เสียงลมพายุโหมกระหน่ำผสมกับเสียงคำรามกึกก้องของเหล่าปีศาจเงาที่คืบคลานเข้ามาจากทุกทิศทาง บัดนี้ไม่ใช่แค่เสียง แต่เป็นความรู้สึกที่สัมผัสได้ถึงไอเย็นยะเยือกและความชั่วร้ายที่แผ่ซ่านเข้ามาใกล้ขึ้นทุกขณะ ลุงภารโรง และเหล่าผู้ปกครองทั้ง 20 คู่ ยืนล้อมรอบเหล่านักเรียนเป็นวงกลมแห่งการป้องกัน แสงสีเงินเรืองรองจากมีดลงอาคมในมือของพวกเขาส่องสว่างท้าทายความมืดมิด
ภายในวงกลมแห่งนั้น เหล่านักเรียนทั้ง 20 คนยืนเบียดเสียดกันแน่น พวกเขายังคงจับมือกันไว้แน่น ไม่ยอมปล่อยมือแม้แต่คนเดียว แสงจันทร์ที่สาดส่องลงมาสลัวๆ เผยให้เห็นใบหน้าของแต่ละคนที่เต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย บางคนตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัวจนแทบยืนไม่ไหว บางคนถึงกับสะอื้นไห้เบาๆ แต่ก็พยายามข่มเสียงไม่ให้ดังเกินไปเพื่อไม่ให้เป็นภาระของผู้อื่น "น่ากลัวจังเลย..." ยูเมะ พึมพำเสียงสั่น เธอซบหน้าลงกับไหล่ของ มายู ที่ยืนอยู่ข้างๆ ฟูมิโกะ เองก็ตัวสั่นไม่แพ้กัน แต่เธอก็พยายามเงยหน้ามองการต่อสู้ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความหวัง แม้จะมีความกลัวจับใจ เก็น จ้องมองออกไปนอกวงกลมที่เหล่าผู้ใหญ่ยืนล้อมอยู่ เขากำมือของ ไอโกะ ไว้แน่น ดวงตาของเขาฉายแววกังวล แต่ก็มีความมุ่งมั่นซ่อนอยู่ เขาอยากจะช่วย แต่ก็รู้ว่าตัวเองยังไม่มีพลังพอ ทันใดนั้นเอง! เงาปีศาจตนหนึ่งที่อยู่ใกล้ที่สุด มันมีขนาดมหึมาและดูดุร้ายกว่าตนอื่น ๆ พุ่งตรงเข้ามายังแนวป้องกันของเหล่าผู้ปกครองด้วยความเร็วที่เหนือจินตนาการ ดวงตาแดงก่ำของมันส่องประกายอำมหิต "มาแล้ว!" ลุงภารโรงตะโกนขึ้นอย่างรวดเร็ว วูบบบบบ! ลุงภารโรงไม่รอช้า ท่านออกตัวพุ่งทะยานเข้าไปหาเงาปีศาจตนนั้นทันที ร่างของท่านพลิ้วไหวราวกับสายลม มีดลงอาคมสีเงินในมือของท่านส่องประกายเจิดจ้ายิ่งกว่าเดิม พุ่งตรงเข้าแทงไปที่กลางลำตัวของปีศาจ ฉัวะ! มีดสีเงินแทงทะลุร่างของปีศาจเงาอย่างง่ายดาย เสียงกรีดร้องโหยหวนดังขึ้นอีกครั้ง ร่างของปีศาจเริ่มสั่นไหวและแตกสลายกลายเป็นกลุ่มควันสีดำที่ลอยหายไปในอากาศ ถูกดูดเข้าสู่ขวดกักเก็บดวงจิตที่ลุงภารโรงเตรียมไว้ "สุดยอดไปเลยครับลุง!" โช อุทานอย่างตื่นเต้น แต่การต่อสู้ยังไม่จบลงแค่นั้น! เมื่อปีศาจตนแรกถูกกำจัด ปีศาจอีกหลายสิบตนที่อยู่เบื้องหลังก็ไม่รอช้า พวกมันพุ่งทะยานเข้ามาจากทุกทิศทุกทางพร้อมกัน ราวกับคลื่นแห่งความมืดที่ถาโถมเข้าใส่ "ทุกคน! เตรียมพร้อม!" พ่อของ เก็น ตะโกนสั่ง เสียงของเขาก้องกังวานเต็มไปด้วยพลัง ทันใดนั้นเอง! เหล่าผู้ปกครองอีกกว่า 35 คน (ประมาณ 18-19 คู่) ที่ยืนล้อมรอบนักเรียนอยู่ ก็ พุ่งทะยานเข้าสู่สมรภูมิรบอย่างพร้อมเพรียง! พวกเขาไม่ได้หลบหนี แต่กลับวิ่งเข้าหาปีศาจเงาเหล่านั้นอย่างไม่เกรงกลัว มีดลงอาคมสีเงินในมือของแต่ละคนส่องประกายเรืองรองราวกับดาบแห่งแสงนับร้อย พ่อของไอโกะ พุ่งเข้าใส่ปีศาจเงาสองตนพร้อมกัน มีดของเขากวัดแกว่งอย่างชำนาญ ฟันทะลุผ่านร่างของปีศาจอย่างรวดเร็ว ฉัวะ! ฉัวะ! เสียงกรีดร้องดังขึ้นสองครั้งพร้อมกัน ก่อนที่ร่างของปีศาจทั้งสองจะแตกสลายกลายเป็นควันดำ แม่ของยูเมะ ที่ดูอ่อนโยนในยามปกติ ตอนนี้กลับกลายเป็นนักรบผู้กล้าหาญ เธอใช้มีดสั้นแทงทะลุร่างของปีศาจที่พุ่งเข้ามาจากด้านข้างอย่างแม่นยำ พร้อมกับร่ายคาถาเบาๆ ที่ไม่มีใครได้ยิน ทำให้ปีศาจตนนั้นอ่อนแรงลงก่อนจะถูกดูดเข้าสู่ขวด พ่อของโช ร่างกายกำยำของเขากลายเป็นปราการที่แข็งแกร่ง เขากวัดแกว่งมีดลงอาคมฟาดฟันเข้าใส่กลุ่มปีศาจที่พุ่งเข้ามาอย่างดุดัน ทุกครั้งที่คมมีดกระทบกับเงา ปีศาจก็จะแตกสลายหายไป แม่ของฟูมิโกะ ที่ดูสุภาพเรียบร้อย ตอนนี้กลับมีแววตาที่ดุดัน เธอใช้มีดลงอาคมแทงทะลุร่างของปีศาจอย่างต่อเนื่อง ท่าทางของเธอพลิ้วไหวและสง่างาม ราวกับนักเต้นรำที่กำลังร่ายรำอยู่บนสมรภูมิ เสียงมีดที่ฟาดฟัน เสียงกรีดร้องโหยหวนของปีศาจ และเสียงลมที่โหมกระหน่ำดังปะปนกันไปทั่วสนามหญ้า กลายเป็นบทเพลงแห่งสงครามที่น่าสะพรึงกลัว แต่ยังมีผู้ปกครองอีก 5 คน ที่ยังคงยืนล้อมรอบนักเรียนอย่างแน่นหนา พวกเขาไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้โดยตรง แต่ยังคงทำหน้าที่เป็น ปราการป้องกันด่านสุดท้าย ให้กับลูกๆ มีดในมือของพวกเขายังคงส่องแสงเรืองรอง เตรียมพร้อมที่จะรับมือกับปีศาจที่อาจจะเล็ดลอดเข้ามาได้ทุกเมื่อ ภายในวงกลมที่ถูกปกป้องอย่างแน่นหนานั้น เหล่านักเรียนมองดูการต่อสู้ที่ดุเดือดเบื้องหน้าด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความหวัง ความกลัว และความทึ่ง "พ่อ... แม่... พวกท่านเก่งมากเลย!" ฮารุ พึมพำด้วยความชื่นชม เธอเห็นพ่อกับแม่ของเธอกำลังต่อสู้เคียงข้างกันอย่างดุดัน เคนตะ ถึงกับอ้าปากค้าง "ไม่เคยคิดเลยว่าพ่อแม่ของเราจะเก่งขนาดนี้..." ไอโกะ กำขวดกักเก็บดวงจิตในมือแน่น เธอรู้ว่าหน้าที่ของเธอยังไม่จบลง การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป และเธอจะต้องเตรียมพร้อมที่จะร่ายคาถาเพื่อกักเก็บดวงจิตของปีศาจที่ถูกกำจัดเข้ามาในขวดของเธอ ลุงภารโรงนำการต่อสู้ด้วยท่วงท่าที่ช่ำชองและเชี่ยวชาญ ท่านเป็นเหมือนนักรบผู้ชราที่ผ่านสมรภูมิมานับครั้งไม่ถ้วน มีดลงอาคมของท่านเคลื่อนไหวรวดเร็วและแม่นยำ ทุกครั้งที่ฟันออกไป ปีศาจเงาก็จะแตกสลายหายไป ท่านเป็นเหมือนแสงสว่างนำทางให้กับเหล่าผู้ปกครองคนอื่นๆ การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือด แสงสีเงินจากมีดลงอาคมส่องสว่างตัดกับความมืดมิดของปีศาจเงา เสียงกรีดร้องของปีศาจดังขึ้นเป็นระยะๆ แต่ก็เริ่มเบาบางลงเมื่อปีศาจบางส่วนถูกกำจัดไป แต่ก็ยังคงมีปีศาจอีกจำนวนมากที่ยังคงพุ่งเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน การต่อสู้ครั้งนี้ยังอีกยาวไกล...เสียงร้องโหยหวนของปีศาจที่พ่ายแพ้ในทิศทั้งสี่ไม่ได้นำมาซึ่งความสงบสุขอย่างที่คาดหวัง ตรงกันข้าม... มันกลับเป็นสัญญาณเตือนถึงภัยคุกคามที่ใหญ่หลวงกว่าเดิม วิญญาณปีศาจทั้งสี่ดวงที่หลุดรอดไปต่างมุ่งหน้าสู่ใจกลางเมืองอย่างมีเจตนา เพื่อรวมตัวและก่อกำเนิดเป็นบางสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าเดิม เหล่าทายาทนักเวทย์สายขาวและผู้ปกครองที่เพิ่งเสร็จสิ้นจากการต่อสู้กับปีศาจเงาต่างรับรู้ถึงสัญญาณอันตราย และรีบมุ่งหน้ากลับไปยังที่มั่นสุดท้าย ณ โรงเรียนริโอะเอน[ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอน ยามราตรีลึก]ลมหายใจหอบถี่ของเหล่านักเรียนและผู้ปกครองดังขึ้นระงมขณะที่พวกเขาวิ่งกลับมายังโรงเรียน แสงสีเงินของม่านพลังคุ้มกันที่ลุงภารโรงและผู้ปกครองคนอื่นๆ สร้างขึ้นยังคงส่องสว่าง แต่บัดนี้มันกลับถูกบดบังด้วยเงาทะมึนขนาดมหึมาที่กำลังก่อตัวขึ้นเหนือท้องฟ้าใจกลางเมือง"นั่นมันอะไรน่ะ!?" โกฮัน อุทานด้วยความตกตะลึง ดวงตาเบิกกว้างมองไปยังเงาขนาดมหึมาที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่เหนือโรงเรียนเมื่อพวกเขาเข้ามาใกล้ขึ้น ภาพที่ปรากฏยิ่งน่าขนลุก ปีศาจเงาขนาดมหึมา ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของวิญญาณปีศาจทั้งสี่ดวงที่หลุดรอดมา กำลังก่อตัว
ลมกระโชกแรงยามค่ำคืนพัดพาเสียงหวีดหวิว ราวกับเสียงร้องของวิญญาณที่ถูกรบกวน สงครามที่ปะทุขึ้นในสี่ทิศทางทั่วเมืองริโอะเอนยังคงดำเนินไปอย่างดุเดือด เหล่าทายาทนักเวทย์สายขาวและผู้ปกครองต่างเผชิญหน้ากับปีศาจเงาที่กระหายวิญญาณ ม่านพลังคุ้มกันที่โรงเรียนริโอะเอนยังคงเรืองรองในความมืด เป็นประภาคารแห่งความหวังเดียวท่ามกลางความโกลาหลสมรภูมิตะวันออก: การต่อสู้ในสวนสาธารณะโบราณทีมทิศตะวันออก นำโดย คาชิมิ (ผู้ปกป้องธรรมชาติและผู้ชำระล้างจิตวิญญาณ), เคนตะ (ผู้สยบพลังงานและผู้พิทักษ์มิติ), บาระ (ผู้รักษากฎและผู้พิพากษา), เร็น (ผู้ชี้ชะตาและผู้ควบคุมโชคชะตา) และผู้ปกครองของพวกเขา ต่างมุ่งหน้าสู่ทิศตะวันออกที่เข็มนาฬิกาอาคมของเคนตะสั่นสะเทือนอย่างบ้าคลั่ง แสงสีเงินวาวบนหน้าปัดเต้นระริกบ่งบอกถึงการบิดเบือนพลังงานที่รุนแรง จนกระทั่งพวกเขามาหยุดอยู่ที่หน้า สวนสาธารณะโบราณ ที่เงียบสงัด ต้นไม้ใหญ่อายุหลายร้อยปีทอดเงาปริศนาปกคลุมทั่วบริเวณ เสียงโหยหวนของวิญญาณต้นไม้และสัตว์ต่างๆ ดังแว่วออกมาจากความมืดมิด"ปีศาจมันกัดกินธรรมชาติแถวนี้!" คาชิมิกล่าวเสียงแผ่ว ใบหน้าของเธอซีดเผือดด้วยความเจ็บปวด เธอสัมผัสได้
ราตรีนี้ไม่ได้นำมาซึ่งความเงียบสงบ แต่กลับเป็นพยานแห่งสงครามที่อุบัติขึ้นในสี่ทิศทางทั่วเมืองริโอะเอน เหล่าทายาทนักเวทย์สายขาวและผู้ปกครองของพวกเขาต่างแยกย้ายกันไปเผชิญหน้ากับปีศาจเงาที่กำลังพยายามกลืนกินวิญญาณสิ่งมีชีวิตเพื่อเพิ่มพูนพลัง ม่านพลังคุ้มกันที่โรงเรียนริโอะเอนส่องสว่างเรืองรองในความมืดมิด เป็นเพียงสัญญาณแห่งความหวังเดียวท่ามกลางสมรภูมิที่กำลังปะทุขึ้นสมรภูมิเหนือ: การเผชิญหน้าในโรงพยาบาลร้างทีมทิศเหนือ นำโดย ฮานา (ผู้เชื่อมโยงและทำนาย), โกฮัน (ผู้นำทัพและผู้ทำลายล้าง), มายู (ผู้บันทึกและถ่ายทอด), โอกิ (ผู้โจมตีระยะไกล) และผู้ปกครองของพวกเขา ต่างมุ่งหน้าสู่ทิศเหนือที่เข็มนาฬิกาอาคมของฮานาชี้ไปอย่างไม่หยุดยั้ง แสงสีเขียวมรกตบนหน้าปัดเต้นระริก บอกถึงกระแสพลังงานปีศาจที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งพวกเขามาหยุดอยู่ที่หน้า โรงพยาบาลร้างแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางความมืดมิด เสียงกรีดร้องโหยหวนของวิญญาณที่ถูกรบกวนดังแว่วออกมาจากภายใน"ที่นี่แหละ..." ฮานากล่าวเสียงแผ่ว ใบหน้าซีดเผือด "พลังงานมันเข้มข้นมาก... ปีศาจเงาอยู่ข้างในนี้เยอะแยะเลย""เตรียมพร้อม!" โกฮันสั่งเสี
ความมืดของราตรีทอดยาวปกคลุมเมือง บรรยากาศเงียบงันผิดปกติ ชวนให้ใจหวั่น ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอนที่เคยเป็นศูนย์รวมของความวุ่นวายเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความเงียบงันและกลุ่มผู้ปกครองที่กำลังร่วมกันร่ายคาถาเพื่อสร้างม่านพลังคุ้มกันขนาดใหญ่ที่เรืองรองอยู่รอบรั้วโรงเรียน พวกเขามุ่งมั่นที่จะปกป้องสถานที่แห่งนี้ให้เป็นที่มั่นสุดท้ายเมื่อม่านพลังก่อตัวขึ้นอย่างสมบูรณ์ แสงเรืองรองสีเงินอ่อนๆ ก็แผ่กระจายไปทั่วบริเวณ ให้ความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย ทว่า... ความปลอดภัยนั้นกลับแฝงด้วยความผิดปกติ[ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอน ยามราตรี]เสียงบทสวดมนต์ของเหล่าผู้ปกครองค่อยๆ แผ่วลง เมื่อม่านพลังคุ้มกันปรากฏขึ้นเป็นรูปทรงโดมขนาดใหญ่ ครอบคลุมโรงเรียนเอาไว้ แสงสีเงินวูบไหวราวกับเกราะป้องกันที่มองไม่เห็น ผู้ปกครองหลายคนถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่บางคนกลับรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่ผิดแปลกไป"ฉันว่ามันแปลกๆ แล้วนะครับ..." ผู้ปกครองคนหนึ่ง (พ่อของโอกิ) เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ดวงตาจับจ้องไปยังท้องฟ้าที่มืดมิดไร้แสงจันทร์ "ไร้วี่แววของปีศาจเงาเลย... ทั้งๆ ที่เมื่อคืนพวกมันอาละวาดหน
แสงอาทิตย์ยามบ่ายค่อยๆ เลือนหายไปจากขอบฟ้า เหลือเพียงความมืดมิดที่เริ่มคืบคลานเข้ามาปกคลุมเมือง ความหวาดหวั่นปะปนกับความมุ่งมั่นในใจของเหล่านักเรียนที่เพิ่งรับรู้ถึงพลังและภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่ของตระกูลตนเอง เรื่องเล่าจากบรรพบุรุษที่ถูกส่งต่อมาหลายชั่วอายุคนได้ปลุกจิตวิญญาณแห่งนักเวทย์สายขาวให้ตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์ พวกเขาต่างรู้สึกตกตะลึงกับความสามารถที่ซ่อนเร้น แต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจและพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับชะตากรรมที่รออยู่เมื่อความมืดของราตรีเริ่มปกคลุม ทุกครอบครัวต่างเดินทางมารวมตัวกันที่ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอน อันเป็นจุดนัดหมายและเป็นที่ตั้งของม่านพลังคุ้มกันที่แข็งแกร่งที่สุด[ลานกว้างหน้าโรงเรียนริโอะเอน ยามสนธยา]ลมเย็นยามค่ำพัดเอื่อยๆ พากลิ่นดอกไม้ป่าผสมกับความชื้นของดินชวนให้ใจสงบ แต่บรรยากาศโดยรอบกลับเต็มไปด้วยความตึงเครียด แสงไฟสลัวๆ จากโคมไฟหน้าโรงเรียนส่องกระทบใบหน้าของเหล่านักเรียนและผู้ปกครองที่ยืนรอคอยกันอย่างเงียบงันลุงภารโรง ยืนอยู่ตรงกลางลาน สายตาคมกริบกวาดมองไปรอบๆ ราวกับกำลังสำรวจสิ่งผิดปกติที่ซ่อนอยู่ในเงามืด เขาดูสุขุมกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาในช
บ้านของฮารุกะ: ตำนานแห่งผู้ร่ายรำพลังและผู้ขับไล่วิญญาณฮารุกะ ก้าวเข้ามาในบ้านด้วยความเหนื่อยล้าพร้อมกับคุณพ่อและคุณแม่ ทันทีที่ประตูเปิดออก คุณตา และ คุณยาย ของเธอก็รีบเข้ามาสวมกอดหลานสาวด้วยความโล่งใจและน้ำตาคลอเบ้า"ฮารุกะ! หลานรักของตา! ไม่เป็นอะไรใช่ไหมลูก?" คุณตาถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พลางลูบผมของฮารุกะเบาๆคุณยายพยักหน้าเห็นด้วย "ยายเป็นห่วงแทบแย่เลยลูก! เมื่อคืนได้ยินเสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปหมด! ใจจะขาด!"ฮารุกะรู้สึกอบอุ่นในอ้อมกอดของท่านทั้งสอง เธอผละออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยคำถาม "ตาคะ... ยายคะ... พ่อคะ... แม่คะ... เรื่องเมื่อคืนนี้... ปีศาจเงา... แล้วก็พลังที่เรามีกัน... มันคืออะไรกันแน่คะ? หนูอยากรู้เรื่องทั้งหมดค่ะ"คุณตาของฮารุกะถอนหายใจช้าๆ ท่านพาฮารุกะไปนั่งที่เก้าอี้ไม้แกะสลักตัวเก่าแก่ในห้องนั่งเล่น ก่อนจะเริ่มต้นเล่าด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำแต่เต็มไปด้วยพลังแห่งความเชื่อมั่นในอดีต"เรื่องนี้มันถูกเล่าสืบต่อกันมาในตระกูลของเรา ตั้งแต่สมัยทวดของทวดของตาเลยนะฮารุกะ" คุณตาเริ่มต้น "ในสมัยที่ปีศาจเงาออกอาละวาดอย่างหนักนั้น พวกมันไม่ได้เพียง