หน้าหลัก / โรแมนติก / เมียเด็กของคุณกัปตัน / ตอนที่ 5 ค้างคืนกลางป่าสองต่อสอง

แชร์

ตอนที่ 5 ค้างคืนกลางป่าสองต่อสอง

ผู้เขียน: InTheStars
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-09-10 17:40:35

ตอนที่ 5 ค้างคืนกลางป่าสองต่อสอง

“ฉันว่าเราเดินย้อนขึ้นไปตามแนวลำธารกันเถอะ เดินไปเรื่อยๆก็น่าจะถึงจุดที่เราถูกกระแสน้ำพัดมา”

เขาพูดพร้อมกับคลายลำแขนออกจากร่างบาง แล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง

(พรึ่บ)

“โอ๊ย!”

(ตุ๊บ!)

“หนู! เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”

ลลิสาพยายามดันตัวลุกขึ้นยืน แต่แล้วเธอก็ต้องล้มลงไปกองที่พื้น เนื่องจากข้อเท้าของเธอปูดบวม จนทำให้เธอทรงตัวไม่อยู่ กัปตันพิพัฒน์นั่งลงแล้วยื่นมือไปจับที่ข้อเท้าเล็ก

“จะ...เจ็บค่ะ”

เธอนิ่วหน้าด้วยความรู้สึกเจ็บปวด

“ข้อเท้าของหนูน่าจะไปโดนกับโขดหิน เจ็บตรงไหนอีกหรือเปล่า”

เขามองหน้าคนตัวเล็กด้วยความรู้สึกสงสาร

“มะ...ไม่ค่ะ เจ็บแค่ข้อเท้า”

“งั้นขี่หลังฉันนะ ฉันจะพาหนูกลับไปหาพ่อกับแม่เอง”

ลลิสาพยักหน้าตอบกลับ เขาพยายามประคองร่างเล็กขึ้นขี่หลัง

(พรึ่บ)

นัยน์ตาคมกวาดมองไปรอบๆบริเวณนั้น มันเป็นช่วงเวลาที่พระอาทิตย์กำลังลาลับขอบฟ้า ทุกอย่างกำลังเงียบสงัด มีแค่เพียงเสียงน้ำไหลเชี่ยว และไม่มีท่าทีว่าจะมีผู้คนอยู่แถวๆนั้น นอกจากเขาและเด็กสาวหน้าสวยคนนี้

“คุณกัปตันไหวไหมคะ หนักหรือเปล่า”

ลลิสาเอ่ยถามออกไป เขายังคงให้เธอขี่หลังเดินไปเรื่อยๆ

“ไม่หนักหรอก ฉันยังไหว”

“แต่มันมืดแล้วนะคะ ตอนนี้เราอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้”

เธอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พิพัฒน์รับรู้ได้ว่าเด็กสาวกำลังเกิดอาการหนาวสั่น

“แล้วเธอล่ะ ไหวหรือเปล่า”

“หนูหนาวค่ะ”

พิพัฒน์หยุดชะงักทันที เมื่อเขามองไปเห็นบ้านต้นไม้ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่เขายืนประมาณสองร้อยเมตร

“หนูดูบ้านต้นไม้สิ เราไปตรงนั้นกันเถอะ เผื่อจะขอความช่วยเหลือจากคนในบ้านต้นไม้นั้นได้”

ดวงตากลมโตมองไปยังบ้านต้นไม้หลังนั้น

“มีใครอยู่ไหมครับ มีใครอยู่หรือเปล่า!”

ไม่ว่าพิพัฒน์จะเปล่งเสียงเรียกขนาดไหน แต่ก็ไม่มีเสียงใครตอบกลับมา เขามองไปรอบๆตัวบ้านต้นไม้ จึงได้เห็นตัวหนังสือที่เขียนเป็นภาษาอิตาลี

“บ้านพักชั่วคราวสำหรับเจ้าหน้าที่อุทยาน”

เขาอ่านตัวหนังสือนั้น จึงมั่นใจได้ว่า เขาสามารถพาเด็กสาวเข้าไปพักอยู่ในนั้นได้

“เราต้องพักที่นี่จนกว่าจะเช้า ค่อยหาทางออกไปจากตรงนี้ ฉันคิดว่าครอบครัวของเธอน่าจะแจ้งเจ้าหน้าที่แล้ว พวกเขาอาจจะตามมาเจอเราตรงนี้ก็ได้”

“ค่ะ หนูก็ไปต่อไม่ไหวเหมือนกัน หนูหนาว”

ด้วยเสื้อผ้าที่เปียกปอน ทำให้ร่างกายของลลิสาเย็นเฉียบและหนาวสั่น

(พรึ่บ)

เขาปล่อยร่างเล็กลงจากหลัง ก่อนจะใช้ลำแขนโอบอุ้มเธอขึ้นพาดบ่า มือหนาอีกข้างเกาะราวบันได โชคดีที่บ้านต้นไม้ไม่ได้อยู่สูงมาก เขาโอบอุ้มร่างเล็กขึ้นไปอยู่บนบ้านได้อย่างปล่อยภัย

“ดีจังเลยค่ะ มีแคร่มีผ้าห่มด้วย”

ลลิสาพูดออกมา เมื่อร่างของเธอถูกวางให้นั่งอยู่บนแคร่ไม้ไผ่

“เจ้าหน้าที่น่าจะเข้ามาพักอยู่ที่นี่เมื่อไม่นาน ดูขวดน้ำดื่มสิ แล้วก็ถุงขนมปังที่วางอยู่บนโต๊ะ พวกเขาน่าจะมาพักอยู่ที่นี่บ่อยๆ ฉันว่าเราคงต้องทานขนมปังพวกนี้แล้วล่ะ”

“ค่ะ หนูกำลังหิวด้วย”

เธอพูดพร้อมกับมองไปที่ถุงขนมปังหลายชิ้น มือหนาหยิบขึ้นมาแกะถุงออก จากนั้นจึงหยิบขนมปังยื่นให้สาวน้อย

“ทานสิ จะได้มีแรง พรุ่งนี้ค่อยเดินทางต่อ”

เธอยื่นมือไปหยิบขนมปังขึ้นมารับประทาน

“คุณกัปตันทานด้วยกันสิคะ”

“เธอทานให้อิ่มก่อนเถอะ ฉันทานตอนไหนก็ได้ ดูสิ ขนมปังและน้ำดื่มอยู่ในลังข้างๆประตูเต็มไปหมด แบบนี้เราไม่อดแล้ว”

เขาหยิบขนมปังออกจากถุง และทานไปหลายชิ้น

“หนูหนาว”

สาวน้อยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

“เธอถอดเสื้อผ้าออกเถอะ ฉันจะเอาไปตากตรงหน้าต่าง น่าจะแห้งทันพรุ่งนี้เช้า”

“! ละ...แล้วหนูจะใส่อะไรคะ”

ลลิสาแสดงสีหน้าตกใจไม่น้อย

“เธอก็ใช้ผ้าห่มพันตัวไว้ไง ถอดเสื้อผ้าเถอะ ฉันไม่มองเธอหรอก ไม่ต้องกลัว ถ้าถอดเสร็จก็เรียกฉันแล้วกัน แต่ถ้าเธอไม่ถอดออก เธอก็จะต้องนอนหนาวจนเป็นไข้แน่ๆ แล้วแบบนี้ฉันจะทำยังไง ยาแก้ไข้ก็ไม่มี แถมยังมาหลงอยู่กลางป่าอีก”

เขาพูดในขณะที่ยืนหันหลังให้สาวน้อย

“ค่ะ หนูจะถอดเสื้อผ้าเดี๋ยวนี้เลย”

ลลิสาค่อยๆถอดกางเกงยีนส์ขายาวออกจากท่อนล่าง รวมไปถึงกางเกงชั้นในสีหวาน จากนั้นจึงถอดเสื้อครอปสีครีม ตามด้วยเสื้อชั้นใน เธอวางเสื้อผ้าลงที่พื้น แล้วรีบคว้าผ้าห่มผืนหนามาคลุมกาย แล้วนอนขดตัวอยู่บนแคร่ไม้

“เอ่อ...หนูถอดเสื้อผ้าเสร็จแล้วค่ะ”

เธอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ใบหน้าสาวน้อยร้อนผ่าว ลลิสาทั้งเขินและอาย ที่กัปตันผู้หล่อเหลากำลังนำเสื้อผ้าและชุดชั้นในของเธอไปตากตรงริมหน้าต่าง ยังดีที่เวลานี้เป็นเวลาฟ้ามืด เธอมองเห็นหน้าเขาเพียงเลือนลาง

(พรึ่บ)

ร่างแกร่งนั่งกอดเข่าหลังพิงประตูบ้านไม้ กัปตันพิพัฒน์รู้สึกเย็นไปทั้งร่างกาย เนื่องจากเขายังคงสวมใส่เสื้อผ้าที่เปียกชุ่ม

“คุณกัปตันหนาวไหมคะ”

คนที่กำลังนอนอยู่บนแคร่เอ่ยถามเขา

“ก็หนาวนะ ไม่เป็นไร ฉันทนได้”

“หนูเอาเปรียบคุณกัปตันเกินไปหรือเปล่าคะ”

“ไม่ต้องคิดมากหรอก ขอแค่คืนนี้หนูไม่เป็นไข้ ฉันก็สบายใจแล้ว พรุ่งนี้จะได้ออกเดินทางกันต่อ”

“ถ้าคุณกัปตันหนาว ขึ้นมานอนห่มผ้าด้วยกันนะคะ”

“ไม่เป็นไร หนูนอนเถอะ หนูน่าจะเพลีย พักผ่อนเถอะนะ”

“ค่ะ”

“เอ่อ...หนูอายุเท่าไหร่แล้ว แล้วชื่ออะไรล่ะ”

เขานึกขึ้นได้จึงเอ่ยถามออกไป

“หนูชื่อซาร่า อายุสิบแปดปี ย่างสิบเก้าค่ะ คุณกัปตันอายุเท่าไหร่คะ”

“ฉันชื่อพัฒน์ อายุสามสิบเก้าปี”

“สามสิบเก้าปีจริงๆเหรอคะ หนูนึกว่าคุณกัปตัน อายุมากกว่าหนูแค่สิบปี คุณกัปตันยังดูหนุ่มอยู่เลย แถมยังหล่อมากด้วย”

เธอพูดความในใจแบบไม่อ้อมค้อม

“หึ ฉันแก่แล้ว เป็นพ่อหนูได้เลยล่ะ ลูกสาวของฉันอายุเท่ากันกับหนูนั่นแหละ”

“ว่าไงนะคะ! คุณกัปตันมีลูกแล้วงั้นเหรอคะ”

เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างตกใจ

“เบาๆสิ อย่าเสียงดัง ฉันมีลูกตั้งแต่เรียนอยู่ปีหนึ่งน่ะ”

“โห...แบบนี้ภรรยาและลูกของคุณกัปตันต้องเป็นห่วงคุณกัปตันแน่ๆเลย หนูเป็นต้นเหตุทำให้คุณกัปตันหลงป่า”

“ไม่ต้องคิดมากหรอก ลูกสาวฉันไม่รู้เรื่องนี้ ฉันเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวน่ะ ไม่ได้อยู่กับแม่ของลูกตั้งแต่ลูกสาวลืมตาดูโลกแล้ว นอนเถอะเด็กน้อย พักผ่อนเยอะๆ พรุ่งนี้จะได้มีแรงออกเดินทาง”

“ค่ะ ฝันดีนะคะ คุณกัปตัน”

“...”

เขาไม่ได้ตอบกลับอะไร พิพัฒน์เพียงแค่นั่งกอดเข่าอมยิ้ม เขารู้สึกเอ็นดูเด็กสาวคนนี้ คงเพราะว่าเธอมีนิสัยร่าเริงคล้ายๆกับลูกสาวของเขา

“หนาว...ซาร่าหนาว...คุณแม่ขา...ซาร่าหนาว...กอดซาร่าหน่อยสิคะคุณแม่ คุณพ่อ...ช่วยซาร่าด้วย...หนาว”

ลลิสานอนส่งเสียงครางสั่นเครือ เธอพูดประโยคเดิมซ้ำไปซ้ำมา จนทำให้กัปตันพิพัฒน์สะดุ้งตื่น เขาต้องนั่งกอดเข่าทนหนาวอยู่อย่างนั้น

“หนาว...ซาร่าหนาว”

(พรึ่บ)

ร่างแกร่งลุกขึ้นเดินไปหยุดยืนข้างๆแคร่ไม้ไผ่ เขายื่นมือไปแตะที่หน้าผากมน

“โห ตัวเย็นขนาดนี้เลยเหรอ”

“ช่วยด้วย...หนาว”

คนตัวเล็กกำลังนอนขดอยู่ใต้ผ้าห่มด้วยอาการสั่นสะท้าน ถ้าขืนปล่อยไว้แบบนี้ เธออาจจะหนาวจนช็อคไปก็เป็นได้ พิพัฒน์ถึงกับถอนหายใจ เขาไม่มีเวลาคิดอะไรไปมากกว่านี้แล้ว

(พรึ่บ)

เสื้อเชิ้ตและกางเกงยีนส์ขากระบอก รวมไปถึงกางเกงชั้นใน ถูกถอดออกจากกายแกร่ง เขานำเสื้อผ้าไปตากไว้ใกล้ๆกับเสื้อผ้าของลลิสา

“ฉันขอโทษนะ ถ้าฉันไม่ทำแบบนี้ หนูอาจจะนอนหนาวจนช็อคแน่ๆ”

(พรึ่บ)

เขาพูดพึมพำก่อนจะก้าวขึ้นไปบนแคร่ไม้ไผ่ จากนั้นจึงล้มตัวลงนอน และคว้าร่างเล็กที่นอนขดอยู่ในผ้าห่มเข้ามากอดไว้แนบอก

“หนาว...หนูหนาว...ช่วยหนูด้วย”

ลำแขนเล็กยื่นมาโอบกอดกายแกร่งไว้แน่น ตัวของเธอเย็นเฉียบ พิพัฒน์เริ่มรู้สึกร้อนรุ่มไปทั่วร่างกาย เมื่อร่างกายเปลือยเปล่าของเขากำลังสัมผัสกับร่างกายของเด็กสาว

------------------------------------

คุณกัปตันพัฒน์อย่าทำอะไรน้องนะ น้องยังเด็กอยู่ แค่กอดก็พอ ฝากกดไลค์คอมเม้นเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เมียเด็กของคุณกัปตัน   คุณกัปตันของหนู(จบบริบูรณ์)

    สามปีต่อมาพิพัฒน์ในวัย 48 ปี แต่ใบหน้ายังคงหล่อเหลาราวกับหนุ่มในวัยสามสิบปลายๆ ร่างกายของเขายังคงแข็งแรงจากการออกกำลังกายสม่ำเสมอ เขาใช้เวลาทุกๆวันดูแลลูกๆและภรรยา แม้จะไม่ได้ทำงานเหมือนแต่ก่อน แต่พิพัฒน์ก็ยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในสายการบินของครอบครัว และแพรพลอยขึ้นรับตำแหน่งรองประธาน ในขณะที่ภาคินเองก็เพิ่งจะขึ้นรับตำแหน่งประธานไปหมาดๆ พิพัฒน์และลลิสาแต่งงานกันในโบสถ์แห่งหนึ่ง กลางเมืองมิลาน ครอบครัวทั้งสองฝ่ายต่างร่วมยินดีและเป็นสักขีพยานรักให้กับคนทั้งสอง“มาค่ะ ใครจะนั่งกับคุณยายคุณตาบ้างคะ”คุณยายริสาถามหลานๆ พวกเขากำลังเดินทางไปเที่ยวที่เทือกเขาโดโลไมต์ในช่วงปิดเทอม“ผมจะนั่งกับคุณตาคุณยายครับ”เด็กชายภูผาในวัย4 ขวบ เดินขึ้นรถบ้านไปนั่งตรงกลางระหว่างคุณตาคุณยาย “น้องพราวจะนั่งกับคุณตาคุณยาย หรือจะนั่งกับพี่พลอยคะ”แพรพลอยถามน้องสาว เด็กหญิงแพรวพราวในวัยสองขวบ เด็กน้อยน่ารักเหมือนตุ๊กตาบาบี้ พี่สาวอย่างแพรพลอยหวงนักหนา“นั่งกับพลอยๆ พี่พลอยฉวยๆ”เด็กหญิงตัวน้อยยื่นมือให้พี่สาวโอบอุ้มขึ้นรถ(พรึ่บ)(ฟอดดดด)“น่ารักที่สุดค่ะ น้องสาวพี่”แพรพลอยหอมหน้าผากน้องสาวและอุ้มขึ้นรถบ้าน

  • เมียเด็กของคุณกัปตัน   ตอนพิเศษNC20

    ตอนพิเศษNC20+“เฮียไม่ต้องไปตามลูกหรอกค่ะ ปล่อยให้เขานอนกับพี่สาว เฮียก็รู้ยัยพลอยกับน้องภูตัวติดกันขนาดนั้น เรามาหาความสุขกันเถอะนะคะ ผลิตลูกเพิ่มดีไหม”เธอพูดพร้อมกับยื่นมือไปดึงขอบเอวกางเกงวอร์ม แล้วรูดลงไปกองอยู่ที่ข้อเท้าของพิพัฒน์“ดีครับ งั้นเฮียจะผลิตลูกเพิ่มอีกสักสองคน หนูโอเคใช้ไหม”เขาก้มหน้าลงไปจับที่คางภรรยาสาว เธอช้อนตาขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลา ขณะที่มือเล็กกำลังรวบรัดแก่นกายลำใหญ่“ดีค่ะที่รัก คืนนี้จัดทั้งคืนเลยดีไหมคะ”(จ๊วบ)“อ่าส์...สะ...เสียว”พิพัฒน์ถึงกับซู้ดปาก เมื่ิอภรรยาคนสวยใช้ริมฝีปากจดจูบที่ปล่ายหัวเห็ดบาน เธอมองจ้องมันอยู่ชั่วครู่ จากนั้นจึงอ้าปากครอบกลืนแท่งเอ็นใหญ่ และผงกศีรษะขึ้นลงเรื่อยๆ(บ๊วบบ๊วบบ๊วบ)“อ่าส์...ซี้ด...เสียว...โอ้ว”เขายืนเต็มความสูงและโยกเอวเบาๆเข้าไปในโพรงปากนุ่มนิ่ม ลลิสานั่งอยู่ปลายเตียง เธอช้อนตามองสามีอย่างยั่งยวน มือหนายื่นไปเกี่ยวสายเดี่ยวให้หลุดลงจากไหล่บาง จากนั้นจึงยื่นมือไปบีบคลึงเต้านมอวบใหญ่ ลลิสายังคงเร่งผงกหัวเข้าออกรัวๆ “อ๊าส์...อ่า...สุดยอด...โอย...ซี้ด เร็วอีกครับ”หลังจากที่ภรรยาคนสวยใช้ปากรูดดูดแท่งเอ็นใหญ่หลายนาที พิ

  • เมียเด็กของคุณกัปตัน   ตอนพิเศษ

    ตอนพิเศษหลายเดือนต่อมา“แว้แว้แว้!”เสียงเด็กทารกเพศชายร้องไห้ในยามเช้า พิพัฒน์ในวัย 45 ปี รีบเดินเข้าไปโอบอุ้มลูกชายวัยสามเดือนขึ้นมาอยู่ในอ้อมกอดของเขา“โอ๊ะโอ๋ ลูกชายของคุณพ่อ ตื่นแล้วเหรอครับ ไม่ต้องร้องนะคนเก่ง วันนี้คุณพ่อกับคุณแม่จะพาน้องภูกลับประเทศไทย เรากลับไปอยู่บ้านของเรากันนะครับ ให้ลูกโตขึ้นกว่านี้ คุณพ่อจะพากลับมาเยี่ยมคุณตาคุณยาย โอเคไหมครับ”“แอ้”พิพัฒน์พูดราวกับว่าเจ้าตัวเล็กฟังรู้เรื่อง เด็กชายภูผาหยุดร้องไห้ทันที เจ้าตัวกำลังมองดูบิดาที่กำลังทำท่าหยอกล้อและพูดคุยด้วย“ลูกตื่นแล้วเหรอคะเฮีย”ร่างระหง ผิวพรรณเปล่งปลั่งดูมีน้ำมีนวล กำลังเดินออกมาจากห้องน้ำ เธอใช้ผ้าเช็ดตัวนุ่งกระโจมอก พิพัฒน์จ้องมองภรรยาสาวด้วยความหลงใหลเหมือนเช่นทุกวันที่ผ่านมา“ลูกตื่นแล้วครับ น่าจะหิวนมด้วย”“แป๊บนะคะ”เธอตอบสามี ขณะที่กำลังนำเสื้อเชิ๊ตมาสวมใส่“ครับ ที่รัก”“มองทำไมขนาดนั้นคะ”ลลิสาถามถามพิพัฒน์ เขาเอาแต่จ้องมองเธอด้วยแววตาที่บ่งบอกถึงความรู้สึกหลากหลาย“มองคุณแม่คนสวยไงครับ ทั้งสวย ทั้งมีน้ำมีนวล ทั้งน่ารัก น่าขย้ำสุดๆ”น้ำเสียงทุ้มเอ่ยออกมา ก่อนที่เขาจะหันไปหยอกล้อลูกชาย“อดทน

  • เมียเด็กของคุณกัปตัน   ตอนที่ 43 ตามหาหัวใจ

    ตอนที่ 43 ตามหาหัวใจพิพัฒน์และแพรพลอยเดินทางมาถึงประเทศอิตาลีในช่วงเช้าของวันเสาร์ แพรพลอยค่อนข้างตื่นเต้น เพราะเป็นการเดินทางในต่างประเทศครั้งแรกของเธอ เธอมองซ้ายมองขวาด้วยท่าทางเหมือนเด็ก“เดินเร็วๆสิพลอย พ่อรีบนะ”พิพัฒน์เองก็ตื่นเต้นไม่แพ้ลูกสาว เขาคิดถึงเมียรักจนสุดหัวใจ และหวังว่าลลิสาจะไม่โกรธเขา สองพ่อลูกนั่งรถแท็กซี่ไปตามเส้นทางที่เขาจำได้ดี“ตื่นเช้าจังเลยนะลูก หรือว่านอนไม่หลับอีก”มาดามริสาถามลูกสาวที่กำลังนั่งอยู่ในสวนดอกไม้“เจ้าตัวเล็กดิ้นแต่เช้าเลยค่ะคุณแม่”เธอยิ้มให้กับมารดาพร้อมกับใช้มือลูบหน้าท้องกลมโตนับตั้งแต่วันที่ลลิสากลับมาอยู่กับบิดามารดา เธอรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย ลึกๆในใจเธอเฝ้าแต่คิดถึงคนที่เป็นพ่อของลูกอยู่ตลอด เธอไม่ได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้บิดามารดาฟัง เธอบอกแค่ว่าพิพัฒน์ประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตก จนความจำเสื่อม และเขาต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลอีกนาน เธอจึงต้องกลับมาอยู่กับท่านทั้งสอง มิสเตอร์ฟรังโก้และมาดามริสาเข้าใจลูกสาวและลูกเขยเป็นอย่างดี “หลานชายของแม่คงจะแข็งแรงน่าดูเลย คริคริ ดีใจจังเลย จะได้เป็นคุณยายแล้ว”มาดามริสาทั้งตื่นเต้นและมีความสุข“

  • เมียเด็กของคุณกัปตัน   ตอนที่ 42 สำนึกผิด

    ตอนที่ 42 สำนึกผิด“ซาร่า! อย่าไป ซาร่ากลับมาก่อน!”(พรึ่บ)พิพัฒน์เอาแต่นอนละเมอ เรียกหาเมียรัก และสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก“อื๊อ...คุณอาละเมอหรือครับ”ภาคินเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงงัวเงีย เพราะเขาเองก็เพิ่งหลับไป และต้องตื่นตอนที่ได้ยินเสียงของพิพัฒน์“ซาร่า ซาร่าไปไหนแล้ว เมียของอาหายไปไหน ไปตามซาร่ามาหาอาหน่อยสิภีม”พิพัฒน์พยายามมองหาเมียรักของเขา ภาคินรีบลุกจากโซฟาเดินเข้ามาหาคุณอาของเขา“อาพัฒน์ว่าไงนะครับ”“ซาร่าไปไหน ทำไมไม่กลับมาหาอา เมียของอาไปไหน”“ใจเย็นๆนะครับคุณอา คุณอาจำผมได้แล้วใช่ไหมครับ”พิพัฒน์จ้องหน้าภาคินทันที“แกพูดอะไรของแกวะไอ้ภีม ทำไมอาจะจำไม่ได้ แกมันก็เป็นหลานชายของอาไง เมื่อก่อนแกก็ตามจีบเมียอา หมั่นไส้ ไอ้หลานบ้านี่”“ฮ่าๆๆ คนแก่จำได้แล้วโว้ย!”ภาคินหัวเราะดังลั่นห้อง“ว่าใครแก่วะ อายังไม่แก่นะเว้ย”“นั่งอยู่ตรงนี้นะครับ ผมจะไปตามคุณหมอ”ภาคินรีบเดินออกจากห้อง เพื่อไปตามแพทย์เจ้าของไข้แพทย์หนุ่มพูดคุยและตรวจอาการพิพัฒน์โดยละเอียด พิพัฒน์ตอบคำถามได้ทุกอย่าง แต่เขาก็ไม่ลืมที่จะถามหาเมียรักของเขาอยู่แบบนั้น“คนไข้หายเป็นปกติแล้วนะครับ แต่เรื่องของแขนด้านซ้าย อย่าเ

  • เมียเด็กของคุณกัปตัน   ตอนที่ 41 ซาร่าจากไปแล้ว

    ตอนที่ 41 ซาร่าจากไปพร้อมกับลูกในท้องพิพัฒน์เอาแต่นอนซึม เมื่อรู้ว่าลลิสาไปจากเขาแล้ว ทุกๆครั้งที่ตื่นมา เขาจะเจอเธออยู่ข้างๆตลอด แต่ตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว ผู้หญิงที่คอยดูแลเขา ผู้หญิงที่คอยป้อนข้าว คอยเช็ดตัว และคอยเอายาให้เขาทานทุกวัน “คุณพ่อเป็นยังไงบ้างคะพี่ภีม พลอยไม่ได้มาเยี่ยมสองวัน คุณพ่อดีขึ้นหรือเปล่า ”แพรพลอยเดินทางมาเยี่ยมบิดาของเธอในเช้าวันเสาร์ และก็เป็นเหมือนทุกครั้ง แอนนี่คอยติดตามเธอมาตลอด“ก็ตามที่เห็น ดูเอาสิ”ภาคินตอบกลับ แพรพลอยมองดูบิดาที่กำลังนอนหน้าเศร้าไม่สนใจใคร“คุณพ่อไม่สบายหรือเปล่าคะ ทำไมดูซึมๆ”เธอเดินเข้าไปใกล้ๆ แล้วยื่นมือไปแตะที่หน้าผากของบิดา“ตัวก็ไม่ร้อนนี่ แต่ทำไมถึงดูเหมือนคนเป็นไข้ล่ะ คุณหมอมาตรวจหรือยัง หมอบอกหรือเปล่าว่าคุณพ่อเป็นอะไร”เธอหันไปถามภาคินที่กำลังนั่งก้มหน้าเล่นมือถือ ที่ภาคินต้องทำแบบนั้น เพราะเขาไม่อยากจะใส่ใจแพรพลอยอีกแล้ว“หมอก็บอกว่าไม่ได้เป็นอะไรนี่ สงสัยจะเป็นไข้ใจละมั้ง”“ไข้ใจอะไรกัน”“ก็ตั้งแต่ซาร่าไปจากที่นี่ คุณอาก็ไม่ยอมทานข้าว เอาแต่นอนซึมเหมือนที่เห็นนั่นแหละ”“ฮะ ยัยซาร่าไปแล้วเหรอ ไปไหน”แพรพลอยทำหน้าฉงน“ไปอิตาลีไ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status