Masukอีธาน มัฟเวล อดีตเขาคือมาเฟียหนุ่มผู้มากด้วยอิทธิพล แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็ได้เกิดขึ้นกับเขา ทำให้ชายหนุ่มต้องพลัดพรากจากหญิงสาวผู้เป็นที่รัก เมื่อเขาถูกทำร้ายอาการสาหัสเจ็บเจียนตาย ชายหนุ่มใช้เวลารักษาตัวสิบปีกว่าจะหายดี จนสามารถใช้ชีวิตอย่างปกติ และเมื่อเขาหายดีจึงตัดสินใจเลือกทำอาชีพที่สุจริต นั่นคือการโรงแรม ซึ่งชายหนุ่มใช้ระยะเวลาไม่ถึงปี ทำให้เขาฟื้นฟูฐานะทางด้านการเงินได้อย่างน่ามหัศจรรย์ แต่ก็มีเรื่องสำคัญที่ทำให้เขาค้างคาใจ นั่นคือผู้หญิงที่เขารักสุดหัวใจ เมื่อชายหนุ่มได้พบกับเธอโดยบังเอิญ จึงทำให้เขาตัดสินใจที่จะทำทุกวิถีทาง เพื่อให้ได้เธอมาเป็นภรรยาของเขาด้วยความเต็มใจ โดยที่ชายหนุ่มไม่ทราบว่าเธอมีลูกกับเขา แถมยังได้ลูกแฝดอีกด้วย และนั่นจึงเป็นที่มาของเรื่องนี้ เล่ห์ร้ายใจปรารถนา
Lihat lebih banyakทางด้านอีธานหลังจากลองขับรถสปอร์ตรุ่นใหม่ล่าสุดราคาเหยียบห้าสิบล้าน ชายหนุ่มได้พาฮันน่าแวะเข้าไปภายในโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง เพื่อรับประทานมื้อกลางวัน แม้ผู้จัดการสาวจะพยายามปฏิเสธแต่ก็ไม่สามารถขัดใจ ลูกค้าวีไอพีรายใหญ่ของโชว์รูมได้
"ทำไมไม่กลับไปส่งฮันน่าก่อนค่ะ คุณอีธานทำแบบนี้หลายครั้งแล้ว ซึ่งคุณก็รู้ไม่ใช่เหรอคะ ฮันน่าไม่ชอบออกมาทานข้าวกับลูกค้าแบบนี้ ถ้าบอสรู้อาจจะไม่พอใจได้" เมื่ออยู่ภายในห้องตามลำพังกับลูกค้าหนุ่ม ฮันน่าทำใจดีสู้เสือพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ ทั้งที่ภายในใจของเธอนั้นมันสั่นระริกราวกับลูกนกตกน้ำ เมื่อชายตรงหน้ามีอิทธิพลเกินกว่าที่เธอนั้นจะสามารถหลบหลีกได้
"ผมแค่พาคุณแวะมาทานข้าว ทำไมต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ด้วย" ในขณะที่พูดอีธานได้ลุกขึ้นแล้วเดินอ้อมมายืนอยู่ด้านหลังของเธอ ก่อนจะก้มลงเข้าไปคร่อมหญิงสาวร่างอรชรเอาไว้ แล้วกระซิบลงไปที่ข้างใบหูของฮันน่าเบาๆ
"หนึ่งล้านแลกกับการที่คุณนอนอ้าขาให้ผม" วาจานี้ช่างเชือดเฉือดจิตใจของฮั่นน่าเหลือเกินไม่เคยมีผู้ชายคนไหนใช้คำพูดให้เธอรู้สึกเจ็บปวด ราวกับโดนของมีคมทิ่มแทงลงมากลางใจ ได้มากขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิต
"แม้ว่าฉันจะเป็นเพียงแค่ผู้จัดการเงินเดือนไม่ได้มากมายอะไร แต่ศักดิ์ศรีของความเป็นคน ของฉันมันก็มีเท่าเทียมกับคุณ" น้ำเสียงฮันน่านุ่มนวลแผ่วเบา แต่เต็มไว้ด้วยความตั้งมั่นและเด็ดเดี่ยว พร้อมกับแฝงความรู้สึกเจ็บปวดไว้ในคราวเดียวกัน เมื่อเธอนั้นกำลังคิดว่าอีธานควรจะให้เกียรติสตรีเพศแม่มากกว่านี้
"ผมอยากจะรู้จังว่าลีลาของผู้หญิง เจ้าพยศอย่างคุณจะเด็ดแค่ไหนกัน" อีธานพูดพร้อมกับฉายแววตาเจ้าเล่ห์ออกมา ก่อนจะเดินอ้อมไปนั่งที่เดิมแล้วหยิบไวน์มารินแล้วส่งให้กับฮันน่า
หญิงสาวรับมาพร้อมกับจิบเบาๆ ตามมารยาท แต่เขากลับรบเร้าให้เธอดื่มจนหมดแก้ว ในขณะที่อีธานมองมาที่หญิงสาวด้วยแววตาที่หวานหยาดเยิ้ม แต่แอบแฝงความร้ายกาจซ่อนเอาไว้อย่างน่ากลัว
"ลองชิมดูสิ อร่อยนะ" อีธานพูดพร้อมกับตักอาหารใส่จานให้ฮันน่า และนี่มันคือเป็นครั้งแรกในชีวิตของเขาก็ว่าได้ ที่ตักอาหารใส่จานให้กับ ผู้หญิงที่มาทานข้าวด้วย ส่วนมากหญิงสาวจะเป็นฝ่ายบริการเขามากกว่า แต่ฮั่นน่ามักจะเฉยชากับเขาทุกครั้งเวลาที่เธอนั้น ได้มีโอกาสมาทานข้าวกับอีธาน ไม่ต่างจากการถูกบังคับและนั่นยิ่งทำให้ชายหนุ่มรู้สึกพอใจในตัวของเธอ
"ขอบคุณค่ะ" น้ำเสียงของฮันน่าฟังดูราบเรียบราวกับว่าเธอนั้นกล่าวขอบคุณเขาไปตามมารยาท
ภายในห้องที่ถูกตกแต่งเอาไว้อย่างหรูหรา แต่บรรยากาศกับไม่อำนวย เมื่อหญิงสาวที่เขาพามาไม่เล่นด้วย เธอลงมือรับประทานอาหาร แต่สายตากลับมองไปยังนาฬิกาที่ข้อมือบ่อยครั้งครั้ง โดยไม่สนใจว่ามันจะเป็นการเสียมารยาทหรือไม่ เมื่อใจของเธอนั้นอยากออกไปให้พ้นๆ จากห้องนี้เสียที เพราะทุกครั้งเขาไม่เคยพาเธอมารับประทานอาหารภายในห้องแบบนี้ มันจึงทำให้ฮันน่ารู้สึก หวั่นใจไม่น้อย ถ้าหากอีธานจะคิดไม่ซื่อกับเธอ มันคงกลายเป็นเรื่องง่ายดายมากขึ้นเมื่ออยู่ในที่ลับตาคนแบบนี้
"คุณปิดแอร์หรือเปล่าคะทำไมร้อนจัง" ฮันน่า ถามชายหนุ่มออกมาพร้อมกับเม็ดเหงื่อที่เริ่มผุดขึ้นบนใบหน้า ความรู้สึกภายในกายของเธอมีความอยากจะปลดปล่อยกับชายตรงหน้าทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ อย่างน่าแปลกใจทั้งที่เธอนั้นไม่เคยรู้สึกกับใครแบบนี้มาก่อน
"หึ!..." เสียงตอบจากในลำคอของนิทานดังขึ้นพร้อมกับยกยิ้มแล้วฉายแววตาร้ายกาจขึ้นมา ก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นแล้วเดินอ้อมมาทางด้านหลังของฮันน่าอีกครั้ง
"ร้อนมากหรือเปล่า ถอดสูทออกสิ" เสียงทุ้มกระซิบลงไปที่ข้างใบหูเขาหญิงสาว เพียงแค่เธอได้ยินน้ำเสียงของเขา ก็กระตุ้นให้อารมณ์ในกายพลุกพล่านขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เพราะเวลานี้กายของเธอมันกำลังพยศหัวใจ และกำลังจะทำในสิ่งที่เธอนั้นพยายามที่จะหนีห่าง
"ผมถอดให้" ฮันน่านั่งนิ่งราวกับต้องมนต์สะกด เธอยอมให้อีธาน ถอดเสื้อสูทออกอย่างว่าง่าย หลังจากนั้นเขาได้โอบประคองร่างอรชรตรงไปที่เตียงนอน มือหนาของเขาได้รูดซิปที่ด้านหลังเลื่อนลงช้าๆ เธอใส่เดรสสีชมพูซึ่งเป็นชุดฟอร์มของโชว์รูม
"อย่าค่ะ" มือเรียวดันอกแกร่งของชายหนุ่มเอาไว้ แม้ว่าเธอนั้นจะพยายามควบคุมร่างกายไม่ให้เตลิดไปกับความต้องการที่มี แต่ก็รู้ดีว่าเธอคงยับยั้งชั่งใจได้เพียงแค่ไม่นาน เมื่อความต้องการที่มีนั้นเริ่มทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
"ทุกครั้งที่นอนกับผม คุณจะได้เช็คหนึ่งล้านบาท อย่าปฏิเสธไปเลยฮันน่า ผมรู้ว่าคุณก็มีความต้องการไม่ต่างจากผมในตอนนี้" ชายหนุ่มพูดออกมาในขณะที่มือของเขาอยู่ไม่เป็นสุข และในเวลานี้ชุดเดรสของเธอก็ได้หลุดออกจากอก เหลือเพียงแค่บราสีสด ที่เผยให้เห็นเนินอกขาวอวบจนน่าฟัด
เรือนร่างอรชรถูกจับกดให้นอนราบกับเตียง แล้วพอีธานก็ค่อยๆ ดึงชุดเดรสของเธอออกจนพ้นเรียวขาขาว ในเวลานี้เรือนกายของเธอมีเพียงแค่บราและชุดชั้นในตัวจิ๋ว ปิดบังร่างกายในส่วนที่หวงแหนเอาไว้เอาไว้เท่านั้น ก่อนที่ชายหนุ่มจะหันไปจัดการชุดของตัวเอง ซึ่งเขาใช้เวลาถอดมันออกอย่างช่ำชองราวกับคนชำนาญ ที่เคยผ่านสนามพิศวาสมานับไม่ถ้วน เผยเห็นซิกแพคที่อยู่ภายใต้ไรขนที่ขึ้นแซมอย่างเห็นได้ชัด จนหัวใจของฮันน่าเต้นตึกตัก อย่างไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนในชีวิต
"อืม...คุณอีธาน" เสียงหวานร้องเรียกชื่อชายหนุ่มออกมา เมื่อเขากำลังบรรจงสอดมือลงไปใต้บราของเธอ เขาค่อยๆ บีบนวดแล้วคลึงเบาๆ ในขณะที่มืออีกข้างของเขากำลังใช้ความพยายามในการปลดตะขอออก ขณะที่ความเป็นชายของเขาเริ่มพองตัวขึ้นเรื่อยๆ จนเวลานี้เป้ากางเกงบ๊อกเซอร์คับแน่นจนตุง พร้อมสำหรับการเปิดศึกกับเธอ
ใบหน้าคมคายเข้าหาใบหน้ารูปไข่ จากนั้นบทจูบอันเร่าร้อนก็ได้เริ่มขึ้น อีธานโลมเลียริมฝีปากอิ่มจนทั่วทั้งบนและล่าง เธอเองก็พยายามปากอ้ารับลิ้นร้อนที่สอดแทรกเข้าไปในโพรงปาก เพื่อสัมผัสกับลิ้นเล็กที่แตะกระหวัดเกาะเกี่ยวปลายลิ้นโต้ตอบแลกเปลี่ยนรสหวานกันไปมาอย่างไม่รู้จักพอ
"อืม...อื้ม" เสียงครางจากในลำคอของคนทั้งคู่ดังขึ้นมาเป็นระยะ ในขณะที่บราและชุดชั้นในตัวจิ๋วของเธอถูกอีธานเกี่ยวทิ้งลงไปอยู่ใต้เตียง พร้อมกับบ๊อกเซอร์ของเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ในเวลานี้ร่างกายของคนทั้งคู่เสียดสีกันจนเริ่มที่จะร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ คงไม่มีอะไรมาฉุดรั้งให้อีธานยุติความสัมพันธ์ครั้งนี้ลงได้
"สวยจัง คุณรู้ตัวหรือเปล่า ผมไม่เคยเห็น ผู้หญิงคนไหนมีสรีระร่างกายที่สวยงามเท่ากับคุณก่อนเลยในชีวิต" ในขณะที่พูดมือของเขาได้ลูบไล้ไปทั่วกายของเธอ พร้อมกับใช้สายตาคมกวาดมองตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะมาหยุดโฟกัสที่อกตูมสองข้าง ซึ่งเขายอมรับว่ามันเต่งตึงขึ้นมาจากธรรมชาติ โดยที่เธอนั้นไม่ได้ศัลยกรรมมาก่อน
"อืม...อ๊า..." ฮันน่าร้องอุทานออกมาเสียงหลงเมื่อเม็ดบัวของเธอถูกริมฝีปากของอีธานคาบเกี่ยวเอาไว้ เขาใช้ปลายลิ้นหยอกล้อกับปลายยอดปทุมถันอย่างเมามัน ราวกับคนคลั่งในรักก็ไม่ปาน เขาอมแล้วดูดกลืนทรวงอกอิ่มจนสาแก่ใจ มือหนาค่อยๆ เลื่อนลงต่ำแล้วสอดเข้าไปที่กลีบกุหลาบงามบานเบ่งของเธอ จากนั้นเขาได้ใช้นิ้วคลี่แล้วสอดเข้าไปตรงกลางร่องเสียว การกระทำของเขาทำให้ร่างเล็กบิดเร้าไปมาด้วยความรู้สึกเสียวซ่านไปทั้งตัว
ณ บ้านหลังหนึ่งที่ดูใหญ่โตราวกับปราสาทราชวัง ซึ่งเป็นบ้านที่อีธานออกแบบและสร้างขึ้นเพื่อเซอร์ไพรส์ภรรยาและลูกๆ ของเขา ประจวบเหมาะกับการเฉลิมฉลองกันยาและตุลาเรียนจบมอปลาย และทั้งคู่กำลังจะเข้าเรียนในมหา'ลัย ผู้หญิงทั้งโลกต่างก็อิจฉาฮันน่า ที่เธอมีสามี ทั้งหล่อทั้งรวยและแสนดีอย่างอีธาน "คุณพ่อขาาา... ทำไมรู้ใจลูกสาวแบบนี้ กันยาชอบบ้านหลังนี้มากค่ะ มันล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติดูร่มรื่นดี" หญิงสาวยิ้มร่าออกมาจนหน้าบาน ก่อนจะนั่งลงข้างๆ ผู้เป็นบิดาที่โซฟากว้าง พร้อมกับซุกใบหน้าเข้าหาอกแกร่งของอีธานระคนกำลังอ้อนที่ได้ของถูกใจ "ยัยตัวแสบ ไม่ต้องมาอ้อนเลยนะ พ่อยังคาดโทษหนูเอาไว้อยู่ลืมหรือยัง" อีธานแกล้งพูดเสียงเข้มออกมา จนกันยาทำมุ่ย เมื่อบิดากำลังจะบังคับให้เรียน ในคณะที่ใจเธอไม่รักเลยสักนิด "คุณแม่ขาาา... บอกคุณพ่อไปสิคะว่าประโยชน์ของการเรียนเศรษฐศาสตร์มีอะไรบ้าง และที่สำคัญกันยาก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะเรียนเกษตร เพื่อมาบริหารธุรกิจอสังหาของพ่อสักหน่อยนี่ค่ะ" อีธานถึงกับเกือบหลุดขำ ในคำพูดของกันยา แน่นอนคณะที่ลูกสาวของเขาเลือกเรียนนั้น มัน
"แล้วตุลาล่ะเรียนต่อคณะอะไร" "ผมคงต้องเรียนบริหารตามเจตนารมณ์ของพ่อ ไม่เหมือนใครบางคนแถวนี้ที่ดื้อรั้นเอาแต่ใจ" ตุลาอดที่จะพูดจากระแนะกระแหนกันยาออกไปไม่ได้ เมื่อน้องสาวของเขาตั้งใจที่จะเรียนคณะเกษตรศาสตร์สาขาวิชาพืชสวน ทั้งที่บ้านทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ และนั่นคือเหตุผลที่บิดาไม่อนุมัติ แต่ตุลาก็เชื่อว่ากันยาคงอ้อนจนได้ "ขวัญดีใจด้วยนะคะพี่ฮันน่า ที่พี่มีครอบครัวที่อบอุ่นสักที เมื่อพายุพัดผ่านไปทุกอย่างก็กลายกลับดี ในที่สุดวันดีๆ ก็เกิดขึ้นกับเราสองคน แม่เลี้ยงกวางกมลที่อยู่บนฟ้า คงมองลงมาด้วยรอยยิ้มที่เห็นลูกหลานมีความสุขแบบนี้" "ใช่แล้วจ้ะ พี่ต้องกลับแล้วนะ ดูแลตัวเองด้วย" ทั้งสองร่ำลากัน จากนั้นฮันน่าก็พาลูกๆ กลับ โดยมีสายตาของใครบางคน แอบมองตามหลังกันยา แม้ไม่ได้เห็นหน้า แต่เขาก็รู้สึกได้ว่าเธอนั้นเปลี่ยนไปมาก เมื่อกันยาโตเป็นสาวเธอดูสวยผิดหูผิดตา แต่ทว่าความรู้สึกของเธอที่มีต่อไร่กวางกมลนั้น ก็คง
"คุณย่าจะพูดถึงคนอื่นทำไมล่ะครับ ในเมื่อเขายังไม่คิดถึงคุณย่าเลย ขอโทษด้วยนะครับแม่ฮันน่าที่ผมพูดแรงไป" เมื่อสิงโตตั้งสติได้เขารีบกลับขอโทษฮันน่าออกไปในทันที "ใครบอกว่ากันยาไม่คิดถึงคุณย่าล่ะสิงโต" เสียงเข้มของอัครเดชพูดขึ้น เมื่อเห็นลูกชายมีท่าทีที่ตำหนิกันยาออกมาอย่างชัดเจน "พ่อเสือครับ บางทีที่นี่อาจจะไม่ประทับใจกันยา เพราะบ้านป่าอย่างเราจะไปสู้แสงสีศิวิไลซ์ได้ยังไงกัน จริงไหมครับแม่ฮันน่า" สิงโตพูดเองเออเองทั้งนั้น ทั้งที่ยังไม่ได้รับฟังความจริง แต่เขากลับตัดสินกันยาไปในทางด้านลบเรียบร้อยแล้ว "สิงโตลูกไปว่าน้องแบบนั้นได้ยังไง รู้หรือเปล่าว่าตอนนี้กันยานอนแอดมิดให้น้ำเกลืออยู่ที่โรงพยาบาล เมื่อตะกี้คุณย่ายังวิดีโอคอลคุยกับกันยาอยู่เลย" แม้ว่าสิงโตจะเกิดก่อนกันยาเพียงแค่เดือนเดียว แต่ผู้เป็นมารดาก็มักจะให้เขาเรียกแทนตัวเองว่าพี่เสมอ "เธอเป็นอะไรเหรอครับ" แม้ว่าน้ำเสียงของชายหนุ่มจะฟังดูเรียบเฉย แต่ภายในใจของเขากลับร้อนรุ่มเริ่มเป็นห่วงเธอ"กันยาไม่เป
"สิงโตจะไปรับแม่ฮันน่า ที่สนามบินกับพ่อเสือไหมลูก" คำถามของผู้เป็นมารดา ทำให้ชายหนุ่มรีบวางตำราในมือลงทันที "แม่ฮันน่า... หมายความว่าแม่ฮันน่าจะมาเที่ยวบ้านเราเหรอครับแม่" น้ำเสียงของชายหนุ่มดูตื่นเต้นไม่น้อย เมื่อภายในใจของเขาคิดว่ายังไงกันยาก็ต้องตามมารดามาที่นี่ด้วย "ใช่จ้า แม่ฮันน่าจะมาเยี่ยมคุณย่า แต่แม่เองก็ไม่แน่ใจหรอกนะว่ากันยาและตุลาจะมาด้วยหรือเปล่า" ขวัญข้าวที่กำลังนั่งปอกผลไม้อยู่ที่ห้องนั่งเล่น พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล ซึ่งเธอเองก็รู้สึกตื่นเต้นเช่นกันที่กำลังจะได้เจอกับฮันน่า ที่จากกันไปหลายเดือนแล้ว"ผมขอตัวไปที่บ้านท้ายไร่ก่อนนะครับแม่" สิงโตกำลังสับสนชายหนุ่มไม่รู้ว่าเขาควรดีใจหรือเปล่า ถ้าหากจะได้เจอกันยาในวันนี้ ที่สำคัญระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมานั้น เธอยังจะจำคืนและวันที่เคยใช้ชีวิตร่วมกันตั้งแต่วัยเยาว์ได้หรือเปล่า “อ้าว! ไม่ไปกับพ่อเสือเหรอลูก"
"เมียผมน่ากินไปทั้งตัวเลย" ในขณะที่ชายหนุ่มกำลังพยายามถอดเสื้อเชิ้ตของเขาออก สายตาคมนัยน์ตาสีฟ้าได้กวาดมองไปทั่วเรือนร่างของภรรยาอย่างชื่นชม ก่อนจะค่อยๆ ปลดเข็มขัดหนังราคาแพงออก พร้อมกับดึงกางเกงลงไปกองรวมกันที่พื้นรวมกับชุดสวยของเธอ เผยให้เห็นเป้าตุงที่คับแน่นกางเกงบ๊อกเซอร์ แทบจะปริแตกออกมาอยู่แล้วในตอนนี้ ไรขนที่หน้าอกบวกกับมวลกล้ามบนเรือนร่างชายกำยำ กำลังทำให้ฮันน่ารู้สึกหลงใหลเขาเช่นกันในเวลานี้ "มองผมแบบนี้ ไม่รอแล้วนะเมียจ๋า" เขาพูดออกมาพร้อมกับเข้าไปคร่อมร่างเล็กเอาไว้จนมิด "ไหนบอกว่าเมา" หญิงสาวพูดพร้อมกับช้อนสายตามองชายหนุ่มออกไปด้วยคำถาม ที่ไม่อยากเชื่อว่าเขาเมา "ผมเมาแล้วคึก คุณไม่รู้หรือไง เมียสวยแถมยังเซ็กซี่ขนาดนี้ใครจะไปอดใจไหว พูดมาแล้วยังเจ็บใจไม่หาย อยากจะเอาปืนยิงไอ้เมสันให้ตาย ที่มันบังอาจจ้องหน้าคุณตั้งเป็นชั่วโมง" ในขณะที่พูด ดวงตาของเขาได้ฉายแววเจ้าเล่ห์ออกมาพร้อมกับสอดฝ่ามือไปใต้แผ่นหลังของภรรยาเพื่อปลดตะขอบราออกให้สิ้น "อื้ม... คุณอีธ
"พูดเฉยๆ ก็ได้ ไม่จำเป็นที่จะต้องโน้มตัวเข้ามาใกล้ คุณเห็นไหมว่าฉันกำลังขับรถอยู่ ถ้าเกิดอุบัติเหตุจะทำยังไง ลูกจะอยู่กับใคร หื่นไม่เลือกเวล่ำเวลาจริงๆ " ฮันน่าพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดุ ในขณะอีธานก็ไม่ได้ลดละความพยายาม ชายหนุ่มยังคงใช้มือลูบลงไปที่ต้นขาของฮันน่าด้วยท่าทางที่เย้ายวนชวนขึ้นเตียง"แอบกินยาคุมหรือเปล่าเนี่ย... หลายเดือนแล้วทำไมคุณไม่ท้องสักที ผมอยากมีลูกกับคุณอีกสักสองสามคน" "ทำไมถึงเป็นคนเอาแต่ใจแบบนี้ เชื่อเลยว่ากันยาได้คุณมาเต็มๆ ไม่มีเหตุผลแถมยังดื้อรั้นเอาแต่ใจเป็นที่หนึ่ง" เมื่อห้ามไม่ได้ฮันน่าก็ปล่อยเลยตามเลย เธอพยายามลดความเร็วลง เพราะอีกไม่กี่นาทีก็จะถึงบ้านแล้วพอรถยนต์คันหรูแล่นเข้ามาจอดภายในบ้าน ฮันน่าถึงกับถอนใจออกมา เมื่อเธอรู้สึกยอมใจ ในความพยายามของอีธาน เพราะในเวลานี้ชายหนุ่มกำลังพยายามไซ้จมูกคมเป็นสันลงไปที่ซอกคอระหงของเธอ พร้อมกับกดปุ่มให้เบาะเอนลงไปข้างหลัง เขาทำเหมือนกับว่าจะเอากับเธอบนรถนี้ให้ได้ "นี่คุณ! หยุดเดี๋ยวนี้นะ ถึงบ้านแล้วค่ะ เดี๋ยวลูกก็ออกมาเห็นหรอก เมาแล้วเป็นแบบนี้ท






Komen