แชร์

บทที่ 2

ผู้เขียน: จุ้ยหลิงซู
สมองจาวหนิงผุดภาพร่างกายที่อ่อนแอของผู้เฒ่าฟู่ขึ้นมา

ฟู่จาวหนิงกับรัชทายาทเซียวเดิมทีมีการหมั้นหมายอยู่ สุขภาพผู้เฒ่าฟู่เองก็ย่ำแย่ลงทุกวัน ความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาคือสามารถเห็นหลานสาวแต่งเข้าจวนตระกูลเซียวได้อย่างราบรื่น ได้มีที่พึ่งพิงในภายภาคหน้า แต่ตระกูลเซียวก็ไม่ยอมเอ่ยเรื่องงานมงคลเสียที

ช่วงนี้อาการป่วยของผุ้เฒ่าฟู่ก็ทรุดลงอย่างรวดเร็ว เขาเป็นลมหมดสติอยู่บ่อยครั้ง พอตื่นขึ้นมาก็จะคว้ามือของนางและกังวลเรื่องงานแต่ง ฟู่จาวหนิงก็ร้อนรน ดังนั้นแต่ละวันจึงเอาแต่เซ้าซี้รัชทายาทเซียว หลังถูกปฏิเสธมาหลายครั้ง นางจึงหยิบยกเอาคุณงามความดีที่บิดามารดาของนางเคยช่วยชีวิตองค์รัชทายาทไว้ออกมาให้องค์จักรพรรดิประทานจัดงานแต่งงานให้

รัชทายาทเซียวก็ถูกบีบจนต้องจำใจยอมรับการแต่งงานกับฟู่จาวหนิง

เซียวเหยียนจิ่งเองก็เป็นบุรุษรูปงามอันดับต้นๆ ในเมืองหลวงจริงๆ คิ้วกระบี่ดวงตาดอกท้อ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากเชิด รูปหน้ายอดเยี่ยม ร่างสูงโปร่ง เสื้อคลุมสักหลาดพอดีตัวดูสูงส่ง ขับเน้นร่างของเขาออกมาจนตัวดูเป็นคนแต่นิสัยเป็นสุนัขเสียอย่างนั้น

ไม่แปลกที่หลี่จื่อเหยาหลงใหลเขามาตลอด

พอคิดถึงสถานการณ์ของตระกูลฟู่ เสียงของจาวหนิงก็เย็นชา นางจ้องเขม็งไปทางรัชทายาทเซียว

"ราชโองการขององค์จักรพรรดิ ท่านกล้าขัดหรือ?"

รัชทายาทเซียวพอได้ยินคำของนางก็หน้าเคร่งขรึม ก่นด่าออกมาด้วยความโกรธ "ฟู่จาวหนิง เจ้าเอาแต่ยกองค์จักรพรรดิมาบีบข้า!" ช่างน่าโมโหนัก

หลี่จื่อเหยารีบเอ่ยขึ้นทันที "ท่านพี่เซียวไม่ต้องกลัว! บิดาข้าต่อหน้าองค์จักรพรรดิก็พอมีปากเสียงอยู่บ้าง ข้าจะให้บิดาข้าเข้าวังแล้วทูลต่อองค์จักรพรรดิ ฝ่าบาทจะไม่ตำหนิท่านแน่นอน!"

"หมอเทวดาหลี่สินะ..." ฟู่จาวหนิงนึกถึงคำว่า "หมอเทวดา"ก็รู้สึกเยาะหยันขึ้นมา "หลายปีนี้หมอเทวดาดูจะน่าเกรงขามเสียจริง"

"หมอเทวดาหลี่น่าเกรงขาม แต่เจ้าน่ะมันน่าอดสู!" เซียวเหยียนจิ่งสีหน้าเย็นชา "ฟู่จาวหนิง เจ้าลงจากเกี้ยวเจ้าสาวปลดผ้าคลุมหน้าลง ให้คนตั้งมากมายเห็นสภาพไม่เรียบร้อยของเจ้า หน้าตากับความบริสุทธิ์ผุดผ่องก็ป่นปี้หมดแล้ว ต่อให้องค์จักรพรรดิจะโกรธเคือง ข้าก็ไม่แต่งกับเจ้าหรอก!"

คนรอบๆ แอบสูดปาก เกี้ยวเจ้าสาวแทบจะแบกไปถึงหน้าประตูแล้ว นี่จะถอนหมั้นหรือ?

แล้วคุณหนูฟู่จะทำเช่นไร ได้ยินว่าสุขภาพผู้เฒ่าฟู่เองก็ไม่ค่อยไหวแล้ว ถ้ามาเจอเรื่องนี้กระตุ้นเข้าไปอีก คงจะไม่ถึงกับตายอย่างที่หลี่จื่อเหยาพูดมาหรอกกระมัง?

"เซียวเหยียนจิ่ง ท่านคิดว่าข้าอยากแต่งกับท่านนักหรือ ถ้าไม่ใช่เพราะตระกูลเซียวกับฟู่มีการหมั้นหมายไว้แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นความปรารถนาของปู่ข้า ข้าเลือกคนบนถนนนี้ส่งๆ มาคนหนึ่งก็ยังดีกว่าท่านเป็นกอง"

ฟู่จาวหนิงพูดประโยคนี้ออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ

ผู้คนล้วนมองนางอย่างไม่อยากจะเชื่อ

"จริงหรือ? แล้วที่คุณหนูฟู่ก่อนหน้านี้ทุกวันเอาแต่วิ่งเร่าๆ บอกจะแต่งงานกับรัชทายาทเซียว ไม่ใช่เพราะว่าชอบรัชทายาทเซียวหรอกหรือ?"

"คุณหนูใหญ่หลี่ก่อนหน้านี้ยังพูดว่าคุณหนูฟู่หลงใหลรัชทายาทเซียวจะเป็นจะตาย จะออกเรือนกับเขาเสียให้ได้ ทำไมตอนนี้ดูแล้วมันไม่เป็นแบบนั้นเลยล่ะ?"

"คุณหนูเซียวไม่ชอบรัชทายาทเซียวหรือ?"

เซียวเหยียนจิ่งพอได้ยินคำวิพากษ์วิจารณ์รอบๆ ตัว ก็โมโหจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน

ฟู่จาวหนิงกำลังโกหก! ก่อนหน้านี้นางหลงเขาเสียขนาดนั้น เมื่อเห็นสายตาที่หลงใหลของนาง เขาจะยังไม่เข้าใจได้อีกหรือ

มีแต่เขาต่างหากที่จะถอนหมั้นนาง เมื่อไรกันที่นางมารังเกียจเขา!

"ฟู่จาวหนิง เจ้าอย่าคิดว่าทำตัวเสแสร้งหน่อยแล้วรัชทายาทอย่างข้าจะหันมามองเจ้าใหม่! วันนี้งานมงคลล้มเลิกแล้ว ต่อให้เจ้ามาคุกเข่าร้องไห้อ้อนวอนข้า ข้าก็จะไม่เปลี่ยนใจ!"

"อย่างกับข้าอยากทำนัก ขอบคุณด้วยที่ปฏิเสธงานแต่ง!"

จาวหนิงร้องเชอะขึ้นมา จู่ๆ ก็รู้สึกว่าโชคดีมากที่ตัวเองยังกลับตัวทัน ไม่เช่นนั้นถ้ารอจนทั้งสองคนกราบไหว้ฟ้าดินเสร็จสิ้นหรือเข้าไปอยู่ในห้องหอแล้วถึงคิดขึ้นได้ล่ะก็ นางคงได้อาเจียนรากแตกตายแน่ๆ

สายตานางชำเลืองไปยังหลี่จื่อเหยา ไม่แต่งงานได้แต่หนี้แค้นก็ต้องสะสางมันกลางถนนนี่ล่ะ!

ฟู่จาวหนิงจู่ๆ ก็ยื่นมือไปคว้าชายเสื้อของหลี่จื่อเหยา กระชากนางออกมาจากอกของเซียวเหยียนจิ่ง จากนั้นหมุนตัวเหวี่ยงแล้วกดตัวนางลงบนเกี้ยวเจ้าสาว

"กรี๊ด! ท่านพี่เซียว~"

หลี่จื่อเหยาร้องเสียงแหลม นางตั้งตัวไม่ทัน ฟู่จาวหนิงที่อ่อนแอมาโดยตลอดทำไมจู่ๆ จึงลงไม้ลงมือเร็วขนาดนี้?

"ฟู่จาวหนิงเจ้าทำอะไรน่ะ รีบปล่อยจื่อเหยาเดี๋ยวนี้!" เซียวเหยียนจิ่งพุ่งเข้าไปคิดจะแย่งตัวหลี่จื่อเหยามา

แต่การเคลื่อนไหวของฟู่จาวหนิงก็เร็วกว่าเขามาก ทั้งสองมือของนางคว้าชายเสื้อหลี่จื่อเหยา แล้วกระชากฉีกอย่างแรง

แควก!

เสื้อของหลี่จื่อเหยาถูกฉีกขาดทันที เผยให้เห็นผิวขาวนวล ส่วนเศษผ้าก็ถูกฟู่จาวหนิงกำไว้ในมือ โบกเป็นผ้าเช็ดหน้าอยู่ไหวๆ

"กรี๊ดๆๆ!" หลี่จื่อเหยาร้องเสียงแหลม หันตัวกลับมากอดตัวเองทันควัน "ฟู่จาวหนิง!!"

"อื้อ ข้าอยู่นี่ไง ข้าเดิมทีก็ไม่อยากจะลงไม้ลงมือกับหญิงสาวหรอกนะ แล้วการฉีกเสื้อผ้าเนี่ยมันก็ดูจะไร้คุณธรรมไปหน่อย" ฟู่จาวหนิงเลิกคิ้วเดินถอยไปก้าวหนึ่ง "แต่ในเมื่อส่งของขวัญมาให้แล้ว จะไม่ส่งตอบแทนกลับไปบ้าง ใจข้ามันคงไม่สงบ!"

นางเป็นคนใจคับแคบมาแต่ไหนแต่ไร ถ้ามีหนี้แค้นก็ต้องชดใช้เสียตรงนั้น

"ฟู่จาวหนิง!"

เซียวเหยียนจิ่งถูกนางทำให้ตะลึงงันไปแล้ว พอได้สติกลับมาก็ตะโกนเรียกนางอย่างฉุนเฉียวทันที

"เซียวเหยียนจิ่ง ข้อที่หนึ่งวันนี้เป็นวันมงคล เดิมทีตอนบ่ายท่านควรจะมารับเจ้าสาวถึงบ้าน แต่ท่านไม่มา" ฟู่จาวหนิ่งมองเขาอย่างเย็นชา "ข้อสอง ในฐานะที่เป็นเจ้าบ่าว ตอนนี้ท่านควรอยู่ในชุดมงคลแล้ว แล้วดูตอนนี้สิท่านสวมอะไรอยู่? ชุดคลุมขาว อย่างกับชุดไว้ทุกข์อย่างไรอย่างนั้น ถ้าคนที่รู้ก็คงเข้าใจว่าเจ้าคิดจะมาหยามหน้าข้าฟู่จาวหนิง แต่คนที่ไม่รู้ คงคิดว่าบ้านเจ้ามีใครตายไปแล้ว"

"พรวด!"

ไม่รู้ว่าใครกลั้นเสียงหัวเราะไม่อยู่ก่อนกัน แต่ครู่เดียวก็ทำให้กลุ่มคนอดกลั้นไม่อยู่จนหัวเราะร่าขึ้นมา

ก็จริงที่ว่าวันนี้รัชทายาทเซียวต้องแต่งงาน แต่ทำไมยังใส่ชุดสีอย่างกับพระจันทร์ขาว?

"ข้อสาม พอท่านมาถึงก็ตำหนิข้าที่ปลดผ้าคลุมหน้าชุดเจ้าสาวขาด แต่กลับไม่ถามเลยว่าใครเป็นคนทำ ทำไมกันคนลงมือได้เกียรติ แล้วคนถูกกระทำต้องไร้เกียรติหรือ? จุ๊ๆๆ การสั่งสอนในตระกูลเซียวของพวกท่านมันเยี่ยมเสียเหลือเกิน!"

"ข้อสี่ คู่หมั้นของท่านยืนอยู่ทางนี้ แต่ท่านกลับรีบไปโอบกอดปลอบโยนหลี่จื่อเหยาอยู่นั่นล่ะ ชายหญิงไม่ควรแตะเนื้อต้องตัวกันท่านไม่เคยเรียนมาหรือ หลี่จื่อเหยามาขวางเกี้ยวเจ้าสาวข้ากลางถนนทำลายงานมงคลในวันนี้ ท่านไม่โกรธไม่เคือง แถมยังเอาแต่เรียกจื่อเหยา จื่อเหยาอยู่นั่น พวกท่านสนิทกันขนาดนี้ ให้ข้ามอบเกี้ยวเจ้าสาวให้แล้วเท่านแบกนางกลับไปเลยดีไหม?"

ทุกครั้งที่ฟู่จาวหนิงพูด หน้าของเซียวเหยียนจิ่งก็ดำทะมึนขึ้นเรื่อย

สายตาชาวบ้านรอบๆ ก็เหมือนหนามมาทิ่มแทงหลังเขาจนแทบจะยืนไม่อยู่แล้ว นังแพศยาฟู่จาวหนิงวันนี้ทำไมปากคอถึงได้เราะร้ายคล่องแคล่วเสียขนาดนี้กัน?

"สรุปอย่างที่พูดไป" ฟู่จาวหนิงมองเซียวเหยียนจิ่ง จากนั้นก็เหลือบมองหลี่จื่อเหยา "เจ้ามันก็แค่ผู้ชายขยะชีกอ ไร้สำนึก ไร้คุณธรรม ที่ไม่ได้รู้เรื่องพิธีการอะไรเลยคนหนึ่ง กับคุณหนูใหญ่หลี่ที่ใช้ชื่อหมอเทวดาของบิดามาเกะกะระรานโดยไร้ยางอายข้างกายท่านคนนี้ เป็นคู่ฟ้ามาโปรดจริงๆ พอเอาพวกท่านมาอยู่ด้วยกันถึงถือว่าสวรรค์ยังมีจิตใจคุณธรรม ที่ไม่ปล่อยให้พวกท่านออกไปทำร้ายผู้คนอีก"

"ก่อนหน้านี้ข้าตามืดบอดไปเองที่ไปพัวพันกับเจ้า ข้าขอโทษด้วย แต่ตอนนี้ข้าตาสว่างแล้ว น้ำในหัวก็เทออกไปจนหมดแล้วด้วย การหมั้นหมายของตระกูลเซียวกับฟู่ถือว่าจบแค่นี้ จากนี้ไปเจ้ากับข้าก็แยกเดินคนละทาง ถ้าวันหนึ่งบังเอิญมาเจอกัน ท่านก็อยู่ห่างข้าเสียหน่อยนะ!"
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
Sayfon Khamchan
เยียมมากน่าอ่านมากคะ
goodnovel comment avatar
Guy Guy
ดูไปไปถึงตอน53แล้วทำไมให้ดูตอน50-52งงมาดเลยแย่ละ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2581

    ฟู่จาวหนิงยกนิ้วโป้งให้กับเซียวหลันยวน"ตอนนี้ท่านมีความรู้เรื่องแพทย์บ้างแล้วนี่นา มองออกด้วยว่าเป็นตำรับยาบำรุงครรภ์""สามปีก่อนตำรับยาที่เจ้าใช้ข้าเคยเห็นอยู่ แน่นอนว่าต้องจำได้สิ"เซียวหลันยวนเองก็ไม่ได้เรียนแพทย์มา เพียงแต่ตอนนั้นตำรับยาที่ฟู่จาวหนิงกินเขาเองก็ได้อ่านอย่างละเอียดอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นตอนนั้นเขายังคอยมองดูของที่นางกินเข้าปากอย่างระมัดระวังด้วย ดังนั้นจึงจำวัตถุดิบยาที่เกี่ยวข้องได้กระทั่งของที่สตรีมีครรภ์ไม่ควรกินไม่ควรแตะต้องเขาก็ยังจำเอาไว้ดังนั้นตอนนี้พอเขาเห็นตำรับยานี้ก็สามารถมองออกได้ทันที"หนิงหนิง เจ้า..."สายตาของเซียวหลันยวนเหลือบมองลงไปบนท้องนางตามสัญชาตญาณ กลั้นหายใจ รู้สึกตึงเครียดหน่อยๆก่อนหน้านี้เดิมทีเขายังคิดว่า จาวหนิงตั้งครรภ์แค่ครั้งเดียวก็พอ จะลูกชายหรือลูกสาวก็ได้ถึงอย่างไรการคลอดเด็กสำหรับหญิงสาวแล้ว ถือเป็นเรื่องที่เหมือนเดินผ่านประตูผีเลยทีเดียวฟู่จาวหนิงก่อนหน้านี้ก็เคยคิดว่าตนเองจะตั้งครรภ์แค่ครั้งเดียวพอแต่ว่า น่าจะเพราะเด็กสองคนในครรภ์ที่แล้วว่าง่ายเกินไป ไม่ดื้อไม่ซนเกินไป คลอดออกมาได้ง่ายเสียขนาดนั้น จึงทำให้นางตอนนี้กัง

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2580

    เซียวหลันยวนวางชามชาลง แล้วจึงเหยียบขึ้นเส้นทางกลับเมืองหลวงอีกครั้งพอเข้าเมือง ความเจริญรุ่งเรืองและความคึกคักก็พุ่งเข้ามาทันทีในเมืองดอกไม้บานสะพรั่ง ประชาชนและพ่อค้าที่สัญจรไปมา ไม่ว่าจะอาศัยอยู่ที่นี่มาสองปีหรือว่าเพิ่งจะเข้ามา ก็อดไม่ได้ที่จะต้องมองไปรอบๆ เนื่องจากถูกทิวทัศน์อันงดงามของเมืองหลวงและร้านรวงต่างๆ รายรอบดึงดูดและข้างถนนก็ยังมีร้านรวงอีกไม่น้อย วางขายของกระจุกกระจิกต่างๆ ของเหล่านี้พ่อค้าที่มาจากภายนอกก็ชอบไปเดินชม เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาไปสถานที่อื่นแล้วยังไม่เคยเห็นมาก่อน ทุกหนแห่งเต็มไปด้วยความสดใหม่พ่อค้าที่มายังตงฉิงช่วงนี้ ยังมีบางส่วนที่พาครอบครัวมาด้วย น่าจะเพราะพอกลับไปเล่า เหล่าภรรยาและลูกก็รู้สึกสนใจต่อตงฉิงอย่างมาก ดังนั้นคนที่มีฐานะหน่อยจึงพาครอบครัวมาด้วยด้วยเหตุนี้ บนถนนเมืองหลวง จึงสามารถมองเห็นคนต่างถิ่นที่พาครอบครัวเข้ามาด้วย"องค์จักรพรรดิกลับเมืองแล้ว"ขณะที่รถม้าของเซียวหลันยวนแล่นไปตามถนนใหญ่ ประชาชนสองฝั่งทางถนนกับเหล่าพ่อค้าก็มองเข้ามา ในสายตาล้วนเป็นความภาคภูมิใจ สีหน้าล้วนแสดงถึงความเลื่อมใสศรัทธา"นั่นคืออ๋องเจวี้ยนหรือ?" ข้างทางม

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2579

    หยกตงฉิงขายออกไปครึ่งปีแล้ว และค่อยๆ มีชื่อเสียงขึ้นมาในแต่ละแคว้น อีกทั้งด้วยเหตุผลอีกหลายประการ ปัจจุบันปริมาณยังไม่มากพอ ดังนั้นราคาจึงถูกปั่นจนสูงลิบฟู่จิ้นเชินกับเสิ่นเสวียนทั้งสองคนหารือถึงความร่วมมือกับพ่อค้าใหญ่ในแคว้นต่างๆ ในนี้มีคำสั่งซื้ออยู่ไม่น้อยเลย แค่เหมืองหยกของตงฉิงแห่งนี้ ก็สามารถนำกำไรมหาศาลมาให้ตงฉิงได้แล้วเพราะการปรากฏตัวของหยกตงฉิง จึงดึงดูดพ่อค้าจำนวนมากหันมาสนใจตงฉิงมากขึ้นและตงฉิงตอนนี้ถ้าจะเข้ามาต้องได้ใบรับรองที่ด่านชิงอวี้ก่อน ด่านชิงอวี้นี้ เฉิงอวิ๋นเจี้ยนนำคนเข้าไปประจำการอยู่พวกเขามีสายลับอยู่ พอพบว่าคนที่จะเข้าตงฉิงมีพิรุธ ก็จะส่งข่าวไปที่ตงฉิงอย่างรวดเร็ว และหอเมืองของตงฉิงก็จะเตรียมปืนใหญ่พิทักษ์แคว้นขึ้นทันทีพวกของเซียวหลันยวนในช่วงสองปีที่ตระเตรียมเรื่องเหล่านี้ หลายครั้งที่ทำงานหนักจนลืมกินลืมนอน ยุ่งกันมากๆแต่ก็อาจเป็นเพราะต่างฝ่ายต่างยุ่ง จึงไม่มีมีเวลาอยู่ด้วยกันบ่อยๆ ยิ่งไปกว่านั้นยังได้ยินเรื่องราวของอีกฝ่ายจากปากของคนอื่น ความสัมพันธ์ระหว่างเซียวหลันยวนกับฟู่จาวหนิงกลับมีแนวโน้วที่ดีขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะตอนที่ได้ยินประชาชนหรือข้าร

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2578

    ความหมายที่ว่าเซียวหลันยวนไม่ได้ตรงไปตรงมานักก็คือ สองปีนี้อันที่จริงเขาก็ส่งสายลับไปหาเรื่องแคว้นต่างๆ อยู่เนืองๆคนพวกนั้นจะทำทุกวิถีทางเพื่อส่งข้อมูลผิดพลาดให้กับจักรพรรดิของแต่ละแคว้น หรือไม่ก็สร้างความขัดแย้งและปัญหาบางอย่างในหมู่ขุนนางพวกเขา เพื่อให้พวกเขาไม่หันมาสนใจตงฉิงมากนักกระทั่งยังทำให้พวกเขาคิดว่า ตงฉิงทางนี้เกิดภัยธรรมชาติขึ้นอีกครั้ง ต่อให้พวกเขามาแย่งชิงไปก็ไม่คุ้ม ไม่ค่อยได้รับประโยชน์เท่าไรตอนนี้ในเมืองหลวงแคว้นต่างๆ พอได้ยินชื่อตงฉิง ก็มีข่าวลวงผิดพลาดสับสนวุ่นวายอยู่ไม่น้อยเลยเซียวหลันยวนไม่สนใจสักนิดว่าตงฉิงตอนนี้จะมีชื่อเสียงดีหรือไม่ดี เพราะตอนนี้สำหรับพวกเขาแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือช่วงชิงเวลาที่เพียงพอมาทำให้ตงฉิงขยับขยายอย่างแข็งแกร่งขึ้นมา"แต่เหมือนข้าจะเห็นว่าช่วงนี้ในเมืองหลวงมีคนหน้าใหม่ไม่น้อยเลยนะ" อันชิงเอ่ยขึ้น"มีคนที่ดูเหมือนพวกพ่อค้าเข้ามาไม่น้อยเลย" องค์หญิงหนานฉือเองก็พูดขึ้นมาฟู่จาวหนิงยิ้มๆ "แน่นอน เรื่องอย่างหาเงินหากำไร พวกพ่อค้ามักจะมีความรู้สึกไวอยู่เสมอ ขณะที่พวกเราส่งข่าวลวงไปทางแคว้นต่างๆ พวกนั้น ก็จะแอบส่งข่าวปกติให้กับพ่อค

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2577

    หนึ่งปีต่อมา ทุกด้านของตงฉิงก็เข้าที่เข้าทางแล้วและตอนนี้เอง จักรพรรดิและเหล่าขุนนางของแคว้นอื่นจึงเพิ่งได้ยินข่าวที่มากขึ้นของตงฉิงอันที่จริงครึ่งปีก่อนพวกเขาเองก็ได้ยินมาแล้วแต่ตอนนั้นพวกเขาไม่ได้ใส่ใจนัก รู้สึกว่าอ๋องเจวี้ยนเซียวหลันยวนแค่ถูกจักรพรรดิเจาบีบจนไม่มีทางเลือก ดังนั้นจึงต้องหาทางรอดในสถานการณ์สิ้นหวังก่อนหน้านี้แต่ละแคว้นก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้ส่งคนออกไปสำรวจซากปรักหักพังของตงฉิง ซึ่งมีทั้งที่หาไม่พบ มีทั้งหาพบบ้างบางส่วน จากนั้นก็ได้พบว่ามันเป็นเมืองร้างที่ "ตาย" ไปในกระแสประวัติศาสตร์แล้วต้องใช้แรงคนและทรัพยากรมหาศาลเลยทีเดียว แล้วพวกเขาเองก็มีแผ่นดินของตนเองอยู่แล้ว จึงไม่ได้ไปทุ่มเทเสาะหาต่อเท่าไรนักดังนั้นในใจคนมากมาย ตงฉิงก็เป็นเช่นนั้น เจอกับซากปรักหักพังแล้วทำไมล่ะ? เมื่อไม่มีคน ทั้งหมดก็สูญเปล่าจะให้พวกเขาส่งคนมากมายเข้ามา ก็น่าจะต้องเหน็ดเหนื่อยทั้งกายใจ ไม่รู้ว่าจะต้องลงทุนเงินทองอีกเท่าไรจึงจะสร้างให้ดีขึ้นได้ทุกคนแม้จะสนใจต่อทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ในอดีตของตงฉิง แต่ถ้าจะต้องบุกเบิกก็ไม่มีความสนใจกันแล้วดังนั้น ต่อให้รู้ว่าเซียวหลันยวนพาคนไปที่ตงฉิ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2576

    สามเดือนต่อมา ตงฉิงฟื้นฟูแคว้นราชวงศ์ตงฉิงเซียวหลันยวนขึ้นเป็นจักรพรรดิ มีนามว่าจักรพรรดิหมิงหนึ่งเดือนต่อมา จักรพรรดิหมิงสถาปนาฟู่จาวหนิงขึ้นเป็นฮองเฮา เซียวหลิงอี้ลูกชายคนโตขึ้นเป็นองค์รัชทายาทซืออวี๋ชิงจวินเป็นราชครูแคว้น เสิ่นเสวียนเป็นเสนาบดีซ้าย อันเหนียนเป็นเสนาบดีขวาฟู่จิ้นเชินขึ้นเป็นพระสัสสุระแห่งราชวงศ์ฟู่จาวเฟยถูกแต่งตั้งเป็นขุนพลเฟยหู่ จงเจี้ยนเป็นผู้บัญชาการราชองครักษ์ถังอู๋เจวี้ยนไม่ต้องการเป็นข้าราชการ ถังอู๋เยว่เข้าร่วมสำนักหมอหลวง แต่เพียงแค่ดูแลการรับแพทย์มาชั่วคราวเท่านั้น เพราะตอนนี้สำนักหมอหลวงยังมีแค่คนไม่กี่คนส่วนต่งฮ่วนจือศิษย์พี่รองฟู่จาวหนิงก็พาคนเข้ามาหลายคน แนะนำให้เข้าไปยังสำนักหมอหลวงองค์หญิงหนานฉือกับอันชิงทั้งสองคนเปิดสำนักศึกษาหญิงขึ้นแห่งหนึ่ง มีชื่อว่าสำนักศึกษาอวิ๋นจานหน่วยตีอาวุธของตงฉิงปัจจุบันถือว่าสำคัญอย่างยิ่งยวด ถังอู๋เจวี้ยนเองก็มีตำแหน่งอยู่ในนี้ คอยช่วยงานชั่วคราวฮองเฮาฟู่จาวหนิง ในช่วงนี้ก็แสดงให้เห็นถึงความรอบรู้และพรสวรรค์หลากหลายของนาง นางแทบจะกลายเป็นคนที่มีความสามารถในทุกที่ สำนักหมอหลวงมักเชิญนางไปสอน หน่วยตีอา

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status