ยิ่งเขาร้าย เธอก็ยิ่งอยากรู้จัก ยิ่งเขาเจ้าชู้ เธอก็ยิ่งอยากเข้าหา ยอมแม้กระทั่งเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นในแบบที่คิดว่าเขาจะชอบ เบื้องหลังความเฉยชา และคำพูดที่ทำร้ายจิตใจเธอหลายๆ ครั้ง โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าเพราะอะไรเขาถึงเกลียดเธอ เกลียดพี่ชายเธอ อาจจะรวมถึงครอบครัวเธอด้วยซ้ำ จนวันที่เธอได้รู้ความจริง ผู้หญิงที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นแฟนพี่ชายเธอ ก็ยังเคยเป็นแฟนเขาด้วยเช่นกัน และเมื่อผู้หญิงคนนั้นกลับเข้ามาในชีวิตเขาอีกครั้ง กลับมาในวันที่เธอกับเขาไม่ใช่แค่คนรู้จักกันธรรมดา อุบัติเหตุบนเตียงในคืนนั้นรวมถึงเรื่องราวบนรถในครั้งถัดมาที่เป็นต้นเหตุสำคัญ ทั้งที่เธอควรจะได้สานสัมพันธ์กับเขาต่อ แต่เพราะผู้หญิงคนนั้น ทำให้ความสัมพันธ์ของเธอและเขาเป็นเหมือนเส้นขนานกันอีกครั้ง เธอได้แต่รอ รอวันที่เธอจะไม่สามารถฝืนตัวเองได้อีกต่อไป วันนั้น เธอคงจะเปลี่ยนใจ จนวันที่เธอได้รู้ความจริงบางอย่างอีกครั้ง ความจริงที่ทำให้เธอ ยังคงไม่เปลี่ยนใจจากเขา มุ่งหวังอีกครั้งว่ามันจะดีขึ้น แม้เรื่องราวที่เผชิญจะอันตรายเธอก็พร้อมที่จะเผชิญมันพร้อมกับเขา และรอวันที่เขาคนนั้น จะเปลี่ยนมารักเธอ
View Moreชลันธร ราชศิริโสภณ หรือ ธร หนุ่มนักเรียนนอกในวัย 27 ปี ลูกชายนักธุรกิจรายใหญ่ระดับประเทศ ที่เพิ่งกลับจากเมืองนอกมาเมื่อสามเดือนที่แล้ว
หลังจากเรียนจบปริญญาโทจากสหรัฐอเมริกาที่เจ้าตัวใช้เวลาเรียนนานกว่าเพื่อนถึงสองปีเต็ม หลังจากเรียนจบก็ไม่ยอมกลับมาเมืองไทย ใช้ชีวิตเสเพลอยู่ที่นั่นอีกเกือบหนึ่งปี เดือดร้อนถึงคุณทินกร ผู้เป็นพ่อที่ต้องบินข้ามโลกไปลากคอเจ้าตัวดีกลับมา แถมเมื่อกลับมาถึงยังไม่ยอมทำการทำงานไปแอบเปิดผับเปิดบาร์ใช้ชีวิตเป็นผู้ชายกลางคืนเสียอย่างนั้น จนพ่อต้องเอ่ยปากให้เวลาเสเพลอีกแค่สองปีเท่านั้น แล้วเตรียมเข้ามาทำงานที่บริษัท ถ้าไม่อย่างนั้น มรดกสักแดงก็จะไม่ได้ ศิรดา พิพัฒน์โชติสกุล หรือ รดา สาวน้อยในวัย 22 ผู้อ่อนหวาน เรียบร้อย ลูกสาวเจ้าของโรงแรมหรูระดับห้าดาว ที่แอบรักพี่ชายข้างบ้านมาตั้งแต่สมัยม.ปลาย ยังไม่ทันได้สานสัมพันธ์หรือทำความรู้จักกันมากกว่านี้แค่เธอย้ายมาอยู่ข้างบ้านเขาได้ไม่กี่เดือน เขาก็ต้องไปเรียนต่อต่างประเทศ เธอจึงได้ยินเพียงข่าวคราวของลูกชายบ้านนั้นจากน้องสาวเขาที่เรียนอยู่คณะเดียวกัน จนถึงวันที่เขากลับมาเมืองไทย ภาพจำในอดีตถึงผู้ชายที่เธอเคยแอบปลื้มในวันนั้นกับวันนี้มันช่างต่างกันโดยสิ้นเชิง เขากลายเป็นผู้ชายแบดบอยไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่กระนั้นความรู้สึกดีๆ ที่เธอเคยมีให้กลับยังฝังใจ แม้จะพยายามหักห้ามใจอยู่หลายครั้ง แต่สุดท้ายก็เป็นเธอที่ยังเผลอไปวนเวียนอยู่ใกล้เขา ยิ่งเขาร้าย เธอก็ยิ่งอยากรู้จัก ยิ่งเขาเจ้าชู้ เธอก็ยิ่งอยากเข้าหา ยอมแม้กระทั่งเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นในแบบที่คิดว่าเขาจะชอบ เบื้องหลังความเฉยชา และคำพูดที่ทำร้ายจิตใจเธอหลายๆ ครั้ง โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าเพราะอะไรเขาถึงเกลียดเธอ เกลียดพี่ชายเธอ อาจจะรวมถึงครอบครัวเธอด้วยซ้ำ จนวันที่เธอได้รู้ความจริง ผู้หญิงที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นแฟนพี่ชายเธอ ก็ยังเคยเป็นแฟนเขาด้วยเช่นกัน และเมื่อผู้หญิงคนนั้นกลับเข้ามาในชีวิตเขาอีกครั้ง กลับมาในวันที่เธอกับเขาไม่ใช่แค่คนรู้จักกันธรรมดา อุบัติเหตุบนเตียงในคืนนั้นรวมถึงเรื่องราวบนรถในครั้งถัดมาที่เป็นต้นเหตุสำคัญ ทั้งที่เธอควรจะได้สานสัมพันธ์กับเขาต่อ แต่เพราะผู้หญิงคนนั้น ทำให้ความสัมพันธ์ของเธอและเขาเป็นเหมือนเส้นขนานกันอีกครั้ง เธอได้แต่รอ... รอวันที่เธอจะไม่สามารถฝืนตัวเองได้อีกต่อไป วันนั้น...เธอคงจะเปลี่ยนใจ จนวันที่เธอได้รู้ความจริงบางอย่างอีกครั้ง ความจริงที่ทำให้เธอ ยังคงไม่เปลี่ยนใจจากเขา มุ่งหวังอีกครั้งว่ามันจะดีขึ้น แม้เรื่องราวที่เผชิญจะอันตรายเธอก็พร้อมที่จะเผชิญมันพร้อมกับเขา และรอวันที่เขาคนนั้น จะเปลี่ยนมารักเธอแม้จะตกใจที่ถูกไล่เสียงดัง แต่ก็ยังไม่กล้าทิ้งเขาไว้ เธอจึงได้เอื้อมมือมาแตะที่หน้าผากเขาเบาๆ หวังจะดูว่าเขาตัวร้อนไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า แต่มือเล็กยังไม่ทันได้ถึงตัว ก็ถูกเขาจับข้อมือไว้แน่น สบตาเขาครั้งแรกถึงรู้ว่าใบหน้าหล่อของเขาแดงก่ำขนาดดวงตายังแดงจนน่าตกใจ เธอเผลอมองสายตาคมอยู่ครู่ แม้มันจะแดงจนดูน่ากลัว แต่ดวงตาเขาตอนนี้ดูมันแตกต่างจากทุกครั้ง แม้จะดุแต่มันก็ดูหวานกว่าทุกครั้ง "ไปหาหมอ ไหมคะ" มือเล็กยิ่งถูกเขาบีบแรงขึ้น "โอ๊ย เจ็บ" เสียงร้องของเธอทำเขาถอนหายใจหนักๆ ทำท่าคล้ายกำลังรวบรวมสมาธิอย่างนั้นแหละ "อื้อ" เสียงอื้ออึงในลำคอที่ร้องด้วยความตกใจ เมื่อเธอถูกเขารั้งข้อมืออย่างแรงจนร่างอรชรที่มีเพียงผ้าขนหนูพันกายไว้ ถลาลงไปนั่งที่ตักเขา ริมฝีปากอิ่มที่กำลังจะร้อง ก็ถูกปิดสนิทด้วยริมฝีปากได้รูป ดวงตาหวานเบิกกว้างอยู่ครู่ตอนที่ถูกบดจูบอย่างแรง ก่อนจะค่อยๆ หลับตาลง เรี่ยวแรงที่จะขัดขืนเพียงนิดแทบไร้สิ้น เมื่อริมฝีปากที่ถูกประกบไว้แนบชิดจนแทบไร้ช่องว่าง ข้อมือที่ถูกเขาจับไว้แน่นยังไม่ปล่อยแม้จะดึงรั้งตัวเองอย่างไรก็ดูจะไม่เป็นผล จนเมื่อเรียวขาเธอตั้งหลักได้หวังใช้หั
"ยายรดา..." "ไม่ต้องพูด" พอยายจ๋าวางสาย เอ่ยเรียกเธอเสียงอ่อย เธอก็เดาได้ทันที แต่กระนั้นก็ได้แต่ยิ้มพลางทำหน้างอนๆ ใส่เพื่อน "เดี๋ยวเช้าจะซื้อโจ๊กร้านโปรดมาฝาก" "ฉันกลับไปกินโจ๊กที่โรงแรมดีกว่า" "นอนนี่แหละ กลับโรงแรมไปอันตราย ไม่อยากให้นั่งแท็กซี่กลางคืนแบบนี้ ยิ่งแต่งตัวโป๊ๆ ด้วย" พอมองชุดที่ตัวเองใส่มาก็เห็นจะจริง ชุดเซ็กซี่ที่ยายจ๋าเคยพาไปซื้อเพื่อให้เขากับสีผมใหม่นั่นแหละ และนั่นก็หมายความว่ายายจ๋ารีบมากจนไปส่งเธอที่โรงแรมไม่ได้ด้วย "โอเค นอนนี่ก็ได้ หวังว่าตอนเช้าฉันจะได้กินโจ๊กนะ" "แก่แดดใหญ่แล้ว ลงไปเลย" ยายจ๋าได้แต่เอานิ้วจิ้มหน้าผากเพื่อนด้วยความหมั่นไส้เพราะถูกรู้ทัน พอเธอลงรถยายจ๋าก็รีบขับรถคันหรูออกไปทันที เธอรีบค้นหาคีย์การ์ดในกระเป๋าสตางค์ที่ยายจ๋าเคยให้ไว้ เพราะต่างก็มีของกันและกัน ห้องขนาดไม่ใหญ่นักที่ถูกตกแต่งไว้ด้วยสไตล์โมเดิร์น ขนาดที่ว่าไม่ใหญ่ก็ยังใหญ่กว่าห้องเธอสองเท่าได้มั้ง ของธรรมดาอยู่แล้วเพราะความรวยระดับเจ้าสัวของบ้านยายจ๋า ขึ้นมาถึงห้องเธอก็รีบเปิดน้ำอุ่นที่อ่างอาบน้ำทิ้งไว้ทันที เพราะเหนื่อยเมื่อยล้ามาทั้งวัน ที่ว่าจะออกมาผ่อน
ยายจ๋าหันมามองหน้าเธอตาโต คล้ายจะเป็นเชิงถาม แต่เธอยังไม่ทันได้ตกลงด้วยสักหน่อย ยายเพื่อนตัวดีก็จูงมือให้เดินตามพี่ณัฐกรไปกลุ่มด้านในนั่นแล้ว เดินมาถึงเธอจึงได้สังเกตเห็นว่าหลายคนที่คุ้นหน้า แต่อะไรก็ไม่ร้ายเท่าคนคุ้นหน้าอีกคนที่นั่งอยู่ข้างเขาออกจะแนบชิดแม้จะเว้นระยะห่างแต่ก็ไม่มากพอ จนทำให้คนที่เห็นเผลอคิดไปไกลได้ พิมพ์พิมล ใบหน้าสวยเก๋แม้จะผ่านเวลามาหลายปีแล้วแต่พี่พิมพ์ก็ยังสวย เปรี้ยว เฉี่ยวตามสไตล์ของเขา คนที่นั่งข้างๆ ก็ดูจะพูดคุยเทกแคร์ไม่ห่าง จนเธอเผลอคิดถึงผู้หญิงอีกคนที่อยู่ในห้องเขาเมื่อเช้า และคุณดาราคนนั้นคงจะอยู่มาทั้งคืนนั่นแหละ เธอแอบคิดว่าวันนี้อาจจะไม่ได้เจอเขาก็ได้ เพราะไอ้ของสมนาคุณดินเนอร์สุดหรูพร้อมไวน์ราคาแพงที่นำไปเสิร์ฟให้ถึงห้องนอน คงจะทำให้เขาชื่นมื่นอยู่ในห้องจนไม่อยากออกมาสังสรรค์ข้างนอก "อ้าว น้องรดา มาด้วยหรือคะ" เสียงทักทายของพี่พิมพ์เรียกสายตาของใครบางคนข้างๆ ให้หันมามองด้วย เธอจึงได้แต่ยกมือขึ้นสวัสดี ยายจ๋าดึงเธอให้ไปนั่งที่โซฟาตรงข้ามพี่ชายตัวเอง ส่วนพี่ณัฐกรก็มานั่งโซฟาเดี่ยวข้างๆ เรียกพนักงานมาช่วยบริการเครื่องดื่มให้เธอสองคน "สบายดีห
คนตัวสูงไม่เพียงสาวเท้าเข้าหาเท่านั้น มือเขายังดึงเชือกชุดคลุมอาบน้ำที่มัดเอวไว้ออก เผยให้เห็นแผงอกล่ำสัน สะดุดตากับรอยสักรูปงูที่หน้าอกจนเผลอร้องตกใจออกมาเบาๆ "พี่ธรคะ" เสียงหวานของคุณดาราสาวที่เอ่ยเรียก ทำให้เธอได้สติอีกครั้ง รีบผลักเขาให้พ้นทางเดินอีกเพียงไม่กี่ก้าวก็จะถึงประตูนั้น แล้วก็รีบออกไปทันที เรื่องเมื่อตอนเช้าบนห้องพักชั้น VIP ถูกนำเข้าที่ประชุมในช่วงสายของวัน เธอคือผู้อยู่ในเหตุการณ์จึงได้เข้าร่วมด้วย เรื่องนี้จึงได้กลายเป็นเรื่องใหญ่ไปโดยปริยาย นับว่ายังโชคดีที่เจ้าของห้องไม่ได้ถูกพูดถึง คงเพราะไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใคร มีเพียงคุณดาราที่ถูกกล่าวถึง แต่นั่นก็ยิ่งทำให้ในที่ประชุมออกจะกลัวอยู่ไม่น้อยเพราะกลัวเธอจะเอาเรื่องไปรีวิวตามสื่อต่างๆ อย่างที่ว่าจริงๆ และนั่นคงทำให้ชื่อเสียงของโรงแรมเสียหายไม่น้อย เธอเผลอนึกไปถึงถ้าเกิดพี่รุตรู้ว่าคนในห้องนั้นเป็นชลันธร พี่ชายเธอจะมีสีหน้าแบบไหนกันแน่ เพราะห้องพักนั้นถูกจองในชื่อของบริษัทเครือราชศิริโสภณ และห้องพักชั้นหรูห้องนั้นจะยังได้รับดินเนอร์สุดหรู พร้อมไวน์ขวดละหลายหมื่นนั่นเป็นการขอโทษหรือเปล่า จบเรื่องวุ่นวายในห้
"อะไรกันนักหนาวะ โรงแรมห้าดาวหรือโรงแรมจิ้งหรีด วุ่นวายฉิบหาย" เสียงโวยวายทันทีที่ประตูไม้บานใหญ่ถูกเปิดออก เธอได้ยินคำบ่นแกมด่านั้นเต็มสองหูอย่างชัดเจน แต่อะไรก็ไม่ร้ายเท่าน้ำเสียงคุ้นหู จนเมื่อประตูเปิดออกเห็นใบหน้า "พี่ธร" เสียงอุทานแผ่วเบา ใบหน้าหล่อเหลายืนหน้าตึงขวางประตูเอาไว้ ยิ่งเมื่อเห็นว่าใครเป็นคนเคาะเขาก็พ่นลมหายใจออกมาแรงๆ อย่างหงุดหงิด "แห่กันมาทั้งโรงแรมหรือยัง แล้วเมื่อไหร่จะเสร็จ" เสียงถามอย่างไม่พอใจทำให้เธอได้สติ "เอ่อ..ทางโรงแรมต้องขออภัยด้วยนะคะ ความไม่พอใจทั้งหมดเราจะรับไว้เองค่ะ ขออนุญาตให้รดาเข้าไปดูช่างด้านในหน่อยนะคะ" เขาไม่ตอบได้แต่เบี่ยงตัวหลบให้เธอเดินผ่านประตูเข้ามาได้ เธอรีบเดินตรงไปทางห้องน้ำแต่เมื่อเข้ามาถึงห้องโถงใหญ่ก็ต้องชะงักฝีเท้าลง เมื่อเห็นสาวสวยผมบอร์นทองเดินออกมาจากห้องนอนด้วยชุดคลุมสีขาวเช่นเดียวกับเขา เธอเหลือบสายตามองเพียงแวบเดียว ทีแรกนึกว่าสาวฝรั่งเสียอีก แต่กลับไม่ใช่ ที่น่าตกใจกว่านั้นก็คือผู้หญิงคนนี้เธอเคยเห็นใบหน้าสวยๆ อยู่ตามสื่อโซเชียลบ่อยครั้งในฐานะดาราหน้าใหม่ของช่องที่กำลังได้รับการโปรโมตเพราะละครที่กำลังออกอากา
"โห ทำไมมันยากขนาดนี้เนี่ย" "คุณรดา ต้องทำให้ได้นะคะ พี่นภาย้ำมาเรื่องผ้าปูเตียงเลยค่ะ แอบบอกว่าคุณวรุตจะทดสอบด้วยนะคะ" "ฮะ! พี่รุตจะมาทดสอบด้วย" "ใช่ค่ะ" คำตอบของพี่อารีไม่ได้ทำให้เธอมีแรงลุกขึ้นสู้สักนิด นอกจากจะทิ้งตัวนอนหงายลงกับพื้นไปทั้งอย่างนั้น "ตายแล้ว คุณรดา นอนแบบนี้ได้ไงคะ" "ทำไมล่ะ" "เอ่อ.." เสียงอ้ำอึ้งของพี่อารี เธอพอจะเข้าใจบ้าง คงเพราะคิดว่าเธอจะไม่กล้านอนพื้นห้องแบบนี้ "ทำความสะอาดซะเอี่ยมอ่อง ฆ่าเชื้ออย่างดี ทำไมจะนอนไม่ได้" เสียงใสที่เอ่ยตอบ พร้อมมือที่ตบลงที่พื้นข้างตัวเป็นสัญญาณให้พี่อารีที่นั่งอยู่ข้างๆ เอนตัวนอนตาม "พี่คิดว่าคุณรดา จะเป็นคุณหนูเรื่องมากซะอีก ไม่คิดว่าจะติดดินขนาดนี้" พี่อารีที่นอนเอนตัวตามมาข้างๆ เอ่ยอย่างที่คิดไว้ตอนแรก เธอจึงได้แต่หัวเราะชอบใจ "ใครว่ารดาติดดิน ติดพื้นต่างหาก" เมื่อได้พูดคุยกันมากขึ้น พี่อารีก็เริ่มเป็นกันเองกับเธอขึ้นเยอะกว่าตอนแรกที่เกร็งจนแทบจะไม่กล้าสอนงาน ผ่านไปอีกเกือบชั่วโมง แม้เตียงจะยังไม่เรียบตึงจนพี่อารีต้องเป็นคนปูผ้าเองอีกครั้ง แต่ก็ถือว่าเธอทำได้ดีกว่าตอนแรกมากนัก ถ้าขืนรอจนเธอ
Comments