการเป็นภรรยาของผู้ชายที่ไม่เคยเห็นหน้า แม้จะเป็นภรรยาของเขาเพียงแค่ในนามก็ตามที
หญิงสาวยิ้มจางๆ ออกมาเมื่อนึกถึงความเป็นมิตรของผู้คนในประเทศไทย ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีเธอก็ไม่เคยลืม แต่รอยยิ้มที่เธอได้รับในวันนั้น ก่อนที่เธอจะย้ายมาอยู่อเมริกาแต่ทว่ากลับไม่ใช่รอยยิ้มของคนไทย ดูจากใบหน้าที่ส่อแววหล่อเหลาก็พอจะเดาออกว่าเขาเป็นฝรั่ง คงจะเป็นนักท่องเที่ยวที่บังเอิญช่วยเหลือเธอโดยบังเอิญ หากวันนั้นไม่ได้พบกับเขา...เธอก็คงจะไม่ได้มีโอกาสเติบโตขึ้นมาอย่างงดงามในวันนี้
“ฮาน่า...หนูรอแม่อยู่ตรงนี้ก่อนนะลูก เดี๋ยวแม่ไปโหลดกระเป๋ากับเช็กอินก่อน เข้าใจไหมคะ”
อารีญามารดาของอลินาในวัยห้าขวบเอ่ยขึ้น เด็กหญิงลูกครึ่งที่มีหน้าตาน่ารักราวกับตุ๊กตาพยักหน้าขึ้นลงอย่างรู้ความ ผู้เป็นมารดาจึงเข็นรถเข็นที่มีกระเป๋าอยู่ถึงสามใบเดินไปยังเคาน์เตอร์
เด็กหญิงเหลียวซ้ายทีขวาทีก่อนที่จะมองเห็นตุ๊กตาตัวเล็กของใครบางคนตกอยู่ ด้วยความเป็นเด็กเห็นอะไรน่ารักก็มักจะวิ่งเข้าหา เด็กหญิงที่สวมเสื้อโค้ตและรองเท้าผ้าใบสีขาวจึงวิ่งไปหาเจ้าตุ๊กตามอมแมมที่ตกอยู่ทันทีโดยที่ไม่ทันได้ระวัง รถเข็นที่เข็นกระเป๋ากำลังจะถูกเข็นผ่านโดยที่พนักงานมองไม่เห็นเด็กหญิงตัวเล็กคนนั้น แต่แล้วร่างเล็กก็ถูกร่างที่โตกว่าคว้าเข้าไปในอ้อมกอด ทั้งคู่ล้มลงไปบนพื้นแต่ดีที่เด็กหญิงไม่ได้รับบาดเจ็บ และคนที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเช่นกัน
“ไม่เป็นไรใช่ไหม”
สำเนียงภาษาอังกฤษชัดเจนดังขึ้นจากเด็กชายที่โตกว่าคนตัวเล็กที่ในมือยังมีตุ๊กตาต้นเรื่อง เด็กหญิงส่ายใบหน้าไปมา เด็กชายจึงยิ้มให้เธอด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน
“นายน้อย... ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ” ฝรั่งที่สวมสูทหลายคนวิ่งเข้ามาดูแลเด็กชาย
“ฉันไม่เป็นอะไร อืม... ระวังหน่อยนะตัวเล็ก ที่ไหนที่มีคนเยอะๆ มันไม่ค่อยปลอดภัยหรอก” เขาประคองเด็กหญิงให้ลุกขึ้นก่อนที่จะส่งยิ้มให้อีกครั้งแล้วเดินจากไปพร้อมกับฝรั่งที่สวมสูทสองคน
อารีญาไม่ทันได้เห็นเหตุการณ์แต่ได้ยินคนคุยกันว่ามีเด็กหญิงลูกครึ่งเกือบถูกรถเข็นกระเป๋าชน เธอที่โหลดกระเป๋าและเช็กอินเสร็จพอดี เธอจึงรีบเดินตามหาบุตรสาวของตนจนได้พบเด็กหญิงยืนโบกมือหย็อยๆ ให้กับใครบางคนที่น่าจะเดินจากไปได้ไม่นาน มือเล็กข้างหนึ่งกอดตุ๊กตาเอาไว้ อารีญาตกใจรีบวิ่งเข้าไปรวบร่างเล็กเข้ามาในอ้อมกอด
“ฮาน่า หนูไม่เป็นไรใช่ไหมคะลูก” เธอผละอ้อมแขนออกก่อนที่จะสำรวจร่างเล็กของบุตรสาวแล้วผ่อนลมหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ
“พี่ชายเขาช่วยหนูไว้ค่ะแม่ เขายิ้มสวย ผมสีบรอนด์ทองของเขาสวยมากเลยค่ะ” เด็กหญิงชมเด็กหนุ่มที่ช่วยเหลือเธอออกมาด้วยรอยยิ้ม
“สักวันหนูจะได้พบเขาอีกไหมคะแม่ญา” เธอเอ่ยถามมารดาออกมาด้วยความไร้เดียงสา
“ถ้ามีวาสนาต่อกันสักวันหนูกับพี่เขาก็คงมีโอกาสได้เจอกันอีกแน่จ๊ะ ไปกันเถอะนะลูก ไปหาอะไรกินกันก่อนที่เราจะไปหาแด๊ดนะ” เด็กหญิงยิ้มร่า
อลินายังจดจำเหตุการณ์ในวันนั้นได้ดี แม้เรื่องราวจะผ่านมานานเกือบสิบห้าปีแล้วก็ตาม เธอยังแอบคาดหวังว่าสักวันหนึ่ง เธอจะได้เอ่ยคำขอบคุณเขา ที่เขาเคยช่วยชีวิตน้อยๆ ของเธอเอาไว้ แม้สถานะของเธอในตอนนี้จะไม่เหมาะที่จะคิดถึงผู้ชายคนอื่นแล้วก็ตามที
เปลือกตาบางปิดลงเมื่อเครื่องทะยานสูงขึ้นเหนือท้องฟ้าเมืองชิคาโก หญิงสาวเลือกนั่งชั้นธุรกิจเพราะสามีที่ดูท่าจะร่ำรวยของเธอให้บัตรเครดิตติดตัวมา แม้เธอจะเกรงใจที่ต้องใช้เงินของเขาในเรื่องส่วนตัว แต่เธอก็ไม่อาจทนที่จะต้องนั่งชั้นประหยัดให้ปวดเนื้อปวดตัว เพราะการเดินทางไปยังประเทศไทยนั้นใช้เวลาค่อนข้างนาน ชีวิตใหม่ที่สงบสุขของเธอหลังจากนี้คือชีวิตที่เธอต้องการ
“คุณเป็นอะไรที่รัก ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าหืม...”น้ำเสียงที่อ่อนโยนของสามีทำให้อลินายิ้มออกมา เขาไม่เคยแสดงความเห็นแก่ตัวกับเธอ ความจริงแล้วเขาจะทำต่อก็ได้ แต่ว่าเขายอมหยุดเพียงเพราะได้ยินว่าเธอรู้สึกไม่ดี“ฮาน่าก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ สองสามวันมานี้ฮาน่ารู้สึกเพลียๆ”“คุณทำงานจนไม่นอนพักกลางวันใช่ไหม” เขาถามออกมาด้วยความสงสัย เพราะแน่นอนว่าตอนกลางคืนเขาและเธอมักจะใช้เวลาบนเตียงร่วมกัน“ฮาน่าก็นอนนะคะเดล อืม... มีอีกอย่าง ฮาน่ารู้สึกว่าช่วงนี้หิวบ่อย เหมือนจะอ้วนขึ้นด้วยนะคะ” เธอลูบลงไปบนหน้าท้องที่ดูมีไขมันขึ้นเล็กน้อย แต่ในสายตาของเอเดนมันก็ยังคงแบนราบอยู่ดี“ไม่อ้วนเลยที่รัก แต่ผมรู้สึกว่าคุณดูสวยมากขึ้นนะ”เขาดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอดพลางกระซิบบอกเพื่อให้ภรรยามั่นใจ อลินานึกสงสัยกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย แต่ก็ยังไม่อยากคิดไปไกล ทางที่ดีเธอคงต้องตรวจดูให้แน่ใจ“อืม...อาทิตย์หน้าผมว่างแล้วล่ะ เราไปฮันนีมูนที่ประเทศไทยกันดีไหม เราแต่งงานกันมาสามเดือนแล้วยังไม่ได้ไปฮันนีมูนกันเลย” เสียงทุ้มที่ดังออกมาเรียกสติของอลินาที่กำลังหลุดลอยไป“ดะ...ดีค่ะ ฮาน่าคิดถึงเมย์กับพวกพี่ๆ ที่บริษัท วิดิโอคอ
หลังจากอลินาแต่งงานกับเอเดนอย่างเป็นทางการ เธอก็ได้ทำหน้าที่ภรรยาของเอเดนอย่างเต็มตัว แต่เธอก็ไม่ลืมที่จะค้นหาในสิ่งที่เธอชอบ จนในที่สุดเธอก็ตัดสินใจเขียนบทความลงในบล็อกส่วนตัว เธอใช้ประโยชน์จากการที่เธอรู้และพูดได้หลายภาษา แปลบทความของเธอเป็นภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษาเยอรมันและภาษาญี่ปุ่น ทำให้เธอมีนักอ่านหลากหลายสัญชาติทั่วโลกที่กลายมาเป็นแฟนตัวยงของเธอ เรื่องฮันนีมูนที่เคยวางแพลนเอาไว้ก็ต้องเลื่อนออกไปก่อน เพราะงานของสามีที่ต้องจัดการให้อยู่ตัว ก่อนที่จะทิ้งงานแล้วพาเธอกลับไปเยือนประเทศไทย“กำลังทำอะไรอยู่หืม....ที่รัก” เสียงทุ้มดังมาจากด้านหลังของคนที่กำลังนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะบริเวณสวนของเพ้นส์เฮ้าท์สุดหรูแห่งนี้“กำลังเขียนบทความอยู่ค่ะ วันนี้ที่กาสิโนมีเรื่องยุ่งยากไหมคะ”เธอละมือจากงานที่ทำแล้วหันไปสนใจสามีที่เพิ่งกลับมาจากคาสิโน หลังจากแต่งงานกัน เอเดนก็ได้พาเธอไปดูธุรกิจทุกอย่างที่เขากำลังทำอยู่ แม้ลึกๆ ในใจอลินาจะรู้สึกกังวลกับงานของสามี แต่เธอก็คงจะให้เขาเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นไม่ได้ เพราะนี่คือสิ่งที่ตระกูลของเขาทำมาเนิ่นนาน ในเมื่อเธอรักเขาเธอก็ต้องยอมรับในตัวตนของเขาเช
ห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ของโรงแรมหรูถูกเนรมิตด้วยอำนาจของเงินจำนวนมหาศาลถูกตกแต่งด้วยดอกไม้นอกฤดูกาลที่มีความหมายดีๆ สำหรับความรักของคู่บ่าวสาว อลินานั่งแต่งหน้าทำผมอยู่ในห้องพักสุดหรูของโรงแรม ช่างแต่งหน้าระดับโลกถูกเชิญมาทำหน้าที่ ช่างภาพชื่อดัง เชฟการันตีรางวัลระดับโลก ทุกสิ่งทุกอย่างภายในงานล้วนแล้วแต่มีระดับ ตระกูลวินเทอร์ทุ่มงบไม่อั้นในการจัดงานเลี้ยงฉลองการแต่งงานของบุตรชายคนเล็กในครั้งนี้ “คุณสวยมากเลยค่ะมาดาม” ช่างแต่งหน้าที่ไม่ว่ารวยแค่ไหนก็ยังไม่อาจจ้างเธอได้เอ่ยชมนายหญิงเล็กแห่งวินเทอร์ออกมา เธอเสนอตัวมาช่วยในงานนี้เพราะครั้งหนึ่งเคยได้รับความช่วยเหลือจากมาดามเอวาน่า ในครั้งที่เธอนั้นยังเป็นแค่ช่างแต่งหน้าไร้ชื่อเสียง มีเพียงมาดามเอวาน่าที่คอยผลักดันทำให้เธอก้าวมาถึงจุดสูงสุดของอาชีพเหมือนในตอนนี้ เธอจึงรับงานนี้ด้วยความยินดีและเต็มใจ “ขอบคุณมากเลยค่ะ เป็นเพราะคุณฝีมือดีมากกว่าค่ะ...อนาเซีย” อลินาเอ่ยชมออกมาจากใจ ช่างแต่งหน้าคนนี้เป็นคนละเอียด มือเบาแถมยังใส่ใจในเรื่องผิวหน้าของเธออีก “น้อมรับคำชมค่ะ” ช่างแต่งหน้าสาวยิ้มออกมาก่อนที่จะลงมือแต่งหน้าให้แก่เจ้าสาวคนสวย ภายใน
เมื่อรถตู้คันหรูไปถึงหน้าเพ้นส์เฮ้าส์ขนาดใหญ่ อลินาถึงกับตกตะลึงในความร่ำรวยของสามี เพราะคนที่จะมีเพ้นส์เฮ้าส์ในพื้นที่กว้างขนาดนี้ในเมืองชิคาโก้ได้ย่อมเป็นคนที่มีฐานะทางการเงินมากพอสมควร“ยินดีต้อนรับจ้ะหนูฮาน่า” มาดามเอวาน่ารีบออกมาทักทายต้อนรับลูกสะใภ้คนเล็ก“นี่แม่ผมเอง มาดามเอวาน่า” เอเดนกระซิบบอกภรรยา อลินาจึงเดินเข้าไปจับมือทักทายและสวมกอดกับแม่ของสามี“ขอบคุณสำหรับการต้อนรับที่อบอุ่นนะคะ”“เรียกแม่สิลูก ต่อไปนี้หนูคือลูกสะใภ้ของแม่ ถ้าเอเดนรังแกหนูหรือทำตัวไม่ดีกับหนูบอกแม่ได้เลย แม่จะจัดการให้” มาดามเอวาน่ายิ้มออกมาอย่างพอใจพลางให้ท้ายลูกสะใภ้คนสวย“แม่... นี่ผมลูกแม่นะ”มาเฟียหนุ่มทักท้วงก่อนที่สองสาวต่างวัยจะจับจูงพากันเดินเข้าไปนั่งภายในห้องรับแขกของเพ้นส์เฮ้าส์โดยไม่สนใจชายหนุ่มอีก เอเดนหันไปมองหน้าบุ๊ซกับเกริก สองหนุ่มพยายามกลั้นขำพลางส่ายหน้าไปมา“ไม่ทันไรแม่ฉันก็ยึดเมียฉันซะแล้ว” เขาบ่นออกมาก่อนที่จะรีบสาวเท้าก้าวตามสองสาวเข้าไปภายในเพ้นส์เฮ้าส์ของตนอลินาได้รับการต้อนรับจากครอบครัววินเทอร์เป็นอย่างดี ทั้งพ่อแม่สามีและพี่ชายทั้งสองของสามีปฏิบัติกับเธอราวกับเจ้าหญิง หลั
เช้าวันต่อมาอลินาและเอเดนก็ได้เดินทางกลับประเทศสหรัฐอเมริกาโดยเครื่องบินส่วนตัวของตระกูลวินเทอร์ ฮิวโก้ เมริสา เจ๊ลูซี่ และพุดซ้อนได้เดินทางมาส่งทั้งสองขึ้นเครื่อง ความสัมพันธ์ของเมริสากับฮิวโก้ได้พัฒนาขึ้นอย่างเงียบๆ โดยที่ไม่มีใครในบริษัทรู้ แต่อลินานั้นรู้ดีว่าทั้งเพื่อนและเจ้านายกำลังปลูกต้นรักกัน“ขอให้หนูโชคดีนะคะน้องฮาน่า ดีใจที่ได้พบเจอและได้ร่วมงานกัน” เจ๊ลูซี่เอ่ยลาอดีตนางแบบสาวที่เธอเอ็นดูและมองว่าอนาคตก็คงจะไปได้ไกลกว่านี้หากเธอยังไม่มีพันธะอะไร“พี่ดีใจนะที่ได้ดูแลฮาน่า ขอบคุณที่เป็นเด็กที่น่ารักตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กลับมาเที่ยวหากันบ่อยๆ นะจ๊ะ” พุดซ้อนเอ่ยน้ำตาซึม แม้จะเป็นเวลาไม่นานที่ได้ดูแลเด็กสาวในฐานะผู้จัดการส่วนตัว แต่ความผูกพันกลับมีให้อีกฝ่ายไม่น้อย“ขอบคุณพี่ลูซี่และพี่พุดซ้อนมากๆ เลยนะคะที่ใจดีกับฮาน่ามาตั้งแต่วันแรกที่ได้พบกัน ฮาน่าจะไม่มีวันลืมพวกพี่และจะกลับมาเที่ยวหาบ่อยๆ ค่ะ” สามสาวต่างวัยเข้าสวมกอดลากันก่อนที่จะผละออกจากกัน อลินาจึงหันไปกอดลาเพื่อนสนิทบ้าง“เมย์ขอให้ฮาน่ามีความสุขในชีวิตคู่นะ ขอให้ทั้งสองรักกันไปนานๆ ถ้าเป็นไปได้กลับมาที่ประเทศไทยอีกทีเ
หลังจากที่ทั้งสองสามีภรรยาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วก็พากันไปรับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหาร ก่อนที่จะได้ไปดำน้ำดูปะการังตามแผนการที่วางเอาไว้ ทั้งสองกลายเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวและพนักงานอยู่ไม่น้อยเพราะเพิ่งจะมีข่าวออกไป ยิ่งไปกว่านั้นบอดี้การ์ดสองคนของมาเฟียหนุ่มก็ดูหล่อเหลาน่าสนใจไม่แพ้กัน“ดูท่าทางบุ๊ซกับเกริกจะได้สาวไทยเป็นแฟนแล้วล่ะ” อลินาเอ่ยออกมาขณะมองไปยังสองหนุ่มที่มีสาวๆ เข้ามาทักทาย“เจ้าสองคนนั้นเห็นหน้าตานิ่งๆ แบบนี้สาวๆ ชอบยิ่งกว่าผมอีกนะ” เอเดนบอกภรรยาก่อนที่จะตักไข่ม้วนในจานใส่ปาก“ไม่จริงมั้งคะ ฮาน่าว่าคุณหล่อกว่าพวกเขาอีก”อลินากระซิบบอกก่อนที่จะยิ้มหวานออกมา ได้ยินคนอื่นชมมาก็ตั้งมากมายกลับไม่รู้สึกอะไร แต่พอมาได้ยินภรรยาชมเท่านั้นมาเฟียหนุ่มถึงกับเสียอาการ มือหนาวางมีดและส้อมลงพร้อมเอ่ยถามเธอออกมา“เราไม่ไปดำน้ำแล้วดีไหมที่รัก”“ทำไมคะ เราจองไว้แล้วนี่คะ” อลินาละสายตาจากจานอาหารตรงหน้าแล้วมองใบหน้าของสามี“ก็คุณทำให้ผมอยากจะพาคุณกลับขึ้นห้องไปทำอย่างอื่นแทนการไปดำน้ำน่ะสิ”เขาตอบเธอยิ้มๆ หญิงสาวจึงส่งค้อนน้อยๆ ไปให้สามี ภาพของสองสามีภรรยาหยอกล้อพูดคุยกั
Comments