หน้าหลัก / โรแมนติก / ไฟแค้นเมียบำเรอ / ตอนที่6. จอมโจรคนเถื่อน/2

แชร์

ตอนที่6. จอมโจรคนเถื่อน/2

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-04 20:08:47

“มีสระว่ายน้ำด้วย แถมยังตกแต่งอย่างสวย แต่ทำไมถึงติดป้ายห้ามเข้า สงสัยยังไม่เปิดให้ใช้บริการ”

ดารินทร์เดินเมียงมองไปมาจนรู้สึกพอใจแล้ว ก็เดินกลับไปทางเดิม แต่ไม่ทันจะกลับไปยังเขตของที่พักนักท่องเที่ยว ก็สะดุดกับก้อนหินที่วางไว้ หญิงสาวเสียหลักเกือบล้มแต่ถูกใครคนหนึ่งคว้าเอวคอดเอาไว้ทัน

“อ๊ะ ขอโทษค่ะ”

ดารินทร์เอ่ยขอโทษออกมา ก่อนจะรีบผลักร่างหนาออกห่าง เมื่อเห็นหน้าตาราวกับมหาโจรของอีกฝ่าย จำได้ลางๆ ว่าเคยเห็นเขาที่ท่าเรือ อีกฝ่ายไม่ยอมปล่อยเธอง่ายๆ กลับรัดร่างงามไว้แน่น กลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ ลอยออกมาจากลมหายใจของเขา บ่งบอกว่าเขาดื่มมา ดวงตาคู่คมจ้องมองใบหน้างามด้วยแววตาพราวระยับ

“ปล่อยฉันนะ” ดารินทร์ร้องขึ้น

“ทำไมต้องปล่อย เธอกระโดดเข้ามาในอ้อมกอดของฉันเองนะคนสวย”

อัคคีแค่ดื่มนิดหน่อยไม่ถึงกับเมา เขายินดีกับความสำเร็จจึงฉลองกับเลขาคนสนิท ใครจะคิดว่าพอเดินกลับห้องพัก ก็ได้เจอกับว่าที่เจ้าสาว

เรื่องบังเอิญมีในโลกด้วยหรือ... เขาไม่เคยเชื่อ

“บ้า! ใครไปกระโดดกอดคุณกัน ฉันแค่ล้มสะดุดแค่นั้นเอง”

ดารินทร์แหวเข้าใส่ ผลักไสเขาพัลวัน แต่อีกฝ่ายกลับรัดอ้อมกอดแน่นขึ้นจนเธอแทบหายใจไม่ออก

“วางแผนมาดีนี่ คงกะเซอร์ไพรซ์ว่าที่สามีใช่ไหมคนสวย อยากได้สินสอดเพิ่มหรือว่ามีข้อเสนออะไรก็บอกมาสิ เจ้าหนี้อย่างฉันใจดีอยู่แล้ว”

อัคคีก้มลงมากระซิบข้างหู จมูกโด่งกดลงบนแก้มนวลแรงอย่างถือสิทธิ์ สูดกลิ่นสาวเข้าปอดเสียงดังฟอด

“อ๊ะ ตาบ้า อย่ามาฉวยโอกาสกับฉันนะ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ รู้หรือเปล่าว่าฉันเป็นใคร”

ดารินทร์ตกใจกับการกระทำจาบจ้วงของเขา เกิดมาไม่เคยถูกใครลวนลามแบบนี้ แม้แต่คู่หมั้นอย่างนทีก็ให้เกียรติเธอ ไม่เคยเกินเลยมากกว่าจับมือ กอดก็ไม่เคยกอดด้วยซ้ำ แต่ผู้ชายคนนี้ทั้งกอดทั้งหอมเธอ ยังดีที่ไม่ได้คิดจะจูบเธอ

“รู้สิ เธอคือว่าที่เจ้าสาวของฉันยังไงล่ะ ถึงฉันจะดูหนังดูละครมาน้อยมาก แต่ก็พอรู้ว่าพล็อตแต่งงานใช้หนี้เนี่ย มันโคตรคลาสสิก ไม่คิดว่าจะมีในชีวิตจริง”

เขาเอ่ยขึ้น มือหนายกขึ้นมาจับปลายคางของหญิงสาวให้มองสบตา กระตุกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นอาการตื่นตะลึงของเธอ

คงจะตกใจล่ะสิ ที่เขารู้แกว อัคคีรู้สึกสนุกที่ได้แกล้งว่าที่เจ้าสาว เธอลงทุนพาตัวเองมาหาเขาถึงเกาะร้อยดาว บ่งบอกเจตนาอยู่แล้วว่าคิดอะไรอยู่ จะเป็นอะไรไปหากเขาจะสนองศรัทธาสักหน่อย

“คุณพูดบ้าอะไร ฉันนี่นะเป็นลูกหนี้คุณ  ร้อยไม่ใช่พันไม่มีทางใช่ คุณพ่อคุณแม่ของฉันท่านมีหน้ามีตาในสังคม มีสมบัติกินทั้งชาติก็ไม่หมด ที่สำคัญฉันมีคู่หมั้นแล้ว และไม่คิดจะหลงผิดมาแต่งงานกับผู้ชาย หน้าตาเหมือนมหาโจรอย่างคุณหรอก”

ดารินทร์ตอกกลับเป็นชุด นึกเคืองที่อีกฝ่ายแต่งเรื่องโกหกได้ไม่เนียน พูดออกมาได้ว่าเธอเป็นลูกหนี้เขา ต้องมาแต่งงานใช้หนี้ ตระกูลพัชรวงศาแม้ไม่ใช่เศรษฐีติดอันดับของประเทศ แต่ก็ไม่ได้สิ้นไร้ไม้ตอกจนถึงขนาดต้องไปกู้ยืมเงินใคร

“หลงผิดเหรอ หน้าตาเหมือนมหาโจรเหรอ...”

อัคคีคำรามในคอด้วยความโมโห ผู้หญิงคนนี้ปากดีเกินไปแล้ว มาเล่นละครบทนางพยศคิดให้เขาอยากปราบเธอให้ยอมศิโรราบ เขาเจอผู้หญิงร้อยเล่ห์มารยามามากมาย รู้ทันทุกมุกทุกเล่ห์ หากไม่รู้ทันเขาคงไม่ลอยตัวมาจนถึงป่านนี้หรอก

“ปล่อยฉันได้แล้วนะ ถ้าไม่ปล่อยฉันจะร้องแล้วนะ ช่วยด้วย ช่วย อุ๊บ!”

ดารินทร์ร้องได้คำเดียว ริมฝีปากร้อนรุมก็ก้มลงมาทาบปิดริมฝีปากอิ่มของเธอเอาไว้ ก่อนที่เขาจะบดขยี้อย่างดุดัน หญิงสาวตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจ เขาหน้าตาเหมือนมหาโจรยังไม่พอ ยังมาปล้นจูบแรกในชีวิตสาวของเธอไปอีก ดารินทร์พยายามดิ้นรนขัดขืน แต่สู้แรงคนตัวโตราวกับยักษ์ไม่ได้ ริมฝีปากนุ่มหวานถูกเขาจูบอย่างหนักหน่วง ลมหายใจของเธอแทบหมดลงกับพายุจุมพิตแสนเร่าร้อนนั้น ร่างงามถูกร่างหนากว่ากอดรัดเอาไว้จนแทบจมหายไปในอกของเขา

“หวานไม่เลว อยากให้ฉันเล่นบทโหดหื่นก็ไม่บอก ชอบไหมจูบแบบเถื่อนๆ นี่”

อัคคีถอนริมฝีปากออกอย่างสาสมใจ มองริมฝีปากบวมเจ่อของหญิงสาวแล้วเปรี้ยวปากอยากจะบดขยี้อีกหน เขาเผลอคลายอ้อมกอดเล็กน้อย นั่นคือความผิดพลาด เมื่อหญิงสาวขยับตัวดิ้นรนออกจากอ้อมแขนของเขาได้สำเร็จ ฝ่ามือน้อยๆ ก็ฟาดเปรี้ยงมากระทบแก้มของเขาเต็มเหนี่ยวสามทีซ้อน

เผียะ เผียะ เผียะ !

เสียงตบดังก้องขึ้น มือตบยังไม่พอใจแค่นั้น ยกขาขึ้นเตะผ่าหมากเต็มแรง จนร่างสูงใหญ่ทรุดฮวบเอามือกุมน้องชายสุดที่รักไว้ หน้าเขียวด้วยความจุก ไม่ทันจะได้ลุกขึ้นมาจัดการกับสาวนักตบ เธอก็พาร่างของตัวเองวิ่งหนีเขาไปไกลเสียแล้ว

“ยายตัวแสบ... ฝาก... ฝากเอาก่อนเถอะ”

อัคคีมองตามแผ่นหลังเล็กนั้นไปด้วยประกายวาววับ อย่าให้เขาเห็นเธออีกนะ เขาจะทวงแค้นคืนให้สาสม

ดวงจันทร์ทอแสงสว่างนวลบนท้องฟ้ายามราตรี ทุกสรรพสิ่งในค่ำคืนนี้เงียบสงบ ร่างของใครคนหนึ่งค่อยๆ ย่องออกจากเรือนหลังเล็กมายังประตูด้านหลัง โดยมีกระเป๋าเป้สะพายไว้บนไหล่ มองซ้ายมองขวาจนมั่นใจว่าไม่มีใคร จึงใช้กุญแจเปิดประตูออกไปด้านนอกก่อนจะปิดประตูไว้ดังเดิม แล้วรีบวิ่งเต็มฝีเท้าออกจากตรงนั้นไปอย่างเร่งรีบ ดวงตามีน้ำตาไหลออกมาเมื่อหันกลับไปมองบ้านของตัวเอง

“ลาก่อนค่ะคุณพ่อ อดทนรอหนูดาวนะคะ วันหนึ่งข้างหน้าหนูดาวจะกลับมาหาคุณพ่อ ดูแลตัวเองด้วยนะคะ”

ดาริกาพึมพำบอกลาบิดา เธอเลือกจากมาในตอนที่ท่านหลับไปแล้ว ไม่อาจตัดใจจากในยามที่ท่านตื่น เกรงว่าตัวเองใจแข็งไม่พอ เธอจากไปในวันนี้เพื่อหาโอกาสและหนทางในการมีชีวิตอยู่ เธอจะต้องกลับมารับท่านไปอยู่ด้วยให้ได้ จำใจพรากจากในวันนี้เพื่อความสุขในวันข้างหน้า

เมื่อวิ่งมาถึงถนนหน้าปากซอย ก็รีบหยิบมือถือมาโทรหาเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวคือเชิญขวัญ

“ยายขวัญ ฉันมารอที่หน้าปากซอยแล้ว เธออยู่ที่ไหน”

“มาแล้วเหรอ รอเดี๋ยวนะฉันอยู่ใกล้ๆ นี่ เอง”

รอเพียงครู่หนึ่ง รถยนต์ขนาดเล็กคันหนึ่งก็แล่นมาจอดเทียบฟุตบาท กระจกด้านข้างคนขับเปิดออก

“ขึ้นมาก่อน เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า”

เชิญขวัญรีบบอกเพื่อน ดาริการีบเปิดประตูไปนั่งข้างๆ เพื่อน รถแล่นออกจากบริเวณนั้นทันที

“ขอบคุณมากนะขวัญ”

ดาริกาเอ่ยขอบคุณเพื่อนสาว เธอโทรไปขอความช่วยเหลือจากเชิญขวัญเพื่อนสมัยเรียนมัธยม เชิญขวัญเป็นลูกสาวเจ้าของแพปลา มีฐานะดีคนหนึ่งของจังหวัด ทั้งสองเรียนโรงเรียนเดียวกันชั้นเดียวกัน จนกระทั่งจบมัธยมปลายก็แยกย้ายกันไปเรียนต่อ เชิญขวัญไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยในกรุงเทพ ทั้งสองติดต่อกันอยู่เสมอ เชิญขวัญเรียนจบแล้วกลับมาช่วยทางบ้านดูแลกิจการของครอบครัว

“ไม่เป็นไร ฉันดีใจที่เธอกล้าออกมาเสียที ยอมให้ยายแม่เลี้ยงนั่นโขกสับอยู่ได้ตั้งนานสองนาน ถ้าเป็นฉันคงแหลกกันไปข้าง ไม่ปล่อยให้ลอยชายแบบนี้หรอก”

เชิญขวัญรู้เรื่องของดาริกาเป็นอย่างดี เคยออกปากจะช่วยหางานให้เพื่อนทำ แต่ดาริกาไม่อาจทิ้งบิดาไปไหนได้ ยอมให้แม่เลี้ยงอย่างแขไขกดขี่ข่มเหงอยู่แบบนั้น

“ฉันต้องดูแลคุณพ่อ แต่ครั้งนี้มันสุดจะทนจริงๆ น้าแขจะยกฉันให้แต่งงานใช้หนี้ คุณพ่อท่านไม่ยอมแต่น้าแขไปตกลงกับทางนั้นไว้แล้ว ถ้าฉันยังอยู่คงถูกบังคับแน่ๆ”

ดาริกาบอกเล่าด้วยน้ำเสียงขื่นจัด เจ็บช้ำใจ

“ถ้าเธอยอม เธอก็โง่เกินเยียวยาแล้ว แค่ยอมให้เขาโขกสับยิ่งกว่าคนใช้ก็ว่าแย่แล้ว ขืนยอมแต่งงานใช้หนี้อีก ชีวิตจะเหลืออะไร”

เชิญขวัญถอนหายใจแรงๆ ขณะยื่นมือมาบีบมือเพื่อนสาวให้กำลังใจ ชีวิตของดาริกาก็เหมือนนางซินดีๆ นี่เอง แต่โชคร้ายตรงไม่มีเจ้าชายมาตามหารองเท้าแก้ว เธอเลยต้องช่วยเพื่อนเสียเอง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ไฟแค้นเมียบำเรอ   ตอนที่ 98 ตอนพิเศษ: เมื่อความรักมาทักทายหัวใจ/2 (จบ)

    หลายเดือนผ่านไปนับจากงานแต่งงานที่เกาะร้อยดาว ชีวิตของบรรเจิดเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ช่อดอกไม้ในมือวันนั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่ดอกไม้ แต่เป็นสัญลักษณ์ที่จุดประกายความคิดบางอย่างในใจเขา ตั้งแต่วันนั้นภาพของเจนจรัส หญิงสาวผู้แข็งกร้าวแต่ก็เปี่ยมด้วยเสน่ห์ ก็วนเวียนอยู่ในความคิดเขาตลอดเวลา เขาตามสืบจนรู้ว่าเธอกับนลินรัตน์ น้องสาว มาเปิดร้านขายข้าวแกงเล็กๆ อยู่ในตลาดแห่งหนึ่งในตัวเมืองวันนั้นบรรเจิดเดินทางมาถึงหน้าร้านข้าวแกงของเจนจรัสในช่วงบ่าย ลูกค้าเริ่มซาลงแล้ว เขากวาดสายตามองไปรอบๆ และแล้วสายตาของเขาก็ปะทะเข้ากับร่างของเจนจรัสที่กำลังยืนหันหลังจัดร้านอยู่ ร่างของเธอไม่เหมือนเดิม... เธอสวมชุดคลุมท้องที่เห็นได้ชัดว่าท้องของเธอนูนออกมาอย่างเห็นได้ชัด ราวกับมีชีวิตน้อยๆ กำลังเติบโตอยู่ภายในบรรเจิดถึงกับตะลึง ตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ อึ้งไปชั่วขณะ หัวใจของเขากระตุกวูบ ความรู้สึกหลากหลายถาโถมเข้ามา ทั้งความประหลาดใจ ความสับสน และความเจ็บปวดที่อธิบายไม่ถูก เขาก้าวเท้าเข้าไปหาเธอช้าๆ"คุณเจนจรัส!" เขาเรียกชื่อเธอเสียงพร่าเจนจรัสสะดุ้งเล็กน้อย เธอหันมามองต้นเสียง เมื่อเห็นว่าเป็นบรรเจิด สีหน้าข

  • ไฟแค้นเมียบำเรอ   ตอนที่ 97. ตอนพิเศษ: เมื่อความรักมาทักทายหัวใจ/1

    หน้าห้องรอคลอดของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง อัคคี และ นที สองหนุ่มที่ปกติสุขุม เยือกเย็น ตอนนี้กลับนั่งไม่ติดที่พากันเดินสวนกันไปมาหน้าห้องคลอด ด้วยสีหน้ากังวลสุดขีด มือทั้งสองข้างประสานกันแน่น ราวกับภาวนาขอพรให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีนายอนันต์ และ คุณมาเรีย พ่อแม่ของอัคคี รวมถึง ท่านทูตอรรถ และ คุณหญิงแม้นเดือน รวมถึงคุณภัทรกับคุณนุชนารถพ่อแม่ของนที ต่างก็มารวมตัวกันให้กำลังใจ น้องพียืนอยู่ข้างๆ ผู้เป็นปู่กับย่า แววตาใสซื่อจ้องมองประตูห้องคลอดอย่างสนใจ ไม่เข้าใจความตึงเครียดของผู้ใหญ่ แต่ก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่สำคัญสีหน้าของแต่ละคน เต็มไปด้วยความลุ้นระทึกไม่แพ้กัน ส่วนนายพิพัฒน์ ที่นั่งอยู่บนรถเข็น มีนางแก้วคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง ได่แต่มองไปยังประตูห้องคลอดด้วยแววตาเป็นห่วงไม่ต่างกันเวลาผ่านไปเนิ่นนานจนทุกคนแทบจะหยุดหายใจ ไม่นานนัก ประตูก็เปิดออก พยาบาลสาวเดินออกมาด้วยรอยยิ้มกว้าง ใบหน้าเปื้อนเหงื่อแต่แววตาเต็มไปด้วยความยินดี สองหนุ่มถึงกับสะดุ้งเฮือก หันขวับไปที่ประตูพร้อมกันด้วยความตื่นเต้นสุดขีด"ยินดีด้วยค่ะคุณอัคคี คุณดารินทร์คลอดแล้วนะคะ" พยาบาลเอ่ยขึ้นด้วยเสียงที่อบอุ่นอัคคีรีบเ

  • ไฟแค้นเมียบำเรอ   ตอนที่ 96 ห้องหอรอรัก/2

    ในขณะเดียวกัน ที่ห้องพักหรูอีกห้องหนึ่งไม่ไกลกันนัก ห้องหอของนทีและดาริกา ก็ถูกตกแต่งอย่างเรียบง่ายแต่โรแมนติกไม่แพ้กัน แสงเทียนหอมอ่อนๆ ส่องสว่าง สร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและผ่อนคลาย ต่างจากห้องหอของอัคคีและดารินทร์ที่เน้นความร้อนแรง ห้องนี้กลับเต็มไปด้วยความละมุนละไมนทีในชุดนอนผ้าไหมสีเข้ม ยืนอยู่ริมระเบียงห้องที่เปิดโล่งออกสู่ทะเล มองดูแสงจันทร์ที่ทอประกายบนผิวน้ำ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสุขสงบที่เพิ่งค้นพบในชีวิต ใบหน้าของเขาดูผ่อนคลายและเต็มไปด้วยความอิ่มเอมใจ แขนแกร่งทั้งสองข้างวางพาดบนราวระเบียง เขาสูดหายใจเอาอากาศบริสุทธิ์ยามค่ำคืนเข้าเต็มปอด กลิ่นไอทะเลบริสุทธิ์ช่วยให้จิตใจเขาผ่อนคลายและเตรียมพร้อมสำหรับค่ำคืนอันแสนพิเศษดาริกาเดินเข้ามาหาเขาจากด้านหลังอย่างเงียบเชียบ เธอสวมชุดนอนผ้าไหมเนื้ออ่อนสีชมพูอ่อนที่ขับให้ผิวขาวผ่องของเธอดูโดดเด่นและงดงาม เธอโอบแขนเรียวรอบเอวของนทีจากด้านหลังแล้วซบหน้าลงกับแผ่นหลังกว้างของเขาอย่างออดอ้อน สัมผัสอบอุ่นจากร่างกายของเธอทำให้หัวใจของนทีเต้นระรัวอย่างมีความสุข"พี่น้ำยืนมองอะไรคะ" ดาริกาเอ่ยถามเสียงหวานแผ่วเบานทีพลิกตัวกลับมาเผชิญหน้ากับดาร

  • ไฟแค้นเมียบำเรอ   ตอนที่ 95 ห้องหอรอรัก/1

    หลังจากงานเลี้ยงฉลองที่เต็มไปด้วยความสุขและเสียงหัวเราะจบลง ดวงจันทร์ดวงกลมลอยเด่นอยู่เหนือท้องฟ้าสีครามเข้ม แสงจันทร์นวลผ่องทอประกายลงมายังผืนน้ำทะเลที่ทอดยาวจรดขอบฟ้า สายลมยามค่ำคืนพัดเอื่อยพากลิ่นไอเค็มเคล้ากลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้ที่ประดับอยู่ในห้องพักสุดหรูบนเกาะร้อยดาวห้องหอของอัคคีและดารินทร์ถูกตกแต่งอย่างพิถีพิถัน เตียงกว้างใหญ่ปูด้วยผ้าปูที่นอนเนื้อดีสีขาวสะอาดตา มีกลีบกุหลาบสีแดงสดโปรยปรายอยู่ทั่วราวกับพรมสีแดงแห่งความรัก ผ้าโปร่งบางเบาถูกคลุมอยู่เหนือเตียงพลิ้วไหวตามแรงลมจากเครื่องปรับอากาศ สร้างบรรยากาศที่อ่อนหวานและโรแมนติกเกินคำบรรยาย แสงไฟสลัวจากโคมไฟหัวเตียงส่องให้เห็นภาพของอัคคียืนรออยู่ข้างเตียงในชุดเสื้อเชิ้ตผ้าไหมสีขาวที่ปลดกระดุมเม็ดบนออกสองสามเม็ด เผยให้เห็นแผงอกแข็งแกร่งและรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม ใบหน้าคมคายของเขาเต็มไปด้วยความเสน่หาและความรอคอย ดวงตาคมกริบเปล่งประกายร้อนแรงเมื่อประตูห้องเปิดออกดารินทร์ ก้าวเข้ามาในห้องช้าๆ ในชุดนอนผ้าไหมเนื้อบางเบาสีขาวราวกับปุยเมฆที่โอบรัดเรือนร่างอรชร ทรวงอกอวบอิ่มภายใต้ชุดนอนพลิ้วไหวตามจังหวะการเดิน ใบหน้าของเธอแดงระเรื่อด้วยควา

  • ไฟแค้นเมียบำเรอ   ตอนที่ 94 พิธีวิวาห์บนเกาะร้อยดาว/2

    ต่อมา บาทหลวงก็ทำพิธีและเอ่ยถามคู่ของนทีและดาริกา“นที คุณยินดีที่จะรับดาริกาเป็นภรรยาของคุณ จะรักและดูแลเธอทั้งในยามสุขและยามทุกข์ ทั้งในยามร่ำรวยและยากจน ทั้งในยามเจ็บป่วยและสบาย ตราบชั่วชีวิตของคุณหรือไม่" บาทหลวงเอ่ยถาม"ผมยินดีครับท่าน" นทีตอบรับ พลางหันมาสบตากับดาริกาอย่างอบอุ่น"ดาริกา คุณยินดีที่จะรับนทีเป็นสามีของคุณ จะรักและดูแลเขาทั้งในยามสุขและยามทุกข์ ทั้งในยามร่ำรวยและยากจน ทั้งในยามเจ็บป่วยและสบาย ตราบชั่วชีวิตของคุณหรือไม่""ฉันยินดีค่ะท่าน"ดาริกาตอบรับด้วยน้ำเสียงเจือสะอื้นเล็กน้อย เมื่อรู้สึกซาบซึ้งจนน้ำตาจะไหลพิธีดำเนินต่อไปด้วยการแลกแหวน แหวนวงเล็กแต่เปี่ยมด้วยความหมายถูกสวมลงบนนิ้วนางข้างซ้ายของทั้งคู่ เป็นสัญลักษณ์ของคำมั่นสัญญาแห่งรักนิรันดร์ เสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่วบริเวณเมื่อบาทหลวงประกาศให้ทั้งสองคู่เป็นสามีภรรยาอย่างสมบูรณ์ อัคคีและนทีต่างก้มลงจุมพิตเจ้าสาวของตนอย่างอ่อนโยนและลึกซึ้ง สร้างความประทับใจและความปลาบปลื้มใจให้กับแขกผู้มาร่วมงานเป็นอย่างมากหลังจากพิธีอันศักดิ์สิทธิ์เสร็จสิ้นลง ก็ถึงเวลาสำหรับช่วงเวลาที่สนุกสนานและเป็นที่รอคอยของเหล่าสาวโสดแล

  • ไฟแค้นเมียบำเรอ   ตอนที่ 93 พิธีวิวาห์บนเกาะร้อยดาว/1

    แสงอาทิตย์ยามเย็นทอประกายสีทองอ่อนๆ แต้มฟ้าจรดน้ำทะเลสีครามที่เกาะร้อยดาว หาดทรายสีขาวนวลทอดยาวเป็นผืนผ้าต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ สายลมทะเลพัดเอื่อยพากลิ่นไอเค็มปะทะผิวกายเคล้ากลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้สดที่ประดับประดาอยู่ทั่วบริเวณงานแต่งงานที่ถูกเนรมิตขึ้นอย่างงดงามตระการตา ซุ้มดอกไม้สีขาวสะอาดตาที่ทอดเป็นทางเดินยาวสู่แท่นประกอบพิธีซึ่งตั้งอยู่ริมผาหินที่ยื่นออกไปในทะเล ถูกตกแต่งด้วยผ้าโปร่งสีขาวพลิ้วไหวสะท้อนแสงอาทิตย์ยามอัสดง สร้างบรรยากาศที่เปี่ยมด้วยความศักดิ์สิทธิ์และความโรแมนติกเกินคำบรรยาย สัมผัสได้ถึงความรื่นเริงและปีติยินดีที่อบอวลอยู่ทั่วทั้งงานแขกเหรื่อทยอยเดินทางมาถึง บ้างก็เป็นคนใกล้ชิดที่คุ้นเคย บ้างก็เป็นบุคคลสำคัญจากวงสังคมชั้นสูง ทุกคนต่างแต่งกายด้วยชุดที่งดงามนทีสวมชุดสูทสีขาวบนหน้าอกติดดอกกุหลาบสีขาว ข้างๆ นั้นเอง อัคคีในชุดทักซิโด้สีขาวสง่างาม ทั้งสองยืนรอรับเจ้าสาวอยู่ที่ปลายทางเดินข้างแท่นพิธี ดวงตาคมกริบของเขาทอประกายแห่งความสุขอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนข้างกายเขามีน้องพี ลูกชายตัวน้อยสวมชุดทักซิโด้สีขาวขนาดจิ๋ว ยืนอยู่ด้วยท่าทางน่ารัก น่าเอ็นดู แววตาของเด็กน้อยเต็มไ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status